คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : My King & Your King :: Chapter 2
อายุขัยของเทพมักยืนยาวกว่าอายุของสามัญชน หากแต่นับจากจำความได้ ธอร์ก็คิดว่าตนได้เคยทำเรื่องผิดพลาดมามากมาย แต่จะผิดพลาดอีกสักกี่ครั้งก็คงไม่พลาดมากไปกว่าครั้งนี้ กับความผิดพลาดครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ชีวิตลูกผู้ชายคนหนึ่ง..........!!?
...98…99…100…101…
ตัวเลขที่ถูกนับในใจอย่างพยายามที่จะสะกดกลั้นอารมณ์โกรธที่จวนเจียนจะปะทุออกมาเหมือนภูเขาไฟใกล้ระเบิด แต่ถึงว่าภูเขาไฟลูกนี้จะใกล้ระเบิดแล้วจวนเจียนจะพ่นขี้เถ้าออกมามากแค่ไหน แต่ในสติยั้งคิดเศษเสี้ยวสุดท้ายที่มีอยู่ ก็ทำให้ธอร์ยังพยายามที่จะนับเลข...เพื่อจะข่มกลั้นโทสะนี้เอาไว้ มากกว่าจะเอาไปลงกับใครคนหนึ่งที่เขาไม่อยากทำร้ายแม้แต่จะแค่ตีก้นสักแปะเดียว
อย่างไรก็ตาม ช่างน่าเสียดายที่..สิ่งมีชีวิตตนนั้นดูจะไม่คิดรับน้ำใจแม้แต่นิดเดียว
...101…101…101…101…
เลข 101 ถูกนับในใจติดต่อกันห้าครั้ง และถึงว่าเทพเจ้าสายฟ้าจะไม่เคยมีชื่อเสียงในด้านความฉลาด หรือถ้าจะพูดให้ถูกแล้วกลับโด่งดังในด้านไร้สติปัญญาเสียมากกว่า แต่กระนั้น..กับแค่นับตัวเลขให้เกิน 101 มันก็ไม่ควรจะเกินกว่าความสามารถของชายผู้สักวันหนึ่งจะขึ้นเป็นราชาเหนือดินแดนแอสการ์ดแห่งนี้
ใช่แล้ว มันไม่น่าจะเกินความสามารถเลย ถ้าไม่ใช่เพราะ...มีมารผจญ!!
อะฮะฮะฮะ
“ธอร์~”
ฮ่าๆๆๆๆๆ
“ธอร์...............!”
อา..ฮะ..ฮะๆๆๆ
“ธอออออรร์.............!!”
คิก..อะ...อ๊าฮะฮะฮะ
“ธอออออออออออออออออออออออออออออออออออออออร์ว้อยยยยยยยยยยย!!!”
เสียงเรียกนามของพี่ชายต่างเผ่าพันธุ์ค่อยๆเพิ่มระดับจากเสียงกระซิบหวานๆมาเป็นเสียงกรีดร้องเรียกด้วยโทนเสียงสูงระดับเดียวกับนักร้องโอเปร่า แล้วราวกับกลัวว่าเสียงที่ดังพอจะกระแทกให้ขี้หูร่วงกราวของตน อาจจะดังไม่พอที่จะปลุกให้คุณพี่ชายที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัดตื่นจากภวังค์ ดังนั้นเองโลกิจึงได้ช่วยเพิ่มซาวนด์เอ็ฟเฟ็คด้วยการดิ้นกระแด่วๆจนสายโซ่ที่คล้องข้อมือตรึงไว้กับพนักหัวเตียงถึงกับสั่นกระทบกันดังแกร๊งกร๊าง
แต่นั่นก็ยังไม่น่าจะเรียกร้องความสนใจได้มากไปกว่าอุ้งเท้าเปลือยทั้งสองข้างที่ผลัดกันโจมตีซ้ายขวาใส่แผ่นหลังของคนที่เลือกจะนั่งหมิ่นๆอยู่บนขอบเตียง มากกว่าจะหันมาสนใจเขาคนนี้!!
กล้าดียังไงถึงมานั่งหันหลังให้ข้าคนนี้!!
“ปล่อยข้านะ ธอร์!!”
ฮะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ถ้าร้องกรี๊ดได้โดยไม่ต้องกลัวที่จะเสียศักดิ์ศรี โลกิก็คงไม่ลังเลเลยที่จะกรีดร้องโหยหวนออกมาด้วยความคับแค้นใจ ทั้งที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง..ที่เขายังอยู่ในสภาพได้เปรียบเต็มประตู โดยมีธอร์นอนสิ้นฤทธิ์อยู่ใต้ร่าง มันทั้งน่าสะใจ ทั้งยังได้ทำจนเต็มอิ่มในอารมณ์เสียจนโลกิแทบจะกลั้นเสียงหัวเราะไม่อยู่ ทว่า..ก่อนที่จะได้ต่อรอบ 2 นั้นเอง.....สิ่งอันเลวร้ายก็เกิดขึ้น!!
ในชั่วพริบตานั้น ลูกบาศก์เทสเซอแรคท์ที่เปล่งประกายสีฟ้าอมม่วงออกมาตลอดเวลา ก็พลันดับแสงลงยังกับไฟฉายที่ถ่านหมด มันทำให้อำนาจแห่งธอร์กลับคืนมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ และในช่วงเวลาเพียงพริบตาที่โลกิมัวแต่โอ้หลั่นล้าจนไม่ทันระวังตัว สถานการณ์ทุกอย่างก็พลันกลับตาลปัตร!!
“ชิ-หาย....”
คำหยาบยังพ่นออกมาไม่ทันจบ ร่างของชายสวมเขาก็ถูกจับกระแทกให้ลงไปกองอยู่กับพื้น แรงกระแทกนั้นรุนแรงมากพอที่จะทำให้เขาที่สวมถึงกับแทบแตกหัก หมวกใบเก่งกลับทำท่าว่าจะเปราะบางเกินคาด ทว่าก่อนที่โลกิจะทันได้ด่าออกมาให้จบคำ หรือทันได้เอามือไปลูบเขาที่ปรากฏรอยร้าวนั้นเอง...มือทั้งสองก็กลับพลันถูกพันธนาการไว้อีกครั้งด้วยโซ่เส้นหนาที่มีไว้เพื่อล่ามอัลเซเชียนกลายพันธุ์โดยเฉพาะ!!
“เล่นสนุกพอรึยัง..โลกิ”
เสียงที่เคยห้าวทุ้มกลับเจือด้วยโทนสั่นพร่า และมันก็ไม่ใช่แต่โทนเสียง แต่ยังรวมถึงร่างกายกึ่งโป๊เกือบเปลือยของเทพเจ้าแห่งสายฟ้าที่กำลังสั่นระริกไปทั้งตัว...ด้วยความโกรธจัดหลังจากพลาดพลั้งจนถูก ‘กระทำ’ และ ‘ชำเรา’ ไปจนหมดสิ้น
...ในเวลานั้น โลกิเผลอคิดขึ้นมาว่า ธอร์อาจจะกำลังคิดจะฆ่าเขาขึ้นมาจริงๆก็ได้...
แต่ว่า..แล้วยังไงล่ะ?
ร่างโปร่งสะบัดผมที่ชื้นเหงื่อไปด้านหลังอย่างเย่อหยิ่ง แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะถูกฆ่าหมกท้องพระโรงเพียงแค่นี้หรือไม่ แต่อันว่าคนเราก่อนจะตายก็สมควรตายด้วยสภาพที่งดงามที่สุด หรือถ้ายังไม่ตายก็ยิ่งสมควรจะงดงามที่สุดอยู่ดี หรือถ้าจะพูดให้ถูกกว่านั้น..ไม่ว่าจะเป็นในเหตุการณ์แบบไหน สำหรับโลกิผู้นี้..อย่างน้อยที่สุดแล้วก็อยากจะได้หวีมาเสยทรงให้เข้าที่ก่อนถึงจะค่อยต่อบทนะ พี่ชาย...
นั่นคือความคิดที่เรียกรอยยิ้มแย้มพรายอย่างคนที่หาดีในตัวไม่เจอแต่มักจะอวดดีอยู่เสมอ แล้วริมฝีปากก็เผยอออกเตรียมจะร้องขอหวีด้ามงาช้างอย่างสุภาพ ทว่า....
“อื้อ!!? อำอะไออ๋องเอ้าอะ อ้อออออออ!!”
ปากที่ถูกปิดสนิทด้วยฝ่ามือหนาของพี่ชายพยายามจะพูดด่าทอไม่เป็นศัพท์ แต่น่าเสียดายที่อย่าว่าแต่จะพูดออกมาเป็นคำ แค่พูดตัวอักษรอื่นที่ไม่ใช่ อ. ออกมาก็ยังแทบจะเป็นเรื่องเต็มกลืนสำหรับผู้ชายที่เริ่มจะออกเสียงคำว่า ธอร์ ออกมาเป็น ท่อ ไปแล้ว
แต่ไม่ว่าจะเป็นธอร์ หรือ ท่อ สถานการ์ของโลกิก็ถูกลิขิตให้ตกอยู่ในสภาพเลวร้ายที่สุด เมื่อฝ่ามือหยาบถูกแทนที่ด้วยเข็มขัดเส้นหนา ที่ก็ไม่ได้ปลดออกมาจากที่อื่นไกล แต่ดันปลดออกมาจากขอบกางเกงของโลกิเสียนี่ และนั่นก็ไม่เพียงแต่จะพันธนาการปากช่างยุของผู้เป็นน้องชายเอาไว้ แต่ยังได้ผลดีสองต่อด้วยเป็นการพันธนาการมือของคนที่ถูกปลดเข็มขัดออก จนต้องรีบใช้สองมือจับขอบกางเกงเอวต่ำตัวหลวมเอาไว้ ไม่อย่างนั้นจีสตริงตัวเก่งลายแฮปปี้คนเลี้ยงหมูที่สวมอยู่ก็คงจะได้อวดโฉมต่อหน้าประชาชีชาวแอสการ์ดทั้งหลายเป็นแน่!!
“ฝากท่านพ่อดูแลที่นี่ด้วย”
ทันทีที่ลูกบาศก์เทสเซอแรคท์แบตหมด พลังที่โลกิเคยใช้ก็มีอันเสื่อมสลายไปในพริบตา และนั่นย่อมรวมถึงเวทย์มนต์ที่เคยใช้คุมขังชาวแอสการ์ดทั้งมวล ที่ต่างก็กลับมาขยับตัวได้อีกครั้งและต่างก็รีบพุ่งตรงมายังท้องพระโรงอันเป็นจุดเกิดเหตุ(สยอง)ในทันที
น่าเสียดายที่ถึงจะไม่ช้าเกินไป แต่ก็อาจสายเกินไปบ้าง....
โอดินมองสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยของลูกชายคนโต กับความเยือกเย็นที่ราวกับจะเค้นเฮือกสุดท้ายออกมาของอีกฝ่าย แล้วก็ได้แต่พยักหน้ารับคำพลางนึกทอดถอนใจและสวดศพให้แก่ลูกชายคนเล็ก..ผู้ซึ่งเคยถูกพี่ชายตามใจมามาก จนไม่ได้รู้เลยว่าเวลาที่ธอร์โกรธนั้น.....มันน่ากลัว และสำหรับในกรณีของโลกิแล้ว..มันยังน่าสยิวกิ้วแค่ไหน...
“ข้าจะนำตัวโลกิไปรับโทษ..อย่างที่ควรจะได้รับเสียที”
ธอร์เค้นเสียงเอ่ยออกมา พลางเหวี่ยงร่างน้องชายขึ้นพาดบ่าด้วยความรู้สึกที่แทบไม่ได้หนักไปกว่ากระสอบข้าวสาร มิไยว่าชายสวมเขาจะสะบัดซ้ายสะบัดขวาดิ้นหน้าดิ้นหลัง จนแม้แต่ถึงขนาดเงยหน้าขึ้นเพื่อจะให้เขาที่สวมอยู่แทงใส่หลังพี่ชายก็ยังทำแล้ว...แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีสิ่งใดหรืออะไรในโลกที่จะทำให้ธอร์ปล่อยตัวโลกิลง...
ไม่ปล่อย!! จนกระทั่งได้โยนอีกฝ่ายลงบนเตียงในห้องของรัชทายาทแห่งแอสการ์ด!!
นั่น..คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ใครเลยจะรู้ว่าถึงโลกิจะฉลาดเจ้าเล่ห์แค่ไหน แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือนรกยังมีเลวยิ่งกว่า ด้วยถึงธอร์จะไม่รู้เท่าทันในแผนร้ายของโลกิ แต่สำหรับบุรุษวัยก็ไม่หนุ่มแล้ว ผู้มีนามว่า สตาร์ค...การที่จะคาดเดาความคิดของโลกิแล้วหาวิธีแก้เผ็ดเอาไว้ล่วงหน้านั้น มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยสักนิดเดียว
และด้วยเหตุนั้นสตาร์คจึงได้ฉวยโอกาสช่วงเวลาอันน้อยนิดขณะที่เทสเซอแรค์ยังอยู่บนโลก ลอบถอดเอาถ่านไฟฉายอัลคาไลน์ชนิดสามเอออกมาจากลูกบาศก์ แล้วใส่ถ่านไฟฉายขนาดเดียวกัน แต่เป็นยี่ห้อตรากบเข้าไปแทนที่
ซึ่งหากว่าลูกบาศก์เทสเซอแรคท์ถูกนำกลับไปเก็บไว้ในท้องพระคลังอย่างที่มันควรจะเป็นแล้ว ก็คงจะไม่มีใครได้รู้เรื่องนี้ แต่ว่าในท้ายที่สุด..โลกิก็ชั่วพอที่จะตกหลุมพราง และใช้พลังของเทสเซอแรคท์ในการเพิ่มพลังเวทย์มนต์ของตน ซึ่งแน่นอนว่าถึงลูกบาศก์จะมีพลังมหาศาลแค่ไหน แต่เมื่อได้ตัวประจุเป็นแค่ถ่านไฟฉายตรากบแล้ว ไม่ทันถึงชั่วโมงก็แน่นอนยิ่งกว่าว่าถ่านต้องหมดลง และทำให้ธอร์กลับเป็นฝ่ายพลิกสถานการณ์กลับมาอีกครั้งในที่สุด!!
และนำมาซึ่งสถานการณ์ที่บัดซบที่สุดในชีวิตของโลกิ....
“ข้าจะฆ่าเจ้า!! อะอ๊ะฮ่าฮ่าฮ่า...”
เสียงตวาดดังในท่วงทำนองเดียวกับเสียงหัวเราะ ร่างโปร่งผู้ถูกจับมัดตรวนล่ามไว้กับพนักหัวเตียงอันแข็งแกร่งใช้พลังเฮือกสุดท้ายไปกับการแผดเสียงที่คละเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะที่กลั้นไม่อยู่ มันเป็นเช่นนี้มานับตั้งแต่ 2-3 ชั่วโมงก่อนที่ธอร์โยนเขาลงบนเตียงนอนของรัชทายาทแห่งแอสการ์ด ก่อนที่โซ่เส้นใหญ่จะถูกนำมาล่ามข้อมือทั้งสองไว้ แล้วตามด้วยมือที่ยอมแกะเอาเข็มขัดออกจากปากให้...ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความเมตตาเลยสักนิด...
โลกินึกอยากจะถ่มถุยใส่หน้าของพี่ชายเป็นอย่างมากถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายกำลังหันหลังให้ และถ้าไม่ติดว่าตัวเขาในเวลานี้ได้ใช้พลังทั้งหมดไปกับการตะโกนด่า...และเสียงหัวเราะจนหมดแล้ว
...ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ชั่วโมงก่อนอีกรอบ...
‘เจ้าต้องถูกลงโทษ’
เสียงห้าวทุ้มยะเยียบเย็นกว่าครั้งใดดังขึ้นทันทีที่โลกิตกอยู่ในสภาพที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ แน่นอนว่าโลกิย่อมปล่อยให้คำพูดของพี่ชายผู้ด้อยสติปัญญาดังเข้าหูซ้ายก่อนจะทะลุออกหัวแม่เท้าขวาไปอย่างง่ายดาย ด้วยความเชื่อมั่นว่าไม่ว่าบทลงโทษที่ว่านั้นจะคืออะไร แต่มันก็ไม่มีทางที่จะทำให้เขาผู้เป็นทั้ง S และ M คนนี้รู้สึกครั่นคร้ามได้
ทว่าคงต้องย้ำคำเดิม..ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือนรกยังมีเลวยิ่งกว่า และเหนือความอาร์ตตัวแม่ที่โลกิมี ก็คือสตาร์คผู้พกความเกรียนแบบเต็มพิกัด...และรับหน้าที่มาเป็นกุนซือให้กับรัชทายาทแห่งแอสการ์ดโดยเฉพาะ
‘เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่อาจแข็งใจลงโทษให้เจ้าต้องเจ็บปวดได้ โลกิ...และถึงข้าทำได้ คนที่มาโซ หลงใหลความเจ็บปวดอย่างเจ้าก็ดีแต่จะมีความสุขไปเท่านั้น’
ธอร์มองน้องชายต่างสายเลือดด้วยความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการอยากถีบมากพอกับที่อยากตีก้น แต่ว่าทั้งสองอย่างนั้นล้วนแต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีทั้งคู่ และเมื่อดูจากการที่ผู้ชายที่มีรสนิยมแปลกพอจะเอาตัวเองไปยัดใส่กระป๋องเหล็กคนนั้นบอกแล้ว บางทีสิ่งที่ดีกว่าคงเป็นการที่เขาเลือกจะทำตามที่อีกฝ่ายได้แอบชี้แนะก่อนออกจากดาวโลกมา
...ข้าจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเจ้าชื่ออะไร บุรุษสวมกระป๋อง แต่ไม่ว่าเจ้าจะชื่อ สตาร์ค หรือ กระต๊าก ก็ตาม แต่เห็นแก่การที่เจ้าทำให้ข้ารอดตัวจากรอบ 2 กับโลกิมาได้..ดังนั้นครั้งนี้ข้าจะขอเชื่อเจ้าอีกครั้งนะ กระต๊าก...
ด้วยความเชื่อมั่นในพลังแห่งมิตรภาพ..ธอร์ได้ตัดสินใจใช้สุดยอดอาวุธทัณฑ์ทรมาน ที่โทนี่ สตาร์คได้แอบมอบให้กับเขาก่อนจะเดินทางกลับมายังแอสการ์ด และสิ่งนั้นก็คือ...
‘นะ..นั่นท่านคิดจะทำอะไรน่ะ!!?’
โลกิเบิกตาตี่ๆจนกว้าง มองสิ่งของที่อยู่ในมือธอร์ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความตกใจเป็นครั้งแรก ร่างที่เคยยืนหยัดอย่างเริ่ดเชิดหยิ่ง กลับมีอันต้องถอยกรูดจนแผ่นหลังชนเข้ากับพนักหัวเตียงเสริมเหล็กกล้า...ไร้ทางถอยหนีโดยสิ้นเชิง
‘ยะ..อย่าเข้ามา..อย่าเข้ามานะ..ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!’
กลับมา ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน เสียงกรีดร้องของตนเองในเวลานั้นยังคงดังสะท้อนก้องอยู่ในความทรงจำของโลกิ..จอมเวทย์อันดับ 1 แห่งแอสการ์ด ชายผู้ถึงกับกดเทพเจ้าแห่งสายฟ้าลงได้ กลับต้องมาแพ้พ่ายให้กับ.....
“อะฮะฮะฮะฮะ พอที!! หยุดได้แล้ว ธอร์ ฮ่าๆๆๆๆ”
ร่างโปร่งดิ้นรนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง มือทั้งสองกระตุกสายโซ่ดังแกร๊งกร๊างอย่างคนที่พยายามจะหนีให้พ้นจากทัณฑ์ทรมานที่น่ากลัวที่สุดในหมู่ดาวเคราะห์ทั้งเก้า มันคือโทษทัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่จะไม่สร้างบาดแผลให้กับร่างกาย ยังไม่ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดใดๆไว้ แต่...ความทุกข์ทรมานที่ได้รับนั้นกลับเหนือกว่าเป็นร้อยเท่าพันทวี!!
“ฮะฮะฮะ ยะ..อย่าให้ข้า โอ๊ยฮ่าๆๆ นะ..หนีรอดไปได้นะ คิกๆๆ”
ท่ามกลางแสงสว่างจากโคมไฟในห้อง ร่างของโลกิกำลังดิ้นกระสับกระส่ายไม่ต่างจากคนบ้า วงหน้านั้นแพรวพราวไปด้วยรอยยิ้มอันสุดแสนจะจริงใจและคับแค้น และคงจะไม่มีทางเค้นเสียงหัวเราะที่ออกมาจากใจจริงของโลกิได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว นั่นเพราะเสียงหัวเราะนี้เกิดจาก....หุ่นยนต์สิบกร (made by Stark) ผู้กำลังใช้มือทั้งสิบในการจั๊กจี๋ตั้งแต่ฝ่าเท้าไปจนถึงต้นคอของชายผู้เป็นต้นเหตุแห่งวินาศกรรมของดาวโลกนั่นเอง!!
“คิกๆๆ โอ๊ยฮะฮะฮะ...ปล่อยข้านะ ไอ้บ้า!! ฮ่าๆๆๆ”
มือที่ถูกตรวนล่ามพยายามที่จะตบใส่หุ่นยนต์งี่เง่านั่นอย่างไร้ความหวัง ขณะที่ขาซึ่งเป็นอิสระทำได้แค่พยายามดิ้นหนีจากมือที่ยังคงจี๋เท้าของเขาไม่เลิก และวิธีการเลี่ยงหนีที่ดีที่สุดก็คือการใช้เท้าทั้งสองข้างนั่นถีบใส่แผ่นหลังของพี่ชายที่ทำนั่งเป็นหัวหลักหัวตออยู่ได้ แม้ว่าทันทีที่เท้าของโลกิเลื่อนออกห่างจากหลังของธอร์เพื่อจะรวบรวมพลัง มือกลหลายต่อหลายข้างนั่นก็รีบกรูเข้ามาจี๋เท้าของเขาอีกรอบอยู่ดี
ทรมาน..ทรมาน..ทรมานสุดๆ
โลกิผู้ไม่เคยร้องขอความเมตตามาก่อน กลับรู้สึกได้ถึงคำขอร้องที่มาอุดตันอยู่ที่หลอดอาหาร อีกนิด..แค่อีกนิดเดียวเขาคนนี้ที่หัวเราะอย่างทรมานมา 3 ชั่วโมงเศษๆก็คงจะได้หลุดคำขอร้องออกไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ...
เสี้ยวหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหปนเครียดของธอร์ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของตน..!!
“ฮะ..เฮอะ!! ยะ..อย่างข้าน่ะไม่ขอร้องท่านหรอก!!”
นอกจากอาร์ตตัวแม่แล้วยังพ่วงตำแหน่งซึนตัวพ่อเข้าไปด้วย โลกิตัดสินใจที่จะกลืนคำขอร้องกลับลงท้องดังเอื๊อก ก่อนที่จะรวบรวมแรงฮึดที่ก็เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ในการประเคนฝ่าเท้าใส่หลังของเทพเจ้าสายฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า...ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ยิ่งกว่าจะไร้ผล
“ทำไม..ทำไมเจ้าถึงได้ดื้ออย่างนี้นะ...”
ธอร์กำมือแน่น...แน่นเสียจนความเจ็บจากการกำมือของตนทำให้ลูกถีบของโลกิที่ยังกระหน่ำใส่แผ่นหลังกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไป สำหรับตอนนี้อีกฝ่ายจะกำลังหัวเราะหรือโกรธแค้นอะไรอยู่นั้นก็สุดที่เขาจะทำความเข้าใจได้ ในเมื่อสำหรับธอร์แล้ว..สิ่งที่เกิดขึ้น..สิ่งที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วนั้น มันก็ช่าง..........
กร๊อบ..กร๊อบ...กร๊อบ.....
เสียงเคล้นกำปั้นดังอย่างน่าสยดสยอง ซึ่งหากว่าโลกิจะเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะมากกว่านี้แล้วล่ะก็..บางทีในช่วงเวลาแบบนี้ก็อาจจะรู้ดีพอที่จะเงียบปากหรือหยุดการกระทำใดๆที่อาจกระตุ้นโทสะของธอร์ให้ระเบิดเปรี้ยงปร้างออกมา
แต่ทว่า..น่าเสียดายที่อย่างแรกเลยนั้นก็คือ โลกิอาจจะฉลาด แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่ามีสติสัมปชัญญะมาก่อน
และอย่างที่สองที่รุนแรงยิ่งกว่าข้อแรกก็คือ..โลกิ กับคำว่า อาร์ตตัวแม่ นั้น..ห่างกันไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
“เสียแรงที่ท่านเป็นถึงเทพแห่งสายฟ้า แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพช”
โลกิผู้ถูกจับมัดตรวนล่ามไว้กับพนักหัวเตียงอันแข็งแกร่งตะโกนด่าอย่างโกรธแค้น และมันคงจะดูดุเดือดยิ่งขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะเวลานั้นหุ่นยนต์จะรีบฉวยโอกาสในการจั๊กจี๋เข้าที่เอว เรียกเสียงหัวเราะออกมาจากปากของโลกิดังชุดใหญ่
“ทำไมถึงไม่กล้าหันมาเผชิญหน้ากับข้าล่ะ!?”
โลกิตวาดกร้าวทันทีที่หัวเราะเสร็จจนแทบหอบ ริมฝีปากเหยียดออกเป็นรอยยิ้มหยัน ที่จริงแล้วไม่ว่าตอนนี้ธอร์จะหันหน้าหรือหันหลังให้ เขาก็จะยังด่าอยู่ดีนั่นแหละ!!
“ที่แท้ท่านก็คงอับอายสินะที่ต้องมาพลาดท่าเสียทีเสียตัวให้กับข้าคนนี้ ศักดิ์ศรีของท่านคงแหลกสลายไปหมดแล้วใช่มั้ยล่ะ? ไม่สิ หรือว่าที่ท่านนั่งเงียบแบบนี้เป็นเพราะติดใจในรสชาติแล้ว ถ้ายังไงจะให้ข้าช่วย......”
“จะให้เจ้าช่วยทำให้ข้าถึงอีกครั้งใช่มั้ย!!?”
เปรี้ยง!!
แว่วเสียงฟ้าผ่าดังสอดประสานกับเสียงคำรามลั่นของคนที่โมโหจนแทบกระอักเลือด ธอร์ผู้นับเลข 101 ซ้ำเป็นครั้งที่ 1,010 หันมาตวาดใส่โลกิผู้ดูจะชะงักคำพูดลงได้ในที่สุดหลังจากเจอการตอบโต้ด้วยเสียงตวาดกลับ และมันก็คือครั้งแรกที่ธอร์โกรธจัดจนถึงกับตะคอกใส่น้องชาย!!?
“ธอร์....”
เป็นคราวของโลกิที่จะได้ลิ้มรสความรู้สึกที่ต้องอ้ำอึ้งเหมือนอย่างคนอื่นเขาบ้าง ร่างที่สูงน้อยกว่าพี่ชายไม่กี่เซนฯ แต่ดูจะห่างไกลกันลิบในด้านของมัดกล้าม..ดูจะแข็งทื่อไปในทันทีที่ร่างของอีกฝ่ายผู้เคยยอมรับลูกถีบของเขาอย่างไม่ปริปากบ่น กลับหันหน้ามาหาด้วยสีหน้าที่บอกชัดว่า...
ฟางเส้นสุดท้ายนั้น..ได้ขาดกระจุยไปเสียแล้ว!?
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะพยายามทดสอบความอดทนของข้า ด้วยการตอกย้ำถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซะเหลือเกิน”
เสียงห้าวดังลอดไรฟันที่ขบกันแน่นจนได้ยินเสียงดังกรอดๆ มือที่กำแน่นจนได้ยินเสียงดังกร๊อบๆ และยังเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงๆที่มากพอจะบ่งบอกสภาวะอารมณ์ของเทพเจ้าสายฟ้าได้เป็นอย่างดี
“ตามปกติข้าเคยคิดว่าข้าเข้าใจเจ้าเสมอ โลกิ แต่ตอนนี้ข้าถึงได้รู้ว่าข้าไม่เคยเข้าใจเจ้าเลย..”
“รู้ก็ดีแล้วนี่ โง่อยู่ได้ตั้งนาน!!” โลกิอดสอดคำตามประสาคนปากบอนไม่ได้
“ข้ารักและตามใจเจ้ามาตลอด และเพราะเหตุนั้นข้าจึงไม่เคยจับตาดูเจ้า..เพราะข้าไว้ใจเจ้ามากยิ่งกว่าจะไว้ใจในตัวเอง และเพราะอย่างนั้น..เพราะการที่ข้าไม่ได้เฝ้ามองเจ้าอย่างใกล้ชิดกลับทำให้มีกี่ชีวิตกันที่ต้องสังเวยไปเพราะรสนิยมรักวิปริตของเจ้า!!”
ธอร์ตะคอกใส่ผู้เป็นน้องชายอย่างโกรธจัด แน่ล่ะว่าเขาที่เป็นชายแท้ 100% ชนิดไม่มีสารเจือปนคนนี้ ย่อมไม่มีทางที่จะอภัยให้กับสิ่งที่โลกิกระทำต่อร่างกายของเขาได้ แต่ว่า..สิ่งที่ทำให้ธอร์ยากที่จะอภัยยิ่งกว่า นั่นคือความคิดที่ว่าโลกิอาจจะกลายเป็นเช่นนี้ก็เพราะตัวเขาเอง...
“ทำไม..ทำไมก่อนหน้านี้เจ้าถึงไม่บอกออกมาตรงๆว่าเจ้าต้องการร่างกายของข้า!?”
“บางครั้งข้าก็อดสงสารควายไม่ได้จริงๆที่ถูกเอามาเปรียบเทียบกับท่าน” โลกิที่กำลังดิ้นเร่าๆอย่างทรมานกับการถูกจั๊กจี๋ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทิ่มแทงใส่พี่ชายต่อ “อย่าทำเป็นโลกสวยหน่อยเลย คิดว่าถ้าข้าบอกไป แล้วท่านจะทำอะไรได้ไม่ทราบ? ท่านจะพลีกายให้ข้าขึ้นคร่อมท่านเหมือนอย่างวันนี้รึไง ธอร์!!?”
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!
เสียงฟ้าฟาดลงมาอีก 2 ชุด เมื่อใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายถึงกับเครียดขมึง ธอร์พยายามแล้วจริงๆที่จะสะกดกลั้นความโกรธไว้ พยายามแม้แต่จะคิดว่าอันที่จริงสิ่งทีเกิดขึ้นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเท่าไหร่ นั่นเพราะโลกิเองก็ยังเจ็บตัวจากบาดแผลที่ถูกยักษ์เขียวทำร้าย จนเรี่ยวแรงหดหาย ร่างกายยังไม่ฟื้นฟู และด้วยสภาพแบบนั้นของผู้เป็นน้องชาย ที่จริงคิดไปก็คงไม่ดี หรือขืนพูดไปก็คงมีแต่ทำให้อีกฝ่ายเอาหัวชนยอดหญ้าตายเปล่าๆ..แต่ขอโทษทีเถอะ..จริงๆแล้วเขาคนนี้แทบไม่รู้สึกว่าเจ็บเลยสักนิด
และเพราะว่าร่างกายไม่ได้เจ็บอะไรเลย จึงอยากจะเชื่อว่าความเจ็บใจนี้อาจจะถูกลืมเลือนไปได้ในสักวันหนึ่ง อยากจริงๆที่จะเชื่อแบบนั้น แต่ว่า.....
“น้องข้า...เจ้า.........”
“ข้าไม่ใช่น้องเจ้า!!” โลกิตวาดแว้ด ก่อนจะหันกลับไปหัวเราะอีกรอบ “หัดจำใส่สมองที่มีแต่กล้ามเนื้อของท่านไว้ซะว่าข้าไม่ใช่น้องชายของท่าน ไม่เคยใช่ และจะไม่ใช่...........”
“ตกลง เจ้าไม่ใช่น้องชายของข้า”
“หะ..หา???”
หลังจากที่เฝ้าย้ำว่าโลกิเป็นน้องชายมานานถึง 2 ซีรีส์ คำพูดที่อยู่ๆก็ยอมรับออกมาง่ายๆของธอร์ก็ทำให้โลกิถึงกับอ้าปากค้าง และลึกๆลงไปแล้ว..มันทำให้หนุ่มสุดซึนคนนี้ถึงกับเจ็บปวด
“นะ..ในที่สุด...”
โลกิใช้เวลานานมากกว่าที่จะนึกออกว่าควรจะพูดอะไร เมื่อดวงตาทั้งสองข้างดูจะแสบร้อนขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่นี่ไม่ใช่เพราะว่าเสียใจนะ มันก็แค่ว่าเขา..เขาเป็นหวัดก็เท่านั้นเอง!!
“ในที่สุดท่านก็ยอมรับความจริงเรื่องนี้แล้วสินะ ธอร์..ข้าไม่ใช่น้องชายของท่าน!!”
“ตกลง เจ้าไม่ใช่น้องชายของข้า โลกิ”
ธอร์เอ่ยเสียงเย็นยะเยือกซ้ำอีกครั้ง ดวงตาคู่คมที่จับจ้องมอง ‘อดีต’ น้องชาย มันช่างเต็มไปด้วยความมาดร้ายเหลือที่จะกล่าว
“แต่ว่า..ข้าเป็นคนที่แยกแยะความสัมพันธ์ชัดเจน ถ้าเจ้าคือน้องชายของข้า..การที่เจ้าขึ้นมาอยู่บนเตียงของข้า ก็แปลว่าเจ้าเหงาเลยอยากหาคนนอนเป็นเพื่อน แล้วข้าก็จะนอนข้างๆเป็นเพื่อน คอยกล่อมเจ้าจนกว่าเจ้าจะหลับ แต่น่าเสียดายที่เจ้าบอกเองว่าเจ้าไม่ใช่น้องของข้า...”
ราวกับจะรู้คิว ให้แม้แต่หุ่นยนต์จั๊กจี๋ก็ยังยอมชะงักมือชั่วคราวเพื่อเปิดโอกาสให้โลกิได้ตะลึงมองผู้เป็นพี่ชายอย่างเต็มที่ มันเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มผู้ชอบสวมเขาเป็นงานอดิเรกกำลังพยายามไล่เรียงความคิดตามผู้เป็นพี่ชายให้ทัน..
แต่สำหรับครั้งนี้คงจะทันยากอยู่หรอกนะ....
“เดิมทีผู้ที่ขึ้นมาอยู่บนเตียงของข้าได้มีอยู่แค่ 2 ประเภทเท่านั้น หนึ่งคือน้องชายสุดที่รักของข้า หรือไม่ก็คือ คู่นอนของข้า แต่ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่น้องชายของข้า ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเจ้าคือคู่นอนของข้า..”
ร่างแกร่งค่อยๆขยับกายเข้ามาทีละนิดๆ เคลื่อนกายเข้ามาใกล้จนร่างท่อนล่างของทั้งคู่บดเบียดกันจนแนบสนิท ขณะที่ร่างกายส่วนบนนั้นก็แนบชิดกันด้วยแผ่นอก แนบชิดกันด้วยริมฝีปากที่ต่างรู้สึกได้ถึงกระไออุ่นของกันและกัน และด้วยลมหายใจที่แทบจะกลืนกินเป็นเนื้อเดียวกัน
“เจ้าคงรู้ใช่มั้ยว่าเมื่ออยู่บนเตียงของข้า คู่นอนของข้าจะต้องปรนนิบัติข้ายังไงบ้าง...”
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!
เปล่า...ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นจริงภายนอก แต่เป็นเสียงฟ้าที่ผ่าเปรี้ยงลงมากลางใจของโลกิ ผู้อยากจะกรี๊ดออกมาให้บ้านแตกเป็นครั้งแรก เมื่อจับใจความถึงสิ่งที่ธอร์ต้องการจะสื่อออกมาได้ในที่สุด
ไม่นะ..ข้าต้องเป็นฝ่ายกด!! ไม่เอาถูกกดเด็ดขาด..!!
อันว่าศักดิ์ศรี หรือความเริ่ดเชิดหยิ่งแค่ไหน ก็ยังมีอันต้องถูกกลืนลงท้องไปเมื่อเทียบกับความคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ โลกิไม่เหมือนธอร์ตรงที่ตัวเขานั้นเคยชินกับการได้สอดแทรกตัวตนเข้าไปในร่างกายของผู้ชายมามากต่อมาก หลายร้อยครั้งที่โลกิได้เห็นว่าอีกฝ่ายเจ็บปวดทรมานแค่ไหน หลายพันครั้งที่โลกิยิ่งกว่าจดจำได้ถึงความคับแน่นที่นำมาซึ่งความหฤหรรษ์ของตน แต่กลับนำมาซึ่งความเจ็บปวดอย่างเหลือล้นของฝ่ายรับ เพราะฉะนั้น...จะชั่วดียังไงเขาก็ไม่ขอยอมถูกกดเด็ดขาด!!
“ทะ..ธอร์...”
โลกิกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ในระยะที่ใกล้กันถึงขนาดนี้มันบีบบังคับให้เขาจำต้องมองลึกเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธคู่นั้น จำต้องมองลึกลงไปจนเห็นว่าภายใต้ความโกรธนั่นมันคือเปลวไฟแห่งความหิวกระหายแค่ไหน
“ขะ..ข้าเป็นน้องของพี่นะ ธอร์”
จบสิ้นกันกับศักดิ์ศรีทั้งปวง แต่โลกิก็ไม่รู้อีกแล้วว่าควรจะหาคำพูดใดๆออกมาเพื่อจะหยุดยั้งอีกฝ่ายลงได้ เขามีแต่ต้องฝากความหวังไว้กับสายสัมพันธ์จอมปลอมนี้ สายสัมพันธ์ที่เขาเองเป็นผู้ปฏิเสธตลอดมา แต่กลับเป็นฝ่ายจำต้องยอมรับออกมาเองในเวลานี้
ธอร์หลับตาลงราวกับจะซึมซับถึงความไพเราะของถ้อยคำที่เลิกซึนของผู้เป็นน้องชาย เขานิ่งเงียบอยู่เป็นนาทีเพื่อจะซึมซับถึงความงดงามของคำว่าพี่น้อง คำๆนี้..ที่หากว่าเป็นก่อนหน้านี้สัก 2-3 ชั่วโมงก่อนแล้วล่ะก็..โลกิก็คงจะรอดตัวไปแล้ว!!
“ครั้งก่อนหน้านี้ที่ข้าถูกพระบิดาลงโทษให้ลงไปอยู่ที่โลกมนุษย์ เจนได้ให้ข้ายืมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง”
ธอร์พูดออกไปแทบจะเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ หรือบางทีมันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกันอย่างที่แทบจะไม่มีทางแยกออกก็เป็นได้
“มันเป็นฟิค Y ที่มีตัวแสดงนำเป็นฝาแฝดชายคู่หนึ่ง ตอนอ่านหนังสือเล่มนั้นข้าประทับใจกับประโยคที่พี่ชายฝาแฝดพูดกับน้องชายของตัวเองมาก แต่ก็ไม่นึกเลยว่าข้าจะมีโอกาสได้พูดมันออกมาด้วยเหมือนกัน”
ธอร์เหยียดยิ้มเย็น เมื่อสองมือแตะต้องลงบนริมฝีปากสั่นระริกของผู้เป็นน้องชาย ความหวาดกลัว..ความไม่แน่ใจ..ความหวั่นระแวง ทุกสิ่งทุกอย่างที่สัมผัสได้จากกายของคนที่อยู่ใต้ร่างคนนี้ มันนำมาซึ่งคำพูดด้วยเสียงห้าวทุ้มที่นุ่มนวลที่สุดของเทพเจ้าสายฟ้าแห่งแอสการ์ด
“ข้าเป็นพี่ชายของเจ้า..แล้วข้าก็กำลังจะเป็นผู้ชายของเจ้าด้วย เบบี๋!!”
- - - - TBC. - - - -
ความคิดเห็น