คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : สงคราม
ลมร้อนพัดกรรโชกแรง ทำเอากระโจมที่ตั้งเป็นที่พักชั่วคราวแทบจะปลิวไปกับแรงลมจนทหารกล้าหลายคนต้องมาช่วยกันยึดตัวกระโจมเอาไว้
ดวงอาทิตย์ฉายแสงกล้าราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งบนโลก ทำให้พื้นดินแห้งที่กั้นชายแดนเจมิไน-ซาเรส ร้อนระอุ
อาชาศึกนับพันตัวอยู่ในเกราะสีเงินแวววาวเช่นเดียวกับนักรบบนหลังของมัน
และเมื่อร่างสูงเดินออกมาจากกระโจมสีขาว ทหารกล้าทุกคนก็ก้มหน้าลงรับฟังคำสั่ง เรือนผมสีน้ำเงินเข้มโบกสะบัดไปด้านหลังตามแรงลมที่พัดหอบเอาความร้อนเข้ามา โรเวนเพียงยิ้มบางแล้วเอ่ยเสียงดังก้อง คำสั้นๆที่มีความหมายธรรมดา แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพละกำลังมากมาย
“บุก!!”
โรเวนชักดาบผ่ามิติออกมา แล้ววาดวูบตวัดอากาศไปเบื้องหน้า เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ พลันทหารร่วมแสนนายก็โห่ร้องกึกก้องออกมา
เสียงโห่ดังกึกก้องทำให้เฟรินลูบแขนของตัวเอง เสียงที่ทำให้ขนแขนลุกซู่อย่างแปลกประหลาด สักพักเสียงก็เงียบหายลง แล้วอีกเสียงก็ดังออกมาจากฝั่งของซาเรส
โรเวนกระโดดขึ้นบนหลังอาชาศึกสีขาวสะอาดตัดกับสีดำ น้ำตาลของทหารคนอื่นแล้วควบตะบึงไปที่กลางสมรภูมิ
ลูคัสและลอเรนซ์ขึ้นบนหลังม้าแล้ววิ่งขนาบโรเวนไปคนละข้าง ไธนอสเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะควบม้าตามไปอีกคน ปล่อยให้รุ่นน้องอีกสามคนยืนเงอะงะอยู่หน้ากระโจม
ไม่นานนักอาชาศึกสามตัวก็ถูกนำมาส่ง ทหารที่จูงม้ามา ค้อมหัวทำความเคารพแล้วเอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า
“เจ้าชายโรเวน ให้หม่อมฉันนำม้าสามตัวนี้มาให้ และทรงมีรับสั่งให้ ท่านคิล และ ท่านโร ไปประจำที่ทัพเสริม”
“อืม”
คิลและโรตอบพร้อมกันในลำคอก่อนจะกระโดดขึ้นหลังม้า อย่างรวดเร็วแล้วขี่ไปทางด้านซ้าย เฟรินยืนมองเพื่อนสองคนจนลับสายตาแล้วหันกลับมาถามทหารคนนั้นว่า
“แล้วฉันประจำกองไหนละ”
“เจ้าชายโรเวนมีรับสั่งว่า การรบเป็นหน้าที่ของบุรุษ ม้าตัวนี้สำหรับภาวะฉุกเฉิน หากเกิดเหตุการณ์เหมือนที่เจ้าชายบอกพระองค์ในกระโจมแล้วให้ขี่ม้าหนีไปทางใต้ของเจมิไน จะมีคนจากเอดินเบิร์กมารอรับกลับ”
“เฮ้ย ไหงงั้นละ”
“กระหม่อมทูลลา”
ว่าพลางนายทหารคนนั้นก็เดินจากไปปล่อยให้ร่างบางยืนอารมณ์เสียอยู่คนเดียว
คำพูดที่พี่โรเวนบอกในกระโจม
...พี่ร่ายเวทย์ปกปักษ์ตัวเราไว้ ซึ่งเวทนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อ เอ่อ...พี่ตาย หรือ อยู่ในภาวะคับขันจริงๆ ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจะมีแสงสีทองคลุมรอบตัวเราแล้วทหารฝั่งซาเรสจะมองไม่เห็นเรา แต่พี่คิดว่าคงจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ง่ายๆหรอก แต่ก็ป้องกันไว้ก่อนก็ดี...
“บ้าบอ แล้วเราจะมาที่เจมิไนนี่ทำไม มาก็ได้แต่เป็นตัวถ่วง”
เฟรินบ่นอุบ แล้วหยิบขนมปังกรอบในจานทองขึ้นมาเคี้ยวกรุบๆระบายโทสะ จนคนในกระโจมรอบข้างได้แต่มองหวาดๆ
“วันนี้สินะ ที่อาเธอร์ เลโอนาท บริสตั้น คนนี้จะได้มีชัยเหนือโรเวน ฮาเวิร์ดอีกครั้ง”
เสียงทุ้มกล่าวกลั้วหัวเราะ จากหลังม้าอีกตัว ร่างสูงอยู่ในชุดเกราะทรงศักดิ์ พร้อมด้วยดาบอัศวินดำในมือขวา นัยน์ตาสีดำสนิทปรายตามามองบุรุษฝั่งตรงข้ามเล็กน้อย
“หรือจะเป็นวันที่พญาสิงห์จะดับดิ้นใต้มือของหม่อมฉัน”
โรเวนเปรยเบาๆ แต่ด้วยบรรยากาศเงียบสงัดทำให้เสียงเบาดังก้องประหลาด ดวงหน้าของอาเธอร์แดงก่ำด้วยความโกรธ ก่อนจะยกดาบอัศวินดำขึ้นเหนือหัว แล้วประกาศกร้าว
“รับมือ โรเวน”
โรเวนเพียงยิ้มบางแล้วเอี้ยวตัวหลบอัศวินดำที่ฟันเข้าทางด้านซ้าย ผ่ามิติตวัดวูบเข้ามารับ เจ้าเกิดเสียงสนั่นไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางเสียงฟันดาบประปรายของเหล่าทหารกล้าเบื้องล่าง
ลูคัสถอดแว่นสายตาออกก่อนจะเผยอยิ้มเหี้ยม ร่างสูงตวัดมือวูบ เหยี่ยวประหลาดก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า ไอสังหารแผ่ไปทั่วบริเวณ เหยี่ยวประหลาดบินวูบไปจิกเข้าที่ตาของทหารซาเรสด้านหลัง ลูคัสดีดนิ้วเสียงดังเปาะ ตะขาบยักษ์มากมายก็โผล่ออกมาแล้วลอยวูบไปยังทหารหลายคนในรัศมีห้าร้อยเมตรรอบตัว
ตะขาบตัวโตรัด เกราะเหล็กจนแตกเป็นเสี่ยงๆก่อนจะพ่นพิษเข้าที่นัยน์ตาของอัศวินที่หาญกล้ามาลองดีกับซาตานแห่งป้อมอัศวิน ลูคัส ซาโดเรีย
หลายร่างล้มตึงไปกับพื้นแล้วชักดิ้นชักงอ ด้วยความปวดแสบปวดร้อนก่อนจะหยุดนิ่งไปพร้อมๆกับลมหายใจที่หมดไป…
ร้ายเกินไป ร้ายกาจเกินไป...
ความกลัวแล่นวูบเข้ากลางใจของทหารแห่งซาเรส บางคนถึงกับผงะถอยหลังเมื่อลูคัสเดินโปรยยิ้มเข้ามาใกล้
ชัยชนะกำลังจะตกเป็นของเจมิไน...
อาเธอร์กัดฟันกรอดเมื่อมองลงไปเบื้องล่าง แล้วยกอัศวินดำขึ้นมากันดาบของโรเวนที่วาดวูบอย่างรุนแรง ประกายไฟกระเด็นไปรอบๆ
“อัศวินดำ”
พลันนักรบมากมายก็ปรากฏขึ้นจากพื้นพิภพ ตรงเข้าโจมตีเหล่าทหารฝั่งเจมิไน กองทัพที่ฟันเท่าไรก็ไม่ตาย
กองทัพอัศวินดำ เข้าโจมตีทหารอีกฝั่ง อย่างรวดเร็วและรุนแรงจนทหารเจมิไนล้มตายราวกับใบไม้ร่วง แล้วความได้เปรียบก็กลับมาสู่มือของอาเธอร์ บริสตั้นอีกครั้ง
ชัยชนะที่กำลังจะเป็นของซาเรส กองทัพที่ไม่มีใครทำลายได้...
โรเวนขยับยิ้มเหี้ยมขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม ดวงตาสีน้ำเงินที่ดูสุขุมตลอดเวลากำลังจะแปรเป็นสีเลือด เช่นเดียวกับพื้นดินเบื้องล่างที่เปรอะไปด้วยเลือดเข้มที่กำลังไหลทะลักออกจากร่างอัศวินแห่งเจมิไน
ผ่ามิติที่กำลังจะเฉือนร่างของคู่ต่อสู้เบื้องหน้าถูกชักกลับ และไม่คิดจะตั้งรับเพลงดาบของอัศวินดำที่วาดวูบเข้ามา
“หลบ”
โรเวนตะโกนเสียงดังก้อง ทำให้ทหารฝั่งเจมิไนแตกกระจาย แล้วผ่ามิติก็วาดวูบผ่าอากาศเบื้องหน้า ดูดกองทัพอัศวินดำเข้าไปอีกมิติหนึ่ง
โรเวนชักดาบกลับเตรียมจะมารับดาบอัศวินดำแต่ก็ ไม่ทันเสียแล้วดาบคมกริบวาดวูบ เฉือนแขนบางของโรเวนเป็นแผลลึก เลือดสีแดงคล้ำทะลักออกมาเป็นสาย ความเจ็บแล่นวูบจนโรเวนต้องเบ้ปาก แต่ก็ไม่มีเสียงร้องโอดครวญใดๆออกมาจากริมฝีปากอันนั้น
ลอเรนซ์ผงะเมื่อเห็นเลือดสดๆกำลังไหลรินลงมาจากผู้บังคับบัญชา
“คัมภีร์มนต์สวรรค์”
คัมภีร์จำนวนมหาศาลลอยพุ่งตรงเข้าหาอาเธอร์อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องสลายไปเมื่อเจอกับเขตอาคม ลอเรนซ์หรี่นัยน์ตาลงเล็กน้อย
เขตอาคมของบุรุษที่ชื่อ โรเวน ฮาเวิร์ด
“ไม่เป็นไรลอเรนซ์ ฉันสู้เองได้”
โรเวนเพียงเอ่ยเสียงเบาก่อนจะตะโกนก้อง
“หกดาราพิฆาต”
เพลงดาบแรกจากโรเวน เรียกเลือดสดๆจากบาดแผลบางมากมายบนตัวกษัตริย์คนใหม่แห่งซาเรส อาเธอร์พ่นเลือดในปากลงบนพื้น ก่อนจะหันมาสนใจการต่อสู้อีกครั้ง
ตอนนี้ทหารของซาเรสล้มตายไปจำนวนมาก ด้วยคมดาบของไธนอส สุดยอดอัศวินแห่งบารามอส และคัมภีร์มนต์สวรรค์ของนักบวชจากแอเรียส
แต่จำนวนที่ทหารเจมิไนตายจากอัศวินดำเมื่อครู่ก็ไม่ใช่น้อยทำให้ ลูคัสเริ่มเกร็งกับการต่อสู้ ร่างสูงลอยขึ้นบนอากาศ ก่อนจะตวัดมือวูบ สร้างลูกไฟหลายลูกที่พุ่งตรงไปยังทหารซาเรสที่อยู่ด้านหลัง
ความเสียหายมหาศาลที่เกิดขึ้นทำให้อาเธอร์ เริ่มวาดดาบอย่างรุนแรงมากขึ้น แล้วพลันเจ้าของฉายาเจ้าชายใจสิงห์ก็โยนกริชสีเงินลงบนพื้น
โรเวนมุ่นหัวคิ้วลง สัญญาณงั้นหรือ สัญญาณอะไร
แล้วดาบวงพระจันทร์ก็พุ่งมาจากที่ไหนสักแห่ง มาตวัดเข้ากลางหลังของเจ้าชาย
“ท่านเล่นสกปรก อาเธอร์”
“ในการต่อสู้ ไม่มีสกปรก หรือใสสะอาด ทุกอย่างจำเป็นสำหรับชัยชนะ”
ความคิดเห็น