ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรัก .. เปื้อนสี ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #41 : ให้รักครั้งนี้ .. เหมือนชีวิตใหม่ของเธอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.58K
      21
      21 ธ.ค. 54

    ตอนที่ 37

     

     

    ในวันหนึ่งๆ ของใครแต่ละคนคงมีเรื่อวราววุ่นวายมากมาย ที่เข้ามาและหายไป บางอย่างทิ้งไว้แค่ร่องรอยแห่งความทรงจำ บางอย่างก็ยังเหลือครบไม่เคยขาดหาย บางอย่างก็รอวันเพิ่มขึ้นๆ อย่างไม่มีท่าทีจะลดละ ..

     

    แต่ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เกิดไปแล้ว .. และสิ่งที่ยังไม่เกิด  ถ้าไม่สนใจและปล่อยให้มันเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น และเราอยากให้เป็นคงจะดีกว่า

     

    “รอนานมั๊ย” ผมถามมันเมื่อรับมันขึ้นรถมาจากจุดนัดพบ วันนี้ผมชวนน้ำมนต์ไปเที่ยวบ้านผมครับ ผมเลยเข้ามารับมันในเมือง

    “ไม่นานหรอก มาคนเดียวเหรอ”  มันถามผม เมื่อขึ้นนั่งได้เรียบร้อยแล้ว

    “มากับแม่ แต่แม่อยู่ห้าง กำลังซื้อของ บ่นว่าอยากจัดปาร์ตี้”ผมบอกขณะกำลังออกรถมุ่งหน้าสู่ห่งสรรพสินค้า ที่เพิ่งจะไปส่งแม่เลือกซื้อของมา

    “จัดปาร์ตี้เหรอ เนื่องในโอกาสอะไรอ่ะ” มันถามทำหน้าจิ้มลิ้มสงสัย ผมมองแล้วอยากจับจูบซะตอนนี้

    “ไม่รู้ ต้อนรับลูกสะใภ้มั้ง” ผมตอบมันไป

    “ไอ้บ้า ..” มันพูดมาพร้อมเขินๆ ผมเคยบอกหรือยังนะ ว่าเวลามันเขินนี่ มันน่ารักที่สุดในโลกเลย ถ้าเคยบอกแล้วก็ขอบอกอีก และจะบอกแบบนี้ไปตลอด

    “เอามือมาหน่อย” ผมบอกมัน

    “ทำไมอีกละ” อีกคนถามแบบไม่พอใจ แต่ก็ส่งมือมาให้

    “ขอจับหน่อย” ผมพูดแล้วก็จับมือมันไว้

    “เอ๊ย ไม่เอา อันตราย ขับรถไปเลย” มันพูดพร้อมกับดึงกลับ ผมเอามือของตัวเองข้างที่จับมันเมื่อกี้ยกขึ้นมาดมเบาๆ

    “หอมจังเลย” พูดแล้วหันไปยิ้มให้มัน

    “โรคจิตขึ้นทุกวันแล้วนะ” ดูครับ ดูมันดุผม

    “กูจะบ้าขึ้นทุกวันก็เพราะมึงนี่แหละ”

    “แหนะ โทษเราอีก”

    “ก็มึงน่ารักอ่ะ” ไม่รู้จะเถียงอะไรมันแล้วครับ มันน่ารักไม่หยุดเลย

    “พอเลย รีบขับๆไป เดี่ยวแม่นายรอนะ” มันบอกผมครับ

    “เบื่อมั๊ย” ผมชวนคุยเรื่องอื่น

    “เบื่ออะไร ?”

    “เบื่อที่ต้องมาอยู่กับกู ไปนอนบ้านกู มีแฟนแบบกู”

    “จะเบื่อทำไมละ หรือว่านายเบื่อ” มันไม่เคยมีเหตุผลอะไรเลย ผมเชื่อแล้ว

    “กูไม่เบื่อ แค่มึงอยู่ด้วย ไม่ว่าทำอะไรกูก็ไม่เบื่อ ให้แค่นั่งมองมึงทั้งวันกูยังนั่งมองได้เลย มึงเชื่อกูป่ะล่ะ” ผมพูดไป คิดภาพตามไป และคิดว่ายังไง ผมก็ไม่เบื่อมันง่ายๆ เหมือนคนอื่นๆแน่ๆ เพราะมันมีอะไรให้ผมได้ค้นหาอยู่ตลอดเวลา

    “ให้จริงอย่างที่พูดเหอะ .. แต่ว่าเราชักจะเบื่อนายแล้วอ่ะ” มันพูดมาพร้อมกับยิ้มๆที่มุมปาก ถึงรู้ว่าพุดเล่นก็เหอะ แต่ฟังแล้วใจแป้วใช่ย่อย

    “มึงอย่ามาพูดแบบนี้นะ กูยิ่งใจไม่ค่อยดีอยู่” ผมละเบื่อมันจริงๆ ชอบมาล้อเล่นให้ใจเสีย

    “รีบขับไปเลย อยากเจอแม่แล้ว เบื่อนายจริงๆแล้วมั้งเนี่ย” ดูมันครับ ยังพูดไม่หยุด

     

     

     

    เมื่อเราสองคนมาถึงห้าง ผมก็โทรถามแม่ ว่าแม่อยู่แถวไหน ก็ได้คำตอบว่ากำลังรอจ่ายตังค์อยู่ ผมกับมันเลยเดินเข้าไปหา ก็พบว่าแม่จ่ายตังค์เสร็จพอดี

     

    “สวัสดีครับคุณป้า” น้ำมนต์ทักแม่ผมครับ พร้อมยกมือสวัสดี

    “ป้าเป้ออะไรกันหนูน้ำมนต์  เรียกแม่สิลูก” แม่ผมตอบมาพร้อมรอยยิ้ม เล่นเอาผมยิ้มตามไปด้วยกับประโยคนั้น

    “อ่าครับแม่” น้ำมนต์พูดออกไปแบบเขินๆ

    “อุ๊ยดูสิหนูน้ำมนต์เขิน ตาหนูดู” แม่ดีใจใหญ่ที่เห็นมันเขิน

    “เห็นแล้วครับแม่”

    “ต๊าย ตาย ถ้าเขินแล้วจะน่ารักแบบนี้ แม่ละอยากจับหยิกแก้ม” แม่ผมพูดพร้อมกับทำท่าจะเอามือหยิกแก้มน้ำมนต์

    “อย่าดิแม่ เดี๋ยวแก้มช้ำหมด” ผมดึงน้ำมนต์เข้ามาหาผม

    “แหม ตาหนู หวงจังเลยนะ ใช่ซี้ .. แม่มันไม่จิ้มลิ้มแบบนี้แล้วนิ” ดูครับดู เดี๋ยวนี้ชอบงอนผมทั้งแม่ทั้งป๊าเลย ..

    “ไม่หรอกครับ น้ำมนต์ว่ายังไงแม่ก็ยังสวย ยังน่ารัก” ดูมันยอแม่ผมครับ

    “จริงเหรอหนูน้ำมนต์ แม่ว่าแม่แก่แล้วนะ ดูสิตีนกาแม่” แม่พูดพร้อมกับยื่นหน้าไปหาน้ำมนต์

    “นิดเดียวเองครับ ยังดูสาวอยู่เลย”

    “พอเถอะครับหนูว่า กลับบ้านกันดีกว่า ยอกันไปยอกันมา ไม่ได้จัดปาร์ตี้กันพอดี” ผมบอกแม่ครับ

    “แหมตาหนูนี่ ขัดจังหวะจริงๆเลย ไปกันเถอะหนูน้ำมนต์ ไปคุยกับแม่บนรถกัน แม่ไม่ค่อยได้คุยกับเราเลย คราวที่แล้วไปบ้านแม่ แม่ก็ไม่ค่อยว่างคุยด้วย เดี๋ยวนั่งหลังคุยกับแม่ไปนะ ปล่อยตาหนูเป็นคนขับรถไป วันนี้เราเป็นเจ้านายกันสองคน”

     

    แม่ผมพูดร่ายยาว และยังไม่จบแค่นั้น ตลอดการเดินทางจากห้างในเมือง ถึงบ้านของผม แม่ชวนน้ำมนต์คุยมาตลอดทาง โดยทิ้งให้ผมขับรถเหงาๆ อยู่ข้างหน้าแค่คนเดียว อย่างที่แม่บอก ว่าวันนี้ผมเป็นแค่คนขับรถ คุณหนูกับคุณผู้หญิงเค้าอยากจะคุยกันตามประสา ผมไอ้แต่มองกระจกหลัง นั่งมองหน้าไอ้น้ำมนต์ตาปริบๆ ทำสายตาออดอ้อนให้มันสงสาร แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันกลับแลบลิ้น แล้วไม่สนใจผมไปเลย

     

    เรื่องที่คุยกันก็เรื่องทั่วๆไปนั่นแหละครับ และเหมือนแม่ผมจะรู้ว่าน้ำมนต์อยากจะรู้เรื่องแม่ของเค้า แม่ก็เล่าให้ฟังเรื่อยๆ ทำเอาน้ำมนต์เลิกสนใจผมไปเลย .. รายนี้นะครับ อย่าให้ป๊ากับแม่ผมพูดเรื่องพ่อแม่เค้า เพราะว่ามันจะไม่สนใจอะไรอีกเลย

     

     

     

    “ตาหนู ไปเรียกคนมาช่วยยกนะ แม่ไปนั่งคุยกับหนูน้ำมนต์ที่โถงก่อน” แม่ผมพูดพร้อมกับลากมันไปด้วย มันมองมายิ้มให้ผมเล็กน้อย  นี่ผมคิดผิดคิดถูกเนี่ย ที่พามันมานอนบ้าน เหมือนมันจะไม่ได้อยู่กับผมเลย

    “มาคะ คุณหนู ป้าช่วย” เสียงป้าแดงครับ พูดพร้อมกับช่วยยกข้าวของที่แม่ผมซื้อมา

    “คุณหนูน้ำมนต์มาเหรอคะ ป้าเห็นหลังแว๊บๆ” ป้าแดงถามผม

    “ใช่ครับป้า เดี่ยวป้าไปตามเด็กมาช่วยยกนะครับ ผมไปเอาคนรักผมคืนก่อน” ผมพูดเสร็จก็เอาของในมือไปไว้ในครัว ก่อนจะเดินเข้ามาหาแม่ที่โถง

     

     

     

     

    ไม่มี !!!

     

     

     

    แม่พาน้ำมนต์ไปไหนละเนี่ย ??

     

     

     

    “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงผมเคาะประตูห้องแม่ครับ

    “แม่ ... “

    “มีไรตาหนู” แม่ตะโกนออกมา

    “ทำไรอยู่ ... เอาน้ำมนต์คืนมา”  

    “เดี๋ยวสิ แม่กำลังคุยกับน้ำมนต์เพลินเลย เข้ามาก่อนมา” สิ้นเสียงแม่ ผมเปิดประตูห้องแม่เข้าไป ก็เห็นสองคนกำลังนั่งดูอัลบั้มรูปถ่ายแม่ในอดีต และในรูปพวกนั้นคงมีรูปแม่ของน้ำมนต์อยู่ด้วย  น้ำมนต์มองแต่ละรูปอย่างช้าๆ มันยิ้มให้กับทุกรูปที่มันดู มือมันค่อยๆลูบไปบนใบหน้านั้นเบาๆ

     

     

    “ขนของลงหมดแล้วเหรอ” แม่ถามผม

    “น่าจะหมดแล้วครับ หนูใช้เด็กช่วยขนละ” ผมตอบแม่

    “โอเค งั้นเดี๋ยวแม่เข้าครัวก่อนนะ หนูน้ำมนต์ เดี๋ยวดูเสร็จตามไปเป็นลูกมือแม่นะจ๊ะ” แม่พูดกับผม ก่อนจะหันไปคุยกับน้ำมนต์

    “ได้ครับ” มันตอบแม่ผม พร้อมยิ้มให้ ก่อนที่แม่จะเดินออกจากห้องไป

    “หึหึ น้อยใจแล้วนะ” ผมพูดพร้อมกับเดินไปนั่งช้อนหลังมัน โอบเอวมันเล็กน้อย เอาคางตัวเองวางบนบ่ามัน

    “น้อยใจอะไร” มันถามเบาๆ แต่สายตายังคงจ้องมองรูปถ่ายในอัลบั้มอย่างช้าๆ

    “ก็ไม่สนใจกูเลย”

    “ใครบอกละ”

    “กูก็เห็น”

    “แล้วยังไงถึงเรียกว่าสนใจละ” มันพูดพร้อมกับหันหน้ามามองผม หน้าของเราสองคนห่างกันไม่ถึงคืบ มันยิ้มให้ผมอย่างกวนๆ

    “แบบนี้ไง” ผมรีบผลักมันลงนอนบนเตียง แล้วก็จูบปากมัน หมอไปทั่วแก้ม

    “นี่ !! นาย หยุด .. นี่มันห้องแม่นายนะ” มันผลักผมออก และพูดให้ผมฉุกคิด จึงลุกขึ้นนั่ง

    “งั้นไปห้องกู” ผมจับมือมันเพื่อจะลากมันไปที่ห้องผม ซึ่งในบ้านใหญ่ บ้านผมอยู่ห้องถัดจากห้องป๊ากับแม่ไม่กี่ก้าว

    “ไม่เอา ....” มันร้องบอกเสียงยาว

    “จะเอา ....” ผมก็บอกเสียงยาวเหมือนกัน

    “ไอ้บ้า หลีกไปเลย” มันด่าผม พร้อมกับผลักผมล้มลงบนเตียง ส่วนมันก็รีบจ้ำอ้าวออกจากห้องไปอย่างไว

     

     

    ปล่อยมันไปก่อนครับตอนนี้ .. อย่าให้ถึงกลางคืนนะ .. เสร็จกูแน่ !!!

     

     

     

     

     

     

    ผมออกมาจากห้องแม่ก็เดินผ่านครัวเล็กน้อยครับ เห็นน้ำมนต์กำลังเป็นลูกมือช่วยแม่เตรียมอาหารอยู่เลย เห็นแล้วผมก็ยิ้มครับ มันกับแม่ผมเข้ากันได้ดีกว่าที่ผมคิด น้ำมนต์มันเป็นคนน่ารักครับ อยู่ใกล้ใคร ใครก็หลงมัน เพียงแต่มันไม่ค่อยเปิดใจมากกว่า ไม่ค่อยอยากรู้จัก ไม่ค่อยอยากสนิทกับใคร

     

    แต่พอมันมาคบกับผม ผมก็คิดว่ามันเข้าหาคนเก่งขึ้น ไม่อยากคิดว่าเป็นเพราะผมที่พามันพบเจอคนอื่น แต่ผมอาจแค่ช่วยให้มันออกมาจากกำแพงของมันเฉยๆ ส่วนที่เหลือ เพราะมันล้วนๆครับ

     

    มันหันมาเจอผม ผมยิ้มให้มันไป แต่มันกลับเชิดหน้าใส่ผม คงยังไม่หายงอน ที่ผมจะปล้ำมันเมื่อกี้ .. ผมขำกับท่าทางก่อนมัน ก่อนที่จะเดินออกมาจากตรงนั้น มาดูคนงานที่จัดโต๊ะที่สนามหญ้า ไม่รู้ว่าแม่ชวนใครมาบ้าง แต่คงจะเป็นเพื่อนๆแม่กับป๊า เพื่อนผมคงมีไอ้เอ็มที่ผมโทรไปบอกตั้งแต่เที่ยงแล้ว

     

    งานในสวนโอเค ผมเลยออกจากบ้านไปหาป๊าที่สะพานปลา ปาหาแกหน่อยครับ เดี๋ยวหาว่าผมตัวติดน้ำมนต์ แล้วไม่สนใจแก ช่วงนี้แกยิ่งน้อยใจอยู่

     

    “ไงป๊า เหนื่อยเปล่า” ผมพูดพร้อมกับยืนขวดน้ำที่หยิบลงมาจากในรถส่งให้ป๊า

    “เหนื่อยครับลูกชาย วันนี้ป๊ามันไม่มีตัวช่วย” ป๊าพูดพร้อมกับรับขวดน้ำ ก่อนเปิดฝาซดเข้าคอ

    “แหนะ น้อยใจอีกแล้ว เดี๋ยวนี้น้อยใจบ่อยนะป๊าเนี่ย” ผมแกล้งแซวแกเล่น มองดูคนงานยกของ เตรียมของลงเรือ

    “น้อยใจอะไร ป๊ากลัวแค่ลูกไม่รักเท่านั้นแหละ” ดูแกครับ ดูแก

    “นั่นแหละ เค้าเรียกว่าน้อยใจป๊า” ผมบอกป๊าไป พร้อมกับขำๆ ป๊ายิ้มให้ผมก่อนจะถามผมต่อ

    “แล้วไหนละ เมียมึง”

    “ป๊าพูดไรแบบนั้น มันเสียหายหมด”

    “แล้วไมต้องเขิน” ดูครับ เดี๋ยวนี้ย้อนเก่ง

    “เขินอะไร แฟนครับป๊า ไม่ใช่เมีย ป๊าไปเรียกแบบนี้ต่อหน้ามันนะ มันคงโกรธตายเลย”

    “ป๊ารู้หน่า อย่ามาสอน อยู่กับแก ป๊ากูอยากพูดแบบแมนๆไง” ขำกับท่าทางของป๊าครับ

    “อยู่บ้านครับ ช่วยแม่เตรียมกับข้าว”

    “วะ แม่ศรีเรือนซะด้วย”

    “อย่าประชดสิป๊า” ผมละไม่เข้าใจอารมณ์วัยทองของแกจริงๆ

    “เออ ป๊าผิดอีกแล้ว แตะต้องไม่ได้เลยนะ” น่านน งอนใหญ่แล้ว

    “ฮ่าๆๆ ป๊านี่นะ ตลกใหญ่แล้ว ไม่คุยกับป๊าแล้ว ไปรอที่รถดีกว่า” ผมบอกพร้อมกับจะเดินหนี

    “ที่ให้เรียกแฟน ก็เพราะยังไม่ได้เค้าอ่าดิ๊ ไม่ไหวเลยลูกป๊า” 

    “ป๊า !!” ผมหันควับมองป๊าตาขวาง มาดูถูกผมแบบนี้ได้ไง .. แถมยังดูถูกมากๆซะอีก

    “อย่ามาทำโมโห ป๊ารู้ทันอ่ะดิ ไม่ไหวๆ แม่แกนะป๊าได้ตั้งแค่เป็นแฟนวันแรกโน่น” ดูครับที่โม้ เชื่อตายละ

    “ไม่คุยกับป๊าแล้ว รีบเคลียร์งาน จะได้กลับบ้าน” ผมหันหลังบอกป๊าแล้วเดินมารอป๊าที่รถ

     

     

     

     

     

    ป๊าเคลียร์งานอีกเล็กน้อยครับ ก่อนจะเดินกลับมาที่รถ ตอนมาป๊าขับอีกคันมาครับ แต่ป๊าบอกว่าจอดไว้นี่แล้วกัน อยากกลับกับผม ผมอุตส่าห์หนีเมียมารับทั้งที ผมไม่อยากจะอะไรกับแกมากครับ เดี๋ยวมันจะยาวกว่าเดิม เลยรีบพาแกกลับบ้านมาอาบน้ำอาบท่า เพราะว่าไม่นานอาหารคงเสร็จ

     

     

    พอผมมาถึงบ้านก็สนามหญ้าก็จัดวางเรียบร้อยแล้ว ป๊าแยกไปอาบน้ำ ผมเดินเข้าไปหาน้ำมนต์ในครัว ตอนนี้มันน้ำมนต์กำลังอยู่หน้าเตาครับ มือกำลังคนอะไรอยู่ไม่รู้ หน้าวุ่นเชียว  ผมว่าผมอย่าเข้าไปกวนดีกว่า ยืนมองมันแบบนี้ดีกว่า ไม่ว่าตอนไหนมันก็น่ารักจริงๆครับ ตอนนี้มันรวบผมไว้อย่างหยาบๆไว้บนหัว ตัวมีผ้ากันเปื้อนสีหวานของป้าแดงแขวนคออยู่ มือก็คนอะไรในหม้ออย่างตั้งใจ  ผมบอกแล้วไงครับ ว่าคนๆนี้ผมไม่มีวันเบื่อหรอก

     

     

    “มองอะไรตาหนู” 

    “แม่ ตกใจหมด เบาๆสิ” แม่ครับ เดินมาจากทางหลังผม คงกลับมาจากไปคุยกับป๊า

    “แหม ทำเป็นขวัญอ่อน ทำไมไม่เข้าไปละ”

    “ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากไปกวนมัน”

    “เหรอยะ แหม ทำตัวน่ารักนะเนี่ย”

    “ไม่เอาละ ไม่คุยละ ไปอาบน้ำดีกว่า” ผมเลี่ยงจะคุยกับแม่ครับ เพราะยังไงซะ ช่วงนี้ผมพูดอะไรก็เป็นที่น่าจับผิดไปหมด ไม่ได้น้อยใจนะครับ แต่มันเขิน

     

     

     

    ผมกลับมาอาบน้ำที่กระท่อมครับ เพราะเสื้อผ้าส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน พอออกมาก็เจอน้ำมนต์นั่งรออยู่ที่โซฟาแล้วครับ

    “มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถาม

    “แป๊บนึงได้แล้ว” มันบอก

    “ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวได้ไปกินข้าวกัน” ผมบอกมัน มือก็ยังเช็ดหัวกับผ้าขนหนูผืนเล็ก

    “ต้องไปกินที่สนามหญ้านั้นเหรอ” มันถามมาทำหน้าทำตาสงสัย

    “อืมใช่  มีอะไรเหรอ”

    “เปล่า”

    “มีไรบอกกูสิ เหมือนมึงมีอะไรไม่สบายใจ” ผมว่ามันต้องมีอะไรในใจแน่ๆ ผมเลยลงไปนั่งข้างๆถามมัน

    “ก็เราไม่รู้จักใคร ตอนเราเดินมาเห็นใครก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด” มันตอบผมมา

    “อ๋อ เรื่องแค่นี้เอง อย่าไปสนใจไรเลย เพื่อนป๊ากับเพื่อนแม่น่ะ เดี๋ยวไอ้เอ็มมา มึงก็นั่งกับกูกับไอ้เอ็มแล้วกัน”  ผมบอกมัน พร้อมกับเอามือลูบหัวมันเบาๆ

    “อืม” มันพยักหน้าเหมือนเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

     

     

    ใจจริงผมก็ไม่ค่อยชินนักหรอกครับ กับการกินข้าวเย็นแล้วก็มีคนอื่นมากินด้วยเยอะแยะมากมาย ทั้งที่ผมรู้จัก และไม่รู้จัก และก็ต้องรู้จัก บางคนผมก็สนิท ส่วนมากก็เพื่อนๆของป๊า และแม่ทั้งนั้นครับ ไม่ได้ไฮโซโก้หรูอะไรกันหรอกครับ แค่แม่กับป๊าชอบชวนพวกเขามาทานข้าวเย็นที่บ้าน มาคุย มาแลกเปลี่ยนเรื่องการค้าขายกัน ป๊าบอกว่า ถ้าเราซื้อใจเค้าได้ ต่อไปเราจะทำอะไรก็ง่าย แสดงความเป็นมิตร ก็จะได้มิตรกลับมา ผมไม่เข้าใจที่ป๊าบอกมากนัก แต่ก็คงประมาณ อยากได้ใจเขา เราก็ต้องชวนเขามากิน .. แบบนี้ล่ะมั้ง

     

    ถามว่าผมชอบไหม ก็ไม่ค่อยชอบหรอกครับ และผมก็ไม่ค่อยได้มากินบ่อยนัก ปีหนึ่งสองสามครั้ง ทั้งที่ป๊ากับแม่จัดเกือบทุกเดือน เพราะผมอยู่หอบ้าง ไม่อยากลงมากินบ้าง ถ้ากลับบ้านมาเจอวันเลี้ยงก็จะเลี่ยง แล้วก็มาอยู่ในกระท่อมครับ แต่หลังจากนี้คงยากแล้ว ป๊าจะให้ผมรู้จักทุกคนไว้ให้หมด ผมก็ต้องเอาใจป๊าครับ เพราะอยากให้ป๊าเข้าใจผมเหมือนกัน

     

     

     

     

    “มารอนานยัง”  ผมตบบ่าทักไอ้เอ็มที่มันนั่งรออยู่ผมอยู่ที่โต๊ะในสวน ที่แยกห่างมาจากโต๊ะของแม่กับป๊าเล็กน้อย

    “เออ กูเพิ่งมา แล้วน้ำมนต์ละ” มันตอบผม ก่อนจะถามถึงน้ำมนต์

    “แต่งตัว เดี๋ยวตามมา” ผมตอบพร้อมกับนั่งลงข้างๆมัน

    “มึงพาน้ำมนต์มาเปิดตัวกับพ่อแม่มึงแล้วเหรอ” ไอ้เอ็มถามอย่างสงสัย

    “เออ” ผมตอบมัน ตาก็มองดูบรรดาเพื่อนป๊ากับแม่ที่มากันวันนี้ หน้าเดิมๆทั้งนั้น

    “แล้วพ่อแม่มึงเค้าไม่อะไรเลยเหรอ”

    “มึงจะให้อะไรละ”

    “คือเค้าโอเค แฮปปี้ ชอบใจเลยว่างั้น”

    “ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เรื่องมันยาววะ ว่างๆจะเล่าให้ฟัง”

    “แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรนี่”

    “แต่กูไม่ค่อยมีอารมณ์เล่า เอาเป็นว่าแม่ชอบ ป๊าเฉยๆกำลังทำใจ แค่นี้มึงโอเคยัง”

    “ก็ดี ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย เดี๋ยวกูมานะ” มันพูดพร้อมกับเดินแยกไป คงจะไปโทรหาหญิง และที่ถามก็คงถูกหญิงให้มาสืบ ..

     

     

    “รอนานมั๊ย” น้ำมนต์เดินเข้ามาถามผท คำถามคุ้นๆ เหมือนผมเพิ่งจะถามไอ้เอ็มไปเมื่อกี้

    “นาน” ผมบอกมัน

    “ขนาดนั้นเลยเหรอ”

    “ก็บอกแล้วไง ว่าไม่อยากห่างกันแม้แต่วินาทีเดียว” ผมพูดพร้อมกับดึงมือมันลงมานั่งข้างๆผม พร้อมกับจับมือมันไว้

    “อย่าเว่อร์ให้มากได้ป่ะ” มันดุผมครับ

    “แฟนคนอื่นกูอ้อนเยอะกว่านี้อีก” ผมบอกมัน

    “แล้วไง อ้อนแล้วก็ได้เลยดิ” มันถามกลับอย่างกับรู้ดี

    “อืม หลายยกด้วย”  ผมก็ตอบไปอย่างชอบใจ

    “เมื่อไหร่จะหายหื่นนี่” มันตอบพร้อมกับออกแรงดึงมือออก แต่ผมไม่ปล่อยให้หลุดหรอก

    “เมื่อได้มึงแล้ว” ผมตอบไปหน้านิ่ง จริงจังใส่มัน

    “พวกมึงสองคนไปเอากันก่อนแล้วค่อยมากินข้าวดีมั๊ย” เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นมาขัด

    “พี่เอ็มมม สวัสดีครับ พี่เอ็มดูดิ หื่นตลอดอ่ะ น้ำมนต์กลัวแล้วเนี่ย” น้ำมนต์หันไปฟ้องไอ้เอ็มซะงั้น

    “งั้นมานี่ครับ มานั่งข้างพี่มา ไอ้นี่มันไว้ใจไม่ได้ครับ พี่ว่าคืนนี้ไปนอนบ้านพี่ดีกว่า”

    “เอ๊ย ไอ้เอ็ม มึงอยากตายหรือไงวะ” ผมเริ่มโวยวาย

    “ดูดิ เถื่อนอีกแล้ว” น้ำมนต์ด่าผมอีก

    “เออ กูจะอยู่นิ่งๆแล้ว จำไว้ๆ” น้อยใจครับ เดินไปหาป๊ากับแม่ดีกว่า

     

     

    ผมเดินมาแบบงอนๆ หันหลังไปเห็นไอ้เอ็มขำผมใหญ่ ส่วนน้ำมนต์ก็ยังดูยิ้มๆ ชอบใจกันมากสินะ ได้แกล้งนายหัวโป้นี่

     

    “อ้าว ตาหนู มานี่มา” ปม่กัวกมือเรียกผมพอดี ผมเดินเข้าไปหาแม่ พร้อมกับยกมือไหว้เพื่อนๆของแม่รายคน

    “โตแล้วหล่อไม่ทิ้งเชื้อพ่อเลยนะคะนี่” คำพูดทั่วไป ที่ผู้ใหญ่มักจะชมลูกของคนที่มาเยี่ยมสินะ ผมเห็นเขาไปบ้านไหน ก็พูดแบบนี้ตลอด แต่ผมก็ยิ้มให้เล็กน้อย

    “โป้ ไปเรียกน้องมาด้วยสิ ป๊าอยากแนะนำให้เพื่อนป๊ารู้จักน้องเราหน่อย” ป๊าบอกผม

    “น้อง ?” ผมถามไปหน้างง

    “หนูน้ำมนต์ไง” ป๊าบอกผม

    “อ๋อครับ ได้ครับ” ผมเข้าใจว่าป๊าต้องการแนะนำน้ำมนต์ให้เพื่อนๆป๊ารู้จัก เลยเดินเข้าไปเรียกน้ำมนต์มาที่โต๊ะ

     

     

    “นี่ครับทุกคน น้องชายตาโป้มัน เป็นลูกชายเพื่อนรักผมเองครับ เพื่อนรักคุณหญิงเขาเด้วย ชื่อหนูน้ำมนต์” มาถึงป๊าก็แนะนำน้ำมนต์กับเพื่อนๆของป๊า

    “สวัสดีครับ” น้ำมนต์ยกมือไหว้ทุกคน

    “ตายแล้ว น่ารักจังเลยนะคะ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชาย ชั้นคิดว่าผู้หญิงนะเนี่ย ผมสวยมากหนู” เพื่อนแม่คนหนึ่งทักขึ้น

    “น่ารักใช่มั๊ยละคะ ต่อไปคงได้เห็นหน้ากันบ่อยๆ เพราะจะมาอยู่เป็นเพื่อนตาหนูโป้มัน ชั้นชอบมากเลย นี่อาหารที่เราทานๆ หนูน้ำมนต์เค้าช่วยทำนะคะเนี่ย ยายเค้าทำอาหารเก่ง เรียนมาจากยายค่ะ” แม่ผมช่วยโปรโมตน้ำมนต์ยกใหญ่

    “ถ่ายรูปเก่งด้วยนะครับ วาดรูปก็สวย เดี๋ยวว่างๆให้ลองโชว์ฝีมือดูได้นะครับ” คราวนี้เป็นป๊าผมพูดบ้าง

    “โห ลูกชายคุณคนนี้เก่งจริงๆนะครับเนี่ย ชักอยากได้ไปเป็นลูกเขยแล้วสิ มีแฟนหรือยัง หนูน้ำมนต์” เพื่อนป๊าถามขึ้นบ้าง

    “เอ่อ ...”

    “มีแล้วครับ” ผมตอบแทนไป

    “แหม หวงน้องจังเลยนะตาโป้ กลัวน้องขายออกก่อนหรือไง” เพื่อนแม่คนหนึ่งแซวผม

    “ไมได้หรอกค่ะ คนนี้ชั้นหวง และห่วง”

    “งั้นชั้นขอตาโป้แทน”

    “อ๋อ ถ้าคนนี้ได้คะ”

    “อ้าว แม่ ไหงงั้นละ” เอาแล้วไงครับ เริ่มหลงไอ้น้ำมนต์เข้าแล้วสิ คราวนี้ผมหมาหัวเน่าแน่

     

     

    บรรยากาศการกินข้าวเย็นวันนั้นผ่านไปด้วยความสนุกครับ ทุกคนหลงน้ำมนต์กันหัวปักหัวปำ มันทำอะไรก็ดูดีไปหมด แค่นั่งนิ่งๆยังน่ารักเลย มีแต่คนขอเบอร์มันเพื่อจะเอาไปให้ลูกสาวเค้า ขอธรรมดาไม่เป็นไรหรอก แต่มันเสือกให้อีก จนผมต้องเอาเบอร์ผมไปให้แทน บอกว่าเบอร์น้ำมนต์มันไม่ค่อยได้ถือ หลายคนสงสัยว่าทำไมผมหวงจัง แต่พอเจอแม่หวง พ่อหวงเข้าบ้าง เลยพาลกันเข้าใจว่าพวกเราหวงน้ำมนต์กันทั้งบ้าน  ประมาณเห่อน้องชาย เห่อลูกชายคนใหม่

     

     

    “ไงบ้างตาหนู ข้างนอกเก็บหมดยัง” ป๊าเดินมาคุยกับผม หลังจากบอกให้ผมคุมคนเก็บของให้หมด ส่วนแม่เข้าไปพักผ่อน โดยลากน้ำมนต์ไปคุยเล่นด้วย

    “หมดแล้วป๊า ทำไมป๊ายังไม่นอนอีกครับ” ผมถามป๊า เห็นว่าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

    “อีกแป๊บนึง ปล่อยแม่เค้าคุยกับลูกชายคนใหม่เค้าก่อน” ป๊าบอกพร้อมกับชายตาไปยังห้องของแม่

    “แม่หลงน้ำมนต์ใหญ่ล่ะ ผมต้องรีบไปเอาคืน ไม่งั้นคืนนี้แม่จับนอนกับแม่แน่” ผมบอกป๊าไป

    “ฮ่าๆๆ หวงจริงหวงจังเว๊ยคนนี้” พ่อแซวผม ก่อนจะเดินนำไปนั่งที่โซฟา และผมเดินไปนั่งตาม

    “ผมรักมันจริงๆนะป๊า” ผมบอกป๊าไปอย่างจริงจัง

    “เออ ป๊ารู้” ผ้าตอบมายิ้มๆ มือหยิบรีโมทมาเปิดทีวี พอให้มีเสียงอื่นๆดังบ้าง

    “ขอบคุณมากนะป๊า สำหรับวันนี้” ผมบอกป๊า ก่อนจะยิ้มให้

    “ขอบคุณเรื่องไรวะ” ป๊าถามหน้านิ่ง มือก็กดเปลี่ยนช่องหาข่าวไปเรื่อย

    “ก็ที่ป๊าพาน้ำมนต์ไปรู้จักเพื่อนป๊าไง ป๊าทำให้ผมรู้ว่าป๊าอยากให้น้ำมนต์มาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวเรา ถึงจะให้คนนอกมองว่ามันเป็นน้องชายผมก็ตาม” ผมสรุปความเข้าใจของผมจากสิ่งที่เห็นในวันนี้

    “คิดขนาดนั้นเชียว ป๊ายังไม่ได้ทำไรเลย” ปากแข็งอีกแล้วป๊าผม

    “ถึงยังไงก็เถอะ ผมก็รู้ว่าป๊ารักผม และป๊าก็รักมันด้วย”

    “แล้วแต่ตาหนูจะคิดแล้วกัน ยังไงซะมาถึงขนาดนนี้แล้ว ก็อย่าทิ้งกันละ ป๊าไม่อยากตอบคำถามใครว่าลูกชายอีกคนไปไหน” ป๊าบอกก่อนจะกดรีโมทปุ่มสีแดง เพื่อปิดทีวี ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา

    “หนูรักป๊านะ” ผมพูดบอกป๊า

    “ป๊าก็รักหนู ถ้าหนูมีความสุข ป๊าก็มีความสุข ถ้าไอ้ยศมันรู้ว่าป๊าได้ดูแลลูกมัน มันคงดีใจ” ป๊าหันกลับมาคุยกับผม

    “ขอบคุณนะป๊า”

    “ป๊าก็ขอบใจตาหนูเหมือนกัน ที่พาน้ำมนต์มา ให้ป๊าได้ตอบแทนไอ้ยศมันอีกครั้ง” ป๊าพูดก่อนจะหันกลับเดินเข้าห้องไป

     

     

     

    คำพูดที่ว่าถ้าลูกมีความสุข พ่อกับแม่ก็มีความสุข เป็นคำพูดของผู้ที่เสียสละที่สุดในโลก ไม่มีใครที่จะเสียสละความสุขของตัวเอง เพื่อให้คนอื่นได้มีความสุข ได้เท่ากับพ่อแม่ของเราอีกแล้ว .. ใครที่บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรักก็เชื่อไม่ได้เท่ากับที่พ่อแม่บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อลูก .. ผมไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนกัน ที่มีป๊า มีแม่ที่เข้าใจผมแบบนี้ ..

     

     

    และไม่รู้ว่าผมโชคดีที่ไหนกัน .. ทีได้พบและได้เจอน้ำมนต์ในวันนี้







    ...........................................................................................................................................................
    ขอกำลังใจเป็นแสดงความคิดเห็น ติชม วิจารณ์ กดโหวตให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ
    ...........................................................................................................................................................





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×