ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Part 3
“รัน..ดริ๊งกัน” เข้าบ้านฟิตเนสคนละชั่วโมง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังนั่งดูทีวี ไอ้รั่วเช็ดหัวด้วยผ้าขนหนู
สวมกางเกงนอน ไม่ใส่เสื้อโชว์แผงอกอวดกล้ามหน้าท้องขนอ่อนเรียงตัวสวย
เห็นแล้วรีบเบือนสายตามองหน้ามันแทน ให้ตาย!..เซ็กซี่ไปไหน
“คิดไง..ชวนดริ๊ง” ถามเบนความรู้สึกตัวเอง ก่อนอดใจไม่ไหวจับมันกดลงโซฟา
“คึคึ..ศุกร์หรรษา..อยากกรึ๊บ!” หัวเราะตาวาว
“เอาดิ..ที่ไหนดี” ให้คนต้นคิดเลือก
“ที่บ้าน” ฟังคำตอบเผลอเลิกคิ้วแปลกใจ นึกยังไงอยากกินในบ้าน
นึกว่ามันชวนท่องราตรีเสียอีก ห่างเป็นเดือนเราไม่ได้ออกเที่ยวกันเลย
“หืม..สองคน” ผมชี้นิ้วใส่ตัว รอคำยืนยันให้แน่ใจ
“อืมแดกกับผีเรือนหรือไง ชวนมึงต้องดริ๊งกับมึงดิ ขอจัดที่ระเบียง”
มันพยักเพยิดนอกระเบียง มีเก้าอี้หวายไว้ให้นั่ง นาฬิกา 3 ทุ่มอากาศกำลังสบาย
รายรอบบริเวณบ้านต้นไม้ใหญ่ปลูกเต็ม..ลมโกรกมาเบาๆ
“เหล้า..หรือไวน์” ให้มันเลือก
“ไวน์แล้วกัน เหล้าขี้เกียจวุ่นวายมิกเซอร์” ผมพยักหน้ารับ ก่อนเดินไปเปิดตู้เก็บไวน์
หยิบยี่ห้อโปรดของมันมา พร้อมแก้วสองใบถังแช่เสร็จ
จัดให้เมียสุดหล่อกล้ามสวยเขาหน่อย ตามสัญญาคืนนี้มีจัดหนัก
ดริ๊งไวน์เติมอารมณ์จุดเพลิงให้หน่อย เผื่อฟลุคมันลุยเอง..สวรรค์เชียวล่ะ
พอเตรียมเรียบร้อยไอ้รั่วผมแห้งพอดี มันเอาผ้าขนหนูพาดบ่าเดินหน้าระรื่นตามมาสมทบ
ผมรินไวน์ส่งให้ ตาคมมองแวบค่อยรับแก้วไปหย่อนตูดนั่งลงข้างๆ
หันมองไปยังท้องฟ้าผืนผ้ากำมะหยี่ดำมืดไร้ดาว มีแค่พระจันทร์เสี้ยวดูสลัวลางโดดเดี่ยวเพียงดวงเดียว
“ไม่มีดาวสักดวง” มันบ่นเบาๆ
“อยากดูดาว” ผมถาม
“นั่งรับลมกลางคืน ไม่มีดาวรู้สึกขาดๆ” เสือกโรแมนติกอีก
“หึหึ!..ถามจริงนึกครึ้มอะไร” ยกแก้วชู มันหันมากระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนชนแก้วผม
“เกร๊ง!..ใจสงบอารมณ์บรรเจิด” กวีมาเชียว แอบขำคำตอบ
เราต่างยกไวน์จิบรสฝาดวูบผ่านลำคออุ่นซ่านท้องน้อยตามมาติดๆ หันไปจ้องหน้าด้านข้างไอ้รั่ว
มันคลึงแก้วในมือเล่น ตายังคงจับในความมืด สันจมูกโด่งรับคิ้วเข้มไรหนวดจางบวกกลิ่นน้ำยาโกนแตะจมูก
ดึงดูดความรู้สึกไม่อาจละสายตาจากวงหน้าหล่อเลยเหะ..ดูดีฉิบหาย..ให้ตาย
“จ้องเพลินเลยนะมึง อึ้งความหล่อกูดิ” ยกยิ้มยักคิ้วอย่างเท่ แซวผมหน้าตาเฉย ดันแอบแก้มแดงด้วย..เขินเหมือนกันสิท่า
“อืม..มึงหล่อ ไม่ติดไอ้โต๋มึงหล่อสุด” ไม่ปฏิเสธไอ้รั่วมันครองอันดับหนึ่งมาแล้ว
ยิ่งในวัยนี้ยิ่งมีเสน่ห์ ตัดคำพูดบ้าบอมันสามารถสะกดสายตาคนได้ไม่ยากเลยครับ แค่ยิ้มหล่อมีแต่คนตะลึงตาค้าง
“คึคึ! มึงเป็นเกย์..แอบปิ๊งกูแต่แรก” สบตาผม ยกไวน์จิบคลึงแก้วในมือสุนทรีอารมณ์สุดๆ
ตาคมจับจ้องความมืดเวิ้งว้างว่างเปล่า ปากดันกล่าวหาผมต่างหาก
“ทำไมคิดว่ากูปิ๊ง แถมบอกกูเป็นเกย์อีก”
“ไม่ปิ๊ง..เราจะอยู่กันอย่างนี้เหรอ” ยอมหันมาเผชิญหน้าแล้ว
“มึงเชื่อพรหมลิขิตไหม..พรต” ผมยกไวน์จิบ ตาจ้องสื่อความหมาย
“เป็นเมื่อก่อนกูไม่เชื่อและไม่ลบหลู่ กูเชื่อตัวเองอยากรักใครจีบ อยากได้ก็ป้อ..อยากล่อก็ลุย..เป้าหมายมีไว้ชน
ทุกอย่างขึ้นอยู่ฝีมือล้วนๆ” ฟังคำตอบมันเผลอยิ้มจนได้ ไม่ใช่วรพรตคงไม่ตอบแบบนี้
“มึงเคยชอบตะเกียง..แต่แห้ว” ผมยักคิ้วล้อเลียน
“คึคึ! ใครไม่ชอบกูท้าตีนเหยียบหน้า กลุ่มสิงโตดำมึงทุกตัวขนคอตั้ง ทำอย่างกับมึงไม่แห้ว..ห่า” ผมหลุดยิ้มกว้าง
“นั่นสิ..ตะเกียงมีเสน่ห์วะ ใครได้ใกล้ชิดพาเอาหวั่นไหวได้ง่ายๆ แต่นั่นความรู้สึกวูบวาบ ไม่ได้ถลำลึกเข้าขั้นรัก”
ผมเปรยให้ฟัง มันยิ้มอย่างเข้าใจในสิ่งที่ผมบอก
“คิดไม่ต่างกู ‘ความรัก’ แต่ก่อนกูตีความไม่ถูก อะไรคือ ‘รัก’ ปากบอกรักอย่างนั้นอย่างนี้ ปี้กันไม่ทันไรก็เลิก เห็นประจำ”
มันหันมองไม่มีจุดหมาย ยกไวน์จิบจนหมดแก้ว ผมหยิบขวดรินเติมให้ ดันชำเลืองยิ้มๆ
“Thanks.” ยักคิ้วอย่างเท่ ผมชอบบรรยากาศตอนนี้ครับ เราวางเรื่องงานเรื่องส่วนตัว
นั่งคุยกันสบายๆ สัมผัสความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รับรู้เสียงหัวใจเต้นจังหวะคงที่ ยิ่งมีมันอยู่ตรงนี้..อยู่เคียงข้างกันวิเศษสุดๆ
“ด้วยความเต็มใจ..ครับผม” ตอบอย่างสุภาพ ยักคิ้วคืนไปที คิดว่าเท่สุดแล้วครับ..หน้ามันขึ้นสีทันควัน
“พูดซะกูจั๊กจี้หัวใจ..ห้ามไปบริการใครแบบนี้ยกเว้นกู..รัน” กำชับได้น่ารักชะมัด
“เพื่อมึง..คนเดียว” ผมชูแก้วในมือจิบช้าๆ ตาเราสบกันนิ่งนาน ก่อนใบหน้าจะเคลื่อนเข้าหาเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูด
ริมฝีปากประกบบดเบียดแทรกลิ้นเกี่ยวกระหวัดตอบโต้ชั่วครู่ รู้สึกบริเวณท้องน้อยวูบวาบ ส่วนกลางลำตัวกรึ่มพอง
กลิ่นไวน์ให้รสชาติหวานในปาก ช่วยกระตุ้นอารมณ์หวามหวิวได้เป็นอย่างดี
“อ๊าหหห์” เสียงครางยาวของมันก่อนผละจาก หน้าเห่อแดง ผมคงมีอาการไม่ต่างกัน เหมือนความร้อนพุ่งขึ้นหน้า
“ทำไม..มึงถึงเลือกกู” จู่ๆ ดันถาม
“ตอบไม่ได้..ใจสั่ง” ผมยิ้ม มันจ้องตาผมนิ่ง
“มึงหล่อนะรัน..คิดไม่ถึงจะเป็นเกย์..คึคึ!”
“ถ้าเชื่อแบบนั้นกูไม่มีคำแก้ตัว สาบานได้มึงคือผู้ชายคนแรกที่กูมีอะไรด้วย ไม่คิดจะมีกับใครอีก”
สายตาถ่ายทอดคำยืนยันให้มันตรงๆ
“กูฟัดหญิงชายลองมาหมด อดแปลกใจตัวเองไม่หายตลอดมากูรุก ไหงเป็นมึงกูดันยอมโดนแทง”
ผมยิ้มปากฉีก เสือกตรงไปไหม
“พูดเหมือนอยากรุก..กูคืน”
“12 ปี ความรู้สึกอยากทำที่เคยมี เอาเข้าจริง..กูตัดใจทำไม่ลงว่ะ”
ผมเคยวัดใจลองทดสอบมันมาแล้ว เนียนยอมให้มันรุก..ตอนแรกมันฮึกเหิมกระดี๊กระด๊าใหญ่
วินาทีปฏิบัติดันเปลี่ยนใจดื้อๆ ไม่ทำหน้าตาเฉย
พอถาม..คำตอบที่ได้ มันไม่อยากทำร้ายผม ประทับใจสุดๆ..บอกตามตรงผมรักมันครับ
หากมันจะเดินหน้าคงทำใจยอมเพื่อ..มัน
“พูดขึ้นมา..หรือเปลี่ยนใจอยากรุก..กูคืน”
“เปล่า!..ต่อให้มึงยอม กูคงไม่ทำ”
“ทำไม..ไม่อยากทำร้ายกู” หยิบคำตอบเดิมมันมาอ้าง
“แค่ส่วนหนึ่ง..สำคัญความเหมาะสม สำหรับมึงกูอยู่ในฐานะ ‘เมีย’ หากกูรุก
ระหว่างเราจะมีจุดยืนยังไง ผัวๆ เมียๆ ความรู้สึกมันคงเปราะบาง
ระยะยาวตัณหาอาจนำมาซึ่งการนอกใจ กูเชื่อสิ่งนั้น รูป รส กลิ่น เสียง
หากสัมผัสคละคลุ้งไร้ระบบแบบแผน ไม่ช้าไม่นานมีการนอกใจเกิดขึ้นแน่
คำว่าหนักแน่นจะค่อยเสื่อมคลายไปในที่สุด
มึงชอบรุก พอโดนกูรุกกลับย่อมรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่มากก็น้อย ที่ยอมกูเพราะมึง ‘รัก’
ความรักอย่างเดียวร้อยใจไว้ไม่ได้ เหมือนตัวอย่าง คนรักกันเลิกกันมีถมเถ
วันหนึ่งพอเจอฝ่ายรับสวมบทบาทอ้อนมึงรุกอย่างเต็มภาคภูมิ ตีเนียนเข้ามาพัวพัน
สักวันมึงคงเผลอใจ การทรยศความรักคงเกิดขึ้นในที่สุด กูเชื่อมั่นและศรัทธาความรักที่มาพร้อมความเสียสละ
ให้เกียรติเกรงใจ ทั้งหมดจะสร้างกำแพงหนาต้านทานสิ่งยั่วยุไม่ให้ผ่านเข้าถึงเนื้อในได้ เป็นไงปรัชญากู..อึ้งล่ะสิ..ฮะฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะร่าของมัน ทำผมยิ้มกว้างจ้องมันอย่างซาบซึ้ง พรตไม่ใช่คนรั่วไร้สมอง
ผมยืนยันเสมอมันฉลาดล้ำ คิดเกินคนปกติทั่วไป มุมความคิดและการถ่ายทอดล้วนแปลกๆ แต่ทุกสิ่งมีเหตุผล
เช่นประโยคนี้ ไม่มีส่วนไหนที่ผมสามารถแย้งได้ ตายตั้งแต่ ‘ตัณหา’ ที่มันยกมาเป็นอุปสรรคแล้วครับ
ใครเอาชนะตัณหาได้บ้าง ความแข็งแกร่งของจิตใจไม่ให้หลงไปกับกิเลสที่ยั่วยุทุกรูปแบบ
ล้วนมีพลังหนุนจากคนที่เรารักเป็นส่วนสำคัญ การให้เกียรติและคำว่าเกรงใจ..มีพลังมากกว่าสิ่งใดในความรู้สึกที่เรานิยามขึ้น
การยับยั้งชั่งใจล้วนเกิดจากให้เกียรติคนรัก กังวลทำให้เขาเสียใจ..
สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นกำแพงหนากางกั้นตัณหาอย่างที่พรตมันพูดถูกต้องที่สุด
ผมคือปุถุชนธรรมดา ความสวยงามล่อตายวนใจมีเข้ามาไม่เว้นว่าง ได้แค่มองอย่างชื่นชม
ไม่คิดสัมผัสชิดใกล้เกรงใจคนรัก ใจเขาใจเราหากมันทำบ้าง ผมคงเจ็บและเสียใจมาก ถ้าเราเผลอทำมันย่อมรู้สึกไม่ต่างกัน
“ขอบคุณที่คิดแบบนี้ สำคัญมึงมีความสุขหรือเปล่า ฝืนตัวเองไหม จำยอมอยู่ในฐานะเมียของกู” ผมถามเพราะแคร์มันจริงๆ
“ถ้าฝืนคงไม่เรียกว่ารัก มีความสุขไหม น้ำกระฉูดทุกครั้งเท่าที่จำได้ อารมณ์กูไม่ค้างวะ..คึคึ!” บทจะรั่วมันก็กวนได้ใจ
“หึหึ! กูเก่ง” ผมชมตัวเอง ยักคิ้วให้มันเป็นการกวนกลับ
“เปล่า..กูต่างหากเก่ง ถึงเอามึงเป็นผัวซะอยู่หมัด”
“พรืดด!! ฮะฮ่าๆ..เออมึงเก่ง” ช่วยอวยมันหน่อย พูดเต็มปากเต็มคำ ยืดอกภูมิใจสุดๆ เพิ่งรู้มันดีใจที่มีผมเป็น.. ‘ผัว’
“ที่จริงมึงฮอตมาก ถ้ากูไม่มีฝีมือคงโดนสาวน้อยสาวใหญ่ ตุ๊ด แต๋ว กะเทย สารพัดเพศหลอกชิมเจี๊ยวหวานมึงแล้ว”
สีหน้าท่าทางจริงจังเชียว
“ทำไมคิดว่ากูใจง่ายขนาดนั้น” ผมหรี่ตาถาม
“ไม่เชิงใจง่าย คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนน้อ!..บ่อยเข้าอาจหวั่นไหว
แต่กูเก่งไง..เราถึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้” มันยักคิ้วสำทับ
“หึหึ! กูยอม..มึงไม่เคยให้กูโหยหาเรื่องพรรณนี้เลยวรพรต..เก่งมาก” ผมยกนิ้วโป้งประกอบ
“คึคึ! อย่าลืมสิรันน้อย กูเปิดบริสุทธิ์มึงเชียวนะ” ท่าทางยิ้มกริ่ม ผมเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
เปิดเหี้ยไร..ก่อนหน้าผมล่อหญิงมาแล้วไม่น้อย
“น้าน!!งงอีก..มึงไม่เคยล่อประตูหลังชายแมนแฮนด์ซั่มมาก่อนนิ เจอกูไปครั้งเดียว
กู่ไม่กลับมาจนถึงตอนนี้ เห็นฤทธิ์กูยัง..ฮะฮ่าๆๆ”
“พรืดด!! ฮะฮ่าๆ อืมเด็ดจริงว่ะ! ฮะฮ่าๆๆ” ผมขำกร๊าก คิดได้เนอะ
แต่ก็ต้องยอมรับกู่ไม่กลับจริงครับ ตกหลุมลึกหลุมรักเข้าเต็มเปาทีเดียว
“ฉลองความสำเร็จที่มึงล่อหลอกหัวใจกูได้” ผมยกแก้วเตรียมชนยื่นไปค้างตรงหน้ามัน
“เกร๊ง! แด่ความสำเร็จ ที่เหยี่ยวพิชิตสิงห์รันกุนซือเทพ..ฮะฮ่าๆๆ”
ยกให้มันภาคภูมิใจต่อไป เห็นแล้วหัวใจพองคับอก นี่มันเห็นความสำคัญของผมมากขนาดนี้
“คืนนี้ มึงจะพิชิตกูด้วยฝีไม้ลายมือหรือเปล่า” ผมหรี่ตาเจ้าเล่ห์กึ่งยั่วยุ
หลังมันกระดกไวน์หมดแก้ว หน้าสุกปลั่งตาคมเยิ้ม ยังไม่ได้เมาหรอก
คงแค่ร้อนวูบวาบซู่ซ่ากรึ่มๆ พอกันกับผม
“อยากให้กูแสดงฝีมืออ่ะดี๊” ยักคิ้วท้าทายอีก
“ก็นะ..อยากลองทีเด็ด งัดมาใช้ให้หมดดิ มีเก็บงำไว้อีกหรือเปล่า” ผมยั่วแกมยุ ท้าทายมันอย่างมีเชิง
“ได้เลย..แล้วคุณจะรู้จักผม..อรัญ” มันยิ้มกระชากใจส่งให้ ก่อนลุกยืนเต็มความสูง
กางเกงนอนลายทางขายาวโป่งตุงมาเชียว..ยิ่งโชว์ช่วงบนเปลือยแบบนี้ ไอ้ห่า..เอ็กซ์ฉิบหาย
สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้น มันเอามือคร่อมที่เท้าแขนยันพนักหวายของเก้าอี้ผมนั่ง
ยื่นหน้าจนจมูกเกือบชิด ตาคมวาวจ้องตาผม มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ กระซิบเสียงพร่าพาขนลุกซู่
“ให้กูปรนนิบัตินะครับ” ได้แต่พยักหน้ารับ มันประกบริมฝีปากมือเชยคางผมรับจูบเร่าร้อนอย่างจาบจ้วงหื่นกระหาย
“อืมมม!!” เสียงครางทุ้มในคอ เมื่อมันเป็นฝ่ายฉกลิ้นไล่ต้อน กวาดดุนลิ้นผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ให้อารมณ์ดิบเถื่อนแต่เสียวสุดๆ
จูบเผ็ดร้อนในท่าคร่อมตัวต่ำของมันยังคงดำเนินต่อเนื่อง จนหนำใจ ค่อยผละออก
ริมฝีปากได้รูปสวยมันวาว ดันแลบลิ้นเลียล่อผมอีกต่างหาก
“กินกูสิครับ..รันที่รัก” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเชิญชวน ค่อยจับมือผมไปรั้งขอบกางเกงนอน
ผมจ้องตามันขณะมือคอยรั้งขอบกางเกง สายตาเราไม่ละจาก ต่างสบตากันไม่กะพริบ
ถ่ายทอดอารมณ์พิศวาสฉายชัดทั้งคู่ รู้โดยไม่ต้องใช้คำพูด เรากำลังต้องการกันและกันสุดๆ
ตัดฉับ เรท..ฉ
ชีวิตรัก..กับเซ็กส์ย่อมไปด้วยกันเสมอ เซ็กส์ที่เติมเต็มให้กันและกัน ไม่มีมากน้อย
มีการให้และบริการเท่าเทียมในฐานะคนรัก ทำให้ผมกับมันขาดกันไม่ได้
เหมือนว่าชีวิตนี้รสชาติของเราติดหนึบกันไปแล้ว สิ่งนี้ผมยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ตัว..ผมรักมันครับ ‘เหยี่ยวรั่ว’...?
สวมกางเกงนอน ไม่ใส่เสื้อโชว์แผงอกอวดกล้ามหน้าท้องขนอ่อนเรียงตัวสวย
เห็นแล้วรีบเบือนสายตามองหน้ามันแทน ให้ตาย!..เซ็กซี่ไปไหน
“คิดไง..ชวนดริ๊ง” ถามเบนความรู้สึกตัวเอง ก่อนอดใจไม่ไหวจับมันกดลงโซฟา
“คึคึ..ศุกร์หรรษา..อยากกรึ๊บ!” หัวเราะตาวาว
“เอาดิ..ที่ไหนดี” ให้คนต้นคิดเลือก
“ที่บ้าน” ฟังคำตอบเผลอเลิกคิ้วแปลกใจ นึกยังไงอยากกินในบ้าน
นึกว่ามันชวนท่องราตรีเสียอีก ห่างเป็นเดือนเราไม่ได้ออกเที่ยวกันเลย
“หืม..สองคน” ผมชี้นิ้วใส่ตัว รอคำยืนยันให้แน่ใจ
“อืมแดกกับผีเรือนหรือไง ชวนมึงต้องดริ๊งกับมึงดิ ขอจัดที่ระเบียง”
มันพยักเพยิดนอกระเบียง มีเก้าอี้หวายไว้ให้นั่ง นาฬิกา 3 ทุ่มอากาศกำลังสบาย
รายรอบบริเวณบ้านต้นไม้ใหญ่ปลูกเต็ม..ลมโกรกมาเบาๆ
“เหล้า..หรือไวน์” ให้มันเลือก
“ไวน์แล้วกัน เหล้าขี้เกียจวุ่นวายมิกเซอร์” ผมพยักหน้ารับ ก่อนเดินไปเปิดตู้เก็บไวน์
หยิบยี่ห้อโปรดของมันมา พร้อมแก้วสองใบถังแช่เสร็จ
จัดให้เมียสุดหล่อกล้ามสวยเขาหน่อย ตามสัญญาคืนนี้มีจัดหนัก
ดริ๊งไวน์เติมอารมณ์จุดเพลิงให้หน่อย เผื่อฟลุคมันลุยเอง..สวรรค์เชียวล่ะ
พอเตรียมเรียบร้อยไอ้รั่วผมแห้งพอดี มันเอาผ้าขนหนูพาดบ่าเดินหน้าระรื่นตามมาสมทบ
ผมรินไวน์ส่งให้ ตาคมมองแวบค่อยรับแก้วไปหย่อนตูดนั่งลงข้างๆ
หันมองไปยังท้องฟ้าผืนผ้ากำมะหยี่ดำมืดไร้ดาว มีแค่พระจันทร์เสี้ยวดูสลัวลางโดดเดี่ยวเพียงดวงเดียว
“ไม่มีดาวสักดวง” มันบ่นเบาๆ
“อยากดูดาว” ผมถาม
“นั่งรับลมกลางคืน ไม่มีดาวรู้สึกขาดๆ” เสือกโรแมนติกอีก
“หึหึ!..ถามจริงนึกครึ้มอะไร” ยกแก้วชู มันหันมากระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนชนแก้วผม
“เกร๊ง!..ใจสงบอารมณ์บรรเจิด” กวีมาเชียว แอบขำคำตอบ
เราต่างยกไวน์จิบรสฝาดวูบผ่านลำคออุ่นซ่านท้องน้อยตามมาติดๆ หันไปจ้องหน้าด้านข้างไอ้รั่ว
มันคลึงแก้วในมือเล่น ตายังคงจับในความมืด สันจมูกโด่งรับคิ้วเข้มไรหนวดจางบวกกลิ่นน้ำยาโกนแตะจมูก
ดึงดูดความรู้สึกไม่อาจละสายตาจากวงหน้าหล่อเลยเหะ..ดูดีฉิบหาย..ให้ตาย
“จ้องเพลินเลยนะมึง อึ้งความหล่อกูดิ” ยกยิ้มยักคิ้วอย่างเท่ แซวผมหน้าตาเฉย ดันแอบแก้มแดงด้วย..เขินเหมือนกันสิท่า
“อืม..มึงหล่อ ไม่ติดไอ้โต๋มึงหล่อสุด” ไม่ปฏิเสธไอ้รั่วมันครองอันดับหนึ่งมาแล้ว
ยิ่งในวัยนี้ยิ่งมีเสน่ห์ ตัดคำพูดบ้าบอมันสามารถสะกดสายตาคนได้ไม่ยากเลยครับ แค่ยิ้มหล่อมีแต่คนตะลึงตาค้าง
“คึคึ! มึงเป็นเกย์..แอบปิ๊งกูแต่แรก” สบตาผม ยกไวน์จิบคลึงแก้วในมือสุนทรีอารมณ์สุดๆ
ตาคมจับจ้องความมืดเวิ้งว้างว่างเปล่า ปากดันกล่าวหาผมต่างหาก
“ทำไมคิดว่ากูปิ๊ง แถมบอกกูเป็นเกย์อีก”
“ไม่ปิ๊ง..เราจะอยู่กันอย่างนี้เหรอ” ยอมหันมาเผชิญหน้าแล้ว
“มึงเชื่อพรหมลิขิตไหม..พรต” ผมยกไวน์จิบ ตาจ้องสื่อความหมาย
“เป็นเมื่อก่อนกูไม่เชื่อและไม่ลบหลู่ กูเชื่อตัวเองอยากรักใครจีบ อยากได้ก็ป้อ..อยากล่อก็ลุย..เป้าหมายมีไว้ชน
ทุกอย่างขึ้นอยู่ฝีมือล้วนๆ” ฟังคำตอบมันเผลอยิ้มจนได้ ไม่ใช่วรพรตคงไม่ตอบแบบนี้
“มึงเคยชอบตะเกียง..แต่แห้ว” ผมยักคิ้วล้อเลียน
“คึคึ! ใครไม่ชอบกูท้าตีนเหยียบหน้า กลุ่มสิงโตดำมึงทุกตัวขนคอตั้ง ทำอย่างกับมึงไม่แห้ว..ห่า” ผมหลุดยิ้มกว้าง
“นั่นสิ..ตะเกียงมีเสน่ห์วะ ใครได้ใกล้ชิดพาเอาหวั่นไหวได้ง่ายๆ แต่นั่นความรู้สึกวูบวาบ ไม่ได้ถลำลึกเข้าขั้นรัก”
ผมเปรยให้ฟัง มันยิ้มอย่างเข้าใจในสิ่งที่ผมบอก
“คิดไม่ต่างกู ‘ความรัก’ แต่ก่อนกูตีความไม่ถูก อะไรคือ ‘รัก’ ปากบอกรักอย่างนั้นอย่างนี้ ปี้กันไม่ทันไรก็เลิก เห็นประจำ”
มันหันมองไม่มีจุดหมาย ยกไวน์จิบจนหมดแก้ว ผมหยิบขวดรินเติมให้ ดันชำเลืองยิ้มๆ
“Thanks.” ยักคิ้วอย่างเท่ ผมชอบบรรยากาศตอนนี้ครับ เราวางเรื่องงานเรื่องส่วนตัว
นั่งคุยกันสบายๆ สัมผัสความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รับรู้เสียงหัวใจเต้นจังหวะคงที่ ยิ่งมีมันอยู่ตรงนี้..อยู่เคียงข้างกันวิเศษสุดๆ
“ด้วยความเต็มใจ..ครับผม” ตอบอย่างสุภาพ ยักคิ้วคืนไปที คิดว่าเท่สุดแล้วครับ..หน้ามันขึ้นสีทันควัน
“พูดซะกูจั๊กจี้หัวใจ..ห้ามไปบริการใครแบบนี้ยกเว้นกู..รัน” กำชับได้น่ารักชะมัด
“เพื่อมึง..คนเดียว” ผมชูแก้วในมือจิบช้าๆ ตาเราสบกันนิ่งนาน ก่อนใบหน้าจะเคลื่อนเข้าหาเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูด
ริมฝีปากประกบบดเบียดแทรกลิ้นเกี่ยวกระหวัดตอบโต้ชั่วครู่ รู้สึกบริเวณท้องน้อยวูบวาบ ส่วนกลางลำตัวกรึ่มพอง
กลิ่นไวน์ให้รสชาติหวานในปาก ช่วยกระตุ้นอารมณ์หวามหวิวได้เป็นอย่างดี
“อ๊าหหห์” เสียงครางยาวของมันก่อนผละจาก หน้าเห่อแดง ผมคงมีอาการไม่ต่างกัน เหมือนความร้อนพุ่งขึ้นหน้า
“ทำไม..มึงถึงเลือกกู” จู่ๆ ดันถาม
“ตอบไม่ได้..ใจสั่ง” ผมยิ้ม มันจ้องตาผมนิ่ง
“มึงหล่อนะรัน..คิดไม่ถึงจะเป็นเกย์..คึคึ!”
“ถ้าเชื่อแบบนั้นกูไม่มีคำแก้ตัว สาบานได้มึงคือผู้ชายคนแรกที่กูมีอะไรด้วย ไม่คิดจะมีกับใครอีก”
สายตาถ่ายทอดคำยืนยันให้มันตรงๆ
“กูฟัดหญิงชายลองมาหมด อดแปลกใจตัวเองไม่หายตลอดมากูรุก ไหงเป็นมึงกูดันยอมโดนแทง”
ผมยิ้มปากฉีก เสือกตรงไปไหม
“พูดเหมือนอยากรุก..กูคืน”
“12 ปี ความรู้สึกอยากทำที่เคยมี เอาเข้าจริง..กูตัดใจทำไม่ลงว่ะ”
ผมเคยวัดใจลองทดสอบมันมาแล้ว เนียนยอมให้มันรุก..ตอนแรกมันฮึกเหิมกระดี๊กระด๊าใหญ่
วินาทีปฏิบัติดันเปลี่ยนใจดื้อๆ ไม่ทำหน้าตาเฉย
พอถาม..คำตอบที่ได้ มันไม่อยากทำร้ายผม ประทับใจสุดๆ..บอกตามตรงผมรักมันครับ
หากมันจะเดินหน้าคงทำใจยอมเพื่อ..มัน
“พูดขึ้นมา..หรือเปลี่ยนใจอยากรุก..กูคืน”
“เปล่า!..ต่อให้มึงยอม กูคงไม่ทำ”
“ทำไม..ไม่อยากทำร้ายกู” หยิบคำตอบเดิมมันมาอ้าง
“แค่ส่วนหนึ่ง..สำคัญความเหมาะสม สำหรับมึงกูอยู่ในฐานะ ‘เมีย’ หากกูรุก
ระหว่างเราจะมีจุดยืนยังไง ผัวๆ เมียๆ ความรู้สึกมันคงเปราะบาง
ระยะยาวตัณหาอาจนำมาซึ่งการนอกใจ กูเชื่อสิ่งนั้น รูป รส กลิ่น เสียง
หากสัมผัสคละคลุ้งไร้ระบบแบบแผน ไม่ช้าไม่นานมีการนอกใจเกิดขึ้นแน่
คำว่าหนักแน่นจะค่อยเสื่อมคลายไปในที่สุด
มึงชอบรุก พอโดนกูรุกกลับย่อมรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่มากก็น้อย ที่ยอมกูเพราะมึง ‘รัก’
ความรักอย่างเดียวร้อยใจไว้ไม่ได้ เหมือนตัวอย่าง คนรักกันเลิกกันมีถมเถ
วันหนึ่งพอเจอฝ่ายรับสวมบทบาทอ้อนมึงรุกอย่างเต็มภาคภูมิ ตีเนียนเข้ามาพัวพัน
สักวันมึงคงเผลอใจ การทรยศความรักคงเกิดขึ้นในที่สุด กูเชื่อมั่นและศรัทธาความรักที่มาพร้อมความเสียสละ
ให้เกียรติเกรงใจ ทั้งหมดจะสร้างกำแพงหนาต้านทานสิ่งยั่วยุไม่ให้ผ่านเข้าถึงเนื้อในได้ เป็นไงปรัชญากู..อึ้งล่ะสิ..ฮะฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะร่าของมัน ทำผมยิ้มกว้างจ้องมันอย่างซาบซึ้ง พรตไม่ใช่คนรั่วไร้สมอง
ผมยืนยันเสมอมันฉลาดล้ำ คิดเกินคนปกติทั่วไป มุมความคิดและการถ่ายทอดล้วนแปลกๆ แต่ทุกสิ่งมีเหตุผล
เช่นประโยคนี้ ไม่มีส่วนไหนที่ผมสามารถแย้งได้ ตายตั้งแต่ ‘ตัณหา’ ที่มันยกมาเป็นอุปสรรคแล้วครับ
ใครเอาชนะตัณหาได้บ้าง ความแข็งแกร่งของจิตใจไม่ให้หลงไปกับกิเลสที่ยั่วยุทุกรูปแบบ
ล้วนมีพลังหนุนจากคนที่เรารักเป็นส่วนสำคัญ การให้เกียรติและคำว่าเกรงใจ..มีพลังมากกว่าสิ่งใดในความรู้สึกที่เรานิยามขึ้น
การยับยั้งชั่งใจล้วนเกิดจากให้เกียรติคนรัก กังวลทำให้เขาเสียใจ..
สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นกำแพงหนากางกั้นตัณหาอย่างที่พรตมันพูดถูกต้องที่สุด
ผมคือปุถุชนธรรมดา ความสวยงามล่อตายวนใจมีเข้ามาไม่เว้นว่าง ได้แค่มองอย่างชื่นชม
ไม่คิดสัมผัสชิดใกล้เกรงใจคนรัก ใจเขาใจเราหากมันทำบ้าง ผมคงเจ็บและเสียใจมาก ถ้าเราเผลอทำมันย่อมรู้สึกไม่ต่างกัน
“ขอบคุณที่คิดแบบนี้ สำคัญมึงมีความสุขหรือเปล่า ฝืนตัวเองไหม จำยอมอยู่ในฐานะเมียของกู” ผมถามเพราะแคร์มันจริงๆ
“ถ้าฝืนคงไม่เรียกว่ารัก มีความสุขไหม น้ำกระฉูดทุกครั้งเท่าที่จำได้ อารมณ์กูไม่ค้างวะ..คึคึ!” บทจะรั่วมันก็กวนได้ใจ
“หึหึ! กูเก่ง” ผมชมตัวเอง ยักคิ้วให้มันเป็นการกวนกลับ
“เปล่า..กูต่างหากเก่ง ถึงเอามึงเป็นผัวซะอยู่หมัด”
“พรืดด!! ฮะฮ่าๆ..เออมึงเก่ง” ช่วยอวยมันหน่อย พูดเต็มปากเต็มคำ ยืดอกภูมิใจสุดๆ เพิ่งรู้มันดีใจที่มีผมเป็น.. ‘ผัว’
“ที่จริงมึงฮอตมาก ถ้ากูไม่มีฝีมือคงโดนสาวน้อยสาวใหญ่ ตุ๊ด แต๋ว กะเทย สารพัดเพศหลอกชิมเจี๊ยวหวานมึงแล้ว”
สีหน้าท่าทางจริงจังเชียว
“ทำไมคิดว่ากูใจง่ายขนาดนั้น” ผมหรี่ตาถาม
“ไม่เชิงใจง่าย คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนน้อ!..บ่อยเข้าอาจหวั่นไหว
แต่กูเก่งไง..เราถึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้” มันยักคิ้วสำทับ
“หึหึ! กูยอม..มึงไม่เคยให้กูโหยหาเรื่องพรรณนี้เลยวรพรต..เก่งมาก” ผมยกนิ้วโป้งประกอบ
“คึคึ! อย่าลืมสิรันน้อย กูเปิดบริสุทธิ์มึงเชียวนะ” ท่าทางยิ้มกริ่ม ผมเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
เปิดเหี้ยไร..ก่อนหน้าผมล่อหญิงมาแล้วไม่น้อย
“น้าน!!งงอีก..มึงไม่เคยล่อประตูหลังชายแมนแฮนด์ซั่มมาก่อนนิ เจอกูไปครั้งเดียว
กู่ไม่กลับมาจนถึงตอนนี้ เห็นฤทธิ์กูยัง..ฮะฮ่าๆๆ”
“พรืดด!! ฮะฮ่าๆ อืมเด็ดจริงว่ะ! ฮะฮ่าๆๆ” ผมขำกร๊าก คิดได้เนอะ
แต่ก็ต้องยอมรับกู่ไม่กลับจริงครับ ตกหลุมลึกหลุมรักเข้าเต็มเปาทีเดียว
“ฉลองความสำเร็จที่มึงล่อหลอกหัวใจกูได้” ผมยกแก้วเตรียมชนยื่นไปค้างตรงหน้ามัน
“เกร๊ง! แด่ความสำเร็จ ที่เหยี่ยวพิชิตสิงห์รันกุนซือเทพ..ฮะฮ่าๆๆ”
ยกให้มันภาคภูมิใจต่อไป เห็นแล้วหัวใจพองคับอก นี่มันเห็นความสำคัญของผมมากขนาดนี้
“คืนนี้ มึงจะพิชิตกูด้วยฝีไม้ลายมือหรือเปล่า” ผมหรี่ตาเจ้าเล่ห์กึ่งยั่วยุ
หลังมันกระดกไวน์หมดแก้ว หน้าสุกปลั่งตาคมเยิ้ม ยังไม่ได้เมาหรอก
คงแค่ร้อนวูบวาบซู่ซ่ากรึ่มๆ พอกันกับผม
“อยากให้กูแสดงฝีมืออ่ะดี๊” ยักคิ้วท้าทายอีก
“ก็นะ..อยากลองทีเด็ด งัดมาใช้ให้หมดดิ มีเก็บงำไว้อีกหรือเปล่า” ผมยั่วแกมยุ ท้าทายมันอย่างมีเชิง
“ได้เลย..แล้วคุณจะรู้จักผม..อรัญ” มันยิ้มกระชากใจส่งให้ ก่อนลุกยืนเต็มความสูง
กางเกงนอนลายทางขายาวโป่งตุงมาเชียว..ยิ่งโชว์ช่วงบนเปลือยแบบนี้ ไอ้ห่า..เอ็กซ์ฉิบหาย
สิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้น มันเอามือคร่อมที่เท้าแขนยันพนักหวายของเก้าอี้ผมนั่ง
ยื่นหน้าจนจมูกเกือบชิด ตาคมวาวจ้องตาผม มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ กระซิบเสียงพร่าพาขนลุกซู่
“ให้กูปรนนิบัตินะครับ” ได้แต่พยักหน้ารับ มันประกบริมฝีปากมือเชยคางผมรับจูบเร่าร้อนอย่างจาบจ้วงหื่นกระหาย
“อืมมม!!” เสียงครางทุ้มในคอ เมื่อมันเป็นฝ่ายฉกลิ้นไล่ต้อน กวาดดุนลิ้นผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ให้อารมณ์ดิบเถื่อนแต่เสียวสุดๆ
จูบเผ็ดร้อนในท่าคร่อมตัวต่ำของมันยังคงดำเนินต่อเนื่อง จนหนำใจ ค่อยผละออก
ริมฝีปากได้รูปสวยมันวาว ดันแลบลิ้นเลียล่อผมอีกต่างหาก
“กินกูสิครับ..รันที่รัก” เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเชิญชวน ค่อยจับมือผมไปรั้งขอบกางเกงนอน
ผมจ้องตามันขณะมือคอยรั้งขอบกางเกง สายตาเราไม่ละจาก ต่างสบตากันไม่กะพริบ
ถ่ายทอดอารมณ์พิศวาสฉายชัดทั้งคู่ รู้โดยไม่ต้องใช้คำพูด เรากำลังต้องการกันและกันสุดๆ
ตัดฉับ เรท..ฉ
ชีวิตรัก..กับเซ็กส์ย่อมไปด้วยกันเสมอ เซ็กส์ที่เติมเต็มให้กันและกัน ไม่มีมากน้อย
มีการให้และบริการเท่าเทียมในฐานะคนรัก ทำให้ผมกับมันขาดกันไม่ได้
เหมือนว่าชีวิตนี้รสชาติของเราติดหนึบกันไปแล้ว สิ่งนี้ผมยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ตัว..ผมรักมันครับ ‘เหยี่ยวรั่ว’...?
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น