คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : นานเเล้วนะ ก็นานเเล้วนะ ที่เรานั้นจากไปแสนไกล
ไม่น่าเชื่อว่าความบังเอิญของเรื่องเมื่อคืนจะทำให้เราได้งานทำ งานพี่เลี้ยงเด็กก็เหอะ งานง่ายๆแบบนี้สบายออก ทำๆไปก่อนเหอะดีกว่าอยู่เฉยๆ ว่าไปผมก็อยากทำอาชีพนี้มานานแล้วนะครับ
.
.
.
.
“แล้วมึงจะทำงานอะไร คอมก็ไม่เก่ง หรือเมิงจะไปสมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก อาชีพในฝันเมิงไง” ผมยังจำตอนที่คุยกับอีอ๊อฟเพื่อนผมได้ดีครับ
“ก็ดีสิ ถ้าเค้ารับกูนะเว๊ย” ผมก็ตอบไปแบบนี้
“เมิงจะบ้าเหรอ จบปริญญามา มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กนี่นะ อาชีพนี้จบ ม. 3 ก็เป็นได้ย่ะ ไม่เรียนมายังเป็นได้เลย วิชาชงนม ล้างขี้เด็ก เค้าไม่มีสอนในมหาลัยกันหรอกย่ะ” มันก็พร่ามมาแบบนี้
“มันก็จริงของเมิง เป็นพี่เลี้ยง เงินเดือนจะถึงหมื่นป่ะว่ะ” จริงว่ะ เงินเดือนจะเท่าไหร่เชียว
.
.
.
.
แต่ยังไงโอกาสการเป็นพี่เลี้ยงเด็กของผมก็มาถึงแล้ว ผมจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ เรื่องเงินเดือนค่อยว่ากัน ถ้าไม่ไหว ก็ค่อยหางานอื่น ว่าแต่เราต้องไปกลับหรือมาอยู่ที่นี่วะ ไปถามอีคุณพ่อของเจเจก่อนดีกว่า
“นายครับ ผมต้องมาอยู่นี่เลยป่าวครับ” อีคุณพ่อของเจเจ เงยหน้าขึ้นมามองผมแบบงงๆ คงนึกว่าผมกลับแล้วสินะ ก็อยากกลับอยู่หรอก แต่มันยังไม่เคลียร์
“อืม มีห้องว่างอยู่ห้องนึง ไว้สำหรับพี่เลี้ยงเด็ก นายย้ายมาอยู่เลยก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องเรียกชั้นว่า นาย หรือ ท่าน หรืออะไรที่นายจะสรรหามา ชั้นชื่อ เท่ห์” โห ผู้ชายชื่อเท่ห์ นี่ถ้าไม่เท่จริงๆผมไม่กล้าตั้งนะเนี่ย พ่อแม่คงมั่นใจ ว่าลูกตัวเองต้องหล่อเหลาเอาการ เอาเข้าจริง เจ้านายของเราก็หล่อใช่เล่นรูปร่างสูงโปร่ง หุ่นดีเหมือนคนเล่นฟิตเนต หน้าตาก็ไม่ได้แก่ ตามอายุ น่าจะเป็นพี่ผมซัก 2-3 ปี แต่ไมมีลูกเร็วจังวะ แล้วเมียนายละ
“มองชั้นพอรึยัง” เอ่อ สงสัยผมมองเค้านานไป โดนจับได้ซะงั้น
“โอเคครับ งั้นเดี่ยวผมจะย้ายมาพรุ่งนี้นะครับ” ดีจัง มีที่พักด้วย อย่างน้อยก็ไม่ต้องเช่าห้อง ประหยัดเงินด้วย ต้องกลับไปขนของห้องไอ้บอยก่อน เอ... ไอ้บอย
“เต้ ... นายเต้ .... เต้ !!!!!!”
“ครับ ครับบบ” ตกใจหมด อีพ่อของเจเจนี่ เรียกซะตกใจหมด
“ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันมั๊ย???” เอ.... มาไม้ไหนเนี่ย มาชวนกินข้าว ปิ้งเรารึป่าว
“คือพอดีชั้นจะไปซื้อของเข้าห้อง นายจะได้ไปช่วยดูแลเจเจ แล้วตอนเย็นๆนายค่อยกลับ พรุ่งนี้ก็เอาของมา เออ แล้วไม่ต้องเอาสมบัติอะไรมามากนะ ในนี้มีครบแล้ว แล้วก็เอาหลักฐานการสมัครงานมาให้ชั้นด้วยนะ”
“ได้ครับ นายท่านนนน อูยยยยย” ยังไงก็ไปกินข้าวก่อนแล้วกัน หิวชะมัน เรื่องไอ้บอยเอาไว้ก่อนแล้วกัน ยังไงเราก็ไม่ได้โกรธอะไรมันอยู่แล้ว เห็นโทรมาตั้งหลายสาย คงคิดว่าเราโกรธมากสินั่น แต่ก็นะ ถ้าเจเจไม่ใช้ให้รับ เราก็ยังไม่อยากรับสายมัน ไม่ใช่ว่าโกรธ แต่ไม่รู้จะพูดยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอ แต่เจอกี่ครั้งก็ไม่ชิน เฮ้ออ คิดแล้วเครียด
“เพ่เต้ๆๆ ไปกันเถอะกั๊บบ ป้อให้มาตามพี่แล้ว” เจเจมาดึงมือผม ผมคงมัวแต่คิดถึงแต่เรื่องไอ้บอย ไม่รู้เลยว่าเค้าจะออกไปข้างนอกกันแล้ว
“โอเคครับ เจเจ เราไปข้างนอกกัน แล้วเจเจแต่งชุดนี้หล่อแล้วเหรอครับ” ถามไปงั้นแหละครับ เพราะเท่าที่เห็นชุดนี้ของเจเจก็เท่อยู่แล้ว
“หล่อสิครับ อาเกดบอกว่าเจเจแต่งอะไรก็หล่อ ไม่ใส่อะไรยังดูดีเลย” เอาแล้วไงครับ เด็กคนนี้ทะเล้นจริงๆ
“ครับๆ พี่เชื่อแล้ว ไปกันเถอะครับ เดี่ยวพ่อน้องเจเจรอ เดี่ยวจะดุเอา” ผมรีบตัดบทดีกว่า เดี่ยวอีคุณพ่อน้องเจเจจะเล่นงานเอา โดนไล่ออกวันแรก
อะโด่ นึกว่าจะไปเดินห้างใหญ่ๆ ไรกันฟร่ะ แค่ซุปเปอร์มาเก็ตตรงข้ามคอนโด แต่ก็ดี จะได้ไม่เสียเวลาเดินทาง ว่าไปคอนโดนายเราก็สบายดี มีร้านค้าอำนวยความสะดวกเพียบ คงจะแพงน่าดู
พวกผมเดินเลือกของกันอยู่ที่ซุปเปอร์มาเก็ตข้างคอนโด ผมคนเข็นรถเข็น เจเจก็อยู่ในรถเข็น ส่วนอีคุณพ่อก็เดินนำหน้าหยิบของไป จะซื้ออะไรนักหนาเนี่ย กะเอาไปถมห้องหรือไง
“เพ่เต้ เพ่เต้รู้จัก BEN TEN ป่าว” เจเจถามขึ้นมา ทำลายความเงียบครับ
“อะไรเหรอครับ เบ็นเท็น พี่รู้จักแต่เบนมอร์ กับ เบน 285 เหมือนกันรึป่าวอ่าครับ” ผมตอบกลับไปเท่าที่คิดออก ไม่รู้จริงๆ เบ็นเท็นคืออะไร แอบตอบแบบขำๆไป อิอิ
“ป้อครับ เบนมอ กะ เบน สองแปดอ้า นี่เหมือน เบ็นเท็นป่าวครับ” ไอ้ตัวเล็ก หาเรื่องให้ตูแล้วไง นั่นไง อีคุณพ่อหันหน้าเหี้ยมมามองผมแล้วไง ซวยแล้วตู
“นี่นาย ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ ไม่ใช่ไปบ่ายเบี่ยงออกนอนกเรื่อง ลูกผมยังเด็กนะ ยังไม่เหมาะจะรับรู้เรื่องพวกนี้” ชุดใหญ่เลยครับท่าน
“แหะๆๆ ก็ผมกะขำๆ กับเจเจ อ่าครับ อย่าโกรธเลยะนะครับคุณพ่อ กระผมผิดไปแล้ว “ แถ ครับ แถ แถเข้าไว้ อ้อนไว้ๆๆ เดี่ยวโดนไล่ออก
“ตกลงไม่เหมือนกันเหรอครับพ่อ .... พี่เต้ คราวหน้าให้เจเจดูเบงมอ กับเบงสองแปดอ้า ด้วยนะครับ เดี๋ยวเจเจจะให้พี่เต้ดูเบงเท็น” เจเจทำหน้าหงอคุยกับพ่อ แล้วหันมายิ้มร่าคุยกะผม
“โอเคครับ เดี๋ยวมีโอกาส พี่เต้จะให้กิน เอ๊ยย ให้ดู เบนมอร์ กับเบนสองแปดอ้า.....” ผมกระซิบที่หูเจเจเบาๆ หวังว่าอีคุณพ่อคงไม่ได้ยินนะ
“นายเต้ !!!! “ แหนะ ยังแอบได้ยินอีก
“อะโด่ ผมล้อเล่นเองนายท่าน นายท่านอย่ามาดราม่าสิครับ ใช่มั๊ยครับ เจเจ” ไม่ได้ๆ ต้องหาตัวช่วยก่อน
“ใช้กั๊บ พ่ออย่ามา มาม่า แถวนี้เลย มาม่ามันไม่ดี ใช่มั๊ยพี่เต้” ห้าๆๆ ไอ้เด็กเอ๊ย จะพูดก็พูดผิด แหนะ มียักคิ้วให้ผมด้วย ท่าจะแสบไม่เบา
“เข้ากันดีนักนะ ระวังว่าจะโดนทั้งสองคน” เอาอีกแระ ขู่อีกแระ เป็นท่านเจ้าคุณหรือไงเนี่ย
ผมเดินเลือกซื้อของกับพ่อลูกนี้อยู่พักใหญ่ กินข้าวเที่ยงอะไรเสร็จผมก็ขอตัวกลับบ้าน ลาเจ้าเจเจ บอกว่าจะพรุ่งนี้เจอกัน เจ้าเจเจนี่ก้ออ้อนใช่ย่อย กว่าจะได้กลับ เล่นลากันเหนื่อย
ผมมาถึงหน้าห้องไอ้บอยแล้วครับ แต่ยังไม่กล้าเข้าไป ผมจะพูดกับมันยังไงดี ไม่ให้มันรู้สึกผิดมากนะ ผมว่ามันต้องคิดมากแน่ๆ ในมือถือขนมมาฝากมันเพียบ เอาก็เอาว่ะ
“กลับมาแล้วครับบบบบบบ” จำมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นครับ เอามาใช้คงน่ารักไม่เบา อิอิ
“เต้ เต้กลับมาแล้วเหรอ เต้ บอยขอโทษนะเต้ บอยไม่ได้ตั้งใจ เต้อย่าโกรธบอยนะ เต้จะไม่ทำอีกแล้ว” ผมนึกแล้วครับว่ามันต้องเป็นแบบนี้ ต้องพูดแบบนี้
“พอเหอะเมิง กินไรยัง กูซื้อผัดไทยกับข้าวเหนียวมะม่วงมาฝาก เจ้าอร่อยเลยนะเว๊ยเนี่ย” ผมพูดพร้อมยกของในมือให้มันดู
“เอ่อ .... เมิงไม่โกรธกูแล้วใช่มะ ใช่มั๊ยๆๆ” เซ้าซี้จริงสัดนี้ เดี๋ยวกูก็โกรธจริงหรอก”
“ถ้าเมิงพูดอีกที กูโกรธแน่ เอ้า เอาไปกิน” มันรูดซิบปากเลยครับ แล้วหยิบของกินจากผมไปเทใส่จาน
“เต้ ไปดูหนังกับกูมั๊ย กูอยากดูไอรอนแมนสอง แล้วก็ไปกินไอติมกัน เมิงชอบนิ”
“บอยย กูได้งานแล้วนะ” จู่ๆ ผมก็อยากพูดขึ้นมา
“เอ๊ยยย ดีว่ะ แล้วเมิงได้งานอะไรว่ะ ทำวันไหน อย่างนี้ต้องฉลองเว๊ย” เมิงดีใจอย่างกะเมิงได้งานเอง
“กูได้งานพัฒนาเว็บไซต์ พอดีกูบังเอิญไปเจอคนรู้จัก เค้าเลยฝากงานให้กู กูเริ่มทำงานพรุ่งนี้ แล้วนี่เดี่ยวกูก็จะย้ายไปอยู่ที่ออฟฟิศ เค้ามีห้องพักให้” ผมไม่อยากโกหกมันหลอกครับ แต่ถ้าผมบอกไปว่าไปเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เรื่องมันคงยาว มันคงไม่ยอมให้ผมทำงานแบบนั้นแน่ๆ ทำไมเหรอครับ ก็เพราะว่า
“ โห งานออกแบบเว็บเหรอ เมิงทำได้แน่นะ เมิงไม่เหนื่อยใช่มั๊ย ลำบากหรือป่าว ถ้าลำบากหางานใหม่ก็ได้นะเว๊ย กูไม่ชอบเห็นเมิงลำบาก เห็นแล้วกูขัดใจ” เพราะเหตุนี้แหละครับ
“เอออออ กูไม่ลำบากหรอก กูออกจะชอบ” กัดลิ้นโกหกไปต่ออีกนิดครับ
“ดีๆว่ะ แต่เมิงจะย้ายไปพรุ่งนี้แล้วเหรอ เร็วจังวะ กูตั้งตัวไม่ทันเลย มาไวไปไวจัง แต่ยังไงก็อยู่ที่กรุงเทพสินะ ยังไงกูค่อยไปหาเมิงบ้างแล้วกัน”
“เอ๊ยยยยย ไม่ได้เว๊ย เอ่อ คือ เอ่ออ เค้าห้ามคนนอกเข้า เดี๋ยวยังไงก็ค่อยโทรหา แล้วก็ค่อยมาหาเมิงเองสะดวกกว่า” อะไรกันว่ะเนี่ย ผมไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ว่าทำไมต้องโกหกมากมายแบบนี้ ไอ้บอยมองหน้าผมแบบสงสัย แล้วก็คลายเป็นรอยยิ้มออกมา
“ก็ดี ไม่เปลืองตังค์กูด้วย งั้นเดี๋ยวไปดูหนังกับกูน่ะ” มันมัดมือชกใช่ป่ะเนี่ย
“แต่กูยังไม่เคยดูภาคแรกเลย” ออกจะเชยนะครับ เพราะมันไม่ใช่แนวผมก็ได้มั้ง
“เอ่อหน่า เดี่ยวกูเล่าให้ฟัง” ยังมีข้อเสนอที่คับคั่งจริงๆ เห็นแล้วกูคงอยากไปเว่อร์
“เออๆๆ ไปก็ไป” ตอนนี้ไม่ค่อยอยากคิดอะไรครับ อย่างที่บอกตั้งแต่แรก ไอ้บอยเป็นเพื่อนสนิทผมตั้งแต่ ม ปลาย มันเป็นคนที่ห่วงใยผมมาโดยตลอด แม้จะแยกกันไปเรียนมหาลัย แต่มันก็ติดต่อผมมาโดยตลอด ไม่ใช่ผมจะไม่รู้จุดประสงค์มัน แต่ทุกวันนี้ ผมก็ยังเป็นมากกว่าเพื่อนกับมันไม่ได้ ถ้าผมยังลืมคนๆนั้นไม่ได้ ... เมื่อไหร่เค้าจะกลับมา
ผมรอนานแล้วนะ ...........
ความคิดเห็น