ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Yaoi @@@ เทพพิทักษ์ขุนทัพ โดย Luk (จบบริบูรณ์)

    ลำดับตอนที่ #2 : หน้ายับเพราะหญิง

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 55


    หน้ายับ!..เพราะหญิง?

      “พี่ทัพค่ะ  ดินเนอร์กันนะคะคืนนี้”  ปิ่นแก้วดาวคณะอักษรที่หนุ่มๆ ต่างมองเหลียวหลัง กำลังยืนกระแซะขุนทัพอยู่ข้างสนามรักบี้หลังจากโค้ชปล่อยนักกีฬาเลิกเสร็จ ในขณะที่ขุนดอนเฝ้ากระเป๋าสัมภาระเดือนคณะวิศวะปิโตรเลียมปีที่แล้ว พร้อมกับมือก็กำลังเขียนงานที่อาจารย์สั่งยิกๆ แทบไม่มีเวลาสนใจคนรอบข้าง แต่หูเจ้ากรรมยังดันได้ยินเสียงซุบซิบของเพื่อนๆทีมนักกีฬารักบี้นั่นแหละ ที่จับกลุ่มห่างไปด้านหลังไม่ไกลเท่าไหร่นัก
      “งานนี้ถ้าไอ้ทัพมันเล่นด้วยกูว่ามีเฮวะ! ล่าสุดน้องปิ่นควงไอ้ชิตขาใหญ่ศิลปกรรมเสียด้วย ไอ้ห่าชิตมันคงยอมให้ไอ้ทัพหยามหรอก ยิ่งบ้ากัดไม่เลือกถือว่าพ่อมันใหญ่เกรงใครซะที่ไหนเล่ามัน” คำพูดที่เข้าหูอย่างไม่ตั้งใจ  ทำเอามือที่ขะมักเขม้นเขียนงานหยุดโดยปริยาย  พร้อมกับคิ้วเข้มสวยขมวดมุ่นทันที  นึกห่วงอยู่เหมือนกัน
      โดยเฉพาะไอ้พิชิตใช่ว่าขุนดอนจะไม่รู้ถึงกิตติศัพท์อันธพาลครองเมืองของมันเล่นงานคนบาดเจ็บพิการไปแล้วไม่น้อย แต่ก็พ้นผิดทุกครั้งเพราะอาศัยบารมีของพ่อซึ่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่แถมตามใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวน จนไอ้พิชิตมันเป็นอันธพาลขวางโลกอย่างที่รู้กันไปทั่ว
      "ไอ้ดอน..ไอ้ดอน..หูตึงหรือไง?  เรียกตั้งหลายครั้งเสือกไม่ได้ยิน
    เอากระเป๋าเสื้อผ้าตามกูมา”  พูดจบร่างสูงใหญ่อุดมด้วยกล้ามเนื้อแกร่งของนักกีฬาที่ต้องอาศัยพละกำลังปะทะอย่างรักบี้  ขุนทัพคือมือดีของทีม
    แถมหล่ออย่างไร้ที่ติรวยระดับมหาเศรษฐีนามสกุลเป็นที่รู้จัก  มักมีสาวสวยวิ่งเข้าหาอยู่ไม่ขาด 
      สุดหล่อขวัญใจสาวๆ เทพบุตรของพวกเพื่อน แต่เป็นซาตานสำหรับขุนดอน  ก้าวเดินด้วยท่วงท่าสง่างามหายเข้าไปในห้องพักนักกีฬาเพื่ออาบน้ำ ซึ่งคนรับใช้ส่วนตัวอย่างขุนดอนย่อมรู้หน้าที่ด้วยความเคยชินรีบกุลีกุจอคว้ากระเป๋าสัมภาระใส่อุปกรณ์อาบน้ำ  พร้อมเสื้อผ้าเปลี่ยนของคุณชายขุนทัพก้าวตามหลังไปติดๆ 
      ภาพหนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่ ตามด้วยหนุ่มหล่ออดีตเดือนคณะวิศวะรุ่นพี่ปีสี่ ซึ่งคอยรับใช้โดยไม่ปริปากบ่นเป็นภาพชินตาของคนใกล้ชิดแม้กระทั่งนักศึกษาในมหาลัยต่างมองสองหนุ่มที่แบกความหล่อไม่ได้เหลี่ยมล้ำกันสักนิด  ต่างกันคงคนหลังไม่ได้หนาล้ำเหมือนคนแรก ความสูงแม้จะด้อยกว่าไม่มากแต่รูปร่างผิดกันพอสมควร คนตามหลังหุ่นยังกะนายแบบ  ในขณะคนนำหน้าหุ่นนักกีฬายามมองพานนึกถึงรูปปั้นของ
    เทพอพอลโล่ซะทุกที
    สาวๆ ต่างคลั่งไคล้ขุนดอนไม่น้อยกว่าขุนทัพ เพียงแต่ขุนดอนวางตัวเฉยประหยัดคำพูดเสียจนไม่มีใครกล้าเข้าไปสานสัมพันธ์  ถึงจะเคยมีสาวใจกล้าเข้าไปเสนอไมตรีชัดเจน  แต่มักถูกขุนทัพฉกไปกินเสียทุกรายจึงกลายเป็นว่าสาวที่เหลือคงได้แค่มองขุนดอนไปพรางปาดน้ำลายไปพรางไม่ให้หกก็เพียงเท่านั้น ที่กล่าวมาทั้งหมดรวมทั้งเก้ง  กวาง บ่าง  ชะนีอีกจำนวนไม่น้อยที่คิดอยากลิ้มลองเนื้อหนุ่ม
    ต่างต้องผิดหวังไปตามกัน เพราะทั้งสองขุนไม่นิยมของแปลก แม้ไม่นึกรังเกียจแต่ก็ไม่รับทดลอง  ดังนั้นคงได้แต่ปาดน้ำลายแทนยามเห็นสองหนุ่มเดินตามกันไป  แถมเป็นแพ็กคู่อีกต่างหากเห็นขุนทัพที่ไหนย่อมต้องเห็นขุนดอนที่นั้น  เพียงแต่คนหลังปฏิบัติตัวรับใช้คนแรกปานองค์รักรับใช้ราชาก็ไม่ปาน
      “วันนี้กูจะค้างคอนโดฯ มึงเอางานกูไปทำให้เสร็จพรุ่งนี้ต้องส่ง ไม่ต้องให้นิคมขับรถมึงขับแทน  บอกนิคมนั่งแท็กซี่กลับบ้านได้เลย” ขุนทัพสั่งเป็นชุด  โดยไม่มองหน้าคนรับคำสั่งสักนิดว่าสนใจฟังหรือไม่  พูดในขณะที่สวมเสื้อผ้าไปด้วยอย่างพิถีพิถัน  
      “ครับ” 
      ขุนดอนตอบรับอย่างสุภาพเหมือนทุกครั้ง  เพราะทราบดีว่าตนอยู่ในฐานะอะไร เมื่อจัดการพับเก็บผ้าขนหนูที่ขุนทัพใช้นุ่งก่อนสลัดทิ้งหลังสวมกางเกงเสร็จ  เก็บเข้ากระเป๋าพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณชายวางทิ้งไว้จนเรียบร้อย ก็รีบหิ้วกระเป๋าเดินตามขุนทัพที่ก้าวออกประตูไปก่อนแล้ว แต่ขุนดอนต้องเป็นฝ่ายชะงักหยุดทิ้งระยะห่าง เมื่อเห็นปิ่นแก้วตรงดิ่งเข้ามาควงแขนขุนทัพก่อนเดินตีคู่แนบชิดท่ามกลางสายตานักศึกษาที่มองตามตาไม่กระพริบ  เพราะทั้งคู่สวยหล่อสะดุดตาปานนั้น
      พอมาถึงรถขุนดอนรู้หน้าที่ทันที ตรงไปประสานงานขอกุญแจจากนิคมคนขับ  เพื่อทำหน้าที่ของตนตามคำสั่ง
      “พี่คมไม่ต้องขับให้แล้วครับคุณทัพให้ผมขับแทน ส่วนพี่เอาเงินนี่นั่งแท็กซี่กลับบ้านได้เลย”  ขุนดอนพูดกับคนรับใช้อย่างให้เกียรติ ต่างจากขุนทัพที่เรียกแค่ชื่อเฉยๆ ไม่มีสรรพนามนำหน้า
      หลังจากรอให้ขุนทัพกับปิ่นแก้วขึ้นนั่งเรียบร้อย ก็ทำหน้าที่สารถีนำรถยุโรปราคาสูงลิบลิ่วเคลื่อนตัวออกอย่างไม่รอช้า ก่อนได้ยินคำสั่งใหม่จากหลังรถตามติดไม่ทันไร
      “ไปร้านxxx แถวทองหล่อ กูจะพาปิ่นไปทานอาหารอิตาเลี่ยน” 
      “ครับ”  
    คำขานรับติดเป็นนิสัย แม้จะฟังดูสุภาพสำหรับคนที่ได้ยิน ไม่เว้นกระทั่งปิ่นแก้วที่แอบมองจากกระจกส่องหลังเพื่อสำรวจใบหน้าอันหล่อเหลาสุดแสนเร้าใจสาวๆของคนขับจำเป็น  แต่สำหรับคนออกคำสั่งพาลหงุดหงิดเสียทุกครั้งที่ได้ยิน  ยิ่งตอกย้ำความคิดว่าไอ้ขุนดอนมันขี้ขลาดไร้น้ำยาเป็นเต่าหดหัวในกระดองยอมทำตามคำสั่งโดยไม่บิดพลิ้ว 
    ถึงกลับเผลอชักสีหน้าอย่างไม่รู้ตัว หากไม่มีหน้าอกหยุ่นนิ่มที่กำลังเบียดอัดต้นแขน  พร้อมกับมือเรียวสวยลูบไล้บนท่อนขาแกร่งดึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวให้กลับมาสนใจคนข้างๆแทนแล้วละก็ ขุนทัพคงได้หน้าเข้มเข้าโหมดนิ่งดุไปแล้ว
    ถึงร้านอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรู ราคาไม่ต้องบอกว่าเหมาะกับคนระดับไหน  สารถีจำเป็นทำหน้าที่เปิดประตูแทนคนขับรถได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง  ก่อนจะกลับเข้าไปนั่งในรถหยิบเอาตำราขึ้นมาอ่านฆ่าเวลารอเจ้านายหน้าตาเฉยซะงั้น
      หนุ่มหล่อสาวสวย เดินควงแขนเข้าไปในร้านเรียกสายตาชื่นชมของพนักงานไปตามระเบียบ  ขุนดอนหารู้ไม่ว่าขุนทัพรู้สึกขัดใจพิลึกที่ตนก้มหัวรับใช้ไม่พูดไม่จา ขุนทัพอยากให้ขุนดอนถามสักคำว่าจะให้ทำอะไรเพื่ออย่างน้อยตนจะได้เปิดโอกาสให้ไอ้ขี้ขลาดลองชิมอาหารอิตาเลี่ยนกับเค้าบ้าง แต่ดันเล่นไม่พูดไม่จาไม่มองสบตาด้วยซ้ำทำหน้าที่จนตนนึกหมั่นไส้ ถ้ามึงจะรับใช้ได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้กูจะได้จัดให้คอยดูเหอะ นั่นคือความคิดของขุนทัพที่มาดหมายอยู่ในใจ
              ทั้งคู่ใช้เวลาทานอาหารหัวเราะต่อกระซิกกันร่วมสองชั่วโมง จึงได้ฤกษ์เช็คบิลพากันกลับขึ้นรถ เพื่อไปหาความสำราญที่คอนโดต่อ ดีกรีของไวน์ชั้นยอดที่ต่างดื่มกระตุ้นอารมณ์ก่อนหน้า พาให้ทั้งคู่รู้สึกร้อนวูบวาบอยู่ไม่น้อย ขุนดอนยังคงทำหน้าที่สารถีที่ดี พามาถึงคอนโดสุดหรูอย่างไร้ปัญหา แถมยังใช้คีย์การ์ดบริการเปิดประตูให้อีกต่างหาก 
      พอเข้าห้องที่อยู่ชั้นสูงสุดเรียบร้อย ขุนดอนรีบแยกตัวไปยังโต๊ะหนังสือที่อยู่อีกโซนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว  ไม่หือไม่อือตั้งหน้าตั้งตาปั่นงานของขุนทัพอย่างเอาเป็นเอาตายไม่แสดงสีหน้าเลยสักนิด
      ขุนทัพพาสาวสวยระดับเดือนคณะ เข้าไปเริงสวาทในห้องส่วนตัวทันทีโดยไม่ชายตามองอีกคนให้ขุ่นมัว กระทั่งนาฬิกาบอกเวลาเกือบตีสองขุนดอนเพิ่งอาบน้ำเรียกความสดชื่นให้ตนเองเสร็จ ก่อนจะเปลี่ยนมา
    สวมเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาสั้นสบายๆ กลับมานั่งปั่นงานของขุนทัพที่จวนเสร็จแล้ว โดยตั้งใจว่าเสร็จเรียบร้อยก็จะหลับพักเอาแรงไว้ไปเรียนในวันพรุ่งนี้  
      จังหวะที่เก็บงานเข้ากระเป๋าอยู่นั่น  ประตูห้องที่ปิดไปตั้งแต่สามทุ่มกว่าก็ค่อยๆ เปิดออกมาทำให้คนที่กำลังก้มเก็บงานทุกอย่างลงกระเป๋าต้องเงยหน้าขึ้นมอง  ก่อนจะหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นคนที่เดินออกมาปิดประตู
    ตามหลังเงียบกริบกลับไม่ใช่ขุนทัพอย่างที่คิดไว้แต่ต้น  ดันเป็นปิ่นแก้วที่นุ่งเพียงผ้าขนหนูพันกายผืนเดียวโชว์ไหล่เปลือยขาวเนียนมีรอยแดงจางๆ พอให้รู้ว่าผ่านเกมส์หฤหรรษ์มาก่อนหน้า ในขณะที่ช่วงขาเรียวสวยก็ร่นสูงจนเห็นขาอ่อนวับแวม
      ขุนดอนรีบก้มหน้ากลับไปสนใจเก็บงานทั้งหมด  ก่อนจะก้าวเลี่ยงเพื่อเดินไปนอนยังโซฟายาว เพราะคอนโดนี้มีห้องเดียวแต่กลับถูกรั้งไว้ด้วยแขนเรียวสวยที่รวบกอดจากด้านหลังแบบประชิดตัว
    “อืม..จะรีบไปไหนค่ะพี่ดอน?”
      เสียงหวานหูกระซิบสั่นแนบแผ่นหลัง พาเอาร่างสูงสมส่วนหยุดอยู่กับที่คอตั้งตรงแน่วนิ่งไม่วอกแวก ก่อนคนถามจะได้ใจขยับฝ่ามือลูบไล้ไปตามแผ่นอกแกร่งแน่นด้วยกล้ามเนื้อของอกหนุ่มที่สมบูรณ์สวยงาม แล้วค่อยขยับไล่ต่ำลงยังหน้าท้องแบนราบเต็มด้วยซิคแพ็คเป็นลอนแข็งภายใต้เสื้อกล้ามตัวบาง  ทันทีที่มือนิ่มเลื้อยต่ำลงแตะขอบเอวกางเกง
    มือหนาก็ตะครุบไว้แน่นไม่ยอมให้ขยับ
      “พี่ว่าพอแค่นี้เถอะน้องปิ่น”  น้ำเสียงนิ่งเรียบที่เอ่ยบอกมาไม่บ่งบอกอารมณ์ของคนพูด  ยิ่งยั่วให้คนมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองอย่างปิ่นแก้ว
    นึกอยากเอาชนะรุ่นพี่รูปหล่อยั่วต่อมกระสันจนใจสั่นระริก ช่างท้าทายลุ้นให้ตบะแตกเสียจริง อยากรู้นักว่าภายใต้ใบหน้าสงบไร้อารมณ์ จะร้อนแรงเร้าใจเหมือนคนที่นอนหลับในห้องหรือเปล่า ซึ่งตนได้ปรนเปรอถึงใจหลับสบายตัวเบาไปแล้ว  ก่อนรอจังหวะย่องเงียบออกมาหวังลิ้มชิมรสชาติสุดหล่อซึ่งเป็นตำนานว่าไม่มีสาวคนไหนได้แอ้มมาก่อน  ตนอยากได้ชัยชนะคนแรก  ที่กล้าพูดได้ว่าตำนานรุ่นพี่หน้านิ่งไร้อารมณ์เสร็จตนแล้ว เจ้าของขวัญใจสาวๆ มากมายจนเกิดเสียงลือเสียงเล่าอ้างไปทั้งมหาลัย ถูกตนกินหัวกินหางเรียบร้อยแล้วถึงจะสะใจ
    “ทำไมค่ะ  หรือว่าพี่ไม่นิยมผู้หญิง?”  เจตนาใช้คำพูดเชิงดูถูก ทั้งที่คนพูดรู้อยู่เต็มอกว่าผู้ชายคนนี้แมนทั้งแท่ง  แต่เพื่อจุดมุ่งหมายมันต้องกระตุ้นด้วยการหยาม  เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ยอมให้ผู้หญิงหมิ่นเชิงชายไม่ได้เป็นอันขาด
    “หึถ้าน้องปิ่นจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ ปล่อยพี่เถอะ” ขุนดอนยังคงใจเย็นตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มนิ่ง
      “แล้วถ้าปิ่นไม่ปล่อยล่ะ  พี่ดอนจะทำยังไง?”  สาวสวยก็ยั่วกลับอย่างมีชั้นเชิง
      “มันดูไม่เหมาะ น้องปิ่นมากับคุณทัพ” ขุนดอนพูดให้ปิ่นแก้วคิด
      “ตอนนี้คุณทัพของพี่ดอนหลับไม่รู้เรื่องไม่ต้องห่วง ปิ่นว่าเรามาพูดเรื่องของเราดีกว่า”  ไม่ให้ขุนดอนตั้งตัว  แขนเรียวที่กอดเอวอยู่ก็คลายออกก่อนจะพลิกตัวมายืนประจันหน้าเทพบุตรหน้าตายที่ยิ่งใกล้ยิ่งใจสั่นโดยเฉพาะสายตานิ่งสงบคมสวยไร้อารมณ์คู่นั้นด้วยแล้ว แขนเรียวบางเกี่ยวรอบคอแกร่งก่อนจะออกแรงเหนี่ยวให้ศีรษะคนตัวสูงก้มต่ำเพื่อจะปิดปากหยักสวยได้รูปสีสดของหนุ่มหล่อรุ่นพี่ตำนานฤษีไร้ใจ  อยากรู้ว่าปากนี้จะกระตุ้นเลือดในกายสาวให้ร้อนระอุได้ขนาดไหน
    “มึง! ไอ้เหี้ยดอน นั่นมึงกำลังจะทำอะไร?” เสียงขุนทัพตวาดลั่นด้วยความโกรธจนจับน้ำเสียงได้ชัดเจน  ภาพที่คนถามเห็นคือแผ่นหลังของขุนดอนที่มีแขนเรียวขาวเกี่ยวคอแกร่ง  กำลังโน้มต่ำแบบไม่ต้องเดาแล้วว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกันอยู่
    “พี่ทัพค่ะช่วยปิ่นด้วย พี่ดอนรังแกปิ่น” สาวเจ้าเอาตัวรอดรีบสะบัดตัวพลิ้ววิ่งเข้าไปซบอกหนาพร้อมอ้อนเสียงสั่นบีบน้ำตาว่าตนถูกรังแก แทบไม่ต้องรอฟังต่อ ร่างสูงใหญ่จับสาวเจ้าห่างจากตัวก่อนพรวดเข้า
    ไปหาร่างสมส่วนพร้อมกำปั้นหลุนๆ อัดเสยเข้าโหนกแก้มหล่อเต็มแรงโดยไม่มียั้งมือกันเลย
    “พลั๊ก! ไอ้ขี้ขลาดตาขาว ไอ้หน้าตัวเมียสันดานหมา มึงมันเหี้ยคิดแดกผู้หญิงของกูหรือไง  ฝันสูงเกินไปแล้วไอ้เด็กวัด” คำสบถด่าหยาบคายดังสนั่นลั่นห้อง แม้กระทั่งต้นเหตุอย่างปิ่นแก้วยังขวัญหนีเมื่อสัมผัสถึงอารมณ์โมโหร้ายของขุนทัพ  ที่กระหน่ำหมัดต่อยไม่ยั้งบนหน้าหล่อเหลาจนแตกยับเลือดอาบโชก  คนที่โดนต่อยกลับไม่โต้ตอบเลยสักนิด  ยอมให้ต่อยก่อนจะทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น
      ในขณะที่คนออกแรงชกสันมืออาบไปด้วยเลือด ไม่รู้ว่ามือแตกหรือเลือดจากใบหน้าหล่อ ที่ตอนนี้มองแทบไม่เห็นเค้าหน้าเดิม นอกจากเลือดอาบเต็มไปหมด ในขณะที่เจ้าของใบหน้านอนหายใจรวยรินหมดแรงอยู่ตรงพื้นไม่ขยับเขยื้อน
      “ปิ่นไปแต่งตัวพี่จะไปส่ง” สั่งเสียงห้วนดุไม่ต้องบอกเป็นคำรบสองปิ่นแก้วรีบผลุบเข้าห้องทำตามอย่างเร็ว ภาพใบหน้าแตกยับเลือดอาบของขุนดอนทำเอาสาวขยาดจนแทบลมจับ ไม่คิดว่าขุนทัพจะลงมือหนักถึงปานนี้ อนาถแกมสังเวชกับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่ต้องมารับเคราะห์เพราะมารยาหญิง  บัดนี้นอนหายใจรวยไม่ร้องสักเอ๊ะ ได้แต่สดับฟังเสียงประตูที่ปิดตามหลังสองหนุ่มสาวซึ่งพากันเดินออกไปไม่เหลียวหลัง ปล่อยให้กระสอบทรายร่างมนุษย์ซึ่งรองรับโทสะของตนนอนกับพื้นโดยไม่สนใจมองเลยด้วยซ้ำ
      “♪♫ ฉันก็เคยเสียใจไม่น้อยกว่าเธอ  ฉันก็เจอเรื่องราวร้ายๆ เข้ามา ♪♫”  ริงโทรโทรศัพท์สายเข้าดังพอได้ยิน ปลุกเรียกร่างที่นอนหน้าแหกอยู่บนพื้นให้ลืมตาตื่น ขยับตัวลุกเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ  ก้มมองดูเบอร์พร้อมกับคิ้วเข้มที่ออกอาการบวมเป่งขมวดมุ่นอัตโนมัติ  กดรับสายไปทันที
      “ครับ”  กรอกเสียงพูดสั้นๆ  คำฮิตประจำตัว
      “เหี้ยจริงมึง..นอนตายขึ้นอืดหรือไงรับสายช้าชิบ  รีบเอางานมาให้กูใต้ตึกก่อนแปดโมง ห้ามเลทเด็ดขาดไม่งั้นมึงเจอกูซ้ำแน่” เสียงขุนทัพดังมาตามสาย คำสั่งเส้นตายที่ขุนดอนขานรับคำเดิม
      “ครับ”  ไม่มากไปกว่านั้น  พร้อมปลายสายวางไปแล้วเช่นกัน
    ขุนดอนจ้องเวลาในโทรศัพท์เจ็ดโมงสิบห้า เหลือเวลาไม่มากแล้วต้องรีบไปก้าวเดินพาใบหน้ากระชากใจสาวตอนนี้เกรอะกรังไปด้วยเลือดแห้ง ตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวอย่างเร่งด่วน
      แต่งตัวในชุดนักศึกษาเรียบร้อย  คงไม่ต้องบอกว่าเสื้อผ้ามาจากไหนชุดสำรองมีไว้ที่คอนโดสองสามชุด เผื่อฉุกเฉินเวลาขุนทัพพาสาวมาค้างและขุนดอนต้องขับรถแทนก่อนจะนั่งทำงานเหมือนเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืน เพราะงั้นจึงไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับขุนดอน  เพียงแต่ต่างกันเพราะเป็นครั้งแรกที่ถูกขุนทัพลงมือใส่จนเลือดอาบก็เท่านั้น  
      ใช่ว่าตนปากหนักประหยัดคำพูดมากไปหรือเปล่า ทำไมถึงไม่อธิบาย ลองมาเป็นขุนดอนซึ่งอยู่ในเหตุการณ์แล้วจะรู้ว่า ต่อให้ชักแม่น้ำทั้งห้ามาแก้ตัวคงไร้น้ำหนักอยู่ดี คำอธิบายจากปากขุนดอนเป็นของแสลงที่ขุนทัพไม่ต้องการฟังไปเสียแล้ว  เพราะงั้นระหว่างขุนดอนกับขุนทัพ จึงเป็นได้เพียงคนหนึ่งออกคำสั่งและอีกคนคอยรับคำสั่งด้วยประโยคสั้นๆเพียงประโยคเดียว ‘ครับ’
      ขุนดอนนั่งแท็กซี่มาถึงใต้อาคารด้วยเวลาฉิวเฉียดแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ถ้าไม่เร่งคนขับให้หาทางลัดเพราะรถติดก็ไม่แน่ว่าจะถึงในเวลาเจ็ดโมงห้าสิบแปดนาที 
    หลังจ่ายค่าแท็กซี่เสร็จร่างสูงสมส่วนก็ตรงดิ่งเข้าใต้ตึกคณะอย่างรวดเร็ว พกพาใบหน้าเขียวช้ำบางแห่งก็บวมเป่งบางที่ก็ปริแตกเจ้าตัวจัดการแปะพลาสเตอร์ไว้  ที่เห็นๆก็มีตรงโหนกแก้มข้างซ้ายและหัวคิ้วข้างขวา ส่วนที่ไม่แตกแค่ช้ำบวมก็ปล่อยไว้ตามเดิม ใบหน้าตอนนี้เรียกสายตาสนใจจากบรรดานักศึกษาที่คุ้นเคยกับร่างสูงหล่อ ดีกรีอดีตเดือนคณะหรือฉายาฤษีไร้ใจ ซึ่งบัดนี้ใบหน้าหล่อเร้าใจเหมือนกับไปฟัดกับหมามาซะงั้น
    แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามเพราะต่างรู้ดีว่า รุ่นพี่คนนี้โลกส่วนตัวสูงแทบไม่สร้างสัมพันธ์ภาพกับใครเลยนอกจากตามรับใช้รุ่นน้องนามสกุลเดียวกันอย่างจงรักภักดี เพราะงั้นสาวแท้สาวเทียมหลายนางต่างตาโตกุมอกเจ็บปวดใจไปตามกัน ยามเมื่อเห็นใบหน้าหล่อฟกช้ำไปทั่ว
      “เกือบไม่ทันนะมึงรอดตัวไป เอางานกูมา” คำพูดที่ปกติก็ห้วนสั้นแต่ตอนนี้ยังแฝงน้ำเสียงไม่พอใจติดมาด้วย พาเอาเพื่อนๆที่นั่งในโต๊ะหน้าเสียไปตามกัน  แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งถามมากความ ไม่งั้นจะประสพกับ
    สายตาคมดุของหนุ่มร่างใหญ่เข้าให้  ทางที่ดีคือหุบปากมองดูเหตุการณ์เงียบๆแค่นั้น ยกเว้นคนใจกล้าบางคนที่ไม่หวั่นอารมณ์เหวี่ยงจากสายตาขุนทัพอย่างหนุ่มคงกะพัน หรือไอ้คงรุ่นน้องที่เห็นความอดทนอดกลั้นของขุนดอนจนเป็นไอดอล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะหนุ่มคงคือเพื่อนสนิทของขุนทัพ โดยครอบครัวของทั้งคู่คุ้นเคยสนิทสนมกันเป็นอย่างดีมานานต่างหาก เจ้าตัวจึงไม่นึกเกรงรังสีพิฆาตของขุนทัพสักเท่าไหร่
      “พี่ดอน  หน้าไปโดนอะไรมาพี่?”  น้ำเสียงห่วงใยจริงใจของหนุ่มรุ่นน้อง  เพียงพอแล้วที่จะเรียกร้อยยิ้มจากปากสวยที่บัดนี้มุมปากยังม่วงคล้ำ ให้คลี่ยิ้มบางเบาแต่ก็สะกดทุกสายตาให้มองตะลึงเพราะน้อยครั้งจะมีโอกาสได้เห็นฤษีไร้ใจมีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้า  ก่อนคำพูดจากปากที่สุดแสนประหยัดจะเอ่ยเพียงสั้นๆ ว่า
      “ทดลองความหนาน่ะครับ” เป็นอันหมดคำถามและคงไม่ได้ข้อมูลใดๆเพิ่มอีกแล้ว  เพราะทุกคนที่นั่งกระดิกหูรอฟังในที่นี้ต่างรู้ดีว่า คนตอบจะไม่พูดไปมากกว่านี้อีกแล้ว  นอกจากใบหน้าไร้ความรู้สึกที่ท้าทายให้ค้นหาก็เท่านั้น
      “ป่ะ!..พวกมึงขึ้นเรียนกัน”  แล้วคนที่มีอิทธิพลต่อเพื่อนๆ ก็เอ่ยปากชวน  พร้อมกับหยิบงานที่ขุนดอนอดนอนปั่นให้เสร็จยันตีสองก่อนได้ของแถมติดหน้าซะยับหยิบติดมือลุกเดินนำออกไปทันที ตามหลังด้วยกลุ่มเพื่อนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเพราะอยู่ทีมรักบี้อีกห้าชีวิต หนึ่งในนั้นคือคงกระพันธ์หนุ่มสำอางอารมณ์ดีรวมอยู่ด้วย  
      และก็เป็นเวลาอิสระของขุนดอนที่จะนั่งทำอะไรต่อมิอะไรก่อนจะถึงคาบเรียนตัวเอง  ในเทอมนี้ถือเป็นเทอมสุดท้ายเหลือเวลาเรียนแค่ไม่ถึงสองเดือน  ตนก็จะได้ออกภาคสนามเพื่อฝึกเป็นเจ้าหน้าที่วิศวะปิโตรเลียม
    สมบูรณ์แบบแล้ว เพราะเหตุนี้ต่างหากที่เป็นยาชูกำลังให้ขุนดอนมีพลังใจที่จะก้าวไปข้างหน้าโดยมองปัญหาต่างๆ ที่ใครๆพากันเห็นใจเป็นเพียงปัญหารกสมองไม่เก็บเอามาคิดให้อารมณ์ขุ่นมัว นั่งได้กว่าครึ่งชั่วโมงร่างกายเกิดอาการปวดฉี่ขึ้นมา จึงลุกเดินไปยังห้องน้ำใต้ถุนตึก จะด้วยความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบ  ทำให้ต้องหลบฉากบังมุมเพื่อหยุดฟังเด็กปีสามศิลปกรรมกว่าสิบคน ยืนคุยกับเด็กในคณะสองคนว่า
      “มึงแน่ใจนะ ว่าเด็กกูไปกับไอ้เหี้ยนั่นเมื่อเย็นวาน”  คำพูดที่ไม่ต้องเดาว่าหมายถึงใครและพูดถึงใคร เพราะคนถามคือไอ้พิชิตอันธพาล
    ชื่อดัง ส่วนเด็กที่ว่าคงไม่พ้นปิ่นแก้วสาวเจ้าปัญหาที่พาตนหน้าแหกเช่นกัน
      “แน่ใจสิพี่ชิต ผมเห็นคนเดียวซะเมื่อไหร่  ใครเค้าก็เห็นกันทั้งนั้นเค้าไม่ได้แอบควงกันนี่นา  ออกจะเดินควงอย่างเปิดเผยซะด้วยซ้ำ” คำพูดยืนยันหนักแน่นจากวิศวะรุ่นน้อง  ทำเอาคนถามหน้าเขียวตาวาวโรจน์
      “อีห่านี่ร่านนัก  ถึงว่าเมื่อวานกูติดต่อไม่ได้ ถ้ากูยังไม่ปล่อยมืออย่าหวังจะไปควงคนอื่น  รอกูเบื่อก่อนถึงมีสิทธิ์งานนี้กูจัดเต็มทั้งคู่ให้แม่ง
    สมอยาก ไอ้เหี้ยนั้นมันต้องโดนตุ๋ยให้หมดมาดแมนไปเลย ไปกันพวกเรา” 
      ทิ้งทวนให้คนได้ยินรู้สึกขนหัวลุก ไม่ต้องนึกภาพตามก็พอจะมองออกว่าคนพูดมีจุดประสงค์อะไรในการแก้แค้นที่โดนหยามศักดิ์ศรี
      ส่วนคนแอบฟัง กลับแววตาวูบไหวไม่ปิดบังความรู้สึกว่างานเข้าขุนทัพอย่างแรง ปัญหาใหญ่เสียแล้วที่ต้องเจอคู่ปรับแบบไอ้พิชิต รายนั้นไม่เกี่ยงวิธีการที่จะใช้  ขอแค่สะใจที่ได้แก้แค้นเท่านั้นพอ นั่นคือปัญหาขององค์รักเทพพิทักษ์ขุนทัพ  ต้องพลอยหนักใจอย่างมาก หากขุนทัพเป็นอะไรไปเท่ากับว่าผู้มีพระคุณดุจบิดรมารดาอย่าง คุณท่านขุนพรหมและคุณ
    หญิงพิมาลาคงหัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ เป็นแน่ปากหยักสวยได้รูปเผลอ
    เม้มแน่นเมื่อต้องใช้ความคิดเครียดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×