ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:KrisYeol] AFTER MIDNIGHT

    ลำดับตอนที่ #5 : After Midnight : 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      17
      1 มิ.ย. 57

      

      

    หลังจากที่บ้านของตระกูลอู๋ถูกบุคคลจำนวนหนึ่งบุกเข้ามายามวิกาล อีกสองสามวันต่อมาชานยอลและไคก็ถูกผู้ที่อาวุโสที่สุดของบ้านเรียกเข้าไปพบอีกครั้ง เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งอยู่เบื้องหน้าของผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างสงบเสงี่ยม

     

    นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสินะ ที่เธอทั้งสองคนต้องมารับรู้เหตุการณ์ที่ไม่ดีอย่างนี้ในบ้านของฉัน...”  ชายวัยใกล้ชราพูดด้วยท่าทีสุขุมเช่นเคย

     

    ฉันคิดว่า..ที่นี่คงไม่ปลอดภัยสำหรับเธอสองคนอีกต่อไป

     

    ชานยอลและไคมองหน้ากันเหมือนเป็นการถามอีกฝ่ายว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป หากเขาตัดสินใจอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อไป ไม่มีอะไรมารับประกันเขาทั้งสองคนได้เลยว่าสิบเดือนที่เขาต้องอยู่ที่นี่จะเป็นอย่างไร แต่อีกใจก็นึกสนุกอยากอยู่ต่อ แม้ว่าเหตุการณ์มันจะรุนแรงถึงกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมันมากมายสักเท่าไหร่

     

    เอ่อ ผมพอจะเข้าใจว่าคุณอู๋ต้องการจะพูดอะไร แต่ถ้าผมบอกว่า ผมอยากอยู่ที่นี่ต่อไปล่ะครับ?ไคตัดสินใจบอกในสิ่งที่เขาคิดออกไป

     

    เธอไม่กลัวหรอ?

     

    ตอนแรกก็กลัวอยู่หรอกครับ แต่ผมมาคิดดูแล้วว่าถ้าผมสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ท่ามกลางเหตุการณ์แบบนี้ได้ภายในสิบเดือนแล้วสามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยผมคงรู้สึกดีไม่น้อย ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสร่วมสู้ไปกับตระกูลของผู้มีพระคุณครั้งนี้ชานยอลเป็นคนพูดและพูดออกมาด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยมั่นใจ

     

    เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ แต่มันหมายถึงชีวิตของพวกเธอ

     

    ผมทราบครับ ถึงแม้ผมจะดูเป็นเด็กที่ดูแลตัวเองไม่ได้ในสายตาของคุณอู๋ แต่ผมเชื่อว่าผมต้องสามารถผ่านมันไปได้แน่ๆ

     

    สายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและความแข็งแกร่งจ้องมองไปยังชายผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างไม่ยอมแพ้และมันก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์ ชายวัยใกล้ชรามองเห็นถึงความตั้งใจของเด็กหนุ่มทั้งสองคน ยิ่งกับชานยอลเขายิ่งมองเห็นมัน เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ภายในสายตาคู่นั้นกลับมีความแข็งแกร่งและความดื้อรั้นซ่อนอยู่ มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องยอมแพ้และยอมให้ชานยอลและไคอยู่บ้านหลังนี้ต่อไป

     

    ----------------------------------------------------------------------------

     

    เช้าวันหยุดของชานยอลและไคในวันนี้มันจะเป็นวันหยุดที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขาทั้งสองคน เมื่อคนที่มีอำนาจสูงสุดของบ้านสั่งให้คนเด็กหนุ่มทั้งสองฝึกวิชาป้องกันตัวในแบบฉบับซามูไร นั่นก็คือวิชา ‘ฟันดาบซึ่งมันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่จะทำให้เขาทั้งสองคนอยู่ที่บ้านหลังนี้กันต่อไป

     

    ดาบคาตานะถูกส่งให้กับชานยอลและไค ดาบซามูไรที่มีความแข็งแรงและคมมาก รูปทรงของมันมีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของดาบญี่ปุ่นและคนที่มารับหน้าที่เป็นครูสอนดาบให้กับเด็กหนุ่มทั้งสองคนในวันนี้ก็คือลู่หานผู้ที่ชำนาญการในเรื่องศิลปะการต่อสู้โดยการใช้ดาบอันดับต้นๆของตระกูล

    ทำไมเราถึงเลือกใช้ดาบล่ะครับ ใช้ปืนยิ่งซะเดียวไม่เร็วกว่าหรอ?ไคถามขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังเตรียมตัวฝึกใช้ดาบจากลู่หาน

     

    ปืนมันเสียงดัง ดาบนี่แหละ ตายเงียบดีคนหน้าหวานบอกพร้อมกับยกยิ้มเล็กน้อย

     

    ถ้าอีกฝั่งใช้ปืนกูคงตายก่อนแน่ๆหนุ่มผิวเข้มพูดกับตัวเองเบาๆ แต่ชานยอลกลับได้ยินประโยคนั้นด้วย

     

    เอาน่า เขาให้ทำอะไรก็ทำไปเถอะ ไม่งั้นต้องไปอยู่ที่อื่นนะเฮ๊ยชานยอลบอกด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันเพียงแค่เขาและไคก่อนจะกลับไปสนใจดาบที่อยู่ในมือตัวเอง

     

    ชานยอลและไคเรียนรู้การใช้ดาบในขั้นพื้นฐานไปอย่างง่ายดายเนื่องจากทั้งสองเป็นคนหัวไวพอสมควร ลู่หานจึงเพิ่มระดับในการสอนให้ยากมากขึ้น แต่การสอนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีใครบางคนเข้ามาชมบรรยากาศการสอนฟันดาบของลู่หาน

     

    มาทำไม!” ลู่หานพูดกับคนที่เพิ่งมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

     

    ก็ไม่มีใครบอกหนิว่าห้ามมาหนุ่มร่างสูงโปร่งบอกด้วยท่าทางยียวน

     

    ไม่มีใครห้าม? เออ! งั้นต่อไปนี้ไม่ต้องมาคนร่างบางบอกก่อนจะเลิกสนใจหนุ่มร่างโปร่งคนนั้น

     

    ก็ได๊~ แต่พี่ต้องชนะผมนะ

     

    ชนะอะไร?ลู่หานหันกลับไปถามอีกคน

     

    ก็ฟันดาบนี่ไง ถ้าพี่ชนะผมสัญญาว่าจะไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีก แต่ถ้าผมชนะ..พี่เตรียมเห็นหน้าผมไปตลอดชีวิตได้เลย

     

    คำพูดและท่าทางที่กวนประสาทนั่นทำให้คนอารมณ์ร้อนอย่างลู่หานแทบจะหยิบดาบแล้วพุ่งเข้าใส่ซะเดี๋ยวนั้นและยิ่งเห็นว่าลู่หานเดือดมากเท่าไหร่ หนุ่มร่างโปร่งก็รู้สึกชนะคนหน้าหวานมากเท่านั้น

     

    ดาบคาตานะอยู่ในมือของทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อย ลู่หานดูจริงจังกับคำท้าในครั้งนี้ ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเห็นมันเป็นแค่เรื่องสนุกในชีวิตประจำวันเท่านั้น ลานกว้างที่แสนสงบหลังบ้าน ถูกเปลี่ยนเป็นสนามรบสำหรับคนสองคนไปในทันที ซึ่งชานยอลและไคได้แต่ยืนมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจว่าสองคนนี้โกรธเกลียดกันมาตั้งแต่ชาติไหน

     

    ลู่หานยกปลายดาบไปทางคู่ต่อสู้และพยายามกรอกคำว่าชัยชนะใส่หัวตัวเองซ้ำๆ จนสติเริ่มหายไป เหลือไว้เพียงความโกรธแค้นส่วนตัว แต่คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามได้แต่ส่งรอยยิ้มกวนๆให้กับลู่หานและไม่ได้เตรียมตัวตั้งรับคมดาบจากลู่หานแต่อย่างใด

     

    ร่างบางพุ่งตัวเข้าไปหาคนตัวสูงกว่าด้วยความเร็ว ดาบคมฟันฉับลงบนต้นไผ่เพราะหนุ่มร่างโปร่งหลบคมดาบนั้นได้ทันท้วงทีราวกับอ่านเกมของอีกคนได้เป็นอย่างดี

     

    กาก ร่างโปร่งบอกพร้อมกับส่งสายตายั่วโมโหให้กับลู่หาน

    ฉันควรตัดปากนายก่อนเป็นอันดับแรกสินะ

    ร่างบางว่าก่อนยกดาบขึ้นจนสุดแขนแล้วฟาดคมดาบลงไปกระทบกันดาบที่อีกคนยกมันขึ้นมาตั้งรับดาบของลู่หาน

     

    นี่เขาแค่สู้กันเล่นๆ หรือว่าโกรธกันจริงๆวะ?ไคถามคนข้างๆ ที่ยืนเป็นผู้ชมร่วมกันกันเขา

     

    เหมือนแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อนชานยอลบอกและกระพริบตาถี่ๆเมื่อดาบของลู่หานกับหนุ่มร่างสูงกระทบกันอย่างรุนแรง

     

    สายตาของความโกรธแค้นและผิดหวังยังคงจ้องมองไปที่สายตาที่ไม่เคยรู้สึกผิดอย่างไม่ลดละ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมลู่หานถึงได้โกรธและโมโหคนๆนั้นได้มากมายถึงเพียงนี้ แต่เขาสองคนรู้ดี เขารู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนพังลงเป็นเพราะอะไร...

     

    ไปซะเซฮุน นายรีบไปซะก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วเผลอฆ่านายจริงๆลู่หานบอกเสียงเบาในขณะที่อีกคนกำลังต้านแรงดาบจากเขา

     

    ผมจำเป็นต้องทำตามที่พี่บอกป่ะ?ร่างโปร่งบอกพร้อมกับเลิกคิ้วถามราวกับตั้งใจจะทำให้อีกคนโมโหมากขึ้นกว่าเดิม

     

    หึ..ปากดีอย่างนี้ ขอสักทีเถอะ!”

     

    ลู่หานรวบรวมแรงทั้งหมดผลักคนตัวสูงให้เซไปอีกทางด้วยดาบ แขนเล็กของคนร่างบางแต่มากไปด้วยพละกำลังง้างขึ้นจนสุดมือ แต่ยังไม่ทันที่คมดาบจะได้เคลื่อนตัวออกไปข้อมือของลู่หานก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยฝีมือของใครอีกคน

     

    นายนี่..เป็นครูที่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ

     

    โฮ๊ะๆ! นางฟ้ามาช่วยชีวิตผมแล้วเซฮุนหันไปยิ้มกวนๆให้กับผู้มาใหม่

     

    พี่สึนะ! มาห้ามผมทำไม!!” ลู่หานบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเมื่อถูกอีกคนขัดจังหวะ

     

    แหมะ ถึงฉันไม่ห้ามฉันก็รู้ว่านายไม่กล้าทำอะไรมันหรอก

     

    เหตุการณ์ของคนสามคนในลานกว้างนั่นเกิดขึ้นท่ามกลางความงุนงงของชานยอลและไค ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างหนุ่มร่างสูงที่ชื่อเซฮุนและครูจำเป็นอย่างลู่หาน ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อสึนะเป็นใครมาจากไหน แต่รู้เพียงว่าพวกเขาเคยเจอตอนที่เธออกมาจากบ้านของคริสและเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ชานยอลเจอในคืนที่เกิดเหตุการณ์บุกบ้านครั้งล่าสุด

     

    จะรบกันต่อไหม? ถ้าจะต่อเชิญทางโน้น เพราะเดี๋ยวฉันจะเป็นคนสอนเจ้าสองคนนี้เองหญิงสาวบอกและหันไปมองชานยอลด้วยสายตาที่แอบแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง

     

    เดี๋ยวนะๆ พี่จะสอนดาบ?.....ทะเลาะกับสามีมาอีกแล้วหรอครับ? ฮ่าๆๆๆเซฮุนหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวพูด

     

    ทำไมต้องทะเลาะ ในเมื่อปกติฉันไม่ค่อยจะญาติดีกับเขาอยู่แล้ว

     

    สีหน้าที่ขุ่นเคืองนั่นทำให้ชานยอลเริ่มคิดอะไรบางอย่างได้ คำว่าสามีที่ออกมาจากปากเซฮุนอาจจะเป็นเครื่องหมายบอกว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะแต่งงานแล้ว และถึงแม้หน้าตาเธอจะดูอ่อนเยาว์ แต่ลักษณะการวางตัวของเธอดูมีอายุมากกว่าสองคนนั้นซึ่งชานยอลเดาไปว่าเธออาจจะเป็นภรรยาของคริสก็ได้เพราะมิเช่นนั้นเธอจะเข้าไปหาคริสในเวลารุ่งสางแบบนั้นได้อย่างไร

     

    เอาล่ะครูของเธอไม่สนใจเธอแล้ว เดี๋ยวฉันจะสอนเธอเอง...

     

    ทั้งที่ตรงนั้นมีเด็กหนุ่มยืนอยู่ตั้งสองคน แต่หญิงสาวเลือกที่จะสนใจชานยอลเพียงคนเดียว ตาคมตามสไตล์สาวญี่ปุ่นมองร่างโปร่งอย่างไม่ละสายตามือเล็กรับดาบจากเซฮุนมาถือเอาไว้ ลักษณะการจับดาบของเธอทำให้รู้ได้ว่าหญิงสาวมีความสามารถในการใช้ดาบยาวนั่นอย่างแน่นอน

     

    ชานยอลก้าวออกไปหาผู้ท่าด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยมั่นใจเพราะไม่รู้ว่าอีกคนคิดอะไรอยู่ เขาไม่สามารถเดาอะไรจากผู้หญิงคนนี้ได้เลย จึงทำได้แค่เพียงยอมประลองฝีมือกับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ไปทั้งๆที่ร่างโปร่งไม่ค่อยอยากจะทำมันสักเท่าไหร่

     

    หญิงสาวตวัดปลายดาบยาวโดยที่ชานยอลยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างโปร่งรีบถอยหลังกรูดทันที ความคมของดาบไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับเขาเลย แต่คู่ต่อสู้ของเขาทำราวกับว่ามันเป็นแค่ดาบไม้เท่านั้น

     

    หญิงสาวกระตุกยิ้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังกลัวคมดาบของเธอและยิ่งชานยอลดูกลัวมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งบุกมากเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็มีสติในการตอบโต้อยู่พอสมควร ร่างโปร่งคอยระมัดระวังคมดาบของคู่ต่อสู้ แม้ว่าตัวเขาเองจะยังถือดาบได้ไม่ถนัดมือ แต่เขาก็กลับทำมันได้ดีกว่าที่คาด

     

    แม้ว่าร่างของชานยอลจะสูงใหญ่ว่าหญิงสาวคู่ต่อสู้ แต่คนร่างสุงโปร่งนั้นก็จำเป็นต้องยอมแพ้ฝีมือของคนตัวเล็กกว่า ปลายดาบแหลมหยุดอยู่ตรงหน้าชานยอลเพียงคืบ หากหญิงสาวร่างเล็กใจร้ายกว่านี้และปล่อยให้ปลายดาบนั้นพุ่งเข้ามาหาตัวชานยอลอีกสักนิดรับรองได้เลยว่าใบหน้าเนียนของร่างโปร่งต้องมีแผลประทับอยู่เป็นแน่

     

    เกือบจะดี แต่ยังขาดสมาธิ ฉันแนะนำให้ลองฝึกเล่นๆตอนเที่ยงคืนนะ มันอาจจะทำให้เธอมีสมาธิมากกว่านี้ หญิงสาวกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลดดาบลง

     

    พี่ๆ พอแล้วๆ เด็กมันกลัวหมดแล้วลู่หานบอกก่อนจะเดินเข้าไปแย่งดาบจากมือเรียวของหญิงสาว

     

    แบบนี้แหละ จะได้เก่งเร็วๆ เอาดาบคืนมา ชานยอลเธอไปพักได้ แล้วก็เธอ...ชื่ออะไรนะ ไคใช่ไหม? มาลองฝึกกับฉันมาสาวร่างเล็กแย่งดาบจากมือของลู่หานคืนไปก่อนจะกวักมือเรียกไคให้เข้าไปหา

     

    เอ่อ...พี่ลู่หานครับคือ...ผู้หญิงคนนั้นคือใครหรอครับ?ชานยอลเข้าไปถามลู่หานด้วยน้ำเสียงเบา

     

    อ๋อ โทษทีที่ลืมแนะนำ นั่นพี่สึนะ ผู้หญิงที่เก่งที่สุดของเรา พี่เขาเป็นหมอด้วย แต่ทำใจนะ เพราะเธอเป็นหมอที่แปลกกว่าหมอทั่วไปหน่อยนึง

     

    หมอหรอ...

     

    ชานยอลทวนคำพูดของลู่หานก่อนจะมองไปที่หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังใช้ดาบไล่ต้อนเด็กหนุ่มผิวเข้ม ร่างโปร่งแทบจะไม่เชื่อคำพูดของลู่หานเลยหากมองภาพลักษณ์ภายนอกของสึนะ เพราะเธอดูแปลกเกินกว่าคนที่จะเป็นหมอได้ แปลกตั้งแต่การแต่งตัวไปจนถึงการพูดจาและที่แปลกที่สุดก็คือสายตาที่เธอใช้มองชานยอล...

     

    -------------------------------------------------------------

     

    หลายวันผ่านไป เรื่องราวของสึนะยังคงอยู่ในหัวชานยอลตลอดเวลา สายตาที่เธอมองชานยอลราวกับกำลังหึงใครสักคน ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ชานยอลไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาดึกและเงียบมาก แต่สิ่งที่ดังอยู่ในความคิดของร่างโปร่งนั้นก็ทำให้จิตใจของเขาไม่สามารถสงบได้เสียที

     

    เมื่อไม่มีสมาธิที่จะอ่านหนังสือต่อไปได้แล้ว ชานยอลจึงออกจากห้องไปหาที่ที่จะทำให้จิตใจสงบได้กว่านี้ อากาศที่กำลังเย็นสบายอาจจะช่วยให้เขาหยุดคิดบางเรื่องไปได้บ้าง...

     

    ร่างโปร่งเดินออกมายังลานซ้อมดาบหลังบ้านที่ตอนนี้มีเพียงความเงียบสงบ ชานยอลหลับตาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลืมตาและยกดาบที่ถือติดมือมาด้วยขึ้นมาตั้งฉากอยู่ตรงหน้า แม้ไม่รู้ว่าวิธีการถือดาบมันจะถูกต้องหรือไม่ แต่เขาพยายามรวบรวมสมาธิและนึกถึงสิ่งที่ลู่หานเคยสอนไว้

     

    ความเงียบสงบในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนทำให้เสียงคมดาบที่ฟาดฟันผ่านอากาศดังชัดเจน แต่ชานยอลก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีดาบอีกเล่มมาขว้างเอาไว้

     

    คริส...

     

    ฟันมั่วซั่วแบบนั้นถ้าลู่หานเห็นคุณโดนดุแน่ๆคริสบอกพร้อมส่งรอยยิ้มบางทรงเสน่ห์ให้กับร่างโปร่ง

     

    ก็..ผมไม่รู้วิธีใช้เจ้าดาบนี่นี่นา อย่างมากก็แค่เคยเอาไม้บรรทัดมาฟันเล่นแทนดาบชานยอลตอบอีกคนกลับไปด้วยความรู้สึกอายที่ตัวเองเผลอปล่อยไก่ให้คนตัวสูงเห็น

     

    งั้นผมสอนให้เอาไหม?

     

    คำถามของคริสทำให้ชานยอลนึกย้อนไปถึงคำแนะนำของสึนะ ‘ซ้อมดาบหลังเที่ยงคืนอาจจะทำให้มีสมาธิมากขึ้นคำแนะนำนี้ทำให้ชานยอลชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าจะทำให้เขามีสมาธิจริงหรือเปล่า

     

    คริสค่อยอธิบายวิธีการใช้ดาบให้ชานยอลฟังอย่างใจเย็นต่างจากลู่หานที่สอนทุกคอร์สอย่างฮาร์ดคอร์ ชานยอลพยายามฟังครูคนใหม่สอนอย่างตั้งใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางอย่างที่ทำให้เขาเสียสมาธิอยู่ดี นั่นคือคือเสียงหัวใจของเขานั่นเอง...

     

    ผมว่าผมอธิบายไปเยอะแล้ว เราลองภาคปฏิบัติกันหน่อยไหม?

     

    ไม่ดีมั้ง เกิดผมพลาดทำคุณเจ็บขึ้นมามันจะแย่เอานะร่างโปร่งบอกด้วยน้ำเสียงกังวล

     

    ถ้ามัวแต่กลัว เมื่อไหร่จะเป็น?คริสเลิกคิ้วถามสั้นๆด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

     

    ร่างโปร่งมองคริสอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้เล็กน้อยเป็นการตกลงและไม่ช้าก็มีเสียงดาบกระทับกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     

    ตั้งสติให้ดีๆ อย่าละสายตาจากฝ่ายตรงข้ามและทุกครั้งที่จับดาบและตัดสินใจจะสู้กับใครสักคนให้ตัดความสงสารทิ้งไปซะ เพราะไม่เช่นนั้นมันจะย้อนกลับมาทำลายสมาธิคุณ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังฝึกซ้อมดาบกันจริงๆ คริสก็อธิบายให้อีกคนฟังไปด้วย

     

    เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าคนทั้งสองจะหยุดการซ้อมดาบกันเลย ทางด้านชานยอลถึงจะเหนื่อยมากแค่ไหนแต่ก็ยังพยายามจะเอาชนะคริสให้ได้และเมื่อคมดาบที่ถูกบังคับโดยชานยอลพุ่งไปในทิศทางที่เขาจะสามารถเอาชนะคริสได้ร่างโปร่งกระตุกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะหยุดคมดาบนั้นอย่างกระทันหัน

     

    เก่งมาก แต่หากวันหนึ่งคุณต้องสู้กับศัตรู ให้คุณรีบฆ่าเขาทันทีโดยไม่ต้องลังเล เหมือนที่ผม....รักคุณทันทีตั้งแต่แรกเจอ... คำพูดที่ออกมาจากปากของชายหนุ่มร่างสูงแทบจะทำให้ดาบหลุดออกจากมือของชานยอลในทันที

     

    รักอย่างนั้นหรอ?

     

    ชานยอลได้แต่ถามตัวเองในใจแล้วแอบยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวแล้วยกปลายดาบขึ้นจ่อที่ตำแหน่งหัวใจของร่างโปร่งก่อนพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงของผู้ชนะ

     

    แล้วมีใครบอกหรือเปล่าว่าอย่าไว้ใจศัตรู มัวแต่มาบอกรักตอนสู้กันแบบนี้มันเสี่ยงตายมากเลยรู้ไหมชานยอลบอกก่อนจะรีบเดินออกมาจากลานซ้อมดาบอย่างรวดเร็วเพราะความเขินอาย

     

    ร่างโปร่งกลับมาถึงห้องของตัวเองอย่างรวดเร็วและสิ่งที่เขาต้องทำเป็นอับแรกก็ให้ตัวเองเลิกยิ้มเสียที เพราะตั้งแต่เดินกลับมาจากลานซ้อมดาบหลังบ้านเขาก็ยิ้มมาอย่างนี้ตลอดทาง

     

    ไหนบอกว่าซ้อมดาบหลังเที่ยงคืนแล้วจะมีสมาธินะ รู้สึกว่าสติแตกมากกว่าเดิมอีก!” ร่างโปร่งว่าก่อนจะซุกหน้าลงบนกองหนังสือที่อยู่บนโต๊ะ

     

    ในขณะที่ชานยอลกำลังทะเลาะอยู่กับหัวใจของตัวเอง ทางด้านคริสก็ไม่แพ้กันเลย ร่างสูงได้แต่นั่งยิ้มอย่างเหม่อลอยราวกับกำลังมองดูหัวใจของตัวเองที่กำลังล่องลอยไปหาใครอีกคน จนคนที่อยู่ด้วยกันต้องทักขึ้นมาด้วยความสงสัย

     

    เป็นอะไรเนี้ย เห็นยิ้มคนเดียวมาตั้งนานแล้ว รีบนอนเถอะจะเช้าแล้ว

     

    แหมมม ทำไมวันนี้คนสวยดุจังเลยคริสพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

     

    คนสวย!! บ้า!! นายบ้าไปแล้วหรอเฮ๊ย! นี่ฉันเอาเลือดใครมาให้นายเนี้ยรับเลือดมากไปจนเพี้ยนไปแล้วแน่ๆสึนะว่าอย่างไม่เชื่อหูของตัวเองพลางแกล้งเช็ดถุงเลือดที่ใช้เปลี่ยนถ่ายให้กับคริส

     

    ฮ่าๆๆ ผมไม่ได้บ้า แค่อารมณ์ดี

     

    อารมณ์ดี? เพราะ?หญิงสาวเลิกคิ้วถาม

     

    เอาน่า เอาเป็นว่าคืนนี้ผมมีความสุขมากก็แล้วกัน สึนะจังไปพักผ่อนเถอะจะเช้าอยู่แล้วร่างสูงบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้กับหญิงสาว

     

    คริส..ฉันไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้ของนายมานานมากแล้วรู้ไหมสึนะบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ

     

    หลังจากนี้สึนะจังคงจะได้กลับมาเห็นมันบ่อยแล้วล่ะ ฮ่าๆๆร่างสูงบอกพร้อมหัวเราะร่าออกมา

     

    ย่ะ! เห็นนายมีความสุขฉันก็โอเค แต่!! อย่าดื้อให้มากนักล่ะ ถ้ารู้ว่าแอบไปตากแดดอีกละก็นะ!! แม่จะใช้เอาเข็มฉีดยามาแทงให้ตายเลยคอยดู!!” สึนะบอกพร้อมกับหยิบเข็มฉีดยาที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาขู่อีกคน

     

    ครับๆ ผมจะพยายามโอเคไหม?

     

    เออ!”

     

    ตีสี่ละ สึนะจังกลับไปพักผ่อนเถอะ ผมเริ่มง่วงแล้วคริสหันไปมองนาฬิกาก่อนจะพูดขึ้นกับสึนะ

     

    ไม่ต้องมาไล่ฉัน นี่ง่วงจนเลิกง่วงแล้ว เดี๋ยวกลับไปก็อาบน้ำเข้าโรงบาลต่อได้เลยนะเนี้ยร่างเล็กเก็บอุปกรณ์การแพทย์ของตัวเองพลางบ่นไปด้วย

     

    ก็ผมบอกแล้วว่าเวลาที่เหนื่อยก็ให้หาคนอื่นมาทำแทน ให้สอนลู่หานเอาไว้ก็ไม่ยอมสอน

     

    ฉันไม่ไว้ใจมัน! คนอะไรแรงเยอะชะมัด ไม่รู้ว่าแรงคนหรือแรงควาย ให้มาช่วยใส่เข็มเปลี่ยนถ่ายเลือดให้นายมีหวังมันจิ้มทะลุแขนนายแน่ๆ!” หญิงสาวทำหน้าขยาดทันทีเมื่อคริสเอ่ยถึงลู่หาน

     

    โถ ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง ฮ่าๆๆๆ

     

    ความจริงก็อยากหาคนมาช่วยนะ จะให้เซฮุนมาช่วยก็ได้อยู่ แต่มันยังเรียนอยู่ให้มาตอนตีสามตีสี่อย่างนี้ก็ไม่ไหวเพราะบ้านเราก็ไม่ได้ใกล้กันเลย หรือให้....นักเรียนแลกเปลี่ยนคนนั้นดี

     

    หือ!” ร่างสูงหันควับทันทีที่สึนะพูดคำว่านักเรียนแลกเปลี่ยน

     

    อะไร? สนใจหรอ?

     

    เปล่าร่างสูงรีบหลบตาทันทีที่หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาจับผิด

     

    เอ๊ะ! เดี๋ยวนะๆ นี่อย่าบอกนะว่า.......

     

    อะไร? อย่าบอกอะไร? ไม่มีอะไรสักหน่อยคริสบอกด้วยท่าทีที่เคอะเขิน จนไม่รู้ว่าจะเอามือไม้ของตัวเองไปวางไว้ตรงไหนดี

     

    ตายแล้วตายๆๆๆ มิน่าล่ะแหมมมมม อย่างนี้นี่เองมีพิรุธเพราะมีรักสินะพ่อคุณสึนะพูดด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

     

    ไปๆ กลับไปได้แล้ว ผมง่วงแล้ว จะนอนแล้ว

     

    แน่ะๆ เดี๋ยวนี้มีไล่ ก็ด๊ายยย ฉันไปก็ด๊ายยยยสึนะบอกก่อนจะหยิบกระเป๋าอุปกรณ์ทางการแพทย์ของเธอ ขึ้นไปสะพายไว้บนบ่า

     

    ขับรถดีๆนะร่างสูงบอกกับคนที่กำลังจะออกจากห้องไป

     

    อือ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลา ไม่ก็เรียกน้องคนนั้นเอาก็แล้วกัน อ๊ายยยย

     

    สึนะจัง!!”

     

    สึนะรีบออกมาจากห้องนอนของคริสพร้อมเสียงหัวเราะ แต่ก็จะออกจากบ้านเธอก็แวะเข้าไปยังอีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากห้องของคริสสักเท่าไหร่ มือเรียวหยิบกุญแจขึ้นมาไขแม่กุญแจก่อนจะเลื่อนบานประตูแล้วเข้าไปยังห้องนั้น

     

    ขวดแก้วใสๆที่ถูกบรรจุของเหลวสีแดงไว้ภายในวางเรียงรายกันอยู่บนชั้นที่ถูกเตรียมไว้วางขวดพวกนี้โดยเฉพาะและสิ่งที่สึนะเห็นก็คือมีขวดเปล่าวางอยู่จำนวนไม่น้อย ซึ่งมันหมายความว่าของเหลวในขวดนั้นถูกใช้ไปเป็นจำนวนมาก

     

    โถคริส..

     

    เลือดจำนวนไม่น้อยที่ถูกเก็บไว้ในห้องนี้ก็เพื่อให้คริสนำมันมาใช้ในยามฉุกเฉิน นั่นก็คือเวลาที่คริสโดยแดดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่จำนวนขวดเปล่าที่สึนะเห็นมันมีมากกว่าที่จะเรียกได้ว่าหยิบใช้ในยามฉุกเฉิน เพราะดูแล้วมันเกิดจากการตั้งใจมากกว่า ซึ่งหญิงสาวรู้ดีว่าคริสพยายามที่จะเอาชนะกับโรคที่เป็นมาโดยตลอด เขาทดลองสัมผัสแดดมาแล้วหลายครั้ง แต่มันก็ไม่เคยสำเร็จและมันทำให้เขาต้องจำใจดื่มเลือดสดๆพวกนี้เข้าไปในเวลาที่เขาได้สัมผัสแดด

     

    หลายครั้งที่คริสเกิดอาการคลุ้มคลั้งเพราะโรคนี้ สึนะเองก็เริ่มเหนื่อยจากการหาวิธีรักษาโรคประหลาดนี้แล้วเหมือนกัน แต่เธอก็ยังพยายามหาทางรักษาต่อไป เพราะคริสคือคนที่เธอรู้สึกผูกพันมาตั้งแต่เด็ก หากเธอปล่อยให้เขาเป็นอะไรไปมันอาจจะทำให้เธอเสียใจไปตลอดชีวิตและตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะค้นพบวิธีรักษาคริสในอีกช่องทางหนึ่งและสิ่งนั้นก็คือกำลังใจ กำลังใจที่คริสไม่เคยมี แต่ตอนนี้กำลังใจเหล่านั้นสามารถหาได้ที่ ชานยอล


    © themy  butter  
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×