คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Black Candy : 18
Chapter : 18
วันนี้ ‘วันจันทร์’ แต่เป็นวันจันทร์ที่ทำให้ชานยอลรู้สึกสดชื่นได้มากกว่าวันจันทร์ทั้งหมดที่ผ่านมา เพราะวันนี้ร่างโปร่งได้กลับมาขับรถด้วยตัวเองอีกครั้ง ซึ่งคนขับรถเจ้าประจำได้ให้เหตุผลไว้ว่าต้องไปดูงานที่อื่นทำให้ไม่มาสามารถขับรถไปส่งที่ทำงานได้ตามปกติ
“พี่นานะสวัสดีคร้าบบบบ”
“อ้าว หวัดดีจ่ะ วันนี้ดูท่าทางสดชื่นเป็นพิเศษเลยนะยอลลี่” นานะพูดแซวขึ้นเมื่อเห็นเด็กสาวเข้ามาทักทายด้วยท่าทางร่าเริง
“แน่นอน ก็วันนี้เจ้านายพี่ไม่ได้มากับหนูก็เลยรู้สึกปลอดโปร่งเป็นพิเศษ”
ร่างโปร่งบอกพร้อมกับทำท่ายืดเส้นยืดสาย
“อ่าว....ไม่ได้คิดถึงเขาหรอกหรอ?”
นานะถามพร้อมกับยิ้มล้อเลียนเด็กสาวรุ่นน้อง
“หึ๊ย! หนูจะไปคิดถึงเขาทำไม! ไม่อยู่สิดี ชีวิตจะได้สงบสุข”
ร่างโปร่งว่าพลางกระแทกตัวลงนั่ง หน้าหวานเริ่มบึ้งตึงเมื่อถูกแซว
“อะจ้าๆ วันนี้จะได้สงบสุขทั้งวันเลยแหละ เพราะท่านรองไปข้างนอกทั้งวันและอาจจะรวมถึงวันอื่นๆ ต่อจากนี้ด้วย” นานะบอกพลางก้มหน้าก้มตาทำงานในส่วนของตัวเองไปด้วย
“หือ?.....ช่วงนี้งานเข้าหรอ?”
“เยอะ! ปัญหาเริ่มเกิดละ ตอนนี้ยอดกำไรของบริษัทลดลงมาก ทุกฝ่ายเริ่มเครียดกันเป็นแถว แต่ที่เครียดที่สุดคงจะเป็นระดับผู้บริหารนี่แหละ”
สีหน้าของนานะเปลี่ยนไปทันทีที่เปลี่ยนไปคุยเรื่องงาน
“แล้วงี้เราต้องทำไงกันต่อไปล่ะคะ?”
“ก็คงจะมีประชุมวางแผนการตลาดใหม่เร็วๆ นี้”
ร่างโปร่งพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่รุ่นพี่พูดก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเอง ออฟฟิศดูเงียบไปทั้งๆ ที่ทุกคนกำลังทำงานกันอย่างวุ่นวาย แต่สำหรับชานยอลมันดูเงียบไป...
------------------------------------------------------
ไม่ใช่แค่วันเดียวที่ชานยอลไม่ได้เจอคริสเลย แต่เป็นสัปดาห์ที่ชายหนุ่มไม่ได้เหยียบเข้าไปที่บริษัทและไม่ได้กลับเข้าหอพัก ห้องข้างๆชานยอลเงียบไป ไร้คนอยู่มาหลายวันแล้ว
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์และไม่มีคนที่คอยลากชานยอลไปไหนมาไหน วันนี้หญิงสาวจึงถือโอกาสออกไปเที่ยวกับเดอะแก๊ง
“มาเที่ยวได้? ผู้ปกครองไม่อยู่?” คริสตัลถามขึ้นเมื่อเห็นชานยอลมาเที่ยวร่วมกันกับเพื่อนๆ ได้
“ฉันไม่เคยบอกเธอหรอว่าแม่ฉันอยู่ต่างประเทศ จะอยู่นี่หรือไม่อยู่ฉันก็เที่ยวได้”
“ฉันไม่ได้หมายถึงแม่แก...ฉันหมายถึงผู้ชายข้างห้องแก”
คริสตัลบอกพร้อมกับส่งสายตาล้อเลียนเพื่อนสาวร่างโปร่ง
“แกจะบ้าหรอ! เขาไม่ใช่พ่อฉันซะหน่อย!”
ร่างโปร่งว่าพลางใช้ฝ่ามือบางฟาดลงไปบนไหล่เล็กของคริสตัลเบาๆ
“แหมมมๆๆๆ พ่อทูนหัวเลยล่ะฉันว่า ฮ่าๆๆ”
ในขณะที่ซอลลี่กับฮยอนอากำลังเลือกซื้อของ ชานยอลกับคริสตัลก็วิ่งไล่ตีกันราวกับเด็กๆ แต่ก็มีเสียงหนึ่งมาดึงความสนใจของทั้งสองคน นั่นคือเสียงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
“ช่วยด้วย!! ช่วยด้วยค่ะ มีโจรกระชากกระเป๋าฉันไป!”
ทั้งสองเสียงหันไปตามต้นเสียง ก็พบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังวิ่งตรงดิ่งเข้ามา ซึ่งมีหญิงวัยกลางท่าทางจะเป็นคนมีฐานะวิ่งตามมาด้วย คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าของเสียงเมื่อกี้ คริสตัลตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ร่างโปร่งยืนมองชายที่กำลังจะวิ่งผ่านไปอย่างนิ่งเฉย ก่อนจะตัดสินใจใช้ประโยชน์จากขายาวๆ ของตัวเอง โดยการยื่นมันออกไปสกัดขาของโจรกระชากกระเป๋าคนนั้นเอาไว้จนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า
“มึงอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นกูเล่นมึงแน่!” โจรหนุ่มที่เนื้อตัวมอมแมมชักมีดออกมาขู่ร่างโปร่ง
“หนูระวังนะลูก มันมีมีด” หญิงวัยกลางเจ้าของกระเป๋าคว้าแขนชานยอลเอาไว้
“คริสตัลแกพาคุณเขาหลบไปก่อน ฉันจะไปเอากระเป๋าคืน”
ร่างโปร่งบอกเพื่อนก่อนจะหันไปยิ้มให้กับหญิงเจ้าของกระเป๋าให้เชื่อใจตัวเอง แต่หญิงวัยกลางกลับขมวดคิ้วราวกับกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
ร่างโปร่งก้าวเข้าไปหาโจรคนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ซึ่งถ้าวัดจากขนาดตัวแล้วชานยอลเป็นต่ออย่างเห็นได้ชัด ชายคนนั้นลุกขึ้นมาประจันหน้ากับหญิงสาว มือหนึ่งกอดกระเป๋าไปหรูเอาไว้และมืออีกข้างก็ถือมีดจ่อมายังชานยอล
“ยอลลี่!!”
ซอลลี่ตะโกนเรียกและจะเข้าไปหาชานยอลทันทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองกำลังจะสู้กับชายหนุ่มท่าทางซอมซ่อที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโจร
“แกอย่าเข้าไป!”
คริสตัลคว้าแขนเล็กของซอลลี่เอาไว้ เป็นจังหวะเดียวกันที่โจรหนุ่มคนนั้นถือมีดพุ่งตรงเข้าไปหาร่างของชานยอล ทั้งสี่คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจกรีดร้องกันเพราะคิดไว้ว่ายังไงชานยอลก็ต้องพลาดท่าให้กับโจรร้ายคนนั้นอย่างแน่นอน
แต่ผิดคาด ร่างโปร่งใช้ความว่องไวของตัวเองคว้าแขนเล็กของชายหนุ่มคนนั้นเอาไว้ ก่อนจะบิดแขนนั้นจนชายหนุ่มต้องร้องโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดและทำมีดที่อยู่ในมือร่วงลงพื้นไป
แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้ชาย แต่ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งและดูแข็งแรงกว่าทำให้ชานยอลจัดการกับโจรร้ายได้อย่างสบายมือ หญิงสาวต่อยชายร่างเล็กจนร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น ก่อนจะกระชากกระเป๋าหรูที่อยู่ในมือของโจรหนุ่มคนนั้นมา
“ไป! จะไปไหนก็ไป! แล้วอย่าหากินด้วยวิธีสกปรกแบบนี้อีกนะ ไอ้ชั่ว!!”
ร่างโปร่งตะคอกใส่ชายหนุ่มก่อนจะกระทืบซ้ำลงไปบนลำตัวบางที่ไร้เรี่ยวแรง
“ไป!!!”
สิ้นเสียงร่างซอมซ่อนั่นก็วิ่งหนีไป ร่างโปร่งหายใจหอบถี่ ยืนมองร่างนั้นจนลับตาก่อนจะหันไปหาเพื่อนๆ ที่วิ่งเข้ามาหา
“ยะ ยอลลี่....ละ เลือด ที่แขนเธอมีเลือด!”
ซอลลี่บอกเสียงสั่นเมื่อจับแขนของเพื่อนแล้วเจอรอยเลือดที่เปื้อนแขนเสื้อเชิ้ตสีขาว
“ฉันว่าหนูพาเพื่อนไปหาหมอดีกว่านะ” หญิงวัยกลางบอกด้วยน้ำเสียงเป็นหวง
“ไม่เป็นไรค่ะ คงจะพลาดไปโดนปลายมีดเข้าน่าจะไม่ลึกมาก อ่อ แล้วนี่ค่ะ กระเป๋า คิดว่าของข้างในยังน่าจะอยู่ครบทุกอย่าง” ร่างโปร่งบอกพร้อมกันยื่นกระเป๋าใบหรูส่งคืนให้กับเจ้าของ
“ขอบใจมากจ่ะหนู.....”
“ยอลลี่ค่ะ”
ร่างโปร่งบอกชื่อกับหญิงวัยกลางไป อีกฝ่ายยิ้มให้อย่างใจดีก่อนที่ชานยอลจะขอแยกตัวกลับ เรื่องเที่ยววันนี้ก็ต้องล้มเลิกกันไป
...................................................
“แกโอเคนะ?” ฮยอนอาถามขึ้นหลังจากทำแผลให้ชานยอลเสร็จเป็นที่เรียบร้อย
“เออ แค่นี้ไม่ตายหรอก เหยียบเปลือกหอยยังเจ็บกว่าอีก” ชานยอลบอกเพื่อนด้วยท่าทีสบายๆ
“แน่นะ อยู่คนเดียวได้นะ?” คนตัวเล็กถามซ้ำด้วยความเป็นหวง
“เอออออ พวกแกกลับบ้านกลับช่องไปได้แล้วไป ฉันจะนอน”
ชานยอลจัดการไล่เพื่อนตัวเองกลับพร้อมกดดันด้วยการเดินลงมาส่งถึงข้างล่าง สามสาวกอดเพื่อนร่างโปร่งด้วยความเป็นห่วงก่อนจะแยกย้ายกันกลับไป
“ยอลลี่....”
“หือ?”
ชานยอลหันไปตามเสียงเรียกก็พบว่าเป็นคริส ร่างสูงเดินเข้าไปหาชานยอลก่อนจะหยุดมองที่แขนของหญิงสาว
“ไปโดนอะไรมา?” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“อ่อ ไปรับบทเป็นนางเอกหนังบู๊มา เลยโดนโจรใช้มีดสะกิดแขนเอา”
ร่างโปร่งบอกไปด้วยท่าทีที่ติดตลก
“เอาดีๆ...” คริสมองหญิงสาวด้วยสายตาจริงจัง
“ทำไมต้องดุด้วยวะ! ก็อย่างที่บอกแหละ อุบัติเหตุนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่นายเหอะ ไม่ไปทำงานตั้งหลายวัน โดดงานหรอ?” ชานยอลยกแขนขึ้นมากอดอกเอาไว้ แล้วมองอีกคนด้วยท่าทางกวนๆ
“ไปทำงานบ้างเหอะ...ทำไมคิดถึงหรอ?” ร่างสูงยกยิ้มพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ตัวชานยอลมากขึ้น
“หยุดอยู่ตรงนั้น!”
ชานยอลชี้นิ้วสั่ง ก่อนจะวิ่งหนีอีกคนขึ้นห้องตัวเองไป ทิ้งให้ร่างสูงยืนยิ้มอยู่คนเดียวเพราะท่าทีของหญิงสาว ก่อนจะเดินตามขึ้นไป
.....................................................................
กลับเข้าสู่วันทำงาน เช้าวันนี้เป็นเช้าที่วุ่นวายยิ่งกว่าเก่า ทำเอาเด็กฝึกงานอย่างชานยอลต้องงงไปตามๆ กัน จึงได้แต่ช่วยทำงานไปในส่วนที่สามารถทำได้
“ตายแล้วๆ ท่านประธานมา!!”
พนักงานสาว คนที่ชอบซุบซิบนินทาเพื่อนร่วมงานสะกิดบอกเพื่อนร่วมขบวนการของตัวเอง
“โห! มาทั้งตระกูลเลยหรือไงวะเนี้ย”
ชานยอลหันไปมองตามที่พนักงานสองคนนั้นพูดกัน ก็เห็นว่าคริสกำลังเดินไปยังห้องทำงานพร้อมกับยูอี แต่นอกจากคริสแล้วก็ยังมีอีกคนที่เดินนำหน้าคนทั้งสองไป เป็นหญิงวัยกลางลักษณะน่าเกรงขามมากกว่าผู้หญิงทั่วไป ระหว่างทางที่เดินก็มีคนโค้งทำความเคารพไปตลอดทาง หญิงสาวหรี่ตามองก่อนจะทำตาโตเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร
“พี่นานะ....คนนั้นใครอะพี่
ชานยอลหันไปถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อยื่นยันความมันใจ
“ไหน.....อ๋อ นั่นท่านประธานแล้วก็เป็นคุณแม่ของท่านรองด้วย”
“คุณป้าคุณนั้นคือคุณแม่พี่คริส!!!! ตายยยยยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ฮยอนอาถึงกับเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเพื่อนเล่าให้ฟังว่าไปเจอใครมา
“เออ แม่งโลกตั้งกว้างใหญ่ มาเจอกันแบบนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้” ชานยอลบอกทั้งๆ ที่ยังคงกุมขมับอยู่
“แล้วนี่มานั่งกุมขมับประหนึ่งว่าจะฝึกงานไม่ผ่าน แกจะเครียดทำไมวะ ดีซะอีกอย่างน้อยแกก็เคยได้ช่วยเขาไว้ครั้งนึง ได้แต้มไปเยอะเลยนะนั่น” คริสตัลบอกพร้อมกับโอบไหล่ของเพื่อนร่างโปร่งเอาไว้
“คะแนนบ้าบออะไรล่ะ ฉันกลัวว่ายัยลูกสะใภ้ของเขาจะหาเรื่องฉันอีกอะดิ ยิ่งแม่สามีมางี้นะ ฉันตายสถานเดียว” ร่างโปร่งว่าพลางซบลงบนไหล่เล็กของคริสตัล
“โอ๊ย! นางคงแกล้งแกไม่ทันหรอก เพราะอีกเดือนเดียวเดี๋ยวแกก็ฝึกงานเสร็จละ”
ฮยอนอาพูดด้วยท่าทางมั่นใจ
“ส๊า~~ธุ!!!!”
“ไปนวดไหม? เดี๋ยวเจ้นวดให้ หึหึ”
ฮยอนอาบอกพร้อมกับทำท่าจะขย้ำชานยอล
“ไม่เอา!!! ฉันไม่ไว้ใจแก!”
“นี่! บ้านฉันทำสปานะเฮ้ย ฉันไม่ทำกระดูกคนหักหรอกแหมมม ไป ไปนวดแก้เครียดกันดีกว่านวดเสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน” ฮยอนอาดึงแขนชานยอลและคริสตัลให้ลุกขึ้นตามไป
สิ่งที่ชานยอลต้องทำต่อจากนี้คือ....ทน เพราะอีกแค่เดือนเดียวก็จะฝึกงานเสร็จ แต่ประเด็นก็คือ ภายในหนึ่งเดือนต่อจากนี้เขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
………………………………………………….
“พี่....เป็นไร”
ชานยอลทักนานะหลังจากที่เห็นหญิงสาวเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“งานเข้าอะดิ” นานะนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อนราวกับเพิ่งกลับจากรบ
“มีอะไรหรอพี่?”
“ก็วันนี้ท่านประธานเรียกประชุม ลงทุนแค่ไหนคิดดูอุตส่าบินมาจากแคนนาดาเพื่อมาบอกว่าให้ ทำทุกอย่างใหม่ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ซึ่ง!.....ต้องออกแบบสินค้าใหม่หมดเลย!”
หญิงสาวบอกก่อนจะทิ้งแผ่นหลังลงกับพนักพิงของเก้าอี้อย่างหมดแรง
“โห! ละ...แล้วเขารีบหรอคะถึงได้เครียดกันอย่างนี้”
เมื่อได้ยินสิ่งที่นานะเล่า ร่างโปร่งก็พลอยอินร่วมเครียดไปกับคนอื่นเขาด้วย
“หึ! ท่านประธานเป็นคนประเภทที่ว่า สั่งปุ๊บก็อยากเห็นผลงานปั๊บ เป็นคนที่ทำอะไรปุบปับคิดจะทำก็ทำเลย พอๆกับที่ให้ท่านรองหมั้นกับคุณยูอีนั่นล่ะ”
สีหน้าของชานยอลดูหมองลงไปทันทีที่นานะพูดถึงเรื่องการหมั้น มันทำให้เรื่องที่คริสเคยบอกไว้ว่าจะถอนหมั้นกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้งและสถานการณ์ในตอนนี้อาจจะทำให้คำที่คริสบอกมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากหรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลย
“เฮ้ยๆๆ เลิกกอง! ท่านประธานมา”
นานะหันไปบอกชานยอลก่อนจะรีบคว้างานของตัวเองขึ้นมาทำ หญิงวัยกลางหันมามองร่างโปร่งก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาพร้อมทั้งมีคริสเดินตามมาด้วย
“โลกกลมจริงๆ เลย ว่าแต่แผลเป็นไงบ้างจ๊ะ?”
เธอถามร่างโปร่ง ส่งผลให้คริสต้องมองไปที่แม่ของตัวเองด้วยความสงสัยว่ารู้จักและรู้เรื่องแผลของชานยอลได้อย่างไร
“สวัสดีค่ะ....เอ่อ แผลหนู...ดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ แค่ถากๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ชานยอลบอกพร้อมกับยิ้มบางๆ
“แม่.....แม่รู้จักยอลลี่ด้วยหรอ?” ร่างสูงทนสงสัยไม่ได้จึงถามออกไป
“ก็แม่หนูนี่แหละที่ช่วยแม่ไว้ตอนที่แม่โดนกระชากกระเป๋า”
คริสเหลือบไปมองหน้าหญิงสาวก็พบว่าอีกคนกำลังมองมาด้วยสายตากวนๆ ก่อนจะยักคิ้วให้ ทำให้ร่างสูงต้องรีบหันกลับไปมองหน้าแม่ตัวเองแทน เพราะกลัวจะกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ได้
“ยอลลี่เป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่ครับ แต่เหลืออีกแค่เดือนเดียวก็จะต้องกลับไปเรียนแล้ว” ร่างสูงบอกกับแม่ของตัวเอง
“นักศึกษาฝึกงานหรอ? งั้นก็ใกล้จะเรียนจบแล้วสิ สนใจมาทำงานที่นี่ไหม?”
หญิงวัยกลางถามพร้อมกับยิ้มให้อย่างใจดี
“เอ่อ...อันนี้ค่อยว่ากันใหม่หลังเรียนจบก็แล้วกันค่ะ” ร่างโปร่งบอกพลางยิ้มเจื่อนๆ
“แต่ยังไงก็อย่าลืมที่นี่นะจ๊ะ”
เธอหยิกแก้มนิ่มของชานยอลเบาๆ ก่อนจะเดินหันหลังออกไป
“เย็นนี้ขับรถกลับหอเองนะ”
“เออ!!!”
ร่างสูงหันมาบอกชานยอลเสียงเบา แต่อีกคนกลับตอบไปด้วยระดับเสียงที่ดังกว่าเล็กน้อยก็จะหันกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานโดยไม่สนใจร่างสูงอีกเลย
“ยอลลี่คนนี้จริงๆ ด้วย หึหึ”
หญิงวัยกลางพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ความเธอรู้จักชานยอลอยู่แล้ว เพราะคำบอกเล่าของยูอี การที่เธอเดินทางมาที่นี่ไม่ใช่เพราะว่าจะมาทำงาน เพราะโดยส่วนตัวเธอเชื่อฝีมือของลูกชายคนเดียวอยู่แล้ว แต่ที่มาก็เพียงเพราะว่าอยากจะมาเจอผู้หญิงที่กำลังทำให้ลูกชายของเธอเปลี่ยนไป
“ยอลลี่พี่กลับก่อนนะ”
“จ้าๆ”
นานะบอกกับชานยอลก่อนจะสะพายกระเป๋าออกไป แต่ร่างโปร่งยังคงนั่งเขียนอะไรยุกยิกทั้งๆที่นี่ก็เลยเวลาเลิกงานมามากแล้ว
เนื่องจากว่าทางบริษัทต้องออกแบบสินค้าใหม่หมดและตัวชานยอลเองก็พอมีหัวทางด้านนี้ เขาจึงลองใช้ความสามารถที่มีออกแบบสินค้าที่เขาคิดว่าตัวเองพอจะทำได้
แต่ยิ่งได้ทำก็ยิ่งเครียดการร่างแบบขึ้นแต่ละชิ้นใช้เวลาไปไม่ใช่น้อย จากเวลาพลบค่ำเปลี่ยนเป็นดึก แต่ถึงแม้ชานยอลจะเครียดกับการออกแบบนี้แค่ไหนมันก็ยังน้อยกว่าคริส เพราะตั้งแต่แยกย้ายกันไปทำงานในตอนนั้นคริสก็ไม่ได้ออกจากห้องทำงานอีกเลย ชายหนุ่มฝังตัวทำงานอยู่ในห้องของตัวเองโดยไม่ออกมาเจอใครเลย
ร่างโปร่งทำงานไปอย่างไม่ยอมท้อ แม้ว่าเวลาจะเลยเที่ยงคืนมาแล้วก็ตาม แต่พอทำไปมันก็เริ่มยากจนชานยอลต้องยอมลุกขึ้นไปเดินยืดเส้นยืดสาย แต่ก็ต้องอดมองไปยังห้องนั้นไม่ได้ จนสุดท้ายเขาต้องยอมเปิดประตูเข้าไปดูคนที่อยู่ในห้อง
“อ่าว มาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” คริสแอบตกใจเล็กน้อยที่เห็นหญิงสาวเข้ามาหาทั้งๆที่ตอนนี้ก็เกือบจะตีหนึ่งแล้ว
“ยังไม่ได้กลับ....แล้วนายอะ ไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องกลับไปหาแม่หาเมียบ้างไง๊?”
ร่างโปร่งว่าพลางทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของคริส
“แม่...เดี๋ยวค่อยกลับไปหา แต่เมียอะ.....อยู่ที่นี่”
คริสบอกก่อนจะละสายตาจากจอคอมมามองคนที่นั่งเบ้ปากใส่อยู่ตรงหน้า
“ตื่นเถิดชาวไทย ง่วงมากก็ไม่นอนซะไปอย่ามาเพ้อเจ้อใส่คนอื่น”
ชานยอลว่าพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ว่าแต่ทำไมยังไม่กลับเนี้ยหรือว่า.....รอพี่หรอ?” คริสถามพลางส่งยิ้มกริ่มให้กับหญิงสาว
“ใครรอคุณไม่ทราบ! เขาเขียนรายงานฝึกงานบ้างเหอะโธ่!”
“จริงอะ? พูดแค่นี้ทำไมต้องขึ้นด้วย?”
“โอ๊ย! ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน จะไปชงกาแฟจะกินไหม?”
หญิงสาวถามคริสเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
“แน่ะ พาออกเรื่องอื่นเฉยเลย ถ้าชงมาให้ก็กินครับ”
“เออ รอแป๊ป”
ชานยอลบอกก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของคริสไป
ร่างโปร่งเดินมายังห้องครัวที่เงียบสนิทก่อนจะหยิบวัตถุดิบมาชงกาแฟอย่างชำนาญการ ชานยอลชงกาแฟไปยิ้มไป ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เหมือนว่ายิ้มออกมาเพราะเรื่องอะไร
และเมื่อชงเสร็จทั้งแก้วของตัวเองและของคริสร่างโปร่งจึงกลับเข้าไปยังห้องทำงานของคริสอีกครั้ง
“เอาไป!”
ชานยอลว่างแก้วกาแฟของคริสลงบนโต๊ะทำให้อีกคนละสายตาจากงานของตัวเองอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ ทำหน้าที่ภรรยาได้ดีมากเลยรู้ไหม”
คริสบอกก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาดื่ม แต่ก็แทบจะพ้นกาแฟออกมาเสียเดี๋ยวนั้น เพราะขำสีหน้าของชานยอลในตอนนี้
“ผิดคนแล้วมั้ง! อย่ามาพูดว่าฉันเป็นโน้นเป็นนี่ของนายอีกนะ ฉันไม่ชอบ!” ร่างโปร่งบอกก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างไม่สบอารมณ์
“ก็เป็นจริงๆหนิ...หรือลืมไปแล้ว” คริสถามแล้วมองหญิงสาวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ได้ลืม...แค่มันไม่ได้ถูกผูกมันเอาไว้ด้วยพันธะสัญญาใดๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเก็บมันมาเป็นข้ออ้างว่าฉันเป็นอะไรกับนาย” หญิงสาวบอกคริสไปด้วยสีหน้าที่จริงจังไม่แพ้กัน
“ไปละ จะทำงานต่อ”
ชานยอลเดินออกมาจากห้องทำงานของอีกคนก่อนจะกรอกตาขึ้นมองเพดานพร้อมกับถอนหายใจออกมาครั้งนึงแล้วกลับไปยังโต๊ะทำงงานของตัวเอง
ร่างโปร่งกลับมานั่งร่างแบบต่อโดยไม่ได้สนใจอะไรและไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีใครแอบมองอยู่ห่างๆ ร่างสูงยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนในขณะที่กำลังแอบมองคนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับตัวเองเพียงลำพัง เมื่อมองกำลังใจของตัวเองมากพอสมควรแล้วเขาจึงต้องยอมกลับเข้าไปทำงานของตัวเองต่อไป...แม้ว่าใจจริงเขาอยากใช้เวลาอยู่กับชานยอลมากกว่าก็ตาม
ชานยอลทำงานจนลืมดูเวลาไปเลยว่าตอนนี้มันเป็นเวลากี่โมงกี่ยาม เพราะเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองนาฬิกาก็พบว่าเกือบจะหกโมงเช้าเข้าไปแล้ว ทำเอาร่างโปร่งตกใจในความอึดของตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่ที่ทำให้เขาดีใจมากที่สุดก็คงจะเป็นผลงานที่ทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อย
หญิงสาวเดินย่องไปเปิดประตูห้องทำงานของคริสพร้อมกับกระดาษที่อยู่ในมือประมาณสี่ห้าแผ่น และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าอีกคนเอนหลังหลับอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ร่างโปร่งเดินเข้าไปด้านฝีเท้าที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
มือเรียววางกระดาษที่ถือมาลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบกระดาษชิ้นเล็กๆ ขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่างแล้ววางไว้คู่กันกับกระดาษที่หยิบมาด้วยในตอนแรก ร่างโปร่งเดินเข้าไปใกล้ๆ คริสก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ
“กลับก่อนนะ”
ชานยอลยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยร่างกายที่เริ่มหมดพลัง
ร่างโปร่งเดินกลับมายังโต๊ะทำงานของตัวเองก็พบว่าเริ่มมีคนเข้าออฟฟิศมาบ้างแล้วและหนึ่งในนั้นก็คือนานะ ที่วันนี้มาทำงานเช้ากว่าปกติ
“เฮ้ย! ทำไมใส่ชุดเดิม? อย่าบอกนะว่ายังไม่กลับ!!” หญิงสาวถามพร้อมกับชี้ไปที่รุ่นน้องสาว
“อือ นี่กำลังจะกลับละ วันนี้หนูลานะพี่ ง่วง”
ชานยอลบอกพร้อมกับเก็บสัมภาระของตัวเองลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว
“โอเคๆ อนุญาต ไม่เช็คขาดด้วยกลับบ้านเหอะไปเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งแล้วจะยุ่ง”
หญิงสาวบอกก่อนจะดันร่างโปร่งให้รีบกลับบ้านไป
“ไปบอกท่านรองของพี่ด้วยนะ แอบหลับอยู่ในห้องโน้นงานการไม่ยอมทำ ฮ่าๆๆ ไปละ”
ชานยอลบอกก่อนจะเดินออกจากแผนกไป
นานะส่ายหน้าพลางยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องทำงานของคริสแล้วก็พบว่าชายหนุ่มหลับอยู่จริงๆ แล้วสายตาก็เห็นเข้ากับกระดาษสี่ห้าแผ่นที่วางอยู่บนโต๊ะ ร่างบางถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้
‘กลับไปพักผ่อนที่บ้านนะท่านรองฯ แอบหลับในที่ทำงานแบบนี้ระวังน้ำลายบูดท่วมบริษัทไม่รู้นะเออ อิอิ’
มาอัพให้หายคิดถึง อ่านแล้วอย่าลืมสกรีม #ลูกอมปีศาจ ให้กำลังใจกันด้วยน้าาาา ^^
ความคิดเห็น