ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:KrisYeol] AFTER MIDNIGHT

    ลำดับตอนที่ #2 : After Midnight : 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 57



    themy  butter



     

    ครับแม่...ถึงแล้วครับ กำลังเดินทางไปบ้านโฮสต์ครับ...ครับผม แม่ก็ดูแลตัวเองเหมือนกันนะครับ ครับ ผมรักแม่น้า~ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ

     

    เด็กหนุ่มร่างโปร่งยิ้มให้โทรศัพท์หลังจากกดวางสายก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋ากางเกงเมื่อเห็นว่ามีคนชูกระดาษที่มีชื่อของเขาอยู่หน้าเกททางออก

     

    สวัสดีครับ ผมชานยอลเจ้าของชื่อบนกระดาษนี่ครับร่างโปร่งบอกคนที่มารอรับเขาเป็นภาษาญี่ปุ่น ภาษาของประเทศที่เขาได้เดินทางมา

     

    โอ๊ะ! นายนี่เอง แต่พูดเกาหลีเถอะ เพราะฉันก็เป็นคนเกาหลีเหมือนกัน เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกับนายนั่นแหละเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันบอกเป็นภาษาบ้านเกิดของทั้งคู่ก่อนจะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

     

    อ่อ งั้นก็ดีเหมือนกัน เพราะผมก็ไม่ค่อยคล่องภาษาญี่ปุ่นสักเท่าไหร่ ฮ่าๆๆชานยอลบอกพร้อมกับหัวเราะออกมา

     

    โอเคๆ ว่าแต่นายชื่อชานยอลใช่ไหม? ฉันชื่อจงอิน แต่เรียกไคก็ได้นะ แล้วก็ไม่ต้องใช้ศัพท์เป็นทางการกับฉันหรอก คนกันเองคนผิวเข้มกว่าบอกพร้อมกับยิ้มให้ร่างโปร่งอีกครั้ง

     

    อื้มไค ยินดีที่ได้รู้จักนะชานยอลบอกพร้อมกับยืนมือออกมาจับมือของอีกคนเพื่อเป็นการยืนยันการทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ

     

     

     

    ทั้งคู่ใช้เวลาเดินทางออกจากท่าอากาศยานคันไซ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงโอซาก้าเป็นที่เรียบร้อยและที่นี่คือที่ที่ชานยอลจะต้องมาพักในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนและต้องอยู่ที่โอซาก้าเป็นเวลา 10 เดือนโดยมีไคเป็นรูมเมทและมีคนในตระกูลนากามูระรับหน้าที่เป็นโฮสต์แฟมิลี่ของเด็กหนุ่มทั้งคู่

     

    เมื่อไคขับรถมาถึงที่พักก็ทำให้ชานยอลถึงกับตาโตเมื่อเห็นอาณาเขตของบ้านที่เขาจะต้องมาอยู่ถึง 10 เดือน เพราะมันดูกว้างและถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้หรือจะเรียกว่าป่าก็ไม่ผิด เพราะในบริเวณของบ้านถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่มากมายจนแสงแดดจ้าแทบจะไม่สามารถส่องลงมาถึงพื้นดินได้

     

    ภายในเขตรั้วก็มีบ้านอยู่หลายหลัง แต่ละหลังก็ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณและหากมองดูบรรยากาศโดยรอบให้ดีๆแล้วเรียกได้ว่ายุคเอโดะดีๆนี่เอง

     

    นี่...เจ้าของบ้านเขาเป็นมาเฟียหรือไง?เมื่อชานยอลมองไปรอบๆบริเวณบ้านก็อดที่จะถามคนที่อยู่มาก่อนเสียมิได้

     

    บ้านนากามูระน่ะไม่ใช่ แต่บ้านใหญ่อะ...ใช่!”

     

    บ้านใหญ่?ร่างโปร่งมีอาการงงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนใหม่

     

    อยู่ไปเดี๋ยวก็รู้เอง

     

    เฮ้ยเอาจริง? เป็นจริงๆหรอ?ชานยอลถามอีกคนเพื่อความแน่ใจ

     

    ดูบ้านเขาสิ ในบริเวณรั่วนี่บ้านเขาทั้งนั้นแหละ รวมถึงบ้านของนากามูระด้วยไคบอกพร้อมกับพาร่างโปร่งเดินไปยังบ้านพัก

     

    อ้าว แล้วทำไมนากามูระถึงไม่เป็นล่ะ?

     

    ก็สองลุงป้านากามูระเป็นแค่คนดูแลบ้าน ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเจ้าของบ้านเลย

     

    อ้าว! แล้วทำไมถึงมาเป็นโฮสต์เราได้ล่ะเนี้ยร่างโปร่งยังคงงงกับความสัมพันธ์ของเจ้าของบ้านที่เขาจะมาอยู่ด้วย

     

    ก็โรงเรียนที่เราจะไปเรียนน่ะเจ้าของโรงเรียนก็คือเจ้าของบ้านเรานี่แหละ ทางผู้ใหญ่ของบ้านเห็นว่าคุณลุงคุณป้าแกไม่มีลูก เขาคงกลัวแกจะเหงาก็เลยให้นักเรียนแลกเปลี่ยนมาอาศัยอยู่ด้วย

     

     

    ไคเดินไปด้วยเล่าไปด้วย ซึ่งชานยอลก็ฟังสิ่งที่อีกคนเล่าอย่างตั้งใจ ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าเรื่องราวภายในรั่วบ้านหลังนี้ดูแปลกๆ จริงๆมันแปลกตั้งแต่บรรยากาศรอบบ้านแล้ว เพราะทุกอย่างมันดูมืดเกินกว่าที่จะเรียกว่าร่มรื่น อากาศที่ร้อนอบอ้าวเพราะอยู่ในช่วงฤดูร้อนแทบจะหาไม่ได้จากอาณาเขตบ้านหลังนี้

     

    แต่ชานยอลต้องพับความสงสัยนั่นเก็บเอาไว้เมื่อเขาเห็นตัวบ้านที่เขาจะได้มาร่วมอาศัย บ้านหลังเล็กๆ ขนาดพออบอุ่นและยังคงความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้ มันคงเป็นพื้นที่เดียวที่แสงสว่างสามารถสาดส่องลงมาได้อย่างเต็มที่ ความสวยงามของมันทำให้ชานยอลรู้สึกตื่นเต้น บรรยากาศที่ร่มรื่นและสงบไร้เสียงรถรามารบกวนคงจะทำให้ชีวิต 10 เดือนต่อจากนี้ผ่านไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน

     

    ชานคุง?

     

    เสียงเรียกของผู้หญิงคนหนึ่งฉุดให้สติของชานยอลหลุดออกมาจากโลกของความคิด ร่างโปร่งหันไปมองตามเสียงเรียกก็พบว่ามีหญิงวัยกลางยืนยิ้มให้กับเขาอยู่หน้าประตูบ้าน

     

    อ่อชานยอล นี่คุณป้าชิโอริคนที่เราต้องอยู่ด้วยหนุ่มผิวเข้มบอกร่างโปร่งก่อนจะเดินนำหน้าเข้าไปหาหญิงวัยกลาง

     

    เอ่อ คอนนิจิวะ วาตาชิวะชานยอลเดสร่างโปร่งบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมกับยิ้มให้หญิงวัยกลางอย่างร่าเริง

     

    สวัสดีจ้ะ น่ารักจริงๆเลยเด็กคนนี้ เอาของเข้าไปเก็บในบ้านก่อนเถอะลูกเธอบอกก่อนจะเข้าไปช่วยรับของบางส่วนจากชานยอล

     

    แล้วลุงโชไปไหนอะป้า?ไคถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าชิโอริอยู่บ้านเพียงลำพัง

     

    ลุงเขาเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่น่ะจ้ะ เห็นว่ามีเรื่องต้องเหนื่อยกันอีกแล้วหญิงวัยกลางบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

     

    เอ่อ ขออนุญาตถามได้ไหมครับ? คือ...มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับ?

     

    อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ แค่มีเรื่องวุ่นๆนิดหน่อย ชานคุงไม่ต้องไปคิดมากหรอกลูกเดินทางมาเหนื่อยๆป้าว่าเราไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะนี่ก็ใกล้จะมืดแล้ว เดี๋ยวจะได้มาก่อนข้าวกันแล้วเราจะได้มีเวลาพักผ่อนด้วย ไคคุงพาเพื่อนไปที่ห้องสิลูกชิโอริบอกก่อนจะมอบหน้าที่ให้ไค

     

    เอาของนายไปเก็บกันเถอะ

    หนุ่มผิวเข้มบอกก่อนจะเดินนำไปยังห้องนอนที่ชานยอลจะต้องพักและมันก็คือห้องเดียวกันกับไคนั่นเอง

     

     

     

    หลังจากทานข้าวมื้อเย็นเสร็จเป็นที่เรียบร้อยทั้งชานยอลและไคก็กลับเข้ามาภายในห้องนอนเพื่อช่วยกันจัดของของชานยอล ทั้งสองดูสนิทกันอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่มาจากเกาหลีเหมือนกันมันจึงทำให้เขาทั้งสองคนคุยกันได้ง่ายมากขึ้น

     

    ไคนายเคยเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ป๊ะ?ชานยอลถามรูมเมทของตัวเองในขณะที่กำลังเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้

     

    เข้าไปไม่ได้หรอก โดนป้ากับลุงเขาห้ามเอาไว้

     

    อ้าว! ทำไมต้องห้าม?

     

    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เคยได้ยินเด็กในโรงเรียนมันคุยกันว่าลูกชายเจ้าของบ้านเป็นแวมไพร์

     

    เฮ๊ยเดี๋ยว!? แวมไพร์? จะบ้าหรอมันมีที่ไหน นี่มันศตวรรษที่เท่าไหร่เข้าไปแล้ว ฮ่าๆๆชานยอลหัวเราะออกเมื่อได้ยินสิ่งที่ไคบอก

     

    ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อหรอกนะ แต่เท่าที่สังเกตดู มันก็แปลกจริงๆแหละ ฉันไม่เคยเห็นลูกชายเจ้าของบ้านออกไปไหนในตอนกลางวันเลย แต่เขากลับออกไปคุยงานที่ตระกูลเขาทำอยู่ในเวลากลางคืน แต่บางคนก็บอกว่าเขาเป็นโรค โรคอะไรสักอย่างอะฉันจำชื่อมันไม่ได้ไคบอกพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด แต่คิดเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะคิดไม่ออกเสียที

     

    เอาเถอะๆ ช่างเขาเถอะ เขาจะเป็นอะไรก็เรื่องของเขา เรามาคุยเรื่องเรียนกันดีกว่า

     

    ชานยอลปัดความสนใจในเรื่องของลูกเจ้าของบ้านทิ้งไปก่อนที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนไปคุยเรื่องที่จะต้องทำต่อจากนี้แทนและไม่นานทั้งคู่ก็เข้านอนกันไป แม้ว่าจะยังไม่ถึงเที่ยงคืนแต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทำให้ชานยอลหลับได้สนิทโดยไม่ต้องกลัวความรู้สึกแปลกที่แปลกทาง

     

    และนั่นก็ทำให้ชานยอลพลาดสิ่งที่เขาและไคได้พูดถึงเมื่อตอนหัวค่ำ เพราะเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนก็มีเสียงรถขับเคลื่อนผ่านบ้านที่ชานยอลได้มาอาศัยไปและคนที่อยู่บนรถคันนั้นก็คือคนเดียวกับที่ไคได้เล่าให้ชานยอลฟังนั่นเอง...

     

    -------------------------------------------------------------

     

    ผ่านไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ชานยอลก็ถึงกับเพลียกับการใช้ชีวิตในโรงเรียน เพราะเรื่องของภาษาทำให้ชานยอลสื่อสารกับเพื่อนร่วมชั้นได้ลำบาก แต่ก็ยังดีที่เขาพอจะรู้ภาษาญี่ปุ่นอยู่บ้างเล็กน้อยเขาจึงสามารถฝ่าฟันปัญหานี้มาได้อย่างทุลักทุเล

     

    และวันนี้ก็เป็นวันหยุดของสัปดาห์แรกที่เขาได้เดินทางมาเรียนที่ญี่ปุ่นและมันก็เป็นวันที่ไม่มีใครอยู่บ้านเลยแม้แต่คนเดียวเพราะไคต้องออกไปทำรายงานกับเพื่อนร่วมชั้นของเขาส่วนนากามูระทั้งสองคนก็ต้องไปทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบทำให้ทั้งบ้านเหลือชานยอลเพียงแค่คนเดียว

     

    ด้วยความที่ร่างโปร่งไม่มีอะไรทำเขาจึงออกไปเดินเล่นนอกบ้าน บรรยากาศที่เงียบสงบมันทำให้เขาอยากเดินไปเรื่อยๆ ตลอดทางมีเสียงจักจั่นส่งเสียงร้องเหมือนในซีรี่ย์ญี่ปุ่นที่เขาเคยดูเป๊ะ และเมื่อยิ่งเดินต่อไปแสงสว่างก็เริ่มถูกต้นไม้บดบังไป ร่างโปร่งสำรวจไปรอบๆพื้นที่พาลให้คิดไปว่าเจ้าของบ้านคงเป็นคนที่รักธรรมชาติเป็นแน่ ถึงได้เลือกทำเลที่ตั้งได้ออกมาห่างจากผู้คนมากมายและสร้างให้มันเป็นป่าที่สวยงามได้ขนาดนี้

     

    ความสวยงามและความร่มรื่นทำให้ชานยอลหลงเพลิดเพลินไปกับมันจนลืมนึกไปว่าตัวเองเดินออกมาไกลเท่าไหร่แล้วและเขาก็มานึกได้อีกทีก็ต่อเมื่อเห็นบ้านญี่ปุ่นโบราณที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เขาอยู่หลายเท่าตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

     

    ชานยอลรู้สึกใจว่าใจของเขากำลังเต้นแรง เพราะมีบางอย่างบอกว่าเขาไม่ควรมาเจอบ้านหลังนี้ ความใหญ่โตและความเก่าแก่ทำให้บ้านหลังนี้ดูน่าเกรงขาม ความเงียบสงบยิ่งทำให้ชานยอลรู้สึกหวั่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าที่บ้านหลังนี้มีอะไร

     

    แต่ความรู้สึกกลัวก็สามารถเอาชนะความอยากรู้ของชานยอลไปได้ ร่างโปร่งรีบเดินออกมาจากบริเวณบ้านหลังนั้นทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าตระกูลนี้เขาทำอาชีพอะไรกัน

     

     

    ได้ข่าวว่าเจ้าของบ้านเป็นมาเฟียแหละ ตอนได้ยินครั้งแรกนะบอกเลยว่าอยากหัวเราะให้ฟันร่วงมาก ไม่คิดว่าไอ้มาเฟียญี่ปุ่นนี่มันมีอยู่จริง

     

    เฮ๊ยจริงดิ! แต่ดีนะที่เป็นแค่มาเฟีย ถ้าเป็นนินจาด้วยนี่ฮาเลยนะ ฮ่าๆๆๆ

     

    บ้าหรอ! ไม่ใช่นารูโตะ ฮ่าๆๆๆ

     

    หลังจากที่ถอยห่างออกมาจากบ้านใหญ่หลังนั้น ชานยอลก็หลบมานอนคุยโทรศัพท์อยู่กับพี่สาวของตัวเองอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นเมเปิ้ล

     

    เป็นมาเฟียนี่ยังว่าพอจะเป็นไปได้ แต่เป็นแวมไพร์นี่สิเหลือเชื่อชานยอลยังคงเล่าเรื่องราวที่เขาได้ยินมาให้ผู้เป็นพี่สาวฟัง

     

    โห้ ไปอยู่โน้นอาทิตย์เดียวได้ยินเรื่องแปลกๆมาเยอะเลย ว่าแต่ใครเป็น?

     

    ลูกชายเจ้าของบ้าน แต่รูมเมทผมเขาเล่าให้ฟังว่าเขาเป็นโรค โรคที่ไม่สามารถใช้ชีวิตตอนกลางวันได้ แล้วมันก็น่าสงสัยจริงๆนะ เพราะบริเวณบ้านนี่อย่างกะป่า ไม่รู้จะรักธรรมชาติไปไหน ปลูกต้นไม้ซะแน่นหนาคงกะว่าจะไม่ให้แสงอาทิตย์ส่องลงมาได้เลยงั้นแหละ

     

    เฮ๊ยๆๆ เดี๋ยวนะๆ โดนแดดไม่ได้...แวมไพร์...โรคแวมไพร์...อ๋อๆๆๆ แกๆ พี่นึกแล้ว โรคโพรพีเรียไง! โรคแวมไพร์ แกลองไปหาอ่านดูดิ พี่เคยอ่านเจอ มันน่าสนใจมาก!!” ยูราผู้เป็นพี่สาวรีบบอกผู้เป็นน้องทันทีที่นึกถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้

     

    โรคโพรพีเรียงั้นหรอ..คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อนึกถึงสิ่งที่ผู้เป็นพี่สาวพูดขึ้นมา

     

    ใช่ๆ โรคนี้น้อยคนที่จะเป็นและคนๆนั้นจะไม่สามารถโดนแดดตอนกลางวันได้เพราะมันจะทำให้ผิวของคนที่เป็นโรคนี้คล้ำและแตกได้ในที่สุด

     

    ความเป็นไปได้ในสิ่งที่ยูราพูดถึงตอนนี้มีสิทธิ์เป็นได้ถึง 50% นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกชายเจ้าของบ้านไม่สามารถใช้ชีวิตได้ในตอนกลางวัน แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลก็ไม่ปักใจเชื่อว่าเรื่องเล่าเหล่านั้นจะเป็นเรื่องจริง ใครจะไปรู้ว่าเหตุผลที่แท้จริงคนๆนั้นอาจจะมีอุปนิสัยติสต์แตกกว่าคนทั่วไปจึงเลือกใช้ชีวิตในตอนกลางคืนที่ไร้ผู้คนมากมายก็เป็นได้หรืออีกเหตุผลที่สามารถเป็นไปได้ก็คือธุรกิจของคนตระกูลนี้นั่นเอง

     

    หลังจากที่ชานยอลวางสายจากพี่สาวของตัวเองเขาก็ยังคงเลือกที่จะนอนเล่นอยู่ใต้ต้นเมเปิ้ลต่อไป และเพราะบรรยากาสที่ร่มรื่นและเงียบสงบทำให้ชานยอลเผลอหลับไปในที่สุด

     

     

    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่เมื่อร่างโปร่งลืมตาขึ้นมาอีกทีก็พบว่าเป็นเวลาเย็นพอสมควรแล้วและนี่คิดว่าเรียกความตกใจให้ชานยอลได้มากพอสมควรแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ร่างโปร่งตกใจได้ยิ่งกว่าก็คือมีชายหนุ่มร่างสูงที่สวมชุดดำทั้งตัวนั่งจ้องมองเขาอยู่ใต้ต้นไม้ฝั่งตรงข้ามกับม้านั่งที่เขานอนอยู่

     

    เฮ๊ย!!!! คุณเป็นใคร!!”

     

    ชานยอลร้องออกมาด้วยความตกใจและแสงสว่างที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดทำให้เขาพอมองเห็นคนฝั่งตรงข้ามได้บ้าง รูปร่างของเขาน่าจะสูงกว่าชานยอลเพียงเล็กน้อยและเรียกว่าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเรื่องหน้าตาก็ว่าได้ แต่หน้าตาไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นคนญี่ปุ่นเลยแม้แต่น้อย

     

    แล้วคุณเป็นใคร?ร่างสูงถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบ

     

    ผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มีบ้านนากามูระเป็นโฮสต์ แล้วคุณ..เป็นใคร? มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้?!”

     

    ชานยอลถามอีกคนไปด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความตกใจหลงเหลืออยู่ แต่อีกคนกลับไม่ได้ตอบอะไรกลับมาและทำเพียงแค่ลุกขึ้นเดินมานั่งลงที่ม้านั่งข้างๆกันกับชานยอลและนั่นก็ทำให้ร่างโปร่งได้เห็นว่าอีกคนมีผิวพรรณที่ขาวซีดกว่าคนทั่วไป

     

    ผมต้องไปนั่งอยู่ตรงนั้นเพราะคุณแอบมานอนอยู่บนที่นั่งของผมนี่ไงร่างสูงยังคงบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเหมือนเดิม

     

    แล้วจะมานั่งอะไรมืดๆค่ำๆ ตกใจหมดนึกว่าโดนผีหลอก!” ชานยอลบอกพร้อมกับยกมือขึ้นทาบลงบนหน้าอกของตัวเอง

     

    ก็แค่อยากจะออกมาเจอแสงแดดบ้างก็แค่นั้นเองเสียงทุ้มบอกอย่างอ่อนเพลียราวกับคนเพียงตื่น

     

    ดูแดด? แดดตอนนี้เนี้ยนะนี่คุณเพี้ยนไป หรือเป็น......................

     

    ชานยอลเว้นคำพูดไปเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เรื่องราวทั้งหมดที่เขาได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เขาเดินทางมาที่ญี่ปุ่น รวมไปถึงเรื่องที่ร่างโปร่งได้คุยกับพี่สาวไปเมื่อตอนกลางวันค่อยๆไหลย้อนกลับมาในความคิดของเขาอีกครั้ง

     

    เป็นอะไร?โทนเสียงเรียบนั่นถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าชานยอลนิ่งเงียบไป

     

    คุณเป็น..ลูกเจ้าของบ้านหลังนี้...ใช่หรือเปล่า??”  ร่างโปร่งตัดสินใจถามคนข้างๆออกไป

     

    อีกไม่นานคงได้เป็นเจ้าของบ้านแล้วมั้ง

     

    ทันทีที่ได้ยินประโยคจากปากของอีกคนชานยอลรีบถอยตัวออกห่างในทันที  เพราะคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาในตอนนี้คือคนที่เขาเพิ่งเอ่ยถึงเมื่อตอนกลางวันจริงๆ และดูเหมือนว่าคนนี้จะมีสิ่งที่ต่างจากคนทั่วไปจริงๆ

     

    ตอนนี้เป็นลูกเจ้าของบ้าน โอเครู้จักแล้วและตอนนี้มันก็มืดแล้ว เอ่อ..ผมว่าผมขอตัวกลับก่อนดีกว่านะชานยอลว่าพร้อมกับเตรียมตัวลุกขึ้นหนี แต่มือหนากลับคว้าข้อมือของร่างโปร่งเอาไว้เสียก่อน และมันก็ทำให้ชานยอลสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อสัมผัสจากมือนั้น

     

    .....ไร้ความอบอุ่น

     

     

    คุณชื่ออะไร?

     

    ชะ ชานยอล..ผมชื่อชานยอล แต่เดี๋ยว! นี่คุณพูดภาษาเกาหลีได้?!” ความแปลกใจในเรื่องภาษาที่อีกคนใช้พูดสามารถกลบความรู้สึกกลัวเมื่อครู่ไปได้เล็กน้อย

     

    ก็คิดว่าคุณคงไม่ใช่คนญี่ปุ่นและบังเอิญว่าผมพูดภาษาเกาหลีได้

     

    อ่อ แล้วไป ตะ แต่ผมขอตัวก่อนนะชานยอลถอยตัวออกห่างอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสักครู่เขากำลังหาทางหนีจากคนตรงหน้า

     

    เดี๋ยวสิ คุณยังไม่รู้จักผมเลย

     

    ห่ะ?คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคที่อีกคนพูด และได้แต่พูดอยู่ในใจลึกๆว่า ใครจะอยากไปรู้จักแกว่ะ

     

    ผมชื่อคริส เป็นลูกชายเจ้าของบ้านอย่างที่คุณเข้าใจ แต่ไม่ได้เป็นปีศาจ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวผมหรอก

     

    คริสบอกก่อนจะยิ้มบางๆ ให้กับชานยอล แสงที่เพิ่งหมดไปพร้อมกับตะวันที่ลับขอบฟ้าทำให้เขาเห็นแววตาของชานยอล แววตาที่บอกได้ว่าร่างโปร่งกำลังกลัว

     

    คุณรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังกลัวคุณ?ร่างโปร่งถามออกไปโดยพยายามรักษาเสียงในระดับปกติเพราะยิ่งร่างสูงพูดถูกเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ชานยอลกลัวเขามากขึ้นเท่านั้น

     

    ผมเดาจากน้ำเสียงคุณน่ะ ไปเถอะ คุณกลับไปได้แล้ว หายตัวมานานเดี๋ยวคุณนากามุระจะเป็นห่วง

    คริสบอกด้วยน้ำเสียงที่เริ่มกลับมาเป็นปกติและท่าทางเขาเริ่มดูมีแรงขึ้นมากว่าตอนแรกที่ชานยอลเห็น

     

    อือ ผมไปแล้วนะ แล้วก็ ขอโทษด้วยที่มาแย่งที่นั่งอาบแดดของคุณ ไปล่ะร่างโปร่งบอกก่อนจะก้าวขาออกไป แต่ก็ต้องหยุดอีกครั้งเมื่อคริสพูดขึ้นมา

     

    คราวหน้าถ้าง่วงก็แวะเข้าไปที่บ้านผมก่อนก็ได้ อย่ามานอนอยู่ในที่แบบนี้ มันอันตราย

     

    ชานยอลพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

    นี่น่ะหรอ..ลูกชายเจ้าของบ้านที่ถูกกล่าวถึง

    นี่น่ะหรอ..ลูกมาเฟีย

    นี่น่ะหรอ..แวมไพร์

     

    หากคริสเป็นแวมไพร์อย่างที่มีคนพูดถึงจริง มันคงจะไม่ใช่แวมไพร์ที่มีลุคสุดคูลอย่างในหนังที่หลายๆคนเคยดูอย่างแน่นอน เพราะเขาดูอ่อนแอ อ่อนแอเกินที่จะไปทำร้ายใครได้ ในช่วงเวลาที่มีแสงสว่างแม้มันจะมีเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้เขาดูเหมือนคนที่เป็นโรคร้ายที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อ แต่หลังจากนี้ชานยอลยังไม่รู้ว่าคริสจะเป็นยังไง เขาอาจจะอ่อนแอภายใต้แสงอาทิตย์ แต่หากเป็นแสงจันทร์คริสจะเป็นยังไงชานยอลยังไม่สามารถรับรู้ได้ในตอนนี้

     

    แต่ลางสังหรณ์มันบอกเขาว่าจะต้องได้รับรู้อะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับคนๆนี้ได้อีกในไม่ช้าอย่างแน่นอน...








    ตอนแรกอาจจะผ่านไปแบบสั้นๆ แต่รับรองว่าเนื้อหาหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอน #อตมน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×