คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เดินทาง
แสงแดดสีทองอ่อนส่องลอดหมู่เมฆบนท้องฟ้าลงมา ลมเย็นพัดเบาชวนให้รู้สึกสบายตัว บรรยากาศที่ราวกับสวรรค์เป็นใจให้คณะเดินทางเดินทางสู่เจมิไนด้วยสวัสดิภาพ
เกวียนสามเล่มควบออกจากเอดินเบิร์ก โรเวนควบอาชาสีขาวสะอาด ที่ลากเกวียนให้นำหน้า โดยมีไธนอส และ ลูคัสควบเกวียนตามกันมาติดๆอีกสองเกวียน
ปีเจ็ดทั้ง4คนมีหน้าที่นำเกวียนมุ่งสู่เจมิไน โดยโรเวน ไธนอส และ ลูคัส คุมกันคนละเกวียนส่วนลอเรนซ์จะพักอยู่ที่เกวียนของลูคัสและคอยผลัดกะกับเพื่อนๆร่วมป้อมอีก3คน
จะมีก็แต่ เฟรินที่อยู่ในเกวียนของโรเวน คิลในเกวียนของลูคัส และ โรในเกวียนของไธนอส ที่นั่งสบายไม่มีหน้าที่หนักหนาอะไร
โรเวนเสยเรือนผมสีน้ำเงินเข้มขึ้นเล็กน้อยมีลมอ่อนพัดมันลงมาปรกบนดวงหน้าที่สง่าราวกับรูปสลัก ก่อนจะชะโงกหน้าผ่านม่านบางเข้าไปในเกวียน แล้วแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนที่มาพร้อมกับเสียงทุ่มนุ่มเบาๆ
“เราจะบอกเดินทางกันแล้ว เตรียมตัวรึยัง”
“เรียบร้อยครับ รุ่นพี่โรเวน”
“การเดินทางอาจจะไม่สะดวกพอๆกับตอนที่เข้าไปในเดมอสน่ะนะ พวกของใช้อะไรเตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“ครับ”
โรเวนนิ่วหน้าเล็กน้อยกับคำตอบรับของสาวน้อยเบื้องหน้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะมุดหายไปจากม่านแล้วส่งสัญญาณมือให้ไธนอสที่พยักหน้ารับแล้วส่งสัญญาณแบบเดียวกันให้กับลูคัส
เกวียนควบปุเลงๆผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีของเอดินเบิร์กมาไม่นานนัก กำแพงสูงตระง่านก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ธงสีทองที่ปักอยู่บนยอดกำแพงปลิวไสวตามแรงลมราวกับกำลังต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
โรเวนมุดเข้ามาในเกวียนยิ้มๆก่อนแทคเบาๆที่มือเฟรินให้ไปคุมเกวียนระยะหนึ่งก่อนระหว่างที่ตนกำลังจัดเอกสารเข้าเมือง
เฟรินมุดโผล่ออกมาหน้าเกวียน ร่างบางสูดลมหายใจลึกรับเอากลิ่นหญ้าบริสุทธิ์รอบด้านเข้าไปในปอดก่อนแหงนหน้าขึ้นมองกำแพงใหญ่ยักษ์เบื้องหน้า
จากเอดินเบิร์กมาบารามอสไม่เสียเวลามากนัก แล้วก็ข้ามจะบารามอสไปคาโนวาล ก่อนจะตรงทะลุเวนอลไปถึงเจมิไน ถ้าเดินทางกันตลอด เฉลี่ยแล้วคงไม่เกิน10วันก็น่าจะถึงเจมิไน
“เฟริน”
“เฟริน”
เจ้าของชื่อสะดุ้งน้อยๆก่อนจะหันขวับไปถามเจ้าของเสียงเรียกที่ทำให้เธอตื่นจากภวังค์
“ครับ?”
“คิดอะไรอยู่ หืม เข้าไปในเกวียนเถอะ พี่จัดเอกสารเสร็จแล้ว”
โรเวนชูปึกกระดาษเบื้องหน้าให้ดู แล้วเขยิบขึ้นมานั่งหน้าเกวียนเคียงข้าวเฟรินที่ยังไม่เข้าไปในเกวียน
“ยังไม่อยากเข้าเท่าไรฮะ อากาศด้านนอกสดชื่นกว่าข้างในเยอะ”
“แต่อากาศชื้นๆแบบนี้มันทำให้เราเป็นหวัดได้”
โรเวนมุ่นหัวคิ้วลง เมื่อเห็นเจ้าตัวดียิ้มแป้นแล้วรับคำเสียงใส
“คร้าบ แล้วพี่จะรู้ว่าคนอย่างเฟริน เดอเบอโรว์ ไปเป็นอะไรง่ายๆ”
“เฟลิโอน่า เกรเดเวล”
โรเวนแก้ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเหลือบมองร่างบางข้างตัวเป็นระยะๆ ก่อนจะกระตุกแส้ให้เกวียนจอด อาชายกขาหน้าขึ้นก่อนจะหยุดวิ่งแล้วยืนนิ่งต่อหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองบารามอส
“เรารออยู่ที่นี่ พี่ไปสักครู่ก็คงเสร็จ”
การผ่านด่านตรวจบารามอสก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย ที่อัศวินหน้าด่านพอเห็นหน้าเจ้าชายแห่งเจมิไนก็เปิดทางให้เป็นอย่างดี จากกิตติศักดิ์อันเลื่องลือในสงครามเอเดน-เดมอสครั้งก่อน
พระอาทิตย์เคลื่อนตัวลงต่ำสาดแสงสีแดงสว่างไปทั่วฟ้า โรเวนกระชากเกวียนหยุดพักที่กลางป่าชายแดนบารามอส-คาโนวาล
จากคำพูดของเจ้าชายขอทานแห่งทริสทอร์ ทำให้รู้ข่าวอะไรเพิ่มขึ้นมากมาย
พรุ่งนี้เช้าทริสทอร์จะส่งมังกร3ตัวมาย่นระยะเวลาการเดินทางให้ เพื่อที่จะผ่านคาโนวาลไปอย่างรวดเร็วและไม่ต้องผ่านเวนอลที่ถือทางฝั่งซาเรส
โรเวนและลูคัสสองซาตานแห่งป้อมอัศวินกำลังลากคถาเป็นวงรอบที่พักเพื่อสร้างเขตอาคมปกปักษ์ ขณะที่ไธนอสและลอเรนซ์กำลังตัดต้นไม้เป็นทางยาว ให้มังกรของทริสทอร์ลงจอดพรุ่งนี้
โรเวนท่าทางอารมณ์ไม่ดีนักเมื่อรู้ว่าเวนอลถือหางฝ่ายซาเรส แต่ก็ยังยิ้มแย่มแจ่มใสเมื่อคุยกับรุ่นน้องในป้อม
ร่างสูงเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาตามดวงหน้าคม แล้วเอนกายพิงที่ต้นไม้ต้นหนึ่งระหว่างโรและเฟริน โรหันมาส่งนัยน์ตาสีเขียวมรกตพราว แต่ก็หันกลับไปนอนต่อในเวลาอันสั้น
โรเวนยิ้มบางก่อนจะปรือนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มลงแล้วหลับไป
“อื้อ”
เฟรินพลิกตัวหลบแสงแดดที่ส่องลอดม่านหน้าต่างเข้ามาแยงตา
...ใครเปิดม่านทิ้งไว้...
...เอ๊ะ แต่เมื่อคืนนี้...
ร่างบางสะดุ้งตื่นก่อนจะกวาดนัยน์ตาไปทั่วห้อง เธออยู่บนเตียงสี่เสาขนาดใหญ่ที่ประดับด้วยทับทิมสีแดงใส ของตกแต่งห้องที่ทำด้วยทองคำและประดับประดาด้วยทับทิมช่างล่อตาล่อใจหัวขโมยอย่างเธอจริงๆ
แต่คิดได้ไม่เท่าไรเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้น เฟรินจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง ก่อนที่เสียงนุ่มที่แสนค้นเคยจะแล่นเข้ามาในโสต
“ยังไม่ตื่นอีกหรือนี่ คงต้องปลุกแล้วสินะ”
ว่าพลางผู้มาใหม่ก็สาวเท้าเข้ามาใกล้เตียงแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆร่างของเธอ ผู้มาใหม่พยายามจะดึงผ้าห่มออก ทำให้เธอจำใจปล่อยมันออกไป
มือนุ่มลูบผ่านเรือนผมของเธอเบาๆ แล้วมืออีกข้างก็ช้อนด้านหลังจับเธอให้นั่งตรง เฟรินแสร้งทำคอตกให้ดูเหมือนคนกำลังหลับ แต่ผู้มาใหม่ก็ช้อนคอของเธอขึ้น
“เฟริน”
“เฟริน”
เสียงนุ่มเรียกเบาๆข้างหู ทำให้ร่างบางปรือตาขึ้นทีละน้อยก่อนจะสบกับนัยน์ตาอีกคู่ที่อยู่ไม่ห่างกันนัก ความร้อนแล่นวูบวาบเข้ามาบนใบหน้า เมื่อดวงหน้าคมอยู่ห่างจากหน้าของเธอไม่ถึงนิ้ว นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มผงะก่อนจะขยับหน้าถอยหลัง แล้วระบายรอยยิ้มอ่อนโยน
“พึ่งตื่นหรอ”
“อ่าครับ พี่โรเวน แล้วที่นี่...”
“วังหลวงแห่งเจมิไน”
ความคิดเห็น