ตอนที่ 9 : [Re] ตอนที่ 8 เริ่มการสอนวันที่ 2 !!!!
บทที่ 1 ดันเจี้ยนมาสเตอร์&ซัมมอนเนอร์
ตอนที่ 8 เริ่มการสอนวันที่ 2 !!!!
เช้าวันที่สองกับการสอนกลุ่มพ่อครัวแม่ครัวในร้านชาบู-ปิ้งย่าง วันนี้เป็นอาหารทานเล่นทั้งหลายแหล่รวมถึงเมนูขนมหวาน จากประสบการณ์ในอดีต ในร้านปิ้งย่างน่ะหาพวกขนมหวานปิดท้ายไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่
บางร้านมีแค่ผลไม้กับไอศกรีมธรรมดาๆ ...
อัพเกรดหน่อยก็แพนเค้กทำมือ
ส่วนร้านอาหารหรูที่เคยเห็นในเว็บ MYTUBE ก็ไอศกรีมที่หรูขึ้นมาหน่อย
เพราะงั้นร้านชาบู-ปิ้งย่างในอุดมคติของฉันต้องมีให้เลือกหลากหลายยิ่งกว่า!! แต่ถึงจะมีก็ห้ามเยอะเกิน อย่างมากกำหนดให้มีแค่ห้าอย่างเป็นพอ!!
เมื่อตื่นก็รีบอาบน้ำจัดเตรียมร่างกายวาร์ปมาชั้นสามโดยไว หวังจะมากินเอาอิ่ม— เอ๊ย! สอนให้ทุกคนทำได้อย่างไวๆ
นอกจากสอนแล้วยังนำพวกอุปกรณ์ที่สั่งให้ประดิษฐ์เพื่อความสะดวกสบายแก่ทุกคนมาทดลอง
“วันนี้ที่จะสอนคืออาหารทานเล่นหรือเมนูที่ต้องสั่งเพิ่มกับพวกขนมหวาน ทุกคนพร้อมมั้ย!!?”
“ครับ/ค่ะ!!!”
หันไปมองโชเอย์กับอสูรอัญมณีทั้งสิบเตรียมพร้อมสำหรับการสอนเรียบร้อยก็เริ่มได้
เมนูแรกจัดไปกับ [ข้าวหน้าเนื้อลาวา] และไม่ใช่ข้าวหน้าเนื้อแบบธรรมดา แต่เป็นเนื้อคัดพิเศษที่เสริมด้วยชีสเยิ้มๆ กับไข่แดงของครอกกาไทรส์!!
ซาวข้าวให้เรียบร้อย น้ำซุปจากปลาโอพันสาหร่ายและไม่ลืมที่จะใส่ข้าวเหนียวลงไปหนึ่งถ้วยเล็ก วิธีนี้มาจากการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ฉันเคยชอบ มันจะทำให้ข้าวสวยอวบอิ่มและเคี้ยวสนุกยิ่งขึ้น
อา... แค่คิดก็อยากจะทำข้าวคลุกไข่ราดซอสทานซะตรงนั้น
ส่วนอีกหม้อให้ทำข้าวสำหรับซูชิไว้ก่อน ซาวข้าว เติมน้ำลงไปและเกลี่ยข้าวให้เสมอกันก่อนนำไปหุง
หยิบเนื้อขึ้นมา โรยพริกไทยบดกับเกลือ ทาให้ทั่วทั้งตัวเนื้อก่อนนำไปย่างในกระทะร้อนๆ กับน้ำซอสสูตรพิเศษของผลกิวด้ง
[ผลกิวซอส] เป็นผลขนาดประมาณส้มโอ ผิวนิ่มคล้ายชิลซอส แต่ตัวผลจะมีสีน้ำตาล ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยประหยัดเวลาในการทำอาหาร ส่วนผสมของมันคือซุปจากปลาโอแห้ง โชยุ มิริน น้ำตาลทรายแดง ขิงบดและกระเทียมบด
และจากการทำเป็นผลแบบนี้แทนที่จะส่งผลเสีย
มันกลับให้รสชาติของน้ำซอสกลมกล่อมขึ้น!
ระหว่างนั้นก็ปรุงของสำหรับทำข้าวซูชิ เทน้ำส้มสายชูลงในถ้วย เกลือ น้ำตาลและคนเล็กน้อย ก่อนนำเข้าที่อบเพื่อให้มันละลาย
ที่อบจากแร่เพลิงถ้าให้เปรียบก็เหมือนไมโครเวฟของโลกนั้น
หยิบที่คีบอาหารพลิกเนื้อไปมาจนน้ำซอสเข้าถึงตัวเนื้อ ย่างให้แค่ด้านนอกสุกก่อนนำมาแล่ชิ้นหนา เนื้อระดับมีเดียมแรร์ที่ภายนอกสีน้ำตาลแต่ภายในยังสีแดง
ตักข้าวใส่ชามจนพูน นำเนื้อที่แล่มาวางเรียงให้สวยงามรอบตัวข้าว ก่อนนำชีสมอสซาเรลลาวางตรงกลาง
ความร้อนของตัวข้าวกับเนื้อทำให้ชีสละลาย
ปิดท้ายด้วยการนำไข่แดงวางตรงกลางเป็นอันเรียบร้อย..!
“เมนูแรกข้าวหน้าเนื้อลาวาเสร็จแล้วค่ะ เริ่มทำกันได้เลย!”
“ครับ/ค่ะ!!!”
ให้สัญญาณเป็นอันเรียบร้อยก่อนจะเข้าไปช่วยโชเอย์กับพวกอสูรอัญมณีทำ ภาพที่เห็นค่อนข้างน่ารักสุดๆ เลยล่ะ โชเอย์จัดการข้าว เการ์จัดการเนื้อ เทมเพสต์ช่วยหั่นเนื้อ เซโลช่วยจัดการเครื่องปรุง เนลช่วยให้ความร้อนตอนทอด ฟลอช่วยแยกไข่แดงกับไข่ขาว ส่วนที่เหลือช่วยขนอุปกรณ์กับเตรียมน้ำซอส
เป็นทีมที่น่ารักซะไม่มี~
ก็เข้าไปช่วยแนะนำให้จนเสร็จ
สาเหตุที่เลือกทำข้าวก็เพราะจะได้เป็นมื้อเช้านี่ล่ะนะ
เอาล่ะ ถึงเวลากิ— เอ๊ย! ชิม!!
ใช้ตะเกียบเจาะไข่แดงจนไหลเยิ้มไปตามชีสและเนื้อชิ้นหนา คีบเนื้อหนึ่งชิ้นที่ชุ่มไปด้วยชีสกับไข่แดงหอมกรุ่นเข้าปากคำใหญ่!
“ฟู่ๆ —”
ความร้อนทำเอาเกือบปากพอง แต่รสหวานของเมล็ดข้าวที่เหนียวหนึบกำลังดี ยิ่งเคี้ยวความหวานของข้าวก็ยิ่งออกมา ประสานกับรสของเนื้อที่ชุ่มฉ่ำกำลังดี รสของพริกไทยที่เผ็ดซาบซ่าน น้ำซอสที่เข้มข้น ตัวชีสที่ไม่เลี่ยนจนเกินไปกับไข่แดงที่ทำให้ละมุนลิ้นยิ่งขึ้น
อื้ม~ อร่อย!!! แสดงความสุขของการกินผ่านสีหน้าอย่างชัดเจน อร่อย... อร่อยสุดยอด นี่เป็นข้าวหน้าเนื้อที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลย!!
พวกพ่อครัวแม่ครัวเองที่ทำเสร็จก็เริ่มชิมเช่นกัน ท่าทางตอนกินเองก็มีความสุข ดูอิ่มเอมกับข้าวหน้าเนื้อลาวา
โอเค เมนูนี้ผ่าน!!
และอาหารที่จะทำต่อมาก็คือ [ซูชิ] กับ [เทมปุระ]
เริ่มจากทำซูชิก่อนละกัน และแน่นอนว่า...
ฉัน-ทำ-ซู-ชิ-ไม่-เป็น—!!!!!
จึงไม่สามารถสอนเรื่องการปั้นได้ จำต้องมีตัวช่วย
หยิบของบางอย่างมาจากช่องเก็บของต่างมิติ มันก็คือแม่พิมพ์น้ำแข็งแบบสี่เหลี่ยม
หันไปจัดการกับข้าวซูชิ ใช้ทัพพีคนข้าวขึ้นให้ข้าวมันร่วนซุยก่อนเทใส่อ่างไม้กว้างสำหรับทำซูชิ เอาผ้าขาวบางปิดราวๆ สิบนาที
พอครบก็ค่อยๆ ใช้ทัพพีคลี่ข้าว โดยต้องใช้พัดลมเป่า แต่ในโลกนี้ไม่มีพัดลมไฟฟ้าก็ต้องหวังพึ่งอุปกรณ์เวทมนตร์คล้ายพัดลมที่สั่งทำมาช่วยเป่าข้าว
สุดท้ายคือนำน้ำส้มสายชูที่ปรุงไว้ค่อยๆ ตักใส่ทีละสามช้อนโต๊ะ ใช้ทัพพีคลุกให้ทั่ว ก่อนตักน้ำราดอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ คลุกเคล้าทั่วทุกอณูข้าว จนน้ำราดหมดและพักไว้ก่อน
ต่อมาคือใช้เมือกสไลม์อบแห้งจนคล้ายพลาสติกมาปูรองไว้ก่อน
หั่นแซลมอน ทูน่า ไข่หวาน และแตงกวาให้พอดีคำ ต้มกุ้งให้สุก เตรียมอิคุระหรือไข่ปลาแซลมอนรอ เมื่อวัตถุดิบครบก็นำใส่แยกทีละช่องจนครบทุกช่อง ช่องอิคุระก็ใส่สาหร่ายเพิ่ม
ปิดท้ายด้วยข้าวซูชิ เติมให้เต็มช่องเกลี่ยให้ทั่วทั้งแม่พิมพ์ก่อนนำไปแช่ตู้เย็นราวสิบนาที
ครบแล้วก็หยิบออกมา วางจานลงแล้วพลิกให้ซูชิลงอยู่บนจาน
หยิบพลาสติกสไลม์ออก ตัดแบ่งแยกให้เป็นคำๆ คีบสาหร่ายวางบนไข่หวาน ตกแต่งให้ดูน่าทาน
ขูดวาซาบิปั้นเป็นรูปใบไม้ ส่วนซอสก็แค่โชยุที่ทำเป็นผลไม้ลูกเล็กขนาดเท่าส้ม
“ตรงจุดนี้จะสอนทำแบบรวมนะคะ แต่เวลาทำงานขอให้ทุกคนทำเป็นเซตเดียวกันเพื่อสะดวกต่อการเติม อย่างทำซูชิแซลมอนก็ทำแค่แซลมอนนะคะ”
พ่อครัวแม่ครัวต่างก็ก้มหน้าก้มตาจดบันทึกกันอย่างขะมักเขม้น
ในฐานะอาจารย์แบบขี้เกียจ (?) ดิฉันภูมิใจมากค่ะ!
ต่อมาก็ของทอด แน่นอน... ต้อง [เทมปุระ] อยู่แล้ว!!!
เตรียมกุ้งเอาไว้ก่อน ล้างกุ้งให้สะอาด เด็ดหัวออก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก หงายท้องกุ้งแล้วบั้งกุ้งเป็นแนวตามแนวขวาง
ก็เพื่อให้กุ้งเหยียดตรงระหว่างทอดล่ะนะ
ตอกไข่แยกไข่แดงไปผสมกับน้ำเย็น ตีเข้าให้กัน นำแป้งเทมปุระใส่ระหว่างตีผสม
ตั้งกระทะเติมน้ำมันให้ท่วม ใช้มือสะบัดแป้งที่ผสมไว้ลงไปในน้ำมันท่วมๆ
ระหว่างนั้นก็นำกุ้งคลุกแป้งแบบแห้งให้ทั่ว
จุ่มแป้งแบบผสมน้ำเย็น
วางกุ้งลงในกระทะโดยต้องให้มันหงายท้อง ใช้ตะเกียบพลิกตัวกุ้งบนแผ่นแป้งกรอบไปมาจนเป็นสีเหลืองทอง และนำมาพักสะเด็ดน้ำมัน
ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนครบทุกตัว ทั้งฟักทอง หอมใหญ่ หอยเชลล์และปลาคิสุ ถ้าเหลือก็นำมารวมแล้วทอดเป็นคาคิอาเกะ
นำมาจัดวางเรียงกันให้สวยงาม
เสิร์ฟด้วยหัวไชเท้าขูดและ [ผลเทมซอส] หรือก็คือน้ำจิ้มเทมปุระที่สกัดมาจากโชยุ มิริน ปลาโอแห้ง น้ำตาล ขิงบดและไชเท้าบด
ซอสอีกตัวที่ภูมิใจนำเสนอก็คือทาร์ทาร์ซอส และแน่นอนว่าต้องเป็นผลซอสเหมือนเคยหรือก็คือ [ผลทาร์ทาร์] ที่เกิดจากมายองเนส หัวหอม พริกไทยดำ พาร์สลีย์และผักดอง!!
“เอาล่ะค่ะทุกคน ที่จะสอนวันนี้มีแค่นี้ก่อน เนื่องจากเมนูอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างพัฒนา ทุกคนเริ่มทำได้เลยค่ะ!!”
ตัวเทมปุระก็กรอบได้ที่ เนื้อกุ้ง หอยเชลล์ตัวใหญ่แน่นเด้งสู้ฟัน ยิ่งกัดยิ่งรับรู้ถึงความสด หางกุ้งเองก็กรอบกำลังดี ผักยังคงความหวาน ปลาคิสุเองก็ทานง่ายแถมยังนุ่มกำลังพอดี
กุ้งกับซอสเทมปุระ อา... ความเค็มบวกกับความสดชื่นของผลไม้เข้ากันได้อย่างลงตัว ในขณะที่ทาร์ทาร์ซอสเองก็เข้มข้นไม่เลี่ยนจนเกินไป ความเปรี้ยวอ่อนๆ ยิ่งทำให้รสกุ้งเด่นชัดขึ้น
สำหรับคนชอบกินกุ้งอย่างฉัน...ที่นี่มันสวรรค์จริงๆ!!
ต่อมาก็ซูชิ คีบเข้าปากในขนาดพอดีคำ ตัวข้าวซูชิที่คิดว่าเปรี้ยวกลับกำลังดี แซลมอนกับทูน่าเองก็สด หวาน ไม่มีรสคาว อิคุระเองก็แตกเป๊าะแป๊ะในปากรสชาติออกเค็มเล็กน้อย กุ้งต้มตัวอวบเด้งสู้ฟัน
ยิ่งจิ้มกับโชยุและปาดวาซาบิลงไปก่อนเข้าปากด้วยแล้ว...
“อื้ม—!!!”
วาซาบิสดๆ กลิ่นฉุนๆ ที่แค่กินเล็กน้อยก็เผ็ดจี๊ดขึ้นจมูกจนทำเอาน้ำตาคลอนี่แหละใช่เลย!!
รสชาติที่แสนคิดถึงนี้!!
“เอ้อใช่! ทุกคนคะ วาซาบิที่เราทำนี่คือวาซาบิสด มันมีกลิ่นฉุนและเผ็ดมากๆ! เพราะงั้นเวลาทดลองชิมให้ชิมแค่นิดเดียวก่อนนะคะ!!”
รีบเตือนก่อนจะมีคนกิน— อ่า ไม่ทันละ เสียงร้องโวยวายของทุกคนจากความเผ็ดของวาซาบิหลังจากกินเข้าไปแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
โชเอย์กับพวกอสูรอัญมณีเองก็ไม่รอดจากฤทธิ์วาซาบิเช่นกัน
ไม่สิ ยกเว้นเนลที่ชอบรสเผ็ดแบบนี้ ดันลืมไปสนิทเลยว่าโลกนี้ไม่มีของอย่างวาซาบิมาก่อน
ขอโทษนะทุกคนที่ลืมเตือน กินเพลินไปหน่อย แหะๆ ....
“ไหวมั้ยโชเอย์ ทุกคน?”
“ผม ไหว เผ็ดแต่อร่อย”
โชเอย์เริ่มยิ้มมากขึ้น แถมเสียงก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว อืม ถือเป็นสัญญาณที่ดีล่ะนะ!
‘พวกเราพอไหวครับมาสเตอร์’
“....เก่งมากทุกคน”
อดไม่ได้ที่จะลูบหัว เลยสอนวิธีรับมือกับเจ้าวาซาบิที่ฉันทำบ่อยๆ ด้วยการบีบจมูกหายใจเข้าออกทางปาก ก็ช่วยได้เยอะแล้ว
ระหว่างให้ทุกคนชิมอาหารที่ตนทานก็ไปจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับเมนูทานเล่นอย่างอื่น
เมนูปิดท้ายของวันนี้คือ [ซุปเห็ดทรัฟเฟิล] !!
สาเหตุที่วันนี้มีสอนแค่นี้เนื่องจากอย่างอื่นกำลังอยู่ในช่วงทดลอง อีกอย่างคงต้องปล่อยให้ฝึกการย่างกันต่อ เพราะบางคนก็ย่างไหม้บ้างก็ย่างจนสุกเกิน
หั่นหอมใหญ่ กระเทียม และเห็ดทรัฟเฟิล
วางหม้อพิเศษลงบนตัวลงบนเตา ใส่เนยลงไปตามด้วยหอมใหญ่ ผัดให้เข้ากัน เติมเห็ดทรัฟเฟิลลงไป ผัดจนเป็นสีออกน้ำตาล เติมเกลือและพริกไทย
อื้ม กลิ่นหอมดีจริงๆ ~
เทน้ำสต๊อกจากเนื้อครอกกาไทรส์ รอจนน้ำเดือดเล็กน้อย
ครั้นจะยกใส่เครื่องปั่นอีกก็ขี้เกียจ เลยสั่งทำหม้อเฉพาะสำหรับทำซุปเห็ดโดยการจะปั่นอาหารเมื่อใด ให้ปิดฝาก่อนนำแร่มรกตอันเล็กใส่จุกของฝาปิด มันจะปล่อยพายุหมุนลงในหม้อ ช่วยปั่นวัตถุดิบทั้งหมดจนเข้ากัน สะดวกสุดอะไรสุดเลยน๊า~
พอปั่นเสร็จก็เติมครีมลงไป ตักชิมเล็กน้อยก่อนเติมเกลือกับพริกไทยเพิ่ม
คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวซุปเนื้อเนียนสีน้ำตาลอ่อนน่าทาน ก่อนขูดเห็ดทรัฟเฟิลดำโรยหน้าเป็นอันเสร็จพิธี!
“เอาล่ะค่ะ เมนูสุดท้ายของวันนี้ เริ่มทำได้!”
แน่นอนว่าระหว่างทุกคนทำ ฉันก็ชิม~ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่ก่อนชิมต้องเดินไปดูพวกโชเอย์ด้วยล่ะนะ
พอเห็นว่าไม่มีปัญหาก็กลับมานั่งชิมซุป... เนื้อนวลกำลังดี รสของเห็ดไม่ได้หายไปไหนแถมไม่ได้เลี่ยนจนเกินไป เรียกได้ว่าเข้มข้นกำลังดีเลยล่ะ ไม่เลว...
สูตรจากในเว็บ MYTUBE ช่วยฉันไว้หลายอย่าง
หนูขอกราบขอบพระคุณท่านที่สร้างเว็บรวบรวมคลิปวิดีโอนี้ขึ้นจากใจจริงเลยค่ะ—!!
หลังจากนั้นก็ใช้เวลาในช่วงบ่ายในการไปเดินตรวจตราในส่วนห้องปฏิบัติการหรือห้องแล็บสำหรับทดลองการปรุงวัตถุดิบต่างๆ
“นายท่าน พวกเราทดลองสำเร็จแล้วค่ะ!! ”
ผู้เป็นหัวหน้าดูแลเรื่องการทดลองก็คือโอลเกอร์ฝาแฝดสาว คิมิกะ (พี่สาว) และคิริกะ (น้องสาว) พูดประสานเสียง
ทั้งสองผายมือไปทางเจ้าดอกทิวลิปดอกโตใบสีน้ำตาลแต่ตัวดอกของมันใสเหมือนแก้วจนเห็นภายในที่บรรจุน้ำอยู่
“ของจริงเหรอเนี่ย...”
“แน่นอนสิคะ!! พวกเราลองดื่มดูแล้ว เหมือนกับเจ้าโคล่าที่นายท่านเอามาให้เลยค่ะ!!” คิมิกะตอบ
“มั่นใจเต็มร้อยให้ล้านเลย!!” คิริกะช่วยเสริม
ใช่แล้ว เจ้าดอกทิวลิปนั่นบรรจุน้ำโคล่าอยู่ภายในไงล่ะ!!
สองแฝดโอลเกอร์มีความสามารถในการทดลองต่างๆ เนื่องด้วยสายเลือดในอดีตบรรพบุรุษเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุชอบทดลองอะไรไปเรื่อย
ไว้มีโอกาสจะหาลูกน้องมาให้เพิ่มนะ เพราะคนอื่นก็ไม่ค่อยมีใครชอบทดลองหรือประดิษฐ์อะไรพวกนี้นอกจากเธอซะด้วย
พวกเธอมีผมและดวงตาสีดำเกือบแยกไม่ออกในตอนแรกเพราะไว้ผมหน้าม้าแถมตัดผมบ๊อบทั้งคู่ เขาคู่สีดำ ทั้งลักษณะการสวมชุดกาวน์และท่าทางคล้ายกันจนเกินไป
จนมาสังเกตได้ว่าคนพี่มีปานรูปหัวใจใต้ตาซ้าย ส่วนคนน้องมีปานอยู่ใต้ตาขวา
นี่คืออีกสาเหตุที่ผลผลิตส่วนใหญ่เป็นดอกไม้หรือผลไม้เนื่องจากทั้งคู่เป็นหญิงสาวนั่นเอง
ตั้งแต่จัดตั้งห้องปฏิบัติการก็ให้พวกเธอได้ลองชิมอะไรหลายๆ อย่างเพื่อนำไปทดลองล่ะนะ แต่ที่ติดสุดก็คงไม่พ้นเจ้าพวกเครื่องดื่ม
“ดอกที่ตัวใบสีเขียวอ่อนคือน้ำเขียว สีน้ำตาลเข้มคือโคล่า สีน้ำตาลอ่อนคือชาค่ะ” คิมิกะอธิบาย
“ส่วนดอกที่ตัวใบสีขาวคือน้ำเปล่า สีแดงคือน้ำแดง สีส้มก็น้ำผลไม้รวมค่ะ” คิริกะช่วยเสริม
พอเห็นว่าพวกเครื่องดื่มได้ทดลองและชิมเป็นที่เรียบร้อยก็ค่อยโล่งใจหน่อย
อาหารเช็ก ของทานเล่นเช็ก เครื่องดื่มเช็ก
“จะว่าไป พวกของหวานล่ะ?”
“แน่นอนว่าสำเร็จแล้วเหมือนกันค่ะ~”
ประสานเสียงก่อนรีบวิ่งไปยกตะกร้าสาน ตะกร้าของคิมิกะบรรจุผลไม้หลากหลายชนิด ส่วนของคิริกะเป็นผลไม้สีรุ้ง ไอเย็นจากตัวผลไม้บ่งบอกว่ามันพึ่งถูกนำจากที่แช่เมื่อสักครู่
“ขอเสนอตัวอย่างที่หนึ่ง [ฟรุตไอซ์] ค่ะ วิธีกินก็ดึงจุกของมันออกแล้วทานได้เลย”
หยิบผลที่มีลักษณะคล้ายสตรอว์เบอร์รีขึ้นมา ดึงจุกมันออกและเอาใส่ปากทีเดียว!
ความนุ่มละมุนของไอศกรีมและความเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รีที่ทำให้หลงเสน่ห์ไม่ว่าจะทานกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ
ถ้ามีนมข้นหวานราดสักหน่อยคงได้ขึ้นสวรรค์เป็นแน่!!
“ต่อมาตัวอย่างที่สอง [เรนโบว์ไอซ์] ค่ะนายท่าน วิธีทานไม่มีอะไรมาก กัดง่ำๆ เลย!”
ท่าทางการอธิบายดูน่ารักสดใสสุดๆ เป็นใครก็คงหลงคำเชื่อ แน่นอนว่าฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น หยิบผลสีรุ้งขึ้นมากัดคำโตดัง กร๊วบ!!
“อื้ม~!!!!!”
อร่อยยยย!!!!! ผลสายรุ้งนี่ก็เป็นไอศกรีม! แต่มันไม่เหมือนไอศกรีมเรนโบว์ที่เคยทาน! มันเป็นรสของผลไม้แท้ๆ ทั้งสตรอว์เบอร์รี, เลมอน, องุ่น, กีวี, บลูเบอร์รีและมะม่วง ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างลงตัว ผลไม้บางชนิดไม่ได้เปรี้ยวเกินหรือเลี่ยนเกินไป
ที่สำคัญตัวผลไม้ไม่ได้ละลาย ง่ายต่อการถือกิน หรือจะวางตักชิมทีละนิดก็ได้ แบบนี้ก็ง่ายต่อการนำไปแปรรูปแบบอื่นเช่นกัน
อร่อยจนถึงขั้นกินหมดลูกภายในเวลาไม่นาน
“เป็นไงคะนายท่าน ผ่านมั้ยคะ!?”
“อื้ม! ผ่านจ้ะ! เต็มร้อยให้ล้านเลย!!”
“ไชโย~!!”
กระโดดโหยงเหยงดีใจทั้งคู่ เห็นแบบนั้นจึงถือโอกาสขอไปทานเล่นแล้วเอาไปแบ่งให้พวกอสูรอัญเชิญของตัวเองด้วย
เขาว่ากินคาวไม่กินหวานน่ะมันไม่ถูกต้อง!!
ตอนนี้คงไว้ใจร้านอาหารชาบู-ปิ้งย่างได้แล้ว
เบเกอรี่กับคาเฟ่ยังไม่เปิดเนื่องจากฉันยังอบขนมไหม้หมด...
ก็การทำขนมมันต้องตวงเป๊ะๆ ถ้าพลาดคือจบ ไม่ได้กะมั่วๆ ได้เหมือนอาหารที่ทำทั่วไป เฮ้อ— เราคงต้องกลับไปฝึกหนักเหมือนกัน
หยิบบันทึกออกมาจดอีกครั้ง ที่เหลือก็คือร้านอาหารแบบตามสั่งก่อนจะถึงเวลานัดทานข้าวโปรโมทดันเจี้ยนสินะ...
ยังพอได้! น่าจะทันแหละ!
ตบหน้าตัวเองเพี๊ยะๆ!! ก่อนไปหมกตัวอยู่ในห้องครัวอีกครั้ง
หล่อนเป็นดันเจี้ยนมาสเตอร์นะ หล่อนต้องทำให้ได้!!!
สู้ (โว้ย) ยัยสโนว์!!!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หิวค่ะ ฮือออออ
ดูแลตัวเองด้วยนะไรท์
นึกว่าจะไม่มาแล้ว
ขอบคุณมากค่ะ
สนุกมากเลยค่ะ