คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Poison : 02] The Realworld
The Realworld
อีกครั้งที่ร่างบางปรือตาขึ้นด้วยความรู้สึกเหมือนร่างกายเบาโหวง ...ตาหวานหลับลงแน่นอีกครั้งทันทีที่เปิดตาใหม่ ...ไล่เอาความรู้สึกมึนๆ ในหัวออกไป
“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงที่เริ่มจะคุ้นชินดังขึ้น
“อือ ..” พยักหน้ารับก่อนจะเหลียวไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาห้าทุ่มกว่าๆ ก็เด้งพรวดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขาเรียวก้าวลงจากเตียงเตรียมจะไปแต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน แต่แล้วก็เซจนล้มลงในที่สุด เมื่อดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงแม้แต่จะเดินไปอีกสักก้าวก็ไม่มี
“โอ้ย ~” มือเล็กยกขึ้นบีบขมับช้าๆ ..เพราะแยกไม่ออกว่าอาการที่เป็นมันคืออะไร..แค่รู้สึกมึนๆ ที่หัว..ก็เหมือนจะปวดหัวละมั้ง?
“เพิ่งเสียเลือดไปเยอะๆ เค้าไม่ให้เดินไปไหนมาไหนไม่รู้รึไง?” เสียงเข้มที่เอ่ยบอกบางอย่างที่ร่างบางควรจะได้รับรู้ ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยผ่านเข้าหูอีกฝ่ายไปสักเท่าไหร่นัก
“นี่ ..” ลุกขึ้นเดินเข้าไปหาร่างบางที่แทบจะล้มลงนอนบนพื้นทั้งอย่างนั้น
“..ถ้ายังคิดจะไปไหนข้างนอกอีกล่ะก็เลิกคิดไปได้เลย.. ตื่นมาได้ยังไงเร็วขนาดนี้..” ว่าพลางพยุงคนตัวเล็กกว่าขึ้น แล้วพานั่งยังเตียงนุ่มที่เดิม
“..แผลยังไม่ทันแห้งเลย” นิ้วเรียวสัมผัสเบาๆ ที่รอยแผลบนซอกคอขาว ..ตามปกติแล้วแผลที่ถูกกัด เมื่อเหยื่อนอนหลับได้เต็มที่แผลก็จะแห้ง และร่องรอยของคมเขี้ยวก็จะปิดตัวลงมากกว่านี้ ..
“..แสบ” ผละหลบจากปลายนิ้วของอีกฝ่ายเมื่อรู้สึกแสบแปล๊บทันทีที่ถูกสัมผัส
“งั้นก็อยู่เฉยๆ เดี๋ยวจะทำแผลให้ ..มีอุปกรณ์มั้ย?”
“มี ..อยู่บนนั้น” ชี้นิ้วขึ้นไปทางหลังตู้เสื้อผ้าที่เมื่อซีวอนมองตามไปก็เห็นกล่องสีเขียววางอยู่
นิ้วเรียวเชยคางมนให้ยกขึ้นเพื่อจะได้เห็นรอยเขี้ยวได้ชัดเจน ก่อนจะผละมามองหายาในกล่องที่เพิ่งจะลุกไปหยิบมาเมื่อครู่
“ไม่มีบลัดดี้เซนส์เหรอ?”
“อะไรนะ? ..มันคืออะไร?”
“..แล้วมันจะหายได้ง่ายๆ มั้ยเนี่ย ทำไมนายถึงไม่นอนให้มันเยอะๆ นะ -*-“ บ่นพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนที่จะนิ่งเงียบไปสักพัก.. ช้อนตาขึ้นมองกดเข้าไปในดวงตาหวาน เปลี่ยนที่นั่งจากเก้าอี้ข้างเตียงเป็นเขยิบขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างร่างบางแทน แขนแกร่งสองข้างเท้าคร่อมร่างเล็กไว้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ส่งผลให้จองซูถอยหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเมื่อชนเข้ากับกำแพงซะแล้ว
นิ้วเรียวเฉยคางมนขึ้นในองศาที่เหมือนกับคราวก่อน
“จะทำ อื้อ ...” เสียงหวานหยุดคำถามไว้เท่านั้น มือบางที่เคยใช้ยันแผ่นอกกว้างให้ออกห่างเปลี่ยนเป็นกำเสื้อแน่นจนยู่ยี่ เมื่อใบหน้าคมโน้มลงที่คอเพรียวระหง แล้วเริ่มลากไล้ปลายลิ้นอุ่นไปบนรอยเขี้ยวที่ตนเป็นคนสร้างขึ้น
“เป็นอะไร?” เสียงเข้มเอ่ยถามเมื่อผละออกจากกระทำที่เรียกว่าสมานแผลเรียบร้อยแล้ว ก็เห็นคนตัวเล็กนั่งหน้าแดงทำตาโตเลิ่กลั่กอย่างผิดปกติ
“ไม่สบายหรือไง?” โน้มตัวลงแตะหน้าผากลงกับหน้าผากมนของอีกคนเป็นการวัดอุณหภูมิ
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร !” ผลักคนตัวโตกว่าให้ออกห่างอย่างรวดเร็ว ..ไอ้แวมไพร์ไม่รู้กาลเทศะ..อยู่ๆ จู่โจมแบบนั้นใครมันจะไปรู้เล่าว่าจะทำอะไร !
“ออกไปได้แล้วฉันจะนอน”
“นายจะนอน?”
“อื้อ” ว่าแล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงคอหันหลังให้กับประตูที่อีกฝ่ายควรต้องเดินออกไป
“แล้วจะให้ฉันไปนอนที่ไหน ฉันก็ต้องนอนที่นี่เหมือนกันแหละ” ว่าแล้วก็ถือวิสาสะนอนลงบนเตียงตรงส่วนที่ยังว่าง เบียดให้อีกคนขยับเข้าไปจนได้ที่นอนพอดี
“นี่! เตียงมันก็แค่เนี้ย จะนอนพอได้ไงเล่า” ลุกขึ้นทำท่าจะผลักอีกคนลงจากเตียง
“เมื่อกี้ยังนอนได้เลย ไม่ต้องดิ้นก็พอแล้ว”
“ใครเค้าจะห้ามตัวเองไม่ให้ดิ้นได้เล่า”
“นายก็นอนซะเฉยๆ ไม่ต้องคิดอะไรในหัว มันก็ไม่ดิ้นเองนั่นแหละ” ดึงเอาคนตัวเล็กที่หน้ามุ่ยให้ล้มลงนอนด้วยกัน แขนแกร่งโอบรอบเอวเล็กไว้แน่นๆ
“ทีนี้นายก็ห้ามดิ้น เพราะถ้านายดิ้นฉันจะตื่น และถ้าฉันตื่นทั้งที่นอนไม่เต็มอิ่มฉันจะโมโห ราตรีสวัสดิ์” พูดจบก็หลับตาลงโดยไม่ฟังคำทัดทานใดๆ ทั้งสิ้น ..
แล้วนายเป็นแวมไพร์ภาษาบ้าอะไรมานอนตอนกลางคืนเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าเนี่ย!
เมื่อรุ่งเช้ามาเยือน ร่างบางที่ไม่สามารถทนข่มตาหลับท่ามกลางแสงอาทิตย์เจิดจ้าได้ก็เป็นฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพ จองซูก็เดินลงมายังชั้นล่างของบ้านเพื่อหาอะไรใส่ท้องในยามเช้าเช่นนี้
“ตื่นแล้วไม่คิดจะปลุกฉันสักหน่อยรึไง?”
“...ก็เห็นหลับสบายๆ อยู่ ...หิวมั้ยล่ะ~”
“ยัง..”
“จองซู ~~ ...” เสียงเรียกแบบเดียวกับเมื่อคืนวานดังขึ้นก่อนเจ้าของร่างเพรียวบางจะปรากฏพร้อมกับของในมือ
“อ้ะ แม่ฉันให้เอามาฝากนาย” ยื่นถุงที่เต็มไปด้วยขนมปังหลากหลายชนิดให้กับเพื่อนที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องครัวมารับของไป
“ขอบใจมากนะ ^^” ว่าพลางเอาขนมกลับไปวางบนโต๊ะไม้ในครัว แล้วก็เห็นร่างสูงยืนจ้องเพื่อนรักของเค้านิ่งๆ โดยไม่พูดอะไร ..
“ฮีชอลนี่ซีวอน ..ซีวอนนี่ฮีชอลเพื่อนฉันเอง” แนะนำไปอย่างนั้น ต่างฝ่ายก็ต่างจ้องตากันโดยไม่มีทีท่าว่าอยากจะทำความรู้จักกันแต่อย่างใด
“ฉันไปล่ะนะ ไม่ค่อยอยากจะอยู่เท่าไหร่ ..บ๊ายบาย”
“แผลหายรึยัง?” เอ่ยถามขณะที่อีกคนกำลังกินข้าวอยู่อย่างสบายใจ
“หือ ...” มือเรียวลูบแผลที่ถูกปิดไว้ด้วยพลาสเตอร์อันใหญ่ “ยังหรอก...คงไม่เร็วขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“แปลก...” พึมพำเสียงเบาซะจนอีกคนไม่ทันได้ยิน ..ก็ปกติแล้วการฝังเขี้ยวแค่ผิวเผินแบบนั้นน่ะ ข้ามคืนมันก็น่าจะหายได้แล้วสักทีหนิ..
“เดี๋ยวฉันออกไปข้างนอกนะ ..นายจะทำอะไรก็เชิญ บ่ายๆ จะกลับ”
“ฉันจะไปกับนาย”
“ได้ไงเล่า.. นายโดนแสงอาทิตย์ได้ด้วยหรือไง?”
“อาบแดดฉันยังทำได้เลย ..อย่าเอาฉันไปรวมกับพวกชั้นต่ำนะ”
“ก็ใครมันจะไปรู้เรื่องของแวมไพร์ลึกซึ้งขนาดนั้นล่ะ ! ฉันก็ดูๆ หนังมาเค้าบอกอย่างงั้นฉันไปรู้ได้ไง -*-“
“อย่ามาอารมณ์เสียใส่ฉันนะ!” ขึ้นเสียงดังจนอีกคนนึกกลัว ..คนอะไรอารมณ์แปรปรวนเป็นบ้า ..
“ฉันเปล่าสักหน่อย ก็แค่อธิบายให้ฟัง ..จะไปด้วยก็ไป แต่ฉันไม่ได้ไปเที่ยวเล่นนะบอกก่อน” มีงานให้ทำตั้งเยอะแยะมากมาย ..ไหนจะต้องใช้กินใช้อยู่ ไหนจะต้องใช้หนี้ ...
“จองซูมาแล้ว~ ไปเปลี่ยนชุดเลยวันนี้ลูกค้าเยอะมากกก” เพื่อนร่วมงานสาวว่าขณะถือถาดเตรียมเสิร์ฟสวนกับจองซูออกไป
“นี่โต๊ะ
“เก็บโต๊ะ 10 ด้วย” และคำสั่งอีกรูปแบบนึงคือการเคลียร์พื้นที่เพื่อสร้างงานใหม่อยู่เรื่อยๆ
“เก็บโต๊ะ 7 ด้วย”
“เสิร์ฟโต๊ะ
การทำงานที่แสนวุ่นวายของร่างบาง ถูกเก็บรายละเอียดผ่านสายตาของซีวอนที่นั่งดูอยู่ ณ มุมนึงของร้านเงียบๆ
เวลาบ่ายแก่ๆ ที่จองซูทำงานเสร็จสิ้น ร่างบางก็ได้รับสินน้ำใจนอกเหนือจากค่าจ้างเป็นอาหารของร้านอีกหนึ่งมือเป็นประจำ..
“ฮ้า~ เหนื่อยดีชะมัด” ดูดน้ำอัดลมในแก้วเข้าปากดับกระหายอย่างชื่นใจ ก่อนจะเผื่อแผ่ด้วยการส่งให้อีกคนบ้าง
“หึ” ส่ายหน้าช้าๆ เป็นการปฏิเสธ ..เค้าเองก็ลืมไป ว่าคนที่มาด้วยไม่ใช่คน..
กว่าจะได้กลับถึงบ้านก็เป็นเวลาค่ำพอดี ..ร่างบางเดินขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งเพื่อเตรียมจะออกไปทำงานอีก
“จะไปไหนอีกล่ะ?”
“ทำงานไง ..เงินไม่ได้ลอยมาหาเราเองเฉยๆ นะ”
“ไม่ต้องตามมาก็ได้ฉันกลับดึกนะ”
“ฉันนอนดึก ..ไม่ต้องพยายามขัดใจฉันได้มั้ย”
“อือๆ”
ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงร้านที่เป็นที่ทำงานของจองซู ร้านที่รูปแบบออกจะต่างจากร้านอาหารเมื่อตอนกลางวันอยู่มากโข ..รูปแบบที่ใครๆ ก็เรียกมันว่า “ผับ”
“..นั่งรอตรงนี้ละกัน เดี๋ยวฉันมา” บอกให้ร่างสูงนั่งลงตรงหน้าเคาท์เตอร์ที่อีกไม่นานเค้าก็จะมาทำงานอยู่แถวนี้ แล้วก็ผละออกไปทางหลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุดทำงาน
“มาคนเดียวเหรอคะรูปหล่อ..” มือเรียวเล็กรูปไล้ไปตามแผ่นอกกว้างของคนรูปหล่อที่เอ่ยถึง แต่ทว่าเมื่อนัยน์ตาคมตวัดมองกลับมาเจ้าหล่อนก็ชักมือกลับทันใด ..ทั้งๆ ที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยคำพูดใดๆ แต่แววตาแข็งกร้าวดูเจ้าอารมณ์แบบนั้นก็มากพอจะทำให้หล่อนถอยหนี
“จะไล่ลูกค้าเหรอไง?” ร่างบางที่ออกมาจากหลังเคาท์เตอร์เอ่ยถามพลางเช็ดแก้วแถวนั้นให้สะอาด
“เหมือนเดิมนะคนสวย” ชายหนุ่มคนนึงนั่งลงที่หน้าเคาท์เตอร์ห่างจากเค้าไปหนึ่งเก้าอี้ เอ่ยบอกกับร่างบางตั้งแต่ก้นยังไม่ทันถึงเบาะด้วยซ้ำ ซึ่งคำทักทายที่แม้จะดูแปลกหูแต่จองซูก็คุ้นชินกับมันไปซะแล้ว ส่งผลให้ร่างบางหัวเราะออกมาน้อยๆ ก่อนจะรับคำแล้วเริ่มผสมแอลกอฮอล์ให้กับลูกค้าขาประจำที่ไม่เคยเปลี่ยนสไตล์การดื่ม
“อ่ะนี่~” น้ำเมาสีฟ้าดูน่าลิ้มลองถูกวางลงบนเคาท์เตอร์พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานๆ จากคนผสม ก่อให้เกิดบทสนทนาต่อไป
“น่ารักจังเลยนะจองซูน่ะ ..วันนี้แต่งตัวน่ารักเป็นพิเศษซะด้วยสิ” เอ่ยชมร่างบอบบางในชุดกางเกงขาสั้นสีขาวกับเสื้อสีขาวส้มที่ดูสว่างเจิดจ้าในร้านมืดๆ เช่นนี้
“ฮะ ๆ ขอบคุณ^^ ชมแบบนี้ทุกวันฉันก็เขินแย่ดิ”
“จองซู ขอมาร์ตินี่ ..โต๊ะเดิมนะ” ลูกค้าวัยกลางคนที่อุตส่าห์เดินมาสั่งเองถึงเคาท์เตอร์เอ่ยบอก ก่อนกลับไปนั่งที่โต๊ะเมื่อได้รับยิ้มหวานๆ ของจองซูมาแล้วเรียบร้อย
“ขอทำงานก่อนนะเดี๋ยวมาคุยด้วย” บอกกับเจ้าประจำที่ดูจะสนิทกับร่างบางนั้นเป็นพิเศษ
ใช้เวลาในการผสมเครื่องดื่มไม่นาน จองซูก็จัดการจับแก้วใสที่พร้อมดื่มขึ้นไว้บนถาดเตรียมนำไปเสิร์ฟให้เจ้าของโต๊ะเมื่อครู่
“มาร์ตินี่ครับ” เอ่ยบอกพร้อมกับนั่งลงเพื่อวางแก้วนั้นบนโต๊ะ
“บลูกามิกาเซ่สองแก้ว” ลูกค้าร่วมโต๊ะเอ่ยสั่งต่อ
“ครับ” พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเช่นเคยก่อนจะมาบรรจงทำเครื่องดื่มที่ว่าให้ลูกค้า
“เรียบร้อยแล้วครับ บลูกามิกาเซ่ ^^”
“อื้ม ..ขอบใจมากนะ” ฉวยโอกาสจับมือนิ่มที่จับแก้วไว้อย่างรวดเร็ว ..จองซูที่คุ้นชินกับการกระทำเช่นนี้ก็ได้แต่ยิ้มรับ
“อย่ายิ้มแบบนั้นซี่~ เดี๋ยวคนแถวนี้เค้าอดใจไม่ไหวขึ้นมาแล้วจะยุ่ง..” เอื้อมมือไปสัมผัสกับแก้มนุ่มอย่างถือสิทธิ์
ตาคมจ้องมองร่างบางที่เค้าได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของอย่างไม่พอใจเท่าไหร่นัก
ก่อนความอดทนสุดท้ายจะหมดลงด้วยการที่ร่างบางนั้นยอมให้อีกฝ่ายหอมแก้มเอาดื้อๆ
“โอ้ย! นี่มันเจ็บนะ” ข้อมือเล็กถูกคว้าไว้ด้วยมือแกร่ง ตาคมฉายแววดุดันอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร!!” เอ่ยบอกพร้อมกับกึ่งลากกึ่งจูงให้ร่างบางเดินออกมาด้วยกัน
“ปล่อยได้แล้วฉันเจ็บนะ!” พยายามบิดข้อมือออกจากการจับกุม แต่ก็ดูเหมือนจะยากซะเหลือเกิน
“ทำงานอะไร?! ขายตัวหรือไง!!?”
“ไอ้บ้า! พูดจาให้มันดีดีนะ”
“ก็เค้าเรียกว่าอะไรล่ะ? ยิ้มให้คนนั้น ยิ้มให้คนนี้ ยอมให้เค้าจับให้เค้าจูบน่ะห๊ะ!” ออกแรงเขย่าตัวร่างเล็กจนเซไปมาอย่างไร้ทิศทาง
“ฉันเป็นบาร์เทนเดอร์! ไม่ได้ขายตัว พวกนั้นมันก็แค่งาน หอมแก้มแค่นั้นฉันไม่เป็นอะไรหรอกหน่า!”
“แต่ฉันเป็น!! เข้าใจมั้ยว่านายเป็นของฉันแล้ว ราคีของมนุษย์คนไหนฉันก็ไม่อยากให้เกิดกับของของฉัน!!”
“เออ!! นายก็บอกฉันดีดีสิ ฉันไม่ได้เป็นเหมือนอย่างนายฉันจะไปรู้นายมั้ย?? นายก็บอกมาสินายจะห้ามอะไรไม่ห้ามอะไร”
“ห้ามทำงานทุกชนิด ไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม” เอ่ยเสียงเรียบท่ามกลางความไม่พอใจของร่างบางที่ยังคงอยู่ในการจับกุม
“จะบ้าหรือไง ไม่ทำงานแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้หนี้เค้า!! นายนั่นแหละที่ไม่ยอมให้ฉันตาย แล้วไงล่ะ คนที่เดือดร้อนมันก็ยังเป็นฉัน!!” มือข้างที่เป็นอิสระถูกใช้เป็นอาวุธในการทุบตีคนตรงหน้า ..ใช่..ปล่อยให้เค้าตายๆ ไปซะก็จบ
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ..ถ้านายให้ชีวิตกับฉัน ฉันจะจัดการทุกอย่างเองไง..”
“หมายความว่าไง?”
“หนี้สินทุกอย่างที่มีในชีวิตนาย ฉันจัดการไปหมดแล้ว”
“ว่าไงนะ?”
To be continue.
ตื่นเต้นกับการลงฟิคจังค่ะ 5555 เห็นคอมเม้นแล้วรู้สึกต๊กกะใจ >< ถือว่าเยอะมากแล้วสำหรับคาราเมล โฮ้ว ว ขอบคุณทุกคนมากเลยนะคะที่ให้การต้อนรับฟิคเรื่องนี้อย่างอบอุ่น รู้สึกเป็นปลื้มม เลยคึกคักแต่งมาลงต่อ 555
ดูทุกคนจะตื่นเต้นกับการที่ซีวอนดูทีวี 555 เค้าก็ไฮเทคนะเออ ,,แล้วก็สำหรับคุณลีจุนกิ ! เดี๋ยวเค้าก็โผล่ออกมาให้ยลโฉมกันแล้วล่ะค่ะ ฮุฮุ ส่วนจะเป็นเคะเป็นเมะเค้าไม่บ่งบอกสัญชาติ (ยังไง - -)
แล้วก็ ..ยังไม่ลืมหรอกนะคะจุนกิทึกจ๋าน่ะค่ะพี่อาย เจ้กู้ หุหุ ขอเวลาสักกะนิด ยังแต่งฟิคส่งบ้านแองเจิ้ลเทลไม่จบเลยค่ะ (มันคึกแต่งเรื่องนี้แทน เหอะๆ) แล้วพี่อายก็ไม่ต้องเขินไปไหน ชมกันไปตามความจริงค่ะ โฮ่~
ขอบคุณพี่ตอยด้วยนะคะ เคยส่งพิมโดนดองมาละก็เซ็งโลก - - ,,เอาไว้คาร่ามีผลงานดีๆ เมื่อไหร่จะติดต่อไปทันทีเลยนะค้า
ปอลอ ,, ขำค้างคาวอ้วนกลม 555 เห็นภาพเลยแอม เอิ้กก~
พระเจ้าอวยพรค่ะ : )
ความคิดเห็น