คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : [SF] ที่ปรึกษา
Date : 2008.09.06
Title : ที่ปรึกษา
Pairing : Siwon X Eeteuk
Author : luvly_Teukkie ((คาราเมลชีสเค้ก))
Rating : PG-13
Author note : อ่านแล้วเฮ่อ.....แต่งอะไรลงไป..ป๊าดีไปป้ะ?? T T
เวลาที่คุณรักใครสักคน คุณก็คงอยากเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุขใช่มั้ยครับ??
...ผมก็เหมือนกัน...
ผมก็อยากให้เค้ามีความสุข...ถึงแม้ว่าในความสุขของเค้านั้น..จะไม่มีผมอยู่ด้วยก็ตาม...
“ฉันจะทำยังไงดีซีวอน.......” เสียงหวานเอ่ยขึ้นประโยคสุดท้าย ก่อนจะฟุบลงร้องไห้กับโต๊ะไม้ตรงหน้า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ..พี่เค้าก็คงแค่หงุดหงิด..ทำงานมาเหนื่อยๆ พี่ก็ต้องเข้าใจ..”
“นั่นสินะ..ยูนิตเอ็ม งานเยอะหนิ...ต้องเดินทางบ่อยๆ ..ฉันมันนอนอยู่บ้าน จะไปรู้อะไร..”
“พี่อีทึก..”
“ฉันเองก็รู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหน..แต่นายคิดดูบ้างสิ..ไม่เจอหน้ากันตั้งกี่วัน ..จะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันบ้างก็ไม่มี..”
“พี่เค้าเห็นพี่พักอยู่ที่บ้านมีคนอื่นคอยดูแล..ก็คงคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรไงครับ” ซีวอนยังคงหาคำพูดมาปลอบใจร่างบอบบางตรงหน้า..คนที่ไว้ใจให้เค้าเป็นที่ปรึกษา...คนที่ให้ความเป็นเพื่อนกับเค้าตลอดมา..
“คิดเองเออเองหมดเลยใช่มะ? ...งั้นตอนนี้ที่ผมคิดว่าฮันรักฉันเนี่ย...ฉันคิดเองเออเองอยู่คนเดียวรึเปล่า?” หลุบตาลงต่ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นกรอกตากลมโตพยายามไล่ความน้อยอกน้อยใจออกไปจากสมอง
...อย่างน้อยพี่ก็ยังได้คิดนะ...
...ผมสิ...ผมไม่เคยมีโอกาสแม้กระทั่งได้คิด..ก็พี่รักพี่ฮันกยองขนาดนี้นี่หน่า...
“ฉันแค่อยากให้เค้าใส่ใจผมบ้าง..สนใจความรู้สึกฉันบ้าง..ฉันผิดเหรอ?”
ไม่หรอกฮะพี่อีทึก..พี่ไม่ผิด...ผมเองก็รู้สึก..
ผมก็อยากให้พี่ใส่ใจผมบ้าง ...สนใจความรู้สึกผมบ้าง..
“ไม่ผิดหรอก..พี่ใจเย็นๆ เถอะนะ พี่ยิ่งอารมณ์ร้อนก็จะยิ่งพูดกันไม่รู้เรื่องไปใหญ่” เอื้อมมือไปแตะบ่าอีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ
“ขอบใจนะ...”
“อะไรอีก? นี่ผมก็เหนื่อยจะแย่แล้วนะ”
“เอะอะก็เหนื่อย! เอะอะก็เหนื่อย! เรียววุคเค้าก็อยู่ยูนิตเหมือนกับนาย ทำไมเค้ายังมีเวลาไปใส่ใจเยซองได้เลย??” เสียงหวานตะโกนอย่างเหลืออด
“ที่เรียววุคเค้าต้องห่วงเยซองก็เพราะเยซองเค้าไม่สบายไงครับ ก็เห็นว่าพี่ไม่เป็นอะไร สบายดี..แล้วผมจะต้องถามทำไมกัน??” ตอกกลับไปอย่างไม่ใส่ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปอย่างหงุดหงิด
“ฮึก... ใช่สิ! ฉันไม่เหนื่อยเลย...ไม่เหนื่อยเลยกับการรอคอยการกลับมาของนายในแต่ละวันแบบนี้น่ะ!!” ตะโกนไล่หลังคนที่ปิดประตูไปแล้วทั้งน้ำตา...
..คนที่รักกันเค้าทำกันแบบนี้น่ะเหรอ...
ซีวอน..นายรีบๆ กลับมาเถอะนะ.........ฉันคิดถึงนายจะแย่แล้ว ...
“อ้าว..ยังไม่นอนอีกเหรอครับ?” เสียงเข้มเอ่ยทักคนที่นอนอยู่บนเตียงหลังจากกลับมาจากการถ่ายรายการ ...ปกติป่านนี้น่าจะนอนแล้วนี่หน่า..
“..ป่านนี้ยังไม่นอนเดี๋ยวก็เป็นหมีแพนด้าหรอก” เอ่ยบอกอีกคนขำๆ ก่อนจะไปทิ้งตัวลงบนเตียงเคียงข้างอีกคนที่ดูจะไม่ขำไปด้วยเท่าไหร่นัก
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
แทนคำตอบที่ควรจะได้รับ กลับกลายเป็นการโอบกอดจากร่างบางแทน..
“เป็นอะไรพี่อีทึก??”
“ฮึก..”
“ทะเลาะกับพี่ฮันกยองมาอีกแล้วใช่มั้ย..” เอ่ยถามพร้อมๆ กับลูบผมคนในอ้อมกอดอย่างปลอบโยน
“อือ.. ฉันไม่เข้าใจเลยซีวอน..ฮึ่ก..”
ร่างสูงเงยหน้ากันไม่ให้น้ำตาที่รื้นขึ้นมาอยู่ที่ขอบตาไหลลงมา
อารมณ์นี้ไม่ใช่สงสาร...หากแต่เมื่อไหร่ที่อีทึกเจ็บ...เค้าเองก็เจ็บไม่แพ้กัน..
ถึงจะรักคนตรงหน้านี้มากแค่ไหน..แต่ก็เข้าใจดีว่าความรักของอีทึกไม่ได้มีไว้เพื่อเค้า..
เข้าใจดีว่าความรักนั้นมีไว้เพื่อใคร..
เข้าใจดีว่าน้ำตาแต่ละหยด...เกิดจากความรัก..เพราะรัก..ถึงได้แคร์ขนาดนี้..
แล้วเค้าจะหาที่ว่างตรงไหนแทรกลงไปได้?...
“ฉันแค่อยากให้เค้าสนใจฉันบ้าง..ถามไถ่ฉันสักคำ..แค่นั้นจริงๆ ...”
“..”
“ฉันแค่อยากมั่นใจ..ว่าเค้ายังรักฉัน..”
“ผมเข้าใจ...เมื่อไหร่ที่รักใครสักคน..ก็อยากได้ความรักตอบมันเป็นเรื่องธรรมดา... แต่บางทีการแสดงออกของคนเรามันไม่เหมือนกันนะครับพี่อีทึก.. บางทีพี่ฮันเองเค้าก็อาจจะไม่เข้าใจวิธีการแสดงความรักของพี่ก็ได้..และบางทีพี่เค้าก็อาจมีวิธีของเค้าที่กำลังทำอยู่แล้วพี่ไม่เข้าใจ..”
“..งั้นเหรอ?” ผละออกจากอกที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา ช้อนตาโตๆ ขึ้นมองเพื่อนรัก
“อื้ม..หยุดร้องได้แล้ว เดี๋ยวไม่สวยนะ..” เอ่ยบอกพร้อมด้วยรอยยิ้มจางๆ ..
พี่คงดูไม่ออกใช่มั้ยว่าผมกำลังฝืน
...ฝืนยิ้ม...
...ฝืนพูด...
...ฝืนปลอบ...
...ฝืนยิ้ม... ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วผมกำลังปวดแปลบๆ ที่คอ.....อืม..อาการของคนอยากจะร้องไห้
...ฝืนพูด... ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วผมไม่ได้อยากพูดให้พี่กลับไปดีกับพี่ฮันกยอง...อืม..ผมอยากให้พี่ทะเลาะกันไปแบบนี้...
...ฝืนปลอบ... ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว..ผมอยากจะซ้ำ..อยากเติมความผิดให้กับพี่ฮันกยอง ...ผมอยากให้พี่...เลิกกัน...
อาการของคนอยากจะร้องไห้ ผมเป็น...เพราะผมรักพี่..เจ็บไปกับพี่..และเจ็บไปกับความงี่เง่าของตัวเอง ที่ยอมทนเจ็บมาตลอด...
ผมอยากให้พี่ทะเลาะกันไปแบบนี้ เพราะผมหวังว่าจะมีที่ว่างให้ผมได้แทรกไปบ้าง...ทั้งๆ ที่ก็รู้..ว่าไม่มีทาง
ผมอยากให้พี่...เลิกกัน... เพราะผมรักพี่...
แต่ทุกๆ อย่างที่ฝืนทำไป...........ก็เพราะผมรู้ดีเสมอ...
ว่าสำหรับพี่แล้ว...
ผมเป็นใคร...
และเค้าเป็นใคร..
“ฉันดีใจที่มีนายเป็นเพื่อนนะ ^^ นายเข้าใจฉันมากกว่าใครๆ เลย...ฉันรักนายจัง
นายห้ามทิ้งฉันไปไหนนะ” โอบกอดอีกคนไว้แน่นกว่าเดิม ซุกตัวเข้ากับอ้อมกอดของ ‘เพื่อน’ ด้วยรอยยิ้ม
...จะคอยดูแล เป็นแค่เพื่อนคนเก่า
...แม้ใจของเราเหงาไป ไม่เป็นไร
...แต่แค่ได้เห็น ขอแค่เป็นคนเข้าใจ
...ให้รักของเธอปลอดภัย ได้อยู่กับเขา...
“ไหนว่ารักไง??”
“รักแล้วทำไมทำแบบนี้... รักแล้วไม่ใส่ใจกันแบบนี้..อย่ารักเลยจะดีกว่ามั้ย???”
“ตามใจพี่แล้วกัน อยากจะเลิกก็เลิกไปเลย!!” เสียงตวาดดังลั่น ตามมาติดๆ ด้วยเสียงประตูที่ดังไม่แพ้กัน ส่งผลให้ร่างบางประคองตัวเองไว้ไม่ไหวอีกต่อไป..
แต่ก่อนที่ร่างนั้นจะทรุดตัวลงกับพื้นแข็งๆ ก็มีร่างของใครอีกคนมารับไว้ซะก่อน..
“ซีวอน...นายมาถูกเวลาเสมอเลยนะ..”
ผมไม่ได้มาถูกเวลา..แต่ผมอยู่ตรงนี้ตลอดต่างหาก..
“ฉันคง...อกหัก...จริงๆ แล้วล่ะ ฮึก..”
“ฉันผิดเองที่ยื้อทุกอย่างให้ยิ่งแย่ลงแบบนี้..” เสียงหวานยังคงเอ่ยพร่ำเพ้อ..ขณะที่อีกคนได้แต่สะกดเอาความเจ็บปวดของตัวเองไว้
“ผมผิด..ที่ยื้อให้พี่เชื่อมั่นมาตลอดต่างหากพี่อีทึก..” ซีวอนเอ่ยขึ้นบ้าง
“ไม่หรอกนายไม่ผิด...”
“ขอโทษนะครับ...” ผมคิดว่าทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพี่ซะอีก...ผมขอโทษ
“ช่างเถอะนะ..บอกแล้วว่านายไม่ผิด”
“...”
“พยุงพี่เข้าห้องหน่อยได้มั้ย..หมดแรงจะเดินแล้ว”
“อื้อ..” รับคำสั้นๆ ก่อนจะพยุงร่างบางขึ้น
“รบกวนนายอีกแล้ว..”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“พึ่งแต่นายตลอดเลย..พี่นี่ใช้ไม่ได้เลยเนอะ..หึหึ” เค่นหัวเราะให้กับตัวเองเบาๆ อย่างดูแคลน
“ถ้าไม่มีนาย..พี่จะอยู่ได้มั้ยนะ”
“ได้สิ~ ...ถามว่าถ้าพี่ไม่มีฮัน...พี่จะอยู่ได้มั้ยดีกว่า..” ประโยคที่สร้างความเจ็บปวดให้ทั้งคนฟังและคนพูดนั้น..ส่งผลให้ห้องนั้นเงียบสนิทลง
“ขอโทษที่พูดแบบนั้น..” ซีวอนว่า
“ช่างเถอะ..ฮันเค้ายังไม่แคร์ความรู้สึกพี่เลย..นายจะแคร์ไปทำไมกัน”
“ก็ผมรักพี่..”
“ขอบใจนะ..” คำว่ารักที่ทั้งสองคิดในความหมายต่างกัน...
ผมรักพี่เหมือนที่พี่รักพี่ฮันกยอง
...แต่พี่ไม่ต้องการหรอกใช่มั้ย...
“ถ้านายเป็นฮันก็คงจะดี..”
จะให้ผมเป็นได้มั้ยล่ะ?
...แค่ตัวแทน..ผมก็ยินดี
“พี่รักพี่ฮันกยองมากเลยใช่มั้ย...”
“อื้ม..มาก.........มากที่สุดเลย....” พูดจบน้ำตาก็ร่วงเผาะอย่างห้ามไม่ได้..เมื่อลองคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่มีฮันกยองอยู่ข้างๆ อีกแล้ว..
“บางทีวันนี้พี่สองคนอาจจะอารมณ์ร้อนเกินไปก็ได้...บางทีที่พี่ฮันพูดอาจจะไม่ได้ตั้งใจ..”
“...ไม่ต้องปลอบฉันหรอก...ฉันไม่ได้โง่นะซีวอน...”
“แต่พี่อาจจะเข้าใจผิดก็ได้...เอาไว้พี่ฮันกลับมา..ผมจะไปคุยให้รู้เรื่อง..”
“ไม่ต้องหรอก...ฉันทำเค้าลำบากใจมามากพอแล้ว...”
ทั้งๆ ที่คิดว่าจะไม่พูดอีกแล้ว...
แต่ถ้าจะให้อยู่เคียงข้างอีทึกที่ไม่ยิ้ม ไม่ร่าเริง ไม่หัวเราะ...ไม่มีความสุข
เค้าเองก็ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร...
ก็ในเมื่อทุกวันนี้..เค้าอยู่เพราะความสุขของอีทึกนี่หน่า..
รอยยิ้มของพี่ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อผม...อย่างน้อยๆ ให้ผมมีโอกาสได้มองมันไปแบบนี้เถอะนะ...
“ถือซะว่าให้ผมทำในสิ่งที่อยากทำนะพี่อีทึก..ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ผมเป็นที่พึ่งให้พี่มาตลอด..”
“แต่นายไม่ได้อะไรเลยนะ..”
“นั่นแหละคือสิ่งที่ผมต้องการ..” ยิ้มให้คนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
..ได้สิครับ..
ผมได้ตั้งหลายอย่างพี่รู้มั้ย..
ตอนนี้ผมจะได้ความเจ็บปวด..
แต่ต่อไปผมจะยิ้มกับความสุขของพี่...
ขณะที่ก็ต้องร้องไห้กับความสุขของพี่เช่นกัน...
เห็นมั้ยล่ะ...ผมได้อะไรเยอะแยะเลย...
...รู้...ว่าผมเองต้องเสียใจ...
...แต่ก็ยอมเพราะใจมันรักเธอมากกว่า...
...รัก...จึงต้องเก็บซ่อนน้ำตา...
...จะยอมเป็นที่ปรึกษา ให้เธอได้รักกัน...
ร่างสูงยืนพิงประตูนิ่งๆ ปล่อยให้ธารน้ำตาหลั่งรินไปเรื่อยๆ จนพอใจ...จึงคิดจะปาดมันออกจากใบหน้า แล้วเดินตรงไปยังห้องของฮันกยอง...
อะไรที่เป็นความสุขของพี่ผมก็จะทำอีทึก...
การได้อยู่เคียงข้างพี่ในฐานะ ‘ที่ปรึกษา’ ก็ดีเกินพอ...
อย่างน้อยการได้รับรอยยิ้มขอบคุณ...กอดอุ่นๆ ในแบบเพื่อน...แค่นั้นก็ดีเหลือเกินแล้ว...
ผมอยากให้เค้ามีความสุข...ถึงแม้ว่าในความสุขของเค้านั้น..จะไม่มีผมอยู่ด้วยก็ตาม...
The End.
t em
ความคิดเห็น