ตอนที่ 39 : 31 : ความทรงจำที่สอง
Theme by {" SQWEEZ " THEME ( V.2 )}
31
ความทรงจำที่สอง
ตอนนี้ทั้งคู่กลับมายังที่พักพิงก่อนที่จะเริ่มลงมือในคืนนี้ การจะลากเฟอิซากลับมาที่นี่ถือว่าลำบากถ้าไม่ได้อาซีมช่วยพามามีหวังได้ไปถล่มด้วยภูษาเวทย์โดยไม่สนใจพวกทาสแน่ ถึงจะมีปัญหาตรงตอนที่อาซีมพาเฟอิซามาส่งและคีราเข้ามาช่วยไว้จนต้องโดนเขม็งด้วยสายตาน่ากลัวไปก็ตามที แต่พออธิบายว่าคีราเป็นคนของซีเรียอีกฝ่ายถึงได้เปลี่ยนท่าทีกลับมาเป็นปกติทันที
รักเจ้านายตัวเองข้างเดียวนี่มันลำบากจริงๆเลยนะว่าไหม...
“เท่าพวกเราไปถามพวกชาวบ้านมา ดูเหมือนจะมีแต่คนตอบว่าเลิกส่งทาสไปแล้วน่ะจ้ะ”
เมลเล่าถึงเรื่องที่ซีเรียให้ไปถามไถ่พวกชาวบ้านมาหลังจากที่พวกตนกลับมาที่พักได้ระยะหนึ่ง เป็นไปอย่างที่ได้ยินจากพวกลูฟของชาวบ้านที่นี่
การส่งออกทาสของจีซานไม่มีการส่งออกโดยตรง
แต่เป็นการแอบส่งออก...
“ระยะนี้พวกเด็กๆก็เริ่มหายไป โดยเฉพาะพวกผู้หญิงและพวกเด็กไร้ญาติครับ”
“งั้นเหรอ...”
ซีเรียนั่งอยู่บนขอบระเบียงหน้าต่างในห้องของเมลและคีราเหม่อมองออกไปด้านนอกก่อนจะลงมาหยิบผ้าคลุมสีดำสนิทมาคลุมปิดบังหน้าตาเช่นเดียวกับเฟอิซาที่แต่งตัวแบบเดียวกันเข้ามาภายในห้อง
“ไปกันได้แล้ว”
“อืม พี่คีรากับเมลอยู่ที่นี่นะ มันอันตราย”
“แต่ว่า!”
“ไม่มีแต่!” เฟอิซาขัดเมลขึ้นมาทันที “ถ้าเจ้าไปเรื่องมันจะยิ่งวุ่นวายรู้ไหม! อยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว!!”
สิ้นคำเฟอิซารีบลากแขนซีเรียออกไปจากห้องของสองพี่น้อง แต่คิดเหรอว่าเรื่องแบบนี้ทั้งคู่จะยอมอยู่นิ่งๆตามที่สั่ง เมื่อเฟอิซาและซีเรียออกไปจากโรงแรมทั้งสองจึงแอบตามไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว
สุดท้ายก็คลาดสายตา...
“ไปไหนกันแล้ว!?” เมลกวาดสายตามองไปรอบๆ
“....พี่ว่าทางนั้น” ผู้เป็นพี่ชี้ไปอีกเส้นทาง ฝ่ายน้องสาวก็ไม่คัดค้านอีกฝ่ายและยังเดินไปด้วยกัน
ทันใดนั้นเอง...
ฟุ่บ!!!
มือแกร่งของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งโผล่ออกมาจากมุมมืดกระชากร่างของทั้งสองเข้าไปในเงามืดยามราตรี ไร้เสียงใดตอบกลับมาในยามนี้มีเพียงความเงียบสงบ...
[ณ บ้านของเฟอิซา]
ขณะนี้เฟอิซาและซีเรียยืนอยู่หน้าบ้านขนาดใหญ่ที่ดูดีมีฐานะเหมือนคนร่ำรวย แต่ความร่ำรวยนั้นมาจากความทุกข์และความเจ็บปวดของมนุษย์ที่ถูกขายให้กลายเป็นทาสโดยไม่สนใจความรู้สึกของพวกเขา เช่นเดียวกับมนุษย์เราที่ยอมขายเพื่อน, คนรักและครอบครัวเพียงเพื่อสนองตัณหาและความปรารถนาของตนเอง
เด็กสาวมองบ้านหลังโตเบื้องหน้าตนเองด้วยสีหน้าเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หากแต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจนแทบจะระเบิดที่แห่งนี้ให้สิ้นซาก
“เฟอิซา...”
“เจ้าแค่ยืนนิ่งๆพอ ข้าจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง”
ไม่ทันเอ่ยสิ่งใดต่อ เฟอิซารีบเดินนำเข้าไปในบ้าน ภายในนั้นยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนเลยแม้แต่น้อย ข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อนก็ยังคงวางอยู่ที่เดิม บางส่วนดูแล้วเหมือนจะเป็นของใหม่ที่ราคาไม่น้อย สายตาของทั้งสองสอดส่องไปทั่วแต่กลับไม่พบใครแต่อย่างใด สรุปได้จากซีเรียที่ฟังจากเหล่าลูฟทำให้ทราบว่าตอนนี้พวกนั้นอยู่ที่ชั้นใต้ดินเพื่อวางแผนขนส่งพวกทาสออกไป สองสาวจึงตัดสินใจเดินลงไปยังชั้นใต้ดิน
“พวกแกเป็นใคร!!?” ชายฉกรรจ์คนหนึ่งหน้าตาดูเหี้ยมโหดตะโกนเสียงดังพร้อมชี้อาวุธใส่เฟอิซาและซีเรีย
“....เจ้าคือลูกน้องคนสนิทของตาแก่นั่นทำไมถึงจำหน้าข้าไม่ได้” เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่จริงๆแล้วเธอกำลังพยายามอดทนต่อความโกรธที่ใกล้จะปะทุออกมาอยู่รอมร่อ หากซีเรียไม่อยู่ข้างๆป่านนี้เธอก็คงใช้ภาชนะโลหะแล้วแน่แท้
คำพูดของเฟอิซาทำให้ชายฉกรรจ์นิ่งไปก่อนจะมองหน้าเธอและครุ่นคิด จนในที่สุดเขาก็นึกออก ใบหน้าเหี้ยมโหดถึงกับซีดเป็นไก่ต้มเมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าคือ...
“คะ...คุณหนูไอลิยา!!!?”
“ใช่ ข้าเอง ข้ากลับมาแล้ว...”
.....ไอลิยางั้นเหรอ... ซีเรียนึกในใจเมื่อได้ยินชื่อนั้นแทนที่จะเป็น ‘เฟอิซา’ เธอคาดเดาได้ว่าชื่ที่ถูกพูดออกมานั่นคือชื่อจริงของเด็กสาวข้างๆตน บวกกับเสียงของลูฟที่คาดว่าเป็นมารดาอีกฝ่ายยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเธอชื่อนั้น หญิงสาวไม่คิดจะถามออกมาเพราะรู้ดีว่าไม่ใช่เวลาแบบนั้น
“มีปัญหาอะไรกัน”
น้ำเสียงทุ่มต่ำแฝงไปด้วยความเยือกเย็นน่าขนลุก เด็กสาวสะดุ้งน้อยๆเมื่อรับรู้ได้ว่าคนที่ตนเองหมายหัวไว้อยู่ตรงหน้าตนเองแล้ว...
“.....แก”
“อะไรกัน ลูกสาวของข้ากลับมาบ้านแล้วรึนี่...” ผู้เป็นพ่อมองลูกสาวตนเองด้วยสายตาเหยียดหยาม
“ข้าไม่เคยคิดว่าแกเป็นพ่อเพราะงั้นอย่ามาเรียกข้าว่าลูก...”
“หึ... แกนี่มันเหมือนแม่ไม่มีผิด เป็นยังไงบ้างล่ะโลกข้างนอกน่ะสนุกดีไหม”
“ดีกว่าที่นี่ละกัน”
“รู้ไหมว่าที่นี่น่ะเปลี่ยนไปมากเลยนะ พวกทาสเนี่ยขายตรงไม่ได้จนเกือบแย่เลยล่ะ”
“รู้ เพราะงั้นถึงได้กลับมาไงล่ะ”
“...คิดจะกลับมาหยุดข้ารึยังไงกัน”
“เออ”
การสนทนาที่เต็มไปด้วยความตรึงเครียดและบรรยากาศกดดัน ทำให้ซีเรียและคนสนิทของฝ่ายพ่อโดนลืมไป การสนทนาครั้งนี้ไร้ความหมายสิ้นดีในเมื่อคุยไปอีกฝ่ายก็คงไม่หยุดง่ายๆตามที่บอกเป็นแน่แท้ และถึงซีเรียจะอยู่ด้วยก็ใช่ว่าจะหยุดการกระทำนั้นได้
สำคัญกว่านั้นคือพ่อของเฟอิซาในยามนี้นั้นเต็มไปด้วยเหล่าคำสาปแช่งและความอาฆาตพยาบาทของผู้คนที่ชายตรงหน้าเธอได้ทำไปมันมีมากกว่าพ่อค้าทาสคนอื่นที่เคยเจอมาในความทรงจำของซีเรียและเลย์ลาแค่ส่วนหนึ่ง และด้วยความสามารถของตนที่เป็นราชาแห่งความมืดลูซิเฟอร์ เพียงแค่ซีเรียเปลี่ยนสีตากลายเป็นสีแดงราวกับปีศาจร้ายเธอก็จะเห็นดวงชะตาชีวิตของอีกฝ่ายได้
“กู่ไม่กลับแล้ว...” หญิงสาวพึมพำเบาๆให้แค่ตนเองได้ยินก่อนจะเปลี่ยนสีตาเป็นสีน้ำตาลดังเดิม
ในตอนนี้ชะตาชีวิตของอีกฝ่ายใกล้จะสิ้นสุดลง และไม่ใช่เพราะด้วยอาการป่วยแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะใกล้จะถึงฆาตด้วยฝีมือใครบางคนในที่นี้
ใครที่ไม่ใช่เธอและคนสนิทของฝ่ายนั้น
ไม่มีใครอื่นนอกจาก...
“แล้วเข้าคิดจะหยุดข้ายังไงล่ะลูกข้า”
“ข้าก็จะ...ฆ่าแกไงล่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกคนสนิทของฝ่ายพ่อของเธอออกมายืนป้องกันเจ้านายของตน ถึงอย่างนั้นเฟอิซาก็ไม่หวั่นไหวและชักดาบออกมาป้องกัน รู้ทั้งรู้ว่าเดคาราเบียสิงสถิตอยู่ในนั้นแต่พอจะใช้พลังอีกฝ่ายกลับปฏิเสธเพราะยังไม่ยอมรับเธอ
“ใจเย็นๆหน่อยสิไอลิยา ใจร้อนไม่เปลี่ยนเลยนะ ทำไม...เราไม่มาคุยกันสักหน่อยล่ะ”
ปากบอกว่าคุยแต่กลับส่งสัญญาณมือบางอย่างบอกพวกคนสนิทก่อนจะที่พวกนั้นจะเดินเข้าไปข้างในสุดและนำบางอย่างออกมาจากห้องนั้นพร้อมกับตน
ซึ่งก็คือ...ทาส
“ฮึก..ฮืออออ...”
“ชะ...ช่วยด้วย... ช่วยพวกเราด้วย”
“พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูกลัว...ฮือออ”
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นจากเด็กหนุ่มสาววัยไล่เลี่ยกับเธอ บ้างก็มีเด็กอายุราวๆ 5-6 ขวบ เฟอิซากำด้ามดาบแน่นเมื่อรู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อถึงเกี่ยวกับพูดคุยกันก็คือเธอต้องเชื่อฟังอีกฝ่ายไม่อย่างนั้นพวกชาวบ้านที่โดนจับมาเป็นทาสโดนทำร้ายเป็นแน่ วิธีการสกปรกแบบนี้ในโลกนี้คงมีเพียงแค่ผู้ชายคนตรงหน้าเท่านั้นที่ทำ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลทองเหลือบมองหญิงสาวข้างกายที่ยังคงยืนนิ่งเฉยไม่ทำอะไรคงเป็นเพราะทำตามที่ตัวเธอบอกว่าไม่ให้ยื่นมือเข้ามาช่วย
“ว่าไง จะไม่นั่งคุยกันหน่อยเหรอลูกรัก...” ว่าพลางกระชับโซ่ที่ล่ามคอของทาสตัวน้อยคนหนึ่งที่ร้องไห้หาพ่อแม่ตัวเอง
“ฮือออออออ”
เฟอิซานิ่งไปก่อนจะก้มหน้ามองต่ำ เพียงไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องอีกฝ่าย “ข้าก็ยังคงตอบว่าไม่!!”
คำตอบนั้นสร้างความตกใจให้แก่พวกทาสและพวกลูกน้องของคนตรงหน้า ทั้งๆที่บอกว่าจะมากำจัดนายเหนือของตนและช่วยพวกทาส แต่ทำไมถึงปฏิเสธที่จะไม่ช่วย...
“................”
“นี่แกบอกว่าแกจะไม่สนใจเด็กนี่เลยรึไงห๊ะ!!” ลูกน้องคนหนึ่งตะโกนเสียงดัง
“ใครบอกว่าไม่สนใจ? ข้าแค่พูดว่าข้าไม่สนใจจะคุยกับนายของแก เพราะไม่ว่าจะคุยยังไงมันก็จะหาวิธีที่จะทำให้ข้ายอมสยบต่อมันเหมือนเมื่อก่อน!”
“ถ้ารู้อย่างนั้นแล้วทำไ..”
“ก็เพราะว่าข้าจะไม่ยอมสยบต่อเจ้าอีกต่อไป!!” เธอแย้งชายตรงหน้าหรือบิดาของตนขึ้นมา พลางเปลี่ยนข้างถือดาบให้เป็นข้างขวาแทน “ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาข้าเอาแต่หลบเจ้าเพราะความกลัวที่มอบให้ข้ามาตลอด!! ไม่ว่าจะเรื่องมารดาหรือเรื่องเพื่อนคนแรกของข้าที่โดนเจ้าฆ่าต่อหน้าต่อตา!”
ขวับ!!
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
เพียงแค่เฟอิซาสะบัดมือข้างขวาเท่านั้นพวกลูกน้องร้องเสียงดังและล้มลงไปนอนกองบนพื้นปล่อยให้โซ่ของพวกทาสที่เหลือนอกจากเด็กน้อยที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย เรื่องที่เกิดขึ้นเองก็ทำให้ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังคงปั้นหน้ายิ้มเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นพลางสอดส่องร่างของลูกน้องคนสนิทที่ล้มไป
เลือดสีแดงข้นไหลเจิ่งนองเต็มพื้นที่ โดยไม่เห็นอาวุธในการโจมตีจากเฟอิซา สิ่งที่เขาคาดไว้ไม่แน่อาจจะเป็นเพราะ...
“เด็กคนข้างๆลูกนั่นน่ะ เป็นจอมเวทย์งั้นรึ?”
ใช่... เขาคิดว่าซีเรียคือจอมเวทย์ เพราะบิดาของเฟอิซาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับภาชนะโลหะเลยสักนิดเดียว และสิ่งที่ได้ตอบกลับจากหญิงสาวก็คือการส่ายหน้าเบาๆ
“ข้าเป็นคนทำ ไม่ใช่นาง” เฟอิซาขัดขึ้นมา
“โฮ่... ลูกของข้าแข็งแกร่งขึ้นเยอะเลยนะ”
“ข้าไม่ใช่ลูกเจ้า!!”
“หึ ไม่ว่ายังไงเจ้าก็เป็นลูกสาวของข้า... เพราะงั้นข้าต้องเรียกเจ้าแบบนั้นอยู่แล้ว”
“หุบปาก! ข้าบอกว่าไม่ใช่!!!” เธอตะโกนเสียงดังพลางพุ่งไปหมายจะปลิดชีวิตอีกฝ่ายให้ตายภายในครั้งเดียว
ทว่า...
“!! เฟอิซา! หยุด!!”
ตุบ...!
“....!!!!”
ซีเรียตะโกนห้ามอีกฝ่ายขึ้นมาเมื่อสัมผัสบางอย่างได้แต่กลับไม่ทันเสียแล้ว เฟอิซาชะงักก่อนจะทรุดลงไปนอนกองบนพื้นเช่นเดียวกับเธอและเด็กที่เป็นทาสคนนั้น
“อะ....อะไรกัน ทำไมร่างกายมัน...น...หนักแบบนี้”
“อึก...เจ้าสร้อยที่ห้อยอยู่นั่น...อาวุธเวทย์มนตร์สินะ...”
“อาวุธ...เวทย์มนตร์งั้นเหรอ?”
“ใช่ เป็นอาวุธอย่างหนึ่งจากมัคโนซุสตัสน่ะ... อึก... คนที่มีมันได้แสดงว่าต้องไปติดต่อกับฝ่ายนั้นไม่น้อยและน่าจะเป็นอาวุธต้องห้ามด้วย”
คำตอบจากซีเรียทำเอาอีกฝ่ายนิ่งก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่น “ใช่!! ฉลาดดีนี่! ข้าได้มันมาจากไอ้แก่คนหนึ่งที่ไปเจอโดยบังเอิญ! เห็นมันบอกว่าข้าเนี่ยมีคุณสมบัติพอที่จะใช้มันได้เลยให้ข้ามา ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันคืออะไรแต่พอลองใช้แล้วมันก็ไม่เลวเลย! เห็นว่าพลังของมันจะทำให้ร่างกายหนักขึ้นเท่ากับความเจ็บปวดในใจของตัวเองเลยล่ะ ยิ่งมากยิ่งหนัก!”
“กรอด...!!”
ปึก!!
“อ้าวๆ ทำไมทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นล่ะลูกรัก น่าจะดีใจนะที่ได้เจอหน้าพ่อของแกเนี่ย!”
ยกเท้าขึ้นมาเหยียบย่ำหัวของลูกสาวของตนอย่างไม่ใยดี ไม่เพียงเท่านั้นยังกระหน่ำย้ำลงไปอย่างรุนแรง เด็กสาวใต้ฝ่าเท้าทำได้แค่กำหมัดแน่นยอมรับความเจ็บปวด ด้วยสายตาอาฆาต ซีเรียพยายามลุกขึ้นแต่เนื่องจากพลังของอาวุธเวทย์มนตร์อีกฝ่ายที่สร้างขึ้นจากความเจ็บปวดในใจ และสิ่งนั้นเธอมีมากกว่าคนอื่นๆในที่นี้ทำให้ขยับกายได้อย่างยากเย็น อย่างมากที่สุดก็แค่ลุกพิงกำแพงเท่านั้น จะขยับก็ยังลำบาก...
“แกนี่มันโง่เหมือนแม่แกไม่มีผิด!! ไอ้การค้าทาสเนี่ยมันทำให้ได้เงินมหาศาลมากกว่าการค้าขายงี่เง่าแท้ๆ!!!”
“คนที่โง่... มันแกต่างหากล่ะ”
“แกกล้าว่าข้าโง่เรอะ!!!”
“เออ! ข้าว่าแกนั่นแหล่ะไอ้สารเลว! คนที่โง่น่ะมันคือแกไม่ใช่ท่านแม่!! ค้าทาสดีกว่าขายของงั้นเหรอ...มันก็แค่ข้ออ้างของไอ้พวกขี้แพ้ไม่มีความพยายามเท่านั้นแหล่ะ!!! ปากก็บอกว่าพยายามแล้วแต่จริงๆแล้วแกก็เหมือนคนอื่นที่จริงๆแล้วไม่ได้พยายามเลยสักนิดเดียว!! ถ้าแกพยายามแล้ว...ป่านนี้ก็คงไม่มาเป็นไอ้โง่หลงอยู่แต่ในความมืดหรอก!!!”
“หุบปาก!!!”
ชายหนุ่มโวยเสียงดังก่อนจะหยิบแส้ออกมาจากใต้แขนเสื้อและฟาดลงบนร่างเด็กสาวท่ามกลางสายตาของซีเรียกับพวกทาส....และสายตาของใครบางคนที่จ้องมองมาจากมุมมืดแถวนั้น
และสายตาพวกนั้นซีเรียรู้ดีว่าคือใคร...
หมับ!!
“!!! อะ...อะไรกัน! ทำไมถึงยังขยับได้อีก!?”
มือเรียวบางเปื้อนเลือดข้างซ้ายจับแส้ของชายเบื้องบนแน่นเสียจนอีกฝ่ายไม่สามารถกระชากกลับไปได้ ฟันกัดริมฝีปากล่างแน่นจนเลือดไหลอาบคางตนเอง มืออีกข้างที่ว่างใช้ยันร่างตัวเองขึ้นพลางใช้พลังของภาชนะโลหะและแส้ที่อีกฝ่ายดึงเป็นตัวช่วยในการพยุงอีกแรง
“ความเจ็บปวดของข้า...มันก็แค่เกิดกับเจ้า” สายตาของเฟอิซาจดจ้องร่างของซีเรียที่นอนหมอบอยู่บนพื้น “....แต่ความเจ็บปวดของนางมากกว่า จะให้ข้ามาแพ้เพราะเจ้าน่ะข้ารับไม่ได้!!!”
ผัวะ!!!!!!!
“อั่ก...!!!!”
มือข้างขวาตะบันหน้าอีกฝ่ายอย่างรุนแรงด้วยพลังกายของเธอจนอีกฝ่ายกระเด็นไปกระแทกกับแพง ไม่เพียงเท่านั้นสร้อยคอชิ้นนั้นยังแตกละเอียดทำให้อาณาเขตของพลังหายไปจนหมดสิ้นทำให้เริ่มขยับตัวได้อีกครั้ง
“ขยับได้แล้ว... ! เด็กรีบหนีออกไปเร็ว!” ซีเรียตะโกนเสียงดังทำให้พวกเด็กๆสะดุ้งก่อนจะตั้งสติได้และวิ่งออกไปตามทางที่ซีเรียเดินนำไป แต่ก่อนจะออกไปเธอหันกลับมามองอีกฝ่าย “จัดการเองได้สินะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว...”
คำตอบที่ยืนยันจากอีกฝ่ายทำให้ซีเรียพาพวกเด็กๆออกไปจากบ้านหลังนี้และส่งต่อให้กลุ่มคนที่แอบมองอยู่เมื่อครู่นี้
ภายในนั้นเงียบสนิทไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา เฟอิซาทำได้เพียงแค่ยืนมองอีกฝ่ายที่แน่นิ่งไม่ไหวติง แต่เธอก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตายเพียงแค่เพราะหมัดเดียวแน่นอน และถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะฟื้นขึ้นมาเธอก็จะ...
ฉัวะ!!!
“!!! อ้ากกกกกกกกกกกกก!!!”
จะย้ำซ้ำเติมด้วยการทรมานอีกฝ่ายด้วยการตัดแขนอีกฝ่ายข้างที่ทำร้ายมารดาและเพื่อนคนแรกของตน รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดีแต่เธอก็จะทำเพราะต้องการให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความเจ็บปวดของตนเองและมารดาที่ได้รับมาตลอดแต่ถึงอย่างนั้น...อีกฝ่ายก็คือพ่อตัวเอง
“.....แค่ก” ผู้เป็นพ่อกระอักเลือดออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน สายตาจ้องมองลูกสาวของตนด้วยสายตาอาฆาตยิ่งรู้ว่าดาบของอีกฝ่ายจอคออยู่ แต่เมื่อได้เห็นบางอย่างบนใบหน้าอีกฝ่ายถึงกับชะงักไป...
เมื่อสิ่งนั้นคือน้ำตาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนบนใบหน้าลูกสาวตัวเอง
“เจ้า...”
นิ้วเรียวยาวปาดน้ำตาบนใบหน้าของตนออก นึกเจ็บใจกับความอ่อนแอตนเอง ทั้งๆที่แค้นใจมาตลอดหลายปี แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึงพ่อตัวเอง
“เรื่องในอดีตข้าอโหสิให้เพราะข้าคิดว่าท่านแม่ก็คงคิดเช่นนี้....เพราะงั้นอย่าได้เจอกันอีกเลย”
“.....ก็ดีเหมือนกัน...ข้าก็ไม่อยากเจอหน้าเจ้าอีก”
ฉัวะ!!!!!
คมดาบสีเงินฟาดฟันลงบนร่างอีกฝ่ายอย่างรุนแรง สะบันคออีกฝ่ายจนหัวหลุดออกจากบ่าตกลงไปกองบนพื้น ร่างอีกฝ่ายกระตุกเกร็งจนเลือดพุ่งออกมาเต็มบริเวณอาบผ้าคลุมตัวจนเปรอะเปื้อนไปหมด เด็กสาวมองร่างอีกฝ่ายที่แน่นิ่งไปก่อนจะเดินไปสำรวจภายในและเป็นไปอย่างที่คิด ที่แห่งนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ทั้งสัตว์ประหลาดที่พ่อเธอจับมาให้กินเพื่อนเธอและซากศพของทาสที่ตายเพราะโดนทรมาน ถึงแม้การฆ่ากันจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะให้อภัยแต่ถ้าไม่ทำเพื่อหยุดพ่อของเธอ... แล้วใครจะทำมัน?
“เป็นยังไงบ้างเฟอิซา?” น้ำเสียงคุ้นเคยทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง ซึ่งคนที่เข้ามาคือซีเรีย คีราและเมล
“ข้านึกแล้วว่ายังไงพวกเจ้าทั้งสองคนก็ต้องตามมา” เด็กสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ
“ขอโทษจ้ะ แต่พวกเราเป็นห่วงเฟอิซาจังนะ”
“ข้ารู้” ดวงตาสีทองเหลือบมองซีเรียที่เดินไปยืนอยู่ที่ห้องขังว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยโซ่ตรวนและคราบเลือด “มีอะไรรึไง?”
“....พอชายคนนั้นตายความทรงจำของข้าจึงกลับมา จริงอยู่ที่ว่าไม่จำเป็นต้องฆ่าเพื่อที่จะได้ความทรงจำกลับมา แต่เพราะชายคนนี้ไม่มีอะไรที่น่าจดจำดังนั้น...ถ้าไม่ฆ่าทิ้งความทรงจำข้าคงไม่มีวันกลับ”
คำพูดของหญิงสาวทำให้ทั้งสามคนพยักหน้าตอบรับน้อยๆ ซีเรียยกมือขึ้นกอบกุมบางอย่างไว้แน่นิ่งก่อนจะเผยมันออกช้าๆ นกสีดำซึ่งเฟอิซาคาดได้ว่าเป็นพ่อของเธอ ไม่นานมันกลับกลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์
“จริงอยู่ที่ว่ามนุษย์บางคนมีชะตากรรมที่แสนเศร้า ต้องทนเจ็บปวดทรมานจนต้องสาปแช่งโชคชะตาและชะตากรรมของตน แต่พวกเขาก็ยังไม่สิ้นความหวังไปจนหมด...” มือเรียวยกขึ้นปล่อยให้ลูฟสีขาวนั้นบินขึ้นก่อนจะหันไปมองเฟอิซาที่น้ำตานองหน้า “หากพวกเขาได้พบความหวังใหม่ของชีวิตและได้รับรู้ถึงความเป็นไปของชะตากรรมนั้น... ความเจ็บปวดก็จะหายไปและทนแทนด้วยความอ่อนโยน... ข้าขออธิษฐานให้พ่อของเจ้าได้เจอกับเส้นทางนั้นอีกครั้ง...”
ไม่นานทั้งสี่คนจึงออกมาจากบ้านหลังนั้น เฟอิซาได้ขอร้องให้ซีเรียใช้พลังของเธอในการเผาทำลายมันทิ้งแน่นอนว่าซีเรียยอมทำตามที่อีกฝ่ายขอ แม้ว่าบ้านหลังนี้ที่เป็นสถานที่ที่เธอเกิดและเติบโต แต่มันกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดของทุกๆคนที่ต้องทรมานจากน้ำมือพ่อของเธอเพราะงั้นมันสมควรที่จะหายไป และถึงบ้านจะหายไปแต่สิ่งที่เกี่ยวกับเรื่องในอดีตก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของเธอไม่จางหายไป
ส่วนความทรงจำของซีเรียก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ ก็คือหลังจากที่เฟอิซาโดนแม่ของเธอส่งขึ้นขบวนคาราวานออกจากที่นี่เลย์ลาก็ถูกซื้อตัวมาไว้ที่จีซานและโดนขังไว้ที่ห้องที่ซีเรียยืนอยู่ตรงนั้น เธอโดนทรมานสามวันสามคืนเพราะไม่ยอมพูด ถูกล่ามโซ่เพราะโดนหาว่าเป็นปีศาจและเพื่อกันหนี ก่อนจะถูกนำไปขายต่อพวกเศรษฐีและต่อจากนั้นก็ถูกขายต่อไปส่งไปยังจักรวรรดิโควก่อนจะโดนเกียคุเอนซื้อตัวไป
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ผ่านมาได้ 3 วัน เฟอิซาได้สร้างร้านของตัวเองที่จีซานในจุดที่บ้านของตนโดนไฟไหม้ไปครั้งนั้นพวกทาสที่โดนจับตัวมาถูกปล่อยกลับคืนสู่ครอบครัวตนเอง เด็กคนไหนที่ไม่มีครอบครัวเฟอิซาได้ให้มาทำงานกับตนเอง และได้เกิดเรื่องหลายๆอย่าง
“จะขอแยกออกไปเดินทางคนเดียว?”
“อื้ม ใช่แล้วล่ะ”
เมลขอแยกออกไปเดินทางเพียงลำพังเพื่อฝึกปรือฝีมือและการต่อสู้ เธอเลือกที่จะไปกับกลุ่มคาราวานที่กำลังจะผ่านมาทางนี้ แน่นอนว่าคีราเองก็ไม่ยอมแต่ซีเรียอนุญาตจึงไม่สามารถโต้เถียง ส่วนเฟอิซากลับเขินอายเมื่อได้ยินสาเหตุที่เมลขอออกเดินทาง
“ตั้งแต่วันนี้ที่ข้าได้ยินเรื่องของเฟอิซาจังข้าก็เก็บมาคิดตลอดเวลา ข้าเอาแต่พูดว่าข้าอ่อนแอ ข้าไร้ความสามารถปกป้องใครก็ไม่ได้ทั้งๆที่ไม่ได้พยายามทำเลยแม้แต่น้อย ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าเป็นได้แค่ตัวถ่วงของทุกคน เพราะงั้น....ข้าจึงอยากแข็งแกร่งขึ้นและอยากเข้มแข็งขึ้นเหมือนเฟอิซาจังเพื่อที่จะได้ปกป้องทุกคนบ้าง!”
คำตอบนั้นทำเอาเฟอิซาเกือบหลุดหน้าแดงออกไป แน่นอนว่าเรื่องนี้มีแค่ซีเรียที่รู้ว่าเฟอิซากำลังดีใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นดวงตาสีน้ำตาลกลายเป็นสีแดงเลือดโดยที่เธอไม่ได้ใช้พลัง
“อ๊ะ...” หญิงสาวอุทานเบาๆเมื่อเห็นบางอย่างเข้า ริมฝีปากยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนที่ดวงตาจะกลับคืนเป็นสีน้ำตาล
วันรุ่งขึ้นที่เป็นวันเดินทางเมลจึงแยกตัวออกไปกับกลุ่มคาราวานโดยขึ้นรถม้าของคนกลุ่มหนึ่งที่เฟอิซารู้สึกคุ้นเคยแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะสวมผ้าคลุมปิดบังร่างกาย แต่การคาดเดาจากส่วนสูงน่าจะเป็นชายหนึ่งหญิงสอง แถมยังดูมีมารยาทกับซีเรียไม่น้อย
“ฝากเพื่อนของข้าด้วยนะ”
“รับคำสั่งค่ะ...” หญิงสาวในชุดผ้าคลุมยกยิ้มก่อนจะเดินขึ้นรถม้าไป ไม่นานขบวนคาราวานก็ออกเดินทาง...
“เอาล่ะ! ต่อไปข้าขอเลือกที่ที่เจ้าจะไปบ้างนะซีเรีย!”
“หืม? ได้สิ ที่ไหนเหรอ”
เฟอิซายกยิ้มมุมปาก “จักรวรรดิโคว(เจิดจรัส)ไงล่ะ!!!”
ไม่เม้นไม่แต่งต่อเน้อ ถ้าอยากอ่านตอนต่อไป 6 เม้น up!!!
[แต่ไม่ขอบอกว่าจะอัพตอนไหน (หนีไปทำงาน)]
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

346 ความคิดเห็น
-
#336 supawee6371 (จากตอนที่ 39)วันที่ 12 ตุลาคม 2559 / 07:16กรี๊ดดดดดดด!!เจอท่านโคเอนไวๆนะค้าาาา#3360
-
#247 โยนะ ฮิเมะ (จากตอนที่ 39)วันที่ 18 เมษายน 2558 / 19:04ซีเรียจังจะได้เจอกับโคเอนแล้ว>w<#2470
-
#155 Pun Pun NaKab (จากตอนที่ 39)วันที่ 26 กันยายน 2557 / 00:09ไปหาเสี่ยยยย go go#1550
-
#137 †+Liz+† (จากตอนที่ 39)วันที่ 26 สิงหาคม 2557 / 06:48ไรท์ห้ามอู้น่ะ! -^- สูๆต่อไปล่ะ เราติดนิยายเรื่องนี้มากๆเลย #เลยลืมเม้น แอ้ก!; #มีร้องเท้าปาใส่หน้า(?)#1370
-
#134 my lovely >//< (จากตอนที่ 39)วันที่ 12 สิงหาคม 2557 / 21:59จะกลับสู่จักรวรรดิโควแล้ว > #1340#133 Shadow♔Blood (จากตอนที่ 39)วันที่ 10 สิงหาคม 2557 / 07:32อื้อหือ~~ เฟอิซาใจแข็งไม่น้อยเลยนะครับเยี่ย!! รอตอนต่อไปที่จักรวรรดิโควนะครับ ^^#1330#132 ทูตแห่งแสงและเงาที่บริสุทธิ์..ริเช่และริจูเอล (จากตอนที่ 39)วันที่ 9 สิงหาคม 2557 / 10:59สู้ๆนะค่ะไรต์ ><#1320