ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic : Baramos]หัวขโมยแห่งบารามอส !!>เฟริน-โรเวน

    ลำดับตอนที่ #9 : แข่งชิงตำแหน่ง

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 51


     

     

     

     

     

     

     

                    แสงแดดกว้างสาดส่องลงมากระทบกับดวงหน้านวลที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข บนหลังมังกรจันทราที่บินฉิวบนน่านฟ้าเอดินเบิร์ก เฟรินพลิกตัวน้อยๆบนหลังมังกร ทำให้โรเวนต้องละมือจากบังเหียนบนตัวมังกรมาจับชายเสื้อเอาไว้

     

                    นัยน์เนตรสีน้ำเงินเข้มดูกังวลอย่างเห็นได้ชัดอยู่ชั่วครู่แล้ว ร่างสูงก็ตัดสินใจร่ายมนต์เสียงเบา แล้วพลันเส้นใยสีน้ำเงินใสก็พุ่งออกมาจากอากาศมารัดตัวคนขี้เซาไว้กับหลังมังกรอย่างแน่นหนา โรเวนถอนหายใจยาวแล้วขยับนิ้วเรียวไปจิ้มกลางหน้าผากนวลของคนที่ไม่รู้สึกตัวเบาๆ

     

                    รู้ตัวไหมนี่ว่าทำให้คนเขาเป็นห่วง

     

                    แล้วโรเวนก็ระบายยิ้มอ่อนโยนที่มุมปาก ก่อนจะละมือมาคุมบังเหียนบังคับมังกรให้บินตรงไปยังโรงเรียนพระราชาแห่งเอดินเบิร์ก เพื่อเข้าร่วมการแข่งชิงตำแหน่งภายในป้อมที่ถูกเลื่อนออกไป เมื่อรอตัวเก็งทั้งหลายที่ไม่อยู่ที่ป้อมกลับมาแข่งขันด้วย

     

                    ร่างสูงเหลือบนัยน์ตาทรงเสน่ห์ลงไปข้างล่าง ก่อนจะกระตุกบังเหียนหนังอย่างแรงเพื่อให้มังกรร่อนลงจอด ที่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน

     

                    ตุ้บ

     

                    ปลายเท้าของมังกรทั้งสามตัวแตะลงสู่พื้นพร้อมๆกัน แล้วโรเวนก็เอื้อมมือไปแตะบนแก้มนวลแล้วหยิกเบาๆ

     

                    เฟริน ถึงเอดินเบิร์กแล้ว

     

                    เฟริน

     

                    โรเวนละมือออกเมื่อเห็นคนตรงหน้ากำลังขยับตัวตื่น ทำให้แก้มนวลที่โดนหยิกกลายเป็นสีชมพูเล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลค่อยๆปรือตื่นขึ้นมา ก่อนจะร้องโวยวายเสียงดังถึงเส้นใยบางที่พันธนาการร่างของตนไว้กับมังกรจันทราอย่างแน่นหนา

     

                    โรเวนส่ายหน้าเบาๆ แล้วแตะปลายนิ้วทั้งห้าลงบนเส้นใยก่อนที่มันจะค่อยๆจางหายไป นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววอบอุ่นชั่วครู่ก่อนจะแปรเป็นนัยน์ตาที่จริงจังและเปี่ยมด้วยอำนาจเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

                    อ่า...พวกเธอกลับมาแล้วหรือ

     

                    ครับ มหาปราชญ์

     

                    เสียงตอบรับไม่ได้ดังมาจากผู้นำคณะ ที่วุ่นอยู่กับการเอาคนที่ยุ่งที่สุดลงจากหลังมังกร ไธนอสจึงตอบแทนด้วยน้ำเสียงสุภาพ

     

                    อืม จับมือพี่ไว้แล้วค่อยๆลงมา

     

                    โรเวนยิ้มบางแล้วยื่นมือข้างหนึ่งไปด้านหน้า ให้คนที่ดูเหมือนกล้าเสมอๆแต่กลับกลัวการหลงจากหลังมังกรทั้งที่มันเป็นเรื่องธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง

     

                    ระวังหน่อย ค่อยๆลง เดี๋ยวก็ล้มหรอก

     

                    เฟรินยื่นมือมาจับไว้แน่นแล้วไถลตัวลงมา ร่างบางหลับตาปี๋ด้วยความกลัวอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ

     

                    เธอลงมาโดยสวัสดิภาพ...

     

                    ใช่...ลงมาโดยสวัสดิภาพ...

     

                    แต่...ตัวของเธออยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชายแห่งเจมิไน....

     

                    แล้วความร้อนก็พุ่งขึ้นไปที่หน้าทำให้คนไม่เคยอาย หน้าแดงก่ำแล้วผละตัวออก โรเวนเพียงกระตุกยิ้มบางๆแล้วส่งรายงานไปให้มหาปราชญ์เลโมธีด้วยดวงหน้าเรียบเฉย ที่ขึ้นสีจางๆ

     

                    เทสต์สาวน้อยของนายหรอโรเวน

     

                    ลูคัสกระเช้าหยอก ทำให้โรเวนปรายนัยน์ตาทรงอำนาจมามองเล็กน้อย แล้วถอนหายใจยาวแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ทำให้คนหยอกยิ่งได้ใจ

     

                    อะฮ้า ไม่ปฏิเสธแสดงว่าใช่

     

                    โรเวนยิ้มเหยียด ก่อนที่ร่างของคนถูกหยอกที่เดินนำอยู่จะเลือนหายไปกับอากาศธาตุแล้วค่อยๆปรากฏชัดขึ้นที่ด้านหลังของคนหยอกแล้ว...

     

                    ปึก

     

                    โรเวนใช้มือนุ่มตบหัวลูคัสเบาๆ แล้วหัวเราะร่า ก่อนจะกลับไปเดินนำอีกครั้ง ทิ้งให้ลูคัสคลำหัวตัวเองป้อยๆแล้วรีบสาวท้าวเดินตามไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

     

                    อายโคตร

     

                    เฟรินพึมพำเบาๆ เมื่อทั้งคิลและโร ที่เดินขนาบข้างหัวเราะกันเสียงดังแบบไม่เกรงใจใคร ก่อนที่คนหน้าแดงจะรีบเปลี่ยนเรื่อง

     

                    เอ้อ แล้วสรุปนี่พวกนาย ลงอะไรกันเนี่ย

     

                    สามขุนพล

     

                    โรเปรยพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยต่อ

     

                    ผู้คุมกฎดูแลความเรียบร้อยภายใน มีแต่เรื่องน่าเบื่อ

     

                    แล้วนาย คิลเฟรินหันหน้าผละจากนายขอทานกิตติมศักดิ์แล้วหันไปทางคิลที่นัยน์ตาสีม่วงอเมธิสต์ยังจ้องที่โรนิ่ง ก่อนคิลจะถอนหายใจยาว

     

                    ฉันอุตส่าห์นึกว่าจะได้ ประลองฝีมือกับนายอีกครั้ง โร เซวาเรส นึกว่านายลงผู้คุมกฎ โธ่

     

                    เฮ้ย นายลงผู้คุมกฎจริงดิ คิล

     

                    กลับเป็นเฟรินที่โพล่งออกมาเสียงดัง

     

                    ฉันก็ลงผู้คุมกฎ

     

                    เฟรินขยับยิ้มกว้าง แล้ววิ่งไปด้านหน้า ก่อนจะคุยอะไรกับลูคัส แล้วหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

     

                    ร่างบางเดินกลับมา รอยยิ้มเมื่อครู่พลันหายไปเหลือแต่เหงื่อที่เกะพราวบนหน้าซีดเซียว

     

                    พวกลูคัสลงเหมือนเดิมหมดเลย โรเวนลงเสธซ้าย ไธนอสเสธขวา ลูคัสลอเรนซ์ ผู้คุมกฎ

     

                    เสียงห่อเหี่ยวดังขึ้นจากคนที่หน้าไม่เคยขาดรอยยิ้ม แล้วต่อด้วยเสียงสบถเบาๆอย่างที่กุลสตรีและราชนิกูลที่ดีไม่ควรทำ แล้วเจ้าตัวก็สาปแช่งตัวเองเสร็จสรรพ

     

                    ตาย ตายแน่ๆเลยคิล

     

                    นายจะตายอะไรอีก

     

                    คิลยักคิ้วข้างซ้ายแล้วยิ้มเหยียดยาว เมื่อได้ยินคำพูดตอบกลับของผู้เป็นเพื่อน

     

                    ก็พวกแผนปวดหัว ปวดท้อง ถ่ายท้องอะไรใช้ไปหมดแล้ว คราวนี้จะป่วยเป็นโรคอะไรดี

     

                   

     

     

     

                    ลมเย็นพัดแรง ทำให้ธงประจำป้อมอัศวินที่ทางเอดินเบิร์กปักไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่ทางป้อมที่จัดการแข่งขันชิงตำแหน่งขึ้น โบกสะบัดไปตามแรงลมต้อนรับผู้มาเยือนต่างๆ

     

                    ไม่ว่าจะเป็นพวกต่างป้อมอย่างปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์หรือแผ่นดินประชาชนที่มาเก็บรายละเอียดสำหรับคู่ต่อสู้ในการแข่งขันหมากกระดานเกียรติยศในปลายปีการศึกษา หรือจะเป็นเหล่าราชนิกูลที่เดินทางมาชมด้วยความสำราญใจ

     

                    เหล่าอัศวินของป้อมอัศวินเดินออกมาจากการทดสอบภาคเช้าด้วยท่าทางอ่อนเพลีย การทดสอบหฤโหดที่เรียกว่า...สอบข้อเขียน

     

                    เฟรินเดินยิ้มร่า เอามือไพล่หลังออกมา ก่อนจะก้มหัวน้อยๆมือเรนอนส่งข้าวกล่องให้ พร้อมกับถามผลการสอบ

     

                    การสอบเป็นอย่างไรบ้างคะ เจ้าหญิงเฟลิโอน่า

     

                    ง่า...สบายมากเลยครับ เขียนชื่อ แล้วก็สับหงก

     

                    แล้วคนนอนหลับในห้องสอบก็หัวเราะร่า เมื่อเห็นเพื่อนอีกคนที่ทรงผมยุ่งเหยิงบ่งบอกถึงวีรกรรมในห้องสอบที่ไม่ต่างกันมากนัก

     

                    แย่สุดๆเลย เฟริน

     

                    ทำไมละ เฟรินเลิกคิ้วขึ้นสูง

     

                    ฝันร้าย

     

                    คำตอบสั้นๆ เรียกเสียงหัวเราะดังก้องจากเฟลิโอน่า เกรเดเวลได้เป็นอย่างดีทำให้คาโลที่เพิ่งออกมาส่งสายตาดุๆมาปรามเล็กน้อย

     

                    ไม่นานนัก ผลการทดสอบก็ถูกประกาศเป็นไปตามคาดพวกคนที่เข้าไปหลับในห้องสอบผ่านกันทุกคน รวมทั้งคาโลที่ลงหัวหน้าป้อม ซึ่งเฟรินคิดว่าเป็นคนเดียวที่ไม่ได้หลับในห้องสอบ

     

                    เฮ้อ สอบปฏิบัติ ตายสถานเดียว

     

                    แล้วผู้สมัครลงผู้คุมกฎก็ถูกเรียกออกมายืนโชว์ตัวให้ผู้สมัครเสนาธิการฝ่ายซ้ายได้ดู แล้วเสียงจากมิสแรมเซิลก็ประกาศเรียกผู้สมัครเสธซ้ายแต่ละคนเรียงตามคะแนนสอบออกมาเขย่าลูกเต๋าเช่นเคย

     

                    โรเวนมุ่นหัวคิ้วลงเมื่อเห็นการคัดเลือกเป็นรูปแบบเดิม แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ชื่อผู้สมัครถูกเรียกขานออกมาเรื่อยๆ ทำให้รุ่นน้องหลายคนที่ถูกเรียกชื่อหันมามองโรเวนเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ

     

                    ...คะแนนของพี่โรเวนแย่สุดอีกแล้ว และก็...

     

                    ยังไม่ทันคิดจบ โรเวนก็ทำในสิ่งที่กำลังจะคิด ร่างสูงวาดวิถีดาบแห่งจิตเข้าใส่กระบอกไม้ไผ่ ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่กระชากใจสาวๆปราสาทขุนนางหลายๆคน ในมาดเท่ๆ

     

                    ป้อมอัศวินไม่เคยสนับสนุนการพนัน

     

                    แม้ว่าภาพเหตุการณ์อย่างนี้จะเคยเกิดขึ้นแล้วเหมือนภาพรีเพลย์ แต่สาวๆบน อัฒจรรย์ก็ยังส่งเสียงวี้ดว้ายกันไม่หยุด

     

                    อ่า...เอาละ เอาเป็นว่าคนที่ได้แต้มน้อยที่สุดในครั้งนี้ก็ยังเป็น โรเวน ฮาเวิร์ด เดอะ ปรินซ์ ออฟ เจมิไน เช่นเดิม เชิญเลือกก่อนเลยจ้ะ โรเวน

     

                    ครับๆ

     

                    โรเวนเดินออกมาด้านหน้าแล้วกวาดตามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะชี้เลือกลูคัส ลอเรนซ์แล้วนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มก็เลื่อนมาหยุดอยู่ที่โซมาเนียชั่วครู่แล้วละผ่านไปเลือกคิลที่อยู่ด้านข้าง หัวคิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันเล็กน้อยแล้วจิ้มเลือกเฟรินเป็นคนสุดท้าย

     

                    คณะของปรินซ์โรเวนแยกออกไปวางแผนเป็นกลุ่มแรก โดยที่โรเวนจัดให้ลูคัสและลอเรนซ์ไปหาเหรียญสัญลักษณ์ทั้งสี่มาให้มากที่สุดแล้วค่อยมาเฉลี่ยกันภายหลัง ส่วนเฟรินและคิลให้ตามหาป้ายทองคำ

     

                    ไม่นานมากนักทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปภายในปราสาทเอดินเบิร์กที่ถูกเวทมายาทำให้เป็นเขาวงกตที่มืดทึบและก็เป็นเฟรินที่พูดออกมาเป็นคนแรก

     

                    ยังกับปราสาทผีสิงเลย คราวนี้ที่แล้วก็เป็นอย่างนี้หรอวะ คิล

     

                    คิลพยักหน้ารับแล้วเอ่ยหยอก

     

                    เอ้อ ฉันลืมไปสนิทว่าแกกลัวผี

     

                    เฟรินแยกเขี้ยววาวให้นักฆ่าข้างๆ ก่อนจะโบกมือลาลูคัสและลอเรนซ์ที่แยกไปอีกทาง

     

                    โรเวนนี่ก็น่ารักจริง เลือกเฟรี่แทนโซมี่

     

                    ลูคัสกล่าวกลั้วหัวเราะเมื่อเดินห่างมาพอสมควร  ทำให้ลอเรนซ์ยิ้มบางในความมืด แล้วเอ่ยเบาๆ

     

                    ดูเหมือนจะมีอาคันตุกะ

     

                    แล้วคบเพลงรอบข้างก็ถูกจุดให้สว่างขึ้นด้วยฝีมือนักบวชแห่งป้อมอัศวิน เผยให้เห็นร่างสูงที่เดินย่างเข้ามา

     

                    เป็นนายเองหรอ ชิววี่

     

                    ลูคัสยิ้ม แล้วโยนป้ายฟีนิกซ์ในมือเบาๆ ก่อนที่คบเพลิงจะดับลงอีกครั้ง

     

                    ในความมืด เสียงดาบคมวาดแหวกอากาศเข้ามาลูคัสถอดแว่นตาออกมาถือไว้ข้างเดียวกับป้ายทอง แต่ก่อนที่จะทำอะไรเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นเสียก่อน

     

                    คัมภีร์มนต์สวรรค์

     

                    อ๊ากก

     

                    แล้วคบเพลิงก็ถูกจุดอีกครั้ง ลูคัสถอนหายใจยาวขณะใส่แว่นตาแล้วบ่นอุบ ใส่คนที่กำลังก้มลงไปหยิบป้ายดรากอนในมือของชิวาส

     

                    โดนแย่งซะได้

     

                   

     

                    คิลอากาศมันหนาวๆนะ ว่าไหม

     

                    มันเป็นเพราะเวทของฝ่ายสถานที่

     

                    คิลตอบอย่างใจเย็นขณะหรี่ตาไปรอบๆเพื่อค้นหาป้ายทองคำ ลมหนาวพัดเอื่อยๆหอบเอากลิ่นอับชื้นในปราสาทมาเข้าจมูก คิลชะงักเท้าไว้ก้าวหนึ่งทำให้เฟรินหันมามองด้วยความสงสัย แล้วร่างสมส่วนของทายาทตระกูลนักฆ่าก็พุ่งไปยังความมืดด้านหลัง

     

                    เปรี๊ยะๆ

     

                    เสียงประหลาดลอยแวบเข้ามาในหูทำให้เฟรินตัดสินใจตะโกนถามคนที่กลืนไปกับความมืด

     

                    คิล นายทำอะไร

     

                    ป้ายเว้ย ป้ายสฟิงซ์ ไว้เอาไปรวมกับของลูคัส

     

                   

     

     

                    รุ่นพี่โรเวน

     

                    หืม เธอคือ…” โรเวนสะดุ้งจากภวังค์แล้วหันหน้าไปยังเสียงเรียก และก็ได้พบกับนัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างที่จ้องตรงมา

     

                    ปี2ครับ ไพเออร์ ออร์มีต เดอะวิทช์ออฟวิชท์

     

                    อ่า..มีอะไรหรือ

     

                    คือ ถึงตาพี่โรเวนเดินหมากแล้วครับ

     

                    อะ อ้อ โทษที

     

                    โรเวนเอ่ยยิ้มๆแล้วจ้องลงไปที่กระดานหมากข้างหน้าก่อนจะขยับม้าเดินสวบเข้าไปกินควีนของฝั่งตรงข้ามหน้าตาเฉย

     

                    รุก

     

                    อ๊า ลืมคิดไปเลย

     

                    โรเวนเสยผมขึ้นเล็กน้อยแล้วถอนหายใจยาว การเดินหมากปีนี้ ไม่มีความตื่นเต้นเท่าปีที่แล้วเลย คิดพลางก็หยิบบิชอบของตัวเองเข้าไปกินบิชอบของอีกฝั่งอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

     

                    ซึ่งอีกฝั่งเล่นหมากรุกเป็นหรือไม่ก็ดูได้ไม่ยาก ที่ขยับคิงออกมาล่อควีนของเขาหน้าตาเฉยทำให้โรเวนเลื่อนควีนไปกินคิงพร้อมกับเอ่ยเนือยๆว่า

     

                    รุกฆาต

     

                   

     

     

                    เฟรินๆ เห็นแสงนั่นป่ะ

     

                    แสงไหน

     

                    ทางซ้ายๆ ใช่ๆใต้ม่านหน้าต่าง

     

                    แสงสีทองๆ?”

     

                    อือใช่

     

                    อย่าบอกนะว่ามันคือ

     

                    ป้ายที่เราตามหากัน

     

                    แล้วคิลก็เดินช้าๆเข้าไปหา พร้อมกับกวาดตาไปรอบๆ แล้วร่างสูงก็กระชากม่านหน้าต่างออกพร้อมกับส่งเสียงดังด้วยความดีใจ

     

                    ใช่จริงๆด้วย

     

                    แล้วพลันเงามืดก็พุ่งตรงมายังป้ายทองแวววับในมือคิล จนคิลสะบัดหลบแล้วโยนป้ายไปให้เฟริน พร้อมกับเอ่ยเบาๆ

     

                    นายอีกแล้ว วิถีดาบนั่น

     

                    อ้าว เจ้าหนูคนนั้น

     

                    แล้วคิลก็วาดวิถีดาบแห่งจิตที่ฝึกได้ไม่นาน ใส่ชายคนนั้นจนสลบเหมือดไปกองกับพื้น คิลขยับเท้าไปเขี่ยๆให้พลิกหงาย ก่อนจะเอามือล้วงไปในกระเป๋าเสื้อแล้วหยิบป้ายออกมา กริฟฟิน...

     

                    ว้ากก

     

                    แล้วเสียงของเฟรินก็ดังขึ้นทำให้คิลหันขวับไปด้านหลังทันที นัยน์ตาสีม่วงทอประกายกราดเกรี้ยวเมื่อสบกับนัยน์ตาสีดำสนิทของอีกฝ่าย

     

                    ร่างสูงกำลังเอามือปิดปากเฟรินแน่น ขณะที่มืออีกข้างก็จับที่คอเสื้อเอาไว้ ทำให้เฟรินดิ้นพยายามที่จะออกมา

     

                    ปล่อยเพื่อนผม

     

                    คิลพูดลอดไรฟันออกมา ทำให้ชายคนนั้นหัวเราะร่า แล้วตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

     

                    ป้ายกริฟฟินนั่น เอามาให้ฉัน แล้วฉันจะปล่อย

     

                    คิลเหลือบมองป้ายในมือเล็กน้อยแล้วโยนเบาๆ ในมือ คิ้วบางเลิกขึ้นสูงก่อนจะโยนให้โดยไม่ลังเล ร่างนั้นรับไว้ในมือขวาแล้วปล่อยเฟรินหลุดจากพันธนาการ พลันเมื่อเฟรินวิ่งออกมา

     

                    ร่างสูงก็ล้มตึงลงไปกับพื้นหิน ทำให้คิลเลิกคิ้วขึ้น ใครทำอะไร... แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรออกมา

     

                    เจ็บชะมัด

     

                    เฟรินบ่นขณะเอามือถูแขนที่แดงเป็นจ้ำๆเบา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบกับคิลที่ยิ้มพรายอย่างขบขัน ก่อนที่เสียงคุ้นหูจะดังขึ้น ที่ข้างหู

     

                    ไม่เป็นอะไรใช่ไหม

     

                    เฟรินมุ่นหัวคิ้วแล้วมองไปรอบๆ ทั่วบริเวณเงียบสนิทมีเพียงเธอและคิลที่ยังยิ้มกว้างเท่านั้น ก่อนจะเอ่ยถามคิลเบาๆ

     

                    นายได้ยินเสียงอะไรไหม เมื่อกี้นี่

     

                    ได้ยินเสียงคนแถวนี่บ่น

     

                    คิลยักไหล่อย่างอารมณ์ดี แล้วเดินนำลงไปยังหน้าปราสาทแล้วล้มตัวลงนั่ง

     

                    เหลือแค่รอลูคัสกับลอเรนซ์

     

                    เฟรินนั่งตาม แล้วมุ่นคิ้วเล็กน้อย ขณะคิดถึงเสียงคุ้นเมื่อครู่

     

                    ...คุ้นแต่จำไม่ได้ ... เสียงนั้นคุ้นมาก...

     

                    เสียงของใคร...

     

                    โอ้โห ทำงานเร็วกันดีจริง มาก่อนเราอีกเนาะ ลอรี่

     

                    เฟี้ยว! ฉึก!

     

                    มีดบินพุ่งผ่านอากาศไปปักข้างๆหน้าของลูคัสที่ยังประดับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเครียดๆ

     

                    ป้ายไม่ครบ

     

                    ฝั่งพวกผมได้มาสองอันรวมกับที่มีอยู่ก็เป็นสี่

     

                    เฟรินเอ่ยยิ้มๆ ขณะที่ลูคัสพยักหน้ารับ ก่อนจะพูดเสียงเบา

     

                    งั้นก็ครบพอดี

     

                    ว่าพลางก็จัดแจงแบ่งป้าย โดยที่ป้ายที่หมายถึงตำแหน่งของโรเวน ที่รออยู่ข้างนอกอยู่ในมือของลูคัสที่ดันประตูปราสาทเปิดออก แสงแดดจ้าภายนอกส่องเข้ามาในพลันแล้วภาพเขาวงกตที่เห็นเมื่อครู่ก็ค่อยๆจางหายไปเหลือเพียงแค่ปราสาทเอดินเบิร์กที่สว่างไปด้วยแสงอาทิตย์

     

                    การแข่งขันชิงตำแหน่ง สิ้นสุดลง บัดนี้โรเวน ฮาเวิร์ดได้ดำรงตำแหน่งเสนาธิการฝ่ายซ้ายต่อไป

     

                    แล้วเสียงเฮก็ดังขึ้นจากด้านนอก พร้อมๆกับที่ร่างสูงเดินตรงเข้ามา ด้วยแสงแดดที่ส่องแยงตาทำให้เฟรินต้องหรี่ตามอง

     

                    ดวงหน้าคมคายประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นเช่นทุกครั้งแม้ว่าดวงตาคู่นั้นยังแฝงไปด้วยอำนาจ เรือนผมสง่าสะบัดไปด้านหลังแรงๆ ชวนให้นึกถึงเจ้าชายในเทพนิยายโรมัน

     

                    โรเวนรับป้ายจากลูคัสแล้วชูขึ้นไปเหนือหัวท่ามกลางเสียงเฮลั่นจากรุ่นน้องและเพื่อนร่วมป้อม

     

                    ร่างสูงก้มหน้าลงมาแทบจะชิดกับหน้านวลของเฟริน ที่ขึ้นสีระเรื่อแล้วเอ่ยด้วยเสียงนุ่มแต่แผ่วเบาและก้องสะท้อนในใจของคนที่ฟังอยู่

     

                    ไม่เป็นอะไรใช่ไหม........     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×