คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : พ่อกลับบ้าน พ่อกลับบ้าน ก็บอกกับหนูว่าจะรีบมา
“ใช้ง่ายดีแฮะ เจ้านายเรา” ผมพรึมพรำคนเดียว เมื่อเห็นเจ้านายสุดเฮี้ยวเดินไปปลุกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเค้า เจเจเดินงัวเงียมาหาผมแล้วครับ ท่าจะยังง่วงอยู่
“เพ่เต้ทำไรกิงเหรอคับ หอมเชียว” ตื่นมาก็หิวทันทีสินะ เจ้ากระรอกน้อยของผม
“ข้าวผัดครับ เจเจกินได้ป่าว” ถามไปงั้นแหละครับ ยังไงก็บังคับกิน
“มันเผ็กมั๊ยละคับ เจเจกิงเผ็กไม่ได้” เด็กนะเด็ก
“ไม่เผ็ดครับ อร่อยด้วย เจเจไปแปรงฟันล้างหน้านะครับ เดี่ยวพี่จัดโต๊ะรอ” ผมปิดแก๊ส ถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วบอกเจเจ เจเจก็วิ่งเข้าห้องน้ำไป หันมาดูเจ้านายผม นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าวอ่านอะไรในมืออยู่เรียบร้อยแล้ว ไม่คิดจะมาช่วยยกไปเลยใช่มั๊ยย
“นี่นายเต้ ชั้นบอกนายยังว่าพรุ่งนี้ชั้นจะไปญี่ปุ่น” เสียงเจ้านายผมตะโกนมาจากโต๊ะกินข้าว
“อะไรนะ ไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้ ทำไมคุณเพิ่งมาบอกผม แล้วนี่ผมจะต้องเตรียมตัวยังไง” อะไรว้า ทำไมเพิ่งมาบอกเอาตอนนี้จะเตรียมตัวทันมั๊ยเนี่ย อีเจ้านายบ้า
“นี่ๆๆๆ นาย เบาๆหน่อย ผมไปคนเดียว คุณไม่ได้ไปด้วย อยู่ดูแลเจเจที่บ้าน จ้างมาเป็นพี่เลี้ยงไม่ได้มาเป็นองครักษ์” แป๋วววว ไรกันว้า นึกว่าจะได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น หน้าแตกเลยเรา
“แล้วคุณเท่ห์ไปกี่วันเหรอครับ” ต้องถามแก้เก้อก่อน
“สัปดาห์นึง เดี๋ยวค่อยซื้อของมาฝาก” อะไรเนี่ย สัปดาห์นึงเลยเหรอ แต่ได้ของฝากไม่เป็นไรๆๆ
“จริงนะนาย เอาเยอะๆน้า” ผมยิ้มแป้นเมื่อคุณท่านเค้าจะซื้อของฝากมาให้
“เพ่เต้กับป้อคุยอะไรกันเหรอคับ เพ่เต้ยิ้มใหญ่เชียว” เจเจมาตอนไหนละนี่ลูก ชอบมาเงียบๆนะเรา
“พ่อก็แค่บอกพี่เลี้ยงของลูกว่าจะซื้อของฝากมาให้ พี่เลี้ยงของลูกคงดีใจเอามากกกก ชีวิตนี้คงไม่เคยได้ของฝากจากเมืองนอกกับเค้า” อึกกกก จุกเลยครับ นายท่านผมพูดซะข้าน้อยจุกเลย
“ป้อก็อย่าลืมซื้อของมาฝากเพ่เต้ละ ของเจเจไม่ต้องแล้วก็ได้ เจเจเบื่อของจากญี่ปุ่นแล้ว ป้อซื้อมาฝากพี่เต้เถอะ เจเจสงสารพี่เต้ เพ่เต้ไม่เคยได้” อึกกกกก จุกอีกดอก เจเจของพี่ ไร้เดียงสายิ่งนัก
“พี่ว่าเจเจกับป๊ะป๋า มากินข้าวกันเถอะครับ มาเดี๋ยวพี่ตักข้าวใส่จานให้ ทานให้อร่อยนะครับ อย่าเพิ่งคิดถึงญี่ปุ่นนะครับ” ผมตักข้าวให้ทั้งสองคนเสร็จ ก็เดินออกจะไปดูทีวีที่ตรงโซฟา
“แล้วนายไม่ทานด้วยกันเหรอ” เสียงอีคุณพ่อน้องเจเจเรียกผมให้ไปร่วมวงทานข้าวด้วยเหรอเนี่ย
“น่านสิ เพ่เต้ไม่หิวหรอคับ ทำไมไม่มากินข้าวด้วยกัน” เอาสิครับ ผมมีเกียรติถึงขนาดจะได้กินข้าวกับเจ้านายและคุณหนูเลยเหรอเนี่ย โอ้.... ไม่
“มาเถอะ พี่เลี้ยงคนไหนๆของเจเจ ก็กินพร้อมชั้นทั้งนั้น” แป๋ววว เอาอีกแระ จะหลอกให้ดีใจซักแป๊บไม่ได้หรือไงครับท่าน
“ปกติพี่เลี้ยงเจเจ จะกินเป็นเพื่อนเจเจมากว่านะครับป้อ ป้อกินข้าวพร้อมเจเจบ่อยซะที่ไหน”
เงียบครับ เงียบกันทั้งห้อง
ผมไม่อยากจะเชื่อว่านี่คือคำพูดของเจเจ เด็กอายุสามขวบรู้จักน้อยใจด้วยเหรอเนี่ย เจ้านายของผมถึงกับเงียบ หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเนื่องจากทำไรไม่ถูกซะงั้น ทำไมไม่แก้ตัวหน่อยละครับท่าน แก้ตัวหน่อยซิ ลูกจะได้รู้สึกดีขึ้น
“โอเคครับ เดี๋ยวพี่เต้จะกินเป็นเพื่อนเจเจเอง และพี่เต้รับปากว่าหลังจากนี้พ่อของน้องเจเจจะมากินข้าวกับเจเจบ่อยขึ้น” พูดไปงั้นแหละครับ แต่จะพยายามทำให้ได้ สายตาของคุณเท่ห์มองผมเหมือนกับสงสัยว่าผมกำลังจะทำอะไร ผมยิ้มให้แทนคำตอบ เพราะไม่รู้จะบอกยังไงดี เข้าใจว่าคุณเท่ห์กำลังทำอะไร และก็เข้าใจว่าเจเจต้องการอะไร
ผมเดินไปหยิบจานข้าวพร้อมตักข้าวผัดฝีมือตัวเองมากิน เราสามคนทานอาหารเย็นที่มีแค่ข้าวผัดกับซุปกระดูกไก่กันอย่างเงียบๆ ผมรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน
“เจเจครับ ถ้าเจเจโตขึ้นเจเจอยากเป็นอะไรครับ” ผมถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
“เจเจอยากเป็นตำรวจครับ เอาแบบแปลงร่างได้เหมือนอุลตร้าแมน” ผมเดาไม่ผิดจริงๆ เด็กผู้ชายอายุสามขวบ ยังไงก็อยากเป็นอาชีพพวกฮีโร่
“แล้วทำไมเจเจถึงอยากเป็นตำรวจละ ไหนบอกพี่เต้กับพ่อเจเจหน่อยสิ” จะยากเกินไปมั๊ยน้อ.....กับเด็กสามขวบ
“ก็จะได้ดูแลคนได้ไงครับ เหมือนในอุลตร้าแมนไง ตำรวจแปลงร่างได้ด้วย”
“ฮ่าๆๆ แล้วทำไมคนพวกนั้นต้องทำถึงขนาดนั้นละครับ หน้าที่เข้าเหรอ” ตอนนี้คุณเท่ห์เริ่มหันมาสนใจประเด็นในการคุยของพวกเราแล้วครับ
“ถ้าไม่มีอุลตร้าแมน ตัวโกงมันก็จะฆ่าคนหมดโลกเลย ทีนี้เราก็ตาย ๆๆ” จินตนาการของเด็กจริงๆครับ
“แล้วถ้าไม่มีพ่อละ..” เจเจเงียบไปครับ คุณเท่ห์ก็รอฟังคำตอบจากลูกชายตัวเอง ผมก็รอฟังเช่นกัน ผมคิดว่าคำถามนี้มันโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กอย่างเจเจ แต่ผมก็เผลอถามไปแล้ว
“ถ้าไม่มีพ่อเหรอ...................... เจเจไม่เคยคิด รู้แต่ว่าแค่มีพ่อ ก็มีเจเจ ”
“งั้นถ้าพี่เต้บอกว่า พ่อของเจเจเป็นอุลตร้าแมนของเจเจ เจเจจะเชื่อพี่ป่ะครับ” เจเจส่ายหัวไม่เชื่อที่ผมพูด
“จะไม่ใช่ได้ไงละ ก็ที่คุณพ่อทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเจเจไง เพื่อให้เจเจได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ถึงพ่อแปลงร่างไม่ได้ แต่พ่อก็เป็นฮีโร่ได้นะ” เจเจยิ้มให้กับผม ผมไม่รู้ว่าแกเข้าใจรึป่าวนะครับ มันอาจจะยากที่จะอธิบายอะไรให้เจเจเข้าใจ อาจจะเป็นนิทานหลอกเด็ก แต่อย่างน้อยผมก็ได้บอกเค้าไปว่า ฮีโร่ที่คอยดูแลเค้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวเค้านั่นเอง
“พ่อทำท่าแปลงร่างให้เจเจดูหน่อยซิครับ” เอาแล้วไง เจเจ คิดว่าพ่อตัวเองแปลงร่างได้ด้วย
“อยากให้พ่อแปลงร่างเหรอลูก ตอนนี้ไม่ได้หรอก พี่เต้เค้าอยู่ เดี่ยวเค้าจะรู้ความลับเอา” ฮ่าๆๆ นายท่านเราก็เล่นกับเค้าด้วย
“งั้นถ้าพี่เต้ไม่อยู่ พ่ออย่าลืมแปลงร่างให้เจเจดูนะครับ จะได้จัดการกับก๊อซซิล่า อ่าจ้า..........” ผมกับคุณเท่ห์หลุดขำกับท่าทีของเจเจออกมาไม่ได้ เรากินข้าวกันต่อโดยที่เจเจยังคุยเรื่องฮีโร่กับพ่อเค้าอย่างเมามัน
ตอนเด็กๆใครๆก็มีฮีโร่เป็นของตัวเองครับ ผมก็มี แต่ฮีโร่คนนี้ เราไม่เคยเห็นเค้าแปรงร่าง แต่เค้ากลับปกป้องเราซะดีกว่าใครเลย
เฮ้อออ คิดถึงพ่อจัง....
ซักพักเราก็กินข้าวกันอิ่ม ผมหันไปมองเจเจ เห็นผักในจานเหลือเต็มเลย เด็กนี่เป็นอย่างนี้กันทุกคนสินะ น้องสาวคนเล็กผมก็เป็นครับ เมื่อก่อนผมก็เป็น ตอนนั้นเหตุผลที่ไม่กินผักคงเพราะมันขมละมั้ง ผมต้องหาวิธีให้เจเจกินผักให้ได้ ผมเก็บถ้วยจานมาล้างที่ซิงค์ ขณะที่พ่อลูกกำลังนั่งดูการ์ตูนกับช่อง การ์ตูนเน็ตเวิร์ค นายท่านผมก็ถามใหญ่ว่าตัวการ์ตูนนี้ชื่ออะไร พระเอกหรือตัวโกง เจเจก็ไม่เหนื่อยเลยที่จะตอบพ่อของเค้าไป
“ นี่อ่าตัวโกงนะป้อ มันจะแข่งทำอาหารกับพระเอก มาแล้ว มาแล้ว ป้อ” สนุกเชียวนะเจเจ นั่งตักพ่อ กินแตงโม ดูทีวี อีคุณพ่อน้องเจเจก็ดูจะคลื้นเคลงเหลือเกิน เค้าบอกว่ามีลูกน่ารักนี่ก็ดีนะครับ ชีวิตสดชื่นขึ้นเยอะเลย ผมล้างจานเสร็จกำลังเก็บจาน เก็บเครื่องมือเข้าที่ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วของเจ้าเจเจไม่หาย ช่างพูดช่างเจรจาจริงๆนะ
“ป้อครับ ป้อครับ”
“ว่าไงลูก”
“เมื่อไหร่พ่อจะมีแม่ใหม่ให้เจเจละครับ!!!!!”
ความคิดเห็น