ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short Fiction WONTEUK] " My Neverending Story " (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] ใจเกเร

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 52


    Date : 2007.05.09
    Title : ใจเกเร
    Pairing : Siwon X Eeteuk
    Author : luvly_Teukkie ((คาราเมลชีสเค้ก))
    Rating : PG-13
    Author note : ฟิคเรื่องแรกของคาราเมลเลยค่ะ = = ตอนนั้นเพิ่งรู้จัก วายใหม่ๆ จับคู่คังอินกับซองมินไปได้ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ 555 ตอนแรกก็จะรีไรท์เรื่องนี้สักหน่อย ..แต่ว่าเอาไว้ดูต่างหน้าแบบนี้ดีกว่าค่ะ...
    พอได้กลับมาอ่านฟิคเรื่องแรกแบบนี้แล้วพอจะเห็นความพัฒนาของตัวเองนิดนึงค่ะ 55 แต่ก่อนภาษาวิบัติมากมายเล้ยย~ แต่งเข้าไปได้ยังไงกันนะ - - เห็นแล้วขัดหูขัดตา...ต้องแก้~~
    แล้วเนื้อเรื่องหลังๆ มันก็ช่าง..ก้าวกระโดดและพาสับสนมากค่ะ = = แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องแรกใจชีวิตที่แต่งจนจบจริงๆ ค่ะ ภาคภูมิใจเหลื๊อออเกิน~


                พอเถอะพอได้แล้ว หยุดหลอกตัวเองเสียที

    ถ้าหัวใจเธอมี วันนี้เราคงได้คบกัน

    เธอไม่มองยังฝืน ก็หัวใจยังดึงดัน

    รอแค่เพียงสักวัน เผื่อเธอจะมาเห็นใจ

     

    ห้ามตัวเองไม่ให้รักเธอ จะทำยังไงใจมันไม่ฟัง

    หัวใจฉันยังเกเรทุกครั้ง ดึงดันไปรักเธอ

    ห้ามตัวเองว่าพอซะที กับเธอคนนี้ไม่ต้องไปเจอ

    ไม่มีวันเป็นเจ้าของใจเธอ ใจมันยังเกเรเสมอไม่เคยจะเชื่อฟัง...

    คนที่ไม่มีรัก ก็ไม่มีทางรักเรา

    ไม่เหมือนนิยายน้ำเน่าเลิกเอาแต่ใจเสียที

    ใจตัวเองก็รู้ แต่ห้ามไม่ได้โดยดี

    ยังไม่มีวิธี ที่ทำให้หยุดรักเธอ...

    ห้ามตัวเองไม่ให้รักเธอ จะทำยังไงใจมันไม่ฟัง

    หัวใจฉันยังเกเรทุกครั้ง ดึงดันไปรักเธอ

    ห้ามตัวเองว่าพอซะที กับเธอคนนี้ไม่ต้องไปเจอ

    ไม่มีวันเป็นเจ้าของใจเธอ ใจมันยังเกเรเสมอไม่เคยจะเชื่อฟัง...

     

    ก็รู้ทั้งรู้ไม่มีสิทธิ์รักเธอ แต่ใจมันยัง คงดึงดัน มันยังเป็นอยู่อย่างนี้...

    เฮ้ออออออ~

    ใจเกเรจิงๆ นะผมเนี่ย...

     

    เป็นที่รู้กันของหลายๆ คน ว่าผมชอบเจ้าหญิงของวงอย่างคิม ฮีชอล แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ความจิง ว่าผม...

    ซีวอน! ไปกินข้าวเร็วเสียงพี่ใหญ่ของวงเรียก

     

    คร้าบบบบบร่างสูงร้องตอบ


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    เป็นไรรึเปล่า หมู่นี้เห็นชอบนั่งอยู่คนเดียวลีทึกถาม

    ป่าวครับ ^^”

    งั้นเหรอ...ก็ดีร่างบางส่งยิ้มให้ร่างสูง พลันตาสวยหวานก็หยีลง


    รอยยิ้มแบบนี้สินะ...ที่ทำให้ผมตกหลุมรักคนคนนี้...ปาร์คจองซู รอยยิ้มนี้เริ่มป่วนหัวใจผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมรู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถลืมรอยยิ้มนี้ได้ซะแล้ว...

    คังอิน นายกินเยอะๆ น้า~” ลีทึกว่า

    อืมเป็นคำตอบที่แสนจะสั้นและเย็นชาจากชายหนุ่มร่างใหญ่



    อ้าวพี่ทึกกี้ อิ่มแล้วเหรอครับ?” ซีวอนเอ่ยถามเมื่อเห็นคนตาสวยวางช้อนส้อมลง

    อื้ม...พวกนายกินกันเยอะๆ นะ วันนี้เวรฉัน เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันมาล้างให้ ^^” ลีทึกส่งยิ้มให้กับทุกคน ก่อนจะวิ่งเข้าห้องของตัวเองไป



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ท่าทางเฉยชาแบบนั้นมันอะไร? ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันทำดีไม่พอรึไง หรือว่าฉันรักนายไม่มากพอ...ฉัน...ฉันควรจะทำยังไง

    คิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาที่กลั้นไว้มานานมันก็เริ่มรินไหล

    ร่างบางซุกหน้าหวานลงกับหมอนนุ่ม ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ จนชุ่มหมอนสีขาวบริสุทธิ์

    ไม่นานนักร่างบางก็ยันกายขึ้นจากเตียง ตรงดิ่งไปอาบน้




    ซ่า~

    สายน้ำที่ไหลลงมากระทบผิวกายขาวเนียนของร่างบาง ค่อยๆ ชำระล้างความเศร้าหมองให้หมดไปจากใบหน้าหวาน จะเหลือก็เพียงแต่ความเศร้าในจิตใจ...ใครจะชะล้างมันได้?

    อ้าว ซีวอน มีอะไรเหรอ?” ลีทึกถามขึ้นเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วพบว่าซีวอนนั่งรออยู่บนเตียง

    ผมจะเข้ามาบอกพี่ว่ากินข้าวกันเสร็จแล้วน่ะครับ

    อื้อ เดี๋ยวพี่ออกไปล้างลีทึกว่าพลางเดินไปใส่เสื้อ

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    จานกองโตค่อยๆ สะอาดขึ้นทีละใบ ทีละใบ จานที่ยิ่งล้างก็ยิ่งใส ช่างต่างกับใจของคนล้าง ที่ยิ่งยืนล้างอยู่ตรงนี้ ก็ยิ่งหม่นหมองกับภาพที่เห็น...คังอินกับซองมิน เล่นกัน...อย่างมีความสุข

    เพล้ง!!!

    โอ๊ย!!!เสียงแก้วแตกดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงร้องหวาน

    อ๊ะ! พี่ทึกกี้ เป็นอะไรรึเปล่าครับเสียงซองมินถามด้วยความเป็นห่วง

    ม่ะ...ไม่เป็นไรหรอก แก้วแตกเฉยๆ น่ะปากบอกไปอย่างนั้น ทั้งที่นิ้วชี้เล็กๆ กลับมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

    ไม่เป็นไรแน่นะฮะซองมินถามย้ำ

    เค้าบอกว่าไม่เป็นไรไง ช่างเค้าเถอะหน่าคังอินว่า แล้วดึงซองมินลงมาเล่นด้วยกันต่อ

    ส่งผลให้ลีทึก ต้องเข้าห้องไปทำแผลเงียบๆ คนเดียว...

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ช่างเค้าเถอะหน่า

    หนึ่งเสียงที่ยังคงดังกึกก็งอยู่ในโสตประสาทที่สับสนและวุ่นวาย

    ...แกร๊ก

    เสียงเปิดประตูดังขึ้น สิ่งที่ร่างบางหวัง คือแค่คังอินเข้ามาถามว่าเป็นอะไรมั้ย? แต่เสียงประตูไม่ได้มาจากประตูทางเข้า เป็นเสียงจากประตูห้องน้ำต่างหาก

    อ้าว ซีวอนร่างบางเอ่ยให้น้ำเสียงเป็นปกติที่สุด

    โทดทีครับ พอดีผมปวดท้องก็เลย...

    ไม่เป็นไรหรอก ฮึ่ก...ฉันไม่ได้ว่าอะไรมันไม่ง่ายเลยที่จะสะกดเสียงสะอื้นเอาไว้

    พี่เป็นไรไปครับ

     

    แค่...เจ็บแผลนิดหน่อยนะ ฮึ่กลีทึกก้มลงมองแผลตัวเอง ยิ่งมอง...ก็ยิ่งเจ็บ

    งั้นให้ผมช่วยนะครับซีวอนว่า พลางนั่งลงบนเตียงข้างๆ ร่างบาง แล้วจับมือบางๆ ขึ้นมาทำแผล

    ซีวอน...ฮึ่กยิ่งซีวอนช่วยทำแผล น้ำตาก็ยิ่งรื้นขึ้น ทำไม...ทำไมคนตรงหน้าตอนนี้ถึงไม่เป็นคังอิน

    เจ็บเหรอครับ ผมขอโทษซีวอนมีสีหน้าตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นน้ำตาของลีทึกไหลลงมาเรื่อยๆ

    เปล่า ซีวอนนาย...ฮึ่กร่างบางโผเข้ากอดร่างสูงข้างๆ แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างอดกลั้นไว้ไม่ไหวอีกแล้ว

    “...” ร่างสูงนิ่งอึ้งกับการกระทำของร่างเล็กตรงหน้าเล็กน้อย แต่ก็กอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนตอบ

    เป็นอะไรไปครับ อยากระบายให้ฟังมั้ย?” ผมรู้สึกไม่ดีเลยจิงๆ ที่ต้องเห็นคนที่รัก ต้องมานั่งร้องไห้

    ฮึ่ก...ฉัน อึ่กร่างบางซุกหน้าหวานลงกับอกแกร่งอีกครั้ง

    ผมไม่เคยเห็นพี่ลีทึก ร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนเลย...

    ฉันแค่เครียดเรื่องงานน่ะ...แค่จะเค้นคำพูดออกมายังยากเย็น

    จิงเหรอ...ผมถามไปงั้นหล่ะ ก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่จิง...

    อือ...ฮึ่กสิ้นคำตอบสั้นๆ ร่างบางก็กระชับกอดให้แน่นเข้าไปอีก ราวกับว่า กลัวซีวอนจะหนีเค้าไปอีกคน

    ร่างสูงค่อยๆ จรดริมฝีปากไปที่เปลือกตาของคนในอ้อมกอดช้าๆ แล้วใช้มือข้างนึงเลื่อนขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ร่างบาง

    ริมฝีปากของร่างบางที่เปิดออกเล็กน้อยเพื่อใช้ช่วยหายใจ จากการที่ร้องไห้แล้วหายใจไม่ทัน ถูกซีวอนครอบครองอย่างช้าๆ ลิ้นร้อนค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของคนที่ตั้งสติไม่อยู่ ก่อนจะควานหาความหอมหวานไปทั่วโพรงปาก

    อื้อ...เสียงครางของคนในอ้อมกอดทำให้ร่างสูงรู้สึกตัว และรับรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จึงผละออกจาริมฝีปากของลีทึก

    ซีวอน...

    ชู่ว...

    นิ้วเรียวแตะลงบนริมฝีปากบางๆ เป็นสัญญาณให้หยุดพูด

    ผมขอโทษครับพูดแค่นั้นแล้วร่างสูงก็เดินออกจาห้องไป



    ทำไม...ทำไมนายไม่เป็นคังอิน...ฮึ่ก ทำไม...อีกครั้งที่ลีทึกซุกหน้าลงกับหมอน โดยที่ไม่รู้เลยว่า มีสายตาคู่นึง ลอบมองเค้าผ่านช่องประตูเสมอ




    เมื่อไหร่ปาร์ค จองซูที่สดใสคนเดิมจะกลับมาซะทีนะ...











    ซีวอน

    เสียงเรียกของชายหนุ่มเชื้อสายจีนทำเอาร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องลีดเดอร์ประจำวงสะดุ้ง

    “?”

    มานี่หน่อย พี่มีเรื่องจะคุยด้วย

    ครับ




    นายเคยรักใครที่เค้าไม่ได้รักเรารึเปล่า?” ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตอบ หนุ่มชาวจีนก็พูดต่อ

    อย่างนายคงไม่เคยสินะ...ฮันกยองเงียบไปสักพัก

    นายรู้มั้ยว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ที่เห็นคนที่เรารัก ต้องร้องไห้เพราะคนที่ไม่ได้รักเค้า

    ท่าทางเค้าคงรักอีกคนนึงมาก...ฮันกยองก้มหน้าพูดเสียงเรียบ

    แต่พี่ก็ยังรักเค้า?” ผมแทรกขึ้น

    อืม...

    ฮึ อาการแบบนี้เค้าเรียกใจเกเรครับ

    พี่ห้ามใจตัวเองไม่ได้...พี่ทำไม่ได้

    พี่ก็ลองไปบอกเค้าดูสิครับ อะไรๆ มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดก็ได้ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด คนที่พี่ฮันพูดถึง คงเป็นคิม ฮีชอล และเค้าก็คงคิดว่าพี่ฮีชอลชอบผม ซึ่งมันผิดถนัดเลยล่ะ เธอ(?)เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่เคยรักผม...ชีวิตรักของผมนี่รันทดจิงๆ - - ผมบอกเธอไปว่าผมชอบ แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ ขอโทษนะ แต่ฉันรักฮันกยองและที่เค้านอนร้องไห้ สาเหตุก็เพราะคิดว่าฮันกยองไม่รักเค้านั่นแหละ

    เฮ้อออออ~ ชีวิตช่างวุ่นวาย

    มัน...

    ถ้าพี่ไม่ลองดูจะรู้เหรอครับ ว่าเค้าคิดยังไงกับพี่

    แต่...

    หรือพี่จะปล่อยให้เค้าเจ็บต่อไป พี่ทนได้เหรอ...

    “...ขอบใจนายมากนะ ^^” ฮันกยองตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะหายเข้าห้องไป

    เห๊อะ...บอกพี่ฮันไป ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้เนี่ยนะ...ทุเรศตัวเองชะมัด





    แอ๊ด...

    คนตาสวยสาวเท้าออกจากห้อง ตรงไปยังอ่างล้างจานที่ล้างค้างไว้ โดยไม่แม้แต่จะชายตามามองคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟา



    ปั๊ดธ่อเว้ย!! ทำไมทำอะไรไม่รู้จักคิดว่ากู - -

    คิดแล้วมันก็น่าฆ่าตัวเองให้ตายนัก ไปจูบเค้าแบบนั้นได้ยังไง เค้าเกลียดเลยเห็นมั้ยเนี่ย อ้ากกกกกกกกซ์





    พี่ทึกกี้ คิบอมมันแกล้งผมง่า~ >O<” ดงแฮวิ่งออกจากห้องมาหลบอยู่ข้างๆ ลีทึก

    คิบอม นายจะแกล้งอะไรดงแฮได้ทุกวันเนี่ย - -ร่างบางถามเหนื่อยๆ

    ผมไม่ได้แกล้งสักหน่อยคิบอมเถียง

    อย่าไปเชื่อมันนะ มันบอกให้ผมสอนการบ้าน มันบอกมันทำไม่ได้ ผมก็เลยสอน สอนแทบตายมันก็ไม่รู้เรื่อง จนผมบอกจะเลิกสอน...ดงแฮถอนหายใจ จิกตาไปทางคิบอม ก่อนจะพูดต่อ

    มันก็บอกว่าให้ตั้งโจทย์ให้มันข้อสุดท้าย ถ้ามันทำได้มันจะขออะไรผม 1 อย่าง แต่ถ้ามันทำไม่ได้ มันจะให้ผมขออะไรก็ได้ 3 อย่าง ผมก็เลยตอบตกลง แล้วเขียนโจทย์ที่ยากที่สุดให้มัน มันดันทำได้!

    “...” ลีทึกไม่พูดอะไร จึงปล่อยให้ดงแฮพูดต่อ

    มันทำได้...ผมก็เลยต้อง...>/////< อ้ากซ์

    แล้ว...คิบอมแกล้งนายยังไงลีทึกถามอย่าไม่ค่อยเข้าใจอารัยนัก

    ก็นี่ไงครับดงแฮยื่นหนังเล่มหนาๆ เล่มนึงให้ลีทึก หนังสื่อซึ่งใช้สำหรับเรียนพิเศษ

    คิบอมนายนี่น้า~” ลีทึกว่าพลางมองหน้าร่างสูงที่ยืนยิ้มอยู่

    ผมไม่ผิดสักหน่อยคิบอมแก้ตัว

    นายแหละผิด ผิดเต็มประตูเลยดงแฮว่า

    นายนั่นแหละผิดว่าแล้วก็เดินเข้ามาหาดงแฮ

    ปล่อยฉันนะร่างบางดิ้นเมื่อถูกร่างสูงโอบกอด

    ฉันไม่ผิด” ((ก็ยังไม่วายจะหันไปเถียงอีกนะดงแฮ- -))

    ผิดสิ...ผอดที่เกิดมาน่ารักอย่างงี้ไง(อ้วก)

    ไอ้บ้าปากด่าแต่ก็ก้มหน้าซ่อนสีงุดๆ

    เฮ้ยๆ! วางฉันลงดงแฮสั่งเสียงแข็ง เมื่อคิบออุ้มเค้าขึ้นและทำท่าจะพาเข้าห้อง

    ดิ้นไปเถอะดงแฮ...ก่อนจะไม่ได้ดื้น หึหึสิ้นคำประตูห้องคิบอมก็ปิดลง

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    เฮ้อออออออออออออออร่างบางถอนหายใจยาวหลังจากล้างจานกองโตเสร็จ

    พี่ทึกกี้ครับ...

    อะไรเหรอเยซอง

    พี่ช่วยผมง้อเรียววุคหน่อยสิ งอนผมอ้ะ~”

    นายนี่น้า ก็ไปแกล้งเค้า เค้าก็งอนอ่ะสิ

    นะพี่นะ ช่วยผมหน่อยเหอะ...

    +~การแก้ปัญหาของลีทึกลุล่วงไปได้อีกครั้ง~+

    ไม่มีปัญหาใดในบ้านนี้ที่ปาร์คจองซูไม่สามารถแก้ได้ นอกซะจาก...





    ปัญหาของตัวเอง

    ลีทึกพาร่างกายกับหัวใจที่บอบช้ำกลับเข้าห้องไป

    เรารักเค้าทำไม...ในเมื่อเค้าไม่รักเรา

    เมื่อเค้าไม่รักเรา ก็อย่าไปรักเค้า เมื่อเค้าไม่รักจิง ก็ต้องปล่อยเค้าไป อย่าฝืนให้มันเหนื่อยใจ อย่าทำร้ายตัวเองอีกเลย...

    นั่นสิ...เราจะทำร้ายตัวเองไปเพื่ออะไร ทำไมเราถึงไม่รักคนที่เค้ารักเรา




    ถามโง่ๆ...ก็ไม่มีใครรักเรานี่...

    ร่างบางหันไปกอดตุ๊กตาที่ซีวอนซื้อให้ในวันเกิด

    กลิ่นหอมอ่อนๆ ของซีวอนโชยมาแตะจมูกร่างบาง

    พลันภาพที่ซีวอนกอดเค้าก็ผุดขึ้นมาในสมอง แน่นอนว่ารวมถึงภาพที่โดนหนุ่มร่างสูงขโมยจูบไปด้วย

    ซีวอนจะรักเรารึเปล่า?

    ถ้าไม่รัก...แล้วทำแบบนั้นเพื่ออะไร?

    คิดได้อย่างนั้นร่างบางก็ลุกขึ้นจากเตียงนุ่ม เดินออกจากห้องไป โดยมีเป้าหมายคือห้องของซีวอน...








    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

    เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้อง ร่างบางจึงตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไป ซึ่งก็ไม่พบใครในห้อง ได้ยินเพียงเสียงน้ำที่ดังมาจากในห้องน้ำเท่านั้น

    ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียง นอนคิดอะไรไปเพลิน

    เค้าจะลืมคังอินได้มั้ย?

    คิดไปเพลินๆ ก็เผลอหลับไป

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ไม่นานนักร่างสูงก็ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับความแปลกใจไม่น้อยที่เห็นร่างบางนอนหลับอยู่บนเตียง


    ใจนึงก็อยากจะปลุกมาถามว่ามาทำอะไร แต่อีกใจก็อยากจะปล่อยให้นอนอยู่อย่างนี้...ก็ใบหน้ายามนิทราของร่างบาง ช่างดูน่าหลงใหล ไม่ต่างกับยามตื่นสักเท่าไหร่

    เพียงแต่เวลานี้ ไม่สามารถเห็นดวงตาสวยหวาน ที่บอกเรื่องราวทุกสิ่งในชีวิตได้ ก็เท่านั้น...

    นิ้วเรียวเกลี่ยผมของร่างบางไปไว้ที่หลังหู ก่อนจะกดสันจมูกลงกับแก้มเนียนใส แล้วสูดเอาความหอมเข้าไปซะเต็มปอด

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ฮ้า~ หลับไปเมื่อไหร่เนี่ยเรา



    ตื่นแล้วเหรอครับ

    ซีวอน...ขอโทษที นายมานอนเถอะดึกแล้วร่างบางลุกขึ้นขยี้ตาเล็กน้อย ทำเอาร่างสูงอดยิ้มกับท่างที่เหมือนเด็กๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้

    ว่าแต่พี่เข้ามาทำอะไรอ่ะครับร่างสูงเปิดประเด็น

    พี่เข้ามาแบบนี้...หมายความว่าพี่ไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ย

    เอ่อ...เหงาๆ น่ะ ก็เลยมาหาเพื่อนคุย

    ผมพูดไม่ออกหรอก ว่าจะมาถามเรื่องจูบ >O<

    เหงาเหรอ?” ซีวอนถาม

    อื้ม...คืนนี้ฉันนอนที่นี่ได้มั้ย?”

    “...ครับ เดี๋ยวผมไปนอนห้องพี่ก็ได้ ถ้าพี่ไม่อยากลุกร่างสูงพูดพลางลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกจากห้อง

    ไม่ต้องหรอก นายนอนกับฉันนี่แหละ เตียงออกจะกว้าง

    เอางั้นเหรอ?”

    อื้ม มานอนเถอะง่วงแล้วลีทึกตบที่ว่างข้างๆ ตัวเองเร็วๆ ประมาณว่าให้รีบมา

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ล้มตัวลงนอนบนที่นอนข้างๆ ร่างบางนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รู้เพียงว่าตัวเองไม่สามารถข่มตาให้หลับได้

    ภายในห้องที่เงียบสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย แม้จะหันหลังเข้าหากัน ก็ยังทำให้หัวใจของร่างสูงสงบไม่ลง

    ร่างสูงพลิกตัวเข้าหาลีทึก กลิ่นแชมพูหอมอ่อนๆ เชิญชวนให้ดอมดม ร่างสูงค่อยๆ โน้มสันจมูกลงไล้ไปกับเรือนผมนุ่ม

    พี่ทึกกี้ครับ...เสียงซีวอนเรียกอย่างแผ่วเบา

    ร่างบางที่ดูเหมือนจะหลับไปแล้ว ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

    ผมรักพี่นะร่างสูงกระซิบข้างหู ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปประทบรอยจูบที่แก้มของร่างบาง เล่นเอาคนที่แกล้งหลับใจเต้นไม่เป็นจังหวะกับทั้งคำพูด และการกระทำของอีกฝ่าย

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    เวลาผ่านไปไม่นานนัก แต่สำหรับคนตาสวยคนนี้ มันช่างยาวนานเหลือเกิน

    เฮ้อ...ร่างบางลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกจาห้องไปเงียบๆ ด้วยกลัวว่าอีกคนที่หลับอยู่จะตื่น โดยหารู้ไม่ว่า อีกฝ่ายนั้น ไม่เคยหลับตาลงแม้สักวินาทีเดียว

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ลีทึกที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องของซีวอน คงจะตรงไปที่ห้องตัวเองทันที หากไม่มีเสียงคังอินเล็ดลอดออกมาจากภายในห้องซะก่อน

    ช่วงเวลาที่ไม่มีฉัน...นายคงมีความสุขมากสินะคังอิน...

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ร่างบางถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้องของคังอิน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยู่

    ภานในห้องสีน้ำตาลเรียบๆ มีตุ๊กตาเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ร่างบางหวังเพียงว่าหนึ่งในนั้น แค่เพียงสักตัวเดียว คงจะมีที่เค้าเป็นคนซื้อให้...

    กวาดสายตามองไปรอบห้อง ก็มีเพียงตุ๊กตากระต่ายของซองมินเต็มไปหมด ของใช้กว่าครึ่งในห้องนี้ ก็ถูกดีไซน์ให้เป็นฟักทอง





    แล้วของของเค้าล่ะ?

    เริ่มกวาดสายตาอีกครั้ง...กล่องใบนึงที่ตั้งอยู่ตรงมุมอับของห้อง

    ขอให้ของในนั้น ไม่ใช่ของของเรา


    ร่างบางสาวเท้าไปหากล่องที่ถูกปิดด้วยเทปกาวอย่างดี แล้วค่อยๆ ลอกเทปกาวนั้นออก

     

     

    น้ำใสๆ เริ่มมาคลออยู่ที่เบ้าตา เมื่อสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิด มันเกิดขึ้นแล้ว ของขวัญต่างๆ ที่ซื้อให้คังอิน มันไม่เคยมีความหมายเลยใช่มั้ย? ทั้งตุ๊กตาหมี ของใช้หมีๆ ที่ฉันซื้อให้นาย ทุกอย่างลงมากองอยู่ในลังใบนี้...บางชิ้นยังไม่ได้แกะซะด้วยซ้ำ...

    ของของฉันไม่เคยมีค่าเลยใช่มั้ย...

    ดี!!! งั้นของของนายที่ให้ฉัน ต่อไปนี้

    มันก็จะไม่มีค่าเหมือนกัน!!!!



    ลีทึกกระแทกเท้าออกจากห้องคังอินทั้งน้ำตา

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ของพวกนี้...นายคงไม่เคยให้ฉันด้วยใจเลยสินะ

    ตาคู่สวยจ้องมองของที่คังอินซื้อให้ ที่ตอนนี้มากองรวมกันอยู่กลางห้อง

    รูปคังอินที่เรียงรายอยู่เต็มห้อง ยิ่งเห็นยิ่งเจ็บใจ...

    ทำไมฉันถึงต้องรักนาย ทั้งๆ ที่นายไม่รักฉันลีทึกพูดกับรูปคังอินที่ใส่อยู่ในกรอบรูปสวย

    ฉันมันโง่...ฮึ่ก โง่ที่สุด ฉันจะไม่รักนายอีกแล้ว ฮึก





    เพล้ง!!!!!!!!

    กรอบรูปที่เคยอยู่ในมือของร่างบาง ถูกเหวี่ยงออกไปกระทบกับกำแพงห้องอย่างแรง จนกระจกแตกกระจาย

    ฮึก...ไม่รักนาย...ฉันไม่ได้รัก ฮึ่...นาย

    โกหกความรู้สึกตัวเองอยู่รึเปล่า?






    แก้ก แก้ก

    เสียงรูดคัตเตอร์...ใบมีดคมที่สะท้อนแสงเงาวับแม้ในห้องที่แสงน้อยขนาดนี้

    ใบมีดคมค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมาจนถึงข้อมือร่างบาง









    ในเมื่อฉันมันไร้ค่า ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่...

    ก่อนที่ร่างบางจะตัดสินใจกรีดข้อมือตัวเอง

    พี่ครับ!!!!!ร่างสูงที่เห็นทุกภาพทุกเหตุการณ์ เข้ามากอดร่างบางไว้จากด้านหลัง

    ฮึ่ก...ปล่อย

    ไม่! ผมไม่ปล่อย พี่จำทำแบบนี้ทำไมร่างสูงจับข้อมือบางไว้แน่น

    ฉันมันไร้ค่า ฮึ่ก ในเมื่อไม่มีใครต้องการฉัน ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอยู่

    พี่ เดี๋ยว ผมรักพี่นะ

    นายโกหก อึ่ก...นาย...แค่สงสารฉัน นายไม่ได้รักฉันลีทึกดิ้น

    ไม่ ผมรักพี่ พี่เองต่างหากที่ไม่เคยรักผม

    เชื่อผมนะ ผมรักพี่...ร่างสูงวางคางลงบนไหล่เล็กๆ ของลีทึก

    นายรักฉัน...จิงๆ เหรอ...ร่างบางหันมาสบตากับกับร่างสูง

    แววตาที่ไม่เคยได้จากคังอิน หรือคนไหนๆ แววตาที่ห่วงหาอาทร แววตาแห่งความรักความห่วงใย แววตาที่ดูอบอุ่นเมื่อได้มอง แววตาที่มีเค้าอยู่ในนั้น...

    ดูซิเนี่ย ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้วร่างสูงว่าพลางปาดน้ำตาออกจากแก้มใส

    เดี๋ยวก็หมดสวยหรอก ยิ้มหน่อยสิ ^^”

    ไม่สวยแล้วนายจะไม่รักเหรอ?” ร่างบางถามมองอีกฝ่ายตาปริบๆ

    แหม รักสิครับ น่ารักอย่างเงี้ยซีวอนว่าก่อนจะขโมยหอมจากร่างบางซะฟอดใหญ่

    นายนี่มัน...เมื่อเน็นก็ขโมยจูบฉันไปทีแล้วนะร่างบางพูดงอนๆ

    งั้น...ตอนนี้ขอแล้วกันนะ ^^” ทันทีที่พูดจบ ร่างสูงก็ค่อยๆ ไล้จมูกจากแก้มเนียนลงมาถึงซอกคอขาว ก่อนจะสร้างรอยสีกุหลาบบางๆ ไว้

    อ๊ะ ซีวอนร่างบางเรียกดุๆ

    ม่ะ อุ๊บไม่ปล่อยให้ร่างบางได้ตอบ ซีวอนก็ประกบริมฝีปากลงมากับริมฝีปากอ่อนนุ่มของร่างบาง ลิ้นหนาเลียริมฝีปากที่ปิดสนิท ก่อนจะสอดแทรกลิ้นเข้าไปความหาความหวานในโพรงปากเล็กๆ

    อื้อ...ร่างบางครางประท้วง แต่ร่างสูงก็ไม่ยอมถอนริมฝีปากออกง่ายๆ

    อื้อ..อื้มพยายามผลักคนตรงหน้าออก เมื่อเริ่มรู้สึกว่าขาดอากาศหายใจ

    แฮ่กๆ...จะฆ่ากันรึไงห๊ะ

    “...ผมไม่ฆ่าพี่หรอก กว่าจะได้พี่มาอ่ะยากจะตายชัก - - รักอยู่ได้คังอินน่ะ

    ก็นายไม่เคยบอกฉันนี่มานายคิดยังไง

    ผมบอกพี่ออกจะบ่อน ตอนพี่หลับซีวอนเถียง

    แล้วนายก็ขโมยหอมฉันไปด้วยใช่มะล่ะ - -“

    “-/////- พี่รู้ได้ไงอ่ะ

    ก็วันนี้ตอนที่นายบอก ฉันยังไม่หลับ...

    รู้ว่าผมรัก แล้วทำไมยังบอกว่าตัวเองไม่มีค่าอีกล่ะ

    ก็บอกแล้วไงว่านึกว่านายแค่สงสาร

    “...พี่สัญญากับผมได้มั้ย ว่าพี่จะไม่ทำแบบนี้อีกร่างสูงว่าพลางชำเลืองตาไปมองคัตเตอร์ ที่ลงไปอยู่กับพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

    “...ก็ได้...ถ้านายสัญญา ว่าจะไม่ทำให้ฉันร้องไห้

    งั้นคงไม่ได้หรอกครับซีวอนพูดเสียงเศร้า

    ทำไมถึง...ก่อนที่ร่างบางจะคิดอะไรไปไกลเกิน ซีวอนก็ขัดขึ้นซะก่อน

    เพราะพี่จะต้องร้องไห้ดีใจ ในวันที่ผมขอพี่แต่งงานไง ^^” ร่างสูงยิ้มแป้นจนแก้มเป็นรอยบุ๋ม

    บ้า! ใครจะไปแต่งกะนาย ปล่อยได้แล้วร่างบางดิ้นน้อยๆ ((พอเป็นพิธี - -))

    ไม่ปล่อยหรอก หอมขนาดเนี้ยว่าแล้วก็ขโมยหอมจากคนในอ้อมกอดอีกที

    เอาอีกแล้วนะ ฉันไม่ได้เป็นแฟนนายสักหน่อย มาหอมแก้มฉันได้ยังไง

    คำพูดของลีทึก เล่นเอาซีวอนเอ๋อ...

    ก็พี่...

    ฉันบอกสักคำรึยังว่าฉันรักนายอ่ะร่างบางถาม

    สมองของร่างสูงค่อยๆ ประมวลผลตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนี้...

    พี่ เดี๋ยว ผมรักพี่นะ

    นายโกหก อึ่ก...นาย...แค่สงสารฉัน นายไม่ได้รักฉัน

    ไม่ ผมรักพี่ พี่เองต่างหากที่ไม่เคยรักผม

    เชื่อผมนะ ผมรักพี่...

    นายรักฉัน...จิงๆ เหรอ...

    จริงๆ ด้วย!!! ทึกกี้ยังไม่ได้บอกรักเค้าสักครั้งเลยนี่หน่า O.O

    ดูทำหน้าเข้าสิ ใครมองว่านายหล่อนะ ตาถั่วอ๊ะป่าว

    แล้ว...พี่รักผมมั้ยล่ะครับ

    เปลี่ยนคำได้มั้ย

    พี่ค้าบ

    ก็...รักมั้ง

    อย่ามั้งสิครับ

    ก็ไม่รู้นี่ นายเพิ่งจะมาบอกฉันเอาวันนี้ ฉันเพิ่งจะตัดใจจากคังอินไปนะ

    แต่ผมรักพี่มาตั้งน๊านนนนนนนานแล้วนะ

    ฉันก็รักคังอินมานานแล้วเหมือนกันแหละ

    พี่เลิกพูดถึงคังอินสักทีได้มะ ผมรำคาญ -*-ซีวอนว่า

    ก็ด่ะ...

     

    อ่ะแน่ะ แสดงว่าพี่ก็แคร์ความรู้สึกผมเหมือนกันแหละ

    แหงล่ะ ก็ฉันรักซีวอนนี่ ^^” ร่างบางว่าก่อนจะหันมากอดร่างสูงไว้

    อ้อมกอดอันอบอุ่นที่ไม่เคยได้จากคังอิน...


     

    ใจเกเรๆๆๆๆ นั่นแหละตัวผม

     

    ถ้าไม่หัดให้มันเกเรบ้าง จะมีวันนี้เหรอค้าบ~ มีความสุขอย่างงี้ก็เพราะจายยยยเกเร


    The End.

     

     

    พอลองอ่านเรื่องนี้จนจบดูอีกที ..รู้ว่าไอ้ ++++++ > เนี่ย..มันช่างน่ารำคาญดีเหลือเกิน ไม่รู้จะใส่ทำแมวอะไรเยอะแยะ ..บรรทัดก็เว้นซะบานเบอะ เนื้อเรื่องก็แหม ~ 555555

    ถึงมันจะแปลกจะอะไรก็เถอะ ก็เรื่องแรกนี่หน่า ~ อย่างที่บอก ภูมิใจสุดๆ เลยค่ะ โหะๆ

     

    พระเจ้าอวยพรนะคะ : )

    t em 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×