ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    'o' ห้องเก็บของ'o'

    ลำดับตอนที่ #4 : การบ้านต่างๆ

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 51


    ฮะๆ หลังจากที่หายไปเวลานาน

    เอาล่ะ มาเริ่มต้นด้วยวิชาแรกกันเลย



    สวัสดีเหล่านักเรียนที่รักของข้า

    นี่คือชั้นเรียน 'สัตว์วิเศษ' 

    ข้ามีนามว่า บลู เดคิลลิเตอร์

    หรือ ศาตราจารย์บลูนั่นแหละนะ 

    เริ่มกันเลย ที่บทเรียน "สัตว์ในตำนาน"

    ในหัวข้อย่อยของ "มังกร"

    สัตว์ในตำนาน คือสัตว์ที่ปรากฎในเทพนิยาย หรือในตำนานที่แต่งขึ้น โดยลักษณะของสัตว์ในตำนานจะมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว มีความสามารถและอภินิหารพิเศษเชื่อกันว่าสัตว์ในตำนานคือสัตว์ของเทพเจ้าหรือสัตว์ในยุคโบราณที่สูญพันธุ์ไปเเล้ว มีพลังเเละอำนาจที่เเตกต่างกัน หรือในอีกเเง่หนึ่งเป็นรูปปั้นต่างๆที่ชาวบ้านสร้างขึ้น เพราะเชื่อว่ามีอำนาจหรือกำลังที่จะช่วยปกป้องพวกเขาได้

    มังกร (อังกฤษ: dragon, จากละติน: draco) เป็นสัตว์วิเศษที่รู้จักกันในวรรณคดี มีรูปร่างลักษณ ะจัดอยู่ในประเภทสัตว์เลื้อยคลานหรืองู

    ในตำนานยุโรป มังกรเป็นสัตว์อันตรายและน่าสะพรึงกลัวสำหรับมนุษย์ มังกรจึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของเหล่าวีรบุรุษทั้งหลาย การฆ่ามังกรและขึ้นเถลิงราชย์เป็นกษัตริย์. มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ ทั้งที่มีตัวตนจริง ๆ และในตำนานต่าง ๆ เช่น กษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งมีนามสกุลว่า Pendragon มีความหมายว่า 'ศีรษะของมังกร' หรือ 'หัวหน้ามังกร' และมงกุฎของกษัตริย์อาเธอร์ ก็เป็นรูปมังกร.

    เราพบมังกรได้ง่ายและบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นในตำนานของทางยุโรปหรือเอเชียก็ตาม เรียกว่าที่ใดมีอารยธรรมและตำนาน ที่นั่นก็ต้องมีมังกรเป็นของคู่กัน. มังกรนั้นมีรูปร่างและลักษณะหลายอย่าง แตกต่างไปตามความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น แต่โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจะมีจุดเด่นคือ เป็นสัตว์ขนาดใหญ่ ร่างกายใหญ่โต มีพละกำลังมาก บางครั้งอาจพ่นไฟได้ หรือมีอำนาจเวทมนตร์มหาศาล และที่สำคัญคือ บินได้ (อาจจะมีปีกหรือไม่มีก็ได้) โดยขนาดรูปร่างและสีนั้น ก็แตกต่างกันไป

    อย่างไรก็ตาม มังกรที่พบในตำนานของทางยุโรปและของทางเอเชียนั้น ค่อนข้างจะแตกต่างกันในแง่สัญลักษณ์ โดยเฉพาะคติของจีนที่มักจะถือว่า มังกรนั้นคือเทพเจ้า และเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิ (ซึ่งเป็นสมมติเทพ) แต่ทางยุโรปนั้นมักจะถือมังกรเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้าย (อันเป็นคติที่สืบทอดมาจากความหวาดกลัวงูของชาวยุโรป).


    คำถาม
    1.ในภาษาอังกฤษและภาษาละตินมังกร เรียกว่าอะไร
    2.กษัตริย์อาเธอร์มีนามสกุลว่าอะไร และหมายความว่าอะไร
    3.คติของจีนที่มีต่อมังกรคืออะไร 
    4.เพราะเหตุใดชาวยุโรปถึงถือว่ามังกรเป็นสิ่งชั่วร้าย

    ต่อไปก็คือ

    จงหาสายพันธุ์ของมังกรมาคนละ 1 ชนิด (ถ้ามีรูปด้วยยิ่งดี)

    - b g-

    แบบฟอร์มส่งการบ้านที่ 1

    ชื่อ-สกุล :

    รหัส/หอพัก :

    คำตอบ :

    ++++++++++++

    รีบๆส่งกันเข้ามาล่ะ ไม่ยากเลยซักนิดหากตั้งใจอ่าน

    กำหนดวันสุดท้าย คือ 10 มีนาคม 2551

    อ้อ ของรางวัลก็คือ


    มังกรไฟ สายพันธ์หายากมาก(คลิ๊กGoolgle ดิ เพียบ)

    ฮะๆ เอาเถอะๆ ก็นี่มันวิชา สัตว์วิเศษนี่นะ!



    ..... ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ชั้นเรียนของข้า....



    สวัสดี...เหล่านักเรียนที่รัก.... ตัวข้ามีนามว่า บีเวอรัส คอนนีเวอเกียร์

    อันที่จริง...ข้าต้องสอนในคาบสัตว์วิเศษนะเนี่ย แต่ดั๊น 

    ถูก ศาสตราจารย์บลู แย่งไปซะก่อน... อ๊ะ แต่เอาเถอะ

    ในคาบแรกนี้เราจะมาเรียนกันง่ายๆก่อนนะ ในวันนี้

    เราจะมาเรียนเรื่อง..... ภาษาดอกไม้กันจ้า...

    น่าเรียนมั้ยๆ เอาล่ะๆ เรามาเริ่มกันเลยนะ

    เริ่มต้นที่.............

     

    ในปัจจุบันความหมายที่ใช้ในภาษาดอกไม้นั้นส่วนมากได้เลือนหายไปตามการเวลา แต่ดอกกุหลาบสีแดงนั้นยังคงถูกใช้เแสดงความรักอันเร่าร้อนและโรแมนติก กุหลาบสีชมพูแสดงถึงความรักที่เร่าร้อนน้อยลงมา กุหลาบสีขาวยังคงเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และความดี และกุหลาบสีเหลืองถูกใช้เป็นตัวแทนของมิตรภาพและการเสียสละ อย่างไรก็ดี ความหมายเหล่านี้อาจจะไม่เหมือนกับความหมายในสมัยวิกตอเรียทุกประการ

     

    ดอกไม้อื่นที่มีความหมายเป็นที่รู้จักกันกว้างขวาง ได้แก่

    ดอกทานตะวันมีสองความหมายซึ่งอาจหมายถึงความเย่อหยิ่งหรือความเคารพ เนื่องจากดอกทานตะวันนั้นเป็นดอกไม้ที่ เซนต์ จูลี บิลเลียร์ท ชอบ

    ดอกไอริส ซึ่งตั้งชื่อตามผู้ส่งสารของพระผู้เป็นเจ้าในเทพนิยายกรีก ใช้แทนความหมายของการส่งข่าวสาร

    ดอกแพนซี หมายถึง ความคิด

    ดอกแดฟโฟดิลหมายถึง เกียรติยศ

    เถาวัลย์ หมายถึง ความซื่อสัตย์ต่อคู่รัก

    ความหมายของดอกไม้แต่ละชนิด....

    กล้วยไม้-ระลึกถึง

    คอนฟาวเวอร์-ความบอบบาง

    ดาวเรือง-สิ้นหวัง


                                    เดซี่-ความไร้เดียงสา

    ซ่อนกลิ่น-พิสวาทที่อันตราย

    แกนดิออรัส-ความเป็นตัวของตัวเอง

    บานชื่น-คิดถึงเธอ

    คาร์เนชั่นชมพู-รักของผู้หญิง

    คาร์เนชั่นแดง-แด่หัวใจที่น่าสงสาร

    คาร์เนชั่นลาย-การปฏิเสธ

    เดฟฟาเดล-ความกล้าหาญ

    ทิวลิปเหลือง-รักที่ค้นข้างสิ้นหวัง

    ทิวลิปแดง ( i like )-การบอกรัก

    ทิวลิปลาย-ดวงตาของคุณสวยจริงๆ


    นาซิซัส-ความอวดดี

    ทานตะวัน-ความถือตัว

    เบญจมาศเหลือง-รักนิดหน่อย

    เบญจมาศแดง-รัก

    โบตั๋น-ความขี้อาย

    ป๊อปขาว-การหลับ

    ป๊อปแดง-การปลอบโยน

    ป๊อปแดงเข้ม-พิเศษสุด

    แฟนซี่-การระลึกถึง

    ฟอร์เก็ตมีนอต-รักแท้

    มอร์นิ่ง กอร์รี่-หลงรัก

    มะลิ-ความสง่างาม

    รองเท้านารี-ความเอาแต่ใจ


    ลินลี่-ความอ่อนหวาน ความบริสุทธิ์

    ไรแร็ค-ความรู้สึกที่แรกรัก

    ไวโอเลต-ความถ่อมตัว

    สร้อยไก่-รักอมตะ

    สร้อยทอง-กำลังใจ

    สวีท พี-การจากไป

    เฟริ์น-หลงเสน่ห์

    แสนกดาร์กอน-สมมุติ

    แอสเตอร์-ความหลากหลาย

    ไอวี่-จงรักภักดี

    ฮอลลี่-มองการณ์ไกล

    ฮอลลี่ฮอลี่-ความปรารถนา

     

    กุหลาบแดงและขาวรวมกัน สื่อความหมายให้รู้ว่า "สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน"

    กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความงดงามและความอ่อนโยน


    กุหลาบสีเหลือง บอกเป็นนัยว่า "ขอเป็นชู้ทางใจ" หรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง

    กุหลาบสีส้ม เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา

    กุหลาบแดงเข้ม(สีเหมือนไวน์แดง) แทนคำว่า "เธอช่างสวยเหลือเกิน"

    กุหลาบสีขาว บอกว่า "ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน"

    กุหลาบตูม ที่มีทั้งใบและหนาม บอกให้รู้ว่า "แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ"

    กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด

    กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น

    กุหลาบตูมสีแดง แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา "รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก"


    กุหลาบตูมสีขาว แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรัก

    กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก อยากบอกว่า "นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้"

    กุหลาบบานสีแดง บอกให้รู้ว่า "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"

    กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว"

    กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว แทนความหมาย "เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว"

    กุหลาบไร้หนาม ให้รู้ว่า "เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลแม้ยามแรกพบ"

    กุหลาบดอกเดียวแทนความหมาย "รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว"


    เป็นไงๆ ไม่ยากเลยใช่มั้ย(ไม่ใช่..) ฮะๆ น่าๆ และงานนี้ก็มีการบ้านอีกเช่นเคยจ้ะ

    และนั่นก็มีคะแนนให้ อีก 20 Point จ้า

    ไม่ต้องห่วงหรอกนะงานนี้ก็คือ.........

    การมอบดอกไม้ให้ถูกโอกาส

    เรามีสถานการให้ 5 อย่าง และให้นักเรียนมอบดอกไม้ให้เหมาะสมแก่

    โอกาส สถานการที่กำหนดให้อ่านะ ถ้าทำถูก เอาไปเลย 20 คะแนน

    นะ แล้วก็เช่นเคยจ้ะ สำหรับ 5 คนแรก เอ๊ย วันนี้เพิ่มให้เนื่องจากผอ. ของเราอารมณ์ดี

    สอบผ่าน....((ไม่บอกๆ)) ก็เลยเพิ่มให้เป็น 10 คน จ้า 

    มาเริ่มกันเลยนะจ้ะ.........

    1.คุณคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ ดวงตาสวยมา คุณจะให้ดอกไม้อะไรแก่เธอ

    2.เพื่อนของคุณ พยายามเปลี่ยนแปลงตนเอง แต่คุณคิดว่า มันไม่เหมาะสม
    คุณคิดว่าจะให้ดอกไม้อะไรเป็นการสื่อความหมายแทนคำพูดของคุณ

    3. ผู้หญิงคนหนึ่ง ถือดอกกุหลาบสีชมพู....คุณคิดว่า เธอเป็นคนอย่างไร

    4.นายจ้างได้รับดอกไอวี่จากลูกน้องของเขา ความหมายของมันคืออะไร

    5.ชายผู้หนึ่งซื้อดอกนาซิซัส คุณคิดว่าคนที่เขาจะมอบให้เป็นคนอย่างไร

    อันที่ 2 นี้ได้อีก 10 คะแนนนะจ๊ะ

    นั่นก็คือ................

    ให้นักเรียนส่งดอกไม้ให้กับคนที่ตัวเองชอบ(หรือมีความรู้สึกอย่างอื่น)

    ให้กับเขาคนนั้น แล้ว ผอ. คนนี้จะเป็นคนส่งมอบให้กับเขาเอง

    โดยที่..... ส่งเป็นแบบฟอร์มมานะจ๊ะ

    ส่งการบ้าน พืช และสมุนไพร

    ชื่อ - นามสกุล //

    รหัส //

    คำตอบ .......

    กิจกรรมที่ 2
     
    ข้าขอส่ง ดอก ........

    ให้แก่.................

    เพราะ..............................

    +++++++++++++++++

    ของรางวัลประจำวิชานะจ๊ะ



    ฮะๆ ต้นไม้วิเศษ(ใช้ประโยชน์ได้มั้ยฮะ)

    เอาเถอะน่าๆ ยังไงก็เอาไปเหอะนะ ถือว่าเป็นที่อยู่ให้มังกรก็แล้วกัน

    ต้นไม้วิเศษๆๆๆๆๆ


    ..... ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ชั้นเรียนของข้า .....



    ฮ้าวววว อ้าว หวัดดีนักเรียนที่รัก อ๊ะ O.,o สาวๆเพียบเลยนะเนี่ย เอ๊ยๆ

    ไม่ใช่ ๆ นักเรียนเพียบเลย เต็มห้อง(รึเปล่า) เลยนะเนี่ย วันนี้

    ข้าถูกจับมาทำงานแต่เช้า(งั้นหรอ) เลย เฮ้อ เสียเวลา....

    อะแฮะ ลืมแนะนำตัวไป ข้าชื่อ อามาเนะ โยสุเกะ 

    สอนในวิชา ศิลปะการเอาตัวรอดล่ะ อืม...วันนี้ข้าจะเอาพวกเจ้าไปปล่อยที่....



    อ้า...ป่าหมอกขาว เอาไอนี่แล้วกันนะ

    เอาล่ะ เตรียมตัวดีๆน้า เกาะข้าไว้ก็ได้โดยเฉพาะ สาวๆ(ไอนี่ --^)


    ท่องคาถาตามข้านะ ... นิกเกิ้ลผสมสังขสี+เหล็ก ได้... เอ๊ย

    มั่วและๆ เอาล่ะ นะ ไลท์คลารีน่า!!!!!!

    ชิ้ง แว้บๆๆๆๆ ปิ๊ง(ถึงแล้ว)...และนี่คือ ป่า...เฮ้ย! O[ ]o



    ทะเลสาบฟลาดอส!!!!! ผิดที่ซะแล้วอ่า [กำ ที่ไหนล่ะว้า : นักเรียน]

    เหอๆ ช่างเถอะน้า~ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาที่นี่ก็ได้ T-T 

    อาจจะไม่รู้จักอะนะ แต่ทั้ง 2 ที่ที่พูดมาก็คือสถานที่ของโรงเรียน

    ป่าหมอกขาว อยู่ทางทิศตะวันตกของโรงเรียน ส่วน ทะเบสาบฟลาดอส....

    เอ่อ...ไม่บอกดีกว่า เดี๋ยวไม่ตื่นเต้นนน TT^TT ของข้าก็

    ไม่มีอะไรเนื้อหาอะไรมากมายก็แค่ใช้ทักษะการเอาตัวรอดบวกกับ

    สติปัญญาของเจ้าเอง อ้อ งานนี้มีเพื่อนข้าเข้ามาสมทบด้วยนะ

    วิชา ปรุงยา เทลีน่า อโนซาเวล



    ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ ^^ เราคงจะได้พบกันในบทเรียนหน้าอีกครั้งนะ

    เอาล่ะ โยสุเกะ นอกเรื่องมานานแล้วนะ !

    นี่คือลักษณะของนักปรุงยาที่ดีนะจ๊ะ

    1) นักปรุงยาที่ดีต้องมีความแม่นยำในการคำนวนปริมาณส่วนผสมของยาแต่ละตัวหากมีมากหรือน้อยไปอาจเป็นอันตรายได้
    2)นักปรุงยาที่ดีควรมีความอดทนสูง เพราะยาบางชนิดต้องใช้เวลาในการทำนานบางทีต้องอยู่หน้าหม้อเป็นวันๆ
    3)นักปรุงยาที่ดีควรเป็นผู้ที่มีความคิดใหม่ๆอยู่เสมอมีการลองผิดถูกเพื่อให้ได้ยาตัวใหม่ๆ
    4)นักปรุงยาที่ดีต้องไม่นำยาที่เพิ่งทำการใช้เป็นครั้งแรกเพื่อการทดสอบไปใช้กับคนเพราะอาจเกิดความผิดพลาดได้
    5)นักปรุงยาที่ดีควรมีความรู้เรื่องพืชพันธุ์ไม้นานาพันธุ์และส่วนผสมที่หลากหลายและต้องหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
    6)นักปรุงยาที่ดีต้องเป็นคนมีจิตใจเมตตาช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ
    7)นักปรุงยาที่ดีควรมีความรู้ในเรื่องการปรุงยามาบ้างไม่มากก็น้อย
    8)นักปรุงยาที่ดีควรเป็นคนช่างสังเกตสิ่งรอบข้างที่อยู่ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ
    9)นักปรุงยาที่ดีต้องเป็นผู้ที่รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
    10)นักปรุงยาที่ดีต้องเป็นคนช่างสังเกต โดยสังเกตสิ่งที่อยู่รอบตัวอยู่เสมอๆ
    11)นักปรุงยาที่ดีต้องรู้กาละเทศะ และมีมารยาทในการปรุงยา
    12)นักปรุงยาที่ดีต้องไม่กลั่นแกล้งผู้อื่น เพราะนั่งอาจทำให้ตัวยาของผู้อื่นเกิดความล้มเหลวได้
    13)นักปรุงยาที่ดีต้องขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งจากในห้องเรียนและนอกห้องเรียน
    14)นักปรุงยาที่ดีต้องหมั่นซักถามข้อสงสัยจากผู้รู้หรือไม่ก็ศาสตราจารย์ที่สอน
    15)นักปรุงยาที่ดีต้องมีความระมัดระวังในการปรุงยาเป็นอย่างสูง



    การปรุงยาเบื้องต้น

     
        ในการปรุงยา พ่อมดสมัยก่อน ได้มีการคิดค้น การปรุงยาต่างๆมากมาย เพื่อ ใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และยังเป็นการบำรุงร่างกาย นอกจากนี้ พวกเขา ได้ทราบสรรพคุณของสมุนไพรวิเศษ ที่นอกจากรักษาแล้ว ยังใช้เป็นตัวยาอื่นๆได้อีก เช่น ยาตายทั้งเป็น สัจจะเซรุ่ม ยาเสริมพลังเวทย์ ยาสร้างอารมณ์ ยาพลังช้างสาร ที่มีการนำ สมุนไพร เครื่องปรุงยาต่างๆ มาประกอบ ปรุงยา จนได้ สรรพคุณต่างๆ ดังนั้น นักเรียนจะต้องรู้ สรรพคุณของ สมุนไพรชนิดต่างๆให้เป็นอย่างดี เพื่อ เวลานำมาปรุงยา จะทำให้ทราบว่า ยาที่ออกมา จะมีสรรพคุณอย่างไร นอกจากนั้น จะต้องรู้ว่า สมุนไพรต่างๆ ควรจะเก็บจากต้น เมื่อใด ช่วงเวลาใด เก็บอย่างไร เพื่อให้มี ตัวยามากที่สุด เช่น การเก็บลูกไม้ปฐพีควรเก็บเมื่อแก่จัดเต็มที่เท่านั้น จะให้ ตัวยาที่เข้มข้นมากเป็นพิเศษ และเทคนิคการเก็บรักษาเครื่องปรุงยาต่างๆ เพราะ การเก็บแต่ละอย่าง ต่างกัน การเก็บรักษาที่ไม่ดี จะทำให้เสียหายได้
    อุปกรณ์ ก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้ามีคุณภาพดี ก็ทำให้ยาที่ปรุงออกมามีความคลาดเคลื่อนน้อย และเป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น จึงควรมีอุปกรณ์ที่ดี และคอยดูแลรักษาให้ดี ชุดอุปกรณ์ที่ครูจะให้ไป เป็นอุปกรณ์ปรุงยาชนิดพิเศษ ที่สามารถเปลี่ยนวัสดุการทำให้เหมาะสมต่อยาที่จะปรุงโดยอัตโนมัติ เช่น เปลี่ยนเป็น ทองแดง ทองเหลือง กระเบื้องเคลือบ ดินเผา
    เทคนิคการปรุงยาแต่ละชนิดก็ต่างกัน บางชนิดต้องคนอย่างเสมอ บางชนิด คนให้น้องที่สุด บางชนิด ห้ามคนเด็ดขาด ซึ่งครูจะสอนต่อไป ในการคาบปฏิบัติ
    น้ำ ในการปรุงยา น้ำเป็นส่วนผสมสำคัญมาก ต้อง ไม่มี สี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ที่ห้องปรุงยา มีไว้ให้เสมอ ตามความต้องการ
    ในปีแรกนี้ ครูจะสอน การปรุงยาเบื้องต้น แบบง่าย ซึ่งเทอมนี้ พวกเธอจะได้เรียน การปรุงแบบต่างๆ บทเรียนหน้า ครูจะสอน การปรุงยา แบบยาชง หลังจากนั้น จะเริ่มมีการปฏิบัติ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อม
    สิ่งที่ต้องมี หญ้าหนวดแมวแห้ง ขิงสด ใบบัวบกสด ตะไคร้แห้ง
    ลูกไม้ปฐพีและ ธอร์นตัน อ้อ ซัคโค-พินท์ และทหารน้ำ ก็น่าจะมีเก็บไว้ในกล่องเก็บได้แล้ว ครูยังไม่รีบใช้ แต่ถ้า ครูใช้สอนเมื่อไหร่ต้องมี ไว้ใกล้ๆการปรุงยาวิเศษเมื่อไหร่ จะเตือนอีกครั้ง
    คาบปฏิบัติ เริ่มเรียนวันที่20-21 ของที่ต้องมี ครูก็บอกไปแล้ว ครูจะเช็คที่กล่องเก็บของ ใครมีไม่ครบ ครั้งแรก หักคะแนน ครั้งต่อไป ไม่ต้องเข้าเรียน ตกลงตามนี้
    พบกัน คาบปฏิบัติ

    ยาต้ม


    "ยาต้ม" นั้น นับว่าเป็นการเตรียมยาที่ได้จากพืชสมุนไพรที่มีมาช้านานแล้วเป็นการเอาน้ำมาเป็นตัวละลายตัวยาที่มีอยู่ในพืชสมุนไพร ทำให้สารที่เป็นตัวยาละลายออกมาและใช้ความร้อนเป็นตัวกระตุ้น ยาบางชนิดก็เคี่ยวระยะเวลาสั้นๆ แต่ยาบางชนิดต้องเคี่ยวเป็นระยะเวลานานมาก เพื่อให้ตัวยาออกมามากขึ้น แต่ก็ควรระวังตัวยาบางชนิดที่สามารสูญหายไปได้เมื่อโดนความร้อน ข้อดีของ "ยาต้ม" ก็ได้แก่
    ออกฤทธิ์เร็ว ดูดซึมได้ง่าย การเตรียมก็ทำง่ายดายและสะดวกมากแต่ก็มีข้อเสีย ได้แก่รสชาตินั้นเอง รวมทั้งกลิ่นของยาอีกด้วย บางทีก็อาจจะดื่มกินได้อย่างลำบากเพราะรสที่ไม่ชวนดื่มสำหรับผู้ที่กินยายาก อีกอย่างหนึ่ง"ยาต้ม" ทั้งหลายก็เก็บไว้ไม่ได้นานมิหนำซ้ำยังขึ้นราได้ง่ายอีกด้วย หากต้องการเก็บเอาไว้นานก็จะต้องใช้สารกันบูดผสมลงไปก็ได้ หรือไม่ก็เก็บในภาชนะที่ปิดมิดชิด
    วิธีการเตรียม"ยาต้ม"
    1. น้ำและภาชนะที่ใช้ต้มยา
    น้ำที่ใช้ต้มยานี้จะต้องเป็นน้ำที่บริสุทธิ์ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ปริมาณของน้ำที่ใช้ต้มยานั้นต้องขึ้นอยู่กับปริมาณของยา โดยปกติก็จะใส่น้ำให้พอท่วมตัวยาที่มีอยู่ภาชนะที่ใช้ในการต้มยานั้นควรเป็นภาชนะดินเผาหรือหม้อเคลือบก็ใช้ได้เช่นกัน ไม่ควรใช้ภาชนะที่เป็นโลหะ เช่น เหล็ก เพราะจะทำให้สาร "แทนนิน"ที่มักพบในพืชสมุนไพรทำปฏิกิริยากับโลหะได้ ซึ่งจะมีผลต่อฤทธิ์ของยาได้
    2. การเตรียมยาสมุนไพร
    ยาสมุนไพรที่ใช้ต้มควรหั่นเป็นชิ้นพอดี ถ้าเป็นแก่นก็หั่นเป็นชิ้นเท่าๆกัน ถ้าเป็นใบใหญ่ ให้หั่นเป็นฝอย แต่ถ้าเป็นใบเล็ก เช่น หญ้าหวดแมวก็ให้ใช้ทั้งใบเลย ขนาดไม่ควรเล็กจนเกินไป เพราะจะทำให้กรองยาต้มยากและเวลาต้มอาจจะเกิดการไหม้ได้ง่าย
    3. การต้มยา
    ให้เติมน้ำสะอาดลงไปในตัวยา คนให้เข้าด้วยกัน แช่ทิ้งไว้ 20-30 นาทีก่อนต้มเพื่อให้ยาสมุนไพรดูดซึมน้ำได้เต็มที่ (แต่ถ้าเป็นพืชสมุนไพรสดๆ ก็ไม่ต้องแช่น้ำ) ใช้ไฟขนาดกลางต้มจนเดือด ใช้เวลาต้มไปสัก 15 - 20 นาทีก็พอเวลาที่น้ำเดือดจะต้องคอยคนดูแลยาต้มให้ดี ระวังอย่าให้ยาไหม้ที่ก้นหม้อได้ (ในการต้มยาไทย ส่วนมากจะต้ม 3 เอา 1 คือ ใส่น้ำลงไป 3 ส่วนของปริมาณที่ต้องการใช้ แล้วต้มให้น้ำเหลือ 1 ส่วน) ยาต้มควรรับประทานในเวลาท้องว่างส่วนจำนวนครั้งและปริมาณก็ให้เป็นไปตามกำหนดในวิธีใช้ยา ยาต้มทั่วไปไม่ควรทิ้งเอาไว้ค้างคืน ต้มแล้วรับประทานให้หมดภายในวันเดียว
    จะสังเกตได้ว่า การต้มยามีมาแต่สมัยโบราณ และเป็นการปรุงยาขั้นพื้นฐานที่ควรจะต้องรู้ ถึงแม้ปัจจุบันมียาแผนปัจจุบัน แต่ตัวบางชนิด ก็สกัดได้จากการต้มนั้นเอง ในเรื่องแฮร์รี่ สังเกตได้ว่า ในการปรุงยานั้นจะเป็นยาต้มส่วนมาก เพราะเป็นการสกัดสรรพคุณให้ออกมาอย่างเต็มที่ ในสมัยโบราณ ก็มีตัวยาที่หลากหลายมาก ที่นอกจากพืชสมุนไพร ทั้งสด แห้งแล้ว ก็ยังมีมาจากสัตว์ เช่น ม้าน้ำแห้ง ตุ๊กแก ดีงูเห่า สมองลิง และยังมีแร่ธาตุต่างๆด้วยเช่น สารหนู กำมะถัน ปรอท ที่คนโบราณมีความเชื่อแบบนั้นแต่ก็ยังไม่ทราบถึง พิษและอาการข้างเคียง มีการรายงานว่า คนโรมันโบราณ ที่เป็นคนงานเหมือง มีอาการประหลาด อารมณ์แปรปรวน เป็นเพราะดื่มไวน์ ที่ใช้แก้วเป็นตะกั่ว จึงทำให้มีการปนเปื้อน และเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือสมัยจักรพรรดิ์เนโร มีการใช่เครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของปรอท และเชื่อว่า ต้องล้างหน้าด้วยน้ำนมลาเพื่อล้างพิษ แต่ปัจจุบัน การปรุงยาได้รับการพัฒนาไปมากขึ้น เพราะมีความก้าวหน้า แต่ไม่ว่าอย่างไร ยาต้ม ก็ยังเป็นวิธีการหนึ่งในการสกัดตัวยาออกจากวัตถุดิบได้ดีอยู่วิธีหนึ่ง

    ยาชง

    ยาชงเป็นรูปแบบหนึ่งที่เตรียมยาได้ง่าย สะดวกดี ส่วนมากเป็นการใช้ยาสมุนไพรแห้งและเติมน้ำร้อนเป็นตัวทำละลาย ข้อดีของยาชงก็คือ มีการดูดซึมได้ง่าย มักจะเป็นยาที่มีกลิ่นหอมและรสชาติก็ดีอีกด้วย
    วิธีการเตรียมยา
    ยาชงส่วนใหญ่เป็นการนำเอาส่วนของพืชสมุนไพรมาใช้ เช่น หญ้าหนวดแมว ขิง ตะไคร้ กลีบรองดอกของดอกกระเจี๊ยบมาล้างให้สะอาดเสียก่อน แล้วจัดการผึ่งลงเอาไว้ให้แห้ง บางชนิดอาจเอามาคั่วหรือปิ้งไฟก็ได้ เติมน้ำเดือดลงไปในสมุนไพรนั้นทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ก็ใช้ได้ อย่าทิ้งยาชงเอาไว้นานเกินไปเพราะจะทำให้สรรพคุณของยาออกฤทธิ์เปลี่ยนแปลงไป กลิ่นรสอาจจะเสียไปอีกด้วย
    การใช้ยาชง มักไม่ได้เห็นในเรื่องแฮร์รี่เท่าใดนัก ที่เห็น ง่ายๆ คือการชงชา ของ วิชาพยากรณ์ ก็เป็นการใช้หลักการเดียวกัน ที่ใช้ น้ำร้องเป็นตัวทำละลายเพื่อให้สารต่างๆ เช่น คาเฟอีนละลายออกมา แต่ขณะเดียวกัน หากชงทิ้งไว้นานๆ จะมีรสขม เนื่อง จาก สารแทนนินก็ออกมาด้วย ปัจจุบันมีการพัฒนาไปมากขึ้น เพื่อ ให้สมุนไพรต่างๆได้รับการยอมนับ เพื่อให้คนรับประทานมากขึ้นโดยนำสมุนไพร มาทำในรูปยาชง เช่น ตัวอย่างที่ว่าไป และเราก็สามารถหาซื้อได้ง่าย และที่จริง ก็สามารถทำเองได้เช่นเดียวกัน หาก มีสมุนไพรต่างๆ อยู่แล้ว ในครัวเรือน

         


    อาจจะยาวซักนิดนะจ๊ะ แต่ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าคงทำได้อยู่แล้วล่ะนะ

    เอาล่ะ เรามาเริ่มการบ้านกันเลยนะ นี่ๆ โยสุเกะ ตื่นได้แล้ว

    ฝากช่วงต่อด้วยนะ เดี๋ยวข้าต้องไปพบผอ. ล่ะ

    บ๊ายบาย นักเรียนที่รัก แล้วพบกันในบทเรียนหน้านะจ๊ะ ^^


    ^ ^ zzz ห..หา อ้าวไปซะแล้ว เผลอหลับซะแล้วเรา

    เอาล่ะๆ เริ่มการบ้านจริงๆซักทีนะ 

    และนั่นก็คือ............. ให้พวกเจ้าไปหาสูตรการปรุงยามาจาก

    ในที่แห่งนี้.......----เงียบ---- ทะเลสาบฟลาดอส ! 

    ภายในป่าของทะเลสาบแห่งนี้มีชนเผ่าอยู่มากมายพวกเจ้าสามารถ

    ถามไถ่พวกเขาได้ แต่ระวังหน่อยล่ะ แถวนี้น่ะ ก็น่ากลัวเหมือนกันน้า

    และนั่นก็ไม่ใช่อย่างเดียวแน่นอน 

    การบ้านที่ 2 ! ให้นักเรียนเขียนจดบันทึกประสบการณ์จากการที่ได้

    ไปค้นหาสูตรปรุงยามา .........  

    O[ ]O << สีหน้าของพวกเจ้าใช่มั้ยล่า 

    ^^ << และสีหน้าของข้า 

    เอาไว้แค่นี้นะ กำหนดส่งก็....

    อืม ราวๆ 30 มีนาคมนะ ออกมาจากป่า แล้วส่งการบ้านให้ทันล่ะ

    ขอให้พวกเจ้าจงโชคดี....... ครอก ZZZZ


    ส่งการบ้าน ปรุงยา  และศิลปะการเอาตัวรอด

    ชื่อ-นามสกุล //

    หอพัก //
     
    รหัส // 

    บันทึกประสบการณ์.......



    จากการค้นหาทำให้ข้าได้สูตรการปรุงยา // 

    เป็นสูตรประเภท // 

    1. รักษาบรรเทา 2. แกล้งคน 3. บำรุงกำลัง 4. แปลงกาย5. ยาเสน่ห์  

    อุปกรณ์ //

    วิธีทำ //

    ข้อแนะนำ / คำเตือน //


    ผลที่เกิดขึ้น //




    ตัวอย่าง 

    ส่งการบ้าน ปรุงยา  และศิลปะการเอาตัวรอด

    ชื่อ-นามสกุล // เรียว คารากาสึ 

    หอพัก //
    magic S 003((สมมติ))
     
    รหัส // 
    503-03

    บันทึกประสบการณ์....... 

    ครอกZZZZ เฮ้ย! ศาสตราจารย์ หลับไปแล้วรึ OH No O [ ]O

    พระเจ้าจอร์จ เวรกำล่ะสิ  ระหว่างที่เพื่อนๆของผมกำลังบ่นกันดังเซ็งแซ่

    เฮ้อ.......ออกเดินทาง! เย้ กระผมออกเดินทางเข้าไปในป่าก่อน

    เพื่อนเพื่อหาสูตรและกลับออกมาให้ได้ก่อน โดยการที่ผมได้ออกเดินทางไปทางทิศ

    ตะวันออกของป่า.... ให้ตายสิ บรรยากาศน่าขนลุกชอบกล หยึย ระหว่างทางมานี่ผมก็

    เจอกับหลายๆสิ่งเลยล่ะ โดยเฉพาะเจ้าพวกต้นไม้อันแสนแปลกประหลาด จำชื่อได้ไม่ได้

    บ้างล่ะนะ อย่างน้อย...... อ้ากกกกก เดินมาตั้งนานแล้วยังไม่เห็นคนเล้ยย แง จะได้ออก

    จากป่ามั้ยเนี่ย คิดแล้วผมก็ทรุดตัวลงบนพื้น แล้วก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว........ 


    กึกๆ ฮ้าวววว กลิ่นอะไรเนี่ยหอมฉุยเลยห๊า...... 

    " เฮ้ย ! " อะไรกันเนี่ย นี่ผมอยู่ที่ไหน ไหงมาอยู่บนเตียงซะล่ะเนี่ย ฮึบ โอ๊ย ปวดๆๆๆๆ

     ฮะๆ เมื่อกี้คงไปเล่นอะไรแผลงๆมาแน่เลนเรา
     
    สงสัยจะฝันไป ฝันร้ายชะมัดยาด แต่ว่า... ถ้ามันเป็นที่หอพัก 

    มันใหญ่กว่านี้ไม่ใช่หร้ออออออ 

    " อ้าว พ่อหนุ่มตื่นแล้วเรอะ "  ร่างหนึ่งก้าวเข้ามาในห้อง จากที่ผมสำรวจดูแล้ว เอลฟ์ป่า 

    เอล์ฟป่าแน่ๆ " ท่านเป็นใครน่ะ" ผมถามออกไป ขณะที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงเล็กๆนี่ 

    เขาหัวเราะก่อนที่จะยกอะไรร้อนๆที่อยู่ในถ้วยมาให้ผม ต้นกลิ่นของความหอมเมื่อกี้นี่

    เอง ! "ข้าชื่อ เอล เป็นเอล์ฟป่าที่อาศัยอยู่ที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก เรียว " เฮื๊อก

    รู้จักเราได้ไงน่ะ "เรื่องชื่อน่ะไว้ก่อนเถอะ อะนี่ ดื่มนี่ซะก่อนเดี๋ยวจะเย็นหมด"

    ว่าแล้วเอลก็ยกถ้วยมาให้ผม หอมฉุยหน้าทานนักเชียว แต่ก่อนที่ผมจะได้ยกซด(น่า

    อร่อยนะนั่น) คำถามเดียว คำถามเดียวที่ทำให้ผมหายจากอาการ ปวดเมื่อยนี่ 

    เย้!!!!!!!!!!!!!!!!!!



    จากการค้นหาทำให้ข้าได้สูตรการปรุงยา //  ซุปน้ำพราย

    เป็นสูตรประเภท //

    1. รักษาบรรเทา  

    อุปกรณ์ //1. เลือดพรายไม้ 2. หม้อต้ม 3. ผงเกล็ดปีกภูติ 4. หนอน 10 ตัว

    วิธีทำ //
    นำเลือดพรายไม้ไปต้มใส่สุกจนกระทั่งกลายเป็นสีน้ำเงิน 

    จากนั้นบดหนอนทั้ง 10 ตัวให้เละ(หยึย) แหลกละเอียด แล้วนำมาผสมกับ เลือดพรายไม้

    ที่ต้มไว้ แล้วโรยผงเกล็ดภูติให้ทั่ว แช่ไว้ในที่เย็น 3 ชม. เพื่อให้ผงเกล็ดภูติ เข้ากลม

    กลืนกับเลือดพรายไม้ จากนั้นนำออกมาต้ม หากต้มแล้วเป็นสี เขียวอ่อน แสดงว่าใช้ได้

    แล้ว แต่ถ้าหากเป็นสีอื่น ให้คนอีกนาน 1 ชม.(เมื่อยโว้ย) หรือไม่ ทำใหม่ซะเถอะ 

    ข้อแนะนำ / คำเตือน //
    อย่าใช้ส่วนผสมนอกจากนี้ หรือใช้ขาดหรือเกิน

    เพราะไม่งั้นอาจทำให้อาการรุนแรงหนักกว่าเก่า

    ผลที่เกิดขึ้น //
    บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อฉีกขาด หรือถูกสัตว์ร้ายกัด


    +++++ แน่นอนว่า 5 ตนแรก มีรางวัล!!! +++++



    นี่เลย ไม้กายสิทธิ์ครบเซ็ท กันแก้ร่ายมนตร์ผิดเหมือน ข้าก้แล้วกันนะ

    แหะๆ สำหรับ 5 คนแรก รีบๆเข้าล่ะ .......


    Welcome....to my class.....



    Hey Boys/Girls welcome to my class

    My name is Rolina wallentin Or PrincessRolin

    Nice to meet you......

    อ่า...เฮ้ๆ พอๆแล้วผอ.ขา~ อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องพูดอังกฤษอีกเลย

    TT^TT อ๊ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ อย่างที่แนะนำตัวไปข้างบนนั่นแหละ

    ข้าคือ เจ้าหญิงโรลิน หรือ โรลิน่า วาเลนทิน นะ อ๊ะ

    เรียกข้าว่า ศาสตราจารย์โรลินดีกว่านะ ^^(เอาซักชื่อเจ๊ --")
     
    เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า (โดนท้วงแล้ว)

    เอาล่ะนะ.................

    ผืนแผ่นดินที่เราเหยียบอยู่นี้ เรียกว่า "อลาสเชียร์"

    อลาสเชียร์ ถูกแบ่งออกเป็น 2 เขตแดนใหญ่ ได้แก่

    1. เขตแดนมนุษย์ เรียกว่า "อเลเชีย"
    2.เขตแดนปีศาจ เรียกว่า "เฮลไซด์"

    อเลเชีย มีทั้งหมด 12 ประเทศ ได้แก่.....

    1. วาทิเลียส นครที่รวมเหล่านักสู้ทุกสารทิศ นครบ้าเลือด.... นั่นแหละ
    ฉายาของนครแห่งนี้ แต่เป็นนครที่แข็งแกร่ง มั่นคงที่สุดเพราะมีป้อมปราการป้องกันข้าศึกมานานกว่า 400 ปี

    2.มารีนู มหานครใหญ่ที่เคยอุดมสมบูรณ์ แต่บัดนี้เกือบกลายเป็นเมืองร้าง
    ถูกเรียกว่า เมืองต้องสาป นับตั้งแต่ที่ปีศาจจากเฮลไซด์เข้าถล่มเมือง แต่เดิมที มารีนูก็เป็นนครที่ใหญ่และเป็นนครแห่งการปกปักรักษา ด้วยนะ
    (เหอๆ ถล่มเมือง)

    3.คริสโดเรีย นครที่เจริญรุ่งเรืองด้านเศรษฐกิจการค้า โดยเฉพาะทางด้านเพชรพลอย เหมืองแร่ต่างๆ ถือว่าเป็นเมืองเศรษฐีเลยทีเดียว 
    เหมาะแก่พ่อค้าแม่ค้าที่จะมาตั้งร้านขายของได้เลย

    4.เซเนียร์ เมืองทางใต้ ของอเลเชีย อยู่ติดชายฝั่งทะเล ทำให้มีประชาชนประกอบอาชีพเกี่ยวกับการประมงจำนวนมาก นับเป็นเมืองที่เศรษฐกิจดีอันดับ 2 ส่วนมาก คนของที่นี่จะอาศัยอยู่อย่างเรียบง่าย และด้วยการที่
    เซเนียร์อยู่ติดชายฝั่งทะเลทำให้ไม่สะดวกแก่การที่เฮลไซด์จะยกทัพมาตี

    5.ฟลาเธียร่า ประเทศเล็กๆที่อยู่ทางตอนเหนือของอเลเชีย เป็นประเทศที่อยู่ท่ามกลางป่าเขา ทุ่งสีเขียว ประเทษแห่งนี้ถูกขนานนามว่า ทุ่งสีเขียว เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตป่าดิบชื้น และอยู่กลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักเดินที่ผ่านมาที่เมืองนี้ต้องหยุดพักชมธรรมชาติอันงดงามนี้ ทั้งน้ำตกสีรุ้ง และอื่นๆอีกมากมาย 

    6.พาเซลไลน์ มหานครการศึกษาเมืองใหญ่เมืองหนึ่งที่อยู่ใจกลางอเลเชียเป็นแหล่งความหวังรุ่นต่อไปของอเลเชียเลยก็เป็นได้ เพราะเป็นเมืองที่มีการสร้างโรงเรียน สถาบันการศึกษาขึ้นมากมาย ศูนย์รวมตัวของเหล่านักเรียนและผู้แสวงหาความรู้ทั้งหลายที่ตั้งใจจะมาเก็บเกี่ยวความรู้แสดงความสามารถให้ประจักษ์แก่สายตาประชาชน(เว่อร์ไปป่ะ) ทั่วทั้งราชอาณาจักร และแน่นอนว่า 1 ในนั้นก็มี เซราเฟีย สถาบันศึกษาของเรานี่เอง!

    7. ทาซาเนีย นครที่ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล ไม่ปรากฏอยู่ในแผนที่ ทราบเพียงแต่ว่าเป็นเมืองลึกลับ และที่ตั้งของนครก็ไม่เคยอยู่กับที่ พูดง่ายๆว่า เคลื่อนที่ได้ตลอดเวลานั่นเอง เพราะอนึ่ง ป้องกันการโจมตีจากพวกเฮลไซด์ที่ตั้งใจขยายอนาเขตพื้นที่อยู่เรื่อยๆ โดยบางครั้ง ทาซาเนียก็ ไปอยู่บนท้องฟ้า ใต้ผืนน้ำ หรือแม้แต่ใต้พิภพ ที่ทำเช่นนี้ได้เพราะ ทาซาเนีย เคยเป็นเมืองเก่าของชนเผ่าเอลฟ์ ละแน่นอนว่าปัจจุบัน นครแห่งนี้ก็มีประชากรเอลฟ์อยู่มากพอสมควร เมืองทาซาเนียจึงพบได้ไม่ง่ายนัก และอย่างที่รู้ๆกันว่า ชนเผ่าเอลฟ์เป็นเผ่าที่มีเลือดเวทมนตร์อยู่มาก ทำให้การสร้างเกราะกำบัง ซึ่งมันไม่ยากเย็นนักสำหรับพวกเขา





    8.เอทัสต้า ประเทศแห่งงานศิลป์ นั่นแหละที่ประชาชนทั่วไปเรียกกัน อันเนื่องมาจาก งานศิลปะมากมายที่ส่งออกจากเมืองนี้ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์ ทั้ง หัตถกรรม รูปวาด การแกะสลัก และอื่นๆ ที่นี่ล้วนเป็นแหล่งเรียนรู้ได้ดีที่สุด เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะว่า เหล่าประชากรคนแคระที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ไง คนแคระ มีฃื่อเสียงมากด้านงานศิลปะ โดยเฉพาะเรื่อง การแกะสลัก  นอกจากนั้น ด้านอาหารการกินก็รสเลิศ จากฝีมือการปรุงแต่งต่างๆจากที่นี่ รับรองว่าสตรีนางใดที่ได้เรียนรู้วิธีการนี้ ผู้เป็นสามีคงติดใจไปอีกนานแน่นอน นี่แหละ เสน่ห์ปลายจวักล่ะ!

    9.อิวว่า ต้นกำเนิดแห่งอารยะธรรม ประเพณี และศาสนาต่างๆมากมาย ส่วนใหญ่มักเกิดจากที่นี่ ประเพณีต่างๆมากมาย ความเชื่อทั้งหลายแหล่ และการก่อตั้งศาสนา ประเทศนี้แหละที่เป็นต้นกำเนิด นักบวชมากมายที่พากันมาศึกษา ณ ที่แห่งนี้ พระคัมภีร์ และอื่นอีกมากมายทั้งยังเป็นสถานที่ที่คนเคารพนับถือ เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ไปเลยทีเดียว

    10.เวเนล เมืองของเทพธิดานางฟ้า และเหล่า ภูติ ในที่นี้จะไม่มีมนุษย์เหลืออยู่เลยแม้แต่คนเดียว เป็นเมืองที่มีความสงบสุข มาก ทั้งเมืองเป็นประชากรภูติล้วนๆ ไม่ก้เหล่านางฟ้าตัวเล็กๆบ้าง ก็เป็นเทพ ผู้ผ่านเข้าออกเมืองนี้ได้ ต้องเป็นเทพ หรือ ภูติเท่านั้น มิฉะนั้นอาจถูกลงโทษ ได้ หรืออีกทางคือการได้รับสารอนุญาต จากทางกระทรวงเวทย์ หรือผู้มีอำนาจบนสวรรค์ซะก่อน ถึงจะเข้าไปได้ ตามปกติแล้ว เหล่าภูติจะเป็นมิตรกับผู้คนแต่จะไม่ปรากฏกายให้เห็น แต่จะคอยช่วยเหลือผู้คนอยู่ห่างๆ แต่ก็มีภูติบางชนิดที่ดุร้าย เช่น
    ภูติเพลิง แต่ขอให้รู้ไว้ว่า เขาก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ บางครั้งเหล่าภูตินางฟ้าพวกนี้ก็จะแปลงกายมาเป็นมนุษย์นะ !
      




    11. เออลอร์ย นครที่มีความเจริญด้านเทคโนโลยี ต่างจากเมืองอื่นๆอย่างมาก เมืองนี้มีการรับวัฒนธรรมจากต่างแดนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นเมืองที่มีเทคโนโลยีล้ำยุคทึ่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งเครื่องจักร หุ่นยนตร์ต่างๆ ทั้งหมด เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมืองนี้แหละที่เป็นผู้ประดิษฐ์ แต่ยังไงก็ตาม ทฤษฎีนี้ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับของทางกระทรวงเวทย์ เนื่องจากทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ยังคงขัดแย้งกับเวทมนตร์ เครื่องจักรกลต่างๆจึงใช้ได้เพียงแต่ภายในเมือง เออลอร์ยแห่งนี้เท่านั้นเอง


    12. อกาทรอส เมืองแห่งเสียงดนตรี ความสนุกและครื้นเครง แล้วก็แน่นอนล่ะ เมืองสุดท้ายนี้เป็นเมืองที่ข้า เจ้าหญิงโรลิน เป็นผู้ปกครองเองล่ะจ้ะ เมืองที่มีแต่เสียงดนตรี อันไพเราะ ผู้บรรเลงบทเพลง และแน่ล่ะว่าเพลงที่นักเรียนบางคน((เหล่ล่ะสิ)) บอกว่าเพลงที่หน้าหลักของโรงเรียนเป็นเพลงสุดสยองนั่นด้วยล่ะ อิอิ เป็นเพลงที่อกาทรอสเป็นผู้แต่งขึ้นนั่นเอง นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นเมืองแห่งความรักอีกด้วยน้า~ เนื่องจากเมืองที่ข้าปกครองอยู่นี้ เป็นเมืองที่มีการพบรัก(อ้วก) เยอะที่สุดน่ะนะ^^ แล้วก็ยังเป็นนครที่มีบรรยกาศดี เหมาะกับที่เนแหล่งฮันนีมูนเลยล่ะ! (นอกเรื่องมั้ยครับ พูดง่ายๆว่าบรรยากาศโรแมนติกว่างั้นเหอะ)

    สำหรับนครและสถานที่ต่างๆในเฮลล์ไซด์ ก็ได้แก่........

    1. ป่าต้องสาปหรือป่าหมอกดำ ป่าลึกลับ ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของอเลเชีย หรือเหนือสุดของเฮลล์ไซด์นั่นเองล่ะ เป็นป่าที่ มีหมอกสีดำ แทบจะกลายเป็นกลุ่มควันซะมากกว่า ซึ่งในควันนั้นเอง ได้มีสารพิษปะปนอยู่ด้วย หากได้สูดกลิ่นดม พิษเข้าไปอาจทำให้ตายได้ นอกจากนั้นแล้วยังมีสัตว์ป่าอสูรดุร้ายมากมายอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

    2.หุบเขาวิญญาณ หุบเขาที่อันตรายที่สุดของอลาสเชียร์ เป็นหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยหมอก มีพลังวิญญาณสูงมาก เชื่อว่ามีวิญญาณมากมายมาวนเวียนอยู่ที่นี่ ลอยไปลอยมา ในอากาศ บางครั้งก็แกล้งผู้ที่ผ่านไปมา ให้ถึงแก่ชีวิต เพื่อที่ตนจะได้ไปรอรับการตัดสินจากสวรรค์ ส่วนมากวิญญาณที่เวียนวนอยู่นี้มีพลังอาฆาตสูงมาก เป็นเหล่าวิญญาณร้ายได้เลย

    3. ถ้ำหิมะ ปกครองโดย Ice Princess มีความหนาวเย็นมาก เล่าว่า Ice Princess นั้นเป็นผู้ที่งดงามที่สุดในอลาสเชียร์ ถูกดาร์ก(ร่างมืดนะ) จับตัวมา และตกเป็นตัวประกัน ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ดาร์กจะได้สลายไปแล้ว แต่ถ้ำหิมะ และ Ice Princess นั้นก็ยังคงอยู่ ณ ที่เฮลล์ไซด์ มีบางคนบอกกันว่า นางเป็นคนรักของดาร์ก และจะเฝ้ารอไกอาร์ธาตุมืดที่ถ้ำนั้นจนกว่าเขาจะกลับมา ปัจจุบัน Ice Princess มีอายุได้ 154 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงสาวและสวยเนื่องจากมนตร์ที่ดาร์กได้ร่ายไว้นั้นไม่ได้หายไปด้วย(แบบว่าเหมือนตำนานรักเลยเนอะ)

    4.ทุ่งล่อลวง เป็นเพียงทุ่งหญ้าธรรมดาๆ ทุ่งหนึ่งเท่านั้นแต่ใครจะรู้ล่ะ ว่ามันถูกร่ายมนตร์ป้องกันซะหนาแน่น หากหลงเข้าไปแม้แต่ก้าวเดียว มนตร์ลวงตาก็จะเริ่มทำงาน หากขาดสติ ล่ะก็ อย่าหวังได้รอดออกมาจากทุ่งแห่งนี้เชียว 


    5. นครมายา คล้ายกับทุ่งล่อลวง เบื้องหน้าของเจ้าอาจถูกหลอกด้วยภาพลวงให้เป็นเมืองที่สวยงาม มีหญิงสาวสวยๆอาศัยอยู่มากมาย และดูไม่มีพิษภัยใดๆ แต่แท้จริงแล้ว มันก็คือเมืองร้างดีๆเมืองนึงนั่นเอง นครแห่งนี้ถูกปกครองโดย องค์จักรพรรดินีเดวิโอร่า นางเป็นแวมไพร์ ที่คอยร่ายเวทย์พรางตา และล่อลวงใส่เมืองแห่งนี้ และหญิงสาวนั้นก็คือ แวมไพร์ และ อสูรกายปลอมมาเองก็เช่นกัน ขอเตือนว่าสำหรับพวกชอบหลีสาวเนี่ย ระวังไว้เถอะ! 

    6.สุสานคนเป็น สุสานที่ไว้ร่างที่ถูกความมืดและอสูรกัดกินจนเหลือเพียงซากเท่านั้น หรืออีกอย่างก็คือ ที่ทรมานที่สมบูรณ์ ที่สุสานคนเป็นนี้จะมีผู้เฝ้าประตูวิญญาณ อาศัยอยู่ด้วย คอยกัดกินวิญญาณของร่างที่ถูกฝังทั้งเป็นอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์

    7.ทะเลสาบไร้พรมแดน ทะเลสาบซึ่งบางคนอาจคิดว่ามันคือมหาสุทรเลยก็ได้เพราะ ว่ามันคือทะเลสาบไร้พรมแดน ไร้ที่สิ้นสุด แถมยังมีอสูรร้ายในน้ำอีกมากมายที่ไม่รู้จะตื่นขึ้นมาเขมือบเราเมื่อไหร่  เรือที่ผ่านเข้ามาในเขตนี้ เกือบทุกลำ ล่มลงกลางทะเล เพราะ อะไรบางอย่างนั้น สิ่งนี้ยังคงเป็นความลับจนกว่าคุณจะลองสัมผัสด้วยตัวเอง......... 
    แน่นอนว่ามีทางรอดจากที่แห่งนี้ เพียงแค่ต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหานิดหน่อยเท่านั้นเอง
    ทะเลสาบไร้พรมแดน ถูกปกครองโดย พญาเงือกเดสตรอน





    ด้านบน คือกองทหารเงือกที่อาศัยอยู่ ณ ที่นี่


    การบ้าน!!!!!!!!!!!!!!!

    เอาล่ะ มาถึงงานกันแล้ว งานนี้สำคัญมากนะจ๊ะ เพราะฉะนั้นจงตั้งใจอ่านและตั้งใจฟัง งานนี้ไปเกี่ยวข้องกับ การทำบัตรนักเรียน จึงอยากให้พวกเธอใส่ข้อมูลต่อไปนี้
    แล้วก็จงตอบคำถามต่อไปนี้ด้วยนะ

    คำถาม

    1.แผ่นดินที่เหยียบอยู่นี้เรียกว่าอะไร

    2.อลาสเชียร์แบ่งออกเป็นกี่เขต มีอะไรบ้าง

    3. อเลเชีย และ เฮลล์ไซด์ คืออะไร

    4.อเลเชียมีกี่ประเทศ อะไรบ้าง

    5.เซราเฟียแห่งนี้ ตั้งอยู่ในประเทศอะไร

    6.นครที่มีความเจริญด้านเทคโนโลยีคือประเทศอะไร

    7.Ice Princess คือใคร

    8.หยิงสาวที่อาศัยอยู่ในนครมายา แท้จริงแล้วคือใคร

    9.ใครคือผู้ปกครองทะเลสาบไร้พรมแดน

    10.คุณคิดว่าอยากให้ประเทศของตนเป็นเมืองอย่างไรแล้วถ้า หากคุณได้เป็นจักรพรรดิ์ของประเทศนั้นๆ คุณมีวิธีการปกครองเมืองอย่างไรให้บ้านเมืองสงบสุข


    ส่งการบ้าน การปกครอง


    ชื่อ-สกุล//

    หอพัก//

    รหัส//

    อาชีพ((ต้องมีนะ หรือไม่ก็คือ เจ้าหญิง/เจ้าชาย ฯลฯ))//

    ประเทศที่อยู่ ( เอาเมืองที่กำหนดให้ 12 ประเทศนั้นนะ ^^)//

    *ฉายา //

    ประวัติของตน((เอาอย่างละเอียดนะ เฉพาะของตนเองย้ำไม่ต้องบอกชื่อพ่อแม่มานะ แล้วก็ไม่ต้องประชดด้วยจ้ะ )) //

    รูปตนเอง // 

    ตอบคำถาม .....................


    * การตั้งฉายานะ เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

    1.ให้เอาอาชีพ + ประเทศที่อยู่
    2.ให้เอาสัตว์เปรียบเทียบ + ประเทศที่อยู่
    3. อาชีพ + ชื่อสัตว์ + ประเทศ

    ตัวอย่างเช่น

    1.ให้เอาอาชีพ + ประเทศที่อยู่  

    // ยอดจอมโจรแห่งอกาทรอส

    2.ให้เอาสัตว์เปรียบเทียบ + ประเทศที่อยู่  

    // จิ้งจอกขาวแห่งอกาทรอส

    3. อาชีพ + ชื่อสัตว์ + ประเทศ 

    // จอมโจรจิ้งจอกขาวแห่งอกาทรอส

    +++++ รางวัล สำหรับ 5 คนแรก +++++


    ... ยินดีต้อนรับ....เข้าสู่ชั้นเรียน....


       

     

      

            



    [หุๆ เป็นไง ข้างบนเนี่ย ผอ.ทำเองเลยน้า~ รับรองด้วยชีวิต!

    แน่นอนว่าอีก
    หน่อย พวกเจ้าเองก็ต้องทำแบบนี้เช่นกันนะ

    เตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะ..... หึๆหุๆ วะฮะฮ่าๆๆๆๆๆๆ(ผอ.บ้าไปแล้ว!)]

    เอ่อ....ช่างมันเหอะจ้ะ ^^; สำหรับเรื่องที่ผอ.กำลังบ้าข้างบน...

    (เดี๋ยวแม่ไล่ออกเลย==^ : Lee) ฮะๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ


    ข้าชื่อ มิสึกิ คาโอรุ...วิชาศิลปะ ด้านการ ออกแบบ

    ไม่ยากเลยจ้ะ งานที่ข้าจะให้พวกเจ้าทำ....

    ^^ (ไม่คิดจะสอนเลยรึ ==: โมบิว) เข้าไปที่เว็บนี้นะจ้ะ


     
    http://elouai.com/doll-makers/new-dollmaker.php

    แล้วก็จัดการตกแต่งเอาเลยนะ ^^ 

    ที่สำคัญที่สุดนะ! อย่าลืมใส่ชื่อด้วยนะ!!!! จำไว้ว่า 
    ไม่ใส่ก็ไม่มีคะแนนนะ!!!!!!!!!!!


    มีปัญหา ไม่เข้าใจอะไร ถามผอ.ได้ ทางอีเมลล์นะจ๊ะ

    (โยนมาหาฉันเลยเรอะ -*-:โมบิว) 

    maxphuket_1996@hotmail.com

    น้า~ ส่วนชุดที่ผอ.จะให้ทำก็ได้แก่.....

    ชุดที่ 1 // เครื่องแบบนักเรียน ตามความคิดที่นักเรียนอยากให้เป็น

    Semple



    ชุดที่ 2 // ชุดไปรเวท สบายๆ ตามสไตล์ของตัวเอง 2 ชุด 

    Semple

     

    ชุดที่ 3 // ชุดสังคม (เป็นแฟชั่นอะไรก็ได้ตามใจ)

    Semple



    ยังไม่กำหนดส่งน้า ให้หัดทำดูก่อน 

    แต่คนที่ทำได้แล้ว....ก็ส่งตามแบบฟอร์มมานะ



    ส่งงานศิลปะ (การออกแบบ)

    ชื่อ - สกุล

    หอพัก

    รหัส

    ชุดที่ 1 

    ชุดที่ 2

    ชุดที่ 3



    Welcome To My Class


    Hi Everyone . My name is Redina Pavane

    ,nice to meet you . To day we come study 

    "lingua latina" , let's go boys/girls ....... 


    ภาษาละติน (Latin - "ลาติน") เป็นภาษาโบราณใน
    ภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียนต้นกำเนิดในเขตบริเวณโรม และได้ชื่อว่าเป็นภาษาทางการในการสื่อสารของจักรวรรดิโรมัน ภาษาละตินในปัจจุบัน มีผู้ใช้น้อยมากจนถูกนับว่าเป็นภาษาสูญหาย อย่างไรก็ตามอักษรละติน (ที่พัฒนามาจากอักษรกรีก) ยังคงมีใช้ในหลายภาษา และเป็นอักษรที่ใช้มากที่สุดในโลก

    คำหลาย ๆ คำที่ใช้ในสาขาวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เป็นคำศัพท์ภาษาละตินหรือสร้างจากภาษาละติน. ภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน พัฒนามาจากภาษาละติน ซึ่งจะเรียกกลุ่มภาษาเหล่านี้ว่า ภาษากลุ่มโรมานซ์ ภาษาที่อยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่สำคัญได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโรมาเนีย ภาษาอิตาลี ภาษาโปรตุเกส และภาษาสเปน ภาษาส่วนใหญ่ในภาษากลุ่มอินโด-ยูโรเปียนก็มีความสัมพันธ์บางอย่างกับภาษาละติน

    ตัวอย่างภาษาละติน

    และเป็นภาษาทางการที่ใช้ในศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก 

    อักษรละติน

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    อักษรละติน หรือ อักษรโรมัน เป็นระบบตัวเขียนแบบตัวอักษร สันนิษฐานว่าอักษรละตินมีที่มาจากอักษรคิวมี (Cumae alphabet) ซึ่งดัดแปลงมาจากอักษรกรีกอีกทอดหนึ่ง ที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก โดยเฉพาะประเทศในยุโรปและอเมริกา และประเทศในเอเชียที่นำอักษรละตินมาใช้ในภายหลังเช่น ประเทศอินโดนีเซีย 
    ประเทศเวียดนาม และ ประเทศฟิลิปปินส์ รวมถึงการเขียนภาษาด้วยอักษรโรมัน (romanization) ในภาษาต่างๆ เช่น พินอิน (ภาษาจีน) หรือ โรมะจิ (ภาษาญี่ปุ่น)

    อักษรละตินเริ่มแรกมี เพียง 21 ตัว ได้แก่ A B C D E F G H I K L M N O P Q R S T V X โดยอักษร J U W Y Z ได้เพิ่มมาทีหลัง และ J เป็นอักษรตัวสุดท้ายที่เพิ่มเข้ามา

    จารึกอักษรละตินเก่าสุดมีอายุราว 57 ปีก่อนพุทธศักราช พัฒนามาจาก
    อักษรอีทรัสคันเมื่อราว 100 ปีก่อนหน้านั้น 
    อักษร Y และ Z นำมาจากอักษรกรีก
     เพื่อเขียนคำยืมจาก
    ภาษากรีก อักษรอื่นถูกเพิ่มเติมเข้ามาตามลำดับเวลา



     คงไม่ใจร้ายไปใช่มั้ยจ๊ะ แต่นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นนะ ช่วงหน้า

    เดี๋ยวศาสตราจารย์ เรดิน่า คนนี้ จะนำการบ้านมาส่งถึงที่เลยนะจ๊ะ 

    นี่แค่ เซิร์ฟๆ ให้อ่านเล่นก่อนก็แล้วกัน


    การบ้าน + งานจ้า~

    งานนี้ ให้นักเรียนส่งมาทาง E-mail เน้อหึๆ 

    maxphuket_1996@hotmail.com

    มาเริ่มกันเลย สำหรับ คำถาม

    1.อักษร Y และ Z นำมาจากอักษรใด

    2.สันนิฐานว่า อักษรละติน มีที่มาจากอักษรอะไร

    3.กลุ่มภาษาที่พัฒนามาจากภาษาละติน เรียกว่าอะไร

    4.อักษรละติน เริ่มแรกมีกี่ตัว

    5.อักษรละตินที่มีอายุเก่าสุด ราว 57 ปีก่อนพุทธศักราช
    พัฒนามาจากอักษรใด

    6.ภาษาละตินเป็นภาษที่ใช้เป็นทางการในศาสนาใด

    7.ภาษาที่อยู่ในกลุ่มภาษาโรมานซ์ที่สำคัญได้แก่ อะไรบ้าง
     (ตอบมาอย่างน้อย 3 ภาษา)

    8.ประเทศในเอเชียที่นำอักษรละตินมาใช้ในภายหลัง เช่น....อะไร

    9.การเขียนภาษาด้วยอักษรโรมัน (romanization) ในภาษาต่างๆ 
    เช่น อะไรบ้าง

    10.อักษรตัวใดเป็นตัวสุดท้ายที่เพิ่มเข้ามาในอักษรละติน

    แบบฟอร์มการส่งงาน

    ชื่อ-สกุล//

    หอพัก//

    รหัส//

    คำตอบ//


    เรียบร้อยละจ้า ^ ^ หลังการบ้านครั้งสุดท้ายนี้ จะเป็นการสอบ

    ขึ้นปี 2 !!!! ตั้งใจอ่านบทเรียนที่ผ่านมาให้ดีล่ะ แล้วหลังจากนี้จะมีการ

    เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่.... เพราะแน้นไม่ต้องตกใจกันนะจ๊ะ

    เอาล่ะๆ ไหนมาดูรางวัลของ เราดีกว่า ล้าลา~



    สำหรับ 5 คนแรก ไม้กางเขนแห่งชีวิต 

    + LP 100 + แต้มความรู้ 30 + เงินอีก 150 ไฮร์

    รีบๆทำกันนะจ๊ะ!!!!!! 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×