คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Black Candy : 11
Chapter : 11
“’งานเราจะยุ่งบ้างเป็นช่วงๆ แต่น้องยอลไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่ช่วยงานพี่เล็กๆ น้อยๆ ก็พอ”
นานะบอกกับเด็กสาวที่กำลังยืนฟังเธอพูดอย่างตั้งใจ
“ค่ะ! ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ชานยอลโค้งให้กับรุ่นพี่ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับเธอ
กริ๊งงงงงงงง!~
“สวัสดีค่ะ อิมจินอาพูดค่ะ โอ๊ะ! ค่ะ...เดี๋ยวดิฉันจัดการให้ค่ะ”
นานะดูจะตกใจกับบุคคลที่โทร.มาเล็กน้อย แต่ก็ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติในภายหลังก่อนจะวางสายแล้วหันกลับมาบอกอะไรบางอย่างกับเด็กฝึกงานสาว
“เอ่อ ยอลลี่จ๊ะ ท่านรองให้หนูไปพบอะจ่ะ”
ชานยอลถึงกับเกือบจะหุบยิ้มลงทันทีที่นานะบอก หญิงสาวรู้ดีกว่าอีกคนต้องมีแผนอะไรมาอีกแน่นอน แต่จะเลี่ยงไม่ไปพบก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นมารยาทที่เขาต้องทำ
“หนูต้องไปพบเขาที่ไหนคะ?” ชานยอลถามด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจจะไปหาอีกคนสักเท่าไหร่
“เดี๋ยวพี่พาไปส่งเองจ่ะ”
นานะเดินนำหน้าสาวร่างโปร่งไปยังห้องรองประธานกรรมการบริษัทก่อนจะเคาะประตูห้องเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ข้างในได้ทราบ ชานยอลพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไปหาอีกคนโดยที่ไม่มีนานะเข้าไปด้วย
เมื่อเข้ามาถึงภาพที่เห็นก็คือชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำตำแหน่งกำลังจ้องมายังชานยอลพร้อมกับส่งยิ้มในแบบที่หญิงสาวไม่เคยชอบ
“มีอะไรหรือเปล่าคะท่านรอง.....อู๋อี้ฟาน” ร่างโปร่งถามพร้อมกับจ้องหน้าอีกคนกลับไป
“อยากให้มาหา ต้องมีอะไรด้วยหรอ?”
หน้าตาและท่าทางของคริสในตอนนี้ทำเอาชานยอลแทบจะห้ามตัวเองไม่ให้เอาหมัดไปกระแทกหน้าอีกคนเกือบไม่ได้
“ฉันมีงานต้องทำ มีอะไรก็ว่ามา”
ร่างสูงยกยิ้มก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาประชิดตัวเด็กฝึกงานสาว
“เรียกพี่คริสสิ”
คำเดิมเมื่อหนึ่งปีก่อนกลับมาอีกครั้ง หญิงสาวกรอกตาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะตอบกลับไป
“มันจะดูไม่ดีมั้งคะท่านรอง เดี๋ยวคนอื่นเขาจะว่าเอา” ชานยอลยกยิ้มพร้อมกับจ้องหน้าอีกคน
“เรียกพี่คริสสิ”
“ไม่!”
“เรียกพี่คริส”
“ถ้าฉันไม่เรียกจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ? ท่านรอง อู๋ อี้ ฟาน” ชานยอลถามอีกคนอย่างท่าทาย
“มีแน่!” คริสบอกก่อนจะพลิกตัวหญิงสาวให้ไปชิดกับขอบโต๊ะ
“ถ้าจะไม่ให้พี่นานะเซ็นใบฝึกงานให้ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แค่ลงฝึกงานใหม่ฉันสบายๆ อยู่แล้ว” ชานยอลบอกอีกคนไปอย่างไม่เกรงกลัว
“คิดว่าพี่คิดได้แค่นั้นหรอ?”
ร่างสูงบอกพลางเลื่อนใบหน้าคมเข้าไปหาหญิงสาว
“ฉันรู้ว่าท่านคิดมากกว่านั้น...ท่านรอง!” ชานยอลจ้องตาอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้
“เรียกพี่คริสสิ”
“หนิ!!! ฉันมาทำงานนะไม่มีเวลามาไร้สาระกับนายหรอก!!” ร่างโปร่งผลักอีกคนออกไปด้วยความโมโห
“ไร้สาระอะไร พี่เป็นใครอย่าลืมสิ” ร่างสูงบอกพลางล่วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วพิงตัวไว้กับขอบโต๊ะ
“นายนี่มัน...ชอบใช้อำนาจในทางมิชอบตลอดเลยนะ” ชานยอลมองอีกคนพลางส่ายหน้าเบาๆ
“ก็ใช้เฉพาะกับบางคนเท่านั้นแหละ”
คริสยกยิ้มขึ้นอีกครั้ง ชานยอลได้แต่ถอนหายใจเพราะทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ เพราะตอนนี้คริสไม่ใช่รุ่นพี่ปี 4 อย่างเมื่อก่อนแล้ว แต่เขาเป็นรองประธานบริษัทแบรนด์ดังที่ใครๆ ก็รู้จัก
“ไม่มีธุระอะไรใช่ไหม? งั้นฉันไปช่วยพี่นานะทำงานแล้ว”
ชานยอลบอกพร้อมกับเตรียมจะเดินหันหลังออกไป
“เรียกพี่คริสก่อน”
คริสยังคงบอกให้อีกคนเรียกเขาว่าพี่โดยไม่ยอมเลิกรา
“โอยยยย ท่านรองคะ!! ว่างมากหรือขาดความอบอุ่นวะเนี้ย ไม่มีน้องให้เรียกว่าพี่ใช่ไหมล่ะถึงได้มาสั่งคนอื่นเขาแบบนี้!!!” ชานยอลพูดออกมาอย่างเหลืออด
“ไม่ได้อยากให้เป็นน้อง….อยากให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ” ร่างสูงบอกพร้อมกับยิ้มให้คนตรงหน้า
“เป็นอะไรมิทราบ” ชานยอลบอกพร้อมกับจิกสายตาใส่คริส
ร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ แต่กลับใช้สายตามองในแบบที่หญิงสาวรู้ดีว่าอีกคนกำลังคิดอะไร ชานยอลกระตุกยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกคนโดยไม่กลัวสายตาของเขาเลย
“อย่ามโนไปหน่อยเลย เราไม่ได้เป็นอะไรกัน....แค่วันไนท์สแตนด์อย่าเก็บไปคิดเลยลืมมันไปซะ” หญิงสาวบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที
คริสถึงกับหลุดหัวเราะออกมา เพราะเขาไม่เคยเจอ...ไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน ผู้หญิงที่ไม่เคยคิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อย แต่เขากลับสนใจผู้หญิงคนนี้มากเหลือเกิน
“เป็นไง ท่านรองเรียกเข้าไปพบทำไมหรอ?”
นานะถามขึ้นหลังจากที่ชานยอลกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ในตอนแรก
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ถามอะไรนิดๆ หน่อยๆ ว่าแต่พี่มีอะไรให้หนูช่วยหรือเปล่าคะ?”
ชานยอลบอกกับรุ่นพี่ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“อ้อ! มีจ่ะ งั้นน้องยอลช่วยดูยอดจำหน่ายของเดือนนี้ให้พี่หน่อยนะ แล้วเดี๋ยวพี่จะมาช่วยดูอีกที”
หญิงสาวรุ่นพี่มอบหมายงานให้ร่างโปร่งพร้อมกับยิ้มให้อย่างใจดี
ชานยอลตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างตั้งใจ ถึงแม้ในอดีตเขาเคยเป็นคาสโนว่าที่ดูเหมือนจะเอาการเอางานไม่ได้ แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนที่จริงจังกับงานมาก เพราะทางบ้านได้สอนให้เขาตั้งใจกับการทำงาน เพราะถ้าไม่ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันที่บ้านเขาคงไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้แน่นอน ชานยอลจึงติดนิสัยที่จะต้องทำอะไรจริงๆ จังๆ มาโดยตลอด ยกเว้นเรื่องผู้หญิง
ครืด ครืดดด~
เบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นปรากฏขึ้นบนจอโทรศัพท์ หญิงสาวเจ้าของโทรศัพท์เลิกคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะวางปากกาในมือลงเพื่อรับโทรศัพท์
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับน้องยอลลี่”
เสียงจากปลายเลยทักทายมา ถึงฟังดูจะคุ้นๆ แต่ชานยอลกลับจำไม่ได้ว่าใคร
“ค่ะ...นี่ใครพูดคะ?”
“โห้~ น้อยใจอะ อุตส่าห์พาไปเที่ยวสวนสนุกแต่ดันจำพี่ไม่ได้ซะงั้น”
“พี่ชางมิน! ฮ่าๆๆๆ พี่โทร.มาทำไมเนี้ย” หญิงสาวหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าคนที่ดทร.มาคือใคร
“พอดีพี่นัดสาวๆ ทั้งสามคนเอาไว้ว่าพักเที่ยงจะพาไปเลี้ยงข้าว ก้เลยลองโทร.มาช่วยยอลลี่ดูเผื่อจะออกมากินข้าวด้วยกันได้”
“ได้สิคะ ว่าแต่ไปที่ไหนกันเดี๋ยวยอลลี่จะได้ขับรถออกไป”
ชานยอลนัดแนะเรื่องทานข้าวกับชางมินเป็นที่เรียบร้อย เมื่อหันมามองนาฬิกาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็พบว่าเหลืออีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้ว หญิงสาวจึงขออนุญาตออกไปข้างนอกซึ่งนานะก็ไม่ได้ขัดอะไร
“นางมาแล้วๆ”
ฮยอนอาสะกิดทุกคนเมื่อเห็นว่าเพื่อนร่างโปร่งเดินเข้ามาในร้าน
“สั่งอะไรกันหรือยัง?” ชานยอลถามพลางนั่งลงข้างๆ ซอลลี่
“ยัง รอแกอยู่นั่นแหละ” ฮยอนอาบอกก่อนจะหยิบเมนูมาวางไว้ตรงหน้าเพื่อนสาว
“ที่ฝึกงานเธอเป็นไงบ้าง?”
คำถามของซอลลี่ทำให้สีหน้าของชานยอลเปลี่ยนไปทันที
“ทำไมอะ? ไม่ดีหรอวะ?” คริสตัลถามขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนเปลี่ยนไป
“พี่ที่ดูแลฉันอะดี ดีมากกกกกก แต่รองประธานบริษัทอะโรคจิตคิดแล้ว...อี๋ยยย!! น่ารักเกียจ!!”
ชานยอลบอกพลางลูบต้นแขนตัวเองไปมาอย่างรังเกียจคนที่กำลังพูดถึง
“มันขนาดนั้นเลยหรอยอลลี่?” ชางมินอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้เมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนน้องสาวเล่าให้ฟัง
“จริงๆ เอ่อ! ว่าแต่พี่เถอะ วันนี้ก็เริ่มฝึกสอนแล้วสินะ”
“อ่อครับ รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันเวลามีคนมาเรียกว่าอาจารย์ ฮ่าๆๆๆ” ชางมินเล่าไปหัวเราะไป
“เห้ยยย น่ารักจะตายแบบ อาจารย์ขา~ อะไรงี้ ฮ่ะๆ” ชานยอลพูดล้อเลียดชางมินอย่างสนุกปาก
ทั้งห้าคนทานข้าวกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน แต่ความสนุกนั้นก็ต้องหมดลงเมื่อใครบ้างคนเข้ามา
“ยอลลี่ แอบโดดงานหรอ?....”
“โอ้วววว มายก๊อดดดด!!” ฮยอนอาถึงกับอุทานออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาทักชานยอลคือใคร!
“ท่านรองคะ...นี่มันเวลาพักเที่ยงนะคะ” ชานยอลยิ้มและกัดฟันพูดกับอีกคน
“คุณออกมาก่อนเวลาพักห้านาที”
ชานยอลหรี่ตามองอีกคน เพราะคำสรรพนามที่เปลี่ยนไป
‘อีตานี่มันจะเอายังไงกับชีวิตกันแน่’
“เอ่อ...ขอโทษครับ คือผมแค่ชวนยอลลี่มาทานข้าว อย่าว่าอะไรน้องเขาเลย มันเป็นความผิดของผมเอง” ชางมินลุกขึ้นรับหน้าแทนชานยอล
“อ่อ...นี่แฟนหรอ?” คริสถามพร้อมกับมองไปยังผู้ชายที่สูงพอๆ กัน
“เอ่อ....”
“บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องเดียวที่ท่านคิดถูกก็ได้นะคะ”
ชานยอลชิงพูดขึ้นมาก่อนที่ชางมินจะตอบทำให้ชางมินเริ่มงงกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นไป แต่พอจะแก้ตัวก็ถูกฮยอนอาสะกิดเบรคเอาไว้ซะก่อน
“กลับไปทำงานได้แล้ว ตั้งแต่บ่ายนี้เป็นต้นไปคุณต้องมาทำหน้าที่เป็นเลขาให้กับผม”
คริสบอกกับหญิงสาวที่ตอนนี้ลุกขึ้นมาประจันหน้ากับเข้า
“เลขา.....หึ เลขาส่วนตั๊ว ส่วนตัวก็มีอยู่แล้วนี่คะท่านรอง จะให้ฉันไปเป็นเลขาให้อีกทำไม”
ชานยอลตอกกลับอีกคนไป
“อยากให้เป็นมีอะไรไหม” ร่างสูงถามกลับไปด้วยท่าทางกวนๆ
“เดี๋ยวนะ! พี่คริส...พี่เป็นเจ้านายของยัยยอลลี่หรอ?” คริสตัลถามออกไปหลังจากนั่งดูเหตุการณ์มาสักครู่หนึ่ง
“ครับ แต่เพื่อนเราเขาออกมาพักก่อนเวลาตั้งแต่วันแรกเลยนี่สิ”
“แค่ห้านาทีคงไม่ทำให้บริษัทพี่ล่มจมหรอกมั้งคะพี่คริส”
ซอลลี่ผู้ที่ไม่เคยพูดอะไร อดไม่ได้ที่จะเถียงขึ้นมา เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มวุ่นวาย
“ทุกวินาทีของเข็มนาฬิกามีค่าเสมอ ไม่ว่าจะกี่นาทีก็มีค่าต่องานของเรา” คริสบอกพร้อมกับจ้องหน้าหญิงสาวร่างโปร่ง
ยิ่งเห็นหน้า ยิ่งได้ยินคำพูดของอีกคนมากเท่าไหร่ชานยอลยิ่งรู้สึกเกลียดอีกคนมากขึ้นเท่านั้น มือเรียวคว้ากระเป๋าของตัวเองขึ้นมาสะพายไว้ข้างตัวก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ อีกคน
“คุณบอกว่าเวลามีค่าทุกนาที.....ก่อนจะเห็นค่าของเวลา ช่วยมองเห็นคุณค่าของผู้หญิงให้ได้เสียก่อนดีไหมคะ? คุณคริส!”
ชานยอลบอกกับอีกคนก่อนจะเดินกระแทกไหล่กว้างของคริสออกไป เหลือไว้เพียงกลุ่มเพื่อนและชางมินที่มองตอนจบของเหตุการณ์นี้แบบงงๆ
“ท่านประธานไม่กลับหรอคะ? นี่มันถึงเวลางานแล้วเวลาทุกนาทีมีค่านะคะท่าน” ฮยอนฮาถามร่างสูงพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างประชดประชัน
“ไม่ต้องมาไล่พี่เลยนะ”
“พี่คริส พี่เป็นอะไรวะ? สมัยเรียนเราอุตส่าห์ช่วยหาลู่ทางให้ได้เข้าใกล้ แต่พี่กลับมาทำกับมันแบบนี้ พี่หายไปเป็นปีโดยที่ไม่บอกใครแถมกลับพาคู่หมั้นมาด้วย เราจะไม่เชียร์พี่แล้วนะ” คริสตัลลากแขนคนตัวสูงออกมาพูดห่างๆ จากกลุ่มเพื่อน
“ก็แค่คู่หมั้น” คริสพูดหน้าตาย
“ถ้าฉันต่อยพี่ พี่จะโกรธฉันไหม”
คริสตัลบอกอีกคนกลับไปด้วยสีหน้าเดียวกัน
“ฮ่าๆ จะมาต่อยพี่ทำไม ก็แค่คู่หมั้น มันถอนหมั้นกันได้จะกลัวอะไร ทีคนแต่งงานกันแล้วยังเลิกกันได้เลย”
“พี่นี่...จริงๆเลย กลับไปได้ละ!!” คริสตัลมองหน้ารุ่นพี่อย่างอารมณ์เสียก่อนจะไล่อีกคนให้กลับไป
“ไอ้กลับน่ะกลับแน่.....แต่พี่อยากบอกให้รู้ว่า พี่ยังเหมือนเดิมนะ” ร่างสูงบอกกับรุ่นน้องก่อนจะเดินออกจากร้านไป
ยังเหมือนเดิม.....คำพูดขอคริสทำให้หญิงสาวยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีเลศนัย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อชางมินเรียกชื่อเธอขึ้นมา
“ตกลงเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมพวกเราถึงรู้จักเขาทุกคน?” ชางมินถามพร้อมมองหน้าน้องๆ สลับกันไปมา
“พี่ชางมินคะ.....ฉันขออะไรพี่อย่างนึงได้ไหม...........”
สายตาที่คริสตัลมองชางมิน อีกสองคนที่เหลือเข้าใจดีว่าคริสตัลต้องการอะไร....สิ่งที่เคยเกิดขึ้น มันกำลังจะกลับมาอีกครั้ง....และครั้งนี้มันต้องจบด้วยความสำเร็จอย่างแน่นอน
...........................................................Black Candy……………………………………….
“เป็นอะไรยอลลี่ ทานข้าวไม่อร่อยหรอ?” นานะถามขึ้นเมื่อเห็นเด็กสาวมีสีหน้าที่บึ้งตึงตลอดเวลาหลังจากกลับมา
“อาหารน่ะอร่อย แต่บรรยากาศในร้านมันไม่ค่อยดี ก็เลยหงุดหงิดนิดหน่อยอะค่ะ”
ชานยอลบอกพร้อมกับหยิบงานขึ้นมาทำต่อ
“เอ่อ.....น้องยอลคะ คือท่านรองให้หนูไปนั่งหน้าห้องอ่ะค่ะ”
ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่คริสบอก คือชานยอลต้องไปทำหน้าที่เป็นเลขาให้กับเขา ร่างโปร่งได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะมุ่งหน้าไปห้องทำงานรองประธานแบบไม่บอกไม่กล่าวทันที
“นี่! ขอนั่งที่เดิมได้ไหม?” ชานยอลถามคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“ทำไมไม่มานั่งหน้าห้องล่ะ?” คริสเงยหน้าขึ้นมาถามอีกคน
“นั่งตรงนี้ไม่มีคนคุยด้วย”
“คุยกับพี่นี่ไง” คริสบอกพร้อมกับยิ้มให้
“ไม่อยากคุยกับคนที่เปลี่ยนคำสรรพนามไปเรื่อยเดี๋ยวพี่เดี๋ยวผม ฉันคุยกับคนแบบนี้ไม่รู้เรื่อง” ร่างโปร่งบอกอย่างไม่สบอารมณ์
“โอเคๆ พี่อย่างเดียวก็ได้”
“ฉันขอนั่งที่เดิม” ชานยอลกลับมาพูดประเด็นเดิมอีกครั้ง
“ตามใจ อยากนั่งตรงไหนก็นั่ง แต่ถ้าพี่เรียกต้องมาให้ทันก็แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ!”
“เดี๋ยว!” คริสเรียกขึ้นมาขณะที่อีกคนกำลังจะเดินออกจากห้อง
“ว่า?” ใบหน้าเรียวเอียงลงเล็กน้อยเป็นเชิงถาม
“ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ไปทานข้าวเที่ยงกับพี่นะ”
คริสบอกอีกคนพร้อมกับสีหน้าที่ใครเห็นแล้วเป็นต้องยอมตอบตกลง
“ถ้าขอตอบว่าไม่ล่ะ?”
“ไม่อนุญาต”
“แล้วจะถามเพื่อออออ!!! โว๊ะ!!”
หญิงสาวว๊ากออกมาก่อนจะออกจากห้องไปพร้อมกับอารมณ์เหวี่ยงตามสไตล์ มันทำให้คริสสนุกทุกครั้งที่ชานยอลเป็นแบบนี้
มันทำให้ชีวิตของคริสกลับมาสดชื่นอีกครั้ง.....
ความคิดเห็น