ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พี่เลี้ยงสุดซ่าส์ ... ป๊ะป๋าสุดเฮี้ยว ( Yaoi )

    ลำดับตอนที่ #59 : ตอนพิเศษ ไปงานแต่งเพื่อนรัก ...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.27K
      20
      9 พ.ย. 54

    เจเจ เสร็จยังครับผมเรียกเจเจอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้เขาเข้าไปแต่งตัวคนเดียวอยู่พักใหญ่
    สงสัยจะแต่งให้หล่อกว่าพ่อมันคนตัวโตๆที่อยู่ข้างๆตัวก็บ่นออกมาเบาๆ
    เสร็จแล้วๆๆ”  ไม่ทันไรเสียงเจื้อยแจ้วก็ดังออกมาจากในห้องใหญ่ห้องนั้น พร้อมกับการปรากฎตัวของเด็กน้อยแสนซ
    เป็นไงคับ อึ้งไปเลยละสิ เจเจน่ารักใช่ไหมหละเอ่อ .. จริงๆเลย
    หล่อแล้วครับลูกพ่อ .. ไปกันเถอะ คนแถวนี้เค้าอยากเจอเพื่อนรักกกกกก เค้าจะแย่แล้วและแล้วคุณเท่ห์ก็เดินจับมือเจเจไป พร้อมกับกระแทกแดกดันส่งท้าย จะไม่ให้กระแทกแดกดันได้ไงละครับ ก็ตั้งแต่รู้ว่าผมจะไปงานแต่งงานของไอ้กาย พ่อท่านก็ทำงอน มาหลายร้อยพันรอบ ยิ่งผมแสดงอาการอยากไปมากเท่าไหร่ อาการน้อยอกน้อยใจก็มีมากขึ้นเท่านั้น มีครั้งนึง ก็ไอ้วันที่รู้ข่าวนั่นแหละครับ

    .
    .
    .
    .


    คุณเท่ห์ครับ สิ้นเดือนนี้งานคุณยุ่งหรือเปล่าครับ” ผมก็ทำตัวดีๆ เข้าไปหา เอากาแฟไปให้
    ทำไมเหรอ นายอยากไปไหนเหรอถามกลับมาแบบห้วนๆ ตาก็ยังพลิกไปพลิกมากระดาษที่มีแต่ตัวเลขและตัวหนังสือ
    พอดีเพื่อนเค้าจะแต่งงาน ถ้าตัวเองไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เค้าไปกับบอยมันก็ได้สังเกตได้จากการเปลี่ยนสรรพนาม ถ้าไม่อยากจะอ้อน ไม่ทำแบบนี้หรอกนะ ชิ ..
    เพื่อนตัวเองอ่ะคนไหน เค้ารู้จักหรือเปล่า แล้วไม่อยากให้เค้าไปด้วยเหรอคุณเท่ห์เห็นผมพูดหวานหน่อย สายตาที่มองแต่กระดาษ ก็หันมามองผม วางของทุกอย่างในมือ แล้วเอี้ยวตัวผมไปกอดอยู่บนตัก พร้อมกับพูดจาหวานๆกลับมา แหมๆๆ เหมือนจะรู้งาน
    ตัวเองอาจจะเคยได้ยินชื่อ แต่คงไม่รู้จักหรอก เค้าไม่อยากรบกวน เค้าไปกับไอ้บอยมันได้ยังยืนยันครับว่า อย่าไปเลย กูไปคนเดียวได้
    แล้วเพื่อนนาย ผู้หญิง ผู้ชายละผมว่าพี่ท่านอารมณ์เริ่มไม่ดีแล้วแน่ๆเลยครับ สรรพนามเปลี่ยนไปแล้ว
    ผู้ชายผมตอบกลับไปเสียงเบาๆ
    ใคร !!และก็ได้ประโยคคำถามกลับมาเสียงดัง พร้อมกับอาการรัดตัวที่เกิดขึ้นจากคนด้านล่าง
    เค้าถามว่าใครถึงสรรพนามจะดูสวยหรู แต่น้ำเสียงกลับดูน่าเกรงขาม
    เพื่อนเค้าชื่อกาย ที่ไปเรียนต่อต่างประเทศอ่ะ แล้วจะกลับมาจัดงานแต่งที่นี่ บอกแล้วตัวเองรู้จักเหรอ”  บอกไปแบบส่งๆครับ คิดว่ายังไงคงไม่รู้จัก ถ้ารู้จักคงจำไม่ได้หรอก แก่แล้วนะคุณอ่ะ
    รู้จักเอร๊ยยยยยยยยยยยย รู้จักได้ไง
    เพราะ เป็นงานแต่งไอ้คนนี้ใช่มั้ย ถึงไม่อยากให้ชั้นไปด้วย เพราะเค้าเป็นแฟนเก่านายล่ะสินั่นครับ งานเข้าแล้ว ลุกขึ้นเหวี่ยงใหญ่เลย กงกอด นั่งตัก ไม่มีมันแล้ว อะไรจะขี้หึงขนาดนั้น

    ไม่ใช่ซะหน่อย ก็เค้าเห็นตัวเองงานยุ่งไง เค้าไม่อยากรบกวนเอาเลยไอ้เต้ มารยาที่อ๊อฟฟี่สอนมา เอามาใช้ๆๆ
    ชั้นไปได้ และจะไปด้วย !!!สิ้นคำพูดนั้น พ่อท่านก็เดินกลับเข้าห้องไป เฮ้ออ ต้องตามไปง้อใช่ไหมเนี่ย ..
    .
    .
    .
    .

    ฮัลโหลบอย อยู่ไหนแล้ว”  เมื่อขึ้นรถได้มาสักพักผมก็โทรไปถามไอ้บอย ที่คาดว่าน่าจะใกล้ถึงงานแล้ว
    เออ กูถึงงานแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่กับไอ้กายมันไอ้บอยพูดถึงชื่อคนๆนั้น ทำเอาใจผมหยุดเต้นไปหนึ่งจังหวะ ไม่ใช่ยังรักยังผูกพันนะครับ แต่เป็นความคิดถึงซะมากกว่า เพราะตั้งแต่กลับมาก็ยังไม่มีเวลาไปเจอเลย คุณเท่ห์ก็เร่งให้ช่วยปั่นงาน อันที่จริงไม่ใช่ไม่รู้ ว่าไม่อยากให้ไป
    เออ กูคงไปช้าหน่อยนะ รถแม่งติดชิบหายผมบอกไอ้บอยไป เมื่อดูหนทางข้างหน้าที่มีแต่รถรามากมาย
    เออๆ ใกล้ๆถึงแล้วโทรหากูแล้วกัน เดี๋ยวกูกับไอ้กายเข้าข้างในก่อน แค่นี้นะไอ้บอยพูดจบก็ตัดสายไป ไอ้บอยได้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวครับ ที่จริงไอ้กายชวนผมด้วย แต่นั่นแหละครับ ติดอยู่กับคนที่นั่งข้างๆผมเนี่ยแหละ จะหึงหวงไปถึงไหนเนี่ย
    อยากจะไปเจอหน้าชู้เก่านักหรือไงผมหันควับกับคำพูดนั้น
    ผมว่าผมคุยกับคุณรู้เรื่องแล้วนะคุณเท่ห์ เค้าเป็นเพื่อนผมผมตีหน้าบึ้งพูดประโยคที่เคยพูดแล้วพูดเล่าไปอีกที
    เพื่อนธรรมดาที่ไหน เพื่อนรักล่ะสิไม่ใช่คุณเท่ห์พูดกลับมาครับ แต่เป็นผมนี่แหละที่พูดกลับไป เพราะมันเป็นสเต็ปของการเถียงกันในเรื่องนี้ของเราสองคน พอผมบอกไปว่าเป็นแค่เพื่อน พี่ท่านก็จะบอกว่า "เพื่อนธรรมดาที่ไหน เพื่อนรักล่ะสิทุกที
    นายแย่งชั้นพูดแบบนี้ แล้วชั้นจะพูดอะไร โหๆๆ หล่อเซ็งเลย เนอะเจเจเนอะนั่นไงครับ พอไม่มีทางไปก็วิ่งเข้าหาลูกชายตลอด  น่ารักจริงๆพ่อคนนี
    เพ่เต้คับ วันนี้ไปงานแต่งแฟนเก่าเพ้เต้เหรอคับ แฟนเก่าเพ่เต้คงจะสวยมากๆเลย ใช่มั้ยครับเจเจที่นั่งอยู่ด้านหลัง เมื่อถึงจังหวะให้เข้าสู่ช่วงสนทนาเลยถามผมกลับมา
    เปล่าครับ เป็นเพื่อนพี่เต้เฉยๆ เจเจไปฟังจากใครมาครับ ว่าเป็นแฟนเก่าพี่ผมหันไปถามเจเจ พร้อมกับหยิกแก้มยุ้ยๆนั้นอีกที
    อ้าว เห็นพ่อเท่ห์บอกเจเจ บอกว่าเป็นแฟนเก่าเพ่เต้ ตกลงยังไงละคับเนี่ย เจเจงงเอาแล้วไงครับ พ่อมันขี้ตั๋วเด็ก เด็กเลยถูกปั่นหัว งงหมดแล้ว ว่าแล้วก็สะบัดหน้าใส่คนขับหนึ่งที ชิ !!!



    และแล้วก็มาถึงหน้าโรงแรมด้วยความล่าช้ากว่ากำหนดไปยี่สิบนาที แต่ก็ไม่เป็นไรยังไงก็มาถึง  ผมหันไปมองเจเจมที่อยู่หลังรถ งีบหลับไปแล้ว ทำท่าจะปลุก
    ไม่ต้องปลุกหรอก เดี๋ยวชั้นอยู่กับเจเจเอง” ผมหันหน้าไปมองด้วยความตกใจ
    แล้วคุณจะไม่ลงไปกับผมเหรอผมถามด้วยความสงสัย
    ถ้าชั้นลงไป นายอาจจะไม่สนุกก็ได้ และชั้นก็คงอดไม่ได้ที่จะหึงนายกับนายกายคนนั้น ชั้นว่าชั้นจะรออยู่ข้างล่างแล้วกันคุณเท่ห์พูดจบ พร้อมกับเอื้อมมือมาเปิดประตูให้ผม ผมก้มมองนาฬิกาที่เลยเวลามามากพอควร บวกกับอารมณ์ที่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคุณเท่ห์ตอนนี้ เลยลงมาจากรถ คุณเท่ห์ปิดประตู และขับรถออกไป


    ใจหายไปแว๊บนึง .. คุณเท่ห์เป็นอะไรของเค้าไปอีกนะ ..


    เอ้ย เต้ ... คิดถึงมึงจังวะทันทีที่เข้ามาในงาน ก็เจอหน้าเจ้าบ่าวที่ยืนต้อนรับอยู่ มันเอ่ยคำทักทายทันทีที่เห็นหน้าผม พร้อมกับโผเข้ามากอดแสดงการทักทาย
    เออ กูก็คิดถึงมึง ยินดีด้วยนะเว้ย โทษทีที่มาช้าผมพูดพร้อมกับการคลายอ้อมแขนของมัน ความรู้สึกดีๆจากการทักทายของมันครั้งนี้ ทำเอาผมหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มแห่งความสุขของมัน ...
    เอ้ย มายืนเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวกูแทนไอ้บอยหน่อย ไอ้บอยมันไปคุยงานกับคนรู้จักไอ้กายพูดจบก็ลากผมไปยืนข้างๆมัน ยืนคอยรับแขกที่เริ่มทยอยเข้ามาในงาน .. ซึ่งตอนนี้คงใกล้เวลาพิธีการแล้ว


    ผมมองเห็นรอย ยิ้มความสุขของเพื่อนคนนึงที่ผมรักมันมานานแสนนาน และมองหน้าเจ้าสาว หญิงสาวที่เพื่อนรักของผมคงรักเขามากมายเหมือนกัน ...

    วินาทีนึง คงวินาทีนึงเท่านั้นที่แอบอิจฉาคนที่ยืนอยู่ข้างๆไอ้กายในตอนนี้ ..


    เต้ เข้าไปในงานกันเถอะ งานจะเริ่มแล้วและก่อนที่จะคิดอะไรมากไปกว่านี้ เสียงของไอ้กายก็ตัดบทให้ผมกลับเข้าสู่โลกแห่งความจริง ว่านั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้


    ภายใน งานก็ได้พบเจอเพื่อนมากมาย ที่ห่างหายกันไปนาน และบางคนก็เหมือนเพิ่งเคยเห็น จึงคิดว่าคงเป็นเพื่อนมหาลัยของไอ้กายมัน ภายในงานมีแขกผู้ใหญ่ไม่มากนัก เพราะไอ้กายมันจัดเลี้ยงบรรดาเพื่อนๆมันมากกว่า เจ้าสาวมันก็น่ารักครับ คุยเป็นกันเองกับผมดี สองคนนี้เหมาะสมกันจริงๆ  อ้อลืมบอกไป เจ้าสาวไอ้กายชื่อว่า โม ครั


    เต้คะ นี่เพื่อนสนิทโม ชื่อกรณ์ค่ะ กรณ์เค้าอยากรู้จักกับเต้โมพาเพื่อนของโมที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆกันมารู้จักกับผม
    โมก็พูดไปนั่น ชั้นก็แค่อยากรู้จักเพื่อนของไอ้กายมันบ้าง ไม่ได้หรือไงคุณกรณ์พูดขึ้นมา หลังจากที่คุณโมพูดจบ
    ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณกรณ์ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้
    “..” งงสิครับ คุณกรณ์ยื่นมือมา
    กรณ์เค้าอยากจับมือทักทายน่ะค่ะคุณโมพูดขึ้นเพื่อคลายความสงสัยของผม
    อ๋อครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับผมจับมือทักทายกับคุณกรณ์ไป
    เช่นกันครับ หวังว่าเราคงจะรู้จักกันดีกว่านี้นะครับคุณกรณ์จับมือผมกลับมาพร้อมกับคำพูดที่ฟังดูมีเลศนัย


    เพ่เต้ !!!!เอ๊ะ เสียงคุ้นๆ เสียงนี้ .. นี้มันเสียง
    เจเจผมมองไปทางต้นเสียง เจอเจ้าเด็กแสบเจเจ กำลังวิ่งมาหาผม
    เจเจมาได้ไงครับเมื่อเจ้าตัวเล็กมาถึงตัวผม ผมนั่งลงถามว่ามาได้ยังไง
    เจเจมากับพ่อเท่ห์ครับ โน่น ยืนอยู่โน่นเจเจพูดพร้อมกับชี้มือ ผมมองไปตามมือนั้น พบกับสายตาดุเข้ม นี่เห็นอะไรไปบ้างแล้วเนี่ย
    เต้ เด็กนี่ใครเหรอ น่ารักจังเลยคุณโมที่ยืนดูอยู่ ถามขึ้นด้วยความสนใจ

    อ๋อ น้องชายเต้น่ะครับผมตอบไปตามความเคยชิน เวลามีใครมาถามว่าเจเจเป็นใคร
    โม อยู่นี่เอง กายหาตั้งนาน ไปเถอะครับ ได้เวลาขึ้นเวทีแล้วเสียงของไอ้กายครับ มันเดินมาตามภรรยามัน ก่อนที่จะหันมายิ้มให้ผม และมองไปที่เจเจก่อนที่จะพูดประโยคนี้ออกมา
    เด็กคนนี้เหรอวะ ที่ไอ้บอยมันเล่าให้กูฟัง ท่าจะซนสมคำที่ไอ้บอยเล่าจริงๆ
    คงใช่นั่นแหละ เอาไว้กูค่อยเล่าให้มึงฟังอีกทีแล้วกันผมพูดตัดบทเพราะรู้ว่าสองคนนี้มีอย่างอื่นต้องทำต่อ
    เดี๋ยว โมไปก่อนนะเต้ .. เออ โมฝากกรณ์ด้วยนะเต้ กรณ์มาจากเมืองนอก ไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไทยมากนัก รบกวนเต้หน่อยแล้วกันโมพูดพร้อมกับเอามือคุณกรณ์มาวางไว้บนมือของผม นี่ฝากให้อยู่เป็นเพื่อน  หรือฝากทั้งชีวิตเนี่ย
    เดี๋ยวกูมานะมึงสิ้นเสียงของไอ้กาย เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวก็หายขึ้นเวทีไป


    มา นี่มาไม่ทันไรก็มีแรงกระชากจากข้อมือผมอีกข้างหนึ่ง ทำให้ผมตัวเอนไปทางแรงดึง มือที่คุณกรณ์กุมไว้หลุดโดยอัตโนมัติ เสียงวิ่งของเจเจตามมาเป็นระยะ และเสียงของคุณกรณ์ที่คอยเรียกชื่อผมก็เช่นกัน
    คุณเท่ห์ เบาๆนะ เต้เจ็บมือแล้วนะผมพูดพร้อมกับพยายามสะบัดมือ ซึ่งตอนนี้คุณเท่ห์พาผมมานอกงานแล้ว
    พ่อจับมือเพ่เต้ทำไม เพ่เต้เจ็บแล้วเห็นไหม .. เพ่เต้มาอยู่กับเจเจครับ พ่อเท่ห์ใจร้ายๆๆเจเจผู้ซึ่งเห็นเหตุการณ์แล้ววิ่งตามมาติดๆ พูดพร้อมกับดึงมือผมอีกข้างไปทางเจเจ
    นี่ขนาดห่างกันแป๊บเดียว นายก็หว่านเสน่ห์ไปทั่วแล้ว แล้วจะให้ชั้นวางใจได้ไง ถ้าชั้นไม่ตามมา ไอ้ตาลูกครึ่งคนนั้นคงคาบนายไปกินแล้วคุณเท่ห์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่น แต่ไม่ได้ตะโกน พร้อมกับสายตาตัดพ้อที่มองมาที่ผม
    คุณกรณ์เค้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับคุณเท่ห์ คุณอย่าคิดมากสิผมตอบไปตามสัญชาตญาณ
    ดูสิ มีแก้ตัวให้กันด้วย ชั้นว่าเรากลับกันเถอะ ก่อนชั้นจะไปชกหน้าไอ้ตาลูกครึ่งนั่นคุณเท่ห์พูดพร้อมกับดึงมือผมให้เดินตามไป

    อะไรกันคุณเท่ห์ อย่ามาทำนิสัยแบบนี้นะ นี่มันงานแต่งเพื่อนรักของเต้นะ เจเจช่วยพี่ด้วยผมหันไปขอร้องเด็กตัวเล็กที่ออกแรงเท่าที่มีดึงมือผมอีกข้าง หน้าแดงด้วยความเหนื่อย และเสียงหอบนั่นอีก


    เจเจเสียงเรียกเจเจมาทางด้านหลัง ทำให้พวกเราทั้งสามคนหันไปมองคนที่เพิ่งจะเข้ามา
    เพ่บอยยยยยยไอ้บอยนั่นเองครับ มาทันเวลาพอดี
    สวัสดีครับคุณเท่ห์  ไงไอ้เต้ มาถึงนานแล้วเหรอไอ้บอยทักทายทุกๆคนครับ
    เออ ได้สักพักแล้ว เข้าไปในงานกันเถอะมึงผมพูดพร้อมกับจูงมือไอ้บอยเข้าไปในงาน โดยไม่สนใจคนข้างหลังว่าจะทำหน้ายังไง ทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้นะ เฮ้อออ
    เจเจ ไปกับพี่มั้ยไอ้บอยหันไปถามเจเจอีกทีก่อนจะปิดประตูงาน
    ไปคับเจเจตอบพร้อมกับวิ่งมา หันไปมองคนเป็นพ่อที่ทำหน้างงๆ ประมาณจะทิ้งกูอยู่คนเดียวใช่มั้ยตกลง ผมเหรอจะสน อยู่ด้วยกันตอนนี้ก็มีแต่ทะเลาะ


    เรากลับมา นั่งที่โต๊ะอีกครั้ง โดยมีผม เจเจ ไอ้บอย และคุณกรณ์ที่พอเห็นผมเดินกลับเข้างานมา ก็มาขอนั่งคุยด้วย ซึ่งคุณกรณ์ก็พอจะรู้จักกับไอ้บอยมาบ้างแล้ว  จึงคุยกันได้สะดวกหน่อย ส่วนเจเจได้ไอติมกินเล่น ก็หยุดพูดในทันใด ผมหันไปมองหน้าเวที พิธีกรกำลังซักถามความเป็นมาของทั้งคู่ ซึ่งพอจับใจความได้ว่า สองคนเจอกันตอนเรียนปริญญาตรีที่ต่างประเทศ และก็คบกันมา และตัดสินใจกลับมาแต่งงานที่นี่ และกลับไปเรียนโทต่อให้จบ  และมาถึงช่วงที่เจ้าบ่าวจะร้องเพลงให้เจ้าสาว ผู้คนต่างกลับมาสนใจเวทีกันอีกครั้ง ผมเช่นเดียวกัน ที่ใจจดใจจ่อรอดูชมช่วงนี้ของงาน มันคงหวานจนเคลิ้มเลย

    เนื่องจากผมไปอยู่เมืองนอกมานาน จึงไม่ค่อยได้ฟังเพลงไทยเท่าไหร่ แต่พอได้ฟังเพลงๆนี้ ผมก็รู้ทันที ว่าผมจะร้องเพลงนี้ ให้ใคร ..ไอ้กายกล่าวเกริ่นครับ
    ตลอดชีวิตผมอยากได้ของขวัญมากมายจากทุกๆคน อยากได้ความรัก รอยยิ้ม ความจริงใจ แต่ต่อจากนี้ไป ผู้หญิงคนนี้ของผม คือของขวัญที่มีค่าที่สุด คือความรัก รอยยิ้มและความจริงใจ ที่ผมจะเก็บไว้ตลอดไปครับสิ้นเสียงของไอ้กาย ผู้คนต่างกรี๊ดกร๊าดและตามด้วยเสียงปรบมือ พร้อมกับดนตรีเพลงที่ผมคุ้นหู ..

    มีเรื่องราวมากมาย ที่ไม่มีใครได้ฟัง คำพูดนับร้อยพัน
    ที่ต้องการเอื้อนเอ่ย ไม่ว่าจะนานซักเท่าไหร่
    ยังยืนยันคำเดิมเสมอ ไม่เคยเปลี่ยน    
    เธอทำให้ฉันรู้และเข้าใจคำว่าสองเรา
    ไม่ว่าจะร้อนหรือว่าจะหนาวก็ไม่กลัว
    มีเธอที่รักข้างในจิตใจ ให้ฉันก้าวเดินต่อไป ต่อจากนี้
    เธอและฉัน.... จับมือเคียงกันนับจากนี้
    ผ่านความเดียวดายที่สองเรานั้นเคยมี



    น้ำตา ผมไหลมาตอนไหนก็ไม่รู้ เพลงเดิมๆ เพลงเดียวกัน เพลงๆนั้นก็เป็นเพลงเดียวกับที่ คุณเท่ห์ร้องให้ผมอยู่กับคุณเท่ห์ บรรยากาศโรงหนัง ภาพบนจอ ทุกๆอย่างในนั้นวันผุดเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง  ด้วยไฟในห้องที่มืด และผู้คนสนใจบนเวที จึงทำให้มีคนสนใจน้ำตาผมน้อยลง และคนที่เห็นคงคิดว่าผมอินกับคู่บ่าวสาว


    เมื่อมีเธอคนที่แสนดีอยู่ตรงนี้
    มากกว่านั้น.... ยิ่งมีกันและกันมากแค่ไหน
    มีเพียงคำว่ารักที่สองเรานั้นเข้าใจ
    รักเพียงเธอและตลอดไป (แค่เธอกับฉัน)
    และนับจากนี้ไป ทุกเรื่องราวที่ได้ฟัง
    คำพูดทุกถ้อยคำที่คอยย้ำเตือนใจ    
    ไม่ว่าจะไกลซักเท่าไหร่ เพียงมีเธอคนดีอย่างนี้
    ไม่ไหวหวั่น
    (จะมีเพียงสองเรา ต่อจากนี้)     (แค่เธอกับฉัน)


    สัมผัสที่มืออย่างอบอุ่นกุมมือผมไว้เมื่อเพลงนั้นจบ พร้อมกับอีกมือที่เอามาเช็ดน้ำตาให้ผม ผมยิ้มและกำมือที่สัมผัสนั้นให้แน่นขึ้น
    คุณเท่ห์ผมเรียกชื่อนั้นอีกครั้งให้ตัวเองรู้ตัว
    ชั้นขอโทษคุณเท่ห์พูดพร้อมกับดึงตัวผมเข้าไปกอด ตอนนี้ไฟในงานสว่างขึ้นเพราะไอ้กายมันร้องเพลงจบแล้ว บนเวทีมีแต่เสียงเงียบ สายตาบ่าวสาวมองมาทางผม พลันทำให้สายตาคู่อื่นๆมองมาที่ผมกับคุณเท่ห์กันหมด
    คุณเท่ห์ปล่อยได้แล้ว คนมองๆๆผมพูดพร้อมกับทุบที่หลังเบาๆ
    คุณเท่ห์ปล่อยมือออกจากผม พร้อมกับยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ
    พ่อกอดเพ่เต้ของเจเจอีกแล้วนะ .. เจเจหวงรู้มั้ยเจเจที่ยืนมองผมกับคุณท่ห์ตาเขียว พูดเสร็จก็วิ่งเข้ามากอดผมตัวกลม ผมกอดกลับอีกครั้ง ก่อนยิ้มให้กับทุกคนที่มองกลับมา

    ครอบครัวของเพื่อนรักผมครับ น่ารักใช่มั้ยครับ ผมก็จะมีครอบครัวที่น่ารักแบบนี้เหมือนกันครับ ใช่มั้ยจ๊ะโมไอ้กายที่มองมาทางผมพูดขึ้น พร้อมกับหันไปทำหวานกับโมที่เหมือนจะยังอึ้งๆ แต่ก็ยิ้มกลับ พร้อมเขินหน้าแดงเมื่อสามีหนุ่มพูดถึงอนาคต

    ตลอดงานผมกับคุณเท่ห์นั่งจับมือกันตลอดงาน คุณกรณ์มองมาแบบสงสัยเป็นระยะ แต่คงยังไม่กล้าถามอะไรมาก และท่าทีของคุณกรณ์ก็เปลี่ยนไป เจเจกับไอ้บอยยังคุยกันสนุกเหมือนเดิม คุณเท่ห์ก็เช่นกัน ดูท่าทางจะเข้ากับไอ้บอยได้เยอะแล้ว และท่าทีของคุณเท่ห์ตอนนี้ก็ไม่เหมือนตอนที่ก่อนจะมางานและก่อนหน้านี้เลย กลับมาเป็นคุณเท่ห์ที่มีเสน่ห์อีกครั้ง

    เป็นไงไอ้กาย เหนื่อยมั้ยมึงไอ้กายเดินกลับมากับคุณโมหลังจากไปยืนส่งแขกกลับหมดแล้ว
    เหนื่อยชิบหายวะ แต่ก็ดี จะได้ชินกับงานหน้าไอ้กายพูดตอบกลับมาติดตลก
    จะมีงานหน้าอีกเหรอค่ะ กับใครไม่ทราบคุณโมพูดพร้อมกับทำหน้าโมโห ยิ่งดูยิ่งน่ารัก
    โหๆๆ งานนี้เหนื่อยจะแย่แล้ว งานหน้าก็งานเลี้ยงครบรอบ ห้าสิบปีไงจ๊ะเราก็มองไอ้กายง้อเมียมันอยู่

    ผมคุยกับไอ้บอย ไอ้กาย คุณโม และคุณกรณ์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับมา เจเจหลับไปได้สักพักแล้ว คุณเท่ห์เลยต้องอุ้มกลับมาขึ้นรถ

    ชั้นขอโทษนะที่หึงไม่เข้าเรื่องคุณเท่ห์พูดขึ้นเมื่อเราสองคนนั่งกันอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
    ผมก็ขอโทษนะครับ ที่ไม่ค่อยได้สนใจคุณผมเป็นฝ่ายขอโทษบ้าง
    อืม ทีหลังสนใจชั้นเยอะๆนะ ชั้นแก่แล้ว ขี้น้อยใจคุณเท่ห์พูดพร้อมกับยื่นหน้ามาจะจูบที่ปากผม
    เฮ้อออ ง่วงนอนจัง รีบกลับกันเถอะครับ ผมคิดถึงที่นอนแล้วผมเอามือมาปิดปากแกล้งหาวไป ไม่ได้ครับ คุณเท่ห์ไม่จบแค่หอมจูบแน่ ..
    ฮ่าๆๆ กลับไปถึงบ้านก็ไม่ได้นอนง่ายๆเหมือนกันนั่นแหละ วันนี้จะเอาคืนค่าที่ทำให้คนแก่น้อยใจคุณเท่ห์หัวเราะออกมาเสียงดัง และพูดขู่มาก่อนจะรีบเร่งขับรถกลับห้อง ..


    .. เอ่อ ตอนนี้ผมไม่อยากให้ถึงบ้านเร็วๆแล้วสิ .. T^T ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×