คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : My King & Your King :: Chapter 1
“สักวัน พวกเจ้าคนใดคนหนึ่งจะได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากข้า”
วันนั้นคำพูดง่ายๆของโอดินเปลี่ยนชีวิตของเด็ก 2 คนให้พลิกผัน
...ธอร์ บุตรชายคนโตปรารถนาในตำแหน่งนั้นด้วยความอยากอันบริสุทธิ์ที่จะยิ่งใหญ่เกรียงไกร...
...หากโลกิ บุตรชายคนรองปรารถนาในตำแหน่งนั้นด้วยมันคือสิ่งเดียวที่เขาจะก้าวขึ้นไปเหนือกว่าพี่ชายได้...
ทุกสิ่งทุกอย่างคงจะง่ายขึ้น ถ้าการต่อสู้เพื่อได้สิทธิ์ในการครองบัลลังก์ของสองพี่น้องจะเข้มข้นมากขึ้นกว่านี้ มันคงจะง่ายแก่การยอมรับยิ่งกว่า ถ้าสำหรับทุกคนแล้วโลกิจะคู่ควรแก่การเป็นคู่แข่งของธอร์
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่เลย...ไม่มีแม้เพียงโอกาสสักนิดที่ใครจะคิดว่าโลกิคือคู่แข่งของพี่ชายผู้เก่งกาจ ธอร์ผู้ยิ่งใหญ่ รัชทายาทแห่งแอสการ์ดผู้มีค้อนโยลเนียร์เป็นอาวุธ ขณะที่โลกินั้น..กลับไม่มีสิ่งใดเลย
“ใครว่าข้าไม่มีอะไรเลย..”
โลกิหัวเราะเบาๆ แย้มรอยยิ้มออกมาไม่มากไม่น้อยแค่เพียง 3.5 เซนติเมตรจากมุมปาก บางทีนี่อาจจะเป็นสายเลือดของยักษ์น้ำแข็งที่ไหลเวียนซู่ซ่าอยู่ในตัวของเขา สายเลือดของฝ่ายอธรรมที่จนถึงวันนี้ก็ยังเป็นเรื่องน่าแปลกใจว่าแม่ตัวจริงของเขาแอบคบชู้รึเปล่า ไม่อย่างนั้นทำไมเขาคนนี้จึงได้ไม่มีเศษเสี้ยวอะไรเหมือนกับราชายักษ์น้ำแข็งแม้แต่น้อย
“แต่ก็อย่างว่า...ในเมื่อข้าถูกเลี้ยงดูมาอย่างสูงส่ง อาบน้ำแร่แช่น้ำนม ขัดผิวด้วยผงไข่มุกทุกวัน แล้วนับประสาอะไรกับราชายักษ์น้ำแข็งผู้หยาบกร้าน ที่จะมาเทียบชั้นกับข้าผู้งดงามคนนี้”
แน่นอนว่าเขาคือผู้ที่งดงามที่สุดในจักรวาล ไม่มีใคร..ไม่ว่าจะเป็นแม่มดใจร้าย หรือสโนไวท์หน้าตาย หรือแม้แต่พี่ชายบ้าที่ไปรับจ็อบถือขวานแทนค้อนชั่วคราว ที่จะมาดับรัศมีความงามนี้ได้
ไม่มีใคร..และไม่มีวันอีกด้วย!!
“เพราะข้าคือเทพผู้สูงส่งเกินกว่าใครทั้งปวง ไม่มีใครมีสิทธิ์งดงามเหนือกว่าข้า หรือดูหมิ่นต่อข้าอย่างเด็ดขาด!! ข้าคือราชาแห่งแอสการ์ด!!”
ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งแหกปากตะโกนด้วยท่าทางที่บ้าคลั่งยิ่งกว่า ก่อนที่เขาจะหันกลับมายังผู้ชมเพียงหนึ่งเดียวในห้องนี้ แค่ผู้ชมคนเดียวที่ช่างผิดแปลกกับรสนิยมที่ชอบทำตัวเป็นเซเล็บให้คนมากรี๊ดของเขา แต่ว่าในเมื่อผู้ชมเพียงหนึ่งเดียวคือคนคนนี้ มันก็คุ้มค่ายิ่งกว่าผู้ชมนับหมื่นนับแสน!!
“ท่านเองก็ยอมรับเรื่องนี้หรือยังล่ะ ธอร์?”
อีกครั้งกับการเหยียดยิ้ม..แน่นอนว่า 3.5 เซนติเมตรไม่มีขาดเกิน...
โลกิมองชายผมทองผู้ถูกจับตรึงให้นอนอยู่กับพื้นด้วยพลังของเทสเซอแรคท์ที่ธอร์เป็นผู้นำกลับมายังแอสการ์ดด้วยตัวเอง และก็แน่นอนยิ่งกว่าว่าไม่เคยมีครั้งใดหรือวินาทีใดที่ธอร์จะไม่หลงกลเขา..และเพราะเหตุนั้น เพียงชั่วพริบตาที่กลับมาถึงยังบ้านเกิด แค่โลกิแกล้งไอแล้วค้อมตัวลงด้วยท่าทางเหมือนอาการบาดเจ็บกำเริบ..คุณพี่ชายสุดที่รักก็ถึงกับรีบปราดเข้ามาหา แล้วโยนเทสเซอแรคท์อย่างไม่สนใจไยดี
ดังนั้นเอง สิ่งที่เขาต้องทำจึงมีเพียงแค่เอื้อมมือออกไปคว้าวัตถุทรงลูกบาศก์แห่งอำนาจขึ้นมาก็เท่านั้น
“ถึงเวลาที่ท่านต้องยอมรับแล้วพี่ชายข้า ว่าข้าคือราชาแห่งแอสการ์ด ไม่ใช่ตัวท่าน”
“...โล..กิ...”
ธอร์เค้นเสียงออกมาด้วยความโกรธแค้นที่เต็มไปด้วยความขมขื่น ร่างใหญ่พยายามสะบัดให้หลุดจากสนามพลังที่สร้างขึ้นด้วยพลังจากผลึกเทสเซอแรคท์ เจ้าสิ่งนั้นไม่เพียงแต่จะมอบพลังให้แก่โลกิ แต่มันยังทำให้โลกิสามารถจับเขากดตรึงลงกับพื้น เหมือนเป็นอัมพาตไปทั้งร่างด้วยพลังงานแห่งเทสเซอแรคท์อันบริสุทธิ์
“เจ้าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร? ทำไมเจ้าถึงต้องทำผิดซ้ำซาก!!”
ในสภาพที่ไม่อาจเรียกค้อนคู่ใจให้มาอยู่คู่กาย สิ่งที่ธอร์ทำได้จึงมีแค่แผดเสียงถามด้วยความโกรธเกรี้ยว สิ่งที่ธอร์ทำได้มีแค่เพียงถลึงตาจ้องมองน้องชายที่เขารักกว่าสิ่งใด แต่ก็คือน้องชายที่ทรยศเขาหลายต่อหลายครั้งมากยิ่งกว่าที่จะมีใครเคยทำ
“เจ้าทำไปเพื่ออะไรกัน โลกิ!?”
“นั่นเป็นอีกหนึ่งคำถามโลกแตก เหมือนกับที่ข้าเคยถามว่าเมื่อไหร่ท่านจะเลิกหลงกลข้าเสียที ธอร์”
โลกิยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างขบขัน ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าทรงอำนาจแต่ด้อยสติปัญญาคนนี้ ก็ยังทำให้เขารู้สึกเกลียดชังคละเคล้าไปกับสนุกสนานได้เสมอ
“ต้องให้ข้าบอกอีกสักกี่ครั้งว่าการคงอยู่ของท่าน การที่ข้าต้องหายใจเอาอากาศเดียวกับท่าน การที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ นั่นแหละคือเหตุผลในการคงอยู่ของข้าที่จะกำจัดท่าน พี่ชายข้า” หนุ่มผมดำแสยะยิ้มเยือกเย็น “คนอย่างท่านไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่ต้องใช้ชีวิตใต้เงาของท่านอย่างข้า มันช่างน่าอับอายและน่าเจ็บปวดแค่ไหน..”
บุตรบุญธรรมแห่งแอสการ์ดย่อตัวลงไปช้าๆจนเข่าข้างหนึ่งแตะลงกับพื้นข้างๆตัวของพี่ชายต่างสายเลือด ที่กำลังมองตอบกลับมาด้วยความเจ็บช้ำในดวงตาคู่นั้น
“ข้าไม่เคยรู้เรื่องนั้นเลย น้องข้า”
ธอร์กระพริบตาเบาๆ อยากที่จะขับไล่หยาดน้ำที่เอ่อคลอในดวงตาออกไป ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดว่าเข้าใจในตัวโลกิ ต่อมาเวลาได้พิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วเขาไม่เคยเข้าใจในตัวโลกิแม้แต่นิด และในเวลานี้เขาจึงได้รับรู้ว่าโลกิทั้งเจ็บปวดและเกลียดชังต่อเขามากแค่ไหน
“ข้าขอให้สัญญาต่อเจ้า ขอแค่เจ้ายอมกลับตัวกลับใจ กลับมาเป็นน้องชายคนเดิมที่น่ารักของข้า ข้าเองก็จะไม่ทำให้เจ้าต้องรู้สึกคับแค้นใจเช่นนั้นอีก ข้าจะ...”
!!!?
คำพูดที่พลันชะงักขาดหายด้วยหลังแหวนที่ฟาดเข้าใส่แก้มขวาอย่างไม่มีปราณี ธอร์ที่แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังถึงกับหน้าหันด้วยแรงแค้นจากแรงตบของผู้เป็นน้องชาย..บนใบหน้าที่ทั้งเจ็บทั้งชา และยิ่งกว่านั้นคือความแสบเล็กน้อยจากแหวนทองคำที่ผู้เป็นน้องชายสวมและครูดไปกับหน้าของเขาเมื่อครู่...
“โลกิ!!”
“ท่านคิดว่าป่านนี้แล้วคำสัญญาจะมาช่วยอะไรได้อย่างนั้นเรอะ!!”
โลกิหัวเราะก้อง มันช่างน่าขำเหลือเกินกับความคิดอันแสนไร้เดียงสาของพี่ชาย ว่าเขาคนนี้ผู้ที่ฆ่า 80 ศพใน 2 วัน จะสามารถกลับตัวกลับใจได้
หรือต่อให้ทำได้ก็เถอะ เขาก็ไม่เห็นประโยชน์ว่าจะทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อ..เขาคนนี้ไม่ทำอะไรผิดเลยสักนิด!!
“ข้าคือเทพเจ้า! คือราชาแห่งแอสการ์ด! สิ่งที่ข้าทำไม่มีวันผิด ข้าคือผู้ที่ถูกต้องตลอดกาล!!”
“เจ้ากำลังเข้าใจผิด โลกิ นั่นไม่ใช่วิถีแห่งราชา!!”
ธอร์ตวาดก้อง ร่างแกร่งพยายามสะบัดดิ้นรนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พลังจากลูกบาศก์เทสเซอแรคท์ก็ยังไร้การผ่อนปรน พลังขุมนั้นยังคงกดร่างของเขาให้นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ไม่อาจทำอะไรได้แม้ว่าน้องชายที่เขาทั้งรักทั้งแค้นคนนี้จะอยู่ห่างออกไปแค่เพียงชั่วลมหายใจเท่านั้น
“ถ้างั้นท่านจะบอกว่าสิ่งที่ท่านทำลงไปคือวิถีแห่งราชาอย่างนั้นเรอะ พี่ชายข้า?”
โลกิหัวเราะฮะฮะ น่าแปลกที่ในครั้งนี้เสียงหัวเราะนั้นกลับไม่ได้ดูมีความสุขมากกว่าที่ควรจะเป็น ยังคงไม่มีความสุขแม้ในยามที่ชายหนุ่มใช้นิ้วที่สวมแหวนทอง K นั้นไล้ไปบนใบหน้าที่เป็นรอยแดงของพี่ชาย ไล้เบาๆ ก่อนจะหยุดบนแก้มแดงระเรื่อจากแรงตบ แล้วเล็บคมก็ค่อยๆจิกลงไปทีละน้อย...
“การที่ท่านลดตัวลงไปหลงใหลพวกสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำจากดาวเคราะห์แคระแกร็นอย่างโลก..คือสิ่งที่ผู้เป็นราชาอย่างเราสมควรกระทำอย่างนั้นเรอะ!!?”
ธอร์ถึงกับนิ่วหน้า ไม่ใช่เพราะความเจ็บจากเล็บที่ไอ้น้องเวรจิกลงมาบนแก้ม แต่เป็นเพราะนี่อาจเป็นครั้งแรกจริงๆที่โลกิแสดงอารมณ์อันรุนแรงออกมาตรงๆ เป็นครั้งแรกที่โลกิมองสบตาเขาแล้วตวาดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ แม้ว่า..มันจะฟังดูเหลวไหลไร้สาระมากก็ตาม
“เจ้า..โกรธที่ข้าให้ความสำคัญกับพวกมนุษย์โลกอย่างนั้นเรอะ?”
“ข้าไม่ได้โกรธ!!” เป็นเสียงตวาดตอบกลับมาที่ดูจะเร็วเกินไปนิด โดยเฉพาะเมื่อแม้แต่รอยยิ้มยังหายไปจากบนใบหน้าเจ้าเล่ห์ของผู้เป็นน้องชาย “แต่ข้าอับอาย..อับอายที่เห็นท่านเอาตัวเข้าไปคลุกคลีเกลือกกลั้วกับแมลงต่ำชั้นที่เรียกกันว่ามนุษย์โลกพวกนั้น!!”
“พวกเขาไม่ได้ต่ำชั้นอย่างที่เจ้าคิด!”
“พวกเราคือเทพ คือสิ่งที่สูงส่งเหนือยิ่งกว่าผู้ใด”
โลกิตวาดใส่พี่ชายผู้โง่งม เล็บที่ออกแรงจิกลงไปบนแก้มรับรู้ได้ถึงคราบของเหลวสีสดที่กำลังเอ่อซึมออกมาช้าๆ แต่แน่ล่ะว่ากับแค่เสียเลือดไม่กี่หยดแค่นี้ ย่อมไม่ทำให้เทพเจ้าสายฟ้าผู้แข็งแกร่งเจ็บปวดแต่อย่างใดได้..
...และมันก็ช่างน่าโมโหนัก เพราะเพียงผู้เดียวในจักรวาลนี้ที่คู่ควรแก่การทำให้ท่านต้องบาดเจ็บ ทำให้ท่านต้องเจ็บปวด ก็มีแต่เพียงข้าเท่านั้น ธอร์!!
“แล้วดูสิว่าก่อนหน้านี้ท่านเล่นตลกอะไรอยู่ คิดว่าข้าไม่เห็นอย่างนั้นเรอะว่าเทพเจ้าสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่กลับถูกไอ้ยักษ์เขียวตัวนึงต่อยจนปลิวครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าข้าไม่เห็นเรอะไงว่าท่านยอมรับฟังการบัญชาการจากไอ้บ้าที่ชอบถือกระทะเดินไปเดินมานั่น แล้วท่านคิดว่าข้าไม่เห็นรึไงว่าท่านแอบใช้ส่วนสูงให้เป็นประโยชน์ในการแอบมองร่องอกของผู้หญิงชุดดำคนนั้น!!”
“..................................ยกเว้นเรื่องสุดท้ายที่เจ้าพูดมา นอกเหนือจากนั้นข้ายอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริง” ธอร์นิ่งไปนานก่อนจะยอมจำนนกับข้อหาบางส่วนที่อีกฝ่ายเอ่ยอ้าง “แต่ก็อย่างที่ข้าบอกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงพวกเราจะเป็นเทพก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะสูงส่งกว่ามนุษย์โลกพวกนั้น และดาวโลกก็อยู่ในการพิทักษ์ปกป้องของข้า...”
“การพิทักษ์ปกป้องของท่านจะกลายเป็นเรื่องตลกไร้สาระ เมื่อข้าทำลายดาวดวงนั้นทิ้ง!!”
“โลกิ!!”
ธอร์ตวาดก้อง นี่ถ้ามือขยับได้ เขาคงจับคอเสื้อของน้องชายแล้วเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน เผื่อว่าคำพูดของเขาจะซึมผ่านปลายเขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเข้าไปในสมองได้บ้าง
“เจ้าคิดจะทำลายโลกอย่างนั้นเรอะ!? เจ้าคิดจะทำร้ายเจน ผู้หญิงที่ข้ารักอย่างนั้นเรอะ!!?”
“ทั้งใช่และไม่”
โลกิหัวเราะหึ เล็บคมเกลี่ยเลือดบนแก้มพี่ชายลงมาจนถึงริมฝีปากที่มีไรหนวดเครา มันคือริมฝีปากนี้ที่ได้มอบให้แก่หญิงมนุษย์ผู้ที่ทั้งต่ำต้อย..หากก็น่าสมเพช
“ใช่! ข้าจะทำลายโลก เพราะดาวดวงนั้นทำให้ท่านเปลี่ยนแปลงไป ครั้งหนึ่งข้าเคยเกลียดท่านที่เต็มไปด้วยหยิ่งผยองแห่งเทพ แต่เวลานี้ข้ายิ่งเกลียดท่าน..พี่ชายข้า..เกลียดที่ท่านเปลี่ยนแปลงไป เลิกยึดถือในสายเลือดอันสูงส่งของชาวเรา แล้วกลับลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำเหล่านั้น!!”
บุตรบุญธรรมแห่งโอดิน น้องชายบุญธรรมแห่งเทพเจ้าสายฟ้า มองใบหน้าของพี่ชายที่อยู่ในระยะชิดใกล้ มองให้ลึกลงไปในดวงตาคู่นั้นที่หาญกล้าปกปิดบางสิ่งบางอย่างจากเขา
..อย่าคิดนะว่าข้าจะไม่รู้ว่าใจจริงของท่านคิดอะไรอยู่กันแน่ ธอร์..!!
“และไม่!! ข้าจะไม่ฆ่าเจน ฟอสเตอร์...”
คำพูดที่ดูมีน้ำใจจนเกินไปของโลกิ มากพอจะทำให้ธอร์ถึงกับชะงักเสียงที่ตั้งใจจะตวาด ชายหนุ่มช้อนดวงตาขึ้นมองน้องชายต่างสายเลือดที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ยังคงหัวเราะแม้ในเวลาที่มือคู่นั้นบีบลงมายังปลายคางของเขา..ด้วยความแค้น..ด้วยความโกรธ!!
“คิดว่าข้าไม่รู้รึไงว่าเจน ฟอสเตอร์ก็เป็นแค่ตัวหลอก!! ท่านไม่ได้มอบใจให้แก่ผู้หญิงที่น่าสมเพชคนนั้น แต่ท่านได้ลอบมอบใจให้กับใครอีกคนหนึ่ง..ใครคนนั้นที่ท่านผู้หยิ่งผยอง ไม่เคยยอมให้ใครจับต้องกาย กลับเป็นฝ่ายยื่นมือของท่านไปให้แก่มันผู้นั้นด้วยตัวเอง..”
โลกิเค้นรอยยิ้มหยัน แม้ว่าจะทั้งเคียดแค้น ทั้งเจ็บปวดกับสายตาที่ผู้ชายคนนี้มอบให้แก่ใครอื่น..ทั้งที่ดวงตาตู่นี้สมควรมองแต่เขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น!!
“ท่านหลงรักกัปตันอเมริกาสินะ..ธอร์!?”
“.................................................”
นาน..เนิ่นนานที่ธอร์ทำได้แค่เบิ่งตามองน้องชายผู้โน้มตัวลงมาอยู่ตรงหน้า มองอย่างที่หากว่าอีกฝ่ายไม่ใช่โลกิแล้วล่ะก็ เป็นตายร้ายดียังไงเขาก็จะต้องฆ่ามันผู้นั้นทิ้ง หรือต่อให้อีกฝ่ายเป็นโลกิ แต่อย่างน้อยเขาก็จะต้องจับตัวเจ้าน้องชายตัวแสบมาตีก้นสักร้อยครั้ง เอาให้นั่งไม่ลงไปเป็นเดือนเลยนั่นแหละถึงจะดี!!
“...เจ้าเสียสติไปแล้ว...”
ประโยคเดียวที่ธอร์นึกออกพอที่จะเค้นออกมาจากปากก็คือประโยคนี้ แต่ต่อให้เป็นอีกกี่สิบกี่ร้อยประโยค อันว่าคนเราเมื่อปักใจเชื่อไปแล้วมันก็กลายเป็นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะยิ่งเป็นสำหรับโลกิผู้เชื่อถือแต่ความคิดบิดๆเบี้ยวๆของตนเองแล้ว จะคำพูดใดก็ไม่มีความสำคัญทั้งนั้น
“ข้าไม่ได้เสียสติ แต่คนที่เสียสติลุ่มหลงกับสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำเหล่านั้นคือท่านต่างหากล่ะ พี่ชายข้า” โลกิตอบอย่างไร้ความสนใจในสีหน้าที่พยายามข่มกลั้นโทสะของผู้พี่ชาย “ท่านมันก็เป็นอย่างนี้ตลอด เอาแต่จับจ้องมองคนอื่น แต่กลับมองข้ามข้าไป ทุกครั้งที่ท่านมองข้า..ท่านก็มองเหมือนว่าข้าเป็นเพียงน้องชายที่ไม่ได้ความ เป็นแค่คนที่ไม่มีความสำคัญใดๆ ไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นคู่แข่งของท่าน!!”
“น้องข้า ข้าไม่เคยคิดอย่างนั้น!!”
“หุบปาก!!” โลกิตวาดลั่น “ในเมื่อท่านเอาแต่สนใจสิ่งอื่น ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสนใจ!! ถ้าท่านหลงใหลในดาวโลก ข้าก็จะทำลายดาวดวงนั้นซะ!! ถ้าท่านลุ่มหลงในตัวกัปตันอเมริกา ข้าก็จะทำให้กระทะของมันแตกไปพร้อมๆกับตัวมัน!! เพื่อที่ท่าน..จะได้มองแต่ข้า มองแค่ข้าคนเดียวเท่านั้น!!”
“ต้องให้ข้าบอกกี่ครั้งว่าเจ้าเข้าใจผิด!!” ธอร์ตะเบ็งเสียงสู้ “เจ้าเป็นน้องชายของข้า ไม่มีทางที่ข้าจะไม่มองเจ้าหรือไม่สนใจเจ้า ข้าน่ะ...”
“แต่ข้าไม่ใช่น้องชายของท่าน”
คำพูดเย็นชาหยุดยั้งถ้อยคำที่อยากจะตะโกนออกมาของธอร์ให้หายไป เทพเจ้าสายฟ้าผู้ยิ่งใหญ่ ชายที่ไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้ กลับได้ลิ้มรสถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่ลึกล้ำไปถึงใจเป็นครั้งแรก..ก็ในครั้งนี้กับการถูกปฏิเสธถึงความสัมพันธ์พี่น้องที่เขายึดถือเหนืออื่นใด
“โลกิ เจ้ามัน...”
“จะบอกว่าข้ามันเลวหรือไงที่ไม่ได้จดจำบุญคุณที่ท่านสู้อุตส่าห์ดูแลข้าเหมือนน้องชาย?”
โลกิช่วยต่อคำพูดให้ด้วยสิ่งที่คิดเอาเอง แต่ก็ไม่สำคัญหรอกว่าธอร์จะคิดยังไง สิ่งที่สำคัญมีเพียงการที่เขาคนนี้คิดยังไงเท่านั้น!
“ข้าควรต้องขอบคุณท่านรึเปล่ากับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องจอมปลอมที่ท่านมอบให้..ตอบข้ามาสิ ธอร์!!?”
“เจ้าคือน้องชายของข้า โลกิ”
อีกครั้งและอีกครั้งที่ธอร์ยังคงย้ำมั่นคงในความสัมพันธ์นี้ ถึงจะต้องเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธตัดรอนอยู่ร่ำไป แต่ไม่ว่ายังไงสำหรับเขาแล้ว..ผู้ชายตรงหน้าก็คือน้องชายที่เติบโตมาด้วยกัน คือคนที่เขาสาบานว่าจะปกป้อง คือคนที่เขาสาบานว่าจะดูแลตลอดไป..ตลอดกาล...
รอยยิ้มที่เคยประดับบนริมฝีปากของโลกิดูจะบิดเบี้ยวไปไม่มากก็น้อยกับคำตอบอันหนักแน่นของธอร์..เจ้าคนโง่งมที่ไม่เคยเรียนรู้เอาเสียเลยว่าสิ่งที่เขาปรารถนา สิ่งที่เขาต้องการมันคืออะไรกันแน่!!
..นี่ท่านคิดจะยั่วโมโหข้าให้ได้..อย่างนั้นใช่มั้ย ธอร์!?
“ย่อมได้..ในเมื่อท่านยังคงยืนยันว่าข้าคือน้องชาย..” โลกิหลับตาแล้วลืมขึ้น แค่เพียงชั่วพริบตาที่มีแต่เขาคนเดียวที่รู้สึกถึงการตัดสินใจนี้ ว่าหลังจากนี้ไปมันจะไม่มีการย้อนกลับมาอีก... “ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้ข้าได้ตอบแทนบุญคุณที่ท่านดูแล ด้วยการมอบความสุขให้กับร่างกายของท่านก็แล้วกัน ธอร์!!”
ขาดคำ โลกิก็บดขยี้ริมฝีปากลงมาบนริมฝีปากของพี่ชายบุญธรรม คราบเลือดของธอร์ที่เขาเกลี่ยไล้มันลงมาถึงบริเวณริมฝีปาก ทำให้จูบนี้ยิ่งชวนให้ขื่นขม ไรหนวดบางๆของพี่ชายที่ครูดไปกับใบหน้ายิ่งทำให้จูบนี้ช่างเจ็บปวด...ทั้งที่นี่คือจูบแรกสำหรับพวกเขา แต่เพราะอะไร เพราะเหตุใดมันถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้...
“เจ้า...”
ความพยายามที่จะพูดอย่างแตกตื่นของธอร์กลับเปิดโอกาสให้โลกิได้สอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปภายในริมฝีปากของเทพเจ้าสายฟ้า ลิ้นที่สัมผัสกับปลายลิ้น เลือดที่ซึมเข้ามาให้ได้ลิ้มรส ความหวานปนขมที่ได้สัมผัส..กับความจริงที่ว่าผู้ชายคนนี้มีก็แต่ความรักจอมปลอมเช่นเดียวกับความสัมพันธ์จอมปลอมที่มอบให้แก่เขา!!
“ตกใจอะไรรึไง พี่ชาย? ตลอดเวลาที่ท่านคลุกคลีอยู่แต่กับสาวงาม คงไม่ได้รับรู้เลยสินะว่าน้องชายอย่างข้าสนุกแค่ไหนที่ได้บังคับสอดแทรกกายเข้าไปในร่างของชายหนุ่ม”
โลกิแสยะยิ้ม ที่จริงเรื่องนี้ก็อาจจะโทษธอร์ไม่ได้ที่ไม่รับรู้ เพราะว่านี่คือสิ่งที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังยอมรับว่ามันวิปริตผิดธรรมชาติแค่ไหน และเพราะเหตุนั้นผู้ชายทุกคนที่เขาเคยได้ลิ้มรส จึงต้องจบชีวิตลงหลังจากช่วงเวลาอันหรรษาทุกครั้งไป
“น่าเสียดายที่ถึงผู้ชายพวกนั้นจะร้องครวญครางหรือมีลีลาบนเตียงเด็ดดวงแค่ไหน แต่มันก็ทำได้แค่ให้ข้าได้ปลดเปลื้องความต้องการทางกายบางส่วน..นั่นเพราะคนพวกนั้นไม่ใช่ตัวท่าน ธอร์”
“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว โลกิ!!”
“ทำไมท่านถึงคิดว่าข้าพูดเหลวไหลล่ะ?”
โลกิแสยะยิ้มตอบใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของพี่ชายต่างสายเลือด เขารู้สึกชอบเสมอในทุกครั้งที่ดวงตาคู่นี้จับจ้องมองมา ไม่ว่าจะเป็นด้วยความเอ็นดูหรือเป็นด้วยความโกรธก็ตาม..เพียงแต่ว่าเมื่อมันเป็นด้วยความโกรธแล้ว สำหรับเขามันจะดูจริงใจมากกว่าเยอะ
...และเพราะอย่างนั้นข้าจะทำให้ท่านยิ่งโกรธแค้นข้า ถ้าท่านทำได้แค่มอบความรักจอมปลอมให้กับข้า ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะทำให้ท่านเกลียดชังข้าจากใจจริง...!!
“ถึงอย่างนี้ท่านก็ยังจะคิดว่าข้าพูดเหลวไหลอีกอย่างนั้นเรอะ..?”
มือของโลกิเลื่อนลงไปบริเวณส่วนกึ่งกลางลำตัวของพี่ชายที่ถูกปิดบังด้วยผ้าเนื้อหนา แต่ก็รัดติ้วเสียจนแทบจะสามารถสัมผัสได้ถึงผิวกายที่แท้จริง..
“หยุดนะ โลกิ! เจ้าคิดจะทำอะไร!!?”
เทพเจ้าสายฟ้าผู้น่าสงสาร ผู้ถูกตรึงร่างกายไว้ด้วยพลังแห่งเทสเซอแรคท์ ทำได้เพียงแค่ใช้เสียงของตนตวาดใส่ผู้เป็นน้องชาย ทำได้เพียงแค่เบิ่งตากว้างมองผู้ชายที่เติบโตขึ้นมาด้วยกัน ที่กำลังไล้ปลายนิ้วลงบนเป้ากางเกงของเขา ลูบคลึงช้าๆสลับกับหนักหน่วง
“ข้าคิดจะทำอะไรคงไม่สำคัญเท่ากับว่าท่านจะคิดอะไรออกอีกมั้ยหลังจากข้าเสร็จเรื่องกับท่านแล้ว พี่ชายข้า”
โลกิใช้ปลายลิ้นเลียมุมปากตัวเองเบาๆอย่างพึงใจกับสัมผัสที่นิ้วของตนได้รับ ลูบคลำ กดนิ้วลงไป แล้วฟังเสียงครางแหบพร่าจากผู้ชายที่มีพลังทางเพศสูงจนชวนให้กระหายคนนี้...เขาอยากลิ้มลอง อยากลิ้มรสจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว!!
“อยากดิ้นรนยังไงก็ตามสบาย ตราบที่ข้ายังถือครองเทสเซอแรคท์..ท่านก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้”
ดิ้นเข้าไปอีก ขัดขืนเข้าไปอีกเยอะๆ ความพยายามที่จะดิ้นรนขัดขืนอย่างไร้ประโยชน์ของธอร์ มีแต่จะทำให้เขายิ่งรู้สึกหฤหรรษ์มากขึ้น มือที่เคยแต่ลูบคลำเคล้นคลึงภายนอก จึงเปลี่ยนใจเป็นอยากจะได้สัมผัสกับเนื้อแท้มากกว่า มันทำให้เขาตัดสินใจที่จะลงมือเร็วขึ้นด้วยการสอดมือเข้าไปภายใต้กางเกงเนื้อนิ่มของพี่ชาย เพื่อเกาะกุมสัดส่วนที่ทำให้เขาร้อนเร่าไปทุกอณู
ธอร์ถึงกับตัวแข็ง เมื่อมือของผู้เป็นน้องชายจับต้องในสิ่งที่ไม่สมควรจับมากที่สุด เหงื่อเย็นๆซึมชื้นออกมาตามหน้าผากขณะที่มืออันเจ้าเล่ห์เหมือนกับเจ้าของนั่นกำลังปลุกเร้าเขาด้วยลีลาอันเร่าร้อนที่ไม่เคยได้ประสบจากผู้หญิงคนไหนมาก่อน ทั้งที่ปกติแล้วโลกิดูจะเยือกเย็นกว่าอยู่เสมอ แต่ภายใต้สิ่งที่มือข้างนั้นทำ ภายใต้สิ่งที่นิ้วทั้งห้านั้นกำลังกระทำ..มันไม่มีสิ่งใดใกล้เคียงกับความเยือกเย็น และไม่มีสิ่งใดเลยที่จะไม่พัดพาให้อารมณ์ของเขาถึงกับเตลิดเพริดอย่างหลงลืมตัว
ธอร์เผลอลืมตัว..เผลอลืมใจ...ก่อนที่เสียงกลั้วหัวเราะของโลกิจะกระชากสติของธอร์ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ถนัดใช้สมองเท่าไหร่....แต่ท่านคงจะรู้สินะว่าการชำเรามันเป็นยังไง?” ร่างของผู้เป็นน้องชายเลื่อนลงมา จนริมฝีปากอยู่ในระดับเดียวกับสิ่งที่มือกำลังเคล้นคลึงอยู่ ดวงตาเขม้นมองอย่างแทบจะให้ทะลุลงไปถึงสิ่งที่เขากระหายอยาก “..ถึงท่านจะไม่รู้ แต่อีกเดี๋ยวก็จะได้รู้แล้วล่ะ พี่ชายข้า”
“ไม่นะ โลกิ!! ข้าบอกว่าไม่...ไม่!!!”
ธอร์ตวาดกร้าว ยอมรับว่าตัวเองไม่เคยรู้สึกแตกตื่นเท่ากับเวลานี้มาก่อน ถึงว่าในฐานะของรัชทายาทคนต่อไปจะทำให้มีหญิงสาวมากมายมาปรนเปรอเขา หลายร้อยหลายพันครั้งที่พวกนางพยายามทำให้เขาพอใจด้วยการปลดเปลื้องความต้องการให้ด้วยริมฝีปากนุ่มๆ กี่ครั้งจนนับไม่ถ้วนที่พวกนางใช้มืออันเนียนนุ่มช่วยปลดกางเกงของเขาลงมา แต่ว่า..มันต้องไม่ใช่มือของโลกิที่จะดึงกางเกงของเขาลงมาแบบนี้!!
“ข้าขอสั่งไม่ให้เจ้าทำแบบนี้ โลกิ!!”
โลกิหัวเราะนุ่ม ดวงตายังคงมองสิ่งที่มือของตนช่วยปลุกเร้าอย่างหิวกระหาย...มันเป็นสิ่งหนึ่งที่โลกิยอมรับตลอดมา และคงจะยอมรับตลอดไปว่ามีแต่เพียงธอร์เท่านั้นที่ทำให้เขาปรารถนามากพอกับที่เกลียดแค้นได้ขนาดนี้ และยังชิงชังมากพอกับที่...รัก...ได้ขนาดนี้
“ข้าไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของท่านอีกแล้ว ธอร์...เวลานี้ข้าคือ ราชาแห่งแอสการ์ด และหลังจากนี้ ข้า..คือราชาผู้อ้างสิทธิ์เหนือร่างกายท่าน!!”
ความคิดเห็น