คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [SF] Thanksgiving Day < ENDING >
Date : 2007.12.03
Title : Thanksgiving Day
Pairing : Siwon X Eeteuk
Author : luvly_Teukkie ((คาราเมลชีสเค้ก))
Rating : PG-13
Author note : ภาคต่อที่แสนทรหดค่ะ = = ใช้เวลาในการแต่งนานใช้ได้~ ..แค่เนี้ย.. 10 วัน =[]= ทึ่งตัวเอง 555
.
.
พระเจ้า...............วันนี้วันขอบคุณพระเจ้านะครับ ผมอยากจะขอบคุณพระเจ้าในวันขอบคุณพระเจ้าอีกอย่างนึงล่ะ....เพราะฉะนั้นผมถึงอธิษฐานวิงวอนต่อพระองค์ อยากให้พระองค์ช่วยผมที ผมแค่ต้องการให้คืนนี้ไฟดับ...แค่ต้องให้คืนนี้มันหนาวมากๆ ผมขอแค่นั้นจริงๆ..........อาเมน....................
พรึ่บ!
แทบจะเป็นวินาทีเดียวกับที่ซีวอนลืมตา ห้องทั้งห้องก็มีเพียงความมืด เสียงเกมส์ดังสนั่นข้างนอกเงียบลง เสียงน้ำซู่ซ่าก็หยุดไป.....ไฟดับใช่มั้ย!!!!!!!
ขอบคุณพระเจ้า~
“เห~ ไฟดับเหรอซีวอน” เสียงตะโกนดังออกมาจากห้องน้ำ
“คร้าบ
พี่อีทึกอาบน้ำเสร็จรึยังล่ะฮะ”
“เสร็จแล้วแหละ” เสียงหวานตอบกลับมา ก่อนประตูห้องน้ำจะเปิดออก เผยให้เห็นเจ้าของเสียงในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวนึง...
“พี่อีทึก..มันหนาวนะ ทำไมแต่งแบบนั้นล่ะ”
“ก็ตู้เสื้อผ้าพี่ล็อคกุญแจไว้นี่หน่า แล้วเอาไปวางไว้ไหนไม่รู้ ไฟดับก็ยิ่งหายากใหญ่ ไอ้ชุดนี้มันอยู่ในห้องน้ำก็เลยหยิบๆ มาใส่อ่ะ” ตอบไปพลางเช็ดปอยผมที่เปียกน้ำอย่างไม่ตั้งใจไปพลาง
“เฮ้อ...แล้วจะทำงานยังไงล่ะเนี่ย ไฟดับเนี่ย” เช็ดผมอย่างหัวเสีย ส่งผลให้ผมที่ถูกเช็ดนั้นยุ่งเหยิง
“มีไฟฉายหนิ” ซีวอนว่า
“นายจะให้พี่ถือไฟฉายมือนึง เขียนหนังสือมือนึง จับสมุดมือนึง รึไงเล่า พี่ไม่ใช่เทพนะเฟ้ย มีสองมือเนี่ย” ชูมือทั้งสองข้างมายืนยันให้อีกคนเห็น..เห๊อะ โตแต่ตัวจริงๆ
“งั้นผมถือไฟฉายให้” เสนอกับร่างบาง สร้างรอยยิ้มให้อีกคนที่อยากทำงานให้มันเสร็จๆ ไปเสียที
อีทึกเดินนำไปที่โต๊ะทำงานก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะตัวนั้น
“อ้าว พี่นั่งอย่างงี้แล้วผมจะส่องไฟยังไงล่ะครับ?”
“ก็ยืนนี่สิ” ชี้ไปข้างๆ โต๊ะที่มีที่ว่างเหลือตั้งมากมาย.....ถามอะไรแปลกๆ
“ไม่เอาง่ะ ผมเมื่อย..........เอาแบบนี้ดีกว่า” ฉุดข้อมือคนตัวเล็กขึ้น ก่อนจะนั่งแทนที่ของอีทึก
“เอ้า! แล้วพี่จะนั่งไหนล่ะ” ถามอีกคนงงๆ ก็คนที่จะนั่งทำงาน มันคือเค้าไม่ใช่เหรอ?
“นี่ไง” ตบตักตัวเองให้อีกคนเห็นที่นั่งใหม่
“?” เอียงคอมองอีกคนงงๆ
“นั่งสิฮะ” ฉุดอีกคนที่อยู่ในอาการเอ๋อให้นั่งลงบนตักกว้างนั้น
“นี่...แล้วผมก็ส่องไฟให้พี่” เปิดไฟฉายส่องแสงสว่างให้อีกคน
“แต่มันเขียนไม่ถนัดนี่หน่า”
“หน่าพี่ อากาศมันหนาว อยู่แบบนี้จะได้อุ่นๆ ไง” เอื้อมมือข้างที่ว่างไปโอบเอวบางไว้หลวมๆ
“........ก็ได้” .........ถ้าเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของนายล่ะก็นะ...
มือบางไล่เขียนตารางงานไปเรื่อยๆ...จนกระทั่งลมหนาวเริ่มพัดพาเอาอากาศเย็นชื้นๆ เข้ามากระทบผิวหน้าของร่างบาง มือข้างนึงถูกยกขึ้นมาลูบแก้มใสเบาๆ ให้อุ่น
“หนาวเหรอฮะ” เอ่ยถามข้างแก้มเนียน กดฝังปลายจมูกลงกับแก้มนุ่มๆ นั้น
“อื้ม..” ตอบสั้นๆ ก่อนจะก้มลงทำงานต่อ
“อ๊ะ” เสียงหวานอุทานเบาๆ เมื่อถูกเก้าอี้ตัวดี รั้งให้เข้าไปแนบชิดมากขึ้น
“กอดกันไงฮะ จะได้อุ่น” ยิ้มตาหยีให้คนที่หันมามอง ก่อนจะวางคางมนนั้นลงกับลาดไหล่เล็กตรงหน้า
“กอดเฉยๆ ก็แล้วกัน” ทิ้งเสียงดุๆ ให้สิงโตจอมซนได้หวาดหวั่น ก่อนจะหันกลับไปสะสางงานตรงหน้าต่อ
ลมหนาวที่พัดเข้ามาในห้องอยู่เรื่อยๆ ทำให้คนตัวเล็กต้องลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างทุกบานลงซะ...ไม่อย่างนั้นได้แข็งตายกันแน่ๆ
อย่าปิดสิพี่........โห่ แผนผมเสียหมด
“อ๋า~ ทำไมมันฝืดอย่างงี้อ้ะ ปิดไม่ได้เลย ซีวอน ช่วยพี่หน่อยสิ” หันไปขอความช่วยเหลือจากคนตัวโตที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นึกขอบคุณพระเจ้าอยู่ในใจ
ร่างสูงเดินเข้าไปหาหน้าต่างบานใหญ่ออกแรงดึงน้อยๆ แต่ทำหน้าซะเหมือนออกแรงเต็มที่ ก่อนจะหันมายิ้มแหยๆ ให้คนที่ยืนกอดอกอยู่
“ปิดไม่ได้อ่ะพี่ ฝื๊ดฝืด” ปัดมือเปาะแปะ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม
“เฮ้ออออออออ~ คงต้องรีบทำงานให้เสร็จแล้วไปนอนซะทีแล้วล่ะ...” บ่นพึมพำก่อนจะเดินไปนั่งลงบนตักกว้างของใครอีกคนที่นั่งรออยู่อย่างเต็มใจ
.
.
.
เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ใบหน้าคมก็ฟุบลงกับแผ่นหลังบางเข้าอย่างจัง
“เฮ้~ ซีวอน นายหลับแล้วรึไง??” เสียงหวานเอ่ยเรียก หากแต่ก็ไม่ได้มีเสียงตอบรับใดๆ กลับมา... มือข้างขวาที่เคยกอดรัดเอวบางไว้เลื่อนต่ำลงมาอย่างไรเรี่ยวแรง
“เฮ้อ....เด็กเอ้ย” หันไปว่าคนโตแต่ตัวนั้นเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปเก็บงานที่คั่งค้างอยู่ กองไว้ที่ข้างโต๊ะ แล้วหันไปปลุกสิงโตตัวใหญ่ที่นอนหลับปุ๋ยราวกับเด็กน้อย
“ซีวอนตื่น ไปนอนที่เตียงดีดีไป” เขย่าแบขนแกร่งเบาๆ
“ซีวอนนนน” เรียกเสียงหวานอีกครั้ง เพิ่มแรงเขย่าด้วยหวังว่าอีกคนจะตื่นขึ้นมา
“ชิส์ ถ้านาย
เงียบไปได้สักพัก ร่างสูงที่แกล้งหลับอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก็เริ่มแผนการที่สู่อุตส่าห์วางมาตั้งแต่ต้น
ตาคมค่อยๆ ปรือขึ้น ใบหน้าคมที่เคยฟุบลงกับแผ่นหลังเล็กๆ นั่น เริ่มเคลื่อนย้ายไปนอนที่ลาดไหล่บางอย่างเนียนๆ จนเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้มีท่าทีผิดสังเกตอะไร ถึงได้แกล้งกดจูบลงบนลำคอขาวหนักๆ จนอีกคนสะดุ้งสุดแรง มือที่เคยจับปากกาเขียนอยู่นั้น ยกขึ้นหมายจะปัดป้องตามสัญชาตญาณอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ข้อศอกเล็กๆ นั้น กระเด้งเข้าที่คิ้วอีกคนพอดิบพอดี
“โอ้ยย พี่ ผมเจ็บนะ” ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด มือซ้ายยกขึ้นมากุมแผลไว้ ขณะที่ข้างขวาก็ยังคงกอดรัดเอวคอดนั้นไว้ไม่ปล่อย
“หวา พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ตกใจน่ะ เห็นนายหลับไปแล้ว” พูดรัวๆ เร็วๆ อย่างตกใจ เมื่อเห็นคิ้วที่โดนศอกเข้าไปเต็มๆ นั้น เริ่มมีเลือดไหลซิบออกมาน้อยๆ
“ไปทำแผลนิดนึงนะ มันเลือดออกด้วยอ่ะ” บอกอีกคนอย่างเป็นห่วงเป็นใย ก่อนจะลุกขึ้นแล้วฉุดให้อีกคนลุกตาม
ร่างบางจูงซีวอนให้ไปล้างแผลด้วยกัน มือบางที่จับอยู่แน่น สร้างรอยยิ้มให้ร่างสูงได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องครัว มือหนาถูกปล่อยให้เป็นอิสระ พร้อมกับร่างลเกที่เดินห่างออกไป
“พี่ครับ ล้างแผลทำไมไม่ไปห้องน้ำล่ะ”
“นี่...ชเว ซีวอนจ๊ะ ไฟมันดับไม่เห็นเหรอไง เอานำในขวดนี่แหละล้าง” ยื่นขวดน้ำเปล่าให้ซีวอนอย่างเอือมๆ ทำเอาอีกคนต้องยู่หน้าลงอย่างไม่พอใจ...ไม่ว่าเมื่อไหร่ พี่อีทึกก็ยังมองเค้าเป็นเด็กอยู่ดี......ผมโตแล้วนะ!!
หลังจากล้างแผลเสร็จ ซีวอนก็เดินตามอีทึกกลับเข้าไปในห้องเพื่อทำแผล
“เข้ามาเร็วเข้า” เอ่ยเรียกคนรักที่มัวแต่อืดอาดอยู่ให้รีบเข้ามาโดยไว ร่างสูงก้าวเท้าเข้ามาในห้อง มือหนาเอื้อมไปปิดประตูให้สนิทก่อนจะค่อยๆ ล็อคให้เสียงเงียบที่สุด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มอีกครั้ง
“เจอแล้วๆ” เสียงเจื้อยแจ้วเมื่อพบกล่องยาขนาดย่อม ร่างบางสาวเท้าไปยังเตียงสีขาว ก่อนจะนั่งลงบนเตียง มือบางง่วนอยู่กับการจัดแจงเครื่องปฐมพยาบาล ร่างสูงยืนพิงประตู มองดูความน่ารักของอีกฝ่ายอย่างไม่วางตา ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกถึงสายตาของคนที่ยืนอยู่
“จะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย?? มานั่งนี่สิ” มือบางตบเบาๆ ที่เตียงข้างๆ ตัว ขายาวก้าวเท้าเข้ามาหาร่างบาง
“ชวนผมขึ้นเลยเตียงเหรอครับ พี่อีทึก...” กระซิบข้างใบหูเล็ก ก่อนจะกดจูบที่แก้มนุ่มๆ หอมๆ นั้นเสียที
“ไม่พูดก็ไม่มีใครเค้าว่านายเป็นใบ้หรอกนะ” มือบางหยิบสำลีขึ้นมาพลางเทของเหลวใส่จนชุ่ม มือข้างนึงประคองข้างแก้มอีกคนเอาไว้ ก่อนจะยันตัวขึ้นแล้วบรรจงแตะสำลีลงเบาๆ บริเวณรอยแตก
“อื้อ” เสียงครางต้ำแทรกผ่านริมฝีปากหนาออกมาเบาๆ
“แสบเหรอ” เอียงคอถาม และคำตอบที่ได้รับคือการพยักหน้าหงึกๆ หงักๆ ทีสองที
ริมฝีปากสีสดคลี่ยิ้มรับ ก่อนจะเป่าลมเบาๆไปยังรอยแผล
“หายยัง?” นั่งลงตามเดิน แล้วช้อนตาขึ้นมาถามคนเจ็บที่ยิ้มร่า
“ฮะ”
เมื่อได้ยินคำตอบรับอย่างนั้นก็หยิบพลาสเตอร์ขึ้นมา หมายจะแปะลงไปที่แผลอย่างที่เคยทำ แต่เพราะไฟดับ แสงมันถึงได้น้อย จนมองอะไรไม่ค่อยจะชัดนัก..
“ซีวอน หันหน้าออกไปทางนู้นได้มั้ย..ให้มีแสงดาวก็ยังดี” บอกกับคนตัวโตก่อนจะลงจากเตียง เดินไปอีกฝั่งหนึ่ง
ร่างสูงหมุนตัวตามที่อีทึกบอก หันไปเจอกับร่างบางที่ยืนกั้นแสงจันทร์นวลผ่องไว้...ราวกับมีมนต์สะกดให้จับจ้องร่างบางนั้นอย่างไม่วางตา...ร่างที่หลงใหลนักหนา...ร่างบางของคนรัก
ร่างเล็กก้าวขึ้นมาบนเตียง แกะพลาสเตอร์ออกจากห่ออย่างตั้งใจ ก่อนจะยืดตัวขึ้นแปะพลาสเตอร์นั้นที่คิ้วของคนที่นั่งแน่นิ่งอย่างอดใจ....ผิวกายขาว มือบางๆนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่พัดมาตามลม โชยมาแตะจมูก ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกการกระทำ...ทำเอาชเว ซีวอนแทบคลั่ง กัดริมฝีปากตัวเองไว้อย่างห้ามใจ...
“เอาล่ะเสร็จแล้ว” เสียงหวานเอ่ยขึ้น เรียกให้คนช่างฝันกลับมาสู่ความจริง
มือบางเก็บเอาของใส่กล่อง อย่างสบายใจ
“เดี๋ยว” ข้อมือบางข้างหนึ่งถุกจับไว้ให้อยู่นิ่ง
“พี่ลืมตรงนี้..” นิ้วยาวแตะที่ริมฝีปากตัวเอง ที่มีเลือดซึมอยู่นิดๆ
“เห~ นายไปโดนอะไรมาน่ะ”
“ไม่รู้” ส่ายหน้าช้าๆ ทำหน้าตาใสซื่อ ร่างบางจ้องบาดแผลสักพัก ก็เริ่มลงมือจัดแจงยาอีกครั้ง แต่ก็ถูกมือแกร่งรั้งเอาไว้
“อะไร?” ตากลมจ้องหน้าอีกคนอย่างสงสัย
“ไม่เอายา” ซีวอนเอ่ยเสียงเรียบ ทำเอาคิ้วสวยของอีกคนเริ่มขมวดเป็นโบว์
“อะไรของนาย?” เสียงหวานถามอีกครั้ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายเริ่มโน้มหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ร่างบางพยายามถอยหนี แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกล เมื่อเอวบางถูกรั้งให้แนบชิดกับร่างสูงมากกว่าเดิม
“ไม่เอายา เอาอย่างอื่น” ร่างสูงยิ้มกริ่ม
“อะไร? เอาอะไร? ปล่อยเลยนะ” ร่างบางเริ่มดิ้น มือทั้งสองข้างดันไปที่อกแกร่งแรงๆ
“เอาริมฝีปากพี่...” ร่างสูงพูดน้ำเสียงทะเล้น แต่นั่น ก็ทำให้ใบหน้าหวาน ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงได้ไม่น้อย
“บ้าเหรอ? พูดไม่คิดเลยนะ..ปล่อย อื้อ..” ไม่ทันที่ร่างบางจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ริมฝีปากบางก็ถูกครอบครองโดยปากอิ่มอย่างถือสิทธิ์ ท้ายทอยสวยถูกกดด้วยมือหนาจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้หายใจ ริมผีปากที่ถูกเบียดอย่างแนบแน่น ทำให้ร่างบางต้องเผยอริมฝีปากออกอย่างช่วยไม่ได้ ลิ้นร้อนได้โอกาสเข้าไปลัดเลาะหาความหอมหวานภายในโพรงปากจนทั่ว กลิ่นคาวของเลือดถูกส่งให้แกฝ่ายได้รับรู้
ลิ้นร้อนเล่นหยอกเย้ากับลิ้นเรียวที่พยายามหนีอย่างนึกสนุก จนในที่สุดลิ้นทั้งสองก็เกี่ยวพันกันอย่างลงตัว
“อืม..” กำปั้นที่เคยทุบตีสงบลง ร่างสูงค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก ตาคมจ้องหน้าหวานที่ยังคงหลับตาพริ้ม
“ไง? เพลินเลยเหรอฮะ” ร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจ ร่างบางเบิกตาโพลงเมื่อได้สติ
“ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!?!” ถามด้วยใบหน้าแดงกร่ำทั้งโกรธ ทั้งอาย...จู่ๆ ก็จูบ บ้าเหรอไง
“จะบ้าก็เพราะพี่นั่นแหละน้า~”
“นายนั่นแหละ จะทำพี่บ้า........ประสาท” ว่าคนตัวโตเข้าให้ ก่อนหยิบหมอนขึ้นมา และทำท่าจะเดินออกไปข้างนอก
“จะไปไหนฮะ?” มือหนาคว้าตัวร่างบางไว้ ดึงลงมาให้นอนลงบนเตียง แล้วขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ๆ ปล่อยนะ” ร่างบางดิ้นขลุกขลักอยู่ข้างใต้
“ปล่อยแล้วพี่จะไปไหนล่ะ?”
“ไปนอนกับซองมิน”
“ไม่เอาหรอก ห้องซองมินมีทั้งอึนฮยอก ทั้งคิบอมเลยนะ ดงแฮก็ไม่อยู่อีกเดี๋ยวเค้าหลงพี่กันหมด ไม่ให้ไปหรอก”
“....พี่ไปนอนกับฮีชอลก็ได้ ปล่อย”
“ห้องพี่ฮีชอลก็มีพี่ฮันอีกนั่นแหละ อยู่กับผมเนี่ยดีที่สุดแล้วแหละ”
“ไม่เอาหรอก อยู่กับนายไม่ได้นอนสบายแหงๆ เลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวบ้า ไปนอนโซฟาข้างนอกก็ได้”
“ข้างนอกมันหนาวนะพี่ นอนกับผมนี่แหละ อุ่นๆ” ยิ้มตาปิดให้คนตัวเล็ก ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ ร่างเล็กนั้น
“ไม่เอาอ่ะ นอนข้างนอกก็ได้ ไม่หนาวหรอก” ขืนตัวออกจากอ้อมกอดอุ่นๆ คว้าเอาผ้าห่มอีกผืนออกไปนอนข้างนอกจนได้
พระเจ้าครับ....ช่วยผมที ผมอยากนอนกับพี่อีทึก~ >[]<
ฟิ้วววววว~
ลมหนาวที่วันนี้ดูจะหนาวเป็นพิเศษ พัดผ่านเข้ามาในห้อง ลมหนาวที่หนาวไปถึงขั้วหัวใจ..
อ่า...หนาวจริงๆ ขอบคุณพระเจ้า~
เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ก็ปรากฏร่างเล็กที่ซีวอนรอคอย แง้มประตูออกเบาๆ ชะเง้อมองคนที่แกล้งหลับไปอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ย่องเข้ามา...
“ซีวอน” เรียกชื่อคนรักเบาๆ...เมื่อเห็นว่าไม่ตื่นแน่แล้ว จึงค่อยๆ คลานขึ้นไปบนเตียง แล้วนอนลงข้างๆ ร่างสูงนั้น...
“หนาวล่ะสิ” เสียงทุ้มเอ่ยเย้ยๆ จนอีทึกหมั่นไส้........ทำไมเค้าจะต้องแพ้คนคนนี้ทุกทีเลยล่ะ? ไม่ยอมหรอก..
“ไม่ได้หนาว กลัวสิงโตแถวนี้เหงาตะหาก อุตส่าห์มานอนเป็นเพื่อน..ไม่อยากให้นอนไปก็ด้ะ..” ทำท่าจะลุกขึ้นจากที่นอน จนอีกคนต้องรั้งเอาไว้
“โอ๋ๆ นอนด้วยกันน้า เดี๋ยวสิงโตเหงาแย่เลย” รั้งคนตัวเล้กเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะลูบไล้หัวกลมมนนั้นอย่างรักใคร่
“หนิ - - พี่เป็นพี่นายนะ”
“แหะๆ ผมลืมไป..” ยิ้มแหยๆ ให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ แต่ตัวเล็กนิดเดียวตรงหน้า
แขนเล็กเอื้อมไปก่อนคนตัวโตตอบ...
“รู้มั้ยว่าอกชเว ซีวอนอุ่นที่สุดเลย...” เสียงหวานเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทำเอาอีกคนแปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะปกติอีทึกไม่เคยพูดอะไรแบบนี้เลยสักครั้ง...
“ไม่รู้หรอก”
“ไม่เคยมีใครบอกเหรอ?” ช้อนตาขึ้นถามคนตัวโต
“อื้ม..ไม่เคยมีใครบอก เพราะไม่เคยมีใครได้ซบ...ที่ตรงนี้ มีไว้ให้พี่อีทึกคนเดียวรู้มั้ย..” ยิ้มให้คนในอ้อมกอดอย่างอ่อนโยน...
“แล้วอกพี่ล่ะ อุ่นรึเปล่า??” ถามยิ้มๆ ก่อนจะเลื่อนตัวลงต่ำซุกตัวลงกับอ้อมอกของอีทึกบ้าง...อุ่นไม่อุ่นไม่รู้หรอก...รู้แค่มันมีความสุข..แล้วก็หอมมากมายล่ะ
“อุ่นมั้ย?”
“นั่นสิ..อุ่นมั้ยนะ” ไถหัวไปมากลางอกบางๆ นั้นอย่างสนุก
“คิกๆ ซีวอน พอแล้ว มันจั๊กจี้” ดันคนขี้แกล้งให้ออกห่างเบาๆ
“ผมมีความสุขมากเลยรู้มั้ย..เวลาที่ได้อยู่กับพีอีทึกน่ะ”
“เหรอ แต่พี่ไม่ยักกะมีความสุขเวลาอยู่กับนายแฮะ”
“พี่อีทึก
” ทำหน้าเป็นสิงโตหงอยหูลู่หางตก เมื่อได้ยินคำจากปากคนรัก
“ฮ่าๆ พูดเล่นหน่า พี่เองก็มีความสุขหมือนกันล่ะหน่า...อะไรที่เป็นความสุขของนาย มันคือความสุขของพี่ด้วยนะ”
“เหรอครับ ถ้างั้น
” ยังไม่ทันได้พูดในสิ่งที่คิด นิ้วเรียวก็แตะที่ริมฝีปากหน้าเป็นเชิงห้ามเสียก่อน
“พี่ยังทำงานไม่เสร็จเลย..ลืม ไปทำต่อดีกว่า นาย
“พี่ไม่มีผม ทำงานไม่ได้หร้อกกก”
“งั้นก็มาช่วยหน่อยสิ” หันไปหาคนตัวโตเป็นเชิงง้อ
“ได้คร้าบ~” ยกยิ้มที่มุมปากอย่างมีความหมาย ก่อนจะวิ่งร่าเข้าไปเป็นเก้าอี้ให้อีทึกอีกครั้ง...แต่ครั้งนี้ ไม่เหมือนครั้งก่อน.........
“ซีวอน..อยู่นิ่งๆ ได้รึเปล่า..........” เอ็ดคนตัวโตที่ตั้งแต่นั่งมา มืองี้อยู่ไม่สุกสักที จับนู่นแตะนี่ ลูบๆ ไล้ๆ ไม่ได้หยุดไม่หย่อน ไม่เป็นอันทำการทำงานอยู่แล้ว....
“พี่อีทึกน่ารักนี่หน่า...........ผมอยู่นิ่งๆ ไม่ได้แล้วล่ะ....” กระซิบเสียงแผ่วเบา ก่อนมือหนจะไล้ลงไปยังต้นขา...ไล้ผ่านเนื้อผ้า ก่อนจะสอดมือเย็นๆ เข้าไปในกางเกงขาสั้นนั้น เล่นเอาอีกคนสะดุ้งเพราะความเย็น
“ซีวอน พี่หนาว เอาออก”
“หนาวเหรออ?”
“อื้ม” พยักหน้าขึ้นลงช้าๆ เพราะอุณหภูมิในร่างกายที่เริ่มพุ่งขึ้นเรื่อยๆ จากการกระทำของคนข้างล่าง
“แต่หน้าพี่แดงๆ นะรู้เปล่า...” กดจูบลงบนไหล่ขาวๆ ที่โผล่พ้นคอเสื้อขึ้นมา
“ซีวอนไม่เอา...พรุ่งนี้ต้องไปถ่ายแบบนะ...” หาเหตุผลมาส่งเสริมให้ซีวอนหยุด...แต่คนอย่างผม ตอนนี้ไม่มีเหตุผลครับ ^^
ร่างสูงไล้ปลายจมูกไป ตั้งแต่เส้นผมนุ่ม จนไปถึงซอกคอขาวเนียน..สูดดมความหอมกรุ่นจนพอใจ ก่อนจะเริ่มขบเม้มจนเป็นรอยสีกกุหลาบ
ดวงตากลมปรือลงเมื่อได้รับสัมผัส
มือหนาข้างหนึ่งค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้ออกอย่างใจเย็น ปลายนิ้วอุ่นลากผ่านเนินอกขาวเนียนช้าๆ ก่อนจะคลึงวนที่ยอดอกเบาๆ
“ซีวอน....” ปรือปรอยตามองอีกคนอย่างทรมาน เรียบเรียงคำพูดไม่เป็นประโยค
มืออีกข้างไม่ปล่อยให้ว่างเปล่า..ค่อยๆ ปลดซิบกางเกงขาสั้นตัวเล็กออกช้าๆ
“ซีวอนไม่เอา..อื้อ” เสียงหวานร้องประท้วงเบาๆ เมื่อมือหนานั้นเริ่มรุกรานส่วนอ่อนอ่อนไหว แขนที่ไร้เรี่ยวแรง พยายามรั้งแขนแกร่งของร่างสูงไว้ไม่ให้ขยับ
ลิ้นร้อนชื้นไล้ลากผ่านต้นคอขึ้นมาถึงใบหู ก่อนจะกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูนั้น
“ผมขอนะพี่อีทึก...ความสุขของผมมันคือความสุขของพี่ไม่ใช่เหรอ...เรามีความสุขด้วยกันนะ” ราวกับถ้อยคำหลอกเด็ก...อีทึกไม่ตอบรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ มือที่ดึงรั้งแขนของร่างสูงเอาไว้ ก็ยังรั้งอยู่อย่างนั้น เพียงแต่ว่ามันไร้เรี่ยวแรง..จนไม่สามารถจะรั้งอะไรไว้ได้ จึงได้แต่ปล่อยให้ร่างสูงทำตามอำเภอใจ...
ร่างบางถูกยกขึ้นให้ลอยจากพื้น เดินไปในทิศทางไหนร่างบางเองก็ยังไม่รู้ รู้ตัวเพียงแต่ว่าถูกวางลงกับเตียงอีกครั้ง ก่อนบทเพลงรัก จะเริ่มบรรเลง บทเพลงที่ทำให้มีความสุขทั้งคนร้อง และคนฟัง...บทเพลงหวานซึ้งที่หลอมรวมคนสองคนให้กลายเป็นหนึ่งเดียว...
ในค่ำคืนที่หนาวเหน็บเกินกว่าใครหลายๆ คนจะทานทน...อาจเพียงแค่อีทึกกับซีวอนก็เป็นได้ ที่ไม่รู้สึกว่าคืนนี้มันหนาว...กลับรู้สึกอบอุ่นจนร้อนผ่าว...ราวกับความรักคือทุกสิ่ง เมื่อยามที่เราหนาว ความรักคือสิ่งทำให้อบอุ่น
...ในยามที่เราร้อน ความรัก คือสิ่งที่ทำให้เราเย็นลง...
...ในยามที่เราเหงา ความรักคือสิ่งที่บอกให้เรารู้..ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว
.
.
.
ไม่ว่าพวกคุณจะทำอะไรกันในวันขอบคุณพระเจ้า.... แต่ผมขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ครับ สำหรับค่ำคืนที่แสนหวาน.....พวกคุณรู้รึเปล่า....เมื่อคืนนี้ผมมีความสุขมากเลยล่ะ....คิดดูสิ...เสียงหวานๆ ร่ำร้องออกมาแต่ชื่อของผม........ฮ้า~ มันมีความสุขจนเกินบรรยายเลยล่ะครับ
อย่างที่บอก...ผมขอบคุณสำหรับทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ลูกเชื่อว่ามันคือแผนการของพระเจ้า เรื่องร้ายๆ มีขึ้นมาเพื่อให้เรารู้จักเรื่องดีๆ เรื่องเศร้าๆ มีขึ้นเพื่อให้เรารู้จักความสุข มีผิดหวัง เพื่อให้ได้รู้จักกับความสมหวัง มีคนที่ไม่รักเราพื่อให้รู้ว่ามีคนรักเราอยู่อีกตั้งมากมาย...มีคนที่ทำร้ายเรา เพื่อจะให้รู้...ว่ามีใครคอยปกป้องเราอยู่...แล้วยังมีอีกอย่าง...ที่ผมได้เรียนรู้จากคนรัก...คือมีความเหน็บหนาวในหัวใจ...เพื่อให้มีใครอีกคนมาเติมเต็ม....
วันนี้คุณขอบคถณพระเจ้า.......สำหรับคนรักของคุณรึยังเอ่ย??
The End.
t em
ความคิดเห็น