ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    @@Yaoi โดยLuk {เสน่ห์นางโชว์} เปิดจองนิยายรายละเอียดดูตอน 17

    ลำดับตอนที่ #8 : Part 7

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 57


     

    “คุณชายเพชร” เปลวครางโหย เมื่อเห็นหน้าผู้ที่ก้าวอย่างสง่างามดุจเทพบุตรออกมาจากกลุ่มแขกวีไอพี คิดไม่ถึงคนที่เปิดฟลอร์เต้นรำด้วยจะเป็นคุณชายเพชร เพิ่งเจอกันท่ามกลางสถานการณ์ระทึกขวัญ แถมเป็นผู้ชายคนเดียวที่เปลวทิ้งหางตายั่วยวนก่อนลงจากรถ เป็นเปลวอีกเช่นกันดันอายจนไม่กล้ามองทาง รีบเดินหนีเข้าคอนโดลืมกระทั่งมารยาทส่งแขก

    คุณชายกำลังเดินตรงมาหาเธอ ซ้ำยังจ้องอย่างไม่ยอมละสายตา เปลวเกิดอาการประหม่าขึ้นมาทันที เธออยู่ในชุดราชินีคลีโอพัตราออกแนวเซ็กซี่ยั่วยวน เปิดเผยเนื้อหนังมังสาล่อแหลมพอสมควร ด้านบนเกาะอกดันเต้าเต่งอาศัยรัดหน้าอกยัดฟองน้ำจนดูเนียน ส่วนด้านล่างนุ่งบิกินี่สีทองคลุมด้วยชีฟองสีขาวเนื้อบาง ทำเป็นระบายกรอมเท้าส่งให้ชุดที่ใส่แลเซ็กซี่น่าค้นหาเพิ่มขึ้นไปอีก ออกแบบในสไตล์อียิปต์ร่วมสมัยประยุกต์ขึ้นใหม่

    หากเป็นการโชว์ปกติเปลวไม่โชว์แบบนี้แน่ รับปากเจ๊เจสซี่ดันเจอแจ็กพอตเข้าจนได้ คนที่ไม่อยากเจอหน้าในระยะเวลาอันใกล้ ขอเวลาทำใจเพราะยังรู้สึกอายคุณชายอยู่ คือเหตุผลที่เปลวต้องการทิ้งห่างสักระยะ เพื่อจะได้ลืมการกระทำที่แกล้งอ่อยเขาเอาไว้ สุดท้ายไม่เป็นผลคุณชายมางานนี้ด้วย แถมกำลังจะเป็นคู่เปิดฟลอร์เต้นรำอีกต่างหาก

    จากคนที่ปกปิดความรู้สึกได้ดีมาตลอด ในฐานะนางโชว์มืออาชีพ ขณะนี้แววตาของเปลวตื่นตระหนก ดุจกวางเจอกับนายพรานจนเห็นได้ชัด ต่างตรงความรู้สึกของกวางคงหวาดกลัวถูกพรานจับตัวไป แต่เปลวทำตัวไม่ถูกปั้นหน้าไม่เนียน วิตกกังวลกลัวคุณชายจะจำเธอได้ ถ้าจำได้เขาจะขำเธอไหม ดันมารู้อาชีพเธอคือนางโชว์ สำคัญสุดพวกที่เป็นนางโชว์ย่อมเป็นสาวประเภทสองซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงจริง ข้อนี้ต่างหากทำเปลวกังวลเผลอออกอาการตกประหม่าอย่างที่เห็น สองครั้งที่เธอกับคุณชายเจอกัน เธอได้ปกปิดเพศสภาพแท้จริงไว้ สวมบทเป็นผู้หญิงซึ่งมั่นใจว่า คุณชายเองก็คงไม่รู้เธอเป็นผู้ชาย ถ้าหากเขาจำเธอได้คงคิดว่าเธอเป็นพวกลวงโลก

    การพบกันระหว่างเธอกับเขาล้วนไม่เคยอยู่ในสภาวะปกติทั่วไปเลยสักครั้ง หนนี้เธอเป็นนางโชว์ แถมเป็นของประมูลหาเงินบริจาคการกุศล  เธอมั่นใจผู้ชนะประมูลเป็นสุภาพสตรีสาวสวย แต่ทำไมคนที่ออกมาใช้สิทธิเปิดฟลอร์เต้นรำกลับเป็นหม่อมราชวงศ์เพชรรัตน์ มณีรมย์ ผู้ชายที่ได้ชื่อหล่อสมาร์ทตั้งแต่หัวจรดเท้า แค่คุณชายร่วมมาเป็นแขกในงานนี้ ผู้ชายที่เหลือภายในห้องจัดเลี้ยง คงเป็นได้แค่ตัวประกอบไปเรียบร้อย หัวใจเปลวเต้นรัวกระหน่ำไปแล้วเช่นกัน พะวักพะวงทำเป็นมึนไม่เคยรู้จักมาก่อนชักไม่แน่ใจคุณชายจำเธอได้หรือเปล่า ครั้นทักทายอย่างคนคุ้นเคยก็ไม่กล้า..

    “หนิม..อีเปลวมันเป็นอะไร” เจ๊เจสซี่กระซิบถามสนิมหลังเห็นพิรุธจากสีหน้าเปลว ทั้งคู่รวมถึงนางโชว์ที่เหลืออยู่หลังเวทีแอบดูสถานการณ์ภายในห้องจัดเลี้ยง ร่วมลุ้นไปกับการประมูลมาตั้งแต่ต้น

    “เหมือนมันกังวลใจอยู่นะเจ๊” สนิมตอบตามที่คิดสังเกตหน้าเปลว โดยเฉพาะดวงตาสวยแสดงความวิตกกังวลชัด ยิ่งคนคลุกคลีตีโมงตั้งแต่เด็กอย่างสนิมด้วยแล้ว อาการแบบนี้อธิบายได้ว่าเปลวกำลังลำบากใจแน่

                “มันจะกังวลอะไร จะว่าเต้นรำไม่เป็นไม่ใช่แน่ อีเปลวเต้นรำเก่งจะตายไป กูจ้างคนมาสอนเต้นตอนโชว์ชุดรัตติกาลนางซินมันพลิ้วสวยยังกะเจ้าหญิง ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่น่าใช่” เจ๊แกวิเคราะห์โดยอ้างความสามารถเต้นรำของเปลวเป็นองค์ประกอบ นับนางโชว์ในคณะคนที่เต้นรำสวยสง่านับคนได้ เปลวคือหนึ่งในนั้น แถมเรียกได้ว่าเต้นสวยสง่าดุจเจ้าหญิงก็คงไม่เกินจริงนักหรอก

    “หรือมันลำบากใจที่ต้องเต้นกับผู้ชายหล่อระเบิดระเบ้อสงสัยมันทำตัวไม่ถูกนะเจ๊ มันห่างการสัมผัสโดนตัวผู้ชายหลายปีดีดัก ต้องจับคู่เต้นรำท่ามกลางสายตาผู้ชมนับร้อย คงมีบ้างที่เกิดอาการประหม่าขึ้นมา”สนิมเสนอความคิดตามที่คาดเดา น่าจะเป็นเพราะเปลวไม่สนิทใจหากต้องจับคู่เต้นรำกับผู้ชายแปลกหน้า ต่อให้ผู้ชายคนที่เดินอย่างเท่เข้ามารับเปลวจะหล่อลากไส้ก็ตามเถอะ เปลวอาจจะไม่สะดวกใจวางตัวไม่ถูกก็ได้

    “มึงไม่รู้จักเขาหรือหนิม นั่นคุณชายเพชรรัตน์ มณีรมย์เชียวนะมึง มีแต่สาวๆ อยากได้เขาเป็นคู่เต้น อีเปลววาสนาหล่นทับได้เปิดฟลอร์คู่” เพียงเจ๊เจสซี่หลุดชื่อสกุลผู้ชายที่จะถึงตัวเปลวในอีกไม่กี่ก้าว ทำเอาสนิมถึงกับตาเบิกถลน หันมองหน้าเจ๊แกเพื่อขอคำยืนยัน ก่อนได้รับการพยักหน้าจากแกแทนการตอบรับ มั่นใจฟังไม่ผิดแน่ ผู้ชายซึ่งสง่างามหล่อปานเทพบุตรที่เห็นอยู่นี้ กำลังจะเป็นคู่เต้นรำของเปลวคือคุณชายเพชร ซึ่งเป็นหัวข้อสนทนาระหว่างเปลวกับสนิม ก่อนเดินทางมาที่นี่ ถึงตรงนี้สนิมเข้าใจทันที ทำไมเปลวมีอาการเหมือนกลืนยาขมลงคอ

    “ตายโหงความลับแตก” เผลออุทานไม่สุภาพ เจ๊เจสซี่พลอยสงสัยเข้าจนได้

    “ความลับอะไร..อีหนิม” เจ๊เจสซี่รีบถามทันควัน

    “เปล่าผมอุทานเรื่อยเปื่อย ไม่คิดว่าคู่เต้นเปลวเป็นคุณชงคุณชาย โหวาสนาเปลวมันเนอะ..แหะๆๆ” สนิมรีบแก้ตัวพัลวันเลยทีเดียว

    “มึงก็หัดรู้ไว้ นั่นน่ะสุดหล่อหนุ่มฮอตแห่งปี สาวแก่แม่หม้ายไฮโซ

    อยากเขมือบลงท้องกักตัวไว้กินเองกันแทบทุกคน” เจ๊แกย้ำชัดเจน

    “ขนาดนั้นเชียว ทำอย่างกับเขามีดุ้นทอง” สนิมค้อนให้เจ๊แกไปที นึกหมั่นไส้ตงิดทนฟังเจ๊แกเว่อร์ไม่ไหว แม้ยอมรับอย่างไม่ปฏิเสธคุณชายเพชรรัตน์หล่อชนิดมองแล้วต้องมองอีกก็เถอะ แต่ถึงขั้นแย่งเขมือบลงท้องออกจะเกินความจริงไปหน่อย ใช่มีแต่คุณชายเสียเมื่อไหร่ที่หล่อจนสะดุดเปลวเองก็สวยจับใจ สนิมนึกชมเพื่อนรักในลุคราชินีคลีโอพัตรา ซึ่งเปลวงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสาวแท้สาวเทียม ให้พูดตามความเป็นจริงแล้วล่ะก็ เปลวสวยถึงกับมีการแข่งประมูลเงินล้านเลยทีเดียว แค่นี้ก็เห็นคุณค่าของเพื่อนแล้ว คนบ้ายกมือแข่งบริจาคหลักแสนหลักล้านกันขนาดนี้ ดารานางแบบชื่อดังค่าตัวจ้างเป็นคู่เต้นรำเหยียบล้านแทบไม่เคยได้ยินมาก่อน เปลวเป็นแค่เกย์ที่มีอาชีพนางโชว์กลับทำลายสถิติให้คนแย่งประมูล วงเงินแปดหลักแถมราคายังยุติที่สิบล้าน แค่นี้สนิมก็สามารถคุยโอ่ได้แล้วว่า เพื่อนรักต่างหากที่เป็นทองแท้ไม่ใช่ทองเปลว..

    “ให้เกียรติสักเพลงนะครับ” คุณชายเพชรเดินมาหยุดลงตรงหน้าเปลวอย่างสง่างาม ก่อนค้อมตัวอย่างสุภาพขอเปลวเปิดฟลอร์ ท่ามกลางสื่อมวลชนซึ่งพากันชักภาพจนมือระวิง นี่คือปรากฏการณ์ที่จะกลายเป็นข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้น การประมูลเต้นรำกับคลีโอพัตรา มีมูลค่าเงินบริจาคเพื่อเด็กพิการทางสายตาและหูหนวกถึงสิบล้านบาทเลยทีเดียว

    “เป็นเกียรติเช่นกันค่ะ” เปลววางมือลงบนฝ่ามือคุณชายทั้งที่ในใจกำลังลุ้นระทึก เริ่มไม่มั่นใจคุณชายจำได้หรือไม่ได้กันแน่ ที่ลังเลในเรื่องนี้ เป็นเพราะการแต่งหน้านางโชว์ ทำให้หน้าตาเปลวเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอยู่พอสมควร มีติดขนตาปลอมเพิ่มแต่งหน้าเข้มจัด แถมยังวาดอายไลเนอร์ตวัดเฉียงหางตาให้เหมือนสาวอียิปต์ ซ้ำยังสวมมงกุฎราชินี บางทีอาจส่งผลให้คุณชายจำเธอไม่ได้ก็มีส่วน

    “รบกวนขอรูปคู่หน่อยครับ..บลาๆ” ทั้งคู่ไม่ทันก้าวไปกลางฟลอร์ สื่อมวลชนกรูเข้ามาขอรูปคู่เป็นการใหญ่ เลยพากันตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมยอมให้ถ่ายรูปตามคำเรียกร้อง ในขณะที่มือของคุณชายยังคงกุมมือเปลวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมทั้งสองยังต้องยืนชิดกันอีก เพื่อให้ภาพออกมาสวยงามตามคำแนะนำของสื่อ..

    “จะถ่ายทำไมนักหนา เสียภาพลักษณ์พี่ชายเพชรหมด” คุณมรกตบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อเห็นความใกล้ชิดของคุณชายกับนางโชว์ที่รู้อยู่แก่ใจเป็นสาวประเภทสอง

    “พี่มรกตจะเดือดร้อนทำไมคะ พี่ชายเพชรไม่เห็นคิดมาก ที่สื่อเขาถ่ายรูปคู่เพราะต้องเอาไปทำข่าว ดีเสียอีกมุกร่วมประมูลโดยพี่ชายเพชรรับเป็นคู่เต้นราชินีคลีโอพัตรา กลับสร้างภาพลักษณ์ให้วังมณีรมย์เรา ที่ร่วมบริจาคเพื่อการกุศลครั้งนี้ มุกไม่เห็นจะเสียภาพลักษณ์ตรงไหน” คุณหญิงมุกดาค้านความคิดคุณมรกตทันทีเช่นกัน หลังทนฟังคำบริภาษในเชิงลบต่อไปไม่ไหว ไม่รู้ไปเอาความคิดมาจากไหน อ้างคุณชายเพชรอาจเสียภาพลักษณ์ เพราะไปยืนถ่ายรูปคู่นางโชว์ ดีเสียอีกสังคมจะได้รู้ว่าคนของวังมณีรมย์ใช่สักแต่จะอวดบารมีใช้เงินฟุ่มเฟือย เช่นใครบางคนที่ชอบสร้างกระแสขยับตัวทีก็ต้องให้เป็นข่าว โดยเฉพาะข่าวแวดวงสังคมไฮโซต้องให้ชาวบ้านรับรู้ ว่าใช้ของนำสมัยอินเทรนด์ทุกอย่างแบรนด์ดัง เรื่องเหล่านี้คงไม่ต้องเจาะจงใครที่ถนัดให้ตัวเองเป็นข่าว หากไม่ใช่ผู้ที่บ่นห่วงภาพพจน์คุณชายเพชรอยู่ขณะนี้ ความอิจฉาพุ่งสูงจนลืมนึกถึงเหตุผลเสียแล้ว

    “เธอจะบ้าเหรอยัยมุก นั่นไม่ใช่ผู้หญิงจริง ไม่รู้หรือแกล้งโง่กันยะ ที่ฉันห่วงภาพพจน์พี่ชายเพชร คือการที่ลดตัวไปคลุกคลีตีโมงพวกผิดเพศ คนเสพข่าวถ้าเกิดไม่เข้าใจตีความผิดๆ พี่ชายมีรสนิยมเบี่ยงเบนขึ้นมาล่ะก็

    เธอยังจะมีหน้ามาเถียงฉันไหม รู้หรือยังว่าเสียภาพลักษณ์ตรงไหน”

    คุณมรกตเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห หลังคุณหญิงมุกดาออกตัวแทนนางโชว์ซึ่งไม่ใช่ญาติโกโหติกาฝ่ายไหน แค่คุณหญิงเสนอเงินประมูลถึงสิบล้านแทบทำเธอลมจับ ยังมาสนับสนุนกึ่งบังคับให้คุณชายเจ้าของวังมณีรมย์ไปเป็นคู่เปิดฟลอร์อีก นี่ต่างหากที่คุณมรกตเธอหันมาเล่นงานคนต้นเหตุอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ

    “พี่มรกตไม่ใจแคบไปหน่อยหรือคะ ถึงเขาจะผิดเพศมุกไม่เห็นจะนำความเสียหายมาให้พี่ชาย หรือวังมณีรมย์เราเดือดร้อนได้ยังไง มองดูรอบๆ ก่อนจะป้ายความผิดให้เขา คนแข่งขันแย่งกันประมูลเปิดฟลอร์กับเขาเกือบทั้งงาน ไฮไลท์คืนนี้เขาโดดเด่นตั้งแต่เปิดตัว หรือพี่จะเถียงมุกว่าเขาไม่สวยไม่เด่นจนผู้ชายในงานแข่งประมูลขนาดนั้น กล้ารับคำท้ามุกไหมคะ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลย พี่มรกตกล้าไปยืนบนเวทีให้คนแข่งประมูลเหมือนเขาไหม” คุณหญิงมุกดาโยนระเบิดใส่คนร่วมวัง แต่ต่างสายเลือดอย่างไม่คิดจะไว้หน้า เพราะทนเห็นท่าทีริษยาจนไม่เก็บอาการต่อไม่ไหว

    “เธอท้าฉันแบบนี้ไม่ยุติธรรมนะยัยมุก จะมีใครบ้าเท่าเธอกันยะ ประมูลเป็นสิบล้าน ที่ท้าฉันเรื่องนี้เพราะรู้ว่าฉันไม่มีโอกาสชนะล่ะสิ ฉันไม่เล่นกับเธอด้วยหรอก คนอย่างหม่อมหลวงมรกตแค่ปรายหางตาขี้คร้านจะมีคนกรูเข้ามาขอเป็นคู่เต้นรำด้วย ไม่ต้องลงทุนเอาตัวประมูลเป็นของเล่นอย่างยายผิดเพศนั่นหรอก..ชิ๊!” คุณมรกตเชิดคอตั้งอย่างเย่อหยิ่ง แสดงให้คุณหญิงมุกดาเห็นว่า คนระดับเธอไม่ใช่พวกกระเรี่ยกระราดให้ผู้ชายมายกมือประมูลเหมือนเป็นสิ่งของ

    “อ้าว! ไม่รับคำท้ายกเหตุผลแบบนี้สิ ดูไม่ยุติธรรมกับนางโชว์เลย พี่ไปกล่าวหาเธอแบบนั้นไม่ถูกนะคะ เจ้าภาพจัดงานเขาให้เธอเป็นตัวชูโรง ลองเปิดใจให้กว้างเธอสร้างกุศลหาเงินบริจาคช่วยเด็กพิการ ยอมใช้ตัวเองเป็นของประมูล นี่ต่างหากที่ควรค่าแก่การยกย่อง ไม่ใช่เราไปดูถูกดูหมิ่น ตำหนิว่าไม่มีค่าไร้ราคาเหมือนที่พี่พูด ถ้าชาวบ้านเขาคิดเหมือนกับพี่ล่ะก็โลกเราคงน่าอยู่พิลึก..ย้ำอีกครั้งนะคะ น่าอยู่พิลึก..คิกคิก” คุณหญิงมุกดาไม่ยอมลดราวาศอกให้คุณมรกต เธอไม่ชอบคนที่มีอคติลักษณะนี้เป็นทุน พอฟังแนวคิดคุณมรกตบ่งบอกว่าใจแคบอีก ทำให้เธอรู้สึกอายแทน ในฐานะที่คุณมรกตใช้วังมณีรมย์เพิ่มคุณค่าตนเอง ทั้งที่นำความจริงมาขุดคุ้ย คุณมรกตแทบไม่มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือดกับราชนิกุลมณีรมย์แม้แต่น้อย หากเรื่องนี้รั่วไหลไปถึงหูบุคคลภายนอก ไม่พานคิดว่าคนของวังมณีรมย์มีความคิดน่ารังเกียจ ไม่ต่างกับคุณมรกตไปด้วยเชียวหรือ สิ่งนี้ต่างหากที่คุณหญิงมุกดากลัวตกเป็นข่าวในสังคม

    “ความคิดเธอก็ส่วนเธอ ความคิดฉันก็เป็นของฉัน เชิญเธอยกย่องเชิดชูพวกลักเพศของเธอไปคนเดียวเถอะยะ ที่ฉันตำหนิมีเพียงเรื่องเดียว เธอจะชมชอบเชิดชูคนพวกนั้นมันเรื่องของเธอ รสนิยมประหลาดพิลึกพิลั่นของเธออย่ามาดึงพี่ชายเพชรไปยุ่งวุ่นวายด้วย เธอใช้ให้พี่ชายไปเป็นคู่เต้นของยัยลักเพศแบบนั้น มันไม่เหมาะไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญพี่ชายคือคนที่ฉันจับจองเป็นคู่เต้นรำในคืนนี้ แต่นี่เป็นเพราะเธอจัดแจงซี้ซั้วจนทำให้เรื่องราวมันดูไม่งาม อย่าลืมสิมุกดา..เธอเป็นถึงหม่อมราชวงศ์จะคิดอ่านทำการสิ่งใดหัดไว้ตัวรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลไว้หน่อย พวกเราไม่ใช่ชนชั้นสามัญชนคนธรรมดา ขยับนิดหน่อยก็ตกเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชนหากเธอตรองสักนิดจะเห็นว่า ที่ฉันพูดมาทั้งหมดมีเหตุผลสมควรหรือไม่”คุณมรกตกลับไม่ยอมเช่นกัน จึงสวมบทผู้มีวัยมากกว่ามาอบรมคุณหญิงมุกดาให้หน้าม้านเช่นกัน เธอทนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับยัยน้องสาวที่หวงพี่ชายจนออกนอกหน้ามานานถมถืดเกินทนแล้ว ได้โอกาสจึงใส่ไม่ยั้ง

    “ขอบคุณในความหวังดีนะคะ พี่เพิ่งบอกอยู่แหมบๆ คนเราล้วนแตกต่างทางความคิด พี่ไม่น่านำมาปะปนเรื่องส่วนตัว มุกกับพี่ชายเราต่างเรียนรู้อยู่อังกฤษ ประเทศที่ได้ชื่อเป็นเมืองผู้ดีเก่าแก่ พบเห็นความรักที่พี่ให้นิยามว่าลักเพศ ผิดเพศหรืออะไรก็ตามในเชิงลบมานักต่อนัก มุกไม่เห็นว่าเขาเหล่านั้นจะทำความเดือดร้อนให้ใครยังไง หรือดึงใครตกต่ำกับรสนิยมที่พวกเขาเป็นเลยแม้แต่น้อย ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาถึงกับเปิดโอกาสให้มีการจดทะเบียนคู่รักที่เป็นเพศเดียวกัน โดยใช้คำจำกัดความในทางสากลเรียกขานเป็นที่รู้กันว่ากลุ่มเพศที่สาม แต่ละคนก็มีมาทุกสาขาอาชีพแทบจะมีอยู่ในทุกวงการ รวมถึงสังคมทุกชนชั้น ตั้งแต่สามัญชนคนธรรมดาไปกระทั่งราชนิกุลก็ไม่เว้น นี่หรือที่พี่มรกตตราหน้าพวกเขาเป็นตัวน่ารังเกียจ มุกจะได้รู้ไว้เช่นกันค่ะว่า งานสังคมที่พี่ออกไปสังสรรค์ พี่ยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่แท้พี่ก็แค่หน้าไหว้หลังหลอกปั้นแต่งสีหน้าประจบประแจงเอาใจ โดยความรู้สึกแท้จริงขยะแขยงรังเกียจ พี่อย่าลืมว่าผู้ใหญ่หลายท่านที่พี่ฉอเลาะพูดจาหวานหูด้วยนั้น ล้วนเบี่ยงเบนมีรสนิยมส่วนตัวกับเพศเดียวกัน ซึ่งวงสังคมเองต่างก็รู้กันอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครหยิบยกมาพูดค่อนแคะให้ระคายเคือง ด้วยเคารพในสิทธิส่วนบุคคลทั้งยังให้เกียรติฐานันดรศักดิ์ของพวกท่าน ถ้ามุกจะขยะแขยงล่ะก็ ขอเลือกที่จะประนามพวกปากอย่างใจอย่างดีกว่าค่ะ คนพวกนี้คดในข้องอในกระดูก

    หน้าอย่างใจอย่างไม่เห็นจะน่าคบหาตรงไหน ส่วนใครจะเป็นอะไรไม่ใช่สิ่งที่มุกจะยึดถือเอามาตัดสินพวกเขา คุณค่าของคนอยู่ที่การกระทำต่างหาก ตรงนี้มากกว่าที่คนซึ่งมีโอกาสไปร่ำเรียนถึงต่างประเทศ ซึ่งขึ้นชื่อว่าพัฒนาไปไกลกว่าบ้านเมืองเรา พี่มรกตเองก็ใช้เงินกองกลางของวังไปเรียนสวิตฯ น่าแปลกไม่น้อยเลยทีเดียว เพื่อนมุกที่เป็นคนสวิตฯ ยังเคยพูดให้มุกฟังว่า ที่สวิตฯ มีกลุ่มรักร่วมเพศอยู่มากมาย ไม่ได้มีการแบ่งชนชั้นหรือกดดันให้คนเหล่านี้ไปเป็นพวกชนชั้นต่ำหรือขยะสังคม เหมือนอย่างที่พี่มรกตกำลังจะบอกให้มุกคิดแบบนั้น ส่วนพี่ชายเพชร..มุกมั่นใจว่าพี่ชายเปิดใจให้กับคนทุกเพศทุกวัย ไม่มีการจัดเกรดแบ่งชนชั้นแน่นอน เพราะพี่ชายเพชรคือพี่ของมุก ทำไมพี่น้องที่คลานตามกันมาจะไม่รู้จักพื้นเพนิสัยส่วนตัวกันคะ เว้นแต่คนนอกต่างสายเลือดเท่านั้นล่ะค่ะ ที่ไม่เข้าใจมโนไปเองว่าพี่ชายจะคิดแบบนั้นแบบนี้ คนจำพวกนี้ต่อให้ทอดร่างพลีกายเชิญชวนยังไง ก็คงได้แค่สร้างภาพในความฝันต่อไป เพราะพี่ชายคงไม่ชายตาแลหรอกเชื่อมุกสิ พี่ชายชอบคนจริงใจเปิดเผย เป็นตัวของตัวเองมากกว่า พวกสวมหน้ากากเก่งเล่นละครจนเป็นนิสัย ลืมกระทั่งกำพืดของตัวเองล่ะก็ พี่ชายไม่สนใจที่จะคบหาด้วยแน่นอน..นี่มุกหวังดีหรอกนะถึงได้ไขความลับให้ฟัง..คิกคิก”

    คุณมรกตถึงกับตาเบิกถลน กำมือเกร็งหลังโดนย้อนเสียเจ็บแสบจากคุณหญิงมุกดา ที่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มหูแต่กลับใช้ถ้อยคำแทงใจเจ็บตับ

    “ขออภัยสื่อมวลชนทุกท่าน กรุณายุติการถ่ายภาพไว้ก่อนนะครับ

    ช่วยอำนวยความสะดวกให้คู่เปิดฟลอร์เต้นรำทำหน้าที่ เพื่อผู้มีเกียรติจะได้ร่วมสังสรรค์ชื่นมื่นกันต่อไป ด้วยความเคารพทุกท่าน..ขอบคุณครับ”

    ยังไม่ทันที่คุณมรกตจะตอบโต้คุณหญิงมุกดา พิธีกรก็ขัดตาทัพขึ้นมาเสียก่อน โดยขอให้สื่อยุติการถ่ายรูปคุณชายเพชรและเปลวเอาไว้ เพื่อทั้งสองจะได้เปิดฟลอร์เต้นรำคู่แรก จากนั้นบรรดาแขกเหรื่อที่เหลือค่อยวาดลวดลายโชว์ลีลากันต่อไป จุดสนใจของคนในงานจึงมุ่งที่คู่เต้นรำ 

    ซึ่งบัดนี้เตรียมพร้อมตรงกลางฟลอร์เป็นที่เรียบร้อย เปลวใช้มือขวาเกาะบ่าคุณชาย มือซ้ายวางลงบนมือขวาคุณชาย ส่วนคุณชายเองก็กุมมือเปลวด้วยความนุ่มนวล โดยมือซ้ายอ้อมไปอยู่ทางด้านหลังเหนือเอวบางของเปลวค่อนมาทางสะบัก เพื่อให้วงแขนรองรับน้ำหนักช่วงแขนเปลว ที่เกาะบ่าผ่อนปรนไม่ให้เมื่อยเกร็ง โดยเว้นช่องว่างระยะห่างต่อกันไม่ถึงคืบ หน้าผากเปลวอยู่แค่ใต้คางคุณชาย ทั้งที่เปลวเองก็สูงร้อยเจ็ดสิบห้า ใส่ส้นสูงเพิ่มอีกสามนิ้วครึ่งยังสูงไม่เท่าคุณชายเลย คู่เต้นรำดูสง่างามเหมาะสมกันยิ่ง ดึงดูดสายตาแขกเหรื่อจับจ้องมองมาไม่กะพริบ มีทั้งชื่นชมยินดีมีทั้งอิจฉาดูไม่สบอารมณ์เช่นคุณมรกตและเสี่ยวิกรมเป็นต้น ทั้งคู่ต่างคิดว่าพื้นที่ตรงนั้นสมควรเป็นของพวกเขา คุณมรกตจับจองคุณชายเป็นคู่เต้นรำด้วย ไม่ต่างเสี่ยวิกรมที่ต้องการเปลว เสียงดนตรีสดในจังหวะวอลซ์เริ่มบรรเลง สะกดให้เสียงพูดคุยที่มีอยู่ค่อยเบาลงในที่สุด คู่เปิดฟลอร์ซึ่งโดดเด่นทั้งชายและหญิงเริ่มขยับเท้า โดยฝ่ายชายเป็นผู้ชักพาร่างสูงระหงพลิ้วไหวตามจังหวะอย่างสง่างามดุจเจ้าหญิงเจ้าชายในเทพนิยายไม่ผิดเพี้ยน เสียงปรบมือชื่นชมพร้อมเพรียง

    บรรดาช่างภาพสื่อมวลชนถ่ายภาพกันไม่หยุด คู่เต้นรำเคลื่อนไหวได้สักพัก คู่ที่รอจังหวะก็เริ่มประคองกันออกมาร่วมวงด้วย กลางฟลอร์ลีลาศจึงเพิ่มคู่เต้นจากหนึ่งเป็นสองสามและตามกันมาจนเกือบเต็มพื้นที่ แต่กลับไม่มีคู่ไหนสามารถกลบรัศมีความโดดเด่นของคู่แรกได้แม้แต่น้อยการเคลื่อนไหวท่าร่างที่งดงาม เช่นชนชั้นสูงที่ฝึกการเต้นรำมาจนชำนาญเข้าขั้นช่ำชองไปแล้วนั้น ทำให้การก้าวเท้าสามารถบังคับสรีระให้เข้าจังหวะเคลื่อนไหวได้สง่าแบบนี้ ทั้งที่คุณชายเพชรและเปลวไม่เคยฝึกซ้อมเป็นคู่เต้นรำกันมาก่อน กลับไม่มีข้อบกพร่องผิดพลาดให้เห็น ต่างเป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างกับคนรู้ใจ เปลวไม่มีการเกร็งต้านปล่อยคุณชายคุมการเคลื่อนไหว ยอมเป็นผู้ตามให้คุณชายชักนำไปทั่วฟลอร์ได้อย่างลื่นไหลคล่องแคล่ว ทำเอาคุณมรกตไฟลุกในลูกตาจนได้

     

    “คุณหญิง..กรุณาให้เกียรติคนแก่สักเพลงได้ไหม” ท่านผู้ว่าลุกยืนเอ่ยขอคุณหญิงเป็นคู่เต้นรำ ท่ามกลางแขกวีไอพีที่ลุ้นฟังคุณหญิงมุกดาคนสวยจะตอบรับหรือปฏิเสธ ผู้ว่าซึ่งเป็นพ่อเมืองให้เกียรติขอเต้นรำด้วย

    “ได้สิคะคุณอา มุกยินดีเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นเกียรติที่คุณอาขอมุกเป็นคู่เต้นรำ นึกว่าจะเป็นคุณหญิงเสียอีก” คุณหญิงมุกยิ้มได้น่ารักสดใส แถมยังหยอกภริยาท่านผู้ว่าให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอีก

    “เชิญเถอะค๊าคุณหญิงอาเต้นคู่ประจำ ให้ท่านได้คู่เต้นที่สวยงามอย่างคุณหญิงบ้างคงมีความสุข โอกาสแบบนี้หาได้ไม่ง่าย” ภริยาท่านผู้ว่ายิ้มขำอย่างผู้ใหญ่ใจดี เอ่ยปากสร้างความหรรษาไปด้วย คุณหญิงมุกจึงได้ออกไปเต้นรำกับท่านผู้ว่า กลายเป็นจุดสนใจที่พ่อเมืองกับหม่อมราชวงศ์มุกดา มณีรมย์ ออกมาเป็นคู่เต้นวีไอพีให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพเพิ่มอีกคู่ ในขณะคุณมรกตเธอยังคงนั่งคอแข็ง แลซ้ายขวาไม่มีหนุ่มคนไหนใจกล้ามาโค้งขอเธอเป็นคู่เต้นด้วยสักราย รอบกายเริ่มจะลุกออกไปเป็นคู่ๆ ชักร่อยหรอบางตาให้เธอนั่งเฝ้าโต๊ะไปแล้ว ใบหน้าสวยเริ่มเจื่อนลงถนัด ถือเป็นงานแรกที่เธอไม่มีใครมาขอเป็นคู่เต้นรำ พูดได้ว่าเสียหน้าสุดๆ

    “ยินดีที่ได้พบอีกครั้งครับ..คุณเปลว” เปลวถึงกับสะดุ้งเหยียบเท้าคุณชายไปที หลังคุณชายพูดเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับสบตาเธอ จนเปลวอยากเอาหน้ามุดฟลอร์หนีไปเสียเดี๋ยวนี้ สรุปคุณชายจำเธอได้

    “ยิน..ยินดีเช่นกันค่ะ” เปลวอึกอักบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติด้วยความลำบาก ภายในใจกระวนกระวายไปแล้ว คิดไม่ถึงคุณชายจำเธอได้แค่ไม่แสดงพิรุธให้เธอรู้แต่แรก จึงทำให้ก้าวพลาดเหยียบเท้าเข้าจนได้

    “ผมเข้าใจว่าคุณเปลวไม่ยินดีเจอผมเสียอีก” คุณชายกลับนิ่งมาก ไม่หยิบเอาความผิดพลาดที่เปลวเหยียบเท้า มาทำให้ประหม่าไปกว่าเดิม เปลวเองพอเจอลูกนี้เกิดอาการหน้าร้อนฉ่า แต่ไม่ต้องการให้คุณชายจับความรู้สึกเช่นกัน จงใจยิ้มหวานให้คุณชายอย่างต้องการเบนจุดสนใจไปประเด็นอื่นแทน

    “พอใจไหมคะ เปลวทำให้รู้ไม่ได้คิดอย่างที่คุณชายเข้าใจไปเอง”ทิ้งท้ายย้อนคุณชายอีกต่างหาก

    “เพิ่งมีคุณคนแรก ที่ยิ้มแล้วถามผมพอใจไหม” คุณชายหยอกคืน

    “แค่กๆ” เปลวสำลักเกือบสะดุดรองเท้าหงายหลัง ดีที่คุณชายรวบกอดไว้อยู่ทำให้ไม่ล้มลงไป แถมคุณชายยังช่วยกลบเกลื่อนพาเคลื่อนตัว จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

    “หึหึ..คุณทำผมประหลาดใจทุกครั้งที่เจอกัน” คุณชายขำเปลวที่เกิดอาการเขินจนไม่กล้าสู้ตาด้วย เฉมองข้ามไหล่ทำให้มีโอกาสสังเกตเห็นลำคอขาวขึ้นริ้วแดงชัดเจน ส่วนเปลวกำลังชั่งใจว่าควรโต้ตอบยังไงดี ที่ไม่วกกลับมาเข้าตัวทีหลัง อย่างน้อยก็ใจชื้นไม่ถูกเหน็บแนม ในเพศสภาพที่ปกปิดมาก่อนหน้า คุณชายเลือกไม่ยกมาพูดในขณะสนทนาด้วย

    “เปลวก็ประหลาดใจเช่นกัน ที่คุณชายมางานนี้” เปลวนึกหัวข้อชวนคุยได้ไม่ดีเท่าไหร่ จึงหยิบเอาเรื่องนี้มาแก้ขัดไปพลางๆ

    “ผมมากับน้องสาวคนที่ชนะประมูล ทำให้ผมเป็นคู่เต้นรำของคุณ

    จำหญิงมุกได้ไหม คนที่คุณเซอร์ไพรส์ครั้งแรกที่เราพบกัน” เปลวทบทวนคำพูดคุณชาย จนเริ่มจำได้สาวสวยชุดราตรีสีมุกที่ประมูลเปิดฟลอร์เธอเป็นเงินถึงสิบล้านบาท ที่แท้คือหม่อมราชวงศ์มุกดานี่เอง

    “เปลวจำไม่ได้จริงๆ คุณหญิงสวยมาก..เปลวคิดไม่ถึงว่าเป็นเธอ”

    เปลวบอกไปตามตรง เธอนึกไม่ถึงคนที่เสนอประมูลถึงสิบล้านคือหญิงมุก

    “เหมือนคุณไง ผมเองก็คิดไม่ถึงราชินีคลีโอพัตราที่ลึกลับน่าค้นหาจะเป็นคุณเปลว” คุณชายย้อนเปลวทันทีเช่นกัน

    “คุณชายไม่โกรธเปลวหรือคะ” เธอตัดสินใจเสี่ยงถามตรงๆ

    “โกรธคุณเรื่องอะไรครับ” คุณชายก็ถามกลับทันควัน

    “เปลวไม่ได้บอกว่าเป็น..เออ..” แต่แล้วก็พูดไม่ออกจนได้

    “คุณเป็นอะไรครับ ทำไมผมต้องโกรธ” คุณชายยิ้มกริ่มนึกสนุกที่แกล้งคนในอ้อมแขนให้ขาดความมั่นใจได้ ก่อนหน้าเจอเปลวสองครั้งเป็นคนมีบุคลิกมั่นใจในตัวเองสูง แต่ตอนนี้ทำไมถึงไม่กล้าสู้สายตา เคอะเขินอีกต่างหาก ให้เชื่อว่าเธอเป็นผู้ชายนี่คุณชายแทบไม่อยากคิด คนที่อยู่ในอ้อมแขนเป็นคู่เต้นรำขณะนี้ ไม่ว่ามองมุมไหนก็เป็นผู้หญิงสวยจับใจนี่เอง แถมยังเรียกได้ว่าสวยมากเสียด้วยสิ สวยจนคุณชายเผลอสำรวจหารอยตำหนิบนใบหน้างามอย่างพินิจพิเคราะห์ แต่ก็หาไม่เจอแต่อย่างใด

    “เปลวขอโทษที่ไม่ได้บอกเป็นผู้ชาย” สุดท้ายเปลวยอมเผชิญหน้าหันมาบอกคุณชายไปตามความจริง เกี่ยวกับเพศสภาพของเธอ ทำเหมือนกำลังสารภาพผิดเสียอย่างนั้น

    “หึหึ..ขอโทษด้วยผมไม่ได้ตั้งใจขำ แค่กลั้นไม่ได้ที่คุณเข้าใจว่าผมโกรธเรื่องที่คุณเป็นผู้ชาย ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมไม่ใส่ใจเลยครับ ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิง” คุณชายเฉลย หลังเปลวหน้าบึ้งใส่เพราะดันเผลอหัวเราะออกมา

    “คุณชายรู้แล้ว” เปลวครางแผ่ว คิดไปไกลว่าคุณชายจับได้ตั้งแต่แรกเลยเหรอ ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิง

    “ใช่ครับผมรู้ก่อนมางานนี่ ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิง ลองนึกทบทวนให้ดีของสำคัญอะไรของคุณหายไปไหมครับ” คุณชายอมยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “กระเป๋าตังค์ ใช่แล้วกระเป๋าตังค์เปลวหล่นในรถคุณชายใช่ไหม”เปลวตาโตนึกขึ้นได้ว่าคุณชายหมายถึงอะไร พานออกอาการตื่นเต้นใหญ่ จนลืมความกังวลก่อนหน้าไปเสียสิ้นเชิง ตาคมสวยที่รอความหวังว่าจะได้คำตอบอย่างที่เธอต้องการ เพราะกระเป๋าตังค์ใบนั้นมีของสำคัญอยู่จริงๆ

    “อืม..หญิงมุกเจอหล่นตรงที่วางเท้า ผมเสียมารยาทเปิดดูข้างในแค่ต้องการรู้ว่าเจ้าของคือใคร จะได้ส่งคืนถูกตัว” คุณชายแจงรายละเอียดที่ไปรู้ความจริงเปลวไม่ใช่ผู้หญิง แสดงว่าก่อนหน้าไม่รู้เช่นกันว่าเปลวเป็นผู้ชายนะสิ ทำเปลวเผลอคิดไปว่าแผนแตกตั้งแต่แรกเสียอีก..

    “ของเปลวเองค่ะ กำลังกังวลอยู่จะไปหาคืนจากที่ไหน คุณชายเอาติดมาด้วยหรือเปล่าคะ” เปลวดีใจที่ได้ของสำคัญคืน กระชับบ่าแกร่งเผลอขยับเข้าชิดจนลมหายใจเป่ารดหน้าหล่อไปแล้ว คุณชายเพชรชะงักไปทันทีหน้าหล่อแดงเข้ม ไม่คิดว่าใบหน้าสวยของเปลวจะห่างแค่ปลายจมูกโด่ง

    “อะ..เอา..เอามาครับ แต่อยู่ในรถ ไว้คุณเปลวจะกลับผมพาไปเอาดีกว่าไหม” เปลวยิ้มสดใสดูงดงามอย่างไม่ได้รู้ตัวเลย ว่าแทบจะแนบชิดกับร่างแกร่งไปแล้วตอนนี้ แต่ยังไม่ทันได้ขอบอกขอบใจคุณชาย ดันมีเสียงแทรกขัดขึ้นมาเสียก่อน เป็นคู่เต้นรำที่อยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว

    “ใครจะเอาอะไรหรือครับ” เสี่ยวิกรมเต้นรำกับคุณมรกต ขยับใกล้คู่ของเปลวกับคุณชายตั้งแต่ตอนไหนไม่ทันสังเกต คุณมรกตสายตาขมึงดุเห็นชัดไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เปลวใกล้ชิดคุณชายดูหน้าระรื่นแบบนี้ด้วย

    คุณชายเองก็หน้าแดงหูแดง แถมมีคำพูดที่คุณมรกตกับเสี่ยวิกรมได้ยินในประโยคท้าย ผมพาไปเอาทำให้คิดเลยเถิดจนไม่เก็บอาการบนสีหน้า โดยเฉพาะคุณมรกตอยากกระชากเปลวออกจากคุณชายให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซ้ำ หากไม่ติดกลัวเสียภาพพจน์กับสื่อ เธอคงวีนกระเจิงไปแล้ว

    “แอบฟังคนคุยกัน ผมคงไม่ต้องบอกเรื่องความเหมาะสมมั้งครับ”คุณชายปกติจะไม่หักหน้าใครแบบนี้ เพราะประโยคล่อแหลมที่เสี่ยวิกรมทำเป็นเอ่ยถามหน้าตายมันส่อให้คนคิดต่ำ พานทนไม่ไหวเช่นเดียวกัน

    “โอ้..ผมต้องขอโทษด้วย เจตนาไม่ได้ตั้งใจแอบฟังจริงๆ สาบานได้ ผมกับคุณมรกตปรึกษากันอยู่ อยากสับเปลี่ยนคู่เต้นดูบ้าง อันที่จริงผมให้เกียรติคุณหญิงมุกจึงไม่เพิ่มเงินประมูล ความตั้งใจเดิมของผมยังคงร่วมบริจาคให้มูลนิธิตามที่แจ้งในการประมูล 1 ล้านบาท หากคุณชายกรุณา ขอผมเต้นรำกับราชินีคลีโอพัตราสักเพลงครึ่งเพลง คงไม่ว่ากันใช่ไหมครับ” เสี่ยวิกรมไม่ยอมรามือ กลับยิ้มเย็นทำตัวสุภาพทันตา แถมยังกล้าขอร้องคุณชายให้เปลี่ยนคู่เต้น โดยแลกคุณมรกตกับเปลวหน้าตาเฉย คุณชายหันไปจ้องตาสวยของเปลว อย่างต้องการความเห็นเพื่อช่วยในการตัดสินใจ เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจเปลวเป็นหลัก ถ้าเปลวไม่ต้องการเปลี่ยนคู่ก็ต้องให้เกียรติผู้หญิง ซึ่งสุภาพบุรุษตัดสินใจแทนไม่ได้ ดวงตาคมสวยสื่อความหมายแทนวาจา ให้คุณชายรับรู้ได้ในทันที เปลวไม่ต้องการเป็นคู่เต้นเสี่ยวิกรม ต่อให้ไม่เอ่ยมาเป็นคำพูดแต่คุณชายก็เดาคำตอบได้ว่า เปลวไม่ต้องการหักหน้าเสี่ยวิกรมจึงไม่ใช้วิธีปฏิเสธทางวาจา อาศัยสื่อผ่านแววตาให้คุณชายเข้าใจแทน

    “ต้องขอโทษด้วยครับ ผมยังเต้นไม่จบเพลง โดยนิสัยของผมแล้ว จะส่งคู่เต้นคืนก็ต่อเมื่อเพลงจบ ส่วนใครที่เธอจะให้เกียรติเต้นด้วยหรือไหม ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอเถอะครับ ผมไม่เคยเปลี่ยนคู่ระหว่างที่กำลังเต้นยังไม่จบเพลง ขออภัยอีกครั้งนะครับ” คุณชายปฏิเสธได้สุภาพมากๆ

    “ฮะฮ่าๆ..ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมสิต้องขอโทษที่ขัดการเต้นรำของคุณชาย เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมรอคุณชายส่งราชินีคืนเวที ผมค่อยขอเธอเป็นคิวถัดไป ยังไงผมก็ตั้งใจบริจาค ราชินีคงไม่ปฏิเสธผมหรอกจริงไหม?”  ประโยคคำถามจงใจส่งให้เปลวโดยเฉพาะ ทำเอาร่างเพรียวหลังเกร็งจนคุณชายสัมผัสได้ เปลวไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แกล้งเฉยไม่แม้กระทั่งจะหันมองหน้าเสี่ยให้เป็นเสนียดลูกตา โฟกัสเพียงบ่ากว้างของคุณชายเป็นหลัก

    “ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวนะครับ” พูดจบคุณชายพาร่างระหงแสนสวยเคลื่อนเท้าตีตัวออกห่าง นำด้วยความชำนาญพาเปลวออกห่างคุณมรกตกับเสี่ยวิกรม โดยลอบชำเลืองไม่ให้ทั้งสองคนเคลื่อนเข้าใกล้ แม้จะรู้ว่าคุณมรกตจงใจให้เสี่ยนำเข้ามาในรัศมีที่จะตีคู่เห็นได้ชัด แต่คุณชายก็พลิ้วเต้นได้สง่างามและคล่องแคล่วมาก สำคัญเปลวก็ให้ความร่วมมือจึงไม่ยากที่จะหนีคู่เต้นซึ่งไม่พึงปรารถนา หลบหลีกใช้วิธีให้คู่อื่นบดบังกระทั่งหายไปจากสายตา เห็นอยู่ห่างไกลพอสมควรแล้ว

    “ทำไมถึงไม่อยากให้เขาเป็นคู่เต้น..หืม” เสียงทุ้มเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าสามารถที่จะพูดคุยกันเบาๆ ได้แล้วตอนนี้

    “ไม่ชอบขี้หน้าขอไม่บอกได้ไหมคะ เปลวมีเหตุผลที่ไม่ชอบเขา”เปลวยืนกรานแบบนั้น โดยไม่อยากพูดถึงสาเหตุที่ไม่ชอบหน้าเสี่ยวิกรม

    “ครับผมไม่ต้องการลงรายละเอียด คุณกลับยังไงมีงานอะไรต้องทำอีกหรือเปล่า” คุณชายถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอบอุ่น ทำให้เปลวรู้สึกปลอดภัยวางใจอย่างอธิบายไม่ถูก

    “คิดว่าจบเพลงก็จะปลีกตัวทันที เปลวไม่มีโชว์อีกแล้วค่ะ”

    “ถ้าอย่างนั้นผมรอที่ล็อบบี้..ตกลงไหม”

    “คะ” เปลวฟังไม่ถนัด ไม่แน่ใจคุณชายพูดประโยคนี้จริงไหม

    “ผมบอกจบเพลงผมจะปลีกตัวไปรอที่ล็อบบี้ คุณใช้เวลาเท่าไหร่สำหรับเตรียมตัว ผมจะไปส่งที่คอนโดตั้งใจคืนกระเป๋าตังค์ด้วยตกลงไหม” เปลวฟังคุณชายย้ำอีกครั้ง ถึงกลับเผลอยิ้มทันที รอยยิ้มของเปลวแทบละลายใจคนมองเลยทีเดียว ทั้งสวยงามและจริงใจสุดๆ

    “ตกลงค่ะ ถ้างั้นเปลวจะรีบเปลี่ยนชุดคงไม่เกินสิบนาที คุณชายไม่ตกใจนะคะ เพราะเปลวไม่ได้อยู่ในสภาพของผู้หญิง”

    “ว่าไงนะครับ” คราวนี้คุณชายบ้างแล้ว ที่ย้ำให้แน่ใจไม่ได้ฟังผิด

    “คือเปลวแต่งแมนๆ ตัวตนปกติถ้าไม่ได้ทำงานเปลวก็เป็นผู้ชาย เอาเป็นว่าเปลวเป็นเกย์คุณชายรังเกียจไหม" มาถึงขั้นนี้ถ้าไม่ถามกันตรงๆ คงรู้สึกอิหลักอิเหลื่อแน่ สู้ถามเลยดีกว่ารับได้หรือไม่ได้ที่เธอเป็นแบบนี้

    “อ่า..ผมไม่รังเกียจเลย ขอโทษที่เผลอเสียมารยาททำให้คุณเข้าใจไปแบบนั้น คือผมไม่รู้อธิบายยังไงดี ผมรู้คุณเป็นผู้ชายจากบัตรประชาชนที่อยู่ในกระเป๋าตังค์ แต่ก็ไม่คิดว่าคุณจะเป็นผู้ชาย ผมเจอคุณทุกครั้งรูปแบบคุณเป็นผู้หญิง พานคิดไปว่าคุณอาจทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองจึงอยู่ในลุคผู้หญิงจนดูไม่ออก พอคุณบอกผมเดี๋ยวคุณจะเป็นผู้ชายจึงรู้สึกสับสนบ้างเล็กน้อย แต่มั่นใจเถอะครับ..ผมคบคนไม่ได้ดูที่เพศหรือรสนิยมส่วนตัว ขอให้เป็นคนดีไว้ใจได้ก็พอแล้วครับ” คำตอบของคุณชายทำเอาเปลวรู้สึกประทับใจตื้นตันจนบอกไม่ถูก ที่แน่ๆ หัวใจเปลวมีแสงสว่างบางอย่างจุดประกายในมุมมืดที่ปิดตายมานาน ก่อให้เกิดประกายแผ่ซ่านเหมือนได้รับพลังงานชื่นฉ่ำ จนรู้สึกชุ่มชื่นขึ้นมาหลังจากมันแห้งขอดนานหลายปี

    “ขอบคุณนะคะ ที่ให้ความช่วยเหลือเปลวสองครั้งแล้ว” ในที่สุดคำขอบคุณที่ตั้งใจอยากจะพูด ก็ได้พูดออกไปจนได้

    “ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อยอย่าคิดมาก ใกล้จบเพลงแล้วผมว่าคุณรีบปลีกตัวก่อนเพลงจบดีกว่า ขืนรอจบเพลงคุณจะลำบาก ทางที่ดีชิ่งก่อนที่เขาจะไหวตัวทัน” คำแนะนำของคุณชายเปลวเห็นด้วยรีบพยักหน้าตอบรับ คุณชายเนียนพาเปลวเคลื่อนเข้าใกล้เวทีก่อนจะโค้งให้อย่างสุภาพ ค่อยปล่อยเปลวเป็นอิสระ รอยยิ้มของราชินีแสนสวยที่ส่งมาให้เต็มไปด้วยความงดงามในสายตาคุณชายเพชรรัตน์ สำคัญสุดคือแววตาทอดหวานละมุนทิ้งหางตามาให้ อย่างไม่มีเจตนายั่วยวนเหมือนที่ทำในช่วงบ่ายเชิงทอดสะพานจงใจอ่อย แต่กลับทำคุณชายขำท้องคัดท้องแข็งมาแล้ว หนนี้ไม่ได้เจตนายั่ว กลับทำให้คุณชายรู้สึกว่าเซ็กซี่ยั่วยวนเกินที่จะห้ามหัวใจไม่ให้เต้นเป็นจังหวะรัวถี่ได้จริงๆ ราชนิกุลหนุ่มหล่อถึงกับส่ายหัวสลัดความคิดแปลกๆ ที่เผลอคิดไปไกลออกจากหัวในทันที มองตามแผ่นหลังเนียน ก่อนจะลับหายไปทางข้างหลังเวที ที่แน่ๆ มีเหล่านางโชว์น่าจะเป็นมิตรสหาย แสดงทีท่ากรี๊ดกร๊าดพากันแซวเปลว หลายนางชะเง้อคอมองคุณชายไม่ละสายตา หนุ่มหล่อราชนิกุลสูงศักดิ์จึงส่งยิ้มให้แทนการทักทาย เพียงเท่านั้นแต่ละนางก็อ่อนระทดระทวยยืนไม่อยู่โงนเงนเอนตามกันไปเป็นแถว

    “หึหึ..” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำในคอ ก่อนร่างสูงสง่าจะหันกลับเพื่อไปพาคุณหญิงมุกหลบออกจากงาน ตามที่นัดหมายเปลวเอาไว้ว่าจะรับอาสาพากลับคอนโด แต่ปัญหาที่คุณชายต้องจัดการเสียก่อน คือหลบคุณมรกตไม่ให้ไหวตัวทัน ขืนให้เธอรู้มีหวังตามติดแน่ นี่ต่างหากที่คุณชายจะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด อ่านสายตาไม่ผิดคุณมรกตตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับเปลวทั้งที่ยังไม่ได้ทักทายกันด้วยซ้ำ คงไม่ต้องหาเหตุผลมาอธิบายแล้วมั้ง สาเหตุอะไรที่ทำให้คุณมรกตคิดแบบนั้น คุณชายรู้และเข้าใจดีหนีไม่พ้นคือคุณชายเป็นต้นเหตุ ป่านนี้คงคิดไปว่าเปลวกำลังจะเข้ามาในชีวิตคุณชายซึ่งอนาคตคุณชายก็ตอบไม่ได้เช่นกัน รู้ว่าหากเปลวคือมณีรมย์คนหนึ่งล่ะก็

    ยังไงก็ต้องได้เข้ามาพัวพันกับชีวิตคุณชายโดยไม่มีทางเลี่ยง..

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×