ตอนที่ 43 : 34 : แล้วเจอกันที่....

เช้าวันรุ่งขึ้นซีเรียได้บอกกับเฟอิซาและคีราว่าตนเองจะแยกไปคนเดียว ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคนต่างค้านเสียงแข็ง เพราะถ้าหากว่าซีเรียเดินทางไปคนเดียวแล้วกลายเป็นอีกคนหนึ่งมีหวังสถานที่แห่งนั้นได้สูญหายไปจากหน้าแผนที่เป็นแน่แท้ แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็ยังยืนยันว่าจะไปคนเดียวให้ได้ทั้งๆที่บอกแค่ว่าจะไปไม่นานและช่วงที่เธอไม่อยู่อยากให้คีราเดินทางไปที่แห่งหนึ่งแทนตนเองส่วนเฟอิซาให้ไปที่บัลแบดกับโคฮาแทน แต่เฟอิซาก็ยังไม่ยอมจนกระทั่งเธอต้องเอ่ยปากออกมาว่าจะไปที่ไหนกันแน่...
“ข้าจะไปซินเดรีย!!!”
ประโยคเดียวสยบทุกสิ่งเนื่องจากว่ามันเป็นคำต้องห้ามของเฟอิซา จริงอยู่ที่เธอไม่เคยโกรธแค้นอะไรซินเดรียมาก่อน แถมเธอยังเคยไปเปิดร้านขายของที่นั่นด้วยเช่นกัน แต่เพราะมีความทรงจำไม่ดีเกี่ยวกับความรักครั้งแรกที่นั่น สุดท้ายเด็กสาวจึงยอมทำตามที่ซีเรียเสนอโดยการตามพวกองค์ชายไปบังบัลแบด ส่วนคีราถูกขอให้ไปยัง... อาณาจักรที่ล่มสลายด้วยฝีมือตนเองในอดีต
เพราะเมื่อคืนนี้เธอนึกขึ้นได้ว่าที่แห่งนั้นมีของบางสิ่งที่เลย์ลาได้ซ่อนเอาไว้เกี่ยวกับการคืนความทรงจำถ้าหากนำมันออกมาได้เธอก็คงสามารถนึกเรื่องราวออกทั้งหมด แต่สาเหตุหลักที่ไปซินเดรียเพราะมีคนต้องการพบตนและเมื่อจัดการเรื่องเสร็จซีเรียก็รีบหนีออกมาจากจักรวรรดิโควโดยไม่รอคุยกับใครก่อน
ส่วนเหตุผลที่หนีออกมาก่อนคงไม่พ้นการหนีหน้าองค์ชายลำดับหนึ่งหลังจากไปก่อเหตุไว้เมื่อคืนนี้
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน” องค์ชายลำดับหนึ่งควบม้ามาหาเฟอิซาที่กำลังจะขึ้นม้าไปนั่งซ้อนท้ายโคฮา
เด็กสาวหันไปมองว่าที่พี่เขยตนเอง “...ถ้าซีเรียล่ะก็นางไปซินเดรียแล้วค่ะองค์ชาย”
“....งั้นรึ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบาและควบม้าไปอีกทาง ขณะที่เบฮีร่ามองภาพนั้นอย่างไม่พอใจที่โคเอนหันไปสนใจคนอื่นอย่างซีเรียแทนที่จะเป็นตนเอง เธอทั้งแค้นซีเรียและน้อยใจโคเอนก่อนจะเดินกลับไปยังพระราชวังต้องห้าม
และแล้วกองทัพของจักรวรรดิโควก็ได้ออกเดินทางไปยังบัลแบดด้วยการเคลื่อนย้ายของโคเมย์...
บัลแบดในยามนี้ดูน่าอึดอัดสิ้นดี นั่นคือสิ่งที่เฟอิซาคิดหลังจากเดินมาถึงที่หมาย ทัศนียภาพที่เธอเคยเห็นจากมุมสูงคือประเทศบัลแบดในสีที่คล้ายคลึงกับสีของทะเลทรายดูแล้วแห้งแล้งแต่งแฝงไปด้วยความอบอุ่น แต่ในยามนี้เปลี่ยนเป็นแนวจีนเพราะตกเป็นของจักรวรรดิโคว ถึงแม้ประชากรของบัลแบดจะได้สิทธิ์ของตนเองได้โอกาสใหม่ในชีวิตอีกครั้งหลังจากเหตุการณ์นั้น ....แต่กลับไร้ซึ่งรอยยิ้ม เด็กสาวถอนหายใจเบาๆรดต้อคอโคฮาจนอีกฝ่ายงงเล็กแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
“เอ้อใช่ เฟอิซา เดี๋ยวประมาณกลางเดือนจะมีแขกนะ” องค์ชายลำดับสามบอกแฟนสาวของตน
“แขก?” เธอมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัยเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงแขก “หรือว่าจะเป็นองค์ชายอาลีบาบา ซารูจาที่นายบอกเมื่อวานงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าอาละดินมาด้วยก็ดีน่ะสิ อยากจับแต่งตัวหมอนั่นอีกครั้งจังแฮะ” หัวเราะน้อยๆ
องค์ชายอาลีบาบาเท่าที่ตัวเฟอิซารู้จักคือบุตรคนที่สามของราชาราชิดที่เกิดจากหญิงชาวบ้านและตอนนี้เขาเป็นแค่สามัญชนธรรมดาๆเพราะบัลแบดถูกยึดครองและได้ไปอยู่ซินเดรีย แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อหกเดือนก่อน แต่ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเช่นไร
“จะว่าไปช่วงนี้พอมีเวลาว่างอยู่” มือจับบังเหียนแน่นเพื่อหยุดม้าและหันมามองอีกฝ่าย “ยังไงก็ไปเที่ยวด้วยกันหน่อยไหม”
เด็กสาวนิ่งไปก่อนจะยิ้ม “เอาสิ”
[ณ จักรวรรดิเรม, เรมโคลอสเซียม]
“ท่านพี่ยังบาดเจ็บอยู่นะคะ ออกมาเดินได้ยังไง!!” เสียงโวยวายของน้องสาวดังก้องไปทั่วโคลอสเซียมที่ไร้ผู้คนในวันนี้ คาดว่าที่ไร้คนคงเป็นเพราะสงครามพึ่งจบไปได้ไม่นานนัก ทั้งยังต้องสูญเสียนักบวชสาวแห่งเรม เซเฮราซาด ไป แต่ในความสูญเสียก็ยังมีความหวังเมื่อเรมมีเมไจคนใหม่ที่เกิดขึ้นจากนาง ไททัส อเลเคียส
“พี่ไม่เป็นไรหรอกมูรอน เจ้านั่นแหล่ะบาดเจ็บหนักกว่า พี่แค่อยากมาอยู่ในที่เงียบๆน่ะ สัญญาว่าถ้าพอใจแล้วจะรีบกลับ เข้าใจนะ” ผู้เป็นพี่ปลอบมูรอนอย่างใจเย็น
“แต่ว่า!!...” “กัปตันสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะก็ไปได้แล้วยัยม้าดีดกะโหลก!”
โรโร่ไม่ฟังเสียงค้านของมูรอนและพยายามลากอีกฝ่ายออกจากโคลอนเซียม แต่ไม่เป็นผลทำให้ผู้เป็นพี่อย่างมูต้องหัวเราะแห้งๆ
“ผมจัดการเองครับท่านมู” ชายหนุ่มที่มาด้วยกันกับมูรอนและโรโร่พูดขึ้นมาก่อนจะเดินไปเกลี้ยกล่อมสาวเฟอนาลิส มูรอนถึงกับนิ่งไปสักระยะก่อนจะหน้าแดงเถือก โรโร่อาศัยจังหวะนี้ลากเธอออกไป เขาหันมาโค้งให้มูเล็กน้อยก่อนจะเดินตามออกไปเช่นกัน
มูมองตามหลังอีกฝ่ายที่เดินออกไปพลางนึกขึ้นได้ว่าชายหนุ่มผมทอง ตาสีฟ้าในชุดผู้ชายปกติของเรมคนนี้มีชื่อว่า ‘ฟอส’ เป็นผู้ที่รับใช้เซลีนีภายในเรมโคลอสเซียมมาตลอด เขาไม่ใช่ทาสแต่เป็นผู้ติดตามของนางและยังเป็นหนึ่งในทหารชั้นยอดที่ผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วนเพื่อปกป้องเรม เท่าที่เขารู้คือฟอสมาจากเมืองนูลลาและเป็นลูกคนโตของเจ้าเมืองที่นั่น
“......” ลูกครึ่งเฟอนาลิสหนุ่มถึงกับถอนหายใจออกมาพลางเงยหน้ามองท้องฟ้า ทว่า....จู่ๆดวงตากลับมืดสนิทเหมือนตอนกลางคืน
มันไม่ใช่เพราะว่าตาของมูมีปัญหาแต่เพราะตาของเขาโดนมือใครบางคนปิดไว้...
“ทายซิ...ใครเอ่ย” ฉับพลันน้ำเสียงที่ดูคุ้นเคยของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาจากข้างหลังเขาจนต้องชะงัก ถึงแม้ตอนนี้มูจะไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นอีกฝ่ายได้และมองไม่เห็นแต่ก็จำได้ดีว่าเสียงแบบนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“!!!! ทะ...ท่าน...!!” “ถ้าโวยวายหรือเรียกชื่อข้าขึ้นมาล่ะก็... ระวังจะศพไม่สวยนะมู”
เอ่ยขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายแต่กลับแฝงไปด้วยความกดดันจนชายหนุ่มนิ่งเงียบไป...
“คิก... เมื่อก่อนยังตัวเล็กๆโอบปิดตาได้ง่าย แต่พอโตขึ้นแล้วปิดตาแบบนี้ลำบากเหมือนกันนะเนี่ย”
“ท่าน.... มีธุระอะไรกับผมอีก”
“เดี๋ยวนี้ทำเสียงน่ากลัวบ่อยจัง ระวังทำมากๆจะไม่มีผู้หญิงมอง” หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเสียงแซวอีกฝ่ายก่อนจะนิ่งไปเมื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดคือความจริง ช่วงนี้ตนทำเสียงน่ากลัวจนขนาดเซเฮราซาดเตือน
เมื่อนึกถึงอดีตนักบวชสาวแห่งเรมมูตัวเริ่มสั่นน้อยๆโดยไม่รู้ว่ากำลังโกรธหรือกำลังร้องไห้...
“ข้า...ปกป้องท่านเซเฮราซาดไม่ได้ ข้---” “ไม่ใช่ความผิดของเจ้า”
หญิงสาวเอ่ยค้านขึ้นมาเมื่อรู้ว่าสิ่งที่กัปตันกองกำลังเฟอนาลิสผู้นี้กำลังพูดเรื่องที่เกิดขึ้นในสงครามที่มัคโนซุสตัส เขาตั้งใจจะขอโทษที่ผิดสัญญาที่ตนไม่สามารถปกป้องนักบวชหญิงแห่งเรมที่เขาเทิดทูน จริงอยู่ที่ผู้หญิงด้านหลังตนจะเป็นศัตรู แต่ยังไงอีกฝ่ายก็มีบุญคุณกับตนเองนัก
“?” ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนข้างใบหูของตนกับเสียงกระซิบเบาๆที่ชวนให้ใจเต้น “ไว้...เจอกันที่การประชุมนะมู”
“! เดี๋ยวก่อนครับท่านเซลีนี...!!!” มูรีบหันกลับไปมองอีกฝ่ายทันทีเมื่อมือที่ปิดตาของเขาอยู่คลายออก แต่เขาช้าเกินไป... จึงพบแค่ความว่างเปล่า “......”
ลูกครึ่งเฟอนาลิสนิ่งไปก่อนที่จะเดินออกไปจากเรมโคลอสเซียมเพื่อนำเรื่องนี้ไปบอกไททัส โดยไม่ทันสังเกตว่าบนท้องฟ้ากว้างมีร่างของหญิงสาวผมสีแดงเพลิงในชุดนักเต้นรำสีแดงยืนยิ้มอยู่ก่อนที่จะหายไปจากตรงนั้น
ทางด้านอาณาจักรซินเดรียในตอนนี้เป็นช่วงเฉลิมฉลอง เนื่องจากราชาซินแบดและพวกอาลีบาบากลับมา ทางด้านนอกก็ยังคงมีการป้องกันอย่างแน่นหนาเช่นเคยดังนั้นการจะเข้าไปภายในได้มีเพียงแค่ทางเดียวคือทางเรือเพราะทางอากาศมีเวทย์มนตร์ของยามูไรฮะกางไว้ ทว่าซีเรียกลับใช้ทางอากาศในการเดินทางมายังซินเดรียโดยการใช้เวทย์เคลื่อนย้ายเข้ามาภายใน แต่ไม่มีใครจับได้ว่าเธอแอบเข้ามาแม้แต่น้อย สาเหตุอาจเป็นเพราะไม่มีใครรู้ตัวเนื่องจากพลังของเธอกับนักเวทย์สาวคนนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
ตลอดทางเดินในตัวเมืองซีเรียสังเกตเห็นถึงความเป็นไปของประชากรที่แห่งนี้ มันช่างแตกต่างกับจักรวรรดิโควนัก ที่นั่นมีการแบ่งแยกชนชั้นฐานะระหว่างคนร่ำรวยและชนชั้นต่ำอย่างชัดเจนแต่ที่นี่กลับไม่แบ่งแยกและผู้คนต่างมีแต่รอยยิ้ม
ความรู้สึกของการเป็นซีเรียที่เป็นว่าที่เจ้าเมืองนูลลานั้นปรารถนาจะให้เมืองตนเป็นเหมือนกับสถานที่แห่งนี้ แต่สำหรับลูซิเฟอร์....กลับรู้สึกถึงความเอารัดเอาเปรียบของมนุษย์ ความไม่เท่าเทียมกันของโลกและความเจ็บปวดของลูฟสีดำทั้งหลายที่ตกอยู่ในความเสื่อม
ทำไมพวกเขาถึงต้องโชคร้ายในขณะที่คนอื่นโชคดี?
ทำไมพวกเขาถึงเป็นเหยื่อของสงครามทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด?
ทำไมถึงต้องฆ่าครอบครัวที่เขารักไปจากชีวิตของเขา...
ทำไมถึงต้องพรากสิ่งที่พวกเขารักไป...
นานาคำถามที่ถูกตั้งขึ้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงเหล่านั้นยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำ และคงไม่มีวันหายไป....
“อ๊ะ?” อุทานเบาๆเมื่อมีบางอย่างมาสัมผัสใบหน้าจึงหันไปมอง มันคือลูฟสีขาวนั่นเอง หญิงสาวยืนนิ่งอยู่กลางทางเดินก่อนจะยิ้มน้อยๆว่าเธอมัวแต่สนใจลูฟสีดำและลืมสีขาวไปเสียสนิทใจก่อนจะรำลึกถึงอดีตที่เกือบลืมไปว่าตนเองไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาๆอีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีลูฟสีดำและสีขาวทั้งสองอย่างไว้ในร่าง
ปึก! โครม!
“ขะ...ขอโทษนะ! เป็นอะไรรึเปล่า?” สาวผมสีดำยาวหันไปขอโทษผู้ที่ตนเดินชนจนล้มข้าวของกระจัดกระจายก่อนจะยื่นมือไปหา อีกฝ่ายนิ่งเงียบไม่เอ่ยปากตอบคำถามของเธอและจับมือนั้นไว้
เด็กตรงหน้ามีผมสีดำหนานุ่มยาวจนถึงเอว มัดมวยกลมๆทั้งสองข้าง ปอยผมยาวสวมทับด้วยปลอกกลมๆกับลูกปัดเล็กๆเหมือนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ดวงตากลมโตข้างขวาเป็นสีเขียวมรกตโทนเขียวอ่อน ส่วนข้างขวาเป็นสีฟ้าน้ำทะเลโทนน้ำเงินในชุดกระโปรงยาวสีขาวทับด้วยผ้าคลุมมีฮู้ดคลุมหัวสีขาว
ถือได้ว่าหน้าตาดีคนหนึ่งเลยทีเดียวถ้าไม่ติดที่ตา...
ดวงตาสองสีถือได้ว่าเป็นสิ่งหายากนัก ว่ากันว่ามันมีสิ่งที่พิเศษแต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เท่าไหร่นอกจากผู้ที่มีชีวิตอยู่มานานอย่างซีเรียหรือลูซิเฟอร์
เด็กสาวลุกขึ้นก่อนจะปัดฝุ่นตามเสื้อผ้า “ไม่เป็นไร...” เธอพูดเสียงเบา
เมื่อเห็นเช่นนั้นซีเรียโล่งอกเล็กน้อยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับบาดเจ็บและก้มลงไปเก็บข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่ พลันดวงตาสีน้ำตาลเหลือบไปเห็นชื่อบางอย่างบนม้วนเอกสารหนึ่งก่อนที่เด็กสาวจะเก็บไป
“....เจ้า...ชอบอ่านการผจญภัยทั้งเจ็ดคาบสมุทรของราชาซินแบดรึ? ข้าก็อ่านนะ”
เด็กสาวชุดขาวหันไปมองซีเรียเล็กน้อย แม้จะใบหน้าดูนิ่งเฉยแต่แววตาที่จ้องมานั้นเหมือนเปล่งประกายราวกับเด็กๆ หญิงสาวรู้ได้ในทันทีว่าหลายๆคนคงไม่กล้าคุยกับเธอเพราะดวงตาที่น่ากลัวนั้น .....แต่ถ้ามาเจอกับดวงตาของเธอใครจะน่ากลัวกว่ากันนะ และตอนนี้ก็ใกล้ถึงเวลานัดแล้วเธอคงต้องรีบไปไม่เช่นนั้นคงจะไปสายเป็นแน่
เดิมทีแล้วในโลกใบนี้ผู้ที่เกิดมามีตาสองสีนั้นคือผู้ที่ถูกกล่าวว่าถูกรับเลือกโดยพระเจ้าไม่ก็เป็นตัวกาลกินีที่ถูกส่งมาให้ทำลายดินแดนแห่งนั้น แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่เลยทั้งสองอย่าง ผู้ที่มีดวงตาสองสีนั้นก็เหมือนผู้ใช้เวทย์มนตร์ทั่วไป แต่ว่าพลังที่ได้รับมาจะถูกใช้ผ่านดวงตานั้นอย่างเดียวเท่านั้น....
“ข้าชื่อซีเรีย เป็นว่าที่เจ้าเมืองนูลลาคนต่อไป เจ้าล่ะ?”
เด็กสาวนึกสงสัยซีเรียเล็กน้อยที่ไม่เอะใจเรื่องสีตาของตนเอง“....เมซี่” เธอเอ่ยด้วยใบหน้าราบเรียบ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะเมซี่ งั้น... ไว้เจอกันใหม่นะ” หญิงสาวคลี่ยิ้มบางและเดินสวนอีกฝ่ายไปตรงไปยังทางเข้าป่า เด็กสาวนัยน์ตาสองสีหันไปมองอีกฝ่ายเล็กน้อยด้วยความรู้สึกแปลกใจก่อนจะเดินไปอีกทางเช่นกัน
.
.
.
และแล้วเธอก็มาถึงยังตัวป่าจนได้โดยไม่มีใครเห็นตัวเธอเลยสักคนเดียว คงเป็นเพราะเธอใช้เวทย์ล่องหนเข้ามาด้วยกระมัง อีกทั้งสิ่งที่อยู่ต่อหน้าของเธอคือบอร์กจากลูฟสีขาวแล้วบ้านไม้ขนาดเล็กย่อมๆหลังหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นจากเวทย์มนตร์
“ที่นี่สินะ” เธอเดินเข้าไปภายในบอร์กนั่นอย่างง่ายดาย
การที่เข้ามาในที่ของคนอื่นเช่นนี้ทำให้เจ้าของบอร์กถึงกับคลี่ยิ้มเมื่อคนที่เขานัดไว้มาถึงแล้วก่อนจะเปิดประตูออกมาจากบ้าน เผยให้เห็นชายหนุ่มผมสีทองถักเป็นเปียยาว ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลในชุดสีเขียวเหมือนกับนักเดินทาง ใช่แล้ว... เขาคนนี้ก็คือ 1 ใน 3 เมไจ ยูนัน
เขายิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อย “ผมกำลังรอท่านอยู่เลยครับ”
ตอนนี้อาจจะน้อยซักหน่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ (เดิมทีไรท์พิมพ์ประมาณ 8-10 หน้าน่ะค่ะ)
ช่วงนี้งานที่มหาลัยมันเยอะมากจนไม่ค่อยมีโอกาสจะได้มาแต่ง
แต่ไรท์จะพยายามหาเวลามาอัพให้อ่านเท่าที่ทำได้นะคะ
เท่าที่เห็นผลโหวตเรื่องการตีพิมพ์แล้วก็ดีใจนะคะ
แต่ถ้าอยากได้จริงๆเราอยากให้เม้นบอกว่าอยากให้ตีพิมพ์นะคะเราจะได้คำนวณปริมาณได้ถูกด้วย
(ไม่รู้โพลมันเป็นไรไม่ยอมขึ้น)
ไว้เจอกันนะคะ
(นี่เป็นตัวอย่างหน้าปกกับหน้าแนะนำตัวละครที่เราทำค่ะ รูปฮัลวากำลังลงสีอยู่ ^^)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

346 ความคิดเห็น
-
#250 โยนะ ฮิเมะ (จากตอนที่ 43)วันที่ 18 เมษายน 2558 / 19:37สู้ๆๆนะไรท์จัง^^#2500
-
#180 シャミー (จากตอนที่ 43)วันที่ 22 ตุลาคม 2557 / 13:19อ้ากกกก!!! รอเก็บตังค์เลยงานนี้ :) สู้ๆต่อไปนะคะไรท์#1800
-
#177 PunChi's (จากตอนที่ 43)วันที่ 21 ตุลาคม 2557 / 12:10โอ้ยยย รู้สึกเหมือนเห็นตังลอย--------#1770
-
#174 my lovely >//< (จากตอนที่ 43)วันที่ 19 ตุลาคม 2557 / 01:36สู้ต่อไปค่ะไรต์ รออ่านเสมอ ^^#1740
-
#172 ทูตแห่งแสงและเงาที่บริสุทธิ์..ริเช่และริจูเอล (จากตอนที่ 43)วันที่ 17 ตุลาคม 2557 / 12:11เย้~!!~~ ลูกสาวได้ออกโรงแล้ว เมซี่จ๋าาา ((?)) ได้เจอกับซีเรียด้วย >< 555+ สู้ๆนะค่ะไรต์ ;w; รออยู่ค่ะ#1720
-
#171 Shadow♔Blood (จากตอนที่ 43)วันที่ 17 ตุลาคม 2557 / 01:34ค้างอีกตอนนะครับ555555 ผมรอตีพิมพ์อยู่นะครับบบบ#1710