คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [SF] Falling in love
Date : 2008.09.01
Title : Falling in love [ตกหลุมรัก(เธอทุกวัน)]
Pairing :Siwon X Eeteuk
Author : luvly_Teukkie ((คาราเมลชีสเค้ก))
Rating : PG-13
Author note : 1st Aniversary Fiction~!! ,,ฉลอง 1 ปีบ้านแองเจิ้ลเทลที่แสนอบอุ่นค่ะ ,,>< โฮ่~ ภาคภูมิใจเหลือเกินน
ทุกคนครับ..รู้จักอาการของคนตกหลุมรักรึเปล่า?? มันเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นเมื่อเห็นสักคนที่ถูกใจ...เป็นอาการแรกเริ่มของคนที่จะรักใครสักคน อาการที่เห็นคนคนนั้นแล้วใจเต้นตึกตัก...เห็นคนคนนั้นแล้วหวั่นไหว
แต่คุณรู้มั้ยครับ ว่าอาการแบบนี้มันจะเริ่มหายไป เมื่อได้รู้จักกับความรักนั้นแล้ว...วันเวลาทำให้คำว่า ‘ตกหลุมรัก’ หายไป....บางคนก็ว่าขึ้นมาจากหลุมนั้นได้แล้วเพราะคนรัก....แต่สำหรับผม....................การได้ตื่นมาพบคนรักทุกเช้า...มันคือการ ‘ตกหลุมรัก’
ยังไงน่ะเหรอ...............
...เวลาอยู่ใกล้เธอ ฉันชอบวิธีที่เธอคุยกับฉัน เวลาเธอซุ่มซ่าม มันทำให้ฉันอดยิ้มไม่ได้
สวัสดีครับ~ ผมชเว ซีวอนครับ...คนรักสุดหล่อของปาร์ค จองซู หรือที่ทุกคนเรียกว่าอีทึกนั่นแหละครับ...คนรักของผม...พี่อีทึกที่น่ารัก...พี่อีทึกของผม
“ซีวอน กินข้าวเร็ว” เสียงใสของใครบ้างคนที่กำลังนึกถึงลอยแว่วเข้ามาในโสตประสาท เรียกให้คนที่นั่งคิดอะไรเพลินๆ หันควับไปมอง
“กินพี่อีทึกได้ม้า~” หันไปตอบอ้อนๆ อย่างเป็นปกติ อีทึกเองก็ได้แต่ยิ้มให้กับความหื่นของเจ้าซิมบ้าตัวนี้
“เร็วๆ เถอะหน่า ถ้าไม่รีบมากินข้าว คืนนี้นอนคนเดียวด้วย” แลบลิ้นหยอกเย้าให้คนรักอย่างเคยตัว ก่อนจะวิ่งหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ไวเท่ากับสิงโตที่รอตะปบอยู่หรอก...
“มานี่เลยยย” คว้าเอาเอวคอดมากอดไว้แน่นๆ แล้วไซร้จมูกโด่งไปกับแก้มนุ่มอย่างอย่างหมั่นเขี้ยว
“ปล่อยๆๆๆ ไปกินข้าวได้แล่ว” ก้มหน้างุดหนีสันจมูกที่หยอกล้อกับแก้มเนียนไม่เลิกรา มือบางตีไปที่แขนแกร่งเบาๆ เป็นเชิงให้ปล่อย
“ฮะๆๆๆ คร้าบๆ ไปกินข้าวละๆ”
“มาเรียกนายนี่เปลืองตัวทุกทีเลย” ทิ้งคำว่าไว้เปรยๆ ก่อนร่างเล็กที่ซีวอนรักนักหนาจะเดินออกจากห้องไป...
นั่นล่ะครับ...สุดที่รักของผม...น่ารักที่สุดในโลกเลย~ คำพูดที่มาพร้อมกับรอยยิ้ม เสียงอ่อนโยนหวานหู.....ทุกๆ อย่างที่ทำให้ผมหลงใหล...ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ก็ตาม..
“นั่งเร็วๆ เข้าซีวอน” เสียงเจ้าหญิงของวงอย่างฮีชอลเร่งเจ้าสิงโตที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้อง
“คร้าบ~” ร้องรับคำ ก่อนจะวิ่งไปนั่งข้างๆ อีทึกอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ ซีวอน ฉันนั่งอยู่ก่อนนะ ลุกไปเลย จะนั่งกับพี่อีทึก” ดงแฮว่าหน้ามุ่ย เมื่อถูกคนตัวสูงแย่งที่นั่งข้างๆ พี่อีทึกสุดที่รักไป
“ไม่เอาอ่ะ ผมขอนะพี่” ทำหน้าออดอ้อนซะเต็มที่...
“นี่ หยุดเลย ถ้าเป็นคนอื่นทำก็น่ารักหรอกนะ แต่นายน่ะ อย่าได้ทำท่าอ้อนแบบนี้กับใครอีกเลย..ขนลุก” ทำหนาขยะแขยงซะเต็มที่ ก่อนมือบางจะเอื้อมไปคว้าแก้วน้ำที่ดื่มไปแล้ว ไปนั่งลงข้างๆ คิบอมแทน
“ขอบคุณพระเจ้ากัน” เป็นประจำที่เมื่อมีโอกาสได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันเมื่อไหร่ พวกเราจะจับมือกันเป็นวงกลม อธิษฐานขอบคุณสำหรับอาหารตรงหน้าร่วมกัน..และพี่อีทึก ก็จะเป็นผู้นำในการอธิษฐานเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน
“ข้าแต่พระบิดาเจ้า...” เสียงหวานใสเอื้อนเอ่ยมาจากริมฝีปากบาง ใบหน้ายามหลับตาพริ้มช่างดูน่าหลงใหลไม่ตางกับตอนลืมตา...นี่ใช่มั้ย เจ้าสาวในอนาคตของผม...ว้าว~ ((=[]=))
หลังจากทานอาหารเสร็จ พี่อีทึกกับดงแฮก็รับหน้าที่ล้างจานไปในวันนี้...ทั้งสองคนดูจะมีความสุขกันเกินไปจนผมเริ่มเคือง..
“พี่อีทึก”
เพล้ง!!~
ทันทีที่สิ้นเสียงเรียกของผม จานใบสวยในมือที่สวยกว่าก็ร่วงลงสู่พื้นแล้วแตกออกเป็นชิ้นๆ
“พี่อีทึก!~ มันใบที่เท่าไหร่แล้วน่ะ??” ผมถามออกไปเสียงดัง ก็อาทิตย์นี้ ผมเห็นพี่อีทึกทำของตกแตกไม่ต่ำกว่า 5 ชิ้นแล้วหนิครับ...
“ง่า...เก็บๆๆ” ก้มลงเก็บเศษจานที่แตกกระจายอยู่บนพื้นอย่างร้อนรน กลัวว่าจะมีคนเดินผ่านมาเหยียบจนไม่ได้ทันได้ระวัง บาดมือตัวเองเข้าเต็มๆ
“โอ้ย เจ็บ~” บีบนิ้วที่ถูดบาดแน่น หลับตาปี๋เพราะความเจ็บปวด
“โธ่ พี่อีทึก..ทำไมซุ่มซ่ามขนาดนี้ล่ะฮะ??” ดงแฮเอ่ยถามพี่ชายอย่างปลงๆ
“ก็...” หมดคำจะแก้ตัว ก็ในเมื่อสิ่งน้องรักพูดมา..มันคือเรื่องจริง!!
“..เรื่องจริง เถียงไม่ออกล่ะสิ” ซีวอนที่ยืนดูอยู่นานเอ่ย
“ฮึ” พองลมที่แก้มอย่างขัดใจ...ทำเอาอีกคนที่มองอยู่อดที่จะคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้ ก็ท่าทางที่ดูเหมือนเด็กๆ นั่นน่ะ...พี่ฮีชอลที่อายุเท่าๆ กันกับพี่อีทึก เค้ายังไม่ทำเลยหนิ...
...เธอคงไม่รู้ตัว ฉันชอบที่เธอชอบร้องเพลงผิดคีย์ มันดูน่ารักดีเธอทำให้โลกสดใส
“ไปซ้อมกันเถอะ” เสียงหวานๆ ของฮีชอลร้องเรียกน้องๆ ในวงที่หลังจากกินก็นอนกันระเกะระกะเต็มห้องไปหมด
“คร้าบ..” เสียงของหนึ่งในนั้นตอบกลับมา ทำเอานางพญาอย่างฮีชอลต้องส่ายหัวอย่างเอือมๆ
“แล้วนี่อีทึกกับซีวอนไปไหนซะล่ะ” หลังจากกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง ก็พบว่าเมมเบอร์สุดหล่อกับลีดเดอร์สุดสวยหายไปทั้งคู่เลย
“พี่อีทึกโดนเศษแก้วบาดน่ะครับ ซีวอนมันคงไปทำแผลให้” ดงแฮซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตลอดเอ่ยขึ้น
“อีทึก!!~ นายร้องท่อนนี้เพี้ยนมาสิบแปดรอบแล้วนะ” ฮีชอลว่าอย่างเหลืออด เมื่อทุกท่อนของเพลงที่เสียงหวานๆของอีทึกร้องมันช่างไพเราะ เว้นแต่ท่อนนี้ท่อนเดียว ที่ไม่ว่าจะร้องยังไง มันก็ยังผิดคีย์อยู่อย่างนั้น
“...ก็เปลี่ยนท่อนให้ไม่ได้รึไง ยังไงเพลงนี้มันก็ไม่ใช่เพลงของเราอยู่แล้วนี่ ร้องครั้งนี้ครั้งเดียว เปลี่ยนท่อนไม่ได้เหรอ”
“นายอย่าทำตัวเป็นเด็กไปหน่อยเลยหน่า ทำให้มันได้ซี่~”
“แต่..” ทำท่าจะค้านต่อ แต่จากสายตาของฮีชอลแล้ว..ไม่ขัดจะดีกว่า.......แต่...................ตกลงที่เค้าหรือฮีชอลกันแน่น่ะ ที่เป็นลีดเดอร์!!!!!!!
“เยซอง นายไปช่วยอีทึกทีสิ ฉันปวดหัวแล้ว” นิ้วเรียวนวดขมับตัวเองเบาๆ กับอาการไม่รู้จักโตของคนที่โตที่สุดในวงอย่างอีทึก..........
“พยอล ดือ รี นอ เอ กู มึล ชี กยอ จุล กอ ยา~” เสียงหวานใสที่ติดจะผิดคีย์อยู่ไม่น้อย พยายามร้องท่อนเดิมซ้ำไปซ้ำมา
แต่มันร้องไม่ได้หนิ ให้ทำไงเล่า!!?
“พี่อีทึก”
“อ่ะ เยซอง..”
“เป็นอะไรครับ ทำไมร้องไม่ได้ล่ะ??”
“ก็ไม่รู้ มันร้องไม่ได้ ไม่รู้~~~” สะบัดหัวแรงๆ อย่างไม่พอใจ ทำไมทำไม่ได้เล่า!!!~
“ฮะๆๆ” เยซองหัวเราะชอบใจกับการกระทำที่ดูเหมือนเด็กๆ ของพี่อีทึกนั้น เสียงหัวเราะของเยซอง เรียกให้คนที่จ้องพี่อีทึกอยู่ หัวเราะตามออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ฮะๆๆๆๆๆ”
“พวกนายหัวเราะอะไรกันเล่า!?!”
“ก็พี่เหมือนเด็กๆ เลยหนิ” เสียงของคนรักไขความสงสัยให้อีทึก
“นายก็ด้วยเหรอไง?? ฮึ ไม่ร้องแล่ว” กอดอกเชิดหน้าอย่างงอนๆ จนคนข้างกายต้องคว้าเข้ามากอดให้หายหมั่นเขี้ยว
พี่จะน่ารักเกินไปแล้ว!!~
“ปล่อยน้า~” ทุบลงไปที่แขนแกร่งนั่นแรงๆ เสียที ก่อนจะออกแรงดิ้นให้หลุดจากวงแขน
“ไม่ปล่อย” ตอบไปสั้นๆ ง่ายๆ....ดิ้นก็ไม่หลุดหรอกหน่า ผมรู้
ทุกอย่าง ทุกการกระทำของพี่อีทึกมันดูน่ารักไปหมด...จะยิ้ม จะหัวเราะ จะงอน หรือแม้แต่ร้องเพลงผิดคีย์...มันก็น่ารักไปหมดทุกอย่างล่ะครับ...น่ารักจนบางครั้งผมเองยังกลัว ว่าจะต้องเสียคนคนนี้ไป เพราะผมไม่ใช่คนที่ดีทีสุดบนโลกใบนี้...ถ้าวันนึงมีคนที่ดีกว่าผมมาตกหลุมรักพี่อีทึกบ้างจะทำยังไง???
มีเหตุผลนับเป็นร้อยเป็นพันที่ทำให้ฉันนั้นต้องรักเธอ
...ไม่เบื่อสักครั้งที่ต้องพูดคำเดิม ฉันชอบบอกว่ารักเธอ
“เหนื่อยชะมัด..” ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างอย่างเหนื่อยล้า..แต่ไม่ใช่เหนื่อยกับการซ้อมเช่นทุกวัน แต่วันนี้ออกจะเหนื่อยกับการโต้ว่าทีกับคิม ฮีชอล แล้วก็งัดมือปลาหมึกของเจ้าซิมบ้าออกจากเอวต่างห่าง~
“ปกติไม่เห็นจะบ่น..”
“ก็นายนั่นแหละ..เกาะอยู่ได้~” บ่นงึมๆ งัมๆ ก่อนจะรูดเอายางมัดผมออก
“วันนี้ขี้บ่นจัง~” ว่าแล้วก็เดินไปกอดคนที่นั่งอยู่บนเตียงแบบเนียนๆ
“เบื่อก็ไปไกลๆ เลยสิ ฮึ~” พูดจบก็หันหนีหน้าหล่อๆ ที่วางเกยอยู่บนไหล่ของตัวเองไปอีกทาง
“ใครจะเบื่อพี่อีทึกได้ลงคอล่ะฮะ??”
“จะไปรู้เหรอ...ก็...สามปีแล้วนี่หน่าที่เราอยู่ด้วยกันมาน่ะ..กลัวว่านายจะเบื่อคนซุ่มซ่าม ไม่ได้ความอย่างพี่..” หันไปสบตาหวานเชื่อมของซีวอนแล้วก็ต้องหลุบตาลงต่ำอย่างเขินๆ
...สายตาอบอุ่นที่ไม่ว่ามองเมื่อไหร่ ใจก็ยังเต้นแรงได้เสมอ...
“ผมรักพี่จะตาย..รักที่สุดเลย..” เน้นความรู้สึกด้วยการหอมแก้มคนตัวเล็กในอ้อมกอดเบาๆ
“คึๆ” หัวเราะเบาๆ ย่นคอหลีกปลายจมูกรั้นที่ไล้ไปตามซอกคอขาวอย่างหยอกล้อ
“พี่รักผมมั้ย? ผมรักพี่น้า~” กระชับกอดคนตัวเล็กให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
“รู้แล้ว..”
“รักจริงๆ นะ^^”
“รู้แล้ว~ พูดอยู่ได้ไม่เบื่อเรอะ?”
“ไม่เคยเบื่อเลยฮะ~ ยินดีจะพูดต่อไปอีกสิบปี ยี่สิบปี ..ยินดีจะพูดไปจนวันตาย..ชเว ซีวอนรักปาร์ค จองซู ชเว ซีวอนรักปาร์ค จองซู ชเว ซีวอนรักปาร์ค จองซู ชเว ซีวอนรักปาร์ค จองซู”
“พอแล้ว~! เสียงดังทำไมเล่า”
“กลัวคนอื่นไม่รู้นี่หน่าว่าพี่เป็นของผม~!!”
“ไม่เห็นต้องกลัวเลย..ไม่มีใครเค้ามาสนใจพี่หรอก” หันไปทำตาแบ๊วใส่อีกคนมองกลับมาอย่างระอาใจ
“พี่เคยรู้อะไรบ้างมั้ยฮะ?”
“..ทำไมอ่ะ”
“เฮ้อ~ พี่ยิ้มทีคนที่เค้ามองอยู่ก็เพ้อแล่ว”
“จริง??”
“โกหกได้อะไรเหรอครับ?”
“...”
“เอาเถอะฮะ เลิกสนใจคนอื่นดีกว่า..เอาเป็นว่าพี่รักผมมั้ยก็พอ..” เบี่ยงประเด็นกลับมาที่เดิมอย่างรวดเร็ว จ้องมองกดลึกเข้าไปในดวงตาหวานที่หลงใหลมาตลอดสามปีอย่างหาคำตอบ
“...”
“ผมรักพี่นะฮะ..ผมพูดออกจะบ่อย แต่นานน๊าน~ ทีพี่จะบอกผมสักครั้ง..น่าน้อยใจนะเนี่ย~”
“เรื่องของนายสิ...”
“ง่า~ จริงๆ แล้วพี่ไม่รักผมล่ะสิ”
“ใช่..คบไปงั้นๆ แหละ แก้เซ็ง~”
“....”
“คิดจริงจังไปได้...พี่ก็รักนายนั่นแหละ..ปาร์ค จองซูก็รักชเว ซีวอน ^^” ระบายยิ้มหวานฉ่ำให้อีกคน ก่อนจะจุ๊บริมฝีปากได้รูปนั้นเร็วๆ ทีนึง
“พี่อีทึก..”
“พี่รักนาย..รักมากขึ้น..มากขึ้นทุกวันเลย~”
“แล้วก็จะรักแบบนี้ตลอดไป..ตราบเท่าที่นายยังต้องการ..พี่ก็จะยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน จะอีกสามสิบสี่สิบปี..พี่ก็จะอยู่ข้างๆ นายแบบนี้แหละ~”
“จริงๆ นะครับ..”
“อื้ม ^^” แตะหน้าผากมนลงกับหน้าผากของอีกฝ่าย ก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
ใบหน้าหวานที่คุ้นเคย..ยังคงทำให้ใจของเค้าเต้นถี่ระรัวได้ทุกครั้งเมื่อได้แลสบในระยะประชิด..กลิ่นแชมพูอ่อนๆ ที่คุ้นจมูกมาตลอดสามปีก็ยังทำให้เค้าหลงใหลอยู่อย่างนั้น
รวมถึงริมฝีปากน่ากดจูบนั้นก็อีก..ไม่ว่ากี่ครั้งที่ได้สัมผัส..
ก็หลงใหลไม่รู้เบื่อ..
“จูบนะ..” คำขอที่ไม่ต้องการคำอนุญาต ถูกเอื้อนเอ่ยอย่างแผ่วเบาท่ามกลางความเงียบของห้อง...ก่อนริมฝีปากหนาจะทาบทับลงบนกลีบปากบางอย่างไม่ลังเล แล้วเรียกร้องหาสัมผัสที่ลึกซึ้งขึ้น..
“อื้อ..” เสียงครางประท้วงดังขึ้นในลำคอเมื่อมือหนาเริ่มซุกซนมากขึ้นทุกที ..ทุกที..
“ฉลองกันเถอะนะฮะ ^^” อีกครั้งที่คำเชิญชวนนั้นไม่ต้องการคำตอบ.. ร่างบางถูกกดลงเตียงอย่างนุ่มนวล .... มือหนาค่อยๆ ไล้ไปตามแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา..แก้มใสๆ ที่มักจะขึ้นสีแดงระเรื่อในเวลาเขินอาย..ยังสร้างรอยยิ้มให้คนมองได้เสมอ...
เมื่อเห็นคนรักของตัวเองยิ้ม..รอยยิ้มสดใสของร่างที่เล็กกว่าก็ผุดขึ้นมาบ้าง
และรอยยิ้มหวานๆ ที่แสนอบอุ่นรอยนี้..ก็ยังคงทำให้หัวใจเต้นแรงเหมือนวันแรกได้พบ..
และรอยยิ้มนั้นก็เรียกร้องให้ซีวอนต้องประทับจูบลงบนกลีบปากนุ่มนั้นอีกครั้ง..
...แล้วความอบอุ่นก็ยังคงถูกส่งผ่านให้กันตลอดทั้งคืน
...มันตกหลุมรักเธออย่างนี้ทุกวันไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน...
...ก็ยังตกหลุมรักเธอได้ทุกๆวัน มีแต่เธอในหัวใจ
...รู้สึกเหมือนเราเพิ่งเริ่มรักกันเคยเป็นไงก็เป็นงั้น
...ยิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งรู้ใจกัน เธอมาทำให้ทุกวันเป็นวันแรกเจอ
...เวลาตื่นเช้ามาฉันชอบที่ฉันได้เจอเธอก่อนใคร
...อะไรที่วุ่นวายก็ลืมไปเลยเมื่อฉันมีเธอ
...เธอคงไม่รู้ตัวฉันชอบวิธีที่เธอมาเปลี่ยนฉัน
...ให้เป็นคนสำคัญไม่มีใครดีเท่าเธอ...
แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า เรียกให้ซีวอนที่นอนหันหน้าสู้แดดต้องเป็นฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนอย่างเลี่ยงไม่ได้
“อือ..” ครางในลำคอเบาๆ อย่างหงุดหงิด..ในเมื่อวันที่ไม่งานยามเช้าแบบนี้..ทำไมเค้าจะต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้าด้วยล่ะ? ...แต่แล้วใบหน้าที่ยุ่งเหยิงนั้นก็ต้องถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มเมื่อได้เห็นคนที่นอนซุกตัวอยู่ในอ้อมกอด
ใบหน้าขาวใสของจองซูยามหลับ..ก็ยังเป็นอะไรที่น่าหลงใหลเสมอ..
และก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไป..
“อืออ..” เสียงหวานครางเครือแผ่วเบา ขยับซุกตัวหนีแสงแดดที่เริ่มลามมากระทบเปลือกตาของตัวเองบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมลืมตาตื่นในที่สุด
“ซีวอนตื่นแล้วเหรอ..” มือบางยกขึ้นขยี้ตาตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอ่ยปากถามอีกคนที่ส่งยิ้มมาให้แต่เช้า
“ครับผม ^^” ตอบรับขณะยังไม่ละสายตาไปจากคนตัวเล็กที่หัวยุ่งๆ ในอ้อมแขนของตัวเอง
สาบานได้ว่าจะไม่ยอมให้ใครเห็นพี่อีทึกในสภาพนี้แน่นอน~
“วันนี้อยากอู้งานอ่า~”
“หา~! อะไรทำให้ลีดเดอร์จอมขยันคิดอย่างนั้นเนี่ย??”
“นายน่ะแหละ...” พองลมที่แก้มอย่างเคืองๆ พลางส่งสายดุๆ ไปให้อีกคนด้วย
“อะไรกัน..”
“ไม่ต้องมาพูดเลย.. บอกให้พอ ให้พอ ฟังกันสักคำมั้ยเล่า~!”
“ก็วันครบรอบมันมีปีละครั้งเองนะครับ”
“นายก็อย่างงี้ตลอดอ่ะ วันเกิดนายก็มีปีละครั้ง วันเกิดพี่ก็มีปีละครั้ง อะไรๆ ก็ปีละครั้ง..เดี๋ยวมันครบ 365 วันขึ้นมาล่ะซวยเลย = =”
“โอ๋ๆ อย่าโกรธผมเลยน้า ทำเพราะรักหรอก..” ส่งยิ้มทะเล้นๆ ไปให้อีกคนที่ยังค้อนมาให้
“ไม่พูดด้วยแล้ว..อาบน้ำ..” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปทางห้องน้ำทันที
ปั้ก~!
“โอ้ยย” เสียงหวานร้องลั่นเดินไปเตะกับประตูห้องน้ำเข้าอย่างจัง
“พี่อีทึก~ ซุ่มซ่ามแต่เช้าเลยนะคร้าบบบ”
“เงียบหน่า~!!”
“ฮ่าๆๆ”
...เวลาอยู่ใกล้เธอ ฉันชอบวิธีที่เธอคุยกับฉัน เวลาเธอซุ่มซ่าม มันทำให้ฉันอดยิ้มไม่ได้
The End.
ความคิดเห็น