ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : SF ONKEY :: Santa Claus Lover { part 3 }
บรรยากาศที่กำลังดำเนินไปอย่างสนุกสาน
เสียงบรรเลงของเพลงจิงเกิลเบลดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้คนที่เริ่มพลุกพล่านจนเกือบจะเต็มโรงเรียน
ซุ้มต่างๆที่ตั้งรายล้อมกันเป็นแถวยาวอย่างสวยงาม
บ่งบอกได้ว่างานคริสต์มาสได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว!
"เสร็จรึยังคีย์"
เสียงรีบร้อนของอนยูดังขึ้นเร่งคีย์ที่กำลังจัดชุดซานต้าของตนให้เข้าที่อยู่
"อื้ม เสร็จพอดีเลย"
"งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย"
เด็กหนุ่มในชุดซานตาครอสสองคนกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่เวทีสำหรับเดินแฟชั่นโชว์คู่รักที่จะจัดขึ้น
เมื่อมาถึงปรากฏว่างานยังไม่เริ่ม ทำให้ทั้งคู่โล่งใจกันไปเปราะหนึ่ง
ที่นี่ได้รวมคู่รักมากมายตั้งแต่ระดับชั้นม.1ถึงม.6
มีทั้งคู่รักจิงเกิลเบลที่น่ารักมาก คู่รักกวางเรนเดียร์ที่น่ารักไม่แพ้กัน และก็คู่รักอื่นๆอีกมากมาย
แต่ดูเหมือนเวทีนี้คีย์และอนยูคู่รักซานตาครอสจะดูโดดเด่นที่สุดเนื่องจากเป็นตัวสำคัญของงาน
ทำให้ผู้คนต่างจับจ้องไปที่ทั้งสองมากกว่าคู่อื่นๆ
"สำหรับงานวันคริสต์มาสของเราปีนี้ จะถูกเปิดขึ้นพร้อมกับแฟชั่นโชว์คู่รักต่างๆที่จะมาเดินแฟชั่นโชว์ให้ทุกท่านได้รับชมกันนะครับ ขอให้ทุกท่านปรบมือเพื่อเป็นเกียรติแก่คู่รักทุกคู่ด้วยครับ"
เสียงปรบมือดังขึ้นทำให้คู่รักแต่ละคู่ค่อยๆก้าวขาเดินขึ้นไปบนเวที
สายตามากมายที่จับจ้องมาทางคีย์และอนยูทำให้พวกเขาดูประหม่าเล็กน้อย
แต่ก็พยายามตั้งใจทำออกไปให้ดีที่สุด
"คู่รักทุกคู่กรุณาฟังผมด้วยครับ ขึ้นชื่อว่าคู่รักเนี่ย เขาต้องทำอะไรกันบ้างเหรอครับ กรุณาแสดงให้เราได้รับชมด้วยนะครับ"
คำสั่งแกมขอร้องจากปากของโฆษกได้แผ่ออกทางลำโพงให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
คู่รักหลายๆคู่เริ่มหอมแก้มกันและทำตามกันไปเรื่อยๆ
อนยูและคีย์ยืนมองหน้ากันอย่างไม่แน่ใจ ใบหน้าหวานของคีย์เริ่มแดงระเรื่อขึ้นช้าๆ
ทั้งที่คู่อื่นๆเป็นคู่รักกันจริงแท้ๆ แต่พวกเขากับเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะต้องเขินกันจะเป็นจะตาย แล้วนี่ยังมีคนมากมายจ้องมองมาอีกต่างหาก
พลันสายตาของอนยูเหลือบไปเห็นจงฮยอนที่กำลังจ้องมาที่เขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
เขาจึงต้องก้มลงหอมแก้มคีย์ช้าๆและเสร็จเป็นคู่สุดท้ายพอดี
และทั้งคู่ก็หน้าแดงออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"ว้าว น่ารักกันทุกคู่เลยนะครับ เอาล่ะ ถึงเวลาแสดงความสามารถแล้วครับ คู่แรกได้แก่.....คู่รักซานตาครอสครับ!! เชิญเลยครับ"
คีย์และอนยูถึงกับอึ้งเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะได้ออกไปเป็นคู่แรก
แต่ก็ต้องรีบเดินออกไปเพราะเสียงปรบมือที่เหมือนเป็นการเร่งพวกเขา
"ค..ครับ ก็พวกเราจะมาร้องเพลงกันครับ เพลง Way back into love ครับ"
เสียงปรบมือดังขึ้นก่อนที่ดนตรีจะเริ่มบรรเลง.....
"I've been living with a shadow overhead" [ฉันอาศัยอยู่กับเงา]
เสียงหวานของคีย์เป็นผู้เริ่มต้นขึ้นร้องก่อน
"I've been sleeping with a cloud above my bed I've been lonely for so long Trapped in the past, I just can't seem to move on" [ฉันหลับไปพร้อมกับปัญหาที่ลอยอยู่บนเตียงของฉัน ฉันอาศัยอย่างเดียวดายมานานเกินไปแล้ว อยู่ติดกับอดีต ดูเหมือนว่า ฉันไม่สามารถที่จะเคลื่อนย้ายมันไปได้]
อนยูจับจ้องใบหน้าหวานนั้นขณะที่กำลังร้องเพลงด้วยความเคลิบเคลิ้ม
แต่ก็ต้องรีบละออกมาเมื่อถึงคิวร้องของตัวเองแล้ว
"I've been hiding all my hopes and dreams away Just in case I ever need em again someday" [ฉันซ่อนความหวังและความฝันทุกๆอย่างให้หมดไป ในกรณีนี้ บางวัน ฉันต้องการพวกมันอีกครั้ง]
เสียงเข้มดังขึ้นถัดจากเสียงหวานของคีย์ เขาดูจะต้องใจร้องมากๆ มากเสียจนคนข้างๆแอบจ้องมองเขาด้วยความหลงใหล
"I've been setting aside time To clear a little space in the corners of my mind" [ฉันตั้งเวลาสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะเคลียร์พื่นที่เล็กๆในเสี้ยวหัวใจของฉัน]
"All I want to do is find a way back into love I can't make it through without a way back into love Oh oh oh" [ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือหาทางที่จะเข้าไปในหัวใจให้ย้อนกลับมา ฉันไม่สามารถทำมันได้ เมื่อปราศจากทางที่จะเข้าไปในหัวใจให้ย้อนกลับมา]
ทั้งเสียงเข้มและเสียงหวานดังประสานกันอย่างเหมาะเจาะลงตัว ฟังแล้วช่างไพเราะจับใจคนฟังเป็นอย่างมาก
"I've been watching but the stars refuse to shine I've been searching but I just don't see the signs"
[ฉันนั่งเฝ้ามองดูแต่พวกดวงดาวก็ไม่ส่องแสงซักที ฉันค้นหาแต่ฉันก็มองไม่เห็นร่องรอยอะไรเลย]
"I know that it's out there There's got to be something for my soul somewhere"
[ฉันรู้ มันหายไปจากที่นี่แล้ว มันจะมีอะไรซักอย่างเกิดขึ้นสำหรับจิตวิญญาณของฉัน]
"I've been looking for someone to shed some light Not somebody just to get me through the night"
[ฉันมองหาใครบางคนที่จะให้แสงสว่างกับฉัน ไม่ใช่ใครบางคนที่แค่พาฉันผ่านคืนหนึ่งๆไป]
"I could use some direction And I'm open to your suggestions"
[คนที่ฉันสามารถใช้คำสั่งบางอย่างได้ และฉันจะเปิดรับข้อเสนอของคนนั้น]
"All I want to do is find a way back into love I can't make it through without a way back into love"
[ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือหาทางที่จะเข้าไปในหัวใจให้ย้อนกลับมา
ฉันไม่สามารถทำมันได้ เมื่อปราศจากทางที่จะเข้าไปในหัวใจให้ย้อนกลับมา]
เสียงประสานกันดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมกับร้องเพลง
ความรู้สึกเกร็งมันได้หายไปแล้ว ราวกับว่าพวกเขาร้องเพลงกันอยู่เพียงสองคน
สายตาที่สบกันเหมือนต้องการจะสื่อความหมายของเนื้อเพลงไปให้กัน
"And if I open my heart again I guess I'm hoping you'll be there for me in the end oh, oh, oh, oh, oh"
[และถ้าฉันเปิดใจอีกครั้ง ฉันคิดว่า ฉันหวังว่าคุณจะอยู่ที่นั่นสำหรับฉันในที่สุด]
"There are moments when I don't know if it's real"
[นั่นคือชั่วขณะที่ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงรึเปล่า]
"Or if anybody feels the way I feel I need inspiration Not just another negotiation"
[หรือทุกๆคนก็รู้สึกเหมือนฉัน ฉันต้องการแรงบันดาลใจ ไม่ใช่แค่การเจรจาต่อรอง]
"All I want to do is find a way back into love I can't make it through without a way back into love"
[ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือหาทางที่จะเข้าไปในหัวใจให้ย้อนกลับมา ฉันไม่สามารถทำมันได้ เมื่อปราศจากทางที่จะเข้าไปในหัวใจให้ย้อนกลับมา]
"And if I open my heart to you I'm hoping you'll show me what to do And if you help me to start again"
[และถ้าฉันเปิดใจสำหรับคุณ ฉันหวังว่า คุณจะแสดงให้ฉันเห็นว่าควรทำยังไง และถ้าคุณช่วยฉันในเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง]
"You know that I'll be there for you in the end oh, oh, oh, oh, oh"
[ในที่สุด คุณก็จะรู้ว่าฉันอยู่ที่นั่นสำหรับคุณ]
ประโยคสุดท้ายจบลงพร้อมพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ
ไม่ใช่แค่เพียงสองคนที่ยิ้มให้แก่กันเท่านั้น
ทว่าผู้ชมทั้งหลายต่างอมยิ้มให้กับความน่ารักของคู่รักคู่นี้อยู่ด้วย
และปิดท้ายด้วยเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่ม แต่คราวนี้แอบมีเสียงกรี๊ดกร๊าดดังแทรกมาด้วย
"ขอบคุณครับ"
เด็กหนุ่มสองคนในชุดซานตาครอสกล่าวขอบคุณก่อนจะเดินลงเวทีไปด้วยหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอยู่ไม่ขาด
"เป็นคู่ที่น่ารักมากๆเลยนะครับ ร้องเพลงก็เพราะกันทั้งสองคน เหมาะสมกันจริงๆ"
เสียงโฆษกกล่าวไล่หลังพวกเขาที่กำลังเดินลงเวที
ทำให้คีย์แอบหน้าแดงไม่ได้
.....ถ้าเราได้เป็นแฟนกันจริงๆ คงจะดีสิเนอะ.....
"พวกนายทำได้ดีมาก! ฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกพวกนาย"
จงฮยอนเดินเข้ามาคุยกับพวกเขาด้วยสีหน้าภูมิใจ
ฝ่ามือขวายกขึ้นมาตบไหล่ซ้ายของอนยูเบาๆอย่างชื่นชม
"เอาล่ะ เสร็จงานนี้แล้วก็ไปพักหรือจะเที่ยวก็ได้แล้วแต่พวกนาย แต่อย่าลืมหัวค่ำนี้กลับมาแจกขนมด้วย"
จงฮยอนสั่งงานเสร็จก็กลับไปยืนที่เดิมเพื่อดูแฟชั่นโชว์ต่อ
อนยูมองตามจงฮยอนไปสักพัก ก่อนจะหันกลับมาหาคีย์แต่ก็ไม่เจอซะแล้ว
เขามองไปรอบๆ เห็นคีย์กำลังยืนคุยกับฮงกีอยู่ ไปตอนไหนเนี่ย....?
"อ้าว นั่นไง...เขามองหานายแล้วนะ"
ฮงกีชี้ไปทางอนยูที่กำลังมองมาทางคีย์ซึ่งคีย์ก็มองตามไปและสบตากับอนยูพอดี
คีย์ยิ้มแหยๆส่งไปให้อนยูซึ่งอนยูก็ไม่เข้าใจ.....'คีย์ยิ้มทำไม?'
"แหะๆ ขอโทษนะ พอดีฉันไปคุยกับฮงกีมาอะ"
คีย์วิ่งกลับมาหาอนยูพร้อมกับเอ่ยขอโทษ ฮงกียิ้มให้กับภาพที่เห็นอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินออกไป
แต่อนยูก็ยังสงสัยต่อ 'ขอโทษทำไม?'
"เอ่อ...อนยู คือ.....เราไปเที่ยวด้วยกันมั้ย"
คีย์ถามเสียงแผ่วอย่างเขินๆ เอาวะ! ด้านได้อายอด >< [!!!!!]
คำพูดของฮงกีตอนที่คุยกันเมื่อกี๊ : "อย่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปนะ ไม่งั้นฉันตราหน้านายว่า'ไอ้คีย์กุญหน้าโง่'แน่ๆ อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะว่านายแอบชอบจินกิอยู่น่ะ"
กึ๋ย คิดแล้วยังขนลุกไม่หาย ไอ้ฮงกีนะบังอาจมาขู่ฉัน>< [ถึงไม่ขู่ก็ทำชิมิล่า? : ไรเตอร์] [มิชิ เอ้ย! ไม่ใช่ >< ผมเป็นกุลบุรุษ(?)พอนะครับ : คิบอม]
ทางอนยู กำลังยืนอึ้งสุดชีวิต
นี่คีย์....ชวนเขาไปเที่ยวด้วยกันเหรอ เขาหูฝาดรึป่าว?
แต่หน้าคีย์แดงด้วย คงไม่ได้หูฝาดหรอกมั้ง ><
จากนั้นหน้าอนยูก็แดงตามไปอีกคน
พลันสายตามองไปเห็นฮงกีที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก
กำลังส่งสัญญาณมือและหน้ามาให้เขาประมาณว่า "ตอบตกลงไปเซ่! โอกาสมาถึงแล้วนะ!"
"อ....อืม งั้นเราไปไหนดีล่ะ"
คีย์เงยหน้ามองอนยูก่อนจะยิ้มกว้างให้
เขาเข้ามาจับมืออนยูแล้วดึงออกไปเดินเที่ยวตามซุ้มต่างๆ
มือที่สัมผัสกัน ทั้งคู่ต่างรับรู้ดี
หากเพียงแต่ว่าแกล้งทำเป็นลืมตัวไปซะบ้างก็ดีเหมือนกัน
ความสุขเล็กๆมันจะได้ก่อขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆทั้งสองดวงนี้บ้าง
ทั้งสองเดินเที่ยวจนกระทั่งถึงเวลาทำงาน
จึงต้องเดินกลับไปหาจงฮยอน
"อะนี่ เอาไปแจกเด็กๆนะ"
จงฮยอนยื่นถุงสีแดงใบใหญ่มาให้ทั้งสอง
ข้างในบรรจุลูกกวาดหลากสีซึ่งเป็นที่โปรดปรานของเด็กๆ
ทั้งคู่รับมาก่อนจะไปยืนแจกอยู่อีกทาง
t
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น