คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [Poison : 09] Devilish
Devilish
“เจ็บ..” เสียงหวานร้องแหบพร่า เรียวขาเล็กสั่นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทว่าก็ไม่สามารถเลือกจะหยุดเดินได้
“ฉันเจ็บ อึ่ก..” เท้าเปลือยเปล่าเสียดสีกับพื้นหินจนเกิดแผล ปล่อยให้เลือดสดไหลเลอะไปตามทางที่เดิน ตาคู่สวยแสนอ่อนล้าที่ปรือแทบปิดนั้น ยังคงจับจ้องแผ่นหลังกว้างของคนที่พยายามลากเค้าไปที่ไหนสักแห่งซึ่งเค้าเองก็ไม่รู้ เพราะแม้กระทั่งคฤหาสน์หลังใหญ่เมื่อครู่ เค้าก็รู้แค่ว่า..มันไม่ได้ตั้งอยู่บนโลกมนุษย์
“ฮึ่ก..” สุดท้าย เรียวขาเล็กก็ไม่สามารถต้านทานความเจ็บปวดได้ไหว ร่างบางล้มลงไปกองอยู่กับพื้น โดยที่แขนข้างหนึ่งยังถูกอีกคนรั้งไว้
“ถ้าไม่ลุก ก็อยู่มันตรงนี้แหละ” เจ้าของสายตายเย็นชายเอ่ยบอกเสียงเรียบโทนเย็นชาไม่ต่างกัน พร้อมทั้งปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ
“...” ยิ่งเห็นคนตัวเล็กก้มหน้าหลบสายตายิ่งพาให้หงุดหงิด ร่างสูงย่อตัวลงเชยคางมนขึ้นให้มาประจันหน้ากับตน
“หรือคิดว่าไอ้คิบอมมันจะมาช่วย?”
“...”
“ฝันเฟื่อง!”
“ต่อให้ไม่มีใครมาชาวย ฉันว่าตายอยู่ตรงนี้ ก็ยังดีกว่าต้องกลับไปกับนาย” เสียงเล็กเค่นตอบ
“หึ จะเอาอย่างงั้นใช่มั้ย ..ดี!!” มือหนาสะบัดหน้าหวานที่เชยไว้บนคางมนทิ้ง ลุกขึ้นทิ้งมองร่างบางบนพื้นด้วยหางตา ก่อนจะหันหลังเดินจากไป.. ทั้งที่รู้ว่ากลิ่นเลือดหอมหวานนั้นเย้ายวนใจเหล่าสิ่งมีชีวิตในปราสาทและรอบบริเวณมากเพียงใด ...ทั้งที่รู้.. ว่าอันตราย .....ต่อตัวเอง.......
“กลิ่น ...เลือด” หลังจากประสาทหูซึ่งดีกว่ามนุษย์หลายเท่า ได้ยินการตั้งข้อสงสัยของใครสักคน ห้องจัดงานขนาดใหญ่ที่เคยห้อมล้อมด้วยเสียงเซงแซ่ก็เงียบลงถนัดตา ต่างคนต่างมองหาแหล่งกำเนิดของกลิ่นหอมนั้น เพราะไม่ใช่เพียงแต่แวมไพร์ที่โหยหาเลือดสด.. สิ่งมีชีวิตดุร้ายเหนือการควบคุมของสติเช่นมนุษย์หมาป่า.. ก็โหยหามันไม่แพ้กัน
แต่ก่อนจะได้ออกไปหาอาหารอันโอชะ.. เพื่อจะเป็นที่หนึ่งของผู้ล่า ก็จำเป็นจะต้องกำจัดคู่แข่งซะก่อน
“โฮกกก ก !!!!”
ท่ามกลางความวุ่นวายของสงครามขนาดย่อม ชนชั้นสูงที่สามารถครองสติไว้ได้ ต่างพากันสลายตัวไปจากงาน เหลือเพียงคิม คิบอม ..ที่จำกลิ่นหอมเย้ายวนนั้นได้แม่นยำ
“จองซู...”
“ฮึ่ก.. ฮืออ อ” อีทึกนั่งกอดเก่าร้องไห้อยู่กลางทางเดินไม่ไปไหน ไม่รู้ว่าน้ำตาหรือน้ำเลือดที่ไหลออกมาได้มากกว่ากัน ครั้นเงยหน้าข้นมองบรรยากาศรอบตัวก็ต้องสะอื้นหนัก เมื่อเห็นว่าตนกำลังอยู่ในวงล้อมของสัตว์ท่าทางหิวโหย ..สิ่งมีชีวิตที่ดูคล้ายแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าที่เห็นในงานเลี้ยง หากแต่ดวงตาที่แสดงแต่ความกระหายโดยไร้สามัญสำนึกใดๆ นั่น เป็นสิ่งที่ทำให้ร่างเล็กกลัวสุดหัวใจ
คำบอกเล่าของซีวอนครั้งพบกันใหม่ๆ ลอยวนเวียนอยู่ในหัว..
พวกแวมไพร์ชั้นต่ำเป็นพวกที่ถูกกัดโดยไม่ยินยอม พวกนี้จะกระหายเลือดมาก พวกมันหิวโซตลอดเวลา.. ไม่เคยลังเลที่จะกินเนื้อมนุษย์เข้าไปพร้อมๆ กับเลือด หากจะทำให้มันอิ่มท้องขึ้น
เสียงสะอื้นไห้ดังหนักขึ้น เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นใกล้เข้ามา รอบปากพวกมันยังปรากฏให้เห็นคราบเลือดและสิ่งสกปรกที่น่าขยะแขยง
..ร่างบางขดตัวนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างหวาดกลัว..
อย่างน้อยถ้าจะต้องตาย.. ขอให้มันไม่ทรมาณได้มั้ย..
ถ้าแค่ปล่อยให้เค้าตายซะตั้งแต่วันนั้น ..
วันนี้เค้าคงไม่ต้อง... ทรมาณ..
“ฮีชอล ..ฮึ่ก” เป็นทุกครั้งที่มีปัญหา..แค่นึกถึงเท่านั้น ฮีชอลก็มา..
ริมฝีปากบางพึมพำชื่อเพือนรักซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ความกลัวเข้าครอบงำจนเค้าไม่สามารถรับรู้อะไรรอบกายได้อีก ..
“มนุษย์หน้าโง่คนไหนมันทำลายงานนี้ได้!!” เสียงแหลมหวีดสูงเจือความไม่พอใจระคนโกรธา ตาคมดุจเหยี่ยวตวัดมองคนทั้งคู่ที่ยืนนิ่งราวกับจะกัดกินซะให้ได้
“มนุษย์หน้าโง่ที่ทุกคนให้ความสนใจมากกว่าคุณไงครับ” คิบอมฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันเรียงตัวสวยตามสไตล์ ก่อนจะเดินตามเยซองไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนฟึดฟัดไม่พอใจอยู่อย่างนั้นเพียงคนเดียว
“ฮึ้ย ~!!”
“อื้ออ ..” เสียงหวานโอดครวญทั้งที่ยังปิดปากแน่น ..ถ้าฮีชอลไม่มา เค้าก็จะไม่ขอร้องให้ใครช่วย.. ตากลมเหลือบมองแวมไพร์โสโครกตัวหนึ่งที่ฝังคมเขี้ยวลงที่แขนเค้าช้าๆ ฟันสวยขบริมฝีปากล่างแน่นจนน่ากลัว..
ทั้งที่คิดว่าจะไม่พูด ..
ทั้งที่คิดว่าจะไม่เรียก ..
แต่..
“อึ่ก.. ซีวอน..”
“พวกแกนี่มัน..เห็นแล้วน่าหงุดหงิด..” เสียงต่ำเอ่ยราบเรียบ ตาคมกวาดมองชนชั้นที่ตัวเองเรียกว่าต่ำ ก่อนจะมองไปยังกลางวงล้อมซึ่งปรากฏให้เห็นคนของเค้านั่งอยู่
“หลบไป..” เสียงที่เอ่ยนั้นแผ่วเบา..ทว่าหนักแน่น เสียงทรงอำนาจนั้นเรียกให้เหล่าอมนุษย์ไร้สติหันมาสนใจร่างสูงใหญ่นั้น หากแต่ก็เพียงเพราะรู้ว่ามีคนกำลังมาขัดขวางมื้ออาหารโอชะนี้เท่านั้น
ฝ่ายซีวอนเมื่อเห็นว่าพวกนั้นหันมามองตนเป็นตาเดียว บางตนก็ทำแยกเขี้ยวขู่ แต่ที่ทำเหมือนกันหมด คือจ้องมองเค้าอย่างไม่พอใจ.. แต่เพียงแค่เค้ากราดมองด้วยแววตาที่สงบนิ่ง..พลังอำนาจของเลือดบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในตัวก็มากเพียงพอจะทำให้พวกนั้นหวาดกลัว..
หากไม่อยากต้องไปทนทรมาณกับเพลิงโลกันต์..ก็แค่ยอมทิ้งเหยื่อแล้ววิ่งหนีไป..
ร่างสูงเดินผ่านวงล้อมของปีศาจร้ายที่ยินยอมแหวกเป็นทางให้เค้าเดิน ตรงไปยังร่างเล็กตัวสั่นเทา.. ซีวอนย่อตัวลงช้อนคนตัวเล็กนั้นขึ้นอุ้มแนบอก ตาคมจับจ้องแขนข้างที่เลือดยังไหลไม่หยุด เลยไปจนถึงใบหน้าหวานซีดเผือด ก่อนจะหันไปมองเจ้าของการกระทำนั้นเขม็ง ใส่ความโกรธและเจ็บแค้นลงไปในสายตา กระทั่งเปลวเพลิงลุกโชนท่วมร่างอมนุษย์นั้น ร่างสูงจึงได้เดินจากไปพร้อมร่างเล็กในอ้อมแขน..
.
.
.
“รอยเขี้ยวหลังคอ ถูกกัดที่แขน ........ แกดูแลอีทึกยังไงห๊ะ!!!” มือเรียวจับผ้าขนหนูที่เพิ่งเช็ดตัวร่างบางบนเตียงเสร็จเขวี้ยงใส่หลานชายตัวดี ..ทั้งๆ ที่ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าให้ห่าง ..ก็น่ากินซะขนาดนี้ !
“เรื่องมันเกิดไปแล้วจะให้ทำยังไง”
“..ตื่นมาเค้าจะกลัวแค่ไหนคิดซะบ้าง..” ตาเรียวทอดมองหน้าซีดเผือดของคนบนเตียงก็อดคิดมากไม่ได้ .. “นี่ซีวอน..”
“ครับ?”
.
.
.
“อือ..” ร่างเล็กปรือตาขึ้นมองเห็นเพดานเป็นอย่างแรกก็เข้าใจว่าตัวเองอยู่ไหน อีทึกค่อยๆ พยุงตัวขึ้นนั่งพิงไปกับหัวเตียง ตาหวานเหม่อมองไปนอกหน้าต่างนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านน้ำตาก็พาลจะไหล.. เค้าว่าตอนอยู่เป็นมนุษย์ดีๆ ชีวิตก็แย่พอแล้ว .. ตอนนี้..
พระเจ้าเกลียดอะไรผมนักหนา ?
“อ่ะ..” พอรู้สึกปวดตุบๆ ที่ต้นคอ นึกจะยกมือขึ้นสัมผัส..แต่ก็ทำไม่ได้อย่างใจคิด อีทึกเหลือบมองแขนขวาที่มีผ้าพันไว้อย่างดี หากแต่เลือดที่ยังซึมออกมาไม่หยุด จนทำให้ผ้าพันแผลที่เค้ามั่นใจว่าก่อนหน้านี้เป็นสีขาว แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ..กลิ่นคาวเลือดกับภาพตรงหน้าทำเอาเจ้าของท่อนแขนยังเบือนหนี.. ใครกับที่บอกว่าเลือดเค้าหอมหวาน
นิ้วเรียวค่อย ๆ แกะเอาผ้าพันแผลออก.. เพราะในเมื่อแผลยังไม่แห้งดี จะพันไปทำไมกัน ..พอแกะผ้าเรียบร้อยภาพรอยแผลก็ทำเอาร่างบางมือไม้อ่อน.. มันไม่ใช่แค่รอยเขี้ยวฝังลงไปตรงๆ อย่างที่เคยโดน รอทางยาวที่เขี้ยวลากลงไปเป็นทางนั้น ทำให้เกิดแผลที่น่ากลัว..
“อ๊ะ !” ครั้นเงยหน้าขึ้นพบร่างโปร่งเจ้าของใบหน้าแสนเสน่ห์ก็ตกใจ ..ถึงคุณอาจะชอบเข้ามาแบบที่เค้าไม่ทันตั้งตัวก็เถอะ ก็ยังไม่ชินอยู่ดี..
ตาคู่สวยมองตามคนตัวที่เดินมานั่งลงข้างเตียง ก่อนจะเอื้อมมือมารับเอาท่อนแขนเค้าไปประคองไว้..
“เลือดยังไม่หยุดอีกเหรอ”
“ฮ..ฮะ”
จุนกิยกแขนเพรียวขึ้น ลากไล้ปลายลิ้นอุ่นไปบนรอยแผลนั้นด้วยความเคยชิน.. ฝ่ายคนถูกกระทำก็ได้แต่หลับตาแน่น เพราะจำได้ดีว่าซีวอนเคยบอก.. ว่าไม่มีอะไรจะสมานแผลจากเขี้ยวแวมไพร์ได้ดีไปกว่านี้
“ยังไงฉัน ..ขอโทษเธอแทนซีวอนแล้วกัน” ยกมือเรียวขึ้นเช็ดคราบเลือดออกจากมุมปากตัวเอง ก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม
“ถึงเจ้านั่นมันอารมณ์ร้อน ..ขี้โมโห ..แต่อย่างน้อยมันก็ห่วงเธอนะอีทึก..”
ห่วง .. หรือแค่หวง
“เค้ากลัวจะไม่มีอะไรกินล่ะมั้งครับ.. เค้าก็พูดออกชัดเจนว่าผมเป็นทาสเค้า..”
“อีทึก..” คุณอาหน้าสวยถอนหายใจยาว เอื้อมมือไปทัดผมข้างแก้มขาวไปไว้หลังหูอย่างอ่อนโยน “เธออาจะไม่เข้าใจเรื่องคนของแวมไพร์เลือดบริสุทธิ์อะไรนี่สักเท่าไหร่ ..ตำแหน่งนี้จะว่าล้ำค่าก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครอยากจะเป็น..”
“...”
พอเห็นอีกคนตีหน้างงใส่ จุนกิก็อธิบายต่อ “แวมไพร์ตนนึงน่ะ ..ถึงจะออกปากพูดปาวๆ ว่าคนของเราเป็นแค่ทาส ไม่มีสิทธิ์เถียง ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ..แต่ถ้าลองได้ไว้ใจให้ใครได้ตำแหน่งนี้แล้วจริงๆ เราจะไม่มองใครอื่นอีก.. ซื่อสัตย์แต่กับคนของเราเพียงคนเดียว ..เราจึงหวังให้เค้าซื่อสัตย์กับเราด้วย..”
“เพราะฉะนั้นการที่คนของเราไปบอกใครต่อใครว่าเจ้าของเค้าเป็นคนอื่น ..มันเหมือนการหักหลัง ..เป็นการทรยศที่เจ็บปวด .. แต่สำหรับกรณีของเธอ จริงๆ ฉันก็เข้าใจว่าหลานฉันมันเป็นยังไง..”
มือเรียวเอื้อมไปกุมมือเล็กที่กำผ้าห่มแน่นไว้ก่อนจะคลี่ยิ้มให้จางๆ เมื่อหน้าหวานยอมเงยขึ้นสบตากับเค้า
“ฉันรู้ว่าเธอก็เจ็บ.. จนรู้สึกทรมาณ ..แต่ฉันอยากขอร้องให้เธอไม่พูดถึงคนอื่นอีก ไม่บอกคนอื่นผิดๆ เกี่ยวกับเจ้าของตัวเธอ.. ได้มั้ย?”
“...”
“เพราะถึงยังไงตอนนี้ เธอเองก็กลับไปใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เดินดินปกติได้อีกแล้ว ..แค่ลองทำใจยอมรับมันดู มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายนักก็ได้ ..นะ” สิ้นคำพูด ลี จุนกิก็หายตัวไปจากตรงนั้น ทิ้งไว้ให้ร่างบางได้แต่คิด
..ยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง..
To be continue.
“มาต่อไว ๆนะ เห็นวันที่อัพครั้งที่แล้วกับล่าสุดแล้วมันปวดใจงิ
เดือนห้ากับเดือนสิบ อยากจะบ้า TOT~~”
เห็นคอมเม้นท์นี้แล้วรู้สึกผิดมหันต์ ! เสียงความดีในหัวใจ(?) กระซิบบอกว่าแกดองมากไปแล้วจริงๆ T[]T เพราะฉะนั้นถึงแม้ตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงกับมีไคลแมกซ์เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็ขอเอามาลงก่อนจะดีกว่า เพราะไม่งั้นปีนี้ชีวีจะไม่เป็นสุข ๕๕ ไม่อยากให้รีดเดอร์รอนาน น ๆ มันเป็นบาป (??)
จะบอกว่าคาร่าดีใจตัวลอย ย เห็นคอมเม้นแล้วมันชื่นใจจังค่ะ > < เป็นความสุขขั้นสุดยอดของไรท์เตอร์จริงๆ ~!!
นึกว่าจะลืมฟิคเรื่องนี้กันไปซะแล้ว > < แต่คิดได้คิดมา ..เริ่มรู้สึกว่าคิดผิดที่คิดจะแต่งแนวนี้ ๕๕ เอ่อ ..แฟนตาซีหน่อยๆ มันเป็นอะไรที่ไม่ถนั๊ดดดไม่ถนัด ..แต่คนเราไม่มีใครเก่งมาแต่เกิดหรอกเนอะ ~!! ฮี่ ๆ
พระเจ้าอวยพรนะค้า : )
ความคิดเห็น