คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตัณหาครอบงำ
ตัณหาครอบงำ?.
ท่าทางไขกุญแจอย่างทุลักทุเลเพื่อเปิดประตูของขุนทัพ แทบเรียกได้ว่าเหมือนคนลงแดงเลยก็ว่าได้ มือหนาออกอาการสั่นจนเห็นชัด ในขณะที่ผิวขาวแดงเถือกทั่วทั้งตัว สำรวจคนที่ยืนติดกันแทบไม่ต่างกันเลยสักนิด ปากได้รูปเม้มแน่นสนิทคงพยายามฝืนทนข่มความรู้สึกบางอย่างไว้อย่าง
สุดความสามารถเช่นกัน
หากเหลือบตาลงต่ำเจาะจงบริเวณเป้ากางเกงของทั้งคู่ จะเห็นว่าส่วนนั้นโป่งนูนดันกางเกงซิบแทบแตก นี่คงเป็นผลพวงจากฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดที่รุนแรงสาหัสสากรรจ์เชียวล่ะ
พอประตูเปิดทั้งคู่ต่างพุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันที โดยไม่ลืมปิด
ล็อกซะแน่นหนา เชื่อว่างานนี้คงใช้เวลายันค่อนรุ่ง ไม่แน่ว่าฤทธิ์ยาจะหมดหรือเปล่าไม่รู้ ยิ่งสภาพร่างกายร้อนรุ่มแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ใจสั่นกระตุกรัว
กระหน่ำตลอดเวลา แถมความต้องการปลดปล่อยอารมณ์อย่างว่ากับสูงขึ้นแทบไม่เหลือสติยับยั้งชั่งใจอีกแล้ว
ขุนดอนกำลังจะพุ่งเข้าในห้องน้ำ แต่ต้องชะงักกะทันหันเมื่อขุนทัพจับแขนกระชากจนร่างสมส่วนเซเข้าปะทะอกล่ำอย่างเสียจังหวะเพราะไม่ทันระวัง ที่ไม่ล้มเนื่องจากแขนแข็งแรงรวบกอดไว้ไม่ให้เสียหลักต่างหาก
“ดอนมึงรู้ใช่ไหม ว่าเราต้องแก้ไขยังไง?”
เสียงทุ้มพร่าที่พยายามกัดฟันพูดออกมาอย่างฝืดฝืน ตาหวานฉ่ำที่จ้องหน้าหล่อปานรูปสลักของขุนดอนไม่กระพริบ ไม่ต้องสื่อความหมายในคำพูดเลยด้วยซ้ำ ว่าคนพูดหมายถึงอะไร
“อืม..ตามผมมา” ขุนดอนไม่ตอบ แต่กลับดันอกแกร่งออกห่างตัวแล้วฉวยข้อมือขุนทัพจูงกึ่งลากเข้าไปในห้องน้ำทันที
จะว่าเป็นความคิดที่ไร้เดียงสาของขุนดอนก็ได้ คงเพราะเจ้าตัวไม่เคยมีประสบการณ์โดนยาปลุกมาก่อนก็ใช่อีก สิ่งที่ขุนดอนทำคือเปิดน้ำเย็นจากฝักบัวดันร่างขุนทัพเข้าไปยืนใต้ละอองน้ำที่สาดกระจายเพื่อช่วยลดอารมณ์ที่กระพือโหมให้เบาบางลง
ในขณะที่ตนรีบเปิดก๊อกตรงอ่างกวักน้ำใส่หน้าไม่ยั้ง กระทั่งผมเผ้าเสื้อผ้าที่สวมอยู่เปียกโซกไปหมด แต่ขุนดอนคิดผิดถนัดนอกจากไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแล้ว ยังกระตุ้นความต้องการทวีสูงขึ้นไปอีกเมื่อเสื้อนักศึกษาขาวบางของขุนทัพเปียกน้ำจนแนบเนื้อ เผยสัดส่วนของมัดกล้ามหน้าอกที่แข็งแรงสมชายออกมาจนชัดเจน จุดสีอ่อนตรงราวนมยิ่งเด่นชัดเข้าไปใหญ่ ในขณะที่ขุนดอนก็ไม่ต่างกัน แม้กล้ามเนื้อจะไม่หนาล้ำเหมือนขุนทัพแต่หาได้ขาดความงดงามของสรีระอย่างบุรุษเพศพึงมีเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกล้ามเนื้อสมส่วนพองามที่ประดับด้วยเม็ดทับทิมสีชมพูอ่อน จนมองทะลุผ่านเนื้อผ้าบางที่แนบเนื้อ ทำให้ดูเซ็กซี่เข้าไปใหญ่ หน้าท้องแบบราบไร้ไขมันส่วนเกิน
ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันผ่านกระจกบานใหญ่ ซึ่งขุนดอนยืนกวักน้ำใส่หน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่ขุนทัพเองดันมองสรีระสมส่วนในเนื้อผ้าของขุนดอนอย่างไม่ปิดบังความต้องการ กระทั่งสายตาของทั้งคู่สบกันโดยบังเอิญ ปากสวยได้รูปของขุนดอนขบเม้มจนแตกได้กลิ่นคาวเลือดเพราะสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้เต็มที่ ขณะที่ขุนทัพไม่ทนเก็บอาการเลยแม้แต่น้อย สายตาที่จ้องมองฉ่ำเยิ้มโดยไม่สนใจด้วยว่าคนถูกมองจะรู้สึกอย่างไร ก่อนขุนทัพจะใช้มือแข็งแรงฉีกทึ้งเสื้อตัวบางกระเด็นออกจากร่างตนเองด้วยพละกำลังมหาศาล แล้วจัดการถอดเข็มขัดดึงกางเกงทั้งชิ้นนอกชิ้นในหลุดจากท่อนขาแกร่งสมบูรณ์ไปด้วยหมัดกล้าม เผยท่อนเนื้อใหญ่โตที่ตั้งผงาดผงกหัวหงึกๆ ส่วนปลายแดงก่ำมีน้ำสีใสปริ่มเยิ้มออกมาตลอดเวลา
มือหนารวบจับท่อนเนื้อร้อนก่อนรูดสาวโดยไม่สนใจอีกคนจะรู้สึกยังไง ภาพการช่วยตัวเองให้ปลดปล่อยจากความทรมานของขุนทัพ ส่งผลต่อความรู้สึกของขุนดอนให้หมดความยับยั้งชั่งใจอีกต่อไป ไม่ถึงนาทีเสื้อผ้าเจ้าตัวก็หลุดออกจากร่างไม่เสียเวลาคิดเลยด้วยซ้ำ แล้วจึงลงมือจัดการกับตนเองเช่นกัน
ต่างคนต่างไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา
สุดท้ายวงแขนแข็งแรงก็รวบดึงเอาร่างสมส่วนของขุนดอนเข้าประชิดก่อนประกบปากบดจูบอย่างเร่าร้อน สติสัมปชัญญะทั้งหลายรวม
ถึงสำนึกชั่วดีต่อการยั้งคิดไม่หลงเหลืออีกต่อไปแล้ว ยามเมื่อร่างกายร้อนผ่าวของทั้งคู่แนบติดกัน ปากที่เม้มเน้นจนห่อเลือดเผยอออกให้ลิ้นหนาสอดเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกวาดต้อนพันลิ้นนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่ขุนดอนก็ตอบโต้ได้อย่างเผ็ดร้อนพอกัน มือไม้ของทั้งคู่ต่างตะโบมลูบบีบขย้ำไปทั่วกายแกร่งของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ
อารมณ์กำหนัดซึ่งชักนำไปตามธรรมชาติของความต้องการทางร่างกายทำให้ทั้งคู่ปลดปล่อยออกมาอีกระลอกอย่างไล่เลี่ยแต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ความต้องการที่เหลืออยู่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
สำนึกส่วนตัวของขุนดอนริบหรี่เหลือเกินเหมือนร่างกายตนตอนนี้ไม่ใช่ของตนเสียแล้วเพราะมันไม่สามารถควบคุมไว้ได้อีก กลับตอบสนองการกระทำของขุนทัพโดยไม่มีการต่อต้าน ไม่ว่าฝ่ายนำจะชักพาไปทางไหนมีแต่ส่งผลให้ภาวะอารมณ์แห่งตัณหาราคะได้รับการเติมเต็มไปเสียแทบทั้งสิ้น เพราะงั้นจึงไม่มีปัญญาต่อต้านกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนสติของทั้งคู่ต่างแทบไม่หลงเหลือกันไปแล้ว นอกจากทำทุกอย่างไปตามสัญชาติญาณเท่านั้น ขุนดอนเหมือนจะกลับมามีสติเพียงชั่วครู่เมื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากร่างกายที่ตึงแน่นแทบฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ กับสิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่ทั้งร้อนทั้งแข็งดันแทรกเข้ามาภายในส่วนลี้ลับที่ไม่เคยถูกรุกล้ำมาก่อน
“อร๊ากกก!!”
เสียงร้องทรมานหาได้หยุดยั้งการดันแทรกของท่อนเนื้อมหึมาลงได้แต่กับกระตุ้นให้คนกระทำทะลวงสิ่งนั้นดันพรวดเข้าไปทีเดียวแบบไม่ยั้งคงเพราะอารมณ์ที่ร้อนระอุไม่เป็นตัวของตัวเองของขุนทัพด้วยเช่นกันมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงฝั่งฝันจนไม่เหลือสำนึกในการผ่อนปรนให้กับคนที่ไม่เคยผ่านการถูกกระทำแบบนี้มาก่อน
“อืม!..โอ้ย!” เสียงหนึ่งบ่งบอกถึงความพึงพอใจอย่างยิ่งยวดที่ได้
ฝั่งร่างเข้าไปจนมิด ซึมซับความอุ่นร้อนที่โอบกระชับรัดแน่นภายในจนเกือบถึงปลายทางอยู่รำไร ในขณะที่อีกคนแทบสลบไปกับความเจ็บจุกเหมือนมีมือไร้สภาพมาจับขาฉีกแยกออกจากกัน กายแกร่งทรุดฮวบไม่เหลือแรงยืนอีกต่อไป
แต่กลับไม่ถึงพื้นตามที่คาด เมื่อท่อนแขนแกร่งรวบประคองกอดเอวสอบไว้แน่น ก่อนจะค่อยผ่อนให้ร่างทั้งคู่ทรุดลงไปพร้อมกัน โดยที่ส่วนเชื่อมประสานไม่แยกออกจากกันเลย สงครามแห่งตัณหาก็เริ่มโหมกระแทกอัดเข้าใส่
จากนั้นบทรักที่เร่าร้อนรุนแรง ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง แถมดันต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่สำนึกของทั้งคู่ยังคงถูกครอบงำด้วยฤทธิ์ยาปลุกซึ่งรุนแรงมากมาย หากไม่ได้รับการปลดเปลื้องอาจส่งผลให้เส้นเลือดในสมองถึงกับแตกตายเอาได้
เพราะงั้นอารมณ์ที่ได้รับการปลดปล่อยติดต่อกันอย่างไม่หยุดหย่อน แม้จะสูบพลังชีวิตของหนุ่มหล่อทั้งสองไปมากโข แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้สภาพร่างกายที่แข็งแกร่งอย่างนักกีฬาซึ่งต่างฝึกฝนกันเป็นประจำต้องบอบช้ำปางตายเท่าไหร่ แย่ที่สุดคงแค่หมดแรงนอนยาวไม่ตื่นข้ามวันข้าม
คืนกันไปเลย นอนหลับพักยาวเพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัว ทั้งสองจึงจะกลับมาปกติอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆสำหรับขุนทัพคงไม่เท่าไหร่ แต่ขุนดอนนี่สิอาการหนักหนาสาหัสน่าดู เพราะช่องทางพิเศษบวมแดงปริแตกเลือดซึมขนาดนั้น นี่ถือเป็นการแทนคุณที่ยิ่งใหญ่เหลือแสนสำหรับผู้ซึ่งได้ชื่อว่า ‘เทพพิทักษ์ขุนทัพ’ การที่ต้องตกเป็นฝ่ายรองรับตัณหาที่ต่างขาดสติยั้งคิดทำไปตามอารมณ์ซึ่งต้องการปลดปล่อยเพียงอย่างเดียวหากร่างกายขุนดอนไม่แข็งแกร่งพอละก็ มีหวังต้องไปนอนโรงพยาบาลกันเลยล่ะ
ที่เห็นตอนนี้คางเหลืองไปเลยเหมือนกัน ไม่ต่างกับโดนรุมโทรมเลยมั้ง ดีหน่อยที่คนกระทำมีเพียงคนเดียวแต่เมื่อต้องรองรับอารมณ์ติดต่อ
กันเป็นสิบครั้ง ถือว่ามากเกินสำหรับครั้งแรกของคนที่เป็นฝ่ายถูกกระทำคาดว่าหมดจากพิษยาขุนดอนคงต้องถูกพิษไข้รุ่มเร้าอย่างไม่มีทางเลี่ยง
ขณะนี้ทั้งคู่ต่างหมดแรงหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องรู้ราว แถมอยู่ในสภาพก่ายกันกลมกลิ่นน้ำกามคาวคลุ้งตลบอบอวลทั่วทั้งห้อง ไม่อยากคิดว่าสุดท้ายแล้วก็เป็นอย่างที่ไอ้พิชิตตั้งใจให้เกิดต่างกันตรงที่ไม่มีใครสา
มารถบันทึกภาพประวัติศาสตร์นี้ไปเผยแพร่อย่างที่มันต้องการก็เท่านั้น?
ข้ามคืนจนล่วงเข้าหกโมงเย็นของอีกวัน ร่างสูงใหญ่ซึ่งมีอีกคนหนุนแขนซุกหน้า ซึ่งกายเปลือยต่างก่ายกอดกันอยู่นั่น ไม่ต้องบอกว่าทั้งคู่ผ่านสมรภูมิอะไรกันมา
ขุนทัพค่อยๆกระพือเปลือกตาขึ้นช้าๆเผยดวงตาคมภายใต้คิ้วเข้ม
ยังฉายแววอ่อนล้าหลงเหลือให้เห็น เจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะใช้มือข้างที่เป็นอิสระขึ้นคลึงขมับให้หายมึน ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมหน่อยแล้วจึงสำรวจหาสาเหตุของความหนักอึ้งตรงแขนจนชาหนึบ ถึงรู้ว่ามีศีรษะทุยสวยของใครบางคนใช้หนุนต่างหมอนนอนหลับไม่ไหวติง เมื่อรวบรวมสติลำดับเหตุการณ์พอจำขึ้นมาได้บ้าง จึงตัดสินใจใช้มือช้อนศีรษะของ
ขุนดอนวางลงบนหมอนแทน ก่อนจะบีบไล่เลือดลมตรงแขนให้หายอาการเหน็บชาพอเริ่มรู้สึกดีขึ้นค่อยหันไปสำรวจคนที่หลับไม่รู้เรื่องบัดนี้หน้าแดง
ก่ำคิ้วขมวดมุ่นอยู่ตลอดทั้งที่ตาปิด เมื่อพิจารณาถี่ถ้วนเริ่มรู้สึกผิดปกติรีบใช้หลังมือแตะหน้าผากถึงกับสะดุ้ง ชักมือกลับอย่างเร็ว ร่างตรงหน้าตัวร้อนยังกะไฟโดนพิษไข้รุมเล่นงานเข้าแล้ว ความเป็นห่วงบวกความรู้สึกผิดต่อการกระทำที่เกิดขึ้นเพราะตนเป็นต้นเหตุจนทำให้ขุนดอนต้องมาร่วมชะตากรรมรับเคราะห์อย่างไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
ขุนทัพขยับลุกจากเตียง คว้าเอาผ้าขนหนูเล็กซึ่งทางรีสอร์ทเตรียมไว้บริการลูกค้า พุ่งเข้าห้องน้ำอย่างเร็วเพื่อชุบน้ำเย็นพอหมาดกลับมาจัด
การเช็ดตัวเพื่อลดไข้ให้ขุนดอนด่วนจี๋ ท่าทางผลุบเข้าผลุบออกของขุนทัพระหว่างห้องน้ำกับเตียงไม่ต่ำกว่าห้าหกรอบ คนทำพิถีพิถันอย่างมากพยายามระวังไม่ให้คนหลับอยู่ถูกรบกวนจนรู้สึกตัวตื่น
ระหว่างทำความสะอาดก็ถือโอกาสสำรวจร่างกายของขุนดอนไปด้วย ถึงกับหน้าเสียเมื่อเห็นคราบเลือดแห้งกรังที่ติดอยู่ตามง่ามขาแกร่งโดยเฉพาะบริเวณช่องทางสีพีชบัดนี้บวมช้ำจนเห็นชัด บ่งบอกถึงความรุนแรงในการกระทำของตนเป็นอย่างดี ความรู้สึกผิดกระแทกกลางแสกหน้าเล่นเอาแน่นหน้าอกจุกไปเหมือนกัน
เมื่อจัดการทำความสะอาดร่างกายของขุนดอนเสร็จไม่ลืมห่มผ้าให้ต่างหาก ขุนทัพจึงหันมาจัดการกับตัวเองบ้างรีบอาบน้ำชำระล้างคราบคาวออกจนหมด ในใจลึกๆบอกไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยามยามหยุดความคิดฟุ้งซ่านซึ่งกำลังรบกวนตัดออกไปก่อน เสร็จแล้วนุ่งผ้าขนหนูพันแค่ท่อนล่างตรงมากดโทรศัพท์ภายในโทรหานิคมคนขับรถส่วนตัว
ให้จัดการเป็นธุระเรื่องเสื้อผ้า พร้อมกับกำชับให้ไปรับเอาหมอประจำตระกูลมาที่รีสอร์ทด่วน
สภาพตนตอนนี้ไม่สามารถออกไปไหนได้ เสื้อขาดรุ่งหริ่งกางเกงยีนส์เปียกชื้น โทรศัพท์มือถือในกางเกงพังเพราะโดนน้ำของขุนดอนก็ไม่ต่างกันนัก ขณะนั้นคงไร้สติทั้งคู่ไม่คิดว่าที่ไอ้พิชิตพูดเตือนไว้เรื่องความแรงของยาจะออกฤทธิ์รุนแรงถึงปานนี้
ระหว่างที่รอนิคม ขุนทัพจัดการสั่งอาหารและเครื่องดื่มมากินแก้หิวเพราะร่างกายประท้วงแล้ว เล่นไม่มีอะไรตกถึงท้องมาตั้งแต่เย็นวานกระทั่งตอนนี้ ในขณะที่ยังคงคอยเอามืออังหน้าผากตรวจอาการของคนที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่เป็นระยะๆอย่างกังวล ตนขอยาแก้ไข้พร้อมสั่งข้าวต้มอ่อนๆ มาให้แล้วเช่นกัน กะปลุกขุนดอนขึ้นมากินรองท้องค่อยทานยาลดไข้แล้วจึงปล่อยให้นอนต่อ ร่างบนเตียงตัวยังคงร้อนเหมือนเดิมดีขึ้นไม่มากคงเพราะได้รับการเช็ดตัวลดไข้ไปบ้างแล้ว ที่เหลือต้องรอหมอมาตรวจอย่างเดียว ขุนทัพรู้สึกละอายใจต่อทิฐิและการกระทำที่ผ่านมาของตนเองมาก เพียงเพราะความฝังใจในวัยเด็กที่ทำให้ปิดกั้น ไม่เปิดโอกาสให้ขุนดอนได้อธิบาย ทั้งที่ขุนดอนพยายามจะชี้แจงให้ตนฟังแล้วก็ตาม แต่ตนกลับปิดกั้นไม่ยอมรับฟังท่าเดียวเพราะเอาแต่คิดไปเองว่าขุนดอนพยายามแก้ตัว ถึงได้ใช้ความรู้สึกผิดหวังเสียใจของตนที่เก็บไว้เป็นอาวุธทำร้ายจิตใจขุนดอนมาโดยตลอด จากนี้ไปคงถึงเวลาที่ต้องไถ่โทษที่ได้กระทำกับคนบนเตียงบ้างแล้วล่ะ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าขุนดอนจะรับความปารถนาดีของตนไว้หรือเปล่า ต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรขุนดอนจะรับสภาพกับการถูก
ทำลายศักดิ์ศรีได้หรือไม่นั่นคือปัญหาให้คิดหนัก..?
ความคิดเห็น