ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : รักที่แปรเปลี่ยน
หลังจากนั้นทั้งสองก็คบกันโดยดีมาตลอด แต่แล้ววันหนึ่ง เอก็ได้ไปสอบชิงทุนเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งเป็นทุนที่ให้เรียนตั้งแต่ชั้น ม.4 ถึง ปริญญาตรี
“เราจะได้ทุนมั้ยเนี่ย ยากโคดๆอ่ะ”
“เอ อยากไปซีเรียสเลย ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนิ ไม่ได้ตายซะหน่อย”
“อือ มันก็จิงอ่ะนะ กลับบ้านเถอะ “
“อือ”
“เออ เดี๋ยวก่อนรี่รี่ต้องสัญญากะเราก่อนนะ เรื่องที่เรามาสอบชิงทุนอ่ะ”
“ทำไม”
“ก็ห้ามบอกใครนะว่าเรามาสอบ”
“อือๆ ไม่ให้บอกก็ไม่บอก”
“อือ ขอบใจ”
หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ ผลการสอบชิงทุนก็ออก และผลปรากฎว่า
“จะมีชื่อเรามั้ยน๊าาาาาาา”
“เดี๋ยวเราช่วยหานะ”
“อือ”
.
“เห้ย เจอแล้วนี่ไง เอแกสอบได้ แกสอบได้ แกได้ทุน”
“จิงป่ะ เย้!!!!!!!!!!!!!!!! เราดีใจที่สุดในชีวิตเลยนะเนี่ย เราทำได้แล้วรี่ เราทำได้แล้ว”
“เออ แกเก่งมากเลย เราดีใจด้วยนะ”
“อือ นี่แต่อย่าลืมนะ เรื่องนี้จะต้องเก็บเป็นความลับ แล้วเดี๋ยวเราจะเป็นคนบอกเพื่อนๆเอง โอเคป่ะ”
“อือได้”
“งั้นวันนี้ไปเลี้ยงกัน”
“ไปที่ไหนดีอ่ะ”
“ไม่รู้เดี๋ยวค่อยคิด แต่ตอนนี้เราดีใจอยู่ อิอิอิ”
“งั้นก็เลี้ยงที่บ้านไงง่ายดี เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”
“อือ”
วันรุ่งขึ้น . เอก็ไปโรงเรียนปกติ แต่ที่ผิดปกติคือ เธอดูมีความสุขมากเป็นพิเศษ
“เอ วันนี้แกเป็นไรอ่ะ ดูมีความสุขจัง”
“ก็เรารู้สึกมีความสุขนิ อิอิ”
“แกท่าจะบ้านะ เอ บางวันก็มาแบบโหดๆ บางวันก็มาแบบแฮปปี้สุดๆ”
“เรื่องของเรา อิอิ”
หลังจากนั้น ประมาณ1เดือน ซึ่งก็เหลือเวลาที่เอจะอยู่กับเพื่อนเพียง3อาทิตย์เท่านั้น ตอนนี้เอเริ่มรู้สึกเส้าๆที่จะต้องจากเพื่อนที่รักของเธอไป (เว่อร์ม่ะ)
“เออ วันเสาร์นี้ว่างกันป่ะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ไปเที่ยวกันดีกว่า เรารู้สึกเบื่อๆอ่ะ แล้วอีกอย่างเรามีเรื่องที่สำคัญจะบอกด้วย”
“เรื่องไรอ่ะ”
“จะไปป่าวหล่ะ”
“อือ ไปดิ”
“อือ งันเจอกันวันเสาร์ที่เดอะมอลล์นะ”
“อือ”
วันเสาร์ ที่เดอะมอลล์ .
“ทำไมมากันช้าจังอ่ะ”
“ก็รถมันติดนี่”
“อือ งั้นไปกินพิซซ่ากันดีกว่าป่ะ เราเลี้ยงเอง”
“โอเค งั้นไปกันเลย”
“โห ยัยน้ำ ไม่ค่อยเลยนะ”
“เอ่อ ถึงว่าทำไมขี้เกลือถึงขึ้นที่ตัว”
“555555+”
“ถึงชั้นจะเค็ม แต่ชั้นก็น่ารักอ่ะ”
“พอเหอะๆ ไปนั่งกันก่อนดีกว่า”
ทุกคนก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย พอกินเส็ด .
“ไปดูหนังกัน เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”
“ไม่ต้องหรอก คราวนี้เราออกกันเองก็ได้”
“เอางั้นหรอ”
“อือ เดี๋ยวพวกเราหารกันจ่ายให้เอเอง โอเคป่ะ”
“อือ ก็ได้”
“ป่ะ ซื้อตั้วกัน”
หลังจากจบการดูหนัง เอก็ชวนเพื่อนๆของเธอไปกินไอติมกัน
“ไปกินไอติมกัน”
“อือ ป่ะ”
พอทุกคนกินไอติมกันเส็ดเรียบร้อยแล้ว
“เออ ไหนเอบอกว่า มีเรื่องจะบอกพวกเราไม่ใช่หรอ”
“อือ ใช่”
“เอ่อ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้มาเที่ยวด้วยกันอย่างนี้”
“ทำไมอ่ะ เอ แกจะไปไหน”
“เราสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้อ่ะ”
“จิงป่ะ”
“อือ จิง เราจะเดินทางในอีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้าอ่ะ”
“เห้ย ทำไมเร็วจังเลยอ่ะ”
“จิงๆแล้วเราสอบมาตั้งนานแล้ว เรารู้ว่าเราสอบได้มาเดือนกว่าๆแล้ว”
“อ่าวแล้วทำไมไม่บอกพวกเราอ่ะ”
“ไม่รู้ดิ”
“แล้วนี่เอบอกกับเคยัง”
“ยังเลย”
“อ่าวแล้วทำไมไม่บอกหล่ะ”
“เราก็หาโอกาสอยู่ แต่ถึงมีโอกาสเราก็ไม่กล้าบอกอ่ะ”
“งั้นโทรเรียกเคไปที่บ้านเราดีกว่า แล้วค่อยคุยกัน โอเคป่ะ”
“อือก็ได้”
“ป่ะ งั้นก็กลับไปที่บ้านเรากันก่อนดีกว่า”
“อือ”
พอถึงบ้านของฟ้า
“เคหรอ นี่ฟ้านะ เคมาบ้านเราได้ป่ะ ตอนนี้อ่ะ”
“ทำไมหรอ”
“มาเถอะน่า”
“อือๆ”
“เร็วๆนะ มีเรื่องด่วน”
“อือ”
พอเคมาถึงบ้านฟ้า
“เข้ามาดิ”
“หวัดดีเค”
“อ่าว เอ”
“เอบอกเคไปดิ”
“เอ่อออออออ”
“มีไรหรอ”
เคเดินเข้ามาใกล้เอ”
“เอ่ออออ คือว่า ..
“ ..”
“คือว่าเราได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ เราคงต้องไปหลายปี”
“ .”
เคถึงกับอึ้งกับคำพูดของเอ เคไม่คิดว่าเอจะต้องจากเค้าไปเร็วถึงขนาดนี้ (พูดอย่างกับตาย)
“เอ บอกเราดิ ว่าเอล้อเราเล่น”
“ ..”
“เค นายต้องยอมรับความจิงนะ เอมันได้ทุนเรียนต่อก็ดีแล้ว แกควรจะดีใจกับมันนะ”
“เอ่อออ เค เราคิดว่าเรากะนายควรจะเลิกกันก่อน เพราะเราคงไปหลายปีมาก แล้วเราก็ไม่อยากปิดกั้นหัวใจของนายด้วย เผื่อนายจะเจอใครที่ดีกว่าเรา”
คราวนี้ทุกคนถึงกับอึ้งกับคำพูดของเอ
“เอ ทำไมแกพูดแบบนี้อ่ะ”
“ทำไมก็ไม่รักษาหัวใจของเคที่มันให้แกเลยหล่ะ”
“ทำไมก็ต้องทิ้งเคมันไปด้วย”
“ .”
“เค เราขอโทดที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เราจำเป็นต้องพูด”
“ ”
เคเดินเข้ามากอดเอ โดยที่เอไม่ได้ตั้งตัว เคกอดเอแน่มาก พร้อมกับพูดว่า
“เอ เราขอกอดเอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะเลิกกันนะ”
“อือ .”
ทุกคนเดินออกจากห้อง ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงัด น้ำตาของเคหยดลงบนเสื้อของเอ เอรู้สึกได้ถึงความรักที่เคมีให้ แต่นี่คือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ทั้งสองกอดกันอยู่นาน
“เอ ถึงเอจะบอกเลิกเรา แต่ยังไงเราก็จะรักเอตลอดไปนะ”
“อือ ขอบใจนะเค”
เอค่อยๆบรรจงเช็ดน้ำตาให้เค .
..
..
..
.
.
เอเดินออกจากห้อง ปล่อยให้เคยืนอยู่คนเดียว ท่ามกลางความรู้สึกดีๆที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน
เอเดินกลับบ้านโดยไม่มองกลับมา พอถึงบ้าน เอก็บอกกับที่บ้านว่า ขอเลื่อนการเดินทางให้เร็วขึ้น แม่ของเอ เลยโทรสับไปสอบถาม และทำให้การเดินทางของเอเลื่อนขึ้นมาอีก 2 อาทิตย์ ซึ่งทำให้เอเหลือเวลาอยู่ในเมืองไทยเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น
เอพยายามใช้เวลาที่เหลือให้ดีที่สุด
“เอ เวลาที่เหลืออยู่นี้ เราขอเป็นมากกว่าเพื่อนก่อนได้มั้ย”
เอ งงกับคำถามที่เกิดขึ้น แต่เทอก็ได้ให้คำตอบไปว่า
“อือ ก็ได้”
หลังจากนั้นทุกเย็นเอกะเคก็จะเดินไปกินข้าวด้วยกัน ทำอะไรที่คนที่เป็นแฟนกันทำ จนวันสุดท้ายทั้งคู่ก็ไปดูหนังด้วยกัน ในโรงหนังเคก็ได้จับมือของเอไว้แน่น เอมองหน้าเค
“เราขอจับมือเอไว้นะ”
“อือ”
เคจับมือเอไว้เสมอจนหนังจบ ระหว่างทางเคก็ยังคงจับมือเอไว้ โดยไม่มีท่าที่ว่าจะปล่อย ทั้งสองได้ไปถ่ายรูปด้วยกัน ได้เดินจับมือกัน ได้เพิ่มความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน จนเอรู้สึกเสียใจมากที่จะต้องจากเคไป
วันเดินทาง
“รักษาตัวดีๆนะลูก”
“ถึงที่โน้นแล้วโทรมาด้วยนะลูก”
“ตั้งใจเรียนนะลูก”
“คะ”
เอกอดครอบครัวของเทอไว้แน่น ตอนนั้นเอง เพื่อนๆของเทอก็วิ่งกันเข้ามา
“เอ จะไปจิงๆหรอ”
“ยังไงเราก็ขอให้แกมีขยันเรียนนะ เจอเพื่อนดีๆ”
“แกห้ามลืมพวกเราเป็นอันขาดนะ”
“อือ เราจะไม่ลืมพวกแกเลย”
ขณะนั้นเอง เคก็เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องของขวัญกล่องหนึ่ง
“เอ เราให้เอาไปแกะบนเครื่องนะ”
“อือ”
เคโผล่เข้ากอดเอ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา ซึ่งทำให้เอเองก็ร้องไห้ออกมา
“วันนี้คงจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่กันในฐานะแฟนแล้วสินะ”
“ ..”
“เราจะไม่มีวันลืมความรู้สึกที่มีให้เอเลย เราจะจำความทรงจำเหล่านี้ไปตลอดเลยนะ”
“ .”
“ยังไงเราก็รักเอนะ”
“ ..อื .อ .”
เอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เคเอามือของเค้ามาปาดน้ำตาบนหน้าของเออย่างถะนุถนอม
ถึงเวลาที่เอต้องไปจิงๆแล้ว ..
พอขึ้นเครื่องไป เอก็แกของขวัญที่เคให้
ภายในกล่องของขวัญนั้น มีรูปภาพของเอตั้งแต่ตอนม.1ถึงม.3 และมีการ์ดเล็กๆใบหนึ่งแนบมาด้วย เอค่อยๆบรรจงเปิดการ์ดออก เทออ่าน
ถึง เอ คนที่เรารักที่สุดในชีวิต
นี่อาจจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เราจะได้ให้เอ เมื่อเออ่านการ์ดใบนี้ เอก็ต้องขึ้นเครื่องไปแล้ว ส่วนรูปภาพที่อยู่ในกล่องนี้ เป็นรูปที่เราแอบถ่ายมา เราอยากจะให้เอเก็บรูปเหล่านี้ไว้นะ เราไม่รู้จะเขียนยังไงแล้ว ว่าเรารักเอมากเลย มากกว่ารักตัวเองซะอีก
รักที่สุดในชีวิต
เค
พอเออ่านจบ หยดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งและความรักที่ทั้งสองมีให้กันก็กลั่นและหยดลงมา
เอพับการ์ดลงในกล่องในแบบเดิม เทอปิดกล่องและกอดมันไว้ จนเทอเองก็พล้อยหลับไป
เมื่อถึงประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่เทอจะต้องมาเรียน เทอก็ได้เจอเพื่อนคนไทยคนหนึ่ง ชื่อ บัว เทอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก เทอเดินตรงเข้ามาที่เอ พร้อมกับถามเอ
“คุณชื่อเอใช่มั้ยค่ะ??”
“ใช่ค่ะ เออ..แล้วคุณเป็นใครหรอคะ??”
“อ๋อ ชั้นชื่อ บัว คะ พอดีว่าเราก็สอบได้ทุนเดียวกะเอเหมือนกัน”
“จิงหรอ ดีใจจังที่มีเพื่อนเป็นคนไทยด้วย”
“อือ เราก็เหมือนกัน ไปกันเถอะ เดี๋ยวเราจะพาไปที่ห้องพัก”
“จ่ะ”
ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน พอถึงห้องพัก เอก็จัดแจงวางของของเทอ และรีบโทรกลับบ้าน พอคุยเส็ด
“ป่ะ เอ เดี๋ยวเราพาไปดูห้องเรียน”
“อือๆ ป่ะ”
“แต่ต้องไปอย่างเงียบเลยนะ เพราะว่าวันนี้เค้ายังมีเรียนอยู่”
“อ่าวหรอ”
“อือ เพราะว่าเรามากันเร็วไง”
“อือๆ”
“ป่ะ”
บัวพาเอเดินดูห้องเรียน แต่ทันใดนั้นเอง เสียงกริ่งหมดคาบเรียนก็ดังขึ้น
“โห คนเยอะจัง”
“อือ แต่ห้องเราไม่เยอะขนาดนี้นะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เพราะว่าเค้าจะแยกเด็กที่ได้ทุนเรียนห้องหนึ่งไปเลยอ่ะ”
“อือ ก็ดีอ่ะนะ เพราะเราจะได้ปรับตัวได้เร็วขึ้น”
“อือ”
“โอ๊ย!!!!!!! เจ็บจัง”
“Are you OK?”
“Oh .I think, I’m OK.”
“I’m sorry, are you a thai people?”
“Yes”
“งั้นเทอพูดเป็นภาษาไทยก็ได้”
“อ่าวทำไมนายพูดภาษาไทยได้อ่ะ”
“อ๋อ เราเคยเรียนมาอ่ะ”
“อือ งั้นก็ดี”
“บัวไปกันเถอะ เรายังอยากเห็นห้องเรียนอยู่”
“เจ็บขนาดนี้เนี่ยนะ”
“ไม่เป็นไร อยู่เมืองไทยเราล้มเป็นสิบรอบ เรายังต้องคุกเข่าเดินเลย”
“ไปก็ไป”
“เดี๋ยวก่อน เทอชื่อไรหรอ”
“เราชื่อบัว”
“แล้วเทอหล่ะ ชื่อไรหรอ”
“อ่าวถามเราด้วยหรอ”
“อืม”
“เราชื่อเอ ไปกันเถอะบัว”
“แปปนะ แล้วคุณหล่ะคะ ชื่ออะไร”
“ผมของแจ็คคับ”
“คะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“อ่าวเอ รอด้วยสิ”
“ก็บัวอ่ะ ชักช้า”
เอวิ่งไปก่อน โดยไม่รอบัว
“นี่หรอห้องเรา”
“อือ”
“สวยดีแหะ”
“เอ เอ เราลืมบอกไปเดี๋ยวทางโรงเรียนเค้าจะจับคู่บัดดี้พี่น้องให้ด้วยนะ”
“คือไรอ่ะ”
“ก็เหมือนพี่น้องรหัสอ่ะ”
“อือ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าจะจับแล้ว พรุ่งนี้เราไปดูกันนะ”
“อือ จะได้รู้ด้วยว่าเราจะได้คู่กะใคร”
วันรุ่งขึ้น ..
“เอ ไปกันได้แล้ว”
“เค้าจะจับกันตอน9โมงเช้านะ”
“บัวจ๋า แล้วนี่มันเพิ่งกี่โมงเอง”
“นี่มัน7.30แล้วจ้าาาา”
“ห๊าาาาาาา ตายแล้ว แปปนะบัว”
10 นาทีต่อมา .
“ป่ะบัว”
“กว่าจะไปได้”
“ขอโทดน้า”
“อือ”
“คนสวยของเรา ใจดีจิงๆเลย อิอิ”
“ไม่ค่อยเลยนะเอ”
“5555+”
ทั้งคู่นั่งลุ้นกับการจับบัดดี้ในครั้งนี้มาก พอถึงชื่อของบัว ผลปรากฎว่า
“บัว เทอได้คู่กับ แอนโทนี่”
“ใครก็ไม่รู้”
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้ว เอก็พูดเหมือนรู้เลยนะ”
“ถึงคิวของเอแล้ว”
..ลุ้น .
“เอ เทอได้คู่กับแจ็คอ่ะ”
“แจ็คไหนอ่ะ”
“ก็ที่พูดภาษาไทยได้ไง”
“เออ อ๋อ ที่เมื่อวานเค้าวิ่งมาชนเราอ่ะนะ”
“อือ ใช่ นั่นไงพูดถึงก็มาเลย”
“อือ”
“หวัดดีคับ”
“คะ”
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“เอ่ออออ”
“ขอโทดแทนเอนะคะ”
“ไม่เป็นไรคับ เดี๋ยวผมขอตามไปด้วยได้มั้ยคับ จะได้รู้ว่าห้องของเออยู่ที่ไหน”
“อ๋อ ได้คะ ตามมาเลยคะ”
เอวิ่งมานั่งอยู่ในห้องของเทอ ในมือของเทอถือกล่องของขวัญที่เคให้ เทอกอดกล่องของขวัญไว้แน่น พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงลงบนกล่องใบนั้น เทอนึกได้ว่าเวลานี้ เพื่อนๆของเทอที่เมืองไทยจะเล่นMSNกัน เทอรีบลุกขึ้น เปิดโน๊ตบุคของเทอ และเปิดMSNของเทอ เทอเจอกับเพื่อนของเทอแทบทุกคน
“เอ เป็นไงบ้าง ไปอยู่ที่โน้นอ่ะ”
“ก็ดีอ่ะ”
“เอ รู้มั้ยว่าเค มันดูซึมไปเลยอ่ะ”
“หรอ”
“อือ อ่าวนั่นไงมันออนพอดีเลย”
“อือ งั้นเราไปคุยกะมันก่อนนะ”
“จ้าาาา”
..
“ดี”
“อืม”
“เคเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย”
“ก็ดีอ่ะ เอเราขอโทดนะ ที่เราจะขอไม่คุยกะเอ เพราะเราไม่อยากเสียใจไปมากกว่านี้ เราขอโทดจิงๆ ไปก่อนนะ บาย”
“เคเดี๋ยว”
เอพิมช้าไป เคออกไปเลย เทอรู้สึกเสียใจมาก จนเทอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก บัวกะแจ็ควิ่งเข้ามาเห็นพอดี
“เอ เป็นไรอ่ะ”
“ .”
“ร้องไห้ทำไม”
“ ..”
“บอกเราหน่อยสิ”
“ .”
“ ..เ ร า ข อ ตั ว ก่ .อ น น ะ .”
แล้วเอก็วิ่งออกจากห้องไป ปล่อยให้ทั้งบัวและแจ็ดยืนงงอยู่กลางห้อง
แล้วบัวก็เหลือบไปเห็นข้อความที่เอคุยกะเค จึงพอประติดประต่อเรื่องได้ พอทั้งคู่อ่านเส็ด ก็วิ่งออกตามหาเอกัน โดยที่ทั้งสองแยกกันหา แจ็ควิ่งเจอเอก่อน จึงเข้าไปพูดกะเอ
“เอ เป็นไรรึป่าว”
“ ”
“อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ”
“ ”
“มีเรื่องไรก็ช่างมันเถอะ อย่าไปซีเรียสกะมันเลย”
เอถึงกับอึ้งกับประโยคที่แจ็คพูด เพราะประโยคที่แจ็คพูดมันคล้ายกับที่เคเคยพูดกับเอ
เอลุกขึ้นและเดินกลับห้อง ซึ่งก็มาเจอกับบัวที่หน้อห้อง
“เอไปไหนมา เราหาตั้งนาน”
“เราขอโทดที่ทำให้บัวกะแจ็คเดือดร้อนนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกคับ”
“ขอตัวก่อนนะ”
“ขอบคุณนะคะที่มาช่วยตามหาเอ”
“ไม่เป็นไรคับ ผมขอตัวเลยก็แล้วกันนะคับ”
“คะ”
ตั้งแต่วันนั้นเอก็ดูเงียบขึ้น
“เราจะได้ทุนมั้ยเนี่ย ยากโคดๆอ่ะ”
“เอ อยากไปซีเรียสเลย ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนิ ไม่ได้ตายซะหน่อย”
“อือ มันก็จิงอ่ะนะ กลับบ้านเถอะ “
“อือ”
“เออ เดี๋ยวก่อนรี่รี่ต้องสัญญากะเราก่อนนะ เรื่องที่เรามาสอบชิงทุนอ่ะ”
“ทำไม”
“ก็ห้ามบอกใครนะว่าเรามาสอบ”
“อือๆ ไม่ให้บอกก็ไม่บอก”
“อือ ขอบใจ”
หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ ผลการสอบชิงทุนก็ออก และผลปรากฎว่า
“จะมีชื่อเรามั้ยน๊าาาาาาา”
“เดี๋ยวเราช่วยหานะ”
“อือ”
.
“เห้ย เจอแล้วนี่ไง เอแกสอบได้ แกสอบได้ แกได้ทุน”
“จิงป่ะ เย้!!!!!!!!!!!!!!!! เราดีใจที่สุดในชีวิตเลยนะเนี่ย เราทำได้แล้วรี่ เราทำได้แล้ว”
“เออ แกเก่งมากเลย เราดีใจด้วยนะ”
“อือ นี่แต่อย่าลืมนะ เรื่องนี้จะต้องเก็บเป็นความลับ แล้วเดี๋ยวเราจะเป็นคนบอกเพื่อนๆเอง โอเคป่ะ”
“อือได้”
“งั้นวันนี้ไปเลี้ยงกัน”
“ไปที่ไหนดีอ่ะ”
“ไม่รู้เดี๋ยวค่อยคิด แต่ตอนนี้เราดีใจอยู่ อิอิอิ”
“งั้นก็เลี้ยงที่บ้านไงง่ายดี เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”
“อือ”
วันรุ่งขึ้น . เอก็ไปโรงเรียนปกติ แต่ที่ผิดปกติคือ เธอดูมีความสุขมากเป็นพิเศษ
“เอ วันนี้แกเป็นไรอ่ะ ดูมีความสุขจัง”
“ก็เรารู้สึกมีความสุขนิ อิอิ”
“แกท่าจะบ้านะ เอ บางวันก็มาแบบโหดๆ บางวันก็มาแบบแฮปปี้สุดๆ”
“เรื่องของเรา อิอิ”
หลังจากนั้น ประมาณ1เดือน ซึ่งก็เหลือเวลาที่เอจะอยู่กับเพื่อนเพียง3อาทิตย์เท่านั้น ตอนนี้เอเริ่มรู้สึกเส้าๆที่จะต้องจากเพื่อนที่รักของเธอไป (เว่อร์ม่ะ)
“เออ วันเสาร์นี้ว่างกันป่ะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ไปเที่ยวกันดีกว่า เรารู้สึกเบื่อๆอ่ะ แล้วอีกอย่างเรามีเรื่องที่สำคัญจะบอกด้วย”
“เรื่องไรอ่ะ”
“จะไปป่าวหล่ะ”
“อือ ไปดิ”
“อือ งันเจอกันวันเสาร์ที่เดอะมอลล์นะ”
“อือ”
วันเสาร์ ที่เดอะมอลล์ .
“ทำไมมากันช้าจังอ่ะ”
“ก็รถมันติดนี่”
“อือ งั้นไปกินพิซซ่ากันดีกว่าป่ะ เราเลี้ยงเอง”
“โอเค งั้นไปกันเลย”
“โห ยัยน้ำ ไม่ค่อยเลยนะ”
“เอ่อ ถึงว่าทำไมขี้เกลือถึงขึ้นที่ตัว”
“555555+”
“ถึงชั้นจะเค็ม แต่ชั้นก็น่ารักอ่ะ”
“พอเหอะๆ ไปนั่งกันก่อนดีกว่า”
ทุกคนก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย พอกินเส็ด .
“ไปดูหนังกัน เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”
“ไม่ต้องหรอก คราวนี้เราออกกันเองก็ได้”
“เอางั้นหรอ”
“อือ เดี๋ยวพวกเราหารกันจ่ายให้เอเอง โอเคป่ะ”
“อือ ก็ได้”
“ป่ะ ซื้อตั้วกัน”
หลังจากจบการดูหนัง เอก็ชวนเพื่อนๆของเธอไปกินไอติมกัน
“ไปกินไอติมกัน”
“อือ ป่ะ”
พอทุกคนกินไอติมกันเส็ดเรียบร้อยแล้ว
“เออ ไหนเอบอกว่า มีเรื่องจะบอกพวกเราไม่ใช่หรอ”
“อือ ใช่”
“เอ่อ ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้มาเที่ยวด้วยกันอย่างนี้”
“ทำไมอ่ะ เอ แกจะไปไหน”
“เราสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้อ่ะ”
“จิงป่ะ”
“อือ จิง เราจะเดินทางในอีก 2-3 อาทิตย์ข้างหน้าอ่ะ”
“เห้ย ทำไมเร็วจังเลยอ่ะ”
“จิงๆแล้วเราสอบมาตั้งนานแล้ว เรารู้ว่าเราสอบได้มาเดือนกว่าๆแล้ว”
“อ่าวแล้วทำไมไม่บอกพวกเราอ่ะ”
“ไม่รู้ดิ”
“แล้วนี่เอบอกกับเคยัง”
“ยังเลย”
“อ่าวแล้วทำไมไม่บอกหล่ะ”
“เราก็หาโอกาสอยู่ แต่ถึงมีโอกาสเราก็ไม่กล้าบอกอ่ะ”
“งั้นโทรเรียกเคไปที่บ้านเราดีกว่า แล้วค่อยคุยกัน โอเคป่ะ”
“อือก็ได้”
“ป่ะ งั้นก็กลับไปที่บ้านเรากันก่อนดีกว่า”
“อือ”
พอถึงบ้านของฟ้า
“เคหรอ นี่ฟ้านะ เคมาบ้านเราได้ป่ะ ตอนนี้อ่ะ”
“ทำไมหรอ”
“มาเถอะน่า”
“อือๆ”
“เร็วๆนะ มีเรื่องด่วน”
“อือ”
พอเคมาถึงบ้านฟ้า
“เข้ามาดิ”
“หวัดดีเค”
“อ่าว เอ”
“เอบอกเคไปดิ”
“เอ่อออออออ”
“มีไรหรอ”
เคเดินเข้ามาใกล้เอ”
“เอ่ออออ คือว่า ..
“ ..”
“คือว่าเราได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ เราคงต้องไปหลายปี”
“ .”
เคถึงกับอึ้งกับคำพูดของเอ เคไม่คิดว่าเอจะต้องจากเค้าไปเร็วถึงขนาดนี้ (พูดอย่างกับตาย)
“เอ บอกเราดิ ว่าเอล้อเราเล่น”
“ ..”
“เค นายต้องยอมรับความจิงนะ เอมันได้ทุนเรียนต่อก็ดีแล้ว แกควรจะดีใจกับมันนะ”
“เอ่อออ เค เราคิดว่าเรากะนายควรจะเลิกกันก่อน เพราะเราคงไปหลายปีมาก แล้วเราก็ไม่อยากปิดกั้นหัวใจของนายด้วย เผื่อนายจะเจอใครที่ดีกว่าเรา”
คราวนี้ทุกคนถึงกับอึ้งกับคำพูดของเอ
“เอ ทำไมแกพูดแบบนี้อ่ะ”
“ทำไมก็ไม่รักษาหัวใจของเคที่มันให้แกเลยหล่ะ”
“ทำไมก็ต้องทิ้งเคมันไปด้วย”
“ .”
“เค เราขอโทดที่ต้องพูดแบบนี้ แต่เราจำเป็นต้องพูด”
“ ”
เคเดินเข้ามากอดเอ โดยที่เอไม่ได้ตั้งตัว เคกอดเอแน่มาก พร้อมกับพูดว่า
“เอ เราขอกอดเอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะเลิกกันนะ”
“อือ .”
ทุกคนเดินออกจากห้อง ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ในบรรยากาศที่เงียบสงัด น้ำตาของเคหยดลงบนเสื้อของเอ เอรู้สึกได้ถึงความรักที่เคมีให้ แต่นี่คือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ทั้งสองกอดกันอยู่นาน
“เอ ถึงเอจะบอกเลิกเรา แต่ยังไงเราก็จะรักเอตลอดไปนะ”
“อือ ขอบใจนะเค”
เอค่อยๆบรรจงเช็ดน้ำตาให้เค .
..
..
..
.
.
เอเดินออกจากห้อง ปล่อยให้เคยืนอยู่คนเดียว ท่ามกลางความรู้สึกดีๆที่ทั้งคู่เคยมีให้กัน
เอเดินกลับบ้านโดยไม่มองกลับมา พอถึงบ้าน เอก็บอกกับที่บ้านว่า ขอเลื่อนการเดินทางให้เร็วขึ้น แม่ของเอ เลยโทรสับไปสอบถาม และทำให้การเดินทางของเอเลื่อนขึ้นมาอีก 2 อาทิตย์ ซึ่งทำให้เอเหลือเวลาอยู่ในเมืองไทยเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น
เอพยายามใช้เวลาที่เหลือให้ดีที่สุด
“เอ เวลาที่เหลืออยู่นี้ เราขอเป็นมากกว่าเพื่อนก่อนได้มั้ย”
เอ งงกับคำถามที่เกิดขึ้น แต่เทอก็ได้ให้คำตอบไปว่า
“อือ ก็ได้”
หลังจากนั้นทุกเย็นเอกะเคก็จะเดินไปกินข้าวด้วยกัน ทำอะไรที่คนที่เป็นแฟนกันทำ จนวันสุดท้ายทั้งคู่ก็ไปดูหนังด้วยกัน ในโรงหนังเคก็ได้จับมือของเอไว้แน่น เอมองหน้าเค
“เราขอจับมือเอไว้นะ”
“อือ”
เคจับมือเอไว้เสมอจนหนังจบ ระหว่างทางเคก็ยังคงจับมือเอไว้ โดยไม่มีท่าที่ว่าจะปล่อย ทั้งสองได้ไปถ่ายรูปด้วยกัน ได้เดินจับมือกัน ได้เพิ่มความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน จนเอรู้สึกเสียใจมากที่จะต้องจากเคไป
วันเดินทาง
“รักษาตัวดีๆนะลูก”
“ถึงที่โน้นแล้วโทรมาด้วยนะลูก”
“ตั้งใจเรียนนะลูก”
“คะ”
เอกอดครอบครัวของเทอไว้แน่น ตอนนั้นเอง เพื่อนๆของเทอก็วิ่งกันเข้ามา
“เอ จะไปจิงๆหรอ”
“ยังไงเราก็ขอให้แกมีขยันเรียนนะ เจอเพื่อนดีๆ”
“แกห้ามลืมพวกเราเป็นอันขาดนะ”
“อือ เราจะไม่ลืมพวกแกเลย”
ขณะนั้นเอง เคก็เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องของขวัญกล่องหนึ่ง
“เอ เราให้เอาไปแกะบนเครื่องนะ”
“อือ”
เคโผล่เข้ากอดเอ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา ซึ่งทำให้เอเองก็ร้องไห้ออกมา
“วันนี้คงจะเป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่กันในฐานะแฟนแล้วสินะ”
“ ..”
“เราจะไม่มีวันลืมความรู้สึกที่มีให้เอเลย เราจะจำความทรงจำเหล่านี้ไปตลอดเลยนะ”
“ .”
“ยังไงเราก็รักเอนะ”
“ ..อื .อ .”
เอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เคเอามือของเค้ามาปาดน้ำตาบนหน้าของเออย่างถะนุถนอม
ถึงเวลาที่เอต้องไปจิงๆแล้ว ..
พอขึ้นเครื่องไป เอก็แกของขวัญที่เคให้
ภายในกล่องของขวัญนั้น มีรูปภาพของเอตั้งแต่ตอนม.1ถึงม.3 และมีการ์ดเล็กๆใบหนึ่งแนบมาด้วย เอค่อยๆบรรจงเปิดการ์ดออก เทออ่าน
ถึง เอ คนที่เรารักที่สุดในชีวิต
นี่อาจจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เราจะได้ให้เอ เมื่อเออ่านการ์ดใบนี้ เอก็ต้องขึ้นเครื่องไปแล้ว ส่วนรูปภาพที่อยู่ในกล่องนี้ เป็นรูปที่เราแอบถ่ายมา เราอยากจะให้เอเก็บรูปเหล่านี้ไว้นะ เราไม่รู้จะเขียนยังไงแล้ว ว่าเรารักเอมากเลย มากกว่ารักตัวเองซะอีก
รักที่สุดในชีวิต
เค
พอเออ่านจบ หยดน้ำตาแห่งความซาบซึ้งและความรักที่ทั้งสองมีให้กันก็กลั่นและหยดลงมา
เอพับการ์ดลงในกล่องในแบบเดิม เทอปิดกล่องและกอดมันไว้ จนเทอเองก็พล้อยหลับไป
เมื่อถึงประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่เทอจะต้องมาเรียน เทอก็ได้เจอเพื่อนคนไทยคนหนึ่ง ชื่อ บัว เทอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก เทอเดินตรงเข้ามาที่เอ พร้อมกับถามเอ
“คุณชื่อเอใช่มั้ยค่ะ??”
“ใช่ค่ะ เออ..แล้วคุณเป็นใครหรอคะ??”
“อ๋อ ชั้นชื่อ บัว คะ พอดีว่าเราก็สอบได้ทุนเดียวกะเอเหมือนกัน”
“จิงหรอ ดีใจจังที่มีเพื่อนเป็นคนไทยด้วย”
“อือ เราก็เหมือนกัน ไปกันเถอะ เดี๋ยวเราจะพาไปที่ห้องพัก”
“จ่ะ”
ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน พอถึงห้องพัก เอก็จัดแจงวางของของเทอ และรีบโทรกลับบ้าน พอคุยเส็ด
“ป่ะ เอ เดี๋ยวเราพาไปดูห้องเรียน”
“อือๆ ป่ะ”
“แต่ต้องไปอย่างเงียบเลยนะ เพราะว่าวันนี้เค้ายังมีเรียนอยู่”
“อ่าวหรอ”
“อือ เพราะว่าเรามากันเร็วไง”
“อือๆ”
“ป่ะ”
บัวพาเอเดินดูห้องเรียน แต่ทันใดนั้นเอง เสียงกริ่งหมดคาบเรียนก็ดังขึ้น
“โห คนเยอะจัง”
“อือ แต่ห้องเราไม่เยอะขนาดนี้นะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็เพราะว่าเค้าจะแยกเด็กที่ได้ทุนเรียนห้องหนึ่งไปเลยอ่ะ”
“อือ ก็ดีอ่ะนะ เพราะเราจะได้ปรับตัวได้เร็วขึ้น”
“อือ”
“โอ๊ย!!!!!!! เจ็บจัง”
“Are you OK?”
“Oh .I think, I’m OK.”
“I’m sorry, are you a thai people?”
“Yes”
“งั้นเทอพูดเป็นภาษาไทยก็ได้”
“อ่าวทำไมนายพูดภาษาไทยได้อ่ะ”
“อ๋อ เราเคยเรียนมาอ่ะ”
“อือ งั้นก็ดี”
“บัวไปกันเถอะ เรายังอยากเห็นห้องเรียนอยู่”
“เจ็บขนาดนี้เนี่ยนะ”
“ไม่เป็นไร อยู่เมืองไทยเราล้มเป็นสิบรอบ เรายังต้องคุกเข่าเดินเลย”
“ไปก็ไป”
“เดี๋ยวก่อน เทอชื่อไรหรอ”
“เราชื่อบัว”
“แล้วเทอหล่ะ ชื่อไรหรอ”
“อ่าวถามเราด้วยหรอ”
“อืม”
“เราชื่อเอ ไปกันเถอะบัว”
“แปปนะ แล้วคุณหล่ะคะ ชื่ออะไร”
“ผมของแจ็คคับ”
“คะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“อ่าวเอ รอด้วยสิ”
“ก็บัวอ่ะ ชักช้า”
เอวิ่งไปก่อน โดยไม่รอบัว
“นี่หรอห้องเรา”
“อือ”
“สวยดีแหะ”
“เอ เอ เราลืมบอกไปเดี๋ยวทางโรงเรียนเค้าจะจับคู่บัดดี้พี่น้องให้ด้วยนะ”
“คือไรอ่ะ”
“ก็เหมือนพี่น้องรหัสอ่ะ”
“อือ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าจะจับแล้ว พรุ่งนี้เราไปดูกันนะ”
“อือ จะได้รู้ด้วยว่าเราจะได้คู่กะใคร”
วันรุ่งขึ้น ..
“เอ ไปกันได้แล้ว”
“เค้าจะจับกันตอน9โมงเช้านะ”
“บัวจ๋า แล้วนี่มันเพิ่งกี่โมงเอง”
“นี่มัน7.30แล้วจ้าาาา”
“ห๊าาาาาาา ตายแล้ว แปปนะบัว”
10 นาทีต่อมา .
“ป่ะบัว”
“กว่าจะไปได้”
“ขอโทดน้า”
“อือ”
“คนสวยของเรา ใจดีจิงๆเลย อิอิ”
“ไม่ค่อยเลยนะเอ”
“5555+”
ทั้งคู่นั่งลุ้นกับการจับบัดดี้ในครั้งนี้มาก พอถึงชื่อของบัว ผลปรากฎว่า
“บัว เทอได้คู่กับ แอนโทนี่”
“ใครก็ไม่รู้”
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้ว เอก็พูดเหมือนรู้เลยนะ”
“ถึงคิวของเอแล้ว”
..ลุ้น .
“เอ เทอได้คู่กับแจ็คอ่ะ”
“แจ็คไหนอ่ะ”
“ก็ที่พูดภาษาไทยได้ไง”
“เออ อ๋อ ที่เมื่อวานเค้าวิ่งมาชนเราอ่ะนะ”
“อือ ใช่ นั่นไงพูดถึงก็มาเลย”
“อือ”
“หวัดดีคับ”
“คะ”
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“เอ่ออออ”
“ขอโทดแทนเอนะคะ”
“ไม่เป็นไรคับ เดี๋ยวผมขอตามไปด้วยได้มั้ยคับ จะได้รู้ว่าห้องของเออยู่ที่ไหน”
“อ๋อ ได้คะ ตามมาเลยคะ”
เอวิ่งมานั่งอยู่ในห้องของเทอ ในมือของเทอถือกล่องของขวัญที่เคให้ เทอกอดกล่องของขวัญไว้แน่น พร้อมกับน้ำตาที่ร่วงลงบนกล่องใบนั้น เทอนึกได้ว่าเวลานี้ เพื่อนๆของเทอที่เมืองไทยจะเล่นMSNกัน เทอรีบลุกขึ้น เปิดโน๊ตบุคของเทอ และเปิดMSNของเทอ เทอเจอกับเพื่อนของเทอแทบทุกคน
“เอ เป็นไงบ้าง ไปอยู่ที่โน้นอ่ะ”
“ก็ดีอ่ะ”
“เอ รู้มั้ยว่าเค มันดูซึมไปเลยอ่ะ”
“หรอ”
“อือ อ่าวนั่นไงมันออนพอดีเลย”
“อือ งั้นเราไปคุยกะมันก่อนนะ”
“จ้าาาา”
..
“ดี”
“อืม”
“เคเป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย”
“ก็ดีอ่ะ เอเราขอโทดนะ ที่เราจะขอไม่คุยกะเอ เพราะเราไม่อยากเสียใจไปมากกว่านี้ เราขอโทดจิงๆ ไปก่อนนะ บาย”
“เคเดี๋ยว”
เอพิมช้าไป เคออกไปเลย เทอรู้สึกเสียใจมาก จนเทอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก บัวกะแจ็ควิ่งเข้ามาเห็นพอดี
“เอ เป็นไรอ่ะ”
“ .”
“ร้องไห้ทำไม”
“ ..”
“บอกเราหน่อยสิ”
“ .”
“ ..เ ร า ข อ ตั ว ก่ .อ น น ะ .”
แล้วเอก็วิ่งออกจากห้องไป ปล่อยให้ทั้งบัวและแจ็ดยืนงงอยู่กลางห้อง
แล้วบัวก็เหลือบไปเห็นข้อความที่เอคุยกะเค จึงพอประติดประต่อเรื่องได้ พอทั้งคู่อ่านเส็ด ก็วิ่งออกตามหาเอกัน โดยที่ทั้งสองแยกกันหา แจ็ควิ่งเจอเอก่อน จึงเข้าไปพูดกะเอ
“เอ เป็นไรรึป่าว”
“ ”
“อย่าเอาแต่ร้องไห้สิ”
“ ”
“มีเรื่องไรก็ช่างมันเถอะ อย่าไปซีเรียสกะมันเลย”
เอถึงกับอึ้งกับประโยคที่แจ็คพูด เพราะประโยคที่แจ็คพูดมันคล้ายกับที่เคเคยพูดกับเอ
เอลุกขึ้นและเดินกลับห้อง ซึ่งก็มาเจอกับบัวที่หน้อห้อง
“เอไปไหนมา เราหาตั้งนาน”
“เราขอโทดที่ทำให้บัวกะแจ็คเดือดร้อนนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกคับ”
“ขอตัวก่อนนะ”
“ขอบคุณนะคะที่มาช่วยตามหาเอ”
“ไม่เป็นไรคับ ผมขอตัวเลยก็แล้วกันนะคับ”
“คะ”
ตั้งแต่วันนั้นเอก็ดูเงียบขึ้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น