คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Part 6
“ถึงแล้วครับห้องพิมานอินทร์ เออไม่ทราบคุณ..” พนักงานกำลังใช้เทคนิคหลอกถามชื่ออย่างมีมารยาท
ในการรุกล้ำเรื่องส่วนตัวของลูกค้า กลับเน้นประโยคท้าย จ้องเปลวซึ่งเป็นเป้าหมายเจาะจงชัดเจน
“ทำไมหรือครับ” สนิมชิงถามเสียเอง เหมือนจงใจขัดเช่นเดียวกัน
“เปล่าครับ ถ้ามีอะไรให้รับใช้เรียกผมได้ทันที ผมณรงค์วิทย์ครับ”
หนุ่มพนักงานแก้ต่าง ก่อนยิ้มเก้อส่งให้สนิมทิ้งหางตาให้เปลวดูเขินนิดๆ
“คงไม่มีหรอกครับ พวกเราไม่ใช่แขกของงาน แค่มาทำงานครับ” เปลวพูดกับเขาเกิดนึกสงสารปนเอ็นดูท่าทางประหม่า
เขาพยายามปกปิดแต่ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงกลายเป็นน่าเอ็นดูในสายตาเปลวไปเสียแล้ว
“มาทำงานหรือครับ” หนุ่มพนักงานโรงแรมไม่ยอมเสียโอกาสรีบชิงถามอย่างเนียน ทั้งที่ไม่สมควรทำพนักงานจะมาซัก
ลูกค้าในเรื่องส่วนตัว แต่หนุ่มคนนี้กลับต้องการรู้จักเปลว จนยอมเสียมารยาทอันไม่พึงกระทำ
“คุณสนใจอยากรู้พวกผมทำงานอะไรหรือครับ” สนิมใช้น้ำเสียงไม่พอใจให้เห็นชัด หลังพนักงานคนดังกล่าวถ่วงเวลาให้
ได้พูดคุยกับเปลว แถมเนียนที่จะรุกคืบในเรื่องส่วนตัวอีกต่างหาก
“ผมขอโทษที่เสียมารยาท มีอะไรให้รับใช้เรียกผมได้ครับ ผมชื่อณรงค์วิทย์ อยู่ฝ่ายบริการลูกค้า” ก่อนแยกตัวไป
หนุ่มโรงแรมซึ่งตกหลุมเสน่ห์เปลวไม่ลืมกำชับทิ้งท้ายอย่างเน้นย้ำ คล้อยหลังเขาสนิมจึงเปรยขึ้น
“นี่ขนาดเห็นมึงในลุคผู้ชายยังเป็นได้ขนาดนี้ เจอมึงแต่งหญิงไม่วิ่งแจ้นตามมึงถึงคอนโดเลยหืม..เปลว”
“บ้าน่าหนิมเขาทำตามหน้าที่ ไม่คิดแบบนั้นหรอก” เปลวบอกปัด
“คงจะจริงอย่างมึงว่า ไม่คิดเลยไม่คิดอะไร เพราะไม่คิดยังไงล่ะถึงได้กล้าถามซะขนาดนี้
หากคิดสักนิดจะรู้ทันทีว่าเสียมารยาทกับลูกค้า”
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ป่ะเข้าข้างในดีกว่า”
“เดี๋ยว!..มึงจะเข้าประตูหน้านี่นะ”
“อ้าว..ไม่เข้าทางนี้จะให้เข้าทางไหน”
“เผื่อมีประตูเข้าหลังเวที ขืนทะเล่อทะล่าเข้าประตูนี้ไปเจอสายตาแขกเหรื่อไฮโซในงานเข้า
คงได้พากันมองมาเป็นตาเดียวเชียวมึง”
“เออจริงกูโทรถามเจ๊เจสซี่ก่อนรอแปบ” พูดจบไม่ชักช้า เปลวล้วงโทรศัพท์กดเบอร์หาเจ๊เจสซี่ทันที
[ว่าไง มาถึงหรือยัง] เจ๊แกถามมาล่ะ
“ถึงแล้วเจ๊เปลวอยู่หน้าห้องจัดงาน ไม่แน่ใจให้เข้าประตูด้านหน้าที่มีไว้สำหรับแขก..หรือจะให้ไปเข้าที่ไหนเจ๊”
[ไม่ได้ๆ..เดินตรงมาทางขวามือ ประมาณยี่สิบเมตรหล่อนจะเห็นประตูมีป้ายติดสำหรับพนักงาน เคาะเรียกพนักงาน
ที่ดูแลส่วนนี้เขาจะถาม บอกเขาเป็นคนคณะโชว์เจ๊เจสซี่ เขาจะให้หล่อนเข้ามาห้องแต่งตัวริมในสุด เจ๊กับพวกยัยกิ่งอยู่ห้องนี้
หล่อนรีบมาเลยนะ]
“ตกลงเจ๊ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” จากนั้นก็วางสาย เปลวกับสนิมจึงตรงดิ่งไปยังประตูทางเข้าห้องแต่งตัว เพื่อเปลวจะได้แต่งหน้า
ทำผมสวมชุดเลิศหรูอลังการขึ้นโชว์บนเวที ในชุดโชว์ฟินาเล่ของค่ำคืนนี้
ส่วนบรรยากาศภายในงานเลี้ยงหรู คับคั่งไปด้วยผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานมากมายล้วนแต่คนมีชื่อเสียง
ทั้งในส่วนของเมืองพัทยาร่วมถึงผู้มาจากกรุงเทพ หมายถึงเหล่านักธุรกิจเซเลบไฮโซคนดังแวดวงสาขาต่างๆ
การประชุมซึ่งเสร็จสิ้นไป คือการที่นักธุรกิจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ หารือแผนกระตุ้นระบบเศรษฐกิจท่องเที่ยว
รวมถึงส่งออกและสินค้านำเข้า คืนนี้จึงเนืองแน่นไปด้วยคนมีชื่อเสียงเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย
“สวัสดีค๊า..คุณมรกต คืนนี้คุณมรกตงดงามสมเป็นคนวังมณีรมย์”
สตรีนางหนึ่งในวัยกลางคน เป็นผู้เอ่ยทักหม่อมหลวงมรกต
“สวัสดีค่ะคุณหญิงเพ็ญแข ขอบคุณสำหรับคำชม ชุดที่มรกตใส่เป็นผ้าชีฟองของแท้จากอิตาลี
ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชั้นนำคุณ..บลาๆ” จากนั้นสตรีต่างวัยก็ร่วมสนทนาปราศรัยกันอย่างถูกคอ
ล้วนแต่เป็นเรื่องที่คุณผู้หญิงส่วนใหญ่นิยมชมชอบนำมาพูดคุยในวงสังคม ก่อนจะมีสมาชิกเข้าร่วมมากขึ้น
ทั้งวัยเดียวหรือวัยใกล้เคียงกับคุณมรกต กระทั่งวัยซึ่งแตกต่างอย่างพวกคุณหญิงคุณนาย เริ่มจะมีบทบาทในการสนทนา
โดยแต่ละคนใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดจนชักหวั่นกลัวเหงือกจะแห้งเอา ถือเป็นมารยาทในสังคมที่ผู้คนชอบปั้นแต่งสีหน้า
มอบรอยยิ้มการค้าให้กันและกัน
คงต้องยอมรับความจริง คุณมรกตเธอสวยเป็นที่สะดุดตาของคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก ชาติตระกูลซึ่งพ่วงท้ายเป็นคน
ของวังมณีรมย์ ไม่แปลกหากจะมีผู้คนร่วมทั้งสื่อมวลชนคนที่มาร่วมงานคืนนี้ ต่างมุ่งสนใจไปที่เธอเป็นจุดเดียว
ตอนนี้เธอตกอยู่ในวงล้อมของเหล่าบรรดาเซเลบไฮโซ ประหนึ่งซุปตาร์คนดังมาปรากฎตัวในงาน
บางคนถึงขั้นออกปากยกยอทำให้เธอหน้าบานจนยิ้มไม่หุบไปแล้ว
“คู่เปิดฟลอร์เต้นรำคืนนี้ คงหนีไม่พ้นคุณมรกตเสียแล้วสิคะ”
“อุ๊ยตาย! คุณหญิงเอาอะไรมาพูด ท่านผู้หญิงสดศรี ภริยาผู้ว่า เหมาะเปิดฟลอร์กับท่านผู้ว่ามากกว่า ท่านเป็นพ่อเมือง
ที่นี่ มรกตเป็นแขกมาเยือน ให้ประเดิมเปิดฟลอร์คงดูไม่งามกระมังค่ะ”
คุณมรกตกระมิดกระเมี้ยนพูดออกตัว เธอเก็บอาการได้ดีสมกับเป็นคนในตระกูลดัง แววตาบวกรอยยิ้มช่างเซ็กซี่ไม่ว่า
เธอจะทำกิริยายังไง ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จนแขกเหรื่อซึ่งเป็นบุรุษ ล้วนไม่มีใครอดใจที่จะไม่มองมาที่เธอได้เลยสักคน
อันหญิงงามย่อมเป็นที่หมายตาของบุรุษเป็นธรรมดา
สตรีงามโฉบเฉี่ยวโดดเด่นในงาน บดบังรัศมีหญิงอื่นเช่นคุณมรกตย่อมตกอยู่ในสายตาของบุรุษร่วมร้อยภายในงาน
ที่จดจ้องด้วยความรู้สึกพึงพอใจชื่นชมในความงามของเธอเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่มีบุรุษกลุ่มหนึ่งประมาณห้าหกคนที่ไม่ได้
มุ่งความสนใจกับคุณมรกตจนดูผิดวิสัย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้จักคุณมรกต บังเอิญมีเรื่องที่พวกเขากำลังสนทนากัน
ในกลุ่มต่างหากที่น่าสนใจและดูจะทำให้พวกเขาจดจ่อในเรื่องนี้เป็นพิเศษ
“ผมเช็คคิวโชว์มาแล้ว น้องเปลวฟ้าไม่ขึ้นโชว์ที่เดอะแกรนด์สตาร์”
“มึงแน่ใจนะ”
“ครับนาย..ผมให้นังชะเอมกะเทยที่เคยใช้บริการมันอยู่ เป็นคนหาข้อมูลให้เลยครับ
นังชะเอมมันบอกว่าน้องเปลวฟ้ามีโชว์งานนอกคืนนี้ที่นี่”
“หมายความว่าคืนนี้ เปลวจะโชว์ในงานนี้หรือวะ”
“นังชะเอมมันบอกผมอย่างนั้นครับ ยังยืนยันด้วยน้องเปลวฟ้าโชว์ชุดฟินาเล่ราชินีคลีโอพัตราครับนาย”
ชายเลยวัยกลางคนลักษณะภูมิฐานยืนคุยกับกลุ่มชายวัยฉกรรจ์ ท่าทางคงเป็นผู้ติดตามหรือไม่ก็บอดี้การ์ดอยู่บริเวณหนึ่ง
ภายในงาน ไม่เป็นที่สะดุดตาสักเท่าไหร่ คงเพราะชื่อเสียงอำนาจบารมีของชายผู้นี้ด้วย ผู้คนในเมืองพัทยาต่างรู้จักกันดี
“อย่างนั้นดีเลย คืนนี้พวกมึงหาทางเอาตัวเปลวฟ้าไปส่งเซฟเฮ้าส์ให้กูด้วย
อย่าให้เอิกเกริกเป็นอันขาด คราวนี้อย่าพลาดอีกล่ะ”
“ครับนาย” การสนทนาของกลุ่มชายดังกล่าวสิ้นสุดเพียงเท่านั้น
ภายในห้องจัดเลี้ยงมีเสียงฮือฮาดังอีกครั้ง บรรดาสื่อมวลชนกรูกันเข้าไปรัวชัตเตอร์เก็บภาพราชนิกุลหนุ่มสาว
ที่ควงแขนเข้าภายในงาน จุดสนใจซึ่งตีวงล้อมหม่อมหลวงมรกตพลอยชะงัก หันมาสนใจผู้ที่มาใหม่ตามด้วยเสียงซุบซิบ
ในเชิงชื่นชมดังไม่ขาดปาก ไม่ต้องพูดถึงสายตาสาวแก่แม่หม้ายไฮโซเซเลบทุกรุ่นทุกวัย กำลังจดจ้องไปยังหนุ่มหล่อคนดัง
ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีขึ้นแท่นหนุ่มเนื้อหอมในขณะนี้ เสียงซุบซิบใจความสำคัญกล่าวถึงหนุ่มหล่อที่ควงคู่สาวสวย
ซึ่งกำลังตกเป็นเป้าให้สื่อมวลชนรุมล้อมอยู่ขณะนี้
“หล่อไม่มีที่ติ สมคำร่ำลือจริงๆ คุณชายเพชรรัตน์แห่งวังมณีรมย์”
“นั่นสิ..เสียดายฉันไม่สามารถย้อนวัยกลับไปเป็นสาวๆ”
“เธอย้อนไปสมัยเป็นสาวไม่ได้ แต่ฉันมีลูกสาวยัยกำไลอายุ 15 กำลังโตเป็นสาวรุ่น เห็นทีฉันต้องหาทางให้ยัยกำไล
ได้พบปะพูดคุยกับคุณชายเธอเสียแล้ว ก่อนจะถูกใครฉกไปเสียก่อน ดูสิพ่อหล่อดุจเทพบุตรลงมาเดินพรมแดงเลยนะเธอว่าไหม”
เสียงคุณหญิงคุณนายที่หันมาหยิบยกประเด็นของแขกที่มาถึงในงานคนล่าสุด
“ผมกับหญิงมุกขอตัวนะครับ เรายังไม่ได้ทักทายผู้หลักผู้ใหญ่ในงานกันเลย ขอบคุณมากครับพี่ๆ สื่อมวลชน”
คุณชายพูดด้วยสีหน้าเปี่ยมรอยยิ้มหล่อ ผนวกน้ำเสียงทุ้มนุ่มละมุนละไมทำเอาสื่อมวลชนเคลิ้มตาม
“ขอบคุณเช่นกันค่ะคุณชาย หล่อแล้วยังนิสัยดีน่ารักอีกต่างหาก แบบนี้เป็นขวัญใจพวกเราไปทั้งชีวิตเลยค่ะคุณชาย”
เสียงพี่สาวคนหนึ่งได้ตะโกนดังขึ้นมาท่ามกลางบรรดาพี่ๆ สื่อมวลชนที่ส่งเสียงสนับสนุน ก่อนจะปรบมือให้กันอย่างพร้อมเพรียง
ซ้ำยังยอมหลีกทางให้คุณชายกับคุณหญิงสองพี่น้อง ได้ก้าวเข้าไปทักทายท่านผู้ว่ากับภริยาในเวลาต่อมา
“พี่ชายเพชรของหญิงโปรยเสน่ห์ให้พี่ๆ สื่อมวลชนหลงอีกแล้ว” คุณหญิงมุกแซวพี่ชายขำๆ ในระหว่างสองพี่น้อง
เดินควงคู่พากันไปทักทายพ่อเมืองพัทยากับภริยาที่ยืนส่งยิ้มมาให้ และไม่เหนือความคาดหมายเลยเมื่อคุณมรกตเดินรี่เข้ามา
จับแขนคุณชายเพชรอีกฝั่งที่ยังว่างอยู่ กลายเป็นคุณชายโดนขนาบข้างด้วยสาวงามสองนาง หนึ่งนางอยู่ในชุดสีขาวมุกกับอีกคน
มาในชุดผ้าชีฟองสีเขียวมรกต ช่างตัดกันยิ่งนักกับความงามหวานละมุนกับความสวยโฉบเฉี่ยวเซ็กซี่ แต่กลับเสริมให้
คุณชายเพชร กลายเป็นหนุ่มที่น่าอิจฉาไปในพริบตา เมื่อได้ควงหญิงงามโดดเด่นถึงสองนาง
“ทำไมมาถึงช้านักคะ พี่ชายเพชร” คุณมรกตใช้น้ำเสียงออดอ้อนตัดพ้อพองามเป็นการเปิดการสนทนา
“พี่กับหญิงมุกติดภารกิจนิดหน่อย แต่ไม่เลทจนน่าเกลียดใช่ไหม”
คุณชายยิ้มหวานละมุนส่งให้คุณมรกต โดยไม่คิดจะเบี่ยงแขนหนีการเกาะกุมที่จับจองเป็นเจ้าของไปแล้วเรียบร้อย
“ไม่ค่ะ ยังไม่มีการเปิดงานเป็นพิธี มรกตคิดว่าพี่ชายเพชรทักทายท่านผู้ว่าเสร็จคงเริ่มงานอย่างเป็นทางการล่ะคะ”
“ถ้างั้นไม่ให้คนอื่นพลอยเสียเวลา พี่ไปทักทายท่านผู้ว่าก่อนนะ” การพูดแบบนี้คุณชายเพชรคิดว่า
คุณมรกตจะยอมปล่อยแขนคืนเป็นอิสระ ที่ไหนได้เธอกับกระชับมั่น แถมเบียดอกนุ่มกระแซะซะแนบชิด ติดหนึบไปกับคุณชาย
และคุณหญิงมุก ตรงเข้าไปทักทายท่านผู้ว่ากับภริยา อย่างไม่สนใจหางตาของคุณหญิงมุกที่ชำเลืองจนคิ้วมุ่น
“พี่มรกตยังไม่ได้ทักทายท่านผู้ว่าหรือค่ะ” คุณหญิงมุกอดใจไม่ได้ ชิงถามออกไปในที่สุด
“พี่ทักทายท่านไปแล้ว ทำไมล่ะหญิงมุก พี่จะพาพี่ชายไปทักทายอีกครั้งมันแปลกตรงไหน”
คุณมรกตกลับยกยิ้มมุมปากส่งมาให้
“อ้อไม่แปลกหรอก มุกแค่ไม่เข้าใจพี่มรกตจะเกาะแขนพี่ชายเป็นกิ้งกือไปทำไม แทนที่พี่ชายจะเดินสะดวกเลยดู
เป็นกระแตงกิ้งกือยึกยือเสียลุคกันพอดี” คุณมรกตถึงกับอึ้งกัดริมฝีปากแน่น แต่ไม่อยากหน้าแตกมาถกเถียงกับคุณหญิงมุก
กลางงานใหญ่เวลานี้ เธอรู้อยู่แก่ใจว่าคุณหญิงมุกหวงพี่ชายยิ่งกว่าอะไร พยายามกันท่าเธอแบบไม่ไว้หน้ามาหลายครั้งแล้ว
“เธอก็พูดเข้าหญิงมุก มีแต่คนมองพี่ชายด้วยความอิจฉา หันไปดูรอบข้างสิมีใครไม่อิจฉาพี่ชายเพชรบ้าง
คืนนี้ควงสาวงามสองคน คุณหญิงเพ็ญแขถึงกับเปรยแล้ว ว่าจะให้พี่เปิดฟลอร์พี่ก็คงต้องขอให้พี่ชายเพชรช่วยเป็นคู่เต้นรำ
เปิดฟลอร์ให้พี่ ตกลงนะคะพี่ชายเพชร” คุณมรกตรวบรัดมัดมือชกไปทันที เรื่องเปิดฟลอร์เต้นรำไม่ใช่เรื่องใหญ่
เดี๋ยวเธอมีวิธีที่จะพูดกับท่านผู้ว่าและภริยาท่านตอนเข้าไปทักทายนี่แหละ
“ไม่งามมั้งมรกต เปิดฟลอร์ต้องให้เกียรติเจ้าภาพ ทำไมเธอถึงจะให้พี่กับเธอไปเป็นคู่เปิดเสียล่ะ”
คุณชายเพชรรีบปรามทันที
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะพี่ชายเพชร คืนนี้มีเรื่องการกุศลเข้ามาเกี่ยวด้วย พี่ชายเพชรก็รู้นี่คะว่าท่านผู้ว่าประสงค์
จะให้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ให้มูลนิธิเด็กพิการตาบอดหูหนวกของเมืองพัทยา งานเปิดฟลอร์คืนนี้ก็เช่นกัน
หากมีผู้ประสงค์ต้องการชมคู่เต้นเปิดฟลอร์มรกตกับพี่ชายก็ต้องประมูลแจ้งยอดบริจาค ท่านผู้ว่าคงดีใจ
ที่หารายได้ลักษณะนี้มากกว่า ถือว่าเราสองคนได้ร่วมสร้างบุญอีกต่างหาก พี่ชายอย่าปฏิเสธสิค่ะ”
“พี่มรกตมั่นใจว่าจะมีคนแจ้งความประสงค์ประมูลฟลอร์ ให้พี่กับพี่ชายเพชรเป็นคู่เต้นประเดิมคู่แรก
ไม่ใช่พี่วางหน้าม้าเพื่อการนี้มาก่อน”
“นี่หญิงมุกพี่จะทำแบบนั้นเพื่ออะไร คนที่เขาอยากดูพี่กับพี่ชายเพชรเป็นคู่เต้นรำคู่แรกแทบจะทั้งห้อง
ยกเว้นหญิงมุกคนเดียวมั้ง”
“มุกควงพี่ชายเพชรมางานคืนนี้ พี่มรกตไม่คิดว่ามุกจะให้พี่ชายเป็นคู่เต้นรำกับมุกบ้างเลยเหรอ
พี่มาเหมาเอาแบบนี้แล้วมุกจะเต้นกับใคร”
“พี่เพิ่งรู้หญิงมุกไม่มั่นใจถึงขนาดกลัวไม่มีคู่เต้นรำ ให้พี่ช่วยไหม แค่พี่ประกาศออกไมค์ รับรองมีหนุ่มๆ รอคิวเป็นคู่เต้น
จนเธอไม่มีโอกาสพักเลยเชียวล่ะ ถ้าปัญหาของเธอคือเรื่องนี้สบายใจได้แล้ว ทีนี้คงหมดปัญหาถ้าพี่จะควงพี่ชายเพชรในคืนนี้
ส่วนหญิงมุกเธอได้สิทธิ์พักบ้านไพลินริมทะเลกับพี่ชายเพชรแล้ว พี่สิต้องเปิดโรงแรมในเครือนอน ถึงเวลาที่พี่จะขอทวง
พี่ชายเพชรคืนบ้างหวังว่าเธอจะเข้าใจนะหญิงมุก” คุณหญิงมุกดาอึ้งหาคำพูดมาเถียงคุณมรกตไม่ออกไปชั่วครู่
เล่นตีมึนอ้างแบบนี้เธอคิดไม่ถึง
“พี่ขอตัวไปทักทายท่านผู้ว่าก่อนนะ” คุณชายเพชรเห็นท่าไม่ดีที่เกิดศึกระหว่างน้องสาวกับคนในวัง
รีบชิ่งปลีกตัวออกมาแบบไม่รอให้ทั้งสองสาวทันตั้งตัว สลัดหลุดมายืนทักทายพ่อเมืองอย่างเป็นทางการไปแล้ว
“ขอโทษด้วยนะครับที่ผมมาสาย”
“ไม่เป็นไรคุณชายงานยังไม่เริ่ม..ผมมีเรื่องจะปรึกษากับคุณชายอยู่พอดีทีเดียว”
ท่านผู้ว่าวัยใกล้เกษียณยิ้มอย่างคนอารมณ์ดี โดยภริยาท่านก็ยิ้มเอ็นดูแกมชื่นชมส่งให้คุณชายอย่างจริงใจ
“มีอะไรให้ผมรับใช้ ผมยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่ครับ”
“โอย..อะไรจะถ่อมตัวปานนั้นครับ ผมเสียอีกที่ต้องพูดประโยคนี้ ระดับหม่อมราชวงศ์เพชรรัตน์ มณีรมย์
แค่ให้เกียรติมาเยือนพัทยาให้ผมกับคุณหญิงได้ต้อนรับก็ถือเป็นเกียรติครอบครัวผมมากแล้วคุณชาย”
กลายเป็นบทสนทนาของสองหนุ่มต่างวัย ที่ติดจะเกรงอกเกรงใจพลัดกันยกยอถ่อมตน กว่าสรุปใจความได้ว่าพ่อเมือง
พัทยาอยากรบกวนไหว้วานให้คุณชายเพชรให้เกียรติเปิดฟลอร์เป็นคู่แรกในงานคืนนี้ แทนที่จะเป็นท่านผู้ว่ากับคุณหญิงภริยา
โดยท่านให้เหตุผลว่าท่านจะจัดให้มีการประมูลคู่เต้นรำกับคุณชายและคุณหญิงมุกดา ในฐานะราชนิกุลผู้ที่มาร่วมงานค่ำคืนนี้
หากท่านใดสนใจจะเปิดฟลอร์เต้นรำกับทั้งสองท่านก็ขอให้แสดงความจำนงค์ว่าจะร่วมบริจาค ให้กับมูลนิธิเพื่อเด็กที่พิการ
ตาบอดหูหนวกของเมืองพัทยา ท่านใดชนะการประมูล ก็จะได้เปิดฟลอร์เป็นคู่เต้นรำกับคุณหญิงมุกดาและคุณชายเพชรรัตน์
“ขออภัยจริงๆ ครับ ผมคงต้องขอปฏิเสธ เรื่องเงินบริจาคให้มูลนิธิ ผมขอเป็นผู้ร่วมประมูลดีกว่า
ส่วนหญิงมุกก็คงไม่ได้เช่นกัน ผมกับหญิงมุกไม่ต้องการเป็นตัวยืนที่จะทำให้เกิดการประมูล เราขอมีส่วนร่วมสนับสนุนใน
กิจกรรมดีกว่าครับท่าน” คุณชายปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง หลังรับฟังแนวทางที่ท่านผู้ว่านำเสนอ เป็นเพราะคุณชายไม่ต้องการให้
ตนเองกับน้องสาวไปเป็นตัวเลือกให้คนแข่งขันประมูล เพื่อจะได้เป็นคู่เต้นรำด้วย ซึ่งดูไม่เหมาะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้ร่วมสนุก
ร่วมแข่งขันประมูลเพื่อจะสนับสนุนเงินให้กับทางมูลนิธิ โดยเลือกอาสาสมัครขึ้นมาเป็นตัวยืนแทนก็ไม่เป็นไร..
“แล้วคุณชายคิดว่าผมควรจะให้ใครเป็นตัวชูโรงดีล่ะ”
“ท่านผู้ว่ากับภริยาเหมาะสมกว่านะครับ ท่านเป็นพ่อเมืองเป็นถึงเจ้าภาพในงาน ถ้าเสนอตัวยอดประมูลคงสูง”
คุณชายเสนอไอเดียทันที
“เรื่องนี้ผมก็คิดไว้เช่นกัน แต่คุณหญิงท่านปรามไว้ เกรงว่าหากไม่มีใครประมูลขึ้นมาล่ะก็เราเสียหน้าแย่
อยากให้เป็นคนหนุ่มคนสาวอย่างวัยคุณชาย คุณหญิงมั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากผู้มาร่วมงานคับคั่ง”
“ผมคงไม่สามารถช่วยท่านในส่วนนี้ แต่ยืนกรานว่าจะร่วมประมูลในกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นท่านผู้ว่าหรือคุณหญิง
หากกังวลไม่มีใครประมูลผมจะเป็นคนประมูลเป็นคู่เต้นให้เองครับ” คุณชายพูดด้วยใบหน้ากลั้วยิ้มอย่างขบขัน เรียกเสียงหัวเราะ
ให้ผู้สูงวัยทั้งคู่ได้เช่นกัน ต่างชื่นชมเอ็นดูในตัวราชนิกุลหนุ่มเข้าไปอีก รูปงามนิสัยดีมารยาทดีพร้อมครบถ้วนจริงๆ
“เอาแบบนี้เถอะ..ยกให้เป็นหน้าที่ของออร์แกไนซ์จัดงานคืนนี้เขา เดี๋ยวดิฉันจะเรียกเขามาปรึกษา ส่วนเขาจะขอให้ใคร
เป็นผู้ชูโรงสำหรับให้มีการแข่งขันประมูลเปิดฟลอร์เต้นรำคืนนี้ สุดแล้วแต่มืออาชีพเขาเถอะค่ะตอนนี้เชิญคุณชายร่วมโต๊ะ
ด้วยกันดีกว่า จะได้เปิดงานอย่างเป็นทางการ”
เป็นอันว่าคุณหญิงภริยาท่านผู้ว่าตัดบท ยกให้เป็นภาระของคนที่รับจัดงานหรือทีมออร์แกไนซ์
เป็นผู้สรรหาตัวชูโรงสำหรับใช้ประมูลเปิดฟลอร์เต้นรำในคืนนี้ เพื่อนำรายได้มอบให้มูลนิธิเด็กพิการตาบอดหูหนวก
จากนั้นคุณชายคุณหญิงมุกและคุณมรกตก็เป็นแขกวีไอพีร่วมโต๊ะท่านผู้ว่า
“สวัสดีครับ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่ร่วมงานสังสรรค์ปิดสัมนาของนักธุรกิจเมืองพัทยาและผู้ส่งออกนำเข้า
ซึ่งได้ร่วมประชุมกันตลอดสามวัน คืนนี้นอกจากเป็นการเลี้ยงสังสรรค์กระชับมิตร ยังเป็นโอกาสดีที่ทุกท่านจะได้ร่วมทำบุญให้
มูลนิธิเด็กพิการทางสายตาและหูหนวก โดยเราจัดประมูลคู่เปิดฟลอร์เต้นรำในค่ำคืน แขกผู้มีเกียรติท่านใดเสนอเงินประมูล
เต้นรำกับบุคคลที่เราเจาะจงให้เป็นผู้เปิดฟลอร์ แล้วชนะประมูลท่านจะได้เปิดฟลอร์พร้อมกับได้ร่วมสร้างกุศลไปด้วย
ก่อนถึงช่วงเวลาสนุกสนานขอเชิญรับชมการแสดงโชว์จากคาบาเร่ต์ดังของเมืองพัทยา ซึ่งจัดมาเป็นพิเศษสำหรับผู้มีเกียรติ
ทุกท่าน หาชมไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้วสำหรับโชว์ชุดพิเศษทั้งสองชุดนี้ ชุดแรกมีชื่อทะเลแห่งเมืองราตรี
ชุดที่สองคือราชินีคลีโอพัตรา เชิญท่านรับชมได้ ณ บัดนี้”
พิธีกรแจงกำหนดการเสร็จสิ้น ปิดท้ายด้วยโชว์คาบาเร่ต์ได้รับเสียงปรบมือดังกระหึ่มพร้อมเพรียง
ก่อนไฟส่องสว่างภายในห้องจัดเลี้ยงจะสลัวลาง เน้นแสงสปอร์ตไลท์ยังส่วนเวทีการแสดงพร้อมกับเสียงดนตรีจังหวะเร้าใจสไตล์
ละตินอเมริกา ก็ดังปลุกอารมณ์คนดูให้รู้สึกตื่นเต้นเร้าใจไปกับท่วงทำนอง โดยมีเหล่านางโชว์ทั้ง 5 ทรวดทรงองค์เอวไม่ด้อยกว่า
ผู้หญิงจริง จะออกมาส่ายสะโพกเริงระบำไปกับจังหวะดนตรีได้อย่างเข้ากันเป็นดิบดี ตัวเด่นตรงกลางเป็นผู้ขยับริมฝีปาก
ใส่ลีลาวาดลวดลายดุจเป็นคนขับร้องได้อย่างชวนเชื่อ ทำเอาผู้คนที่จ้องมองตื่นตาตื่นใจไปด้วย
“ไอเดียใครกันค่ะ เห่ยสิ้นดี” เสียงคุณมรกตบ่นอย่างหงุดหงิด
“เห่ยตรงไหนค่ะพี่มรกต มุกว่าออกจะน่าดู แต่ละคนถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชายมาก่อน มุกไม่เชื่อเด็ดขาด
สวยขนาดนี้ผู้หญิงอาย” คุณหญิงมุกกลับแย้งคุณมรกตทันทีเช่นกัน
“มีแต่เธอสิที่คิดแบบนั้น สวยยังไงก็ของปลอมจะให้เทียบผู้หญิงมันจะเปรียบกันได้ที่ไหน คนตาถั่วเท่านั้นแหละ
ที่มองคนพวกนี้ว่าสวย..ชิ๊!” คุณมรกตจิปากอย่างไม่สบอารมณ์ หลังทนฟังการยกยอจากคุณหญิงมุกต่อไม่ไหว
ไม่รู้ทำไมคุณมรกตเธอถึงตั้งแง่กับกลุ่มเพศที่สาม
“คนเรามีจุดเด่นต่างกัน ลองเปิดใจดูที่ฝีมือวัดค่าจากผลงานของพวกเขาเอาสิมรกต น้องจะได้เห็นว่าคนกลุ่มนี้สร้างชื่อ
ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเมืองไทย นำเงินตราเข้าประเทศปีหนึ่งเป็นพันล้าน”
คุณชายเพชรพูดแทรกขึ้นมาบ้าง ระหว่างที่เกิดการถกเถียงของสองสาวในวังมณีรมย์โดยมีต้นเหตุมาจากโชว์คาบาเร่ต์
ที่กำลังเป็นจุดสนใจภายในงาน ตรึงสายตาผู้ชมนับร้อยคู่อยู่กับเวทีแสงสีเสียง โดยไม่มีใครยอมละสายตาได้
“ก็เพราะคิดกันแบบนี้ พวกผิดเพศถึงได้ออกมาเดินเตร่กันทั้งเมือง จนไทยแลนด์กลายเป็นถูกต่างชาติมองกันผิดๆ
ไปแล้วพี่ชายเพชร ไมเคิลที่มากับเพื่อนของมรกต พูดอยู่แหม่บๆ บอกเลดี้บอยเมืองไทยมาแล้วไม่ได้ลองถือว่ามาเสียเที่ยว
วันก่อนก็พาไปชมคาบาเร่ต์ถึงคณะ กลับเพ้อถึงแต่ชื่อของแม่นางโชว์ที่รับบทซูสีไทเฮาไม่หยุดจนถึงโรงแรม
มรกตอยากจะอาเจียน ไม่รู้เดี๋ยวนี้พวกผู้ชายเป็นบ้าอะไรกันไปหมด ผู้หญิงสวยๆ มีอยู่ไม่น้อยกลับไปหลงเสน่ห์พวกนางโชว์
อะไรแบบนั้น นอกจากขายการแสดงคงมีขายตัวหารายได้เป็นกอบเป็นกำทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังล่ะค่ะ”
ดูท่าแล้วคุณมรกตจะแอนตี้เหม็นขี้หน้านางโชว์ อย่างไม่มีเหตุผลไปแล้วจริงๆ
“พูดจาน่าเกลียดพี่มรกต ขืนใครมาได้ยินพี่พูดแบบนี้จะได้เก็บไปนินทาว่าคนวังมณีรมย์ใจแคบ
สังคมทุกวันนี้ไปถึงไหนกันแล้ว มุกว่าพี่ไปเข้าวัดฝึกจิตให้ปล่อยวางลงเสียบ้างคงจะดี” คุณหญิงมุกอดเหน็บแหนมตอกหน้า
คุณมรกตเธอไม่ได้ พานรู้สึกขอโทษกลุ่มคนที่ตกเป็นจำเลย โดยที่ไม่ได้ทำความผิดอย่างกลุ่มเพศที่สาม ซึ่งกำลังสร้างสีสัน
ทำให้งานเลี้ยงในคืนนี้ตื่นตาตื่นใจ กลายเป็นภาพความสวยงามประทับใจให้กับแขกที่มาร่วมงานมีความสุข
และสนุกไปกับการแสดง คงมีแต่คุณมรกตที่คิดแบบนี้
“เชิญเธอชื่นชมของเธอไปคนเดียวเถอะย่ะหญิงมุก พี่ไม่ขอมีส่วนร่วมชื่นชมกับคนพวกนี้ไปกับเธอด้วยหรอก
เกิดเป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบดันจะเป็นผู้หญิง วิปริตผิดเพศตั้งแต่ความคิดที่อยากจะเป็นแล้ว..ทุเรศ”
สิ้นประโยคคำว่าทุเรศหลุดจากปากผู้ดี ได้ชื่อสูงส่งทางฐานันดรวงศ์ตระกูลที่ผู้คนต่างยกย่องในสังคม
ทำเอาคุณชายเพชรรัตน์ทนฟังต่อไปไม่ไหว ปลีกตัวลุกเลี่ยงออกจากโต๊ะทิ้งคุณมรกตอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น
คุณหญิงมุกดาไม่ได้รู้สึกแตกต่างพี่ชายเพชรแม้แต่น้อย เธอถึงกับทนฟังคำบริภาษจากปากคุณมรกตไม่ได้เช่นกัน
จึงเลี่ยงออกมาอีกคนทิ้งคุณมรกตหันรีหันขวางไม่รู้จะไปทางไหน ครั้นจะตามคุณชายเพชรไปก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
เมื่อเห็นอยู่ว่าคุณชายปราศรัยกับข้าราชการใหญ่รวมทั้งนักการเมืองของพัทยาเฉพาะกลุ่มผู้ชาย ซึ่งเป็นการไม่สมควร
ที่เธอจะเข้าไปแทรกขัดมันดูไม่เหมาะไม่งามเป็นอย่างยิ่ง นี่จึงไม่กลายเป็นเธอถูกทิ้งให้อยู่ลำพังไปแล้ว
กลุ่มคุณหญิงคุณนายก่อนหน้าก็พากันยิ้มมีความสุขสนุกไปการโชว์จนไม่เห็นหัวเธอกันไปแล้ว มันน่าโมโหจริงๆ
ไม่คิดว่าพวกกะเทยที่เต้นยักย้ายส่ายสะโพกร่อนเอวทำท่ายั่วยวนกันนั้น จะดึงความสนใจผู้คนไปจนหมดทั้งห้องจัดเลี้ยง
โดยเฉพาะพวกผู้ชายจับจ้องตาเป็นมันทีเดียว..
“แปะๆๆ..กรี๊ดๆๆ..วี๊ดวิ้วววว!!” เสียงปรบมือเสียงวี้ดปากซึ่งน่าจะเป็นพวกผู้ชายที่ออกอาการกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ
ดังกระหึ่มลั่นห้องหลังจบการแสดง และเหล่าบรรดานางโชว์ถอนสายบัวยิ้มหวานยั่วทิ้งทวนให้
“เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับความตื่นตาตื่นใจจากสาวสวยที่มาโชว์ลีลาความสามารถเรียกน้ำย่อยทุกท่าน
เสร็จสิ้นหมาดๆ หากพึงพอใจขอเสียงปรบมือให้กำลังใจพวกน้องๆ ที่สร้างความสุขให้กับพวกเราในค่ำคืนนี้
อีกสักครั้งสิครับ..แปะๆๆ!! ขอบคุณมากครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจล้นหลามที่มอบให้นักแสดงโชว์ของเรา
จากนี้เชิญรับชมโชว์ชุดพิเศษของค่ำคืนนี้ในชุดฟินาเล่ราชินีคลีโอพัตรา โดยนักแสดงดาวเด่นแห่งเมืองพัทยา
นางโชว์ที่ค่าตัวแพงอันดับหนึ่ง น้องเปลวฟ้า..แปะๆๆๆ!!”
เสียงพิธีกรดังขาดหายไป พร้อมกับเสียงปรบมือดังกึกก้องสนั่นจนหูอื้อ กว่าจะซาลงได้ก็ต่อเมื่ออินโทรดนตรีสไตล์อียิปต์
ดังให้ได้ยิน ไฟดับทั่วทั้งบริเวณมืดสนิท แสงระยิบระยับดังดวงดาวสุกสกาวค่อยๆ กระพริบสลับกันไปมาบนเวทีดุจผืน
ฟ้ากำมะหยี่ มีแสงดาราดวงน้อยประดับผืนฟ้ากลางทะเลทราย กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาในค่ำคืนหนาวเหน็บ
แสงสีนวลดั่งแสงเทียนส่องสว่างในมุมมืด เหมือนเปลวไฟกองโตของคาราวานนักเดินทางทะเลทราย ก่อนเสียงเพลงไพเราะ
เสนาะหูที่ไม่รู้ความหมายจะดังให้ได้ยิน กระนั้นคนที่สดับตรับฟังก็พลอยได้อารมณ์ร่วมไปกับเสียงเพลงอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน
ท่วงทำนองเพลงไพเราะจับจิตเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวในความมืดข้างแสงไฟ ที่แท้เป็นผ้าสีดำคลุมบนร่างใครบางคน
จากแสงไฟสลัวสีนวลกลับสว่างจ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นเงามืดมิดเป็นเงาร่างที่ยืนตระหง่านคลุมโพลงไม่เห็นหน้าค่าตา
ในทันใดนั้น ผู้ชมที่กำลังลุ้นระทึกคาดเดาต่างๆ นาๆ มีอันตะลึงจ้องกันตาค้าง บางคนถึงกับเบิกถลนไปเลยก็มี
เมื่อส่วนศีรษะที่โพกผ้าดำยาวกร้อมเท้าจนมองไม่เห็นอะไร เปิดอ้าให้เห็นดวงตาคมสวยเป็นประกายดั่งมีมนต์ขลัง
สะกดคนดูไม่อาจถอนสายตาจากดวงตาคู่สวยนี้ได้เลยก่อนที่ผ้าผืนดำจะรูดลงกองแทบเท้า เผยให้เห็นเรือนร่างงดงามประหนึ่ง
ภาพวาดปฏิมากรรมชิ้นเอกในพิพิธภัณฑ์ที่หาได้ยากยิ่ง เรือนร่างเพรียวสมส่วนในชุดสตรีอียิปต์โบราณ เปิดเปลือยผิวหนัง
นุ่งน้อยห่มน้อยประดับสร้อยสังวาลย์ ข้อเท้า ข้อแขน กำไล แต่กลับไม่อาจบดบังความขาวผุดผาดผิวนวลดุจงาช้าง
ซึ่งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเวทีได้แม้แต่น้อย
ใบหน้าสวยสดสวยชนิดที่สะกดทั้งหญิงชาย ที่จ้องมองถึงกับลืมกะพริบตาไปแล้วด้วยซ้ำ ริมฝีปากสีสดเคลือบลิปสติก
สีชาดขยับตามเนื้อเพลง ดวงตาวาวงามสุกสกาวเหมือนมีน้ำรื้นที่จ้องตอบนั้นเล่า เหมือนสายตาคู่สวยกำลังหว่านเสน่ห์ใส่คนดู
จนทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นรัวกระหน่ำไปแล้วเรียบร้อย ก่อนท่อนขาเรียวสวยจะก้าวย่างอย่างนางพญาขยับเคลื่อนโยกย้าย
วาดมือกวัดแกว่งไปมา เหมือนกำลังร่ายรำท่ามกลางแสงจันทร์กลางทะเลทรายเวิ้งว้าง ประหนึ่งอวดโฉมที่เลอเลิศในปฐพี
ต่อดวงดาราน้อยใหญ่ให้ประจักษ์ ว่าข้าคือหนึ่งเดียวในแดนดินที่งามเลอค่า
สยบเหล่าบุรุษให้อยู่เบื้องบาทาได้ง่ายดุจพลิกฝ่ามือ..
ราชินีคลีโอพัตราที่กำลังร่ายรำพร้อมกับขับเพลงไพเราะสูงต่ำไปกับท่วงจังหวะการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ช่างเป็นภาพที่สามารถสะกดทุกลมหายใจในห้องจัดเลี้ยงให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ไปเสียแล้ว แม้แต่เสียงเข็มตกสักเล่มก็แทบไม่ได้ยิน
ไม่มีใครละสายตาจากเรือนร่างงดงามที่เริงร่าอยู่บนเวทีไปได้เลย ราชินีเลอโฉมงดงามสมคำร่ำลือ เสน่ห์ยั่วยวนเต็มเปี่ยมไปด้วย
พลังกลืนกินหัวใจของเหล่าบุรุษ กระทั่งคุณชายเพชรรัตน์เองถึงกับเผลอกลืนน้ำลายฝืนฝืด ลงคออย่างยากลำบากไปแล้วเช่นกัน
ประสาอะไรกับเหล่าบุรุษที่เหลือ ทั้งฉกรรจน์ยันสูงวัยต่างหูแดงหน้าแดงดวงตาวาวหวามฉ่ำเยิ้มตามกันไปแล้วตอนนี้ เพราะราชินีผู้ได้ชื่อเลอโฉมงามอันดับหนึ่งในปฐพี สำแดงเดชสะกดพวกเขาให้อึ้งตะลึงตาค้าง กระทั่งเสียงดนตรีแผ่วเบา ก่อนจะ
ครางพร่าทิ้งทวนอำลากันครั้งสุดท้ายในท่วงท่าลีลาอ่อนช้อยของราชินีที่ค่อยๆ ทอดกายลงนอนตะแคงหนุนศีรษะลงบน
ท่อนแขนขาวเยียดขาสวยเปล่งประกายดุจแพรเนื้อดี สายตาคู่งามกลับจ้องมองมายังผู้ชมนับร้อย ก่อนรอยยิ้มน้อยๆ
แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ล้นหลามจะเผยอโชว์เขี้ยวสีมุกหวานจับจิต หลายคนเสียงน้ำลายไหลผ่านกระเดือกดังเอื้อกอย่างลืมอาย
แล้วแสงไฟก็ดับมืดลงอีกครั้ง จนไม่เห็นอะไรอีกนอกจากความมืดมิดที่พรากร่างงามหายวับไปกับตา
“โหหหห!!..สุดยอดด..แปะๆๆๆ..ฮิ้ววววว...วี้ดวิ้วววว...เยี่ยมมาก”เสียงปรบมือโห่ร้องถูกใจดังประสานเต็มห้องจัดเลี้ยง
ภาพความงามความประทับใจจบลงไปแล้ว แต่ในความอิ่มเอมของผู้ชมที่ชมโชว์ยังไม่จบตาม เพราะพวกเขายังเหมือนกับต้อง
ในมนต์เสน่ห์ของราชินีคลีโอพัตราที่พรากเอาลมหายใจพวกเขาตามไปด้วย คุณชายเพชรรัตน์ถึงกับเอามือลูบหน้าถอนหายใจ
ยาวเหมือนต้องการปลุกสติให้ตื่นจากฝัน แม้จะเป็นความฝันที่น่าเสียดายจนไม่อยากตื่นก็ตาม ใบหน้าหล่อขึ้นสีเรื่อจนทำให้
น่ามองเข้าไปใหญ่ ไม่คิดว่าการแสดงชุดฟินาเล่ชุดนี้ จะเรียกเลือดลมบุรุษภายในห้องให้หลั่งอะดรีนาลีนกันขนาดนี้
“ขอเสียงปรบมือให้กับน้องเปลวฟ้า ราชินีคลีโอพัตราของเราอีกสักครั้งครับ..แปะๆๆๆ...กรี๊ดด..ฮิ้ววว!!!” เสียงปรบมือดัง
กึกก้องหูแทบแตกหลังพิธีกรประกาศให้ได้ยิน และภาพนางโชว์ทรงเสน่ห์ที่ยืนกลางเวทีในชุดสวยงาม จนไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
ได้ว่า ผู้ที่รับบทคลีโอพัตราที่เห็นยืนกลางเวทีอยู่เวลานี้ เธอไม่ได้สวยสมกับตำแหน่งที่ได้รับเล่น เพราะเธอสวยมากสวยจนไม่มี
ใครหาจุดด้อยเอามาตำหนิติเตียนเธอได้เลย
“เอาล่ะครับ หลังจากนี้ก็จะเข้าสู่การเต้นรำที่ทุกท่านรอคอยแล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธผมใช่ไหมว่าราชินีคลีโอพัตราของเรา
ในคืนนี้ สวยมาก”
“สวยสุดๆ สวยในสามโลก สวยในปฐพี ยกให้เลย” เสียงตอบรับจากกลุ่มผู้ชายดังกระหึ่ม ยืนยันชัดไม่มีใครปฏิเสธ
ถึงจะรู้ราชินีคลีโอพัตราคือสาวประเพศสองก็ตาม ปัญหาตรงส่วนนี้ถูกมองข้ามเสียสิ้นเชิง เมื่อเธอที่ยืนเด่นเป็นสง่างามจับจิต
จับใจ ทำไมพวกเขาต้องพูดโกหกด้วยเล่า
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอเปิดประมูลสำหรับคู่เปิดฟลอร์เต้นรำในคำคื่นนี้เป็นคู่แรกคู่เอกของราตรี ท่านใดเสนอเงินบริจาคเข้า
มูลนิธิเพื่อเด็กพิการทางสายตาและหูหนวกของเมืองพัทยาในมูลค่าสูงสุด จะได้เป็นคู่เต้นเปิดฟลอร์กับราชินีคลีโอพัตราเป็นคู่แรก
ราคาประมูลเริ่มต้นที่สามหมื่นบาทท่านใดสนใจให้มากกว่านี้เชิญได้เลยครับ” เพียงเสียงพิธีกรหยุดลง เสียงประมูลก็ดังต่อเนื่อง
ไม่ขาดสาย ตรงนั้นยกมือตรงนี้ยกมือ แข่งขันกันเซ็งแซ่
“สี่หมื่นครับ เจ็ดหมื่นครับ แสนสองครับ..บลาๆๆ” กลายเป็นราคาที่ตั้งต้นสามหมื่นขณะนี้ปาเข้าไปร่วมห้าแสนแล้ว
แค่เต้นเป็นคู่เปิดฟลอร์กับราชินีคลีโอพัตรา บัดนี้ยืนหน้าสวยสง่างามเป็นของประมูลทรงคุณค่าอยู่กลางเวที แต่ใครจะรู้ว่าเปลว
ที่ได้รับงานเพิ่มเข้ามาเป็นกรณีพิเศษถึงจะได้ค่าจ้างเพิ่มอีกเท่าตัว แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุให้เปลวเลือกรับงานเลยสักนิด
สิ่งที่ทำให้เปลวไม่คิดลังเลที่จะรับงานเป็นคู่เต้นเปิดฟลอร์ในงานคืนนี้ มีอยู่เพียงเหตุผลเดียว นั่นคือเงินประมูลจะมอบให้กับ
มูลนิธิเด็กพิการตาบอดหูหนวกของเมืองพัทยา แค่ได้มีโอกาสช่วยเปลวก็ยินดีทำแล้ว นี่ต่างหากคือเหตุผลที่ทำให้ต้องมายืนเป็น
อาหารตาให้ผู้คนแย่งกันประมูล สายตาแทะโลมอย่างเห็นได้ชัด มีใครบ้างไม่อยากโอบประคองราชินีแสนสวยไว้ในวงแขนพา
ก้าวย่างไปกลางฟลอร์ แค่ได้ใกล้ชิดอิงแอบกับคนงาม พวกเขาก็พร้อมจะจ่ายเงินนับแสนๆ โดยไม่คิดเสียดาย
แต่กำลังแข่งขันอวดบารมีใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ดูว่าใครจะได้เธอไปครองเป็นคู่เต้น
“หนึ่งล้านบาท..” เสียงครางกระหึ่มดังขึ้นเมื่อชายหัวล้านแต่เป็นที่รู้จักกันดีด้านความร่ำรวยและบารมีในเมืองพัทยา
เป็นผู้ตะโกนด้วยเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจเบรกการประมูลให้หยุดชะงักเงียบเสียงลงทันตา
“หนึ่งล้านแล้วครับ คุณวิกรมคนดังพัทยาเองครับ” พิธีกรประกาศใส่ไมค์ ยังไม่มีใครกล้าประมูลแข่งให้ราคาสู้
หลักแสนเกินครึ่งล้านก็แลดูว่าสูงมากแล้วสำหรับการเปิดฟลอร์เต้นรำในคืนนี้ นี่เล่นเป็นล้านหลายคนโมโหที่ไม่สามารถแข่งขัน
ด้วยถึงกับบ่นงึมงำ เพราะเห็นแววชวดที่จะโอบร่างงามไว้ในวงแขนแน่แล้ว ใครจะเงินหนากล้าสู้เสี่ยคนดัง ต่อให้มีเงินไปประมูล
แข่งไม่แน่ว่าจะรอดปลอดภัย หลังจากมีความสุขได้เต้นรำมีราชินีคนงามอยู่ในอ้อมกอด ชีวิตนี่สิจะพานมาตายไม่รู้ตัวเอาดื้อๆ
มีใครบ้างไม่รู้จักเสี่ยวิกรมผู้ทรงอิทธิพล ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ร่วมแข่งขันจะหัวหดถอนตัวกันจนหมด
จนไม่เห็นว่าใครจะแสดงตัวเป็นฮีโร่ท้าสู้อีก
เปลวเองหลังเห็นหน้าคนประมูลที่จะได้เต้นกับตัวเอง ถึงกับตะลึงอึ้งไปแล้วเช่นกัน เพราะเสี่ยวิกรมคือหนึ่งในหลายคนที่
เคยให้คนทาบทามเสนอเงินให้เจ็ดหลัก แค่เปลวยอมไปอยู่เซฟเฮ้าส์ซึ่งถูกเปลวปฏิเสธไปแล้ว ยังไม่เท่ากับว่าเสี่ยวิกรมเป็นหนึ่ง
ในน้อยคนที่เปลวจะชังขี้หน้า ยิ่งพอรู้ว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่น่าเคารพศรัทธาด้วยยิ่งแล้วใหญ่ พอรู้ว่าอาจจะได้คู่เต้นรำคือ
เสี่ยหัวล้าน หน้าตาขี้โกงตัวพ่อเข้าให้ เปลวก็หน้าเผือดสีลงถนัด
“ถ้าไม่มีใครเสนอราคาให้สูงกว่านี้แล้ว ผมจะปิดประมูลเพื่อจะได้เปิดฟลอร์คู่เอกที่ได้ร่วมสร้างกุศล ให้เด็กพิการของทาง
มูลนิธิกันเลยครับ” เสียงพิธีกรกล่าวสรุป คือสัญญาณเวลาของเปลวที่หมดลง หัวใจถึงกับเต้นรัวกระหน่ำด้วยความรู้สึก
ที่บอกไม่ถูก รู้แต่ไม่อยากเต้นคู่กับไอ้หัวล้านนี่
“เดี๋ยวค่ะ..ดิฉันให้สิบล้าน” เป็นคุณหญิงมุกดาที่ยกมือแล้วแจ้งความจำนงเสนอราคาประมูลแข่ง
ทำคนทั้งห้องตาเหลือกไปกับตัวเลขที่ไม่คิดว่าจะสูงลิ่วถึงสิบล้านขนาดนี้
“ยัยมุก..หญิงมุก” เสียงคุณมรกต ตามด้วยคุณชายเพชรรัตน์ที่ขานชื่อคุณหญิงมุกดาอย่างไม่เชื่อเช่นกัน
ว่าน้องสาวจะยกมือตะโกนแข่งประมูลด้วยเงินก้อนโตขนาดสิบล้านออกไปได้
“เธอเป็นบ้าอะไรยัยมุก เธอเป็นผู้หญิงทำไมประมูลเป็นคู่เต้นรำกับอรึ้ย! ฉันไม่อยากพูดให้เป็นเสนียดปาก”
คุณมรกตทำตัวสั่นเหมือนรู้สึกขยะแขยงที่จะพูดออกมาให้เห็นภาพ
“ใครบอกมุกจะเป็นคู่เต้นกับคุณเปลวฟ้าเขาค่ะพี่มรกต มุกลงทุนแข่งประมูลขนาดนี้ คู่ที่จะเต้นกับคุณเปลวฟ้า
ต้องสมน้ำสมเนื้อกับราคาที่มุกลงทุนถึงจะเหมาะสม” คุณหญิงมุกยิ้มอย่างอมพะนำ คุณมรกตเองก็ไม่เข้าใจคำพูด
ที่แฝงความหมายของเธอเช่นกัน
“ถ้าไม่มีใครเสนอราคาสู้ ผมขอนับเลยนะครับ เพื่อจะได้ยืนยันราคาประมูลเปิดฟลอร์เต้นรำกับราชินีคลีโอพัตราในค่ำคืน
นี้ นับหนึ่ง สอง สาม..เป็นอันว่าสิทธิที่จะได้เป็นคู่เต้นเปิดฟลอร์กับราชินีคลีโอพัตราเป็นคู่แรกของงานราตรีสังสรรค์ค่ำคืนนี้
เป็นของคุณหญิงมุกดา จากวังมณีรมย์” เสียงปรบมือแสดงความดีใจดังสนั่น มีคนไม่กี่คนที่รู้สึกไม่พอใจ
เข้าขั้นโมโหไปเลยก็ว่าได้ คนแรกคือเสี่ยวิกรมถึงกับสบถไม่อายลูกน้องที่ใกล้ชิด
“แม่งไม่ติดเป็นคนวังมณีรมย์ กูจะสั่งให้พวกมึงไปอุ้มมาให้กูจัดสักครั้งจะได้รู้ว่าไม่ควรหักหน้ากูแบบนี้”
นั่นคือคำพูดติดโมโหเข้าขั้นแรงของเสี่ยวิกรมที่เกิดเสียหน้าเป็นครั้งแรก หลังถูกคุณหญิงมุกดาประมูลแข่งตัดหน้า
อย่างไม่เคยมีใครทำกับแกแบบนี้มาก่อน
“เธอมันบ้าไปแล้วยัยมุก ถึงกับใช้เงินเป็นสิบล้านเพื่อมาเต้นรำกับยัยพวกผิดเพศแบบนี้ ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
ถ้าเพื่อนฝูงฉันเกิดมีคำถามขึ้นมา พรุ่งนี้ได้กลายเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งทุกเล่ม โอยฉันจะบ้า” คุณมรกตที่ออกอาการ
หัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่คุณหญิงมุกดา
“พี่มรกตจะสนใจทำไมค่ะ มุกใช้เงินของมุกไม่ได้เดือดร้อนเงินใครเสียหน่อย อีกอย่างรายการนี้คือการทำบุญ
ไม่ได้เอาเงินไปให้คุณเปลวฟ้าเธอเสียหน่อยนี่ค่ะ อย่างน้อยมุกก็มอบโอกาสให้เด็กที่เขาไม่มีโอกาส ไม่ได้เอาเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่าย
ซื้อของแบรนด์เนมหมดเป็นไม่รู้กี่สิบล้านเหมือนใคร” คุณมรกตโดนตอกกลับหน้าหงายได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันโดยไม่รู้
จะเถียงอะไรได้อีก เพราะคนที่คุณหญิงมุกหมายถึงคงไม่พ้นเป็นเธอเอง ที่บินไปซื้อของแบรนด์เนมถึงเมืองนอก
ใช้เงินทีเป็นสิบล้านก็เคยทำมาแล้ว
“พอเถอะหญิงมุก แล้วนี่จะเอายังไง ประมูลเขาได้เธอก็เตรียมเป็นคู่เต้นรำให้เขาด้วย งานนี้คงสร้างความสนุก
ให้แขกเหรื่อสมใจเธอแล้ว มีอย่างที่ไหนผู้หญิงสวยสองคนจับคู่เต้นรำเปิดฟลอร์ซะเอง” คุณชายชิงขัดสงครามปะทะคารม
ระหว่างสองหญิงแห่งวังมณีรมย์ เกรงจะลุกลามบานปลายจนทำเอาคนอื่นหันมาสนใจเสียก่อน
“ใครบอกว่าหญิงจะเป็นคู่เต้นให้คุณเปลวฟ้าราชินีคลีโอพัตราผู้เลอโฉมกันคะพี่ชายเพชร”
คุณหญิงมุกกับลอยหน้าลอยตาตอบคุณชาย
“อ้าว..นี่เธอเกิดจะเล่นตลกอะไรอีกหญิงมุก พี่ไม่ขำด้วยหรอกนะ”
“มุกก็ไม่ได้จะให้พี่ชายขำเสียหน่อย พี่ชายก็ต้องรับหน้าที่เป็นคู่เต้นให้มุกแทนนะสิคะ
มุกอุตส่าห์ลงทุนทำบุญตั้งสิบล้าน อย่าให้น้องสาวต้องเสียดายเงิน ขืนพี่ชายไม่ทำล่ะก็ มุกจะยกได้ตาแก่หัวเลี่ยนอวดรวยนั่น
เป็นคู่เต้นกับคุณเปลวฟ้าเธอแทนเสียเลยคอยดู” เป็นคำสั่งที่คุณชายเพชรถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว ไม่คิดว่าคุณหญิงมุกจะโยน
มาให้เป็นคู่เต้นรำที่ได้รับการประมูลมาแบบนี้ แต่คนที่ตาเหลือกตกใจสุดขีดกับเป็นคุณมรกต
“ไม่ได้นะ..เธอจะให้พี่ชายเพชรไปเต้นกับนังนั่นไม่ได้เด็ดขาด”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะพี่มรกต พี่ชายเพชรคือผู้ที่เหมาะสมจะได้เต้นกับราชินีผู้เลอโฉมของงานคืนนี้มากกว่าใครทั้งหมด
ไม่อย่างนั้นมุกจะแข่งประมูลไปเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายเพชรจะเป็นคู่เปิดฟลอร์”
“ฉันไม่ยอมจริงๆ ด้วย” คุณมรกตกลับถลึงตาดุใส่คุณหญิงมุก
“นั่นมันเรื่องของพี่นี่คะไม่เกี่ยวกับมุก ขอแค่พี่ชายเพชรยอมก็พอ” สุดท้ายกลายเป็นคุณมรกตยืนกำหมัดเกร็งแน่น
เมื่อพิธีกรประการให้คู่ที่จะเต้นเปิดฟลอร์ออกไปรับตัวราชินี เพื่อเปิดฟลอร์เต้นรำท่ามกลางสายตาของแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน
นับร้อย ยังไม่รวมสื่อมวลชนอีกมากมายที่ยกกล้องเตรียมเก็บภาพทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว
คาดว่าจะกลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครมกลายเป็นกระแสดังในวันพรุ่งนี้เช้าแน่นอน
สำหรับเงินที่เปิดประมูลการเต้นรำครั้งนี้ เป็นสิ่งที่น่ายกย่องเพราะประมูลเพื่อการกุศล ที่จะโด่งดังจนต้องพูดถึง
กันเป็นกระแส นั่นหนีไม่พ้นสินค้าที่ใช้เป็นตัวดึงดูดให้เกิดมูลค่าราคาประมูลถึงสิบล้าน เพียงได้เต้นรำเปิดฟลอร์ต่างหาก
จะกลายเป็นที่พูดถึงจดจำกันไปอีกนาน ราชินีเลอโฉมคลีโอพัตรา วินาทีสุดท้าย..ร่างสูงสง่าหล่อเหลาในสูทเนี๊ยบสีดำเสริมให้
บุคลิกของผู้ใส่โดดเด่นดุจเทพบุตร ก็ก้าวขายาวเดินตรงออกไปยังจุดที่ราชินีแสนสวยยืนรออยู่ ท่ามกลางสายตาของผู้มีเกียรติ
ที่ชื่นชมแสดงความยินดีอย่างจริงใจ แต่คลีโอพัตราของเรานี่สิ ตาคู่งามเบิกค้างตะลึงพรึงเพริดไปแล้วเช่นกัน..
ความคิดเห็น