คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เลงโป้ได้เห็น .. เป็นบุกเป็นตาม
เป็นอย่างทีไอ้เอ็มบอกจริงๆด้วยครับ ว่าเพื่อนหรือแฟนของน้องหญิงที่นั่งสวยอยู่เมื่อครู่ จะหน้าตาน่ารัก เปร่งออร่ามาจากฟากถนนนึงเลยทีเดียว ไม่ต้องพูดถึงเวลาเดินถือกระดานวาดรูป กับทรงผมเซอร์ๆ และการแต่งตัวปอนๆ ที่ขัดกับหน้าตาขาวอมชมพูของเจ้าตัวจริงๆ
“ตาค้างเลยสิมึง” ไอ้เอ็มทักผม เมื่อเห็นผมจับจ้องอยู่กับวัตถุซึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางผม
“แม่ง .. อยากได้วะ” นั่นคือประโยคที่ผมอุทานออกไป
“น้องเค้าฮอตมากเลยนะเว๊ย ชายหญิงรุมชอบเต็ม”
“แล้วน้องเค้ามีแฟนยังวะ”
“ก็น้องหญิงนั่นแหละแฟนเค้า”
“แต่กูว่าไม่วะ” ผมพูดแล้วหันไปมองเจ้าหน้าสวยคนนั้นที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากโต๊ะผม แล้วเรื่องราวก็ดำเนินไป อย่างกับตอนที่ผ่านมา
“ไม่เป็นไร เราจะคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุจากคนแปลกหน้า ขอตัวนะ” น้องน้ำมนต์พูดใส่ผมด้วยสีหน้าและท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างมาก คำพูดที่ดูจะสวยหรู กลับตีความหมายได้ทิ่มแทงหัวใจผมมาก คนแปลกหน้าเหรอ นี่กูพยายามจะทำความรู้จักกับมึงนะ แล้วมึงยังจะมาให้สิทธิ์กูเป็นแค่คนแปลกหน้าอีกเหรอ .. แล้วท่าทางรังเกียจนั่นอีก เกิดมายังไม่เคยมีใครทำหรือพูดกับกูแบบนี้เลยนะ
“ไงมึง โดนเข้าไปจ้อยเลยสิ” ไอ้เอ็มเดินมาตบบ่าผมเบาๆ ในขณะที่ผมยืนมองแผ่นหลังน้องน้ำมนต์เดินเข้าวิทยาลัยไป
“แม่งหยิ่งวะ”
“กูบอกแล้ว น้องเค้าอ่ะไม่ค่อยคบหาใคร อยู่กัยแค่สามคนนั่นแหละ มึงไม่ใช่รายแรกที่พยายามจะจีบน้องเค้านะ ใครๆก็เข้าไปจีบเยอะแยะ แต่โดนกำแพงเงียบกั้นเอาไว้ ถอยหมดทุกราย” ไอ้เอ็มเล่าที่มาที่ไป
“แต่กูจะเอา ในเมื่อกูจะเอา กูจะต้องได้” ผมบอกมัน
“มึงก็เป็นซะอย่างนี้ น้องเค้าเป็นผู้ชายนะเว๊ย จะให้มึงเอาได้ไง”
“กูเป็นผู้ชาย ยังเอาผู้ชายได้ แล้วทำไม มันจะให้กูเอาไม่ได้” เอากับผมสิ ตรรกะห่าเหวอะไรเวลานี้ ยกมาให้หมด
“กูยอมมึงละ เอาให้ได้แล้วกัน กูจะเอาใจช่วย” คำพูดของไอ้เอ็มไม่ใช่การให้กำลังใจครับ แต่มันแค่ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับผม เพราะมันรู้ว่าผมดื้อ ถ้าผมอยากได้ใคร ผมต้องได้ จะให้ไปต่อยตีแย่งชิงมา ผมก็ทำ
มันดูไม่ค่อยเป็นเรื่องใช่ไหมละ .. แต่สำหรับนักเลงปีโป้อย่างผม .. นี่แหละเรื่องใหญ่ !!!
ใช่ว่าจะอยากง้อหรือว่าอยากจะตามจีบต้อยๆเหมือนหนุ่มสาวทั่วไปเค้าจีบกันหรอกนะครับ แต่ด้วยความที่โม้เพื่อนไว้เยอะ ก็เลยต้องยอมทำอะไรที่มันขัดกับใจตัวเองบ้าง จะว่าไปชีวิตนี้จีบคนอื่นน้อยมาก เพราะแค่ยิ้มให้ แค่ถามชื่อ แค่ขอเบอร์ เธอก็มานอนอยู่ข้างกายแล้ว แต่รายนี้มันดูจะยากกว่ารายไหนๆ ดีครับ ท้าทายดี ปีโป้ชอบบบบ !!!!
“มึง กูอยู่หน้าวิทยาลัยมึง มึงมานั่งเป็นกูหน่อย” ผมโทรไปปลุกไอ้เอ็มแต่เช้าครับ
“มึงจะมาทำไมแต่เช้าเนี่ย กูยังไม่ตื่นเลยแสดด”
“กูอยากมานั่งดูเด็กวิทยาลัยมึง มึงมานั่งดูเป็นเพื่อนกูหน่อย”
“มึงบ้าหรือเปล่า ร้อยวันพันปีไม่เคยจะมา อย่าบอกนะว่ามารอน้องน้ำมนต์”
“อย่าสงสัยมาก รีบอาบน้ำ แล้วมานั่งเป็นเพื่อนกู กูอยู่ร้านป้าตามสั่ง” ผมบอกมันแล้วกดวาง
จะว่าไปก็คงเป็นเหมือนทีไอ้เอ็มพูดว่าผมมาดักรอน้องน้ำมนต์ แต่จะให้บอกว่ามานั่งดักรอ มันก็คงไม่ใช่ผม ถึงมันจะดักทางถูก แต่ถ้าพูดไปก็เสียเชิงกว่า ไม่อยากจะชวนไอ้โอ๊ตมา เพราะรายนั้นชอบบ่นจุกจิก บ่นโน่น บ่นนี้สารพัด อย่างกับเป็นพ่อผม แต่มันก็มีข้อดีของมันนะครับ รายนั้นมันตั้งใจเรียน ฉุดผมจนเรียนผ่านทุกเทอมเลยละ ผมก็ได้มันนี่แหละ เป็นติวเตอร์ยามสอบ
“ป้าครับ น้องน้ำมนต์เขามาเรียนตอนไหนครับ” ผมถามป้าตามสั่ง ขณะที่ป้าแกเอากาแฟ กับข้าวเหนียวห่อมาเสริฟ
“ปกติป้าก็เห็นมาเรียนเช้าๆนะ รายนั้นเค้ารักเรียน มาเช้ากลับค่ำทุกวัน”
“แล้วเค้ากับน้องหญิงเป็นแฟนกันเหรอครับป้า”
“น่าจะใช่นะ ป้าว่าก็เหมาะกันดีนะ หญิงก็น่ารัก น้ำมนต์ก็เด็กดี”
“ไม่ !!!” ผมขัดขึ้นเสียงดัง
“ตาเถร อะไรไม่จ๊ะพ่อหนุ่ม”
“เค้าสองคนไม่เหมาะกันหรอกครับ เชื่อโป้สิ” ผมบอกป้าไป
“ทำไมพ่อหนุ่มคิดแบบนั้นละ”
“โป้ไม่รู้ แต่โป้จะแสดงให้ป้าดู” เริ่มสนุกแล้วครับ เมื่อผมมีคนเข้าร่วมเกมครั้งนี้อีกหนึ่งคน ใช่ว่าผมจะมาเล่นตลก หรือว่าต้องการจะแกล้งคนแก่หรืออย่างไร แต่ที่ผมเล่นกับแกแบบนี้ เพราะผมรู้ว่าป้าตามสั่งหน้าวิทยาลัยของน้องน้ำมนต์นี้ เป็นทั้งแหล่งข่าวและกระบอกเสียงสำคัญของวิทยาลัย ใครทำอะไรทีไหนอย่างไร ป้าแกต้องรู้หมด และยิ่งถ้าผมให้ความสำคัญกับแก มีเหรอที่ผมจะไม่รู้ในทุกๆเรื่องของน้องน้ำมนต์
“มึงอยู่ไหน ทำไมไม่มาเรียน” ไอ้โอ๊ตครับ โทรตามไปเรียนแต่เช้า
“กูกลับบ้านมาหาแม่ มึงเรียนเผื่อกูด้วยนะ” ตอบมันเสร็จผมก็กดวาง ไม่อยากจะยืดเยื้อกับมันมากนัก
“อย่ามาโกหก กูรู้สันดานมึง” นั่นไงครับ มันส่งข้อความมาด่าแล้ว ผมบอกแล้วว่าถึงผมจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ มันก็คงรู้ว่าผมโกหก สู้พูดน้อยๆ ให้มันส่งข้อความมาด่าเสียยังดีกว่า ไม่อยากจะเสียอรรถรสยามเช้ากับการมองหนุ่มสาวของวิทยาลัยนี้
“น้องหญิง !!!” ผมตะโกนเรียกหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามหาวิทยาลัยอยู่ เธอหันมามองผมทำหน้างงๆ พร้อมชี้มือที่หน้าเธอ ประมาณว่า เรียกเธอเหรอ
“ครับ พี่เรียกน้อง มาคุยกับพี่หน่อยได้ไหม” ผมบอกย้ำให้เธอมั่นใจอีกที เห็นเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่มุมแกมแบบเขินอาย ก่อนจะเดินเข้ามาในร้านที่ผมนั่งอยู่
“วันนี้มาเช้าจังเลยนะครับ” ผมทักเธอไป ไม่รู้ทำไมเวลาเจอคนน่ารักๆ แล้วชอบพูดเพราะ เห็นไหมครับ ผมก็มีมุมดีๆกับเค้า
“ปกติหญิงก็มาเช้าแบบนี้ทุกวันละค่ะ” เธอตอบผมพร้อมกับเอามือรวบผมที่ปล่อยยาวเมื่อคู่ รวบไว้ด้านหลัง กับตะเกียบคู่ใจของเธอ เหมือนเมื่อวานที่ผมเห็นเธอที่ร้านแห่งนี้
“ทำไมถึงไม่ปล่อยผมไว้ละ พี่ว่าน้องหญิงตอนปล่อยผมก็น่ารักดีนะ” ผมถามอย่างสงสัย
“หญิงไม่อยากรำคาญเวลาทำงานศิลป์อ่ะคะ เลยรวบไว้หยาบๆข้างบน” เธอตอบผมมา
“อ๋อครับ แบบไหนก็น่ารักครับ” ผมชมเธอไป
“ขอบคุณค่ะ”
“เอ่อ แล้วพี่ .. เรียกหญิงมาทำไมหรือคะ” เธอถามผมอีกที
“อ๋อ เปล่าครับ แค่อยากชวนคุย อยากรู้จักเฉยๆครับ พี่ชื่อ ปีโป้นะ เรียนช่างกลที่เทคนิค เป็นเพื่อนไอ้เอ็มมัน เรารู้จักใช่ไหม” ผมบอกเธอไป
“อ๋อ รู้จักค่ะ”
“งั้นพี่ไม่กวนเราแล้ว ขอบคุณมากนะคะ ที่สละเวลามาคุยกับพี่” ผมบอกเธอไป โดยเรื่องใช้คำลงท้ายเป็น “คะ” เพื่ออยากให้เธอฟัง แล้วรู้สึกว่าสนิทกับผมมากขึ้น อีกอย่าง ผมชอบใช้คำนี้ เวลาคุยกับผู้หญิง ผมว่ามันดูเจ้าเล่ห์ดี หึหึ
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นหญิงขอตัวนะคะ” เธอตอบผมพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะเดินยกกระดานวาดเขียนของเธอเข้าวิทยาลัยไป
น้องหญิงมาแล้ว แปลว่าอีกสักครู่น้องน้ำมนต์ก็จะต้องตามมา การจะได้ลูกเสือ เราต้องเข้าถ้ำเสือ การจะกินเนื้อสวรรค์อย่างน้องน้ำมนต์ มันก็ต้องลงทุนกันบ้าง
“รอนานมั๊ยมึง” ไอ้เอ็มครับ เดินเข้ามาทักผม
“เออ ไม่นานหรอก กินไรมั๊ย สั่งเลย เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ผมบอกมัน
“ใจปล้ำจริงเว๊ย กูคงได้กินกาแฟฟรีทุกวันแน่หลังจากนี้”
“มึงก็พูดเกินไป ไม่เกินสัปดาห์หรอก เชื่อกู”
“มั่นใจขนาดนั้นเชียวนายหัวโป้”
“เออ แล้วมึงจะได้รับรู้”
“ครับ แล้วผมจะคอยดู”
การต่อปากต่อคำกับไอ้เอ็มถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับเราสองคน เพราะรับส่งกันได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร นี่ถ้ามันยังเถียงกับผมต่อ ก็ยังคงอีกยาว ดีนะที่มันเลือกเป็นฝ่ายยอมผมซะก่อน
ระหว่างทีไอ้เอ็มกำลังสั่งอาหารเช้ากับป้าตามสั่ง ผมก็ลุกขึ้นมาที่ตู้เย็นที่แช่เครื่องดื่มของร้าน ยืนดูเครื่องดื่มในตู้ แบบไหนแล้วนะที่น้องน้ำมนต์ทานเมื่อวาน แล้วเราปัดทิ้งไป ตอนนั้นจำได้ว่าตกใจมากๆเลย คะแนนยังอยู่ที่ศูนย์ กลับทำกิริยาทรามแบบนั้นอีก ไม่รู้จะติดลบไปถึงไหนแล้ว
“ป้า น้องน้ำมนต์เขาชอบดื่มอะไรเหรอ” ด้วยความที่ไม่ได้สนใจเครื่องดื่มที่น้องน้ำมนต์ดื่ม เหมือนกับสนใจหน้าตาน้องเค้า สมองกลวงๆอย่างผมเลยยากที่จะจดจำสิ่งนั้นได้
“ทำไมไม่ถามน้องหญิงละ เมื่อครู่ก็นั่งคุยกันอยู่” ป้าแกชักจะกวนผมแล้วละครับ
“ก็อยากถามป้า บอกมาเถอะหน่า”
“ดูสิ อยากถามคนอื่น กลับพูดขู่อีก ป้าจะบอกดีมั๊ยเนี่ย”
“เปล่าขู่ ป้าครับ บอกผมหน่อยครับ”
“เพียวริคุ รสเก็กฮวยขาว ขวดสีเขียวนะ น้องน้ำมนต์ชอบดื่ม” สิ้นเสียงที่ป้าพูดมา ผมก็กวาดสายตาหาในตู้แช่
“มีแค่นี้เองเหรอป้า” ผมพูดพร้อมหยิบออกมาทั้ง 3 ขวด
“เออ มีแค่นั้นละ พอดีของเขายังไม่ได้มาส่ง” แกตะโกนลวกๆมาบอกผม เพราะตอนนี้คงจะกำลังทำอาหารเช้าให้ไอ้เอ็มอยู่ ไอ้นั่นกะกินเอาอิ่ม จัดข้าวแต่เช้าเลย
“งั้นผมเอาทั้งสามขวด นี่เงินนะครับ”
“วางเงินไว้ หยิบถุง หยิบหลอดเอาเองนะ ป้าไม่ว่าง” เอากับแกสิครับ พอสนิทหน่อยไม่ได้
“ไอ้โป้ น้องน้ำมนต์มาแล้ว!!!” เลิกสนใจป้าแกเลยครับ พอได้ยินเสียงไอ้เอ็มตะโกนส่งสัญญาณ สายตาผมก็หันไปมองชายร่างสูงโปร่ง ผมยาวกระเซอะกระเซิง ที่ถือกระดานวาดรูป พร้อมกับสะพายเป้เก่าๆด้านหลัง ในหูมีหูฟังเดินฟังเพลงสบายๆ ผมเลยรีบเอาเครื่องดื่มที่ซื้อใส่ถุง แล้วรีบวิ่งมาเดินดักหน้าไว้
“ ..” น้องน้ำมนต์เงยหน้ามาดูผม ที่เข้าไปขัดขวางการสัญจรของเธอ พร้อมกับใบหน้าที่เฉยชา
“พี่ซื้อมาฝาก ขอโทษด้วยที่ทำหล่นเมื่อวาน” ผมพูดพร้อมกับยื่นถุงเครื่องดื่มให้ พร้อมกับรอยยิ้มที่คิดว่าใครเห็นก็คงจะใจละลาย
แต่เปล่าเลย น้องน้ำมนต์กลับทำเป็นไม่สนใจ และเดินพ้นไปอย่างกับไม่เกิดอะไรขึ้น อะไรของเขาวะเนี่ย !!!
“นี่ หยุดก่อน” ผมวิ่งไปดักหน้าอีกครั้ง และเธอก็หยุด พร้อมกับมองมาในท่าทางแบบเดิม
“พี่ขอโทษที่ทำตัวเถื่อนๆ ทรามๆเมื่อวาน คราวหน้าพี่จะไม่ทำตัวแบบนั้น พี่อยากรู้จักน้องน้ำมนต์นะ เราเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ” ผมพูดดีๆออกไป
น้องน้ำมนต์แน่นิ่งได้สักพัก ก่อนที่เปรยรอยยิ้มบนใบหน้า ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อย ก่อนที่จะพูดออกมาว่า
“เราไม่รู้หรอก ว่านายพูดอะไร เพราะเรากำลังฟังเพลงอยู่ และคิดว่าเพลงที่กำลังฟังอยู่ คงเพราะกว่าภาษาพูดของนาย เราเลยไม่อยากจะใส่ใจ ขอทางหน่อย เราจะเข้าเรียน”
คำพูดเย็นชา กับการแสดงท่าทางแบบนี้อีกแล้ว .. นี่มันเก่งมาจากไหนเนี่ย ที่มาทำตัวแบบนี้กับผมได้
“ไงมึง หงอยเลยอ่ะดิ” ไอ้เอ็มถามผมเมื่อผมเดินกลับเข้าร้านมาด้วยชาทั้ง 3 ขวด
“แม่ง เล่นตัวชิบหาย นึกว่าอยากได้ตายละ”
“นี่ขนาดไม่อยากได้นะ ยังมาตามเฝ้า ถ้าอยากได้มึงไม่ฉุดมันแล้วเหรอ”
“เอ๊ยย ดีวะ หรือว่าจะฉุดเลยดีวะ”
“ไอ้บ้า คนเขามีพ่อมีแม่ ฉุดไปถูกจับเข้าคุกเข้าตาราง มันไม่คุ้มนะมึง”
“เออวะ” เฮ้ออออ ยังดีครับ ที่มีไอ้เอ็มคอยเตือนสติผมอยู่ แต่ไอ้ท่าทีแบบนั้นของน้องน้ำมนต์นี่ มันน่าต่อยหน้าชิบหาย เก็กเหี้ยไรนักหนาวะ ทำอย่างกับผมเป็นสิ่งของ มองผ่านเฉยๆ ไม่สนใจ หรือว่าผมเถื่อนไปวะ
“ป้า ป้าว่าผมหล่อไหม” ผมอยากเชคเรตติ้งของตัวเอง
“อืม ก็หล่อดี” ป้าแกวางมือจากอีโต้ที่แกสับหมูอยู่ หันมาพิจารณาหน้าผมอยู่ 3 วิ ก่อนจะตอบกลับมา และหันกลับไปสับหมูต่อ
“แล้วป้าว่าผมเถื่อนไปป่ะ”
“อืม ก็เถื่อนดี” ป้าทำเหมือนเดิมเป๊ะ
“เอาดีๆป้า ถ้าผมจะจีบน้องน้ำมนต์นี่ ผมจะจีบติดมั๊ย”
“เกร้งงง เกร้ง !!!!” เสียงอีโต้หลุดจากมือป้าแกครับ
“เอ๊ย ป้า เป็นไรเปล่า” ผมรีบเดินมาดู
“อืม ป้าไม่เป็นไร ป้าแค่ตกใจที่เอ็งพูดเมื่อกี้ เอ็งว่าอะไรนะ”
“ผมถามป้าว่า ถ้าผมจะจีบน้ำงน้ำมนต์นี่ ผมจะจีบติดไหม” ผมย้ำคำถามแกอีกที
“โอ๊ย ป้าจะเป็นลม ป้าขอไปหายาลมกินก่อนนะ ไม่ไหวกับเรื่องรักๆของเด็กสมัยนี้” แกพูดจริงๆครับ ว่าแกจะเป็นลม เพราะตอนนี้แกเดินไปหลังร้านแล้ว
“แต่กูว่ายากวะไอ้โป้ นี่สองวันแล้ว มึงคุยกับน้องเค้านับคำได้เลย” ไอ้เอ็มบอกผม
“ยากๆ แบบนี้แหละกูชอบ แม่งถ้าได้นะ จะไม่ให้ลุกจากเตียงเลย” ผมบอกมัน
“ไอ้หื่น กูไม่คุยกับมึงแล้ว กูมีเรียน ไปละ จ่ายเงินให้กูด้วย” อ้าวเวรแล้วไงไอ้เอ็ม มาหรอกกินข้าวเช้าฟรีผม แล้วเดินตัวลอยเข้าวิทยาลัยไป ไม่ทันได้ช่วยผมคิดอะไรเลยนะนั่น แถมยังมาตัดทอนกำลังใจอีก เพื่อนรักผมจริงๆเลย
ผมขับรถกลับมายังวิทยาลัยของตัวเอง พร้อมกับนั่งรอพรรคพวกผมที่โต๊ะที่นั่งประจำ ตอนนี้คงใกล้เวลาจะหมดคาบช่วงเช้าแล้ว ไม่นานพวกมันก็คงออกมา
“ฮัลโหล ว่าไงครับน้องจอย” ระหว่างนั้นผมก็โทรกลับไปหาน้องจอย ที่โทรมาหาผมหลายสิบสายแล้ว แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์จะรับ
“ทำไมพี่โป้ไม่รับโทรศัพท์จอยคะ จอยโทรไปหลายสายแล้วนะ” มาแล้วไงครับ ผู้หญิงขี้วีน ขี้เหวี่ยง
“อ๋อ พี่กำลังเรียนอยู่ น้องจอยมีอะไรเหรอ”
“กำลังเรียนอยู่จริงๆเหรอคะ หรือว่ากำลังทำอย่างอื่นกันแน่” นิสัยต่อมาคือขี้จับผิด
“เรียนจริงๆค่ะ แล้วน้องจอยมีไรคะ” เบื่อจะต้องโกหกกับผู้หญิงพวกนี้จริงๆครับ
“เปล่าหรอกค่ะ แค่จะโทรมาบอกว่า เย็นนี้มารับจอยที่หน้าอาชีวะด้วยนะ จอยจะรอพี่โป้ที่หน้าโรงเรียน”
“อ๋อคะ แล้วพี่จะไปรับนะ งั้นแค่นี้ก่อน พี่ไปกินข้าวกับเพื่อนแล้ว” ผมพูดเสร็จก็ตัดสาย
ที่จริงยัยน้องจอยไม่ใช่ว่าจะไม่มีรถกลับหรืออะไรหรอกครับ เพราะหอของเธอก็อยู่ไม่ไกลโรงเรียนที่เธอเรียนนัก เดินไปไม่กี่นาทีก็ถึง แต่ที่เธออยากให้ผมไปรับ เพราะเธอแค่อยากอวดกับสาวๆอาชีวะ ว่าเธอกำลังคบกับผมอยู่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ว่าได้คบกับผมมันเท่ตรงไหน นี่เธอคงคิดสินะ ว่าจะจับผมอยู่หมัด ... ฝันไกลไปล้านปีแสงแล้วครับ น้องจอย !!
“เอ๊ย นายหัวโป้ ทำไมมานั่งอยู่นี่ครับ ทำไมไม่เข้าเรียน” เสียงของเพื่อยร่วมก๊วนผมครับ ที่เดินออกมาพร้อมกับปากที่คาบบุหรี่ เดินพ่นควันในสถานที่ราชการ โดยไม่คำนึงถึงคณาจารย์และภารโรงเลย
ไอ้นี่มันชื่อเอกครับ ที่จริงเป็นรุ่นพี่ผม แต่ว่าเรียนหลายปีหน่อย ด้วยหลายๆเหตุผล ก็เลยมาอยู่ร่วมก๊วนกับผม ผมจะเรียกแกว่าพี่ครับ และจะพูดเพราะกับแกหน่อย เพราะนับถือความอาวุโส
“ก็จะให้เพราะอะไรละ ตามไปเฝ้าเด็กใหม่อยู่อ่ะดิ” ไอ้โอ๊ตครับ เจอหน้าไม่ได้ แขวะผมอีกแล้ว
“ไรวะ นายหัวโป้ ได้เด็กใหม่อีกแล้วเหรอ ไม่บอกเพื่อนฝูงนะมึง” คนนี้ชื่อบ่าวครับ หน้าตาบ้านๆแบบคนใต้ แต่นิสัยจริงใจ ถึงไหนถึงกันครับ
“เด็กใหม่อะไรกัน กูไม่ไวไฟขนาดนั้น” ผมบอกพวกมัน
“คนนี้คงเอายากวะ หยิ่งระดับพระกาฬ” ไอ้โอ๊ตพูดเสริม
“ไปได้ทีไหนมาอีกวะ คราวนี้ชายหรือหญิง แล้วน้องจอยของมึงละ” อีกคนในกลุ่มครับ ชื่อว่าไอ้โดม หน้าตาโอเคเลยละครับ แต่ติดที่มันจะเรียบร้อยหน่อย จะว่าไปเพื่อนๆในกลุ่มของผมส่วนมากหน้าตาโอเคทั้งนั้นครับ ขนาดไอ้บ่าวยังดูหล่อคมแบบไทยๆเลย ไมได้เลือกจะคบนะครับ แต่พอคุยแล้วมันถูกคอ เลยคบหากัน เมื่อตอนปีหนึ่ง ปีสอง มีแต่คนหมั่นใส้กลุ่มพวกผมครับ เพราะพวกเราทั้งฮอต ทั้งเท่ แต่พอเป็นรุ่นพี่สุดในวิทยาลัย ก็เลยไม่มีใครกล้าแหยมเท่าไหร่
“ผู้ชายวะ รุ่นน้องไอ้เอ็มมัน” ผมบอกไอ้โดม
“หยิ่งระดับพระกาฬเลยเหรอวะไอ้โอ๊ต” ไอ้พี่เอกถามย้ำกับไอ้โอ๊ต
“พี่ยังไม่เจอ ถ้าพี่เจอแล้วพี่จะอึ้ง ผมนี่โดนตอกกลับมาหน้าหายมาสองครั้งแล้ว พูดแล้วก็เจ็บใจ” ผมหันไปบอกไอ้พี่เอก
“ท่าจะเจอคู่มวยที่น่าสนใจแล้วไงมึง” ไอ้บ่าวพูดเสริม
“แต่กูว่าถ้ามึงแค่เล่นๆ ก็อย่าไปอะไรมากเลยเว๊ย สงสารเด็กเค้า กี่รายแล้วที่มึงฟันแล้วทิ้งมา” ไอ้พี่เอกพูดกับผม
“เอ๊ยพี่ อย่ามาหลอกด่าผมอย่างนั้นสิ ผมฟันเพราะผมรักเค้านะ ไม่ได้ฟันแค่อารมณ์หื่น”
“รักเหรอวะ เชื่อตายแหละกู ฮ่าๆๆ” หลังจากจบประโยคของพี่เอก ก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากเพื่อนในกลุ่ม มีเพียงแต่ไอ้โอ๊ต ที่ยืนมองหน้าผมแน่นิ่ง ไม่พูดไม่จาอะไร
“ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้ว” เพื่อเป็นการตัดบท ผมเลยชวนพวกมันไปกินข้าวกัน
แล้วตอนเย็นวันนั้น ผมและกลุ่มเพื่อนผมก็ไปนั่งรอรับน้องจอยที่หน้าอาชีวะเหมือนที่บอกน้องเขาไว้ ที่จริงผมมารับคนเดียวก็ได้ครับ แต่ที่ตามมา มันก็คงต้องการอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านกันบ้าง ไม่ใช่สิ่งของอะไรหรอกครับ สาวๆแถวนี้แหละ
“พี่โป้ รอนานยังคะ” น้องจอยทักเสียงใส่มาแต่ไกล เธอเดินมากับกลุ่มเพื่อนสาวของเธอ ก็มีคนน่ารักเยอะนะครับ แต่ผมว่าน้องจอยน่ารักสุด
“ไม่นานค่ะ พี่เพิ่งมา แล้ววันนี้อยากไปไหน” ผมถามพร้อมกับเอามือไปจับมือเธอมาลูกเล่น เป็นการทักทายตามประสาผม
“ไปเดินเล่นห้างดีมั๊ย จอยอยากช็อป” เอากับเธอสิครับ ผู้หญิงนี่จะคิดอะไรนอกเหนือจากช็อปปิ้งได้บ้างเนี่ย
“อืม ได้” ไอ้ผมก็ไม่อยากปฎิเสธ
แต่การเดินห้างของพวกผมมันก็ดูยิ่งใหญ่นะครับ ก็กลุ่มเพื่อนผมมันก็มาด้วย และกลุ่มเพื่อนน้องจอยก็มาด้วยเช่นกัน แต่พวกมันก็แยกย้ายกันเดินตามทางของพวกมัน มีแต่ผมกับน้องจอยมั้งครั้บ ที่เดินจับมือเกาะแขนกัน ที่จริงผมไม่ได้เป็นคนจับ คนเกาะนะครับ น้องจอยต่างหาก คงอยากแสดงความเป็นเจ้าของกับผม เอาไปเถอะครับ ช่วงโปรโมชั่น หลังจากหมดช่วงนี้ จะทำอะไรแบบนี้ยากแล้ว ผมเข้าใจ
“พี่โป้ว่า อันนี้ กับอันนี้อะไรสวยกว่าคะ” เธอพูดพร้อมกับหยิบส้อยคอระย้าห้อยมากมายให้ผมดู
“สวยทั้งสองอันนั้นแหละคะ” เลือกยากจริงๆครับ ของผู้หญิง
“แต่จอยว่าอันนี้สวยกว่านะ” เอากับเธอสิ ผู้หญิงนี่มีความลังเลในชีวิตสูงนะครับผมว่า
“ก็เอาอันนี้ครับ เอาอันนี้ครับพี่” ผมเลือกที่จะตัดบท โดยหยิบอันที่เธอว่าสวยกว่าส่งให้แม่ค้า พร้อมกับยื่นเงินไปจ่าย เพราะถ้าปล่อยให้เธอลังเลอีก วันนี้ผมคงไม่ได้ออกจากร้านนี้
“พี่โป้อ่ะ ใจร้อน จอยยังอยากได้อีกหลายอันเลย” เธอบ่นแบบงอนๆครับ
“ไว้คราวหน้าค่อยมาดูอีกก็ได้ เดี๋ยวแบบใหม่ๆก็มา” ผมบอกพร้อมกับพาเดินออกมานอกร้าน ซึ่งตอนนี้กลุ่มเพื่อนผม กับเพื่อนน้องจอยก็เดินหายไปกับกลุ่มคนในห้างตอนนี้แล้ว
ผมพยายามกวาดสายตาหาพวกมัน เพราะอยากเดินคุยกับพวกมันบ้าง เดินกับน้องจอยแล้วน่าเบื่อ อะไรก็เป็นผู้หญิงไปซะหมด แต่ไม่รู้ว่าสายตาผมดีเกินไป หรือจิตใจที่จับจ้องอยู่กับเรื่องนั้น ทำเอาผมพบกับบุคคลที่ไปนั่งรอเมื่อเช้าเข้าอย่างจัง
“น้องน้ำมนต์” ผมพูดออกมาเบาๆ
“อะไรนะคะ พี่โป้” น้องจอยถามผม
“เปล่าครับ น้องจอยอยากเข้สห้องน้ำมั๊ย”
“ก็ดีค่ะ จอยอยากเข้าไปเติมแป้งนิดหน่อย” เธอพูดบอกผม พร้อมกับเดินนำไปทางเข้าห้องน้ำ
“งั้นพี่ยืนดูของอยู่แถวนี้นะ” ผมบอกเธอ แต่สายตายังหันไปมองที่น้องน้ำมนต์อยู่
“ค่ะ อย่าไปไหนละ จอยไม่อยากเดินคนเดียว” เธอพูดพร้อมกับจ้ำอ้าวเข้าห้องน้ำต่อไป ผมก็หันหลังให้เธอแล้วเดินตามน้องน้ำมนต์ไป
“น้องหญิง” ผมเลือกที่จะทักเพื่อนของน้องน้ำมนต์ เพราะรู้ดีว่าต้องได้การตอบกลับจากเธอ
“อ้าว พี่ปีโป้” เธอหันมา พร้อมกับน้องน้ำมนต์ และน้องช้างน้อย
“มาเดินเล่นเหรอครับ” ผมถามน้องหญิง แต่สายตาก็หันไปมองปฎิกิริยาของคนตัวสูงที่ยืนเบือนหน้าหนีอยู่
“ค่ะ มาเดินเล่น แล้วก็มาเดินซื้อสีและอุปกรณ์วาดรูปนิดหน่อย”
“แล้วพี่ปีโป้ละคะ มากับใคร มาทำอะไร” เป็นน้องช้างน้อยครับ ที่สนใจอยากจะคุยกับผม ทำไมไม่ใช่อีกคนนะ
“พี่มากับเพื่อนครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้เดินหายกันไปไหนหมดแล้ว ให้พี่เดินด้วยได้ไหม” ผมบอกพร้อมกับตั้งคำถามมัดมือชก น้องน้ำมนต์หันมามองหน้าผมแบบไม่เต็มใจนัก
“ได้คะพี่ปีโป้ ถ้าไม่กลัวแฟนๆของพี่จะเข้าใจผิด” น้องช้างน้อยเป็นคนตัดสินใจครับ
“งั้นเราไปเดินเลือกของก่อนนะ พวกเธอเดินเล่นกับพี่เค้าไปละกัน” น้องน้ำมนต์พูดแล้วครับ แต่เป็นการพูดเพื่อจะปลีกตัส
“ได้ไงน้ำมนต์ เดินด้วยกันก่อน” น้องหญิงทักท้วงขึ้น
“ใช่น้ำมนต์ เดี๋ยวไปเดินซื้อด้วยกันก็ได้” น้องช้างน้อยช่วยอีกแรง
“อืม งั้นก็ไปกันเถอะ เสียเวลามาเยอะแล้ว” เชื่อแล้วครับ ว่าหยิ่งระดับพระกาฬมันเป็นยังไง แค่ผมเข้ามาทักทายเนี่ยนะ เรียกว่าเสียเวลา อะโด่เอ๊ยย
แต่เพื่อไม่ให้การเดินห้างกับน้องน้ำมนต์ติดขัด ผมเลยต้องจัดการกับคนที่มากับผมซะก่อน
“ฮัลโหล ไอ้โอ๊ต มึงอยู่ไหน” ผมโทรหาไอ้โอ๊ตครับ
“อยู่ชั้นโรงหนัง พวกนี้มันมาเล่นเกม มึงมีไร”
“มึงลงมารับน้องจอยไปส่งหอหน่อยดิ ตอนนี้น้องเค้าอยู่ห้องน้ำหญิงชั้นสอง”
“เอ๊ย แล้วมึงละ ติดอะไรขึ้นมาอีก”
“พอดีกูเจอน้องน้ำมนต์ จะไปเดินห้างกับน้องๆเค้า มึงช่วยกูหน่อยนะ”
“เดือดร้อนกูอีกแล้วนะมึง”
“บอกน้องจอยดีๆละ อย่าให้เค้างอนกู บอกว่าคืนนี้เดี๋ยวกูไปหา แค่นนี้นะ” เสร็จไปหนึ่งเรื่องครับ ดีนะ ที่มีเพื่อนที่ช่วยได้ทุกอย่างแบบไอ้โอ๊ต ไม่งั้นต้องโดนน้องจอยเหวี่ยงเอาแน่ๆ
“คุยกับใครค่ะ พี่ปีโป้” ช้างน้อยถามขึ้น
“กับเพื่อนนะครับ ฝากมันจัดการธุระนิดหน่อย” ผมตอบไป
“ฮัลโหลค่ะแม่” เสียงน้องหญิงรับโทรศัพท์ครับ
“อ๋อ ค่ะ ตอนนี้เลยเหรอคะ แต่หญิงมาเลือกของกับเพื่อนอยู่ คะ งั้นหญิงไปดูให้ก่อนก็ได้คะ” พวกเราทั้งหมดยืนลุ้นกับการสนทนาของน้องหญิง
“น้ำมนต์ เราคงไปเดินเลือกซื้อของกับน้ำมนต์ไม่ได้แล้วละ แม่โทรมาให้เราไปเอาของที่บ้านญาติไปให้” น้องหญิงหันไปพูดกับน้องน้ำมนต์
“เหรอ งั้นก็ไม่เป็นไร เราไปกับช้างน้อยก็ได้”
“ได้ไง ชั้นมากับหญิง ชั้นก็ต้องกลับพร้อมกับหญิงสิ บ้านชั้นอยู่ใกล้นางนะ” ช้างน้อยพูดขัดขึ้น
“งั้นเราก็ไปเลือกคนเดียวก็ได้ เดี๋ยวค่อยเลือกไปเผื่อ”
“เดี๋ยวพี่ไปเดินเลือกเป็นเพื่อนครับ” คงเป็นจังหวะที่ผมจะพูดแทรกเข้าไปได้นะครับ หรือไม่ได้ ถึงมองหน้ามาทางผมแบบนั้นทั้งสามคน
“ดีเลยค่ะ หญิงฝากพี่ปีโป้ช่วยเดินเป็นเพื่อนน้ำมนต์ด้วยนะคะ” ขอบคุณน้องหญิงมากที่เห็นดีเห็นงาม
“ไม่เป็นไรหญิง เราว่าเราเดินคนเดียว เราหายใจคล่องกว่า”
“แรงนะยะ น้ำมนต์ พูดอย่างกับพี่ปีโป้เค้าเป็นตัวเชื้อโรค” เอ่อ ผมยังคิดได้ไม่ไกลเท่าน้องช้างน้อยเลยนะเนี่ย
“เอาหน่า น้ำมนต์ ซื้อเยอะอยู่ ให้พี่แกไปช่วยถือก็ดี” นั่นไงครับ เห็นคุณค่าจากเด็กช่างอย่างผมยัง น้องหญิยังมองเห็นเลย
“ไม่ต้องเกรงใจนะครับ น้องน้ำมนต์ พี่เต็มใจ” ขอแสดงตัวหน่อย เดี๋ยวเค้าจะหาว่าผมโดนบังคับไป
“ฝากน้ำมนต์ด้วยนะคะ หญิงไปก่อนละ ไปกันช้างน้อย” น้องหญิงพูดจบก็เดินออกไปอย่างฉับไวกับน้องช้างน้อย
ส่วนน้องน้ำมนต์ก็เช่นเดียวกัน เดินทิ้งระยะห่างผมไปไกลแล้ว นี่ผมต้องมาเดินตามต้อยๆ เด็กศิลป์ที่เสื้อช็อปเปื้อนสี ผมยาวประบ่า แต่หน้าตาดีคนนี้เหรอนี่ ดูเดินไปสิ คนมองเต็มเลย
“น้ำมนต์ รอพี่ด้วย” ผมตะโกนบอก และเธอก็หันกลับมามองผม
“เราว่าถ้านายมีธุระอย่างอื่นจะไปทำ ก็ไปทำเถอะ เราเดินซื้อของคนเดียวได้”
“ไม่เป็นไร พี่อยากเดินเป็นเพื่อน”
“แต่เราอยากเดินคนเดียวมากกว่า”
“ทำไมละ เกียจชังอะไรพี่นักหนา นี่เราเพิ่งรู้จักกันเองนะ”
“ไม่ได้เกียจชัง คนที่เค้าเพิ่งรู้จักกัน เขาต้องแสดงมิตรภาพ ไม่ใช่การข่มขู่” เอาเข้าแล้วไงครับ ซัดกันไปมากลางห้างซะแล้ว
“ก็พี่บอกแล้วไง พี่ขอโทษ ที่พี่ทำไปเมื่อวาน” เด็กคนนี้นี่ ต้องให้พูดอีกสักกี่รอบ
“นายเคยได้ยินคำว่า ประทับใจแรกพบไหม ซึ่งนายไม่มี แล้วเราก็ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่ต้องรู้จักกัน”
“จำเป็นสิ นี่ทำไมกูต้องมาเถียงอะไรไร้สาระแบบนี้ด้วยนี่ เอ๊ยไม่สิ พี่ว่าเราไปซื้อของกันเถอะ” ผมเริ่มจะปวดหัวแล้ว พูดดีๆกันไม่ได้หรือไง
“ถ้ามันลำบากมากในการแทนตัวเองว่าพี่ เราว่านายก็พูดมึงกูกับเราก็ได้นะ มันน่าจะเข้ากันมากกว่า”
“เออ ก็ดี กูก็ชอบ ไม่อึดอัด”
“เถื่อน !!!!” น้องน้ำมนต์ด่าผมออกมาคำนึง ก่อนจะเดินหนีผมไป
เอ้า นึกว่าชอบเถื่อนๆซะอีก ไรว้า เอาใจยากชะมัด !!!!
...........................................................................................................................................................
ขอกำลังใจเป็นแสดงความคิดเห็น ติชม วิจารณ์ กดโหวตให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากๆครับ
...........................................................................................................................................................
ความคิดเห็น