ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Yaoi @@ รักรั่วๆ..พรต&รัน

    ลำดับตอนที่ #14 : Part 14

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 453
      1
      5 ก.ค. 56

    “อืม..ไปทางนี้” ผมชวนไปฝั่งตรงข้ามไอ้โต๋ ไม่อยากขัดความสุขมัน คงต้องการหวานกับเมียลำพัง ผมเองอยากหวานกับไอ้รั่วเช่นกัน นานทีจะโรแมนติก มันเดินล้วงกระเป๋า ส่วนผมปล่อยตัวสบาย เดินทอดน่องให้ลมทะเลพัดผมกระเซิง ดันดูมีเสน่ห์ได้อีกทั้งที่หน้าผากมีพลาสเตอร์แปะอยู่ กลับไม่ได้ลดความหล่อของมันลงแม้แต่น้อย
     นึกแล้วขำ จากวันนั้นถึงวันนี้ผมรักมันหมดใจ ไม่เชื่อว่าจะรักผู้ชายคนหนึ่งได้ขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีรสนิยมชอบเพศเดียวกันมาก่อน สุดท้ายได้มันเป็นคนรัก อยู่กันมาจนทุกวันนี้
     เป็นสิ่งประทับใจและความทรงจำสวยงามอันดับหนึ่งในชีวิตของผมก็ว่าได้ จากคู่กัดกลายมาเป็นคนรัก จากรุ่นพี่มาเป็นคู่ชีวิต ผมมองมันไม่เคยเบื่อ มีแต่จะชื่นชมในรูปลักษณ์ที่ดูดีเพอร์เฟก ถึงได้มีสาวๆ เข้ามาหลงรูปไม่ขาด โชคดีมันไม่หลายใจ ไม่งั้นผมคงช้ำใจน่าดู..
     “คิดอะไรวะ เดินยิ้มไม่พูดไม่จา” มันชวนคุย
     “หึหึ! กูมีความสุข” ตอบตามความรู้สึก
     “อืม..กูก็มี แม้หัวจะปูดก็เหอะ” ผมยิ้มกว้างทันที
     “เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ยุบ” มันหันมาสบตา ก่อนเบือนหน้ากลับเดินนำไปยังโขดหินที่อยู่ไม่ไกลโดยไม่พูดอะไรอีก กระทั่งนั่งพิงไหล่หันหน้าออกทะเลมองคลื่นกระทบโขดหินแตกฟองในความมืด มองเห็นได้เพราะพระจันทร์คืนนี้งามกระจ่างนวลตา
     “ขอบคุณ ที่อยู่ข้างกัน” จู่ๆ มันทำลายความเงียบเอ่ยขึ้นดื้อๆ ผมหันไปจ้องรูปหน้าด้านข้าง สายตามันมองไกล 
     “ทำไมต้องขอบคุณ กูมีความสุขที่ได้อยู่กับมึง คบกันขนาดนี้คงไม่ต้องอธิบายความรู้สึกเป็นคำพูดหรอกมั้ง” ผมบอก มองตามสายตามันไปสุดลูกหูลูกตา เห็นแต่ความมืดมิดขอบฟ้าเวิ้งว้างว่างเปล่า ในความมืดกลับมีความลึกลับชวนค้นหา เหมือนมันที่นั่งพิงไหล่ผม ไม่ว่าคุ้นเคยแค่ไหนกลับอ่านได้ไม่เคยจบ มีเรื่องให้ชวนติดตามค้นหาตลอดเวลา..แฝงความฮาและเสียงหัวเราะตามมาเป็นนิสัย
     “อืม..กูรู้” มันตอบเสียงเบาเหมือนมีอะไรในใจ ถึงเวลาที่ผมควรถามหรือเปล่า กังวลหากยกประเด็นคาใจคุย จะทำให้บรรยากาศดีๆ ตอนนี้เสียเอาได้ แต่ผมควรลองเสี่ยงดู
     “มึงมีอะไรในใจหรือเปล่า..พรต” มันเงียบไปพักใหญ่
     “เปล่า..ถามหน่อย” ผมมองหน้า มันจ้องผมเช่นกัน ไหล่เราพิงกันเหมือนเดิม มันนั่งคู้เข่าข้าง ส่วนผมเหยียดขาสบายๆ
     “ถามดิ”
     “ถ้ากูทำอะไรผิดพลาด มึงอภัยให้กูไหม” ผมจ้องตาหาพิรุธ ประโยคที่มันพูดแฝงความนัยแน่นอน
     “รู้ว่าผิด..ทำไมไม่หาทางแก้ไขก่อนมันจะเกิด แทนที่จะสนใจมาตั้งความหวังว่ากูจะอภัยให้หรือไม่” ผมตั้งโจทย์ให้มันคิด
     “บางเรื่องต้องใช้เวลาแก้ไข ไม่สามารถทำได้ปุ๊บปั๊บ ทำได้กูก็อยากให้เป็นแบบนั้น กูถามเพราะอยากให้มึงเข้าใจ วันใดที่กูเผลอทำผิดพลาด จนมึงเสียความรู้สึก ขอให้รู้ไว้ว่ากูไม่ต้องการให้เป็น แค่หวังมึงจะอภัยให้” ดูมันจริงจังและซีเรียสกับคำตอบผมน่าดู
     “พรต!..ไม่ใช่กูไม่ยืดหยุ่น คนเราทำผิดกันได้ ขึ้นอยู่มีเหตุผลอะไร ประเด็นหากมึงรู้ปัญหา ทำไมไม่ปรึกษากูวะ ในเมื่อเราเป็นคนรักกัน มึงเห็นกูเป็นคนอื่นหรือไงหืม” หางเสียงผมติดใส่อารมณ์นิดๆ รู้สึกน้อยใจพอสมควร ที่มันไม่คิดปรึกษาผม
     “รัน..เรื่องบางเรื่องไม่ใช่จะพูดกันได้ มึงเองยังมีมุมส่วนตัวที่ไม่บอกกูเหมือนกัน สิ่งเดียวที่กูไม่เอามาเป็นปัญหาเพราะเชื่อใจมึง กูอยากขอร้อง หากสงสัยในการกระทำของกูให้ท่องคาถาบทหนึ่งเสมอ” มันพูดแบบนี้ ผมเริ่มแน่ใจมีบางอย่างเกิดขึ้น ปัญหานั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องคุณคิม แต่ผมก็ยิ้มใส่ตามันเหมือนไม่ติดใจสงสัย ให้มันสบายใจไม่กังวลเกินไป
     “ลองบอกมาก่อน คาถาอะไรของมึง”
     “รัก..และเชื่อใจ ช่วยให้เราเข้าใจกันได้ดี” ผมยิ้มให้มันจากใจ
     “กูท่องประจำ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่อยู่ถึงวันนี้ ว่าแต่มึงแนะนำกูอย่าลืมหัดท่องด้วยล่ะ” มันยิ้มกว้างให้ผม ก่อนทำผมขำจนได้
     “กูท่องนะมึง บางทีคาถาก็ไม่สามารถลดอารมณ์หึงผัวเหอะ..ห่า มันน่าจะมีคาถาที่ขลังกว่านี้..ว่าไหม” ผมหลุดหัวเราะดังลั่น มันเป็นแบบนี้ ใครไม่ขำคงเส้นลึก ผมคนหนึ่งที่อดขำไม่ได้จริงๆ
     “ทำไมต้องหึงขนาดนั้น ไหนบอกให้เชื่อใจ มึงควรเชื่อใจกูด้วยพรต” หัวเราะไปพร้อมกับเตือนสติมันไป
     “กูเชื่อใจมึง แต่กูไม่เชื่อใจพวกที่พยายามเกาะแกะนี่หว่า คนเราบางครั้งไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ล่อแม่งคาถา เรื่องเหล่านี้ดันมีจริงด้วยสิ เป็นเมื่อก่อนกูอาจไม่เชื่อเท่าไหร่ ตั้งแต่ผ่านศึกกรองกุมภ์ เรื่องเหลือเชื่อต่างๆ กูแม่งเชื่อว่ามีหมด แอบกลัวมึงอาจโดนของเข้าสักวัน” ฟังเหตุผลมันแล้ว ผมไม่มีคำโต้แย้ง นอกจากบอกให้มันสบายใจ
             “หึหึ! กูไม่โดนหรอกน่า มีแต่มึงจะโดน" ผมหัวเราะร่า
            "โดนของเหี้ยไรมึง ใครจะทำของใส่กู" มันค้อนผมด้วย
            "โดนของกูไง ของเธอใหญ่จัง ลองเลยไหม..ฮะฮ่าๆๆ" ผมพาฮา แต่มันดันไม่ขำ หน้าตาซีเรียสเลยต้องเปลี่ยนคำพูด
     “ไม่มีใครใช้คาถาใส่กูได้ ตราบใดหัวใจกูมีมึงเป็นของขลังป้องกันมนต์ดำไปตลอด มึงควรมั่นใจกูด้วย ในเมื่อหัวใจมึงมีกูเป็นเจ้าของ ย่อมไม่มีใครทำเรื่องต่ำทรามกับเราสำเร็จ มึงเชื่อในพลังแห่งความรักเปล่าเล่า” พอมันฟังผมพูด หน้าหล่อระบายยิ้มกว้างทันที
     “อืมจริง กูสมควรมั่นใจ ดันคิดว่ามึงสุดยอดมหานิยมด้านเสน่ห์แรง พาใครต่อใครหลงหัวปักหัวปำ ถึงได้ไม่เลิกกังวลสักที” ฟังมันพูดมาแบบนี้ ไม่ต่างผมที่คิดว่ามันมีเสน่ห์เช่นกัน
     “อะไรทำให้มึงคิดว่ากูมีเสน่ห์ขนาดนั้น ทั้งที่คนชอบมึงมากกว่ากูอีก ปัญหาส่วนใหญ่ล้วนเพราะคนมาชอบมึง” เรื่องจริง ดูอย่างเวียนเทียนวันนี้ ไม่เพราะมิ้นท์ถูกใจมันคงไม่เกิดเรื่อง
     “คึคึ! ชื่อมึงก็ชนะกูขาดลอยแล้วรัน” มันดันหัวเราะ แถมพางงอีก ทำผมสงสัยจนได้
     “ชื่อกูชนะมึงยังไง”
     “มึงชื่ออรัญ อำเภออรัญมีแต่คนพากันไปแน่นขนัด แถมขนเงินไปให้อีกต่างหาก บ้างบ้าคลั่งหมดเนื้อหมดตัว ไม่อย่างนั้นปอยเปตคงไม่อยู่ยืนยาวสถาพรอย่างทุกวันนี้ เห็นยังว่าชื่อมึงคือแหล่งมอมเมาดีๆ นี่เอง ไม่เรียกว่าชนะกูแล้วจะให้กูคิดยังไง” พระเจ้า! ฟังแล้วอึ้ง คิดไม่ถึงว่ามันจะยกปอยเปตมาเป็นเหตุผล ฉิบหายกูชื่ออรัญ ดันเทียบกับโรงเกลือที่ตั้งของบ่อนคาสิโนปอยเปต ใครจะรั่วแบบมึงมีอีกไหม?
     “คิดแบบนี้ไม่ยุติธรรมนี่หว่า ชื่อมึงใช่ย่อยฮีโร่ขวัญใจคนทั้งประเทศ” ผมเล่นกับมันมั่ง
     “ฮีโร่ขวัญใจเหี้ยไร” เป็นมันงงบ้าง
     “มึงชื่อวรพรต..นักชกเหรียญทองโอลิมปิก ไม่ใช่ฮีโร่แล้วเป็นอะไร หรือมึงจะเถียงกู วรพรต..เพชรพุ่ม จำได้ไหม” ผมยอมรั่วเป็นเพื่อน
     “กร๊ากกก!! โคตรฮาว่ะ กูยอมรับนิดเดียว กูไม่ได้ชกเก่งเหมือนมันนิ ถ้าแข่งเรื่องอื่น กูได้เหรียญทองแต่จะเป็นฮีโร่หรือเปล่ากูไม่รู้ ต้องให้มึงตัดสินเอาเอง” มันโยนโจทย์ให้ผมคิดบ้างแล้ว
     “เรื่องไหน”
     “อยากรู้กลับห้องดิ เดี๋ยวพิสูจน์ให้ดู ว่ากูเก่งเรื่องไหน” พอเดาออก เผลอยิ้มกว้างให้ไม่ปิดบัง
     “ต่อให้มึงไม่แสดงกูเตรียมเรียกร้อง ไปเถอะ” ผมลุกยืน ส่งมือให้จับ มันยิ้มหล่อ ยอมให้ผมช่วยดึงลุกแต่โดยดี เราสองคนกอดคอเดินกลับที่พัก พร้อมอาการหัวใจพองคับอก วันนี้มีสิ่งดีปิดท้ายแล้วสินะ..
     ถึงห้องไม่มีการอารัมภบท ปิดประตูลงกลอน หน้าเราทั้งคู่เหมือนมีแม่เหล็กดูดชิดติดกัน ประกบจูบตั้งแต่หน้าประตู
    “พรต..กูว่าในอ่างเถอะ” พอผมท้วง มันยอมหยุดมือ
     “ทำไม” หน้าหล่อแดงก่ำ ลามไล่ไปทั่วคอ หน้าอกแน่นตึง
     “มันเค็ม ไม่ใช่รสชาติปกติของมึง” ผมพูดตรงๆ
     “คึคึ! นึกว่ากลัวสังคังกินไข่” ผมโบกหัวไปที ก่อนสปริงตัวลุกไม่ลืมดึงมันลุกด้วย เราคลอเคลียกันเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นตีฟองแชมพูทีเดียว ระหว่างรอน้ำเต็มอ่าง เราโหมโรงอุ่นเครื่องด้วยจูบอ้อยอิ่งนุ่มนวลไม่รุนแรง เป็นจูบอ่อนโยนหวานซ่านของเราสอง
     น้ำได้ระดับ ผลัดกันลูบไล้ร่างกายอีกฝ่ายอย่างคุ้นมือ ยอมรับหุ่นมันดูดีสวยงามทำผมใจเต้นทุกครั้ง ไรขนลู่น้ำเพิ่มให้ดูเซ็กซี่เข้าไปใหญ่ มันเองก็เล่นร่างกายผมอยู่ โดยเฉพาะทับทิมสีอ่อนบนหน้าอกแน่น

    ตัดฉับ..เรท ฉ


    ”อีกรอบนะ..พรต” มันยิ้มพยักหน้ารับ บทรักของเราเริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างละมุนละไม คงเพราะผ่านบทแรกไปหมาดๆ จึงอ่อนโยนซาบซ่านจับใจเก็บไว้เป็นหนึ่งในความทรงจำสวยงามของเราต่อไป..บทรักไม่ว่าจะเริ่มด้วยอารมณ์แบบไหน บทสรุปต่างหากที่เป็นหัวใจหลัก เพราะเรารู้ว่าไม่ใช่แค่การปลดปล่อยความต้องการตามธรรมชาติเท่านั้น แต่เป็นการกระชับคำสัญญาของเราที่มีต่อกันผ่านบทรักใช้ร่างกายพูดแทนเราว่า ‘เรารักกัน’
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×