ตอนที่ 32 : 25 : ดันเจี้ยนที่ 69
25
ดันเจี้ยนที่ 69
“เราต้องเข้าไปในดันเจี้ยนนั่น!!”
“...ห๊า!!”
“ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหล่ะ!ถ้าไม่เข้าไปมีหวังหมอนั่นตายแน่!”
ซีเรียก้มหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่เธอไม่ไว้ใจแถมลูฟกลายเป็นสีดำเพราะสาปแช่งชะตากรรมจนตกลงสู่ความเสื่อม
ถึงจะไม่รู้ว่าซาลิมสาปแช่งชะตากรรมทำไมหรือวางแผนอะไรไว้
แต่ยังไงอีกฝ่ายก็เป็นคนเหมือนๆกัน...
“ก็ได้! ไปกันเถอะ!”
สิ้นคำเฟอิซาและซีเรียวิ่งตรงไปยังดันเจี้ยนซึ่งตั้งอยู่ในป่าทันที ในเมื่อขึ้นชื่อว่าดันเจี้ยนแล้วก็คงไม่พ้นเรื่องอันตรายเป็นแน่ ถึงจะมีเฟอิซาซึ่งเป็นผู้พิชิตดันเจี้ยนมาด้วยก็ตามทีก็ยังไม่สามารถปักใจเชื่อได้ว่าจะรอดหรือไม่
ที่สำคัญคือ... การเข้าไปในดันเจี้ยนส่วนใหญ่มักจะมีเมไจเป็นผู้ชี้ทาง
เพราะภายในนั้นจะเต็มไปด้วยอันตรายหลากหลายรูปแบบที่ไม่มีใครคาดเดาได้
แต่กว่าจะคิดถึงเรื่องนั้นได้พวกเธอก็มายืนอยู่ที่ทางเข้าเสียแล้ว....
ซีเรียจ้องมองทางเข้าดันเจี้ยนตอนนี้ตัวเริ่มสั่นเล็กน้อย ถึงแม้จะบอกว่าเตรียมใจมาตลอดเวลา แต่พอมายืนอยู่ตรงนี้กลับรู้สึกกลัวอย่างแปลกประหลาด
...เจ้าจะปลอดภัยแน่นอน...
“!” หญิงสาวหันไปมองรอบๆเมื่อได้ยินเสียงนั้นในฝันอีกครั้ง
เสียงของชายนามว่า ‘ลูซิเฟอร์’
“ซีเรีย!!”
เสียงตะโกนของเฟอิซาเรียกสติของเธอให้กลับมาอีกครั้ง “อะ....อะไรเหรอ”
“ข้าต่างหากที่ต้องเป็นคนถามเจ้า เรียกตั้งหลายรอบแล้ว รู้สึกกลัวขึ้นมารึไงกัน?”
“ก็นะ... ไม่คิดว่าจะได้มายืนอยู่ตรงนี้จริงๆ”
“ถ้าแค่นี้ยังกลัว เข้าไปคงไม่รอดหรอก เอ้านี่ข้าให้” เด็กสาวยื่นมีดสั้นให้อีกฝ่าย “อย่างน้อยก็น่าจะช่วยป้องกันตัวได้ แล้วก็ระวังตัวด้วยล่ะเพราะไม่แน่ว่าเวลาที่พวกเราเข้าไปมันจะเหลื่อมกันอาจทำให้แยกกันได้ ไม่ต้องห่วงข้า ข้ามีดาบยาวและจินไว้ป้องกันตัวอยู่แล้วล่ะนะ”
“....เข้าใจแล้ว” ยื่นมือไปรับมีดสั้นมาคาดเอวไว้
“ถ้างั้นก็ไปกันได้แล้ว!”
“อื้ม!!” หญิงสาวรีบวิ่งตามเฟอิซาเข้าประตูทางเข้าดันเจี้ยนไป
โดยไม่เอะใจถึงสายตาของใครบางคนที่จ้องมองมองมาอย่างไม่เป็นมิตร…
แต่พอเธอเข้าไปแล้วร่างกายกลับรู้สึกถึงสายลมพัดใส่ร่างอย่างรุนแรง อีกทั้งเหมือนกับมีแรงบางอย่างดึงดูดเข้าไปในประตูมากกว่าเดินเข้าไปภายใน
รุนแรงเสียจนร่างแทบจะฉีกขาดเป็นชิ้นๆเลยทีเดียว
วิ้งงงง...!!
“เฟอิซาจัง!”
หญิงสาวหันไปมองรอบๆเมื่อไม่พบอีกฝ่าย จนเหลือบไปเห็นบางอย่างเข้า
“นะ...นั่นมันอะไรกัน!!”
ภาพเบื้องหน้าของเธอคือโลกใบใหญ่สีฟ้างดงามและเหล่าเสาเปล่งประกายสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาจากพื้นผิวโลกและตอนนี้ซีเรียอยู่ในเสสีทองต้นหนึ่ง ทั้งๆที่เธอพึ่งเคยเข้ามาที่นี่เป็นที่แรกแต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคย เหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...
ทันในนั้นเองตัวเธอก็ดูดเข้าไปในเสาต้นนั้น
....มะ...มันกำลังดึงเราเข้าไป!!!!... เธอโวยวายเสียงดังในใจ
.
.
.
.
.
ดึ๋งงง...!
“ว้าย!!”
ถึงกับร้องเสียงหลงเลยทีเดียวเมื่อจู่ๆก็ตกลงมาจากข้างบนลงมาบนบางอย่างที่นุ่มนิ่ม แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่ปลอดภัย
“ทะ....ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย...” หญิงสาวมองไปรอบๆเมื่อไม่พบเฟอิซา
ไม่นานก็พาร่างลงมาจากของนุ่มนิ่มนั่น พอหันไปมองจึงได้รู้ว่ามันคือก้อนเมฆ
เมื่อมองเหนือขึ้นไปคือรูปดาวแปดแฉกส่องสว่าง
พอก้าวเท้าออกตัวเดินไปรอบกายเริ่มส่องสว่างขึ้นจนเห็นเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวชอุ่มเต็มไปด้วยต้นไม้สีชมพู สีแดง และสีเขียวแก่บ่งบอกถึงความแตกต่างของฤดู ตัดกับท้องฟ้าสีครามงดงาม สายลมที่พัดมาเบาๆชวนให้ผ่อนคลาย
ยิ่งเห็นแบบนี้เธอยิ่งรู้สึกคุ้นเคยมากกว่าเดิม...
“นี่มันอะไร?” หญิงสาวก้มลงไปที่พุ่มไม้แถวนั้น
มันคือดอกไม้รูปร่างแปลกประหลาดเรืองแสงได้และคล้ายกับลิลลี่แต่มีสีรุ้ง
กลิ่นหอมชวนหลงใหลจนทำให้เธอเคลิ้มไปเล็กน้อย...
“!!!” ซีเรียสะดุ้งเมื่อพวกลูฟรอบๆข้างช่วยเข้ามาดึงสติให้ “เกือบไปแล้วสิเรา”
ซีเรียมองทางเดินซึ่งแยกได้หลายทาง หากผิดเส้นคงได้ตายแน่
...ทางนี้...
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้งครั้งนี้ซีเรียได้ยินชัดเจนว่ามันออกมาจากอัญมณีสีฟ้าใสซึ่งประดับอยู่บนปลอกข้อมือของเธอ เหล่าลูฟสีขาว-ดำบินออกมาก่อตัวเป็นหญิงสาวที่เคยเห็นในฝัน เธอคลี่ยิ้มบางและคืนร่างเป็นลูฟบินไปยังทางหนึ่ง
...ตามมาทางนี้สิ...
“....อึก” ใจหนึ่งก็หวั่นเล็กน้อยแต่อีกใจกลับรู้สึกว่าไว้ใจได้
สุดท้ายก็เลือกที่จะเดินตามอีกฝ่ายไป แต่นั่นก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดแล้วสำหรับตัวซีเรียเอง
และการเชื่อใจนั่นทำให้เธอรอดพ้นความตายมาได้
เส้นทางที่ซีเรียไม่ได้เลือกกลับมีเหล่าสายตานับร้อยนับพันกำลังจับจ้องตัวเธอเขม็ง แต่พวกมันกลับไม่ยอมปรากฏกายออกมาให้เห็น ทั้งยังมีอาการสั่นเล็กน้อย
เพราะอะไรกันนะ...
“จะว่าไป...เฟอิซาหายไปไหนกันนะ”
[ทางด้านเฟอิซา]
เคร้ง!!! เคร้ง!!!
“ธนูมากจากไหนกันล่ะเนี่ยให้ตายเถอะ!!!” เด็กสาวผู้กำลังถูกพูดถึงอยู่ตอนนี้กำลังวิ่งหนีโดยใช้ดาบยาวปัดลูกธนูที่พุ่งใส่ตัวเองนับไม่ถ้วน
เฟอิซามาถึงภายในดันเจี้ยนก่อนหน้าซีเรียเพราะเวลามันเหลื่อมกัน พอเข้ามาถึงตอนแรกก็รู้สึกเฉยๆเพราะตัวเองเคยเข้าดันเจี้ยนของโอโรบัสมาแล้ว ทางแยกรอบแรกที่มาถึงก็เลือกเส้นทางที่ถูกต้องถึงรอดมาได้ แต่ทว่า...หลังจากเลือกทางแยกเดินตรงทางแยกครั้งที่ 2 เข้ามาได้สักพักกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป
และในตอนนั้นเองได้มีห่าธนูพุ่งออกมาจากในป่าโจมตีใส่เธอตลอดทาง
ไม่ว่าจะวิ่งหลบไปทางไหนมันก็ยังคงไล่ยิงใส่ไม่ยั้ง
จนเธอรับรู้ได้ว่ามีคนแอบซ่อนอยู่หลังต้นไม้...
“!! ใครอยู่ตรงนั้น!!”
เธอพุ่งไปฟันต้นไม้ต้นนั้นจนพังเป็นชิ้นๆ ด้วยดาบยาวโดยใช้พลังกายผสมกับมะโก่ยเพียงน้อยนิดก็สามารถทำให้มันกลายเป็นตัวเพิ่มแรงให้ดาบมีอานุภาพมากกว่าเดิม ซึ่งมันเป็น 1 ในสิ่งที่อาจารย์ของเธอที่เรมหรือก็คือเซลีนีสอนให้
มันคือท่าง่ายๆของกลาดิเอเตอร์ที่อยากเอาตัวรอดในโคลอสเซียมเท่านั้นเอง
สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าก็คือสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนมันมีรูปลักษณ์เหมือนกับนกสีฟ้าที่มีจงอยและฟันแหลมคม แต่ส่วนร่างกายเหมือนกับมนุษย์เพศชาย
และ...มันใช้หอกขึ้นมากันการโจมตีของเฟอิซาได้!!
“ตะ...ตัวอะไรกันล่ะเ--...ว้าย!!!”
ตูมมมมม!!!
ร่างของเด็กสาวปลิวไปกระแทกกับก้อนหินก้อนใหญ่แถวนั้นจนแตกกระจายเป็นชิ้นๆ สำหรับตัวเฟอิซานี่ถือว่าเบากว่าที่เคยโดนเซลีนีอัดมาเยอะนัก...
“อั่ก!!”
“แกว๊กกกกก!!!!!!!!!!!” นกสีฟ้าตัวนั้นกรีดร้องเสียงดังและพุ่งเข้าใส่เธออีกครั้ง
“!!!!” ทันทีที่ได้สติก็ยกดาบขึ้นมากันหอกและฟันนกสีฟ้าตัวนั้น
ทว่าทันทีที่ดาบฟาดฟันลงบนตัวของมันนั่นเอง...
เพล้งง!!!
ดาบก็แตกเป็นเสี่ยงๆกระจัดกายไปทั่ว!
“!! ปะ...เป็นไปไม่ได้!! อั่ก!!”
ถึงกับสำลักอีกครั้งเมื่อตัวหอกฟาดลงบนท้องจนกระเด็น แต่ไม่ทันที่หลังจะโดนพื้นนกสีฟ้าอีกตัวที่หลบอยู่หลังต้นไม้ก็โผล่ออกมาฟาดเข้าจนกระแทกกับพื้นอย่างแรง
“แค่ก!!” สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ
ตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในป่าที่อันตรายที่สุดส่วนหนึ่งของดันเจี้ยนแห่งนี้ซะแล้ว
“ดาบธรรมดาทำอะไรไม่ได้ แล้วยัยนั่นจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย!”
ว่าพลางรวบรวมมะโก่ยไปที่ปลอกข้อมือด้านซ้ายและแปลงให้เป็นอาวุธภูษาเวทย์ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายกับธนู เดิมทีศึกครั้งที่แล้วสาเหตุที่เธอไม่ใช้อาวุธแปลงร่วมกับร่างภูษาเวทย์เพราะว่าไม่ทันคิดหรือก็คือมัวแต่โกรธ...
แต่ตอนนี้เฟอิซาคิดได้แล้วว่าต้องใจเย็นมากกว่านี้
...คงต้องรีบหายัยนั่นให้เร็วที่สุดซะแล้ว!!!... นึกในใจพลางง้างธนูชี้ขึ้นฟ้า
เมื่อเห็นว่านกพวกนั้นเริ่มออกมาจากที่ซ่อนและจะรุมแทงตัวเองที่นอนอยู่จึงปล่อยมือจากคันธนู
“เอาไปกินซะ!!”
ฟ้าววววว!!!! ฉึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!
“แกว๊กกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!”
พวกมันกรีดร้องเสียงดังเมื่อลูกธนูที่เฟอิซายิงขึ้นไปบนฟ้าแตะกระจายและตกลงมาปลายเป็นฝนเข็มวารีนับสิบแทงเข้าที่หัวใจของพวกมัน
เด็กสาวอาศัยจังหวะนี้วิ่งหนีออกมาจากป่าทันที
ก็ใครเขาจะโง่อยู่ต่ออีกล่ะ
.
.
.
แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าพวกนกประหลาดก็ยังตามมาอีก!
“เฟอิซา!!” เสียงตะโกนที่คุ้นเคยทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมามอง
คนที่เรียกมาคือซีเรียที่กำลังเดินมาหานั่นเอง
“ยัยบ้า!! หนีเร็ว!!!”
“ห๊ะ?...ว้ายย!!” ไม่ทันจะพูดอะไรต่อก็โดนเฟอิซาลากออกไปจากตรงนั้น “เดี๋ยวๆๆๆ!! หนีที่ว่านี่ใครเหรอ!!”
“ก็เจ้าพวกนกประหลาดนั่นไง!”
“นกไหน!?”
เอี๊ยดดดดด!!!
เพียงแค่นั้นแหล่ะถึงกับเบรกกะทันหันเลยทีเดียว พอหันไปมองอีกครั้งปรากฏว่าไม่มีพวกนกสีฟ้าพวกนั้นเลยสักตัวเดียว ทั้งๆที่ตอนเธอวิ่งออกมายังมีอยู่เต็มไปหมด
“ไหนล่ะนก? ตั้งแต่เดินมาเมื่อกี้ไม่เจอเลยซักตัวเดียว”
“...เจ้าเดินมาทางไหน?”
“อื๋อ? ทางนั้นน่ะ” ซีเรียชี้ไปที่เส้นทางเดียวกับที่เฟอิซาเดินมาตอนแรก
“โชคดีเกินไปแล้วเจ้าน่ะ”
“แหะๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พอดีลูฟนำทางให้น่ะ ยังไงก็ไปกันต่อเถอะ”
“อืม...”
ตลอดทางเดินเฟอิซาถึงกับนิ่งเงียบไปทันที การที่ซีเรียรอดมาได้โดยไร้บาดแผลอีกทั้งยังไม่มีสัตว์ในดันเจี้ยนโจมตีเลยสักตัวเดียวถือว่าแปลกเกินไปจนน่าสงสัย แต่จะให้ไปจับผิดมันก็ยังไงอยู่...
แถมทางที่เดินมาตัวเด็กสาวก็ไม่รู้ว่าถูกหรือไม่ เธอรู้เพียงอย่างเดียว
ก็คือแค่เธอเดินอยู่กับซีเรียก็ไม่มีสัตว์ตัวไหนกล้าเข้ามายุ่งเท่านั้นเอง...
มันแปลกเกินไปแล้ว...
กึก...
“? เป็นอะไรไปอีก?” เฟอิซาชะงักเมื่อคนเดินนำหน้าอยู่หยุดเดิน
“ดูนั่นสิสวยจังเลยว่ามั๊ย” นิ้วเรียวชี้ไปยังพุ่มดอกไม้เต็มไปด้วยผีเสื้อสีเขียวน้ำทะเลบินตอมเต็มไปหมด
แน่นอนว่าซีเรียคงรู้ว่าคำตอบของเฟอิซาคืออะไร
“...กะ...ก็งั้นๆแหล่ะ”
ใช่แล้ว ไม่กล้าพูดว่าสวยให้ได้ยินชัดๆนั่นเอง
ผีเสื้อตัวหนึ่งบินมาเกาะที่นิ้วของซีเรีย “ดูเหมือนจะสนิทกับคนด้วยนะ”
“เหรอ...” ร่างเล็กลังเลก่อนจะยื่นมือออกไปบ้าง ไม่นานก็มีผีเสื้อบินมาเกาะที่นิ้ว
จังหวะนั้นเองพวกผีเสื้อก็ได้ปล่อยละอองบางอย่างออกมาเมื่อขยับปีก เฟอิซาสังหรณ์ใจไม่ดีจึงรีบสะบัดมือให้พวกผีเสื้อออกไป
“! แย่ล่ะ! รีบกลั้นหายใจเร็ว”
เธอตะโกนเสียงดังพลางยกมือขึ้นมาปิดจมูก แต่มันสายไปแล้วเมื่อจู่ๆอีกฝ่ายนิ่งเงียบไป และดวงตาของเธอเองก็เริ่มพร่ามัว ภายในร่างเริ่มร้อนขึ้นจนเหงื่อไหลออกมาตามใบหน้า อีกทั้งใจเต้นแรงผิดปกติ
‘เฟอิซา’
“!!!”
ภาพของผู้ชายน่ารังเกียจที่สุดในชีวิตของเธอโผล่มาแทนที่ซีเรีย
ภาพของของชายที่เธอเกลียดมาที่สุดในชีวิต...
เกลียด...ปานจะฆ่าให้ตาย
ครืนนนนนน!!!!
“ก...แก!!ไอ้สารเลว!!” ทั้งที่ใจเย็นมาโดยตลอดแต่ทว่าความโกรธกลับเข้าครอบงำจนไม่สนใจอะไรอีก เฟอิซาสวมร่างภูษาเวทย์โอโรบัสหมายจะปลิดชีพอีกฝ่ายในครั้งเดียว
หารู้ไม่ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือซีเรียซึ่งกำลังยืนทึ้งผมตัวเองอยู่
‘ยัยปีศาจ!!!’
‘เจ้าฆ่าลูกข้า!!!’
‘ข้าขอสาปแช่งเจ้า!!’
‘ตายไปซะ!!!!’
นานาคำด่าทอสาปแช่งไร้ที่มาพรั่งพรูออกมาจากในสมอง รอบข้างแประเปลี่ยนเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเปลวเพลิงโหมกระหน่ำจนน่าหวาดกลัว ผู้คนต่างพากันล้มตาย บางคนก็ชี้หน้าสาปแช่งซีเรีย ทั้งๆที่เธอไม่เคยฆ่าใครมาก่อนแต่กลับรู้ได้ว่ามันกล่าวถึงตนเอง หยาดน้ำเออคลอดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มไหลอาบใบหน้าด้วยความกลัว
และตอนนั้นเอง... ดวงตาของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงน่ากลัวราวกับปีศาจร้าย
“ตาย!!!!” เสียงของเฟอิซาทำให้เธอหันไปมอง
มือยกขึ้นมาจ่อยังทิศทางเดียวกับอีกฝ่าย ตราสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกกลับหัวเปล่งแสงสีแดงออกมาจากหลังฝ่ามือ ลูฟจากพื้นหญ้าบริเวณรอบๆโดนดูดจนแห้งเฉา
ลูฟพวกนั้นรวมตัวกันกลายเป็นลูกบอลลูกเล็กด้านหน้าฝ่ามือ
แม้มันจะลูกเล็กแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวที่ไม่มีใครคาดเดาได้...
ทว่า...วินาทีที่ทั้งสองคนกำลังจะปะทะกันนั่นเอง
‘หยุดนะ!’
“!!!!”
ตูมมมมมมมม!!!!!!!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เวลาผ่านมานานไม่มีใครรู้หลังจากการต่อสู้เมื่อครู่นี้ นิ้วเรียวยาวของหญิงสาวผมสีดำเริ่มขยับเล็กน้อย เปลือกตาปรือมองภาพตรงหน้าช้าๆเพื่อปรับสภาพของแสงสว่างก่อนจะพยุงตัวนั่ง
“.....เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย...” ซีเรียมองไปรอบกาย
ตอนนี้ตัวเธอและเฟอิซานั่งอยู่ในหลุมขนาดใหญ่บนพื้น แถมเสื้อผ้าบางส่วนขาดวิ่น
“ฟะ...เฟอิซา เฟอิซา!” เธอหันไปเขย่าร่างของเด็กสาวซึ่งนอนข้างๆตนเอง
“อึก...” เด็กสาวเริ่มได้สติก่อนจะลุกขึ้นมอง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันล่ะ?”
สิ้นประโยคเฟอิซามองไปรอบๆตัวทันที เท่าที่เธอจำได้คือหลังจากสูดกลิ่นบางอย่างจากผีเสื้อที่บินมาเกาะที่นิ้วก็เห็นพ่อของตัวเองจนไม่สามารถควบคุมสติได้จนใช้ร่างแปลงภูษาเวทย์หมายจะจัดการในครั้งเดียว
แต่มีคนโผล่มาขวางไว้...
“เลย์ลา...”
ชื่อที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากถึงกับทำให้ซีเรียนิ่งไป
“ข้าเห็น...ผู้หญิงคนนั้นโผล่มาขวางไว้ตรงหน้า”
“จริงด้วยสิ ข้าก็เห็นเหมือนกัน แต่ว่าก่อนหน้านั้นจำอะไรไม่ได้เลย พอรู้สึกตัวอีกทีก็มีสภาพแบบนี้”
ซีเรียเงยหน้ามองพวกผีเสื้อพวกนั้นที่บินไปอีกทางหนึ่ง
“หรือเพราะว่า...ผีเสื้อพวกนั้น?”
“คงจะเป็นแบบนั้น ผีเสื้อพวกนี้อาจจะมีฤทธิ์ทำให้เกิดภาพหลอน ไม่แน่อาจจะทำให้เกิดความคลุ่มคลั่งจนสะกดความโกรธไม่ได้ด้วยก็เป็นไปได้”
“งั้นเหรอ...”
แต่สิ่งที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าผีเสื้อสำหรับเฟอิซาก็คือ...ซีเรีย
“ไหนๆก็พักกันก่อนแล้วค่อยไปต่อละกัน...”
“อืม แต่ก่อนคือขึ้นไปจากหลุมนี่” คลี่ยิ้มบางแล้วลุกขึ้น
เฟอิซาจ้องอีกฝ่ายด้วยความสงสัยมากยิ่งกว่าเดิม ถึงตัวเธอจะสวมจินแต่เท่าที่จำได้คือไม่ได้ใช้มหาเวทย์ เลยไม่น่าจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงแบบนี้ขึ้นได้แม้แต่น้อย ยกเว้นแค่ว่า... อีกฝ่ายปะทะเข้ากับตัวเธอ
ประเด็นคือซีเรียใช้พลังอะไรกันในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าไม่มีพลัง?
หลังจากที่นั่งพักกันจนหายเหนื่อยสักระยะหนึ่งทั้งคู่ก็มุ่งตรงไปยังเส้นทางที่ลูฟบอกผ่านซีเรีย ตลอดทางเดินไร้ซึ่งสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยน
ถึงอย่างนั้นเฟอิซาก็รู้ได้ว่าพวกมันมี ปัญหาก็คือทำไมไม่ยอมโผล่ออกมา
“อ๊ะ... สุดทางแล้วล่ะ” คนเดินนำหน้าอยู่ชะงักฝีเท้าลงเมื่อเดินมาจนสุดทาง
เบื้องหน้าของทั้งคู่ก็คือหน้าผาสูงชันจนมองไม่เห็นพื้นข้างล่าง แต่อีกฟากของหน้าผาคือประตูขนาดใหญ่ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ดาวแปดแฉกที่บ่งบอกว่ามันคือจุดสิ้นสุดของการเดินทางในดันเจี้ยนแห่งนี้
“นั่นล่ะคือประตูห้องสมบัติ แต่เราจะเข้าไปยังไง?”
ฟิ้วววว!!
สายลมที่พัดกระหน่ำขึ้นมาอย่างรุนแรงจนทำให้รู้สึกแสบผิวมากกว่าเย็นสบาย มันเหมือนพายุมากกว่าด้วยซ้ำ
“มะ...ไม่รู้สิ” ซีเรียยืนหน้าซีดกับระยะของหน้าผา
แค่คิดว่าถ้าเกิดพลัดตกลงไปจะมีคนรู้ไหมก็คงรู้คำตอบในทันทีว่าไม่มีใครรู้แน่นอน
“อื๋อ? นั่นมันอะไรน่ะ?”
เฟอิซาชี้ไปที่แผ่นศิลาใบหนึ่งซึ่งตั้งอยู่แถวนั้นก่อนจะเดินไปดู
“ภาษาทรันนี่นา? ซีเรียเจ้าอ่านได้รึเปล่า?”
“ไหนๆ เอ... เท่าที่จับใจความได้ดูเหมือนว่าให้หาเส้นทางที่ถูกต้องเพื่อไปยังประตูน่ะ”
“แค่นั้น? โธ่เอ๊ย นึกว่าจะมากกว่านี้ซะอีกถ้างั้นก็ใช้แค่เจ้านั่นก็พอแล้ว”
เฟอิซาชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งมีใบขนาดใหญ่พอๆกับร่างของพวกเธอก่อนจะเดินไปหยิบมา 2 ใบ
“เอามาทำอะไรน่ะ?”
“เจ้าน่ะเอาเจ้าใบไม้นี่ไปนั่งตรงหน้าผาซะ ห้ามปฏิเสธด้วย”
คำขาดจากอีกฝ่ายเลยทำให้ซีเรียต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้
“เอาล่ะนะ...” เฟอิซารวบรวมมะโก่ยโดยใช้พลังของจินโอโรบัสที่ควบคุมน้ำ เธอสร้างให้มันแยกกันเป็นเส้นสายออกเพื่อหาจุดไร้ลมที่จะไปถึงประตู
และในที่สุดก็เจอจนได้...
“เจอล่ะ หนึ่ง สอง...สาม!!”
“ดะ...เดี๋ยว!!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”
ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ผลักซีเรียให้ไหลลงไปในเส้นทางที่ถูกต้องและตามด้วยตัวเอง ให้อารมณ์เหมือนกับโต้คลื่นแบบสุดๆ และการคาดการณ์ของเฟอิซาถูกต้อง เส้นทางน้ำพวกนั้นทำให้ทั้งคู่รอดพ้นจากพายุอันตรายจนมาถึงห้องสมบัติอย่างปลอดภัย...
ถึงมันเกือบจะทำให้ซีเรียช็อกก็ตามทีเถอะ
แอ๊ดดด..
บานประตูขนาดใหญ่เริ่มเปิดออกช้าๆจนเผยให้ภายในห้อง เฟอิซาที่เคยฝ่าดันเจี้ยนมาแล้วถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับซีเรียแล้วมันน่าตื่นเต้นมาก
ทว่า... ภายในห้องเหมือนเป็นห้องเก็บของมากกว่าจะเป็นห้องสมบัติซะด้วยซ้ำ
“จะลุกได้รึยัง รีบไปหาจินในภาชนะโลหะกันได้แล้ว”
“ระ...รอด้วยสิ...อ๊ะ?”
หญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นเดินตามไปแต่ตัวยังสั่นไม่หายเลยทำให้ล้มลงไปกองที่พื้นอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่เหลือบไปเห็นมือของอีกฝ่าย ทำให้รู้ว่าเฟอิซาก็ตัวสั่นไม่น้อยเหมือนกัน ถึงมันจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่แสดงให้เธอเห็น
แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นจนหายสั่นลุกเดินไปช่วยหา
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่...
“เจอแล้ว” เฟอิซาชี้ไปที่สร้อยเส้นหนึ่งซึ่งวางอยู่บนแท่น
“จริงเหรอ! ไหน!” เธอละสายตาจากพวกของอื่นๆและวิ่งเข้าไปดูสร้อยเส้นนั้น พอเธอเข้าไปใกล้แสงสว่างบนสร้อยก็เปล่งเป็นรูปดาวแปดแฉก
...สัมผัสที่ดาวนั่นสิ...
เสียงนั้นดังขึ้นในหัวอีกครั้ง เธอจึงยื่นมือไปแตะสร้อยเส้นนั้นเบาๆ
ครืนนนนน เปรี๊ยะ!!
แสงสว่างเปล่งออกมาจากสร้อยเส้นนั้นทำให้ของต่างๆในห้องจากเดิมเป็นหินเปลี่ยนกลายเป็นทองคำ นั่นไม่ตกใจกว่า...
ครืนนนน...
ยักษ์สีฟ้าซึ่งเป็นจินในภาชนะโผล่ออกมาจากสร้อยเส้นนั้น เป็นรูปลักษณ์ของชายหนุ่มผิวสีฟ้า เช่นเดียวกับสีของผมที่ยาว ใบหูยาวยื่นยาวเป็นรูปสามเหลี่ยม ตามตัวประดับด้วยเครื่องประดับสีทอง สายตาจ้องมองมาที่หญิงสาวทั้งสองอย่างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก
“ใครคือ...ผู้ที่จะเป็นราชา...”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

346 ความคิดเห็น
-
#240 โยนะ ฮิเมะ (จากตอนที่ 32)วันที่ 18 เมษายน 2558 / 17:42สุดยอดในที่สุดทั้งสองคนก็หาจินเจอ><#2400
-
#111 ทูตแห่งแสงและเงาที่บริสุทธิ์..ริเช่และริจูเอล (จากตอนที่ 32)วันที่ 7 มิถุนายน 2557 / 11:07ลุ้น>< ในที่สุดก็พากันเข้ามาถึง[?] ใครกันน้าคือผู้ที่จะเป็นราชา^^ ลุ้นตอนต่อไปค่ะ^^ สู้ๆค่ะ^^#1110
-
#110 Shadow♔Blood (จากตอนที่ 32)วันที่ 7 มิถุนายน 2557 / 10:13ในที่สุดก็ฝ่ามาจนถึงที่ได้แล้วนะครับ!! ดีใจกับสาวๆด้วยยย~ ว่าแต่ตอนต่อไปจะเป็นยังไงน้าาาา~~ รออ่านครับ > <#1100
-
#98 Shadow♔Blood (จากตอนที่ 32)วันที่ 23 พฤษภาคม 2557 / 23:57หนูเฟอิซาอย่างเท่ 5555 เดินทางปลอดภัยกันนะครับสาวๆ~ <3#980