คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : Black Candy : 28
Chapter :28
แสงของดวงตะวันยามใกล้จะตกดินส่องสะท้อนลงไปบนท้องทะเลกว้างจนผืนน้ำกลายเป็นสีทองอร่าม เสียงของคลื่นที่ซัดเข้ามากระทบกับหาดทรายสีขาวทำให้จิตใจของผู้ที่ได้ฟังรู้สึกผ่อนคลายได้มากขึ้นตาคมทอดสายตาไปยังทะเลกว้าง ร่างสูงเดินย่ำไปบนหาดทรายด้วยเท้าเปล่าอย่างเชื่องช้าก่อนจะหยุดลง...
สถานที่เดิม ที่ที่เขาเคยเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข ที่ที่เขาเคยเห็นดวงตาที่แหงนมองดวงดาวยามค่ำคืน แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น แต่ภาพความทรงจำก็ยังชัดเจนอยู่เสมอ
ร่างสูงเดินเล่นไปเรื่อยๆ แม้ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงชื่นชมความงามของทะเลยามค่ำคืนต่อไป แต่ยิ่งชื่นชมมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้คิดถึงอีกคนมากเท่านั้น
ถ้าตอนนี้มีเธอมาด้วยก็คงจะดี...
ตั้งแต่มีชานยอลเข้ามาในชีวิต คริสแทบจะไม่ได้มองผู้หญิงคนไหนเลย เพราะเขาต้องเอาเวลาที่มีทั้งหมดไปแก้ไขปัญหาและอุปสรรค์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งหาวิธีที่จะรอดพ้นจากคำสาปของลูกอมถึงแม้ว่าหนทางที่จะรอดพ้นนั้นมันจะริบหรี่ก็ตาม
คริสหลับตาลงช้าๆ ปล่อยให้ลมหนาวพัดพาความคิดถึงไปให้ไกลและความว่าความรู้สึกนั้นจะไปถึงอีกคน มือหน้ายกขึ้นมาลูบต้นแขนตัวเองเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าอากาศเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีสัมผัสอุ่นๆ มาโอบกอดเขาเอาไว้
“เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
เสียงที่คุ้นเคยทำให้คริสรีบหมุนตัวกลับไปมองเจ้าของเสียงอย่างรวดเร็วและราวกับว่าสายลมทำให้คำอ้อนวอนของเขาเป็นจริงขึ้นมาได้ หญิงสาวร่างโปร่งส่งยิ้มให้กับคริสก่อนจะโผเข้ากอดเขาอีกครั้ง
“มาได้ไง?” คริสถามคนในอ้อมกอด
“ขับรถมา”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่ที่นี่”
“ไม่บอก~” ชานยอลบอกพร้อมกับปล่อยแขนออกจากตัวของอีกคน
“พวกเพื่อนๆ บอกล่ะสิ”
“ใช่ ไอ้เรื่องที่พี่หนีออกมาจากงานแต่งงานอะ พวกนั้นมันบอกฉันเอง แต่เรื่องที่พี่มาที่นี่อะ ไม่ได้มีใครบอกฉันหรอก”
“เป็นสปายหรอถึงได้ตามหากันเจอได้ง่ายๆ อย่างนี้เนี้ย” ร่างสูงถามก่อนจะเปลี่ยนมากอดคอของอีกคนเอาไว้แทน
“คนเก่งก็งี้แหละ ฮ่าๆ”
ชานยอลหัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมกับเดินไปช้าๆ
“ได้ข่าวว่าไม่สบายหรอ?”
คริสถามขึ้นและคนข้างๆก็ได้แต่ยิ้มตอบกลับไป
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก.....แค่คิดถึง”ร่างโปร่งว่าพลางซบลงบนไหล่กว้าง
“มันจบแล้ว...หลังจากนี้ก็จะเหลือแค่เราแล้ว”
คริสบอกพร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ทั้งสองเดินบนชายหาดกว้างนั้นไปเรื่อยๆ แม้ว่าฟ้าจะมืดสนิทแล้วก็ตาม
-----------------------------------------------------------------------
แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบกับใบหน้าคมที่กำลังหลับพร้อมกับกอดร่างของคนที่นอนข้างๆ ไปด้วย ใบหน้าของหญิงสาวยามหลับไหล่ดูมีเสน่ห์ไม่แพ้ยามตื่น มันทำให้เขาต้องยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ แต่เสน่ห์ที่มีมันไม่มากพอที่จะมากลบความทรุดโทรมที่มาเยือนบนใบหน้าและทุกครั้งที่คริสได้กอดชานยอล เขาก็รู้สึกได้ว่าอีกคนผอมลงจนน่าตกใจ ซึ่งสาเหตุคงจะมาจากการที่เขาต้องแต่งงานก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน...
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหลับหรอ?” จู่ๆ ชานยอลก็พูดขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมามองร่างสูง
“อ้าว ตื่นแล้วหรอ พี่ปลุกเราหรือเปล่าเนี้ย”
คริสแอบตกใจเล็กน้อยเพราะคิดว่าตัวเองคือสาเหตุที่ทำให้อีกคนตื่น
“เปล่า ฉันตื่นตั้งนานแล้ว แต่ขี้เกียจลุกขึ้นแค่นั้นเอง” ชานยอลบอกก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
“แล้วนี่จะหลับต่ออีกหรอ?”
“ก็แล้วจะให้ลุกขึ้นไปทำอะไรล่ะ?” ร่างโปร่งลืมตาขึ้นมาถามคนที่นอนอยู่ข้างๆ อีกครั้ง
“อืม....ไปไหนดี อ้อ นี่ดีกว่า ไปเล่นน้ำทะเลกันไหม”
คริสเสนอความคิดเห็นออกมาพร้อมกับหันไปยิ้มให้กับชานยอล
“งั้นรีบเลย!” ชานยอลว่าพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงไปอย่างรวดเร็ว
แต่ร่างของชานยอลก็ต้องทรุดลงไปกองอยู่กับพื้นและเมื่อคริสเห็นว่าอีกคนล้มฟุบไปเขาก็รีบวิ่งเข้าไปคว้าร่างชานยอลเอาไว้ทันที
“ยอลลี่เป็นอะไร!?” คริสถามพร้อมกลับเขย่าตัวร่างโปร่งเบาๆ
“ไม่เป็นไรๆ แค่หน้ามืด” ชานยอลบอกก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองอีกครั้ง
“ให้พี่ช่วยไหม?” คริสถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้องๆ พี่ไปเตรียมตัวเถอะ เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนชุดก่อน อยากเล่นน้ำทะเลมานานแล้ว”
ร่างโปร่งบอกพร้อมกับยิ้มให้กับอีกคนเป็นเชิงบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรมาก
“โอเคงั้นเดี๋ยวเราไปเจอกันที่ชายหาดเลยแล้วกันนะครับ”คริสบอกพร้อมกับยิ้มให้อีกคนอย่างอบอุ่นก่อนจะไปทำธุระของตัวเอง
ร่างโปร่งสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าห้องน้ำไป ร่างกายของชานยอลอ่อนแอลงตั้งแต่วันที่เขาได้รู้ว่าคริสจะต้องแต่งงาน แต่วันนี้เขาได้แต่บอกกับตัวเองว่าต้องกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เพราะตอนนี้
คริสได้กลับมาอยู่เคียงข้างชานยอลเหมือนเดิมแล้ว...
ร่างโปร่งเดินไปบนชายหาดสีขาวสะอาด ภาพความทรงจำเมื่อครั้งที่เขามาที่นี่เป็นครั้งแรกกลับมาอยู่ในหัวอีกครั้ง เมื่อคิดย้อนถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในวันวาน มันก็ทำให้ชานยอลอดกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ได้
หญิงสาวเดินเลียบเคียงไปกับเกลียวคลื่นลูกเล็กๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อแผ่นหลังบางรู้สึกได้ถึงสัมผัสจากอ้อมกอดของใครอีกคน
“เหมือนมาฮันนีมูนกันเลยว่าไหม” ร่างสูงบอกก่อนจะขโมยหอมแก้มอีกคนอย่างรวดเร็ว
“ฮันนีมูนบ้าบออะไรล่ะ ฉันยังไม่ได้แต่งงานซะหน่อย”ชานยอลว่าก่อนจะหันกลับไปผลักร่างสูงให้พ้นตัว
“ซ้อมไว้ก่อนไง” คริสบอกพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับอีกคน
“หึ! ลงน้ำไปซะเถอะไอ้ผีทะเล!” ร่างโปร่งว่าก่อนจะผลักอีกคนลงน้ำไป
นั่งสองฉุดกระชากลากกันลงน้ำกันไปอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพราะว่าตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเช้า ทั้งหาดจึงไม่ค่อยมีผู้คนสักเท่าไหร่ คริสและชานยอลจึงวิ่งเล่นอยู่บนชายหาดกันอย่างสนุกสนาน
“ชานยอล”คริสเรียกอีกคนขึ้นมาในขณะที่ทั้งสองกำลังกอดกันอยู่ในน้ำ
“อะไร! เรียกซะเต็มยศเชียว!”
“แต่งงานกันไหม...”
เมื่อได้ยินคำพูดจากปากของอีกคนชานยอลถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ คำพูดมากมายผุดขึ้นมาในหัวจนไม่รู้จะเลือกอันไหนมาตอบอีกคน ความสบสนจึงทำให้ร่างโปร่งเผลอขมวดคิ้วไปโดยไม่รู้ตัว
“ถ้ายังไม่พร้อม...ไว้ค่อยตอบพี่ทีหลังก็ได้”คริสบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าไปเล็กน้อย
“เอ่อ....ฉะ..ฉันยังไม่พร้อม แต่...”
ชานยอลเว้นช่วงคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะคว้าคอร่างสูงให้ดำลงไปในน้ำพร้อมกับอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าคริสจะไม่ได้ลืมตา แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสบนริมฝีปาก ทั้งคู่ดื่มดำไปกับความหวานภายใต้น้ำทะเลที่ขึ้นชื่อว่าเค็ม แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ต่อคนทั้งสองเลย
เวลาผ่านไปเกือบนาที ทั้งสองกลับขึ้นมาสู่ผิวน้ำอีกครั้ง ร่างโปร่งยิ้มให้กับคริสอย่างเขินอายก่อนจะเข้าไปประชิดตัวร่างสูงแล้วกระซิบบอกอะไรบางอย่างไปเบาๆ
“จองไว้ก่อน ไว้พร้อมใส่ชุดเจ้าสาวแล้วจะบอกอีกที”
คำตอบของชานยอลทำให้คริสยิ้มกว้างออกมา เขาดึงตัวชานยอลเข้าไปกอดเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่ดีใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้มันจะยังไม่ใช่วันนี้ แต่เขาเชื่อว่ามันต้องมีวันนั้นอย่างแน่นอน
วันนี้ทั้งสองคนจะได้ครองรักกันไปชั่วนิรันดร์...
หลังจากที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตกันอยู่ที่รีสอร์ทริมทะเลมานับสัปดาห์ วันนี้จึงถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องเดินทางกลับไปรับมือกับความเป็นจริง
“แน่ใจนะว่าจะไม่เป็นไร?” ชานยอลถามขึ้นในระหว่างที่กำลังจัดปกเสื้อให้กับร่างสูง
“เชื่อพี่เถอะ ครั้งนี้มันจบแล้วแน่นอน...ต่อไปนี้จะมีแค่เราจริงๆ”
ร่างสูงยิ้มให้กับคนตรงหน้าก่อนจะจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆ
ทั้งคู่ออกเดินทางกลับไปด้วยอารมณ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข คริสขับรถและฟังเรื่องที่อีกคนเล่าไปด้วย ร่างโปร่งดูมีความสุขและหน้าตาดูสดชื่นขึ้นมากกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าอาการป่วยของชานยอลจะดีขึ้นไม่มากก็ตาม
เนื่องจากวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ถือว่าอากาศดีพอสมควร คริสจึงขับรถไปแบบเปิดประทุนและสิ่งที่เขาได้เห็นอีกครั้งก็คือรอยยิ้มของคนที่เขารัก หญิงสาวดูมีความสุขกับบรรยากาศตลอดระยะทางที่รถแล่นผ่าน ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนรับลมที่โต้มาโดยไม่กลัวว่าผมมันจะยุ่งแม้แต่น้อย
และเพราะถูกความสุขบดบังเอาไว้ ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้สังเกตว่า...ความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่กำลังตามทั้งคู่มาติดๆ
“สองคนนี้แหละลูกพี่” ชายคนที่หนึ่งที่กำลังขับรถหันไปบอกกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“หึ! ดี มีโอกาสเมื่อไหร่จัดการมันได้เลย.....จัดการผู้หญิงนั่นซะ!”
---------------------------------------------------------------
“ยอลลี่!!”
อยู่ๆ คริสตัลที่กำลังหลับกลางวันอยู่ที่บ้านของฮยอนอาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา ทำให้ฮยอนอาและฮยอนซึงหันมาดูเพื่อนสาวพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ฝันว่าโดนมันไล่ตีเอาล่ะสิถึงได้ละเมอเรียกชื่อมันซะเสียงดังขนาดนี้”
ฮยอนอาว่าก่อนจะหันกลับไปแย่งขนมกับฮยอนซึงกันต่อ
“แก...เย็นนี้ไปมันกันนะ” คริสตัลบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล
“โอ๊ยยยย มันกลับมาหรือยังเหอะ! หายไปเป็นอาทิตย์ละ ป่านนี้คงลูกเต็มบ้านหลานเต็มเกาะแล้วมั้งน่ะ”
ฮยอนอาว่าก่อนจะหยิบขนมใส่ปากโดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าที่ไม่สบายใจของคริสตัล
“นี่! ไปว่าเขา ว่าแต่เราเถอะ สนใจอยากจะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองบ้างไหมจ๊ะ”
ฮยอนซึงบอกก่อนจะเชยคางของแฟนสาวขึ้นมา
“หึ...อีกสามสิบปีข้างหน้าค่อยพูดประโยคนี้อีกทีนะพ่อหนุ่ม!!!” ร่างบางบอกพร้อมกับปัดมือของฮยอนซึงออกไปอย่างไม่ใยดี
“อย่ามาเสียใจที่หลังก็แล้วกันนะน้องสาว~” ร่างสูงบอกก่อนจะล็อคคอของหญิงสาวเอาไว้
“ไปหายอลลี่กัน!! นะ..ฉันขอร้อง!”
คริสตัลจับข้อมือของหนุ่มสาวทั้งสองพร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังจนฮยอนอาเริ่มเอะใจ
“แกเป็นอะไรหรือเปล่าเนี้ย มีอะไรหรือเปล่า?”
“ฉันแค่รู้สึกใจมันหวิวๆ ฉันคิดถึงมันจริงๆ เย็นนี้ไปหามันนะแก มันต้องกลับมาแล้วแน่ๆ แกเชื่อฉันสิ!”
คริสตัลบอกด้วยน้ำเสียงวิงวอนจนฮยอนอาต้องรีบพยักหน้าตอบรับเพื่อนไปทันที
“เออๆๆๆ ไปๆ เดี๋ยวเย็นนี้ไปหามันกัน โอเคไหม?”
“โอเค เย็นนี้เลย”
คริสตัลถอนหลายใจออกมาเมื่อเพื่อนสาวตอบตกลง
ความจริงคริสตัลไม่ได้วิตกกังวลไปเอง...แต่เป็นเพราะว่าเธอเห็น..เห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเอง สิ่งเดียวที่จะช่วยเพื่อนของเธอได้คือต้องถึงตัวชานยอลให้เร็วที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป....
------------------------------------------------------------------
“ขับรถดีๆ นะครับ”
“บอกตัวเองเหอะ โดนแม่ฆ่าขึ้นมานี่ฉันช่วยอะไรไม่ได้นะ”
ชานยอลเอ่ยแซวร่างสูงที่เพิ่งลงจากรถไป
“ถ้าพี่โดนฆ่าแล้วเราจะอยู่กับใครล่ะ” คริสถามอีกคนกลับไป
“ก็คงจะหาผู้ชายคนใหม่อะ” ร่างโปร่งบอกพร้อมกับทำหน้ากวนๆใส่คริส
“ฝันไปเถอะ! กลับไปได้แล้ว ยิ่งดึกเดี๋ยวจะยิ่งอันตราย แล้วพรุ่งนี้เช้าพี่จะเข้าไปหา”
คริสบอกก่อนจะดันร่างโปร่งให้เข้าไปนั่งประจำที่คนขับ
“โอเคๆ กลับแล้วๆ ...โชคดีแม่ไม่ตีนะพี่คริสฮ่าๆๆๆ”
ร่างโปร่งบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะปิดประตูรถ
.....ซึ่งคริสไม่รู้เลยว่ามันจะเป็นความร่าเริงครั้งสุดท้ายของชานยอล
ชานยอลขับรถกลับมาถึงหอพักของตัวเองอย่างปลอดภัยและเนื่องจากว่าตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ลานจอรถของหอพักโล่งไปถนัดตา แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ยังมองไม่เห็นภัยที่กำลังมาเยือนถึงที่...
“เฮ้ย!!! ปล่อยฉันนะ!”
ร่างโปร่งร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อถูกล็อคตัวไว้จากด้านหลัง ชานยอลพยายามดิ้นอย่างสุดกำลัง แต่อีกฝ่ายกลับมีรูปร่างที่ดูแข็งแรงกว่าทำให้หญิงสาวไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
“แกเป็นใครมาจับฉันทำไม!!” ร่างโปร่งตะคอกถามออกไป
“หึ! ฉันเป็นใครไม่สำคัญ แต่เธอเคยไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจเอาไว้บ้างหรือเปล่าล่ะสาวน้อย”
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดอย่างนั้นชานยอลจึงหยุดนิ่งแล้วครุ่นคิดว่าเคยไปทำอะไรใครไว้บ้างหรือเปล่า แต่เพียงชั่ววูบคำตอบมันก็เด่นชัดขึ้นมาในความคิดแรกทันที
ยูอี....
“ฉันไม่เคยทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แกจับผิดคนหรือเปล่า” ร่างโปร่งพยายามตั้งสติแล้วคุยกับชายร่างโตด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ไม่ผิดตัวอย่างแน่นอน”
เสียงกระซิบที่ดังขึ้นข้างๆหูทำให้ชานยอลเบี่ยงตัวหนีเพราะความรังเกียจ
“แกมีปัญหาอะไรกับฉันก็มาเคลียร์กันดีๆ อย่ามาลอบกัดฉันแบบนี้!”
ร่างโปร่งบอกอย่างใจเย็น
“ถ้าจะคุยกันดีๆ เห็นทีจะช้าไปแล้วล่ะสาวน้อย เพราะเบื้องบนสั่งมาว่า....ให้จัดหนัก!”
ชายร่างถึกอีกคนโผล่มาจากหลังเสาพร้อมกับมุ่งตรงมายังร่างโปร่ง
“ถ้าอย่างนั้นฝากไปบอกเบื้องบนของนายด้วยก็แล้วกันว่า...ยาก!!!”
“โอ๊ย!!!”
ถึงแม้ว่าร่างโปร่งจะถูกล็อคตัวเองไว้จากด้านหลัง แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ที่จะยกสองขาขึ้นไปเตะคนตรงหน้าจนกระเด็น
เมื่อชายคนแรกเห็นว่าหญิงสาวเริ่มการต่อสู้ขึ้นมาเขาจึงเหวี่ยงร่างของชานยอลไปอีกทาง ทำให้ร่างโปร่งได้เป็นอิสระอีกครั้ง สองชายฉกรรจ์กับหนึ่งสาวร่างโปร่งที่ไม่มีอาวุธเลย ชานยอลพยายามเอาตัวรอดด้วยศิลปะป้องกันตัวที่เคยร่ำเรียนมา
แต่ผู้หญิงอย่างเขา...จะไปสู้ผู้ชายร่างแกร่งทั้งสองคนได้อย่างไรกัน...
--------------------------------------------------------------------------
“ฮยอนซึงขับเร็วๆหน่อยได้ไหม!!!”
“นี่เหยียบสุดตีนแล้วครับคุณครับ จะรีบอะไรขนาดนั้น ธ่อ!!”
เสียงฮยอนซึงและคริสตัลดังสนั่นไปตลอดทางจนฮยอนอาที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับถึงกับกุมขมับด้วยความปวดหัว
“แกมมีอะไรแกบอกฉันซิคริสตัล ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะรีบไปหามันขนาดนี้” ฮยอนอาที่นั่งเงียบมานานถามขึ้น
“กะ...ก็ไม่มีอะไร มีเรื่องจะคุยกับมัน คิดถึงมันด้วยไม่ได้เจอกันมาตั้งอาทิตย์นึง”
คริสตัลตะกุกตะกักกลับไปฮยอนอาได้แต่มองหน้าเพื่อนที่นั่งอยู่เบาะหลังพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันหลับไปมองถนนอย่างเดิม...
รถของฮยอนซึงแล่นเข้าไปในลานจอดรถของหอพักที่ชานยอลพักอยู่อย่างรวดเร็วและนั่นก็ทำให้พวกเขาทั้งสามคนได้เห็นภาพที่ไม่ควรจะเห็น...
ชานยอลถูกชายฉกรรจ์ทั้งสองคนซ้อมเสียจนไม่มีแรงจะยืน ร่างที่ฟุบอยู่บนกระโปรงรถถูกกระชากผมขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำมือของชายที่ไร้จิตใจ ใบหน้าเนียนเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด สภาพของร่างโปร่งในตอนนี้ทำให้เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย แค่อยากจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือยังทำไม่ได้เลย
“ยอลลี่!!!! ฮยอนซึงจอด!!”
ฮยอนอาสั่งแฟนหนุ่มก่อนจะพุ่งตัวออกไปจากตัวรถอย่างรวดเร็ว แม้ว่ารถยังจอดไม่สนิทก็ตาม
“ฮยอนอาอย่าเข้าไป!” ฮยอนซึงตะโกนตามหลังไปก่อนจะรีบลงจากรถแล้ววิ่งตามฮยอนอาไปอีกคน
“ฮึก...ชะ..ชาน..ชานยอล ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”
คริสตัลร้องไห้โฮออกมาเมื่อเห็นว่าตัวเองมาสายเกินไป
สาย....จนไม่มีโอกาสจะแก้ตัว...
“มึง!!”
เพล้ง!
เสียงของวัตถุที่ทำจากแก้วดังขึ้นเมื่อมันถูกกระทบกับของแข็ง นั่นก็คือศีรษะของหนึ่งในสองคนที่กำลังทำร้ายชานยอลและคนที่ทำให้มันแตกก็คือฮยอนอา
ร่างบางเข้าไปช่วยเพื่อนอย่างลืมกลัวและลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเลือดตัวเองไหลออกมาเพราะฝีมือของหญิงสาวร่างบาง พวกมันจึงทิ้งร่างชานยอลไว้บนพื้นลานจอดรถก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นฮยอนอาแทน
“เก่งนักใช่ไหม! ได้!! เดี๋ยวกูจัดให้!!!” ชายร่างถึกคนนั้นว่าก่อนจะง้างมือขึ้นหมายจะตบร่างบาง
ผั๊วะ!!!
ฮยอนซึงต่อยชายคนนั้นเข้าไปเต็มๆ และเมื่อชายคนที่สองเห็นว่าเพื่อนของตัวเองกำลังโดนทำร้ายก็หมายจะเข้าไปช่วยเพื่อนทำร้ายฮยอนซึง แต่ก็ช้ากว่าคริสตัล หญิงสาวคว้าแขนของคนร่างโตเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวก่อนจะบิดแขนนั้นให้ผิดรูป ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะออกแรงเพียงเล็กน้อย แต่นั้นก็ทำให้ชายฉกรรจ์ร่างโตถึงกับทรุดเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัส
การต่อสู้ผ่านไปไม่นานนักสามหนุ่มสาวก็สามารถรวบตัวผู้ร้ายสองคนไว้ได้สำเร็จ ฮยอนซึงรีบจัดการส่งสองคนนั้นให้กับตำรวจแล้วตัวเองก็ตามไปกับตำรวจด้วย สองสาวที่เหลือจึงรีบนำเพื่อนร่างโปร่งที่อาการสาหัสไปส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
----------------------------------------------------------------
“ฮยอนอา!! คริสตัล!!”
เสียงแบคฮยอนและซอลลี่เรียกสองสาวที่นั่งรออยู่หน้าห้องผู้ป่วยฉุกเฉินและเมื่อฮยอนอาเห็นว่าเพื่อนทั้งสองวิ่งเข้ามาหาอย่างร้อนรนหญิงสาวจึงรีบลุกขึ้นไปกอดซอลลี่เอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“คริสตัล แกโอเคนะ?” แบคฮยอนถามเพื่อนสาวที่เอาแต่นั่งก้มหน้านิ่ง
“ฉันผิดเอง..แบคฮยอน ฉันผิดเอง ฉันมาช้าเกินไป เพราะฉันแบคฮยอน เพราะฉัน”
คริสตัลบอกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะปล่อยน้ำตาให้ออกมาไหลอาบแก้มเนียน
“ไอ้ยอลมันไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อฉันสิมันแกร่งจะตายไป แกอย่าร้องไห้เลย” แบคฮยอนบอกก่อนจะโอบไหล่เพื่อนของตัวเองเอาไว้
“ฮยอนอา! ชานยอลล่ะ ชานยอลเป็นไงบ้าง!!!”
ยูราวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมๆกันกับคริส ร่างสูงพยายามมองเข้าไปในห้องฉุกเฉินด้วยใจที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย จนแบคฮยอนต้องเดินเข้าไปบอกให้เขาใจเย็นลง
“มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ใครมันบังอาจมาทำร้ายน้องฉัน!!”
ยูราพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียกได้ว่าโกรธมากที่สุดในชีวิตของเธอ
“ตอนนี้ฮยอนซึงตามตำรวจไปที่โรงพักแล้ว คิดว่าอีกสักพักคงจะกลับมาส่งข่าว” ฮยอนอาบอกไปด้วยน้ำเสียงของคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“พี่ขอบคุณพวกเธอมากเลยนะ ขอบคุณมากที่ช่วยชานยอลไว้ ขอบคุณจริงๆ” ยูราบอกพร้อมกับจับมือบางของฮยอนอาไว้แน่น
“คุณพยาบาลออกมาแล้ว!” แบคฮยอนรีบลุกขึ้นเมื่อเห้นว่าประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกมาโดยพยาบาลสาว
“ใครเป็นญาติของคุณปาร์ค ชานยอลคะ?”
พยาบาลสาวถามขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองทุกคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“ดิฉันค่ะ ดิฉันเป็นพี่สาวเขาเอง” ยูรารีบเดินเข้าไปหาพยาบาลสาวอย่างรวดเร็ว
“เชิญข้างในเลยค่ะ!”
พยาบาลผายมือให้หญิงสาวเข้าไปข้างในก่อนจะตามเข้าไป แต่ก็ถูกฮยอนอาเรียกเอาไว้เสียก่อน
“เอ่อ เดี๋ยวค่ะ! พี่พยาบาลคะ เพื่อนหนูเป็นยังไงบ้างคะ?!”
“ตอนนี้ผู้ป่วยปลอดภัยแล้วค่ะ แต่ก็ต้องดูก่อนว่าผู้ป่วยจะมีอาการช้ำในหรือเปล่าแต่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ.....”
เมื่อได้ยินประโยคท้าย ทั้งหมดก็ต้องขมวดคิ้วอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะประโยคนี้ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับชานยอลอย่างแน่นอน ซึ่งคนที่เครียดที่สุดก็คงจะเป็นคริส ร่างสูงไม่มีแรงจะพูดอะไรตั้งแต่ที่เขาได้รับข่าวจากฮยอนซึงแล้ว
“เพราะร่างกายผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนที่รุนแรงมากเกินไป ทางเราจึงไม่สามารถรักษาชีวิตของเด็กในท้องเอาไว้ได้เราต้องขอโทษจริงๆ...ดิฉันขอตัวไปดูแลผู้ป่วยก่อนนะคะ” ประโยคสั้นๆของพยาบาลสาวทำให้ทุกคนเป็นอัมพาตไปในทันที
ชานยอลท้อง...แต่ตอนนี้คงไม่อีกต่อไป..
เสียงสะอื้นของคริสตัลดังขึ้นมาอีกครั้ง ร่างบางหันไปกอดแบคฮยอนเอาไว้ เธอรู้สึกได้ว่าเธอทำพลาดอย่างรุนแรง แต่นั่นก็ไม่น่าเป็นห่วงเท่าคริส...
ร่างสูงทรุดลงกับพื้น ประโยคเมื่อสักครู่ทำให้เรี่ยวแรงของเขาหายไปจนไม่สามารถจะยืนได้อีกต่อไป น้ำตาที่ไม่เคยมีใครมีโอกาสได้เห็น ตอนนี้มันกำลังไหลออกมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดมันได้
-----------------------------------------------------------
คริสเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของชานยอลเป็นคนสุดท้าย เมื่อทุกคนเห็นว่าร่างสูงแล้วมาต่างก็ร่วมใจเดินกันออกไปข้างนอกกันหมด ทำให้ทั้งห้องเหลือแค่ชานยอลและคริสเพียงสองคน
ร่างสูงมองคนที่นั่งเงียบอยู่บนเตียง ร่างโปร่งหันหน้าไปทางหน้าต่างห้องผู้ป่วยที่ข้างนอกมีแต่ความมืดมิดด้วยสายตาที่เหม่อลอย รอยช้ำบนใบหน้าและลำตัวที่มีมากจนเกินไป ทำให้ดวงตาที่แดงก่ำของคริสกลับมามีน้ำตาอีกครั้ง ร่างสูงนั่งลงบนเตียงก่อนจะเรียกอีกคนขึ้นมาเบาๆ
“ยอลลี่...”
เสียงเรียกเบาๆ นั้นสามารถเรียกน้ำตาของชานยอลให้ไหลออกมาเงียบๆ ร่างโปร่งไม่ได้หันกลับไปตามเสียงเรียกของคริส เพราะเขารู้สึกยังไม่พร้อมที่จะพูดอะไรตอนนี้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีโอกาสท้องและนี่ก็ทำให้ชานยอลได้รู้ว่าอาการป่วยของเขาก่อนหน้านี้ก็คืออาการของคนแพ้ท้อง ไม่ใช่เครียดลงกระเพาะอย่างที่เข้าใจ
“ยอลลี่...พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริงๆ ถ้าพี่กลับมาพร้อมเรา เหตุการณ์นี้มันอาจจะไม่เกิดขึ้น...ฮึก..เราอาจจะไม่เสียลูกของเราไปแบบนี้” คริสพูดไปสะอื้นไปและมันก็ทำให้น้ำตาของชานยอลไหลออกมามากยิ่งกว่าเดิม
ร่างสูงดึงตัวชานยอลเข้ามากอดเอาไว้พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนร่างโปร่งอดที่จะกอดปลอบประโลมอีกคนเอาไว้ไม่ได้
สาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ในวันนี้คืออะไร...
หากวันนั้นชานยอลไม่ได้กินลูกอมปีศาจเข้าไป...วันนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่?...
-------------------------------------------------------------------------------
แม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาที่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ส่องลงมาทักทายพื้นโลก แต่ชานยอลก็ยังไม่ได้หลับและยังคงนั่งอยู่บนเตียงอย่างนั้นมาตั้งแต่เมื่อคืน
ตอนนี้ชานยอลนั่งอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เพราะร่างโปร่งอ้างว่าไม่ชอบอาหารของโรงพยาบาล คริสจึงต้องเป็นคนทำหน้าที่ออกไปหาอะไรมาให้อีกคนกินเป็นอาหารเช้า
เสียงเปิดประตูตามด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงที่เดินเข้ามาภายในห้องเรียกสติของชานยอลให้กลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อร่างโปร่งเห็นเจ้าของเสียงนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก
“ลีอาห์....”
ร่างโปร่งเรียกชื่อผู้มาเยือนขึ้นมาเบาๆ ทูตสวรรค์สาวยกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินอ้อมไปที่หน้าต่างตรงหน้าชานยอล
“เป็นไง...ดีขึ้นหรือยัง?” ลีอาห์ถามด้วยสีหน้าที่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อร่องรอยบนเนื้อตัวของชานยอล
“พอแล้ว...พอได้แล้ว หยุดเถอะ...ปล่อยฉันไปเสียที ฉัน....ยอมแล้ว”
ชานยอลบอกอีกคนไปด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
“ตลอดเวลาที่เธอเป็นผู้หญิง เธอได้เรียนรู้อะไรบ้าง” ลีอาห์ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมกับถามอีกคนออกไป
“เจ็บ...เจ็บจนไม่ไหว....ปล่อยฉันไปเถอะนะ...ฉันขอร้อง” ชานยอลบอกพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นรอบดวงตา
“หึ!”
ลีอาห์กระตุกยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาชานยอลแล้วยื่นอะไรบางอย่างให้กับร่างโปร่งและของสิ่งนั้นก็คือสิ่งที่ชานยอลตามหามาตลอดเวลา...
ลูกอมสีดำ...
ชานยอลจ้องหน้าอีกคนอย่างไม่เชื่อสายตา ลูกอมที่สามารถปลดปล่อยเข้าให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมอยู่ในมือของเขาแล้ว มือบางสั่นเทาเพราะสิ่งที่อยู่ในมือและความรู้สึกสับสนกลับเข้ามาทำร้ายเขาอีกครั้ง
“เลือกเอาก็แล้วกันว่า..จะกลับไปเป็นผู้ชายอย่างเดิม หรือจะอยู่ไปอย่างนี้กับผู้ชายคนนั้น...ฉันให้โอกาสเธอ”
ลีอาห์เดินออกจากห้องไปทิ้งให้ชานยอลตบตีกับการตัดสินใจของตัวเองเพียงลำพัง แต่เมื่อทูตสวรรค์สาวเปิดประตูก็พบว่ามีใครอีกคนได้ยืนอยู่ก่อนหน้าแล้ว
“อ่อ นายนี่เอง มาแอบฟังคนอื่นคุยกันนี่ไม่ดีเลยนะ”
ลีอาห์พูดกับร่างสูง แต่อีกคนกลับนิ่งเงียบและไม่มีทีท่าว่าจะโต้ตอบอะไรกลับไป
“เจอกันก็ดีแล้ว นี่...ของนาย...โชคชะตาชีวิตของนายเป็นอิสระแล้วนะ.....คริส”
ร่างสูงยื่นมือรับลูกอมสีดำจากมือของลีอาห์ แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกไป เป็นเพราะว่าคำถามมันฝุดขึ้นมามากมายจนไม่รู้ว่าจะเลือกประโยคไหนมาถามก่อนดี
โชคชะตาชีวิตของเขาที่ถูกบิดเบือนไปกลับมาอีกครั้งและมันก็กลับมาพร้อมกับความจริง...ความจริงของคนที่อยู่ในห้องนั้น....
อ๊ากกกกกก ตอนหน้าตอนสุดท้ายแล้วววว จะจบแล้วววว T^T ฝากบ่นผ่านแท็ก #ลูกอมปีศาจ ด้วยเน้อ
ความคิดเห็น