ตอนที่ 65 : 50 : ความหมายของโชคชะตา
เฮ!!!!!!! เสียงแสดงความยินดีในงานมงคลสมรสระหว่างราชาอาลีบาบาแห่งบัลแบดและหญิงสาวชาวเฟอร์นาลิส โมลเซียน่า ชุดดูทันสมัยมากขึ้นไม่ดูย้อนยุคมากเกินไป พวกโอลบะต่างก็ร่วมตะโกนแสดงความยินดีบ้างก็ร้องห่มร้องไห้ด้วยความยินดีกับราชาตนเองที่ในที่สุดก็สมหวังกับความรัก ตลอดงานโมลเซียน่าเกือบทำงานพังเนื่องจากเขินอายจัด หนักกว่าคือการที่พ่อเจ้าสาวต้องยืนเงียบห้ามก่อปัญหาอะไรทั้งสิ้นโดยมีพวกโอลบะช่วยห้ามเอาไว้อีกแรง
“ยินดีด้วยนะอาลีบาบาคุง คุณโมล” อาละดินที่ในตอนนี้โตมากขึ้น ส่วนสูงมากขึ้นจนดูคล้ายกับราชาโซโลมอน ถือไม้เท้าเวทย์มนตร์ที่เปลี่ยนไป กล่าวแสดงความยินดีกับเพื่อนสนิทของตนในฐานะเมไจของราชาอาลีบาบา
“อื้ม! ขอบคุณมากนะ!” กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จนตอนนี้ก็ยังหุบยิ้มไม่ได้
“ยินดีด้วยครับท่านอาลีบาบา ท่านโมลเซียน่า” เสียงคุ้นหูเรียกให้หันไปมอง จักรพรรดิฮาคุริวและพี่สาวฮาคุเอย์ที่ตอนนี้โตขึ้นมาก ทั้งหล่อและสวยเหมือนพ่อและแม่
“ขอบคุณค่ะ” โมลเซียน่ากล่าวขอบคุณ ก้มหน้าก้มตาซุกแขนอาลีบาบาด้วยความเขินอาย
“แหะๆ ...จะว่าไปพวกโคเอนไม่มาเหรอฮาคุริว?”
“ตอนนี้กำลังวุ่นวายกับการสร้างประเทศใหม่น่ะจ้ะ” คำตอบไม่ได้มาจากจักรพรรดิฮาคุริว แต่เป็นเสียงของหญิงสาวทำให้หลายคนต้องหันไปมอง ซึ่งก็คือเลย์ลาที่มาพร้อมกับโคฮา เฟอิซาและจาฟาร์ สีผมที่เคยเป็นสีน้ำตาลเข้มเริ่มกลายเป็นสีเงินปลายชมพูเหมือนครั้งอดีต “เพราะตอนนี้กำลังสร้างประเทศขึ้นมาใหม่เพื่อสนับสนุนจักรวรรดิโคว จึงยังเอาแต่อยู่ในห้องทำงานไม่ยอมออกมาเสียที เซลีนีกับมูกำลังมา ส่วนซินแบดให้จาฟาร์มาแทนน่ะจ้ะ”
“ยินดีด้วยนะครับอาลีบาบาคุง” จาฟาร์กล่าวแสดงความยินดี ตอนนี้อยู่ในชุดลำลองที่ทันสมัยมากขึ้น
“ถ้าทำโมลเซียน่าเสียใจแม่เอาตายแน่!” เฟอิซาหักนิ้วไปมา เป็นคำอวยพรเชิงขู่ ทั้งผมและการแต่งตัวสมหญิงมากขึ้นกว่าเดิม
“อย่างอาลีบาบาไม่กล้านอกใจโมลเซียน่าหรอก เดี๋ยวโดนกระทืบตาย” โคฮาหัวเราะร่า ตอนนี้ผมยาวขึ้นจนคล้ายผู้หญิงเข้าไปทุกที
บางครั้งหลายๆคนก็มองคู่รัก 2 คนนี้เป็นเพื่อนหญิงมากกว่าคนรัก...
“ฮะๆๆ นั่นสินะ...” แอบหัวเราะแห้งๆก่อนจะหุบยิ้มลงเล็กน้อย “นับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาหลายปีแล้วสินะครับ....”
“......นั่นสินะ...”
**************
ตูมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!! เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณจากการโจมตีด้วยมหาเวทย์ที่รุนแรงที่สุด ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณโดยรอบจนต้องหลับตาลงต่อต้านแรงปะทะจากกระแสลม
“สำเร็จไหม!!?” เฟอิซาที่ลอยอยู่ข้างโคฮาปัดฝุ่นคลุ้ง เพ่งสายตามองภายในฝุ่นควัน
“ขอให้สำเร็จด้วยเถอะ...” เหล่าภาชนะบริวารและทหารบนพื้นดินต่างพากันอธิษฐานให้สงครามนี้จบลงเสียทีเพื่อไม่ให้มีการนองเลือดไปมากกว่านี้
ทุกสิ่งทุกอย่างจะได้จบลงเสียที...
แกร๊ง...!! เวลาผ่านไปนาน ควันเริ่มจางลงไร้ซึ่งร่างของเดวิดมีเพียงไม้เท้าเวทย์มนตร์ที่ตกลงมาบนพื้นท่ามกลางความตื่นตะลึง เช่นเดียวกับ วิ้งค์... รูปดาวห้าแฉกกลับหัวปรากฏขึ้นอยู่ข้างร่างกายของเบฮีร่าที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ร่างของเลย์ลาก้าวออกมาจากวงแหวนนั้นพร้อมกับไม้เท้าเวทย์มนตร์ของราชินีชีบะ...
“นายท่าน!!” เซลีนีสลายร่างภูษาเวทย์ลอยลงวิ่งไปหาราชาของตน “หญิงคนนั้นล่ะคะ...”
เลย์ลาหันไปมองคนรับใช้คนสนิท นิ่งเงียบจนน่าใจหาย
.
.
.
.
.
ไม่นานนักก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า “สงครามจบลงแล้ว”
“สงครามหมดแล้ว...” เหล่าเฟอร์นาลิสที่อยู่ล้อมรอบเอ่ยขึ้น
“ทุกอย่างจบแล้ว....”
“สงคราม....จบแล้ว!!!!!!!!!!!!!”
ผู้ร่วมสงครามต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ในที่สุดสงครามที่ยาวนานก็จบลง รับรู้ได้ถึงสัญญาณแห่งความสงบสุขของอนาคตกำลังมาเยือนพวกตน อาลีบาบาเองใช้มะโก่ยเกือบหมดในร่างจนอ่อนแรง ร่างภูษาเวทย์สลายจนเกือบลอยตกลงมากระแทกพื้น โชคยังดีที่อาละดินช่วยรับร่างเอาไว้และพาลงมา พวกนักรบจินต่างก็ลอยลงมายังพื้นล่างด้วยความอ่อนแรงจนเหล่าผู้ติดตามเข้าไปช่วยดูแล
“คุณอาลีบาบา!” โมลเซียน่ารีบวิ่งเข้าไปพยุงอีกฝ่ายขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“เหนื่อยชะมัดเลย” แม้จะพูดแบบนั้นก็ยังคงยิ้ม
อาละดินขำเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบไปเห็นเลย์ลา... “พี่สาว.... พี่ฮัลวาเป็นยังไงบ้างฮะ?”
เลย์ลาหันไปมองอาละดิน “ไม่เป็นไร... เด็กคนนี้ยังไม่ตายหรอก” หันไปมองซินแบดที่สีหน้าไม่สู้ดีนัก “....นี่เป็นตัดสินใจของฮัลวา เพราะงั้นไม่ต้องเครียดหรอกราชาซินแบด”
“ข้า....” ราชาแห่งเจ็ดคาบสมุทรพูดไม่ออก คำพูดที่ตั้งใจจะพูดกลับติดอยู่ที่คอ รับรู้ได้ถึงสายตาของผู้คนจ้องมองมาอย่างจงเกลียดจงชังในการกระทำของเขา นี่คงเป็นจุดจบของการหลงผิดอย่างแท้จริง
คงไม่มีใครต้องการอยู่ข้างกายเขาอีก ไม่ว่าจะเป็นพวกจาฟาร์หรือฮัลวาก็ตาม...
แต่นั่นไม่จริงเลย...
“ราชา!!” พวก 8 ขุนพลคนอื่นๆรีบวิ่งมาหาราชาของตน พวกพันธมิตร 7 คาบสมุทรเองก็ต่างตามมารายล้อม
“สภาพดูไม่ได้เลยนะซินแบด แย่มากๆ” ราเมโตโตแห่งอิมูซัค
“แต่ปลอดภัยแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะนะ” ราชินีมิร่ายืนกอดอกมอง
“ค่อยยังชั่วที่ราชาไม่เป็นอะไรจริงๆนะคะ ดีใจมากๆเลย...” ยามูไรฮะกับพิสตี้เริ่มสะอึกสะอื้นจนต้องให้ชาร์รูคันกับสปาร์โทสปลอบ
“พวกท่าน ทำไม...?” มองด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งที่ตนทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น แต่ทุกคนกลับ...
“จำไม่ได้เหรอครับซืน” จาฟาร์ยิ้ม
“พวกเราสาบานว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นท่านคือราชาที่พวกเรานับถือ และจะติดตามไปตลอดชีวิต....” มัสรูลกล่าว
ซินแบดยืนก้มหน้านิ่ง อดคิดไม่ได้เพราะเหตุใดทำไมถึงไปยอมให้เดวิดสิง? ทำไมไม่ถึงนึกถึงคนรอบข่างตนแบบนี้ “....ขอโทษ.......ขอบคุณ...”
ท่ามกลางความดีใจและการปรับความเข้าใจกันระหว่างราชาแห่ง 7 คาบสมุทรกับเหล่าผู้ติดตาม สีหน้าของอาละดินดูไม่ยินดีเหมือนในตอนแรก เด็กชายเดินไปหาเลย์ลา “.....พี่สาว...เดวิดตายแล้วจริงๆเหรอฮะ...?”
“....ไม่ตายหรอก... แค่โดนปิดผนึกเท่านั้น” เลือกที่จะตอบความจริง มองไม้เท้าเวทย์มนตร์ของราชินีชีบะในมือ
เด็กน้อยเดวิดในวัยเยาว์ที่ตนเคยพบเมื่อครั้งยังเป็นลูซิเฟอร์นั้นไม่มีอีกต่อไป การรู้จักกันซึ่งเป็นความลับที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนแม้จะเป็นคนสนิทของตน เพราะคาดหวังและใกล้ชิดกับพระเจ้ามากเกินไปจนต้องพบจุดจบ
หากใช้ความสามารถและความรู้ที่ศึกษามาในทางที่ถูกทุกอย่างจะดีกว่านี้
“.....ขอให้หลับอย่างสบาย...เด็กน้อยเอ๋ย..”
แม้ปากจะบอกว่าปรารถนาให้โลกพบความสงบสุข
ทว่าส่วนลึกในใจกลับปรารถนาจะทำลาย
“แล้วอัลบะล่ะฮะ...”
“...จิตวิญญาณของนางข้าชำระล้างไปหมดแล้ว นางคงไม่สามารถมาลบกวนพวกเจ้าได้ แต่เดวิดมันต่างกัน ถึงยังไงชายคนนั้นก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าไปแล้ว การกำจัดจึงไม่ใช่ง่ายๆ...”
“....หมายความว่าในอนาคตเราต้องสู้กับเขาอีกเหรอครับ..”
“ไม่หรอกราชาอาลีบาบา แม้เดวิดจะสลายหายไป ทว่าเขาได้ทิ้งเจตจำนงแห่งความสิ้นหวังให้ยังอยู่บนโลกใบนี้ และถึงแม้ว่าเราจะกำจัดสิ่งนั้นไปแล้วก็ตามที่ ข้าเชื่อว่าสุดท้ายความมืดเหล่านั้นก็ต้องกลับมาอีกครั้งเมื่อผู้คนตกอยู่ในความสิ้นหวังและปรารถนาจะแก้แค้น...” เดินไปหาเหล่าเมไจ ยื่นไม้เท้าของราชินีชีบะไปข้างหน้า “แต่บัดนี้ถึงเวลาพวกเราปลดปล่อยผู้คนจากการเล่นสนุกของเดวิดแล้วล่ะเหล่าเมไจทั้ง 4 เอ๋ย...”
เมไจทั้ง 3 และบุตรแห่งโซโลมอนต่างก้าวออกมาข้างหน้า ยื่นมือมาจับไม้เท้าเวทย์มนตร์ของราชินีชีบะทีละคน จูดัลยืนเงียบอยู่สักพักใหญ่สุดท้ายก็ยอมยกมือมาจับไม้เท้าเวทย์
“ข้ายอมทำตามที่เจ้าบอกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะเฟ้ย!”
“จ้าๆ”
เลย์ลาตอบส่งๆไป แต่คนอื่นๆกลั้นขำเล็กน้อยกับความซึนของจูดัล เหล่าลูฟสีขาวรวมตัวกันอยู่เหนือไม้เท้าเวทย์เปล่งแสงประกายส่องสว่างไปทั่วบริเวณ เหล่าลูฟดำผู้ถูกเดวิดเล่นสนุกด้วยเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวและแสดงร่างมนุษย์ให้เห็น บ้างก็เป็นเพื่อนสนิท บ้างก็เป็นครอบครัวของหลายๆคน บ้างก็หายตัวมุ่งไปหาคนสำคัญที่อยู่อีกสถานที่หนึ่ง
‘ซินแบด...’ เสียงที่ดูคุ้นเคยจนทำให้เจ้าของชื่อต้องหันไปมอง ดวงตาสีม่วงเบิกกว้างเมื่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบาร์ดและอิสลาร์... พ่อและแม่ของเขาเอง
“พ่อ... แม่...” น้ำตาที่เหือดแห้งไปเมื่อครู่เอ่อคลอขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
‘มาเซน...โมลเซียน่า...’ ร่างของหญิงสาวชาวเฟอร์นาลิสหน้าตาสละสลวย ผมปล่อยยาวมีมัดข้างเดียวคล้ายโมลเซียน่าปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าทั้งคู่ ‘ในที่สุด...เราก็ได้พบกัน’
“ไมร่า...” มาเซนเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้าช้าๆ อยากสัมผัสแต่ก็ไม่สามารถทำได้
“โมลเซียน่า หรือว่าผู้หญิงคนนั้นจะ...” อาลีบาบามองมีร่าสลับกับโมลเซียน่า
เด็กสาวเฟอร์นาลิสพยักหน้าช้าๆ “แม่...คะ” ในที่สุดเธอก็ได้พบแม่ที่แท้จริง คนที่อยากพบมาตลอดทั้งชีวิต
ไม่ใช่แค่ซินแบดหรือโมลเซียน่าที่ได้พบครอบครัว ทุกคนต่างก็ได้พบคนสำคัญของตนเองทั้งสิ้น ฮินะโฮโฮได้พบกับภรรยาที่ตายไป จาฟาร์ได้พบหน้าพ่อแม่ที่ตนได้ฆ่าทิ้งตอนยังเป็นนักฆ่า มูกับไททัสได้พบกับเซเฮราซาดที่ได้รับอนุญาตออกมาจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ รวมถึง...
“ท่านพ่อ...ท่านพี่...” ฮาคุเอย์และฮาคุริวมองลูฟสีขาวทั้ง 3 ที่กลับคืนร่างเป็นจักรพรรดิฮาคุทาคุ ฮาคุยู และฮาคุเร็น... องค์หญิงลำดับ1กับน้องชายไม่สามารถหักห้ามน้ำตาได้อีกต่อไปเมื่อเห็นหน้าของพ่อและพี่ชายที่ตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อหลายปีก่อน
จักรพรรดิฮาคุทาคุไม่ได้กล่าวอะไรนอกเสียจากยิ้มบางให้ลูกทั้งสอง มุ่งไปยังร่างของเบฮีร่า เอื้อมมือลงไปทำเป็นช้อนร่างของเธอขึ้นแต่ทว่าสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนนั้นคือลูฟสีดำที่กลายเป็นร่างของจักรพรรดินีเกียคุเอ็น...
‘พักผ่อนได้แล้ว...ชายาของข้า....’ เพียงเอ่ยแค่นั้นเกียคุเอ็นที่ยังตกอยู่ในห้วงนิทรากลับรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากสามี น้ำสีใสไหลอาบใบหน้าแห่งความสุข ลูฟสีดำรอบกลายกลับคืนเป็นสีขาว...
ฮาคุริวมองพ่อและแม่ตนเองก่อนจะหันไปมองพี่ชายทั้งสอง “ท่านพี่ ข้า...”
‘ไม่ต้องขอโทษอะไรหรอกน่า! เจ้าเก่งมากๆเลยล่ะฮาคุริว’ ฮาคุเร็นยิ้มกว้าง ‘เนอะพี่?’
‘อืม... และเรื่องที่เกิดขึ้นนี่เป็นความผิดของพี่เองที่ฝากความแค้นไว้กับน้อง...น้องไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกฮาคุริว’
“....ไม่ มันเป็นความผิดของข้าเอง!! เพราะข้ามัวแต่คิดเรื่องแก้แค้นท่านแม่ไม่ได้สืบหาความจริงเลยแม้แต่น้อยว่าท่านกำลังโดนควบคุมอยู่ แต่หลังจากนี้ข้าจะไม่หลงผิดอีก ข้าจะสานต่อเจตนารมณ์ของท่านพี่ต่อไปและชดใช้บาปที่ทำมาทั้งหมดนี้ด้วยการเป็นจักรพรรดิเพื่อให้ประชาชนอยู่กันอย่างสงบสุขให้ได้.... ขอสัญญาเลย”
พี่ชายและพี่สาวทั้งสองต่างยิ้มด้วยความสุขที่น้องชายคนเดิมของพวกเขากลับมาอีกครั้ง ฮาคุยูเหลือบมาเห็นเพื่อนสนิทที่เคยร่วมรบด้วยกันก็ยิ้มให้เช่นกัน โคเอนที่ยืนอยู่กับน้องๆของตนต่างก็โค้งให้ที่ได้เห็นพี่น้องได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง
จนกระทั่งเขาหันมาเจอกับ...อดีตคนรัก
“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันในร่างนี้อีกครั้งนะฮาคุยู” เซลีนียิ้มบางให้ขณะสวมปลอกแขนบังตราสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกกลับหัว
‘นั่นสินะ... ท่านดูมีความสุขขึ้นมาก’
“ก็นะ...” เหล่มองมูที่ยืนอยู่กับเซเฮราซาดและไททัส แต่กลับจ้องมาทางตนเอง “ข้ามีเรื่องที่อยากบอกเจ้ามานานแล้วล่ะ .......ขอบคุณมากนะ ที่สอนความรู้สึกต่างๆให้กับข้ามากมายขนาดนี้...”
‘ยินดีอย่างยิ่ง...’
ไม่มีคำพูดอื่นเอ่ยออกมาอีกนอกจากรอยยิ้ม แม้จะไม่พูดกันก็สามารถสื่อถึงกันได้นั่นล่ะคือสิ่งที่บ่งบอกถึงสายสัมพันธ์ของคนสองคน... คนโดยรอบต่างก็มองด้วยความดีใจ ยินดีกับเหล่าผู้คนที่ได้พบกับคนสำคัญ แม้แต่จูดัลก็ยังได้พบกับพ่อแม่ที่โดนอัลซาเมนฆ่าตายแต่ก็ยังคงทำซึนเหมือนทุกทีก็ตาม ยูนันก็เข้าไปคุยกับพ่อแม่ซินแบด
ทุกคนต่างก็มีคนสำคัญในขณะที่อาละดินต้องยืนอยู่เพียงลำพังกับเลย์ลา...
“ทุกคนดูมีความสุขดีนะฮะ” อาละดินพูดด้วยรอยยิ้มถึงจะแอบนึกอิจฉาอยู่ในใจ
“เจ้าเองก็เหมือนกันอาละดิน...” เลย์ลาจับไหล่เด็กน้อยที่ทำหน้างุนงง “เห็นไหม...คนสำคัญของเจ้ามาหาแล้วนะ”
“?? คน...สำคัญ...”
ไม่ทันจะถามข้อสงสัยต่อลูฟสีขาวที่ส่องสว่างยิ่งกว่าตัวไหนๆบินมาวนเวียนอยู่รอบกายก่อนจะกลับคืนร่างที่แท้จริงที่ทำให้ทุกคนต่างก็หันมามอง ไม่มีใครสามารถกลั้นความตกใจครั้งนั้นได้เลยสักคน เมื่อผู้ที่ปรากฏคือชายหนุ่มและหญิงสาวที่หน้าคุ้นเคยเหมือนกับที่ทุกคนเคยเห็นในการประชุมครั้งนั้น ร่างของ...
“ราชาโซโลมอน... ราชินีชิบะ...”
‘อาละดินลูกแม่....’ ชิบะคลี่ยิ้มบางพลางอ้าแขนให้ เลย์ลาดันหลังอาละดินให้ก้าวออกไปข้างหน้า แต่เด็กชายกลับยืนนิ่งไม่เดินเข้าไปหาทั้งคู่ จนอาลีบาบาเดินมาตบหลังดังป้าบ!
จนอาละดินต้องหันไปมองเพื่อนคนสนิทที่ยืนยิ้มกว้างให้ “ถ้าคิดถึงก็เข้าไปหาเลยน่า ได้เจอทั้งคู่แล้วนี่...”
เมไจคนที่ 4 ยืนนิ่งเงียบไปอยู่สักพักใหญ่ หันไปมองพ่อและแม่ที่ยังยืนยิ้มให้เขา น้ำตาที่อดกลั้นมาตลอดหลายปีกับความเศร้าที่ต้องอยู่ในวิหารศักดิ์สิทธิ์โดยไม่เคยเจอพ่อแม่พรั่งพรูออกมาไม่หยุด เด็กชายวัย 12 ปีวิ่งดิ่งไปกอดครอบครัวที่แท้จริงของตนโดยไม่อายใคร ทั้งชิบะและโซโลม่อนต่างก็เข้ามากอดลูกชายเพียงคนเดียวของตน...
เวลาผ่านไปเนิ่นนานจนถึงเวลาอันสมควรที่เหล่าลูฟทุกคนต้องกลับไปสู่สถานที่ที่ตนเองควรอยู่
‘ขอบคุณที่ดูแลลูกชายข้าอย่างที่เคยสัญญาไว้...’
“ไม่ใช่แค่ข้าหรอก... เจ้าควรขอบคุณราชาอาลีบาบาบาซะด้วยซ้ำ”
‘นั่นสินะ...’ ชิบะหันไปขอบคุณแทนสามีตนเอง ‘ขอบคุณมากราชาอาลีบาบาที่เป็นเพื่อนกับอาละดิน หวังว่าหลังจากนี้จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันตลอดไปนะจ๊ะ...’
“แน่นอนครับ! เป็นเพื่อนกันตลอดไปเลย!” กอดคออาละดินเข้ามาก่อนจะหัวเราะด้วยกัน
“โซโลม่อน ชิบะ” เลย์ลาถือไม้เท้าเวทย์ของราชินีชิบะขึ้นมา “ไม้เท้านี้...ข้าจะมอบให้กับเด็กสาวที่คู่ควรเอง... ไม่ต้องเป็นห่วง”
‘ข้าไว้ใจเจ้า...’
“ขอบคุณ...”
สิ้นคำร่างของทุกคนกลับคืนเป็นลูฟดังเดิมบินกลับไปยังสถานที่ที่ตนควรไป ทิ้งไว้เพียงความสุขใจแก่ทุกคน...
**************
“นับตั้งแต่วันนี้ซินก็กลับมาเป็นคนเดิม ถึงจะไม่ค่อยยิ้มแย้มเท่าไหร่นักเพราะท่านฮัลวายังไม่ฟื้นน่ะครับ”
“ท่านฮัลวา...ยังไม่ฟื้นอีกเหรอครับ”
จาฟาร์พยักหน้า “แต่ข้าเชื่อว่าซักวันนางคงฟื้นขึ้นมาแน่นอน”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฮัลวาน่ะตายยากอีกไม่นานนางก็ฟื้นเอง” เซลีนีเดินมาพร้อมกับมู เธอตอนนี้สวมชุดสมัยยังเป็นกลาดิเอเตอร์อีกครั้ง ผมที่ถูกตัดก็กลับยาวเหมือนเดิม “ไงทั้งคู่~”
“คุณเซลีนี คุณมู!”
“เหมาะสมกับมากเลยนะราชาอาลีบาบา โมลเซียน่า” เดินมาสวมสร้อยคอสีเงินประดับด้วยอัญมณีต่างๆ “ลูกสาวเพื่อนสนิทอุตส่าห์แต่งงาน ข้าเลยทำของขวัญให้ หวังว่าเจ้าจะชอบ”
“ข...ขอบคุณค่ะ” หน้าแดงระเรื่อ พองแก้มเหมือนโกรธแต่จริงๆดีใจมาก
“จะว่าไปเมื่อไหร่คุณมูจะแต่งกับคุณเซลีนีซะทีล่ะครับ ขอแต่งงานไปนานแล้วนี่”
หัวหน้ากองกำลังเฟอนาลิสถอนหายใจ “คงอีกนานเลยน่ะ...”
“เซลีนีอย่าแกล้งมูมากสิ” เลย์ลายกมือป้องปากกันหัวเราะชอบใจเช่นเดียวกับคนสนิท
“ก็ตั้งใจว่าจะคลอดลูกก่อนแล้วค่อยจัดงานน่ะค่ะนายท่าน”
.
.
.
“.......อะไรนะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” จากเสียงหัวเราะกลายเป็นเสียงโวยวาย
“ต ตอนไหน!? ทำไมผมไม่รู้เรื่อง!!?”
แอบขำเล็กน้อยกับหน้าตาของว่าที่สามี “อื้ม ก็ซัก 3 เดือนแล้วล่ะ... ตอนแรกกะจะแกล้งไม่บอกมูซะหน่อย แต่นายท่านถามแบบนี้ข้าโกหกไม่ได้” เซลีนีคลี่ยิ้มหวาน เพราะครั้งหนึ่งเคยเสียลูกไปจากความอ่อนแอของตนเอง มูกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้จนเดินมาสวมกอดอดีตอาจารย์ที่ปัจจุบันคือภรรยาของเขา
ทุกคนต่างหัวเราะกับความสุขตรงหน้าแสดงความยินดีให้ทั้งอาลีบาบากับโมลเซียน่า และว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่างมู งานเลี้ยงผ่านไปได้ด้วยดี ตัวแทนจากหลายประเทศต่างก็เลือกที่จะฉลองกันข้ามวันยกเว้น เลย์ลาที่ขอตัวจักรวรรดิโควเพียงลำพัง
ตลอดเวลานั่งอยู่บนพรมวิเศษเธออดยิ้มไม่ได้กับความสงบสุขที่ได้มา หลายปีที่ผ่านมานี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปมากมายโดยอย่างยิ่งความรุ่งเรืองและการพัฒนาประเทศให้มีความทันสมัยมากขึ้น หลังจากสงครามครั้งนั้นจบลงซินเดรีย เรม บัลแบดและจักรวรรดิโควต่างลงสนธิสัญญาการสงบศึกและกลายเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน หากเมื่อใดที่ 1 ใน 4 ประเทศเกิดสงครามขึ้นจะรีบเข้าไปช่วยเหลือในทันที
ทางด้านซินเดรีย ซินแบดยังคงเป็นราชาของประเทศ การค้าระหว่างซินเดรียและประเทศต่างๆประสบความรุ่งเรืองอย่างสูงที่สุด เขาไม่หวังพึ่งพาคนอื่นมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง
ปัจจุบันเขาก็ยังคงรอคอยให้ฮัลวาตื่นขึ้นมา ส่วนจาฟาร์ตอนนี้แต่งงานกับพี่สาวของเลย์ลาที่ทำงานอยู่ซินเดรีย ชาร์รูคันแต่งกับยามูไรฮะ
ทางด้านเรม ไททัสยังคงเป็นเมไจปกครองเรมให้พัฒนารุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นด้วยพลังของตัวเอง ส่วนมัลกะตอนนี้โตเป็นสาวน้อยน่ารักกำลังอยู่ในช่วงหวานแหววกับไททัส ส่วนกองกำลังเฟอร์นาลิสตอนนี้เปิดเป็นโรงฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกชนิดเพื่อสอนให้ชาวเมืองรู้จักป้องกันตนเอง
มูขอเซลีนีแต่งงานและเธอก็ยอมตกลงแต่งอย่างง่ายดาย ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมให้จัดงานแต่งอย่างเป็นทางการซะที มูรอนแต่งงานกับโรโร่
ทางด้านจักรวรรดิโคว ฮาคุริวขึ้นเป็นจักรพรรดิโดยมีเมไจแห่งความมืดจูดัลและพี่สาวแสนดีฮาคุเอย์คอยช่วยเหลือ โคเอนไปอยู่ที่ค่ายกักกันของจักรวรรดิโควกับโคเมย์และโคฮาเพื่อพักรักษาตัวให้ปรับสภาพกับแขนและขาปลอม อีกจุดมุ่งหมายคือสร้างที่นี่ให้กลายเป็นประเทศคอยเกื้อหนุนจักรวรรดิโคว ทั้งยังทำตามสัญญาที่ให้ไว้ในการคืนบัลแบดให้อาลีบาบา
ปัจจุบันนี้พี่ชายทั้ง 3 คนจะหวงโคเกียคุมากจนไม่ยอมให้อยู่กับจูดัล...แม้ทั้งคู่จะคบกันแล้วก็ตามที ส่วนฮาคุริวนั้นตอนนี้กำลังตามจีบเมลอยู่ โคฮาและเฟอิซาแต่งงานกัน ส่วนคีรา...แอบตามจีบฮาคุเอย์ ซึ่งฮาคุริวมาขวางเป็นระยะๆ
ส่วนบัลแบดในตอนนี้อาลีบาบาแต่งงานกับโมลเซียน่าขึ้นปกครองประเทศอีกครั้ง โดยมีเมไจอาละดินคอยสนับสนุน แม้จะเคยตกอยู่ใต้อำนาจของจักรวรรดิโควแต่ผู้คนที่นี่ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงต้องการให้อาลีบาบากลับมาเป็นราชาอีกครั้ง
ส่วนตัวเลย์ลานั้น....
เลย์ลากระโดดลงจากพรม เข้าไปยังตำหนักบนเกาะซึ่งเป็นค่ายกักกันของจักรวรรดิโควในอดีต ปัจจุบันค่ายกักกันนี้คือสถานที่ฝึกตนของกองกำลังพิเศษ อีกทั้งยังเริ่มสร้างให้กลายเป็นเมือง ผู้คนไร้ที่พึ่งพิงมาอาศัยแต่มีข้อแม้ว่าต้องกลายเป็นคนของจักรวรรดิโคว ต้องทำตามกฏและแต่งตัวอย่างเคร่งครัด
มือเรียวเปิดเข้าไปในห้องพัก ยิ้มยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างของคนสำคัญกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ ไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปกอดคออีกฝ่ายจากข้างหลัง
“โหมมากนักจะไม่ดีต่อร่างกายนะคะ ท่านโคเอน”
เจ้าของชื่อหยุดเขียนเอกสารสำคัญ หันไปมองเธอ “ทำอีกซักพักก็หมดแล้ว.. งานแต่งงานเจ้าหมอนั่นเป็นไงบ้าง...”
“เป็นไปได้ด้วยดีค่ะ” ยิ้มบางพลางเดินมาคุกเข่าข้างตัวสัมผัสแขนของโคเอน “เริ่มใช้แขนเทียมคล่องขึ้นแล้วสินะคะ”
“อืม... ต้องทำให้ชินมากที่สุด จะได้ไม่ต้องเป็นตัวถ่วงให้พวกเจ้า”
“ท่านโคเอนไม่ได้เป็นตัวถ่วงให้พวกข้าหรอกค่ะ จริงๆวันนี้ข้ากลับมาก่อนเพื่อบอกข่าวสำคัญให้ท่านรู้”
โคเอนคิ้วขมวด “ข่าวอะไร?”
ร่างบางยิ้มเขินอายเล็กน้อย จับมือข้างคนรักข้างที่ปกติมาสัมผัสท้องตัวเอง “ข้ากำลังครรภ์อ่อนๆค่ะ”
ตัวเลย์ลาในตอนนี้หลังจากสงครามจบลงเธอเลือกที่จะกลับไปยังเมืองของตนเพื่อขึ้นเป็นเจ้าเมือง ปกครองเมืองนานอยู่หลายปีจนในสุดโคเอนมาขอแต่งงานจึงมาอยู่ที่นี่ พี่ชายของเธอเลือกที่จะรับใช้เซลีนีจึงไม่ยอมกลับมาเป็นเจ้าเมือง ทำให้คีรากลายเป็นเจ้าเมืองแทนแม้ว่าเขาจะไปมาระหว่างจักรวรรดิโควเพื่อฮาคุเอย์ก็ตาม
“เจ้ากำลัง...ท้อง?” โคเอนแสดงอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นข่าวที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากของเธอเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ดีใจ...เหรอคะ”
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่หรอก ข้าดีใจมาก...” ดึงเลย์ลาเข้ามากอดด้วยมือข้างเดียว “ขอบคุณเจ้าจริงๆเลย์ลา...” เพราะมัน...คือสิ่งที่เขาต้องการจากเธอมาตลอด
สัญญากับตนเองตั้งแต่วันนั้นที่เลย์ลากลายเป็นของเขาว่าจะไม่มองใครทั้งสิ้นตลอดชีวิต
เลือกที่จะมอบหัวใจดวงนี้และฝากชีวิตทั้งหมดไว้กับเธอเพียงผู้เดียว...
“...ไม่หรอกค่ะ ข้าต้องขอบคุณท่านโคเอนเสียมากกว่า...” ที่ทำให้ข้ามีความสุขได้ถึงเพียงนี้...
นับตั้งแต่เวียนว่ายตายเกิดบนโลกใบนี้ไม่เคยมีความสุขเลยสักครั้งตลอดชีวิต
จนมาเจอเขาคนนี้ที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นได้มากขนาดนี้...
ค่ำคืนแห่งความเงียบสงบ ดวงดาวบนท้องฟ้าเปล่งประกายงดงามราวกับว่ากำลังต้อนรับเรื่องราวบทใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าของเหล่าผู้ครอบครองจินซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละประเทศ
องค์ชายผู้สูญเสียขาทั้งสองและแขนหนึ่งข้างตอนนี้กำลังมีพยานรักของเธอและเขาที่กำลังก่อกำเนิดขึ้น
ราชาแห่งคาบสมุทรทั้งเจ็ดผู้เฝ้ารอหญิงที่รักมาตลอดหลายปี จนในที่สุดเจ้าหญิงของเขาก็ตื่นจากห้วงนิทรา
ราชาแห่งบัลแบดซึ่งพบพานแต่เรื่องเลวร้ายและผิดหวังมามาก ได้สมหวังกับหญิงสาวที่เขารักและรักเขามาตลอด
และบุตรแห่งโซโลมอนผู้แสนโดดเดี่ยวก็ได้พบรักกับสาวผู้ได้รับสืบทอดคฑาของราชินีชิบะมารดาของตน...
‘โชคชะตา’
คือสิ่งที่เรามีมาตั้งแต่ถือกำเนิดบนโลกใบนี้
มันคือเส้นทางที่เราควรยอมรับมันเข้ามาในชีวิตและไม่มีทางหนีมันพ้น
...ทว่า...
มันจำเป็นงั้นหรือที่จะต้องทำตามสิ่งนั้นอย่างเคร่งครัด
มันแค่ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
หรือเปลี่ยนแปลงมันเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นแก่ตัวเราในอนาคต
คนเราทุกคนต่างก็มีหนทางเลือกที่แตกต่างกันมากมาย
หากทำผิดพลาดไปเราก็ยังสามารถมีโอกาสแก้ไขให้มันดีขึ้นเพื่อตัวของเราและผู้อื่น
...จึงจะได้รู้ว่าสิ่งนั้นคือ...
‘ความหมายที่แท้จริงของโชคชะตา’
::THE END::
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนจบค่ะ
นี่ถือว่าเป็นฟิคเรื่องแรกที่ไรต์แต่งเยอะที่สุด
มากสุดแค่ 20 ตอน นี่ปาไป 50 กว่าตอนเลยทีเดียว
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและการเฝ้ารอของทุกคนนะคะ
จริงๆแล้วยังมีตอนพิเศษอีก แต่คิดว่ากว่าจะว่างจากงานที่มหาลัยมาอัพคงอีกพักใหญ่ๆ
แต่จะพยายามหาเวลาว่างมาอัพให้ได้
ขอบคุณจริงๆค่ะ

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รู้สึกโหวงๆแฮะ..