คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ยังไม่จบ...เพราะอย่างนี้ก็ต้องเอาคืน (อย่างนี้ต้องเอาคืน 2)
"ไอ้หยา...เนี่ยหรอแผนของแก" กิพูด
"ใช่ค่ะ สรุปเธอจะให้พลอยจ่ายหมดนี้เลยน่ะหรอคะ"
"อำ อัย เอ้า อ้อ อ้วก แอ ออก อ่า อะ อ่วน อัย"
"มันพูดอะไรของมันวะ" ฟางเริ่มทำท่าขยะแขยงเพื่อนของตัวเอง ที่ตอนนี้กำลังกินขนมอยู่เต็ม ปาก
พรวด!! แค่กๆ แค่กๆ
"ยี้...มันโดนพลอยนะคะ"
"สกปรกสุดๆ เลยวะ"
"แหวะ...ขยะแขยงอ่ะ"
"เฮ้ย! แค่นี้เองนะ
ทำเป็นบ่น -_-^ " แฮ่ๆ ฉันสำลอกขนมที่มีอยู่เต็มปากออกมาหมดเลย แต่ก็เป็นเพราะยัยบ้าพวกนั้นอยากให้ฉันพูดให้รู้เรื่องเองนะ อย่าโทษฉันคนเดียวสิก็ผิดด้วยกันนั่นแหละ ถือว่าเจ๊ากันล่ะกัน^^
"ไอ้หยา...ไหนวะเรื่องที่แกบอกว่าจะให้พวกฉันช่วยน่ะ" ฟางพูดออกมาอย่างอารมณ์ บ่ จอยสุดๆ
"รอก่อนสิ ก็กำลังจะบอกเดี๋ยวนี้ไง แต่แบบว่ากองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง พวกแกไม่เคยได้ยินหรอ นโปเลียนคนที่ปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นคนพูดเอาไว้เลยนะโว้ย" ฮึ่มๆ โชว์กึ๋ยกันหน่อย
"เขารู้กันตั้งนานแล้วคะ"
"หรอ -_-^" ยัยพลอยบ้า ไม่รับมุกกันบ้างเลย
"เอ้า...แล้วสรุปเรื่องมันเป็นยังไงล่ะ พวกเรายังไม่รู้เรื่องเลย แล้วจะช่วยแกได้มั้ย"
"ใช่" ฟางกับพลอยเสริม
ตามจริงฉันก็ไม่อยากให้พวกแกต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยนะ แต่ว่าฉันตัวคนเดียวคงไม่ไหวแน่^^ อีกอย่างฉันรู้ว่าเพื่อนของฉันยังไงก็ต้องช่วยฉันแน่ ๆ ฉันเลยตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนๆ ที่น่ารักของฉันฟัง ตั้งแต่ตอนที่แม่ของพี่บอยมาอาละวาดและด่าว่าฉันกับแม่ ตามจริงแล้วถ้าด่าว่าฉันคนเดียวก็ยังพออภัยให้ได้อยู่หรอก แต่นี้มาด่าว่าแม่ฉันด้วย มันยอมไม่ได้... แล้วก็เรื่องที่ฉันเห็นแม่นั่งกอดรูปถ่ายพ่อแล้วร้องไห้ นี้แหละคือสิ่งสำคัญ เพราะตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยทำให้แม่ของฉันต้องร้องไห้เสียน้ำตาเลยนะ การทำให้บุพการีต้องเสียน้ำตาถือว่าเป็นบาปที่ร้ายแรงมาก ฉันจึงตัดสินใจว่าเรื่องนี้มันจะไม่จบง่ายๆ จนกว่าจะมีใครสักคนต้องเจ็บปวด อย่างที่แม่ของฉันต้องมาเสียน้ำตาแล้วก็ทำให้ฉันเจ็บปวดอย่างนี้ ถ้าเกิดแม่ทุกข์ใจเรื่องของฉันมากกว่านี้ แล้วไปอยู่กับพ่อบนสวรรค์ฉันจะอยู่ยังไงล่ะ ฉันจะต้องสู้ สู้เพื่อแม่และความสงบสุขของครอบครัวเรา สู้โว้ย > <
"เฮ้ย! มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรอ" กิพูดขึ้นมาอย่างแทบไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าไปด่าฉันและแม่ถึงหน้าบ้าน
"แม่แกน่ากลัวจะตาย ยังมีคนกล้าไปด่าถึงหน้าบ้านอีก ช่างกล้าจริงๆ วะ"
"พลอยแปลกใจตรงที่คุณแม่ของเธอร้องไห้มากกว่าคะ"
"ใช่" ทุกคนประสานเสียงพร้อมกัน
"นี่พวกแกเห็นแม่ฉันไม่มีอารมณ์อ่อนไหว ร้องไห้อย่างผู้หญิงงั้นหรอ" เห็นอย่างนี้แม่ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ ถึงจะโมโหร้าย ขี้บ่น แล้วก็ชอบใช้ความรุนแรงไปหน่อยก็เถอะ -_-^
"ยอมรับมาเถอะว่าแกก็คิดแบบนั้น ไอ้หยา" กิพูดขึ้นมาพร้อมกับเอามือตบไหล่ฉันเบาๆ
"เออ...แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นสักหน่อย" ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าก้มตา เพื่อที่จะได้หลบสายตาของพวกเพื่อนๆ
"เอาเป็นว่าเรามาวางแผนกันดีกว่าคะ"
"แล้วพวกเราจะเริ่มจากทำอะไรก่อนดีวะ ว่าไงไอ้กิ แกมันจอมวางแผนของกลุ่มอยู่แล้วนิ" ฟางพูด
"เอาเป็นว่าให้ไอ้หยาเสนอมาดีกว่า เพราะคนที่กำลังเจ็บปวดและแค้นที่สุดก็คือมัน ไอ้หยาแกอยากทำอะไรวะ บอกมาได้เลย พวกเราพร้อมจะช่วยอยู่แล้ว ใช่มั้ยพวกเรา"
"ใช่ค่ะ เธออยากให้เราช่วยอะไรก็บอกมาได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ"
"ถ้าเรื่องลงแรง ฉันก็ไม่หวั่นเหมือนกัน"
"อืม... ตอนนี้นะฉันอยากเอาถังขยะของเทศบาลทั้งหมดที่รถทับไม่แตกอ่ะ ไปกองสุ่มอยู่ที่หน้าบ้านของอีตาพี่บอย พวกแกว่าไง" ฉันตอบเพื่อนๆไปพร้อมกับทำท่าทางอย่างนักวิชาการ เท่ห์สุดๆ > <
"อืม...เป็นแผนที่สกปรกมาก แล้ว....ใครจะลากถังขยะมาให้แกวะ คนอื่นก็เห็นกันพอดี" ฟางตะโกนใส่หูฉันเต็มๆ เลย
"อาว...มันไม่ดีหรอ" ฉันยังสงสัย
"มันไม่ดีหรอกแบบนั้นน่ะ เวลาจะแก้แค้นใครก็อย่าให้คนอื่นเขาต้องมาเดือดร้อนด้วยสิ คิดดูนะคนที่ต้องเอาถังขยะไปเก็บก็คือ พวกเทศบาลนะ เอ้า...ใช้หัวคิดหน่อย" กิพูดอย่างมีเหตุผล ใช้ได้^^
"งั้นเอาปืนไปยิงเลยดีมั้ยคะ เรื่องจะได้จบ" พลอยเริ่มเสนอความคิด
"เหวอ...แบบนั้นก็ติดคุกสิวะ" ฟางพูด "ฉันว่าเราน่าจะเอาเกลือไปสาดที่หน้าบ้านดีมั้ย"
"เกลือนี้นะ..." ความคิดมันพอๆ กับฉันเลยที่จะเอาถังขยะของเทศบาลมากองรวมกันที่หน้าบ้านพี่บอย แถมของฉันยังเจ๋งกว่าอีก ^^
"เราว่า...ก็ดีนะ"
"O_O"
"พลอยก็คิดอย่างนั้นคะ"
"O_O"
"หา...ดีตรงไหนอ่ะ" ฉันสงสัย "ฉันว่าของฉันยังดีกว่าอีก -_-^"
"ก็ฉันอยากสาดเกลือนิ หนุกดี แถมเกลือก็ราคาไม่แพงด้วย" ฟางพูด
"อืม...เราเห็นด้วยนะ" กิเสริม
"พลอยก็ชอบคะ อยากเล่นสาดเกลือมานานแล้ว"
"ไหนบอกให้ฉันเป็นคนตัดสินใจไง" ฉันแย้งเจ้าพวกเพื่อนบ้าทันที สรุปนี้มันเรื่องของใครกันแน่
"เอาน่า...ก็พวกเราอยากเล่นสาดเกลือกันนิ" กิพูดขึ้นพร้อมกับตบไหล่ฉันเบาๆ
"งั้น...ฉันไปเอาเกลือที่ร้านก่อนนะโว้ย" ฟางพูดพร้อมกับเตรียมตัวไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปเอาเกลือมาจากที่ร้าน ลืมบอกไปค่ะว่ายัยฟางเป็นลูกเจ้าของร้านที่ขายพวกเครื่องเทศและวัตถุดิบในการประกอบอาหาร อย่างพวกของแห้งต่างๆ เช่น เกลือที่เราจะเอามาสาดใส่หน้าบ้านพี่บอยครั้งนี้ ก็จะเป็นเกลือจากร้านของยัยฟางคะ
"พลอยไปด้วยสิ" ว่าแล้วยัยพลอยก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถยัยฟางออกไป จะแนะนำครอบครัวของยัยฟางคนเดียวก็ใช่ที ขออนุญาตแนะนำครอบครัวยัยพลอยและยัยกิไปด้วยล่ะกันนะคะ ยัยพลอยเป็นลูกคุณหนูที่พ่อเป็นหมอส่วนแม่เป็นประธานบริษัทขนส่งสินค้าไทยออกขายต่างประเทศ ส่วนยัยกิเป็นลูกของอาจารย์มหาวิทยาลัย พูดง่ายๆ คือ พ่อแม่ของยัยกิเป็นอาจารย์นั้นเองคะ พวกเรามารู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนที่อนุบาลหมูน้อย และด้วยความบังเอิญสุดๆ ก็คือ พ่อแม่ของพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เรียนอยู่สมัยม.ปลายแล้ว แหม...บังเอิญมากเลยใช่มั้ยคะ เลยทำให้พวกเราจับกลุ่มอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก และรักกันมากอย่างนี้ไงล่ะคะ (พูดง่ายๆ คือ ไม่มีคนอื่นอยากคบด้วยเลยต้องมาจับกลุ่มกันเอง -_-^)อาจจะสงสัยถึงเรื่องหน้าตาของแต่ละคนนะ นั้นจะขออธิบายเลยล่ะกัน ยัยฟางหน้าออกหมวยอินเตอร์ แต่มีพละกำลังมหาศาล กิหน้าตาเรียบร้อยแต่เจ้าเล่ห์ มาดพี่สาว ส่วนพลอยจะหน้าตาแบบเด็กๆ ตัวเล็กๆ ที่ใครเห็นใครก็หลงรักในความน่ารักน่าเอ็นดูของมัน ส่วนฉันก็เป็นแบบนักกีฬาผิวสีแทน เพราะชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง ร่างสูงโปร่ง ส่วนหน้าตานะหรอ ก็แค่มีคนที่หล่อที่สุดในโรงเรียนมาจีบแค่นั้นเอง (สรุป...แล้วมันสวยมั้ยเนี่ย -_-^)
"หยา หยา แกละเมออะไรอยู่เนี่ย" กิพูด
"หา...อะไรหรอ O_O" แฮ่ๆ คิดเพลินไปหน่อย
"ฉันบอกว่า ฉันจะโทรไปบอกพ่อกับแม่ก่อนว่าจะกลับดึก"
"อาว...แล้วทำไมไม่โทรฯ จากมือถือล่ะ" ฉันสงสัย
"แบตฯ หมดอ่ะดิ -_-^ " กิพูดอย่างหมดอาลัยตายอยาก "แล้วโทรศัพท์แกก็ไม่มีตังค์อีกต่างหาก จะพกมาทำไมเนี่ย เซ็งสุดๆ -_-^"
"แฮ่ๆ เอาไว้ดูเวลาไง^^"
"ฉันจะบ้าตาย... งั้นเดี๋ยวฉันมานะ รออยู่ตรงนี้ล่ะ"
"อืม..." ฉันมองส่งกิเดินออกไปหาตู้โทรศัพท์ พอมานั่งอยู่คนเดียวแล้วถึงรู้ว่าที่นี้เป็นที่ที่เงียบสงบมาก มีต้นไม้มีสนามหญ้า สวนสุขภาพตอนกลางคืนก็คงเป็นแบบนี้ทุกที่มั้ง เงียบสงบ แต่น่ากลัว...กลัวทั้งผีทั้งคนนั้นแหละ บรื๋อ ~~
"เฮ้อ...เงียบสักที รำคาญจะแย่" เสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนออกมาจากพุ่มไม้บริเวณนั้น
"คะ...ครายอ่ะ" ฉันกลัวนะ ไอ้พวกเพื่อนบ้ามาสักทีสิ ว่าแต่แล้วฉันจะถามออกไปทำไมเนี่ย
"ผู้ชายที่เฟอร์เฟคที่สุดในโลก..." เสียงนั้นตะโกนตอบออกมา
"เบคแฮมหรอ แล้วมาอยู่ที่นี้ได้ไง -_-^" แล้วฉันจะตอบกลับออกไปทำไมอีกฟร่ะ เฮ้อ...เดี๋ยวแอบวิ่งหนีไปจากตรงนี้ดีกว่า > <
"เดี๋ยวหยา...จะไปไหน" ผู้ชายคนนั้นโผล่หน้าออกมาจากพุ่มไม้ เขาเห็นฉันกำลังวิ่งหนี จึงขว้าข้อมือของฉันไว้ได้พอดีเลย
"ไม่อาวว... > < อย่ามายุ่งกับฉันนะ เอามือสกปรกของแกออกไป ยี้~~ " ฉันพูดออกไปโดยที่ยังไม่ทันมองด้วยซ้ำว่า ผู้ชายที่จับข้อมือของฉันแน่นสุดๆ นั้นเป็นใคร ว่าแต่เมื้อกี้เหมือนอีตานี่เรียกชื่อฉันสินะ หรือว่าเป็นพวกโรคจิตที่ชอบแอบตามผู้หญิงที่ตัวเองชอบ แล้วหวังจะหาโอกาสทำมิดีมิร้าย ไม่อาวววนะ ช่วยด้วย!!
"หยา หยา...มองหน้าฉันก่อนสิ" ผู้ชายคนนั้นยังคงไม่ยอมปล่อยมือ และพยายามจะให้ฉันมองหน้าอีก อึ้ม...เล่นกับใครไม่เล่นซะแล้ว หมดเวลาอ่อนข้อแกล้งทำเป็นผู้หญิงอ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ ฉันให้แกตายใจก่อนหรอก คิดหรือว่าฉันจะสู้แกไม่ได้ รู้จักประธานชมรมยูโดน้อยไปซะแล้ว ตายlซะเถอะ!!
ย๊ากกก.....!!
"พอได้ยัง" ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เอือมระอาเต็มที่ แต่เอ๊ะ!! เขาป้องกันการจู่โจมของฉันได้ ฉันเลยรีบหันหน้าขึ้นไปมอง โอ้พระพุทธเจ้า...นี้มัน...O_O (อึ้ง)
"ไม่เจอกันหนึ่งปี เธอถึงกลับจำเสียงฉันไม่ได้เชียวหรอ"
"เออ... ป่ะ เปอร์" ใช่แล้วคะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนรู้จักของฉันเอง^^ พูดง่ายๆ คือ เป็นเพื่อนบ้านสมัยเด็กของฉัน และปัจจุบันบ้านของเราสองคนก็อยู่ติดกัน แต่เปอร์ไปเรียนต่อที่อเมริกาหนึ่งปี เป็นโครงการแลกเปลี่ยนกับนักเรียนต่างประเทศน่ะคะ แต่ว่าเขากลับมาเมื่อไหร่เนี่ย ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย
"เปอร์...กลับมาเมื่อไหร่หรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย O_O"
"เมื่อวาน...วันนี้ฉันก็เดินไปหาเธอที่บ้านแล้วนะ แต่คุณป้าบอกว่าเธอยังไม่กลับ ว่าแต่คุณป้ายังไม่ได้เล่าเรื่องฉันให้เธอฟังเลยหรอ"
"ฮึ...ไม่นิ"
"จริงดิ ฉันก็บอกคุณป้าแล้วนะว่าถ้าเธอกลับมาถึงบ้านให้บอกฉัน เดี๋ยวฉันจะไปหา"
"หรอ...แล้วจะมาทำไมล่ะ"
"อาว...พูดอย่างนี้เดี๋ยวก็สวยหรอก"
"โห...ใช้คำโบราณชะมัด แต่ก็โอเค้" ฉันเยาะเย้ยเปอร์ที่ตอนนี้เริ่มจะหน้าแดงแล้ว คงเขินล่ะสิที่ตัวเองใช้คำโบราณ แล้วฉันก็พูดต่ออีกว่า "แฮ่ๆ คิดถึงเขาล่ะสิ เหงาใช่ม้า"
"จะบ้าหรอ" มาถึงตอนนี้เปอร์เพิ่งจะปล่อยมือจากฉันหลังจากที่จับเอาไว้มาได้สักพักแล้วก่อนที่จะถามฉันว่า "เธอยังคบกับพี่บอยอยู่หรือเปล่า" เปอร์นั่งลงแล้วมองไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา (มองไปไหนอ่ะ?)
"เลิกแล้ว
ถามทำไมหรอ" ฉันนั่งลงตามเปอร์
"เปล่า...ไม่มีอะไร"
"อิอิ...ว่าแต่เปอร์เถอะ หล่อขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย ไม่มีสาวๆ ฝรั่งมาตามจีบมั้งหรอ" ฉันพูดพร้อมกับตบหลังเปอร์แรงๆ ไปหนึ่งที
"ไม่มีหรอก...ฉันไปเรียนนะไม่ได้ไปหาแฟน" เปอร์พูดอย่างอายๆ "ว่าแต่...เธอมือหนักขึ้นนะเนี่ย แล้วอย่างนี้จะมีผู้ชายคนไหนเขารับมือไหวล่ะ เดี๋ยวก็ไม่มีใครเอาหรอก"
"ฮา ฮา ฉันไม่เห็นจะสนเลย...แต่พูดก็พูดนะ คนที่รับมือฉันได้ก็มีเปอร์คนแรกนี้แหละ แล้วคนที่สองก็คือพี่บอย"
"ก็ฉันเป็นคนสอนเธอต่อสู้ จำไม่ได้หรือไง"
"จำได้สิ ก็ถึงบอกว่าเปอร์เป็นคนแรกที่รับมือฉันได้ยังไงเล่า"
"อืม...แล้วอย่าหวังว่าจะมาสู้ฉันได้เชียวล่ะ เธอยังห่างชั้นกับฉันเยอะ"
"หรอ...งั้นลองสู้กันมั้ย ตอนนี้ฉันอาจจะชนะก็ได้นะ" ฉันกำมือขึ้นพร้อมต่อสู้
"ฉันไม่มีทางให้เธอชนะฉันได้หรอก" เปอร์เริ่มหันหน้ามาพูดกับฉันอย่างจริงจัง ทำเอาฉันที่กำลังชูกำปั้นอยู่ ถึงกับอึ้งในสายตาที่ดูเอาจริงเอาจังของเขา
"เฮ้! ไอ้หยา ไอ้หยา..." เสียงที่ดังขึ้นมาทำให้ฉันกับเปอร์หันไปมองหาต้นเสียงนั้น และนั้นก็คือเสียงของยัยฟางนั่นเอง
"เธอนั่งคุยกับใครอยู่หรอคะ" พลอยถามขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งตรงมาที่ฉัน โดยที่มีฟางตามมาติดๆ อย่างสอดรู้สอดเห็น เดี๋ยวก็ได้สอดเป็นสอดตายตามไปด้วยเลยดีมั้ย อิอิ^^ พูดเล่นนะคะ เพื่อนรักกันคิดแบบนั้นได้ไง แฮ่ๆ ยัยพวกนี้ก็อย่างนี้แหละคะ ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านเขาจริ๊งจริง^^
"โอ๊ะโอ...ถ้าเดาไม่ผิด เปอร์!! เปอร์ใช่มั้ยคะ"
"เฮ้ย! เปอร์หรอเนี่ย หล่อขึ้นนะเนี่ย"
"เอะอะโวยวายอะไรกัน ฉันไปโทรศัพท์แป๊บเดียว เอ๊ะ!! นี่เปอร์ใช่มั้ยเนี่ย" ยัยกิมาสมทบ
"พวกเธอเป็นไงกันบ้างล่ะ สบายดีหรอ" เปอร์หันไปถามพวกนั้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เปลี่ยนไปจากเมื่อตะกี้เลย -_-^ แต่ก็ดีนะ เพราะว่าหน้าตาที่จริงจังของเปอร์มันทำฉันหวั่นๆ กลัวๆ ยังไงก็ไมรู้ เหมือนตอนนั้นเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว เปอร์มาบอกกับฉันก่อนไปอเมริกาว่า ถ้าผู้ชายเฟอร์เฟคคือคนที่เก่งภาษาอังกฤษด้วยล่ะก็ ฉันก็จะไปเรียนภาษาอังกฤษที่อเมริกา ถึงตอนนั้นเธอต้องบอกว่าฉันเฟอร์เฟคนะ จะว่าไปเมื่อกี้อีตานี่ก็บอกว่า ตัวเองเป็นผู้ชายที่เฟอร์เฟคที่สุดในโลกนิหน่า หลงตัวเองชะมัด -_-^ จะว่าไปเปอร์คงเป็นพวกที่ชอบการแข่งขันสินะ ถึงได้ชอบเอาชนะ คงอยากเป็นผู้ชายที่เฟอร์เฟคสินะ อืม...ฉันก็เข้าใจอยู่หรอก อยากให้สาวๆ มากรี๊ดว่างั้นเหอะ
"เฮ้ๆ ไอ้หยา...ยังอยู่บนโลกนี้หรือเปล่า ถ้าอยู่ก็กรุณาตอบกลับด้วย" ฟางเรียกสติฉันให้กลับคืนมา ในขณะที่ฉันยังคงทำท่าครุ่นคิดอยู่
"ละเมอ...อีกล่ะสิเนี่ย เมื่อกี้ก็แบบนี้ล่ะ" กิเสริม ส่วนพลอยตอนนี้ยัยนี้ไม่สนใจฉันหรอกคะ เพราะกำลังคลอเคลียเปอร์อยู่ แต่เปอร์กลับมองหน้าฉันอย่างเป็นห่วง
"เปล่านิ ฉันไม่ได้ละเมอนะ ก็ได้ยินที่พวกแกเรียกนั้นแหละ" ฉันรีบตอบไปทันที เมื่อสติกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
"หยา เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า" เปอร์เดินเข้ามาถามอย่างห่วงใย
"ก็...แฮ่ๆ ไม่ได้เป็นอะไรนิ" ฉันตอบกลับออกไปอย่างมีพิรุธ
"เปอร์...หยามันไม่มีอะไรหรอก" กิเริ่มเข้ามาพูดแทรก เพราะกิคงคิดว่าฉันกำลังกังวลเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ แต่เปล่านะ ฉันก็แค่คิดถึงเรื่องเก่าๆ ก็เลยเหม่อลอยไปเท่านั้นเอง แล้วกิก็พูดต่ออีกว่า "น่าเสียดายนะ แต่ว่าวันนี้เรามีธุระเกี่ยวกับงานของชมรมที่ต้องทำนิดหน่อย เดี๋ยวพวกเราคงต้องขอตัวก่อนนะเปอร์^^"
"งานอะไรหรอคะ" ยัยพลอยพูดแทรกทันที "พลอยยังไม่ได้คุยกับเปอร์ดีๆ เลยก็จะต้องจากกันซะแล้ว" พูดจบประโยคยัยพลอยก็หันหน้าไปมองเปอร์พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ น่ากลัวจริงๆ ~~
"พลอย ฉันไม่อยากเชื่อว่าแกจะลืมเรื่องสำคัญนี้ได้เลยนะโว้ย... แล้วแกไปเอาเกลือกับฉันมาทำกับข้าวหรือไงวะ" ยัยฟางพูดทันทีที่เห็นยัยพลอยทำท่าทางเหมือนไม่อยากไป
"แง้ว...-_-^ ไปก็ได้คะ" ยัยพลอยพูดอย่างไม่เต็มใจสุดๆ
"ดีมาก... งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะเปอร์ แล้วเจอกันใหม่นะ" กิพูดเสร็จก็ย้ำเท้าเดินออกไปจากวงสนทนาทันที โดยมีฟางฉุดกระฉากลากถูพลอยที่ยังคงหันมาโบกมือบ๊ายบายให้กับเปอร์อยู่ แล้วก็ถึงเวลาที่ฉันต้องบอกลาเปอร์บ้างแล้ว
"ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน"
"เดี๋ยวหยา...แล้วจะกลับบ้านเมื่อไหร่" เปอร์พูดพร้อมกับทำท่าเหมือนจะหยุดฉันไว้
"ไม่รู้สิ...อืม ไปก่อนนะ บาย" ฉันพูดพร้อมกับรีบวิ่งไปที่กลุ่มเพื่อนสาวที่ตอนนี้สตาร์ทรถมอเตอร์ไซด์ รอฉันอยู่ก่อนแล้ว ขอโทษนะเปอร์แต่เรื่องนี้ฉันไม่สามารถให้เธอมารับรู้ได้ เรื่องนี้ถ้ายิ่งมีคนรู้เยอะฉันและเพื่อนๆ ก็จะมีอันตราย ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่ว่านะเปอร์...ฉันว่าเธอต้องไปบอกแม่ฉันแน่ๆ เลย ดังนั้น ฉันจึงขอเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนนะจ๊ะ^^
~ระหว่างการเดินทาง~
รถมอเตอร์ไซด์มีอยู่สองคัน คันหนึ่งของกิ คนขับก็คือกิ คนซ้อนท้ายกิคือฉัน อีกคันของฟางที่มีฟางขับแล้วพลอยซ้อนท้าย เพราะยัยพลอยขับมอเตอร์ไซด์ไม่เป็น แล้วก็ดันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ขับไม่เป็นอีกต่างหาก หน้าขายหน้าจริงๆ > < (ขับไม่เป็นแล้วเป็นยังไงหรอคะ --- > เสียงยัยพลอยแย้ง) ว่าแต่นี้แกเข้ามาก่อกวนถึงในความคิดของฉันเลยหรอ O_O
"เมื่อกี้ขอบใจนะกิที่ช่วยพูดให้ฉัน" ฉันพูดขึ้น
"อืม...ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าเปอร์ต้องบอกแม่แกแน่ๆ แล้วแม่แกก็ต้องว่าแกแน่ๆ ถ้ารู้เรื่องนี้อ่ะนะ^^"
"ทำไมเปอร์ต้องบอกแม่หยาด้วยล่ะคะ" พลอยทำท่างง เมื่อได้ยินบทสนทนาของฉันกับกิ
"ก็เพราะว่า เปอร์ชอบมองว่าไอ้หยาทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ทำอะไรก็ผิดไปหมด จำเป็นต้องมีผู้ใหญ่คอยดูแล ที่สำคัญเปอร์สนิทกับแม่ไอ้หยามากๆ ขนาดเรียกอาจารย์เลยทีเดียว" ฟางเสริม
"ขนาดนั้นเลยหรอคะ" พลอยยังทำท่า แบบว่าไม่เชื่อ
"ฮา ฮา สรุป...ใครๆ ก็กลัวแม่แกนะหยา" กิพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมา
"เออ...อย่าว่าแต่คนอื่นเลย ฉันก็กลัวด้วยแหละ" ฉันก็ว่าแม่ฉันดุนะ แต่เพิ่งจะมาดุฉันมากๆ ก็ตอนที่ฉันกำลังขึ้น ม.ปลาย ไม่อยากจะเชื่อเลยทั้งที่เมื่อก่อนแม่ออกจะเป็นคนที่ใจเย็นและใจดีกว่านี้แท้ๆ สงสัยกำลังอยู่ในช่วงวัยทองแน่ๆ เลย
"ถึงแล้ว...เอาไงต่อดีวะ" เสียงฟางพูดขึ้น เมื่อตอนนี้พวกเราเดินทางมาถึงหน้าบ้านพี่บอยแล้ว
"ขับวนอีกหนึ่งรอบก่อน เอาให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นพวกเรา" กิเริ่มพูดอย่างมีหลักมีการ
"โอเค..." ฟางพูดตอบ แล้วพวกเราก็ขับรถวนกันอีกหนึ่งรอบ ก่อนที่พวกเราจะเริ่มลงมือ ยัยพลอยก็พูดขึ้นมาว่า
"พลอย ปวดฉิ้งฉ่องอ่ะคะ ไปหาห้องน้ำกันก่อนนะ"
"โห...ให้มันได้อย่างนี้ดิวะ ไอ้พลอยตื่นเต้นทีไรเป็นต้องปวดฉี่ทุกที" ฟางพูดขึ้นอย่างหมดอารมณ์
"ตามจริง...ฉันก็ตื่นเต้นเหมือนกันวะ ไปห้องน้ำก่อนเถอะ" จริงๆ แล้วฉันก็คิดเหมือนยัยพลอยคะ^^
"อาว...พอกันทั้งคู่เลย งั้นเดี๋ยวไปหาห้องน้ำกันก่อน แล้วค่อยมาใหม่" กิพูดขึ้นพร้อมกับเลี้ยวรถกลับ เพื่อไปหาห้องน้ำให้ฉันกับพลอย
~ณ ห้องน้ำ ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง~
"ที่นี้มันยังเปิดให้บริการอีกหรอคะ สกปรกชะมัด ยี้~~" พลอยพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าขยะแขยงสุดๆ เมื่อออกมาจากการทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว
"อืม...ออกมาแล้วหรอ ช้าชะมัด" ฉันพูดขึ้น
"ว่าแต่เธอเถอะหยา เข้าไปได้ไงอ่ะ สกปรกจะตาย ขยะเยอะสุดๆ นะคะนั้น" พลอยยังบ่นไม่เลิกและยังคงทำท่าขยะแขยงอยู่
"ใช่แล้วมีทั้งขยะแล้วก็สกปรกด้วย อืม..." ฉันทำท่าครุ่นคิด
"เดี๋ยวเธอ พลอยไม่เอาด้วยนะ"
"อืม..." กิก็พยายามใช้ความคิดอยู่เหมือนกัน
"แต่ฉันว่าสนุกดีนะ" ฟางสนับสนุนความคิดของฉัน ฉันรักแกจริงๆ > < แล้วฟางก็พูดต่อว่า "เกลือมันเป็นสีขาว สาดเข้าไปในบ้านดีไม่ดีเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราสาดเกลือเข้าไปอ่ะ แต่ขยะสิ ทั้งสกปรก ทั้งเหม็น คนที่มีลักษณะอย่างไอ้พลอย อย่างแม่พี่บอยแกอ่ะ เห็นแล้วต้องร้องกรี๊ดๆ ทนไม่ไหวแน่เลย วู้...นึกแล้วก็สะใจ"
"เดี๋ยว...ผู้หญิงคนนั้นเหมือนพลอยตรงไหนคะ" ยัยพลอยแย้งขึ้น พร้อมกับทำท่าจะเอาเรื่องยัยฟาง แต่ยัยฟางก็ยังคงยืนเกาะอกทำท่าภูมิใจกับแผนการที่ตัวเองเพิ่งจะพูดจบไปเมื่อกี้นี้
"เอาเป็นว่า ฉันเห็นด้วย" กิพูดขึ้น
"อะไรน้า..." ยัยพลอยยังคงแย้ง และทำท่าไม่พอใจสุดๆ "แต่พลอยไม่อยากจับขยะนิหน่า"
"ฉันไม่ให้แกจับหรอก แกก็แค่โยนถุงขยะเข้าไปในบ้านนั้น เท่านั้นเอง" ฟางพูดขึ้น
"มันก็จับอยู่ดีนั้นแหละ ถึงจะเป็นแค่ถุงขยะก็เถอะ" พลอยพูดขึ้นพร้อมกับยืนเกาะอก แบบว่าไม่เอาด้วยแน่ๆ
"งั้นแกก็มาขับมอเตอร์ไซด์สิ แล้วฉันจะเป็นคนโยนเอง" ฟางเสนอทางเลือกให้พลอยทันที ทั้งที่ทุกคนต่างก็รู้ว่ายัยพลอยขับมอเตอร์ไซด์ไม่เป็น
"ถือว่า เป็นการเรียนรู้ชีวิตจริงยังไงล่ะพลอย ขยะมันก็คือของที่เราใช้แล้วทิ้ง เหมือนที่พลอยเคยเอาตุ๊กตาไปทิ้งนั้นแหละ ก่อนที่ตุ๊กตาของพลอยจะเป็นขยะ มันเคยอยู่บนหัวนอนของพลอยใช่มั้ย มันก็แค่ย้ายที่ จากหัวนอนไปอยู่รวมกับของที่ใช้แล้วทิ้ง แล้วก็เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นขยะ เท่านั้นเอง ไม่เห็นจะต้องรังเกียจเลย" จะว่าไปกิเป็นคนที่ช่างพูดเรื่องที่ไม่มีสาระให้มันเป็นไปในทางเชิงวิชาการได้เก่งจริงๆ
"อย่างนั้นก็ได้คะ" พลอยพูดอย่างจำยอม
"เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นคนที่ออกความคิดก็ต้องเป็นคนไปเอาขยะมา
" กิพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้ฉันกับยัยฟาง ที่ตอนนี้กำลังมองหน้าฉันแล้วเหมือนจะพูดกับฉันว่า ฉันไม่น่าสนับสนุนความคิดเห็นของแกเล้ย แต่เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันใช่มั้ยคะ^^ ดังนั้นฉันกับยัยฟางเลยต้องจำยอมมานั่งคุ้ยเขี่ยขยะ ที่กองขยะแถวๆ ปั้มน้ำมันนั้น โดยมียัยพลอยยืนยิ้มและร้องตะโกนเชีร์ยอยู่ข้างๆ กิ น่าหมั่นไส้มันชะมัด > < บ่นไปก็เท่านั้นเพราะถึงยังไงฉันก็ต้องมานั่งเก็บขยะอยู่ดี ยี้~~
~ ผ่านไป 20 นาทีแล้วจ้า ^O^~
"เอ้า...พอได้แล้ว สี่ถุงก็น่าจะพอแล้วล่ะ" กิพูดจบก็เดินไปสตาร์ทรถรอเพื่อที่จะได้เริ่มภารกิจเสียที
"แหวะ... ไอ้หยาทีหลังฉันไม่สนับสนุนแผ่นสกปรกๆ ของแกอีกแล้ว ดูสิ!! มือเปื้อนหมดแล้ว" ฟางพูดพร้อมกับมองมือตัวเองแล้วทำท่าขยะแขยงสุดๆ
"เอาน่าเดี๋ยวเลี้ยงไอติม แฮ่ๆ^^" ฉันปลอบใจเพื่อน
"อย่าลืมล่ะกัน" ฟางหันมาตอบฉันก่อนที่จะล้มมองดูมือตัวเองอีกครั้ง
"เพื่อนๆ คะ เราจะไปกันแล้วนะคะ จะเก็บขยะเป็นอาชีพเลยรึไง" ยัยพลอยตัวแสบเริ่มล้อเลียนพวกเราอีกแล้ว แต่ไม่ทันที่ฉันจะโต้ตอบออกไป ยัยฟางก็วิ่งเข้าไปแล้วเอามือลูบหน้ายัยพลอยเรียบร้อยแล้ว อิอิ
"ยี้~~ ฟางทำไมทำกับพลอยอย่างนี้ล่ะ "ยัยพลอยจับหน้าตัวเองแล้วพยายามมองหากระจกเพื่อมาดูว่าหน้าตัวเองเลอะมากแค่ไหน แต่ยัยฟางก็รีบตัดบทแล้วบอกว่า
"ฉันล้างมือแล้วน่า ตกใจไปได้" พูดเสร็จฟางก็สตาร์ทรถเพื่อเตรียมตัวไปปฏิบัติภารกิจเหมือนเดิม ฉันที่เดินมาทีหลังก็ตบไหล่ยัยพลอยเบาๆ แล้วก็บอกว่า...
"ยังสวยอยู่ ยังสวยอยู่"
"จริงหรอ ไม่เลอะแน่นะ" ยัยพลอยยังสงสัย
"อืม..." ก๊ากก...โกหกคะ เพราะหน้ายัยพลอยตอนนี้ดูเลอะเทอะมอมแมมมากๆ
"จะไปกันได้หรือยัง" เสียงกิตะโกนเตือนอีกครั้ง เพื่อจะบอกให้พวกเรารีบไปจากตรงนี้แล้วไปปฏิบัติภารกิจของค่ำคืนนี้ให้เสร็จสักที
"จะไปแล้ว..." ฉันตะโกนตอบออกไปพร้อมกับรีบวิ่งไปหากิแล้วกระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที โดยมือทั้งสองข้างก็ถือถุงขยะข้างละหนึ่งถุงมาด้วย ส่วนยัยพลอยก็กำลังจัดที่นั่งให้กับตัวเองเสียใหม่ เพื่อให้ขยะอยู่ห่างจากตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สุดท้ายเราทั้งสี่คนก็ออกเดินทางกัน จนกระทั่งมาถึงที่หน้าบ้านของพี่บอย
"เอาล่ะ เอาขยะมาเทๆ ไว้ตรงที่หน้าบ้านก็พอ" กิเสนอความคิดหลังจากที่พวกเราได้มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของพี่บอย แล้วนี้ก็ปาเข้าไปห้าทุ่มแล้ว คงไม่มีใครจะออกมาเห็นหรอกนะ ฉันกับยัยพลอยต่างรีบลงจากรถแล้วเทขยะออกมาจากถุง จนเหลือถุงสุดท้ายซึ่งเป็นถุงที่เป็นความรับผิดชอบของยัยพลอยนั้นเอง ยัยนี้ก็เกิดปิ้งไอเดียขึ้นมาแล้วพูดขึ้นว่า
"ทำไมเราไม่ขว้างเข้าไปในบ้านล่ะคะ แบบนั้นน่าสนุกดีออก" ยัยพลอยพูดพร้อมกับทำตาโตลุกวาว
"จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ เร็วๆ เข้า มันดึกมากแล้ว" กิพูดพร้อมกับเตรียมตัวเข้าเกีร์ยเพื่อจะรีบออกมาจากที่ตรงนั้น ว่าแล้วยัยพลอยของเราก็จับถุงอย่างกระชับลับมือพร้อมเหวี่ยงถุงขยะเข้าไปในบ้านของพี่บอย แต่ปรากฏว่า...
โพละ!!
"ฮา ฮา...ฮา ฮา" ฉันกับยัยฟางหัวเราะกันออกมาอย่างสุดเสียง โดยที่กิออกเสียงเพียงแค่ ฮึๆ
"ไอ้พลอย ทำไมแกไม่ปล่อยถุงล่ะห๊ะ ดูสิ ขยะหล่นลงมาใส่หัวหมดเลย ฮา ฮา..." ยัยฟางพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา และก่อนที่ยัยพลอยจะโต้ตอบอะไรออกไป เพื่อปกปิดความอายก็มีเสียงเสียงหนึ่งตะโกนออกมา
"เฮ้ย!! นั้นใครน่ะ"
"เฮ็ย!! รีบเผ่นเร็ว" เสียงกิตะโกนออกมา ทุกคนต่างรีบบึ้งรถหนีอย่างไม่คิดชีวิต ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไปตามเส้นทางกลับบ้านของแต่ละคน ฟางต้องไปส่งพลอยเพราะบ้านอยู่ทางเดียวกัน เช่นกันว่ากิก็ต้องไปส่งฉัน พวกเราบอกลากันพร้อมกับบอกว่าเจอกันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นคำเดิมๆ ที่เราก็พูดกันอยู่ทุกวัน แต่การบอกลากันวันนี้ มันตื่นเต้นกว่าทุกวันเลยคะ พอถึงบ้านฉันก็แอบย่องๆ เข้าบ้านไปโดยที่ไม่ให้แม่รู้ แต่ฉันก็รู้นะว่า ถึงแม้ว่าแม่จะปิดไฟเข้านอนแล้ว แต่ก็ยังแอบมองฉันเข้าบ้านจากทางหน้าต่างอยู่ดี ก่อนจะเข้านอนคืนนี้ฉันก็ไม่ลืมที่จะอาบน้ำก่อน เพราะขอบอกว่าตัวฉันเหม็นสุดๆ เลยล่ะ อี้~~
~ เช้าวันรุ่งขึ้น ~
"หยา หยา...แกตื่นหรือยังเนี่ย" แม่ฉันตะโกนเสียงดังโหวกแหวกแต่เช้าเลย แค่มีเสียงของแม่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีนาฬิกาปลุกแล้ว...
"ตื่นแล้วค่า..." ตามจริงยังไม่ตื่นหรอกคะ แฮ่ๆ^^
"อืม...ก็ดี แล้วรีบแต่งตัวมากินข้าวเช้าล่ะ" พอแม่พูดเสร็จฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของแม่เดินลงบันไดไปที่ชั้นล่าง ฉันหันไปมองนาฬิกา ตอนนี้เวลาหกโมงเช้าแล้ว ตามจริงแค่หกโมงเช้าเองแม่จะปลุกฉันตอนเจ็ดโมงครึ่งฉันก็ยังอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนทันเลย ไม่ทันก็แค่โดนหักคะแนน อีกอย่างถึงยังไงเพื่อนฉันก็ไม่มารับแต่เช้าอยู่แล้ว กว่าจะมาก็นู้น... เจ็ดโมงยี่สิบห้า โรงเรียนเข้าตอนเจ็ดครึ่งยังไงก็ทันน่า...ว่าแล้วก็หลับต่อ
"หยา หยา... ตื่นได้แล้ว วันนี้เธอต้องไปโรงเรียนกับฉันนะ"
"ฮือ...เปอร์หรอ อ-รุ-ณ- ส-วั-ส-ดิ์" ฉันงัวเงียตอบออกไป เดี๋ยว เปอร์หรอ!!! O_O ฉันรีบลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า "เข้ามาได้ไงอ่ะ O_O"
"ก็คุณป้าบอกว่าให้ขึ้นมาปลุกเธอได้เลย แล้วอีกอย่างนะประตูก็ไม่ได้ล็อกด้วย ก็เลยเข้ามาได้^^"
"จะบ้าหรอ...นี่มันห้องนอนผู้หญิงนะ เธอเป็นผู้ชายจะเข้ามาได้ไง" ฉันพูดพร้อมกับพยายามถอยห่างออกจากเปอร์ ที่ตอนนี้กำลังทำท่างงๆ อยู่
"ปกติฉันก็เข้ามาเล่นห้องเธอบ่อยออก ไม่เห็นเป็นไรเลย^^"
"เป็นย่ะ เพราะว่าตอนนี้ฉันโตแล้ว ทีหลังห้ามเข้าอีกมานะ" ฉันพูดออกไปอย่างอายๆ เพราะถึงเราจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันตั้งแต่สมัยเด็ก แล้วบ้านก็ยังอยู่ติดกันด้วย แต่ตอนนอนฉันไม่ได้ใส่ชุดชั้นในนิ แน่นอนว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้ใส่อยู่ อ๊ายยย...ฉันอายจะแย่อยู่แล้ว เปอร์นี่ไม่เข้าใจบ้างเลย > < ฉันเป็นผู้หญิงนะ อีตาบ้า
"ก็ได้ๆ เข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะลงไปรอข้างล่างนะ" เปอร์พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ประตู แต่ก่อนที่เปอร์จะออกไป เปอร์ก็ได้พูดประโยคหนึ่งออกมาที่ทำให้ฉันถึงกับสันหลังวาบ
"ห้องนี้นี่ มันเหม็นกลิ่นกองขยะชะมัด^^" เปอร์พูดพร้อมกับส่งยิ้มมาเป็นนัยๆ แล้วก็เดินออกไป เอ๊ะ!!...หรือว่าอีตานี้จะรู้เรื่องเมื่อคืนนี้ เป็นไปไม่ได้หรอกก็พวกเราระวังตัวแล้วนี้หน่า เป็นไปไม่ได้!!
หลังจากนั้นฉันก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักเรียน หยิบกระเป๋าหนังสือแล้วรีบลงไปทานข้าวเช้าที่แม่จัดเตรียมเอาไว้ให้ พอลงมาถึงฉันก็เห็นเปอร์นั่งคุยอยู่กับแม่ของฉัน ฉันยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่า สรุป!! เปอร์รู้เรื่องเมื่อคืนนี้หรือเปล่า ยังไงก็ต้องถามให้รู้เรื่อง ฮึ้ม...
"หยา ต่อไปนี้เราไปโรงเรียนแล้วก็กลับบ้านมาพร้อมกับเปอร์นะ เข้าใจมั้ย" แม่ฉันหันมาพูดกับฉันเป็นเชิงบังคับ แล้วพูดต่อว่า "เดี๋ยวแม่จะไปที่ร้านขนมสักหน่อย เมื่อคืนแม่เพิ่งคิดสูตรขนมใหม่ได้ อยากจะลองทำจะแย่อยู่แล้ว แล้ววันนี้แกก็อย่ากลับดึกล่ะ เปอร์...ป้าฝากหยาด้วยนะ ป้าไปล่ะ^^" แม่พูดๆ เสร็จก็เดินออกไปแล้วก็ขับรถยนต์ออกจากบ้านเพื่อไปที่ร้านขนมซึ่งเป็นกิจการเล็กๆ ของบ้านเราทันที ฉันยังคงทำท่าทางหวาดระแวงสงสัยเปอร์อยู่ จนเปอร์เริ่มหันมามองหน้าฉันแล้วก็ทำท่างงๆ ว่าฉันจะจ้องอะไรนักหนา แล้วก็พูดขึ้นว่า
"What's the matter? Why are you looking at me like that?"
กรแดะพูดภาษาอังกฤษอีก -_-^ "ป่าว...ไม่มีอะไร" ฉันตอบออกไปพลางตักอาหารเข้าปาก แล้วก็เหลือบมองเปอร์ที่ตอนนี้กำลังนั่งดูทีวีอยู่โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาที่ฉันมองอีกเลย ฉันจึงถามขึ้นว่า
"เมื่อวานหลังจากที่เราเจอกัน เธอไปไหนต่อ"
"ฮือ..." เปอร์หันมาแวบหนึ่งแล้วก็หันหน้ากลับไปดูทีวีต่อ
"ฉันถามน่ะ ไม่ได้ยินหรอ" ฉันเริ่มโมโหแล้วนะ
"ก็กลับบ้านไง แล้วเนี่ยจะตะโกนออกมาทำไมเนี่ย เฮ้อ...ทำไมไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยนะ เธอเนี่ย" เปอร์พูดพร้อมกับถอดหายใจ
"แน่ใจนะว่าไม่ได้โกหก" ฉันยังสงสัยอยู่
"อือ...แล้วนี้จะไปกันได้หรือยัง เดี๋ยวก็เข้าเรียนสายหรอก" เปอร์พูดพร้อมกับหยิบกระเป๋านักเรียนขึ้นสะพายหลังแล้วก็ปิดทีวีเดินออกจากบ้านไป ทิ้งให้ฉันต้องรีบยัดข้าวที่เหลือเข้าปากให้หมดแล้วก็สะพายกระเป๋าเดินออกจากบ้าน แต่ไม่ลืมล็อกประตูบ้านตามเปอร์ออกไป
~ ที่โรงเรียน ~
"ฉันแปลกใจมาตั้งนานแล้ว เปอร์จะมาเรียนที่โรงเรียนนี้หรอ ที่นี้มันไม่ดังหรอกนะ ไปเข้าโรงเรียนอื่นเถอะ อย่างโรงเรียนนานาชาติอะไรอย่างเนี่ย ตอนนี้เธอก็เก่งภาษาอังกฤษแล้วนิ ถ้าไม่ได้ใช้บ่อยๆ อาจจะลืมได้นะ" ฉันพูดออกไปเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคอยระวังลูกสมุนของแม่ ทำอะไรจะได้สะดวกหน่อย
"ก็ฉันอยากเรียน ม. ปลายที่เดียวกับเธอนิ แล้วอีกอย่างนะ เพื่อนๆ สมัย ม.ต้นของฉันก็มาเข้าเรียนโรงเรียนนี้กันทั้งนั้น ฉันก็ต้องอยากมาเรียนที่นี้อยู่แล้ว" เปอร์พูดพร้อมกับทำท่ามองหาเพื่อนสมัย ม.ต้นของเขา
"ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามายุ่งเรื่องของฉันล่ะกัน อ้อ...แล้วก็อย่าไปบอกแม่ล่ะว่าฉันทำอะไรบ้าง เพราะตอนนี้ฉันเป็นประธานชมรมยูโดผู้เสียสละเลือดเนื้อและจิตวิญญาณอยู่ เข้าใจมั้ย" ฉันพูดพร้อมกับรีบเดินหนีห่างออกมาจากเปอร์เพื่อที่จะได้ไปตรวจตราดูความเรียบร้อยของชมรมก่อนเข้าเรียน ซึ่งนั้นก็เป็นกฎเหล็กที่พี่กี้ประธานชมรมรุ่นก่อนสั่งเอาไว้ ว่าแต่เมื่อวานฉันไม่ได้ไปหาพี่กี้เลย แต่พี่กี้ก็ไม่ยักกะโทรตามแหะ คงไม่มีอะไรร้ายแรงหรอกมั้ง
"หยา...เดี๋ยวนี้เธอไม่พูดภาษาอังกฤษแล้วหรอ" เปอร์วิ่งตามฉันมา
"ห๊ะ...ว่าอะไรนะ" วิ่งมาเพื่อจะคุยเรื่องนี้เนี่ยนะ
"ก็เมื่อก่อนฉันเห็นเธอชอบพูดภาษาอังกฤษคำไทยคำ แล้วก็ยังชอบคนที่เก่งภาษาอังกฤษด้วย อย่างพี่บอย อะไรอย่างเนี่ย"
"จะบ้าหรอ...เดี๋ยวนี้คนที่พูดภาษาญี่ปุ่นกับเกาหลีได้ด้วยต่างหากล่ะที่ฉันชอบ จะว่าไปภาษามนุษย์ต่างดาวด้วยก็ดีนะ อาอาลาลาบาบูอีดี" ฉันพูดภาษาประหลาดไปพลางทำท่าทางประหลาดไปพลางแล้วก็เดินออกห่างจากเปอร์ไป โดยที่หารู้ไม่ว่าตอนนี้เปอร์กำลังทำท่าหัวเสียสุดๆ ว่าแต่ แต่ก่อนหน้านี้ตานี้ไม่เก่งภาษาอังกฤษเลยนิหน่า ก็เลยโดนฉันล้อบ่อยๆ แถมอีกอย่างถ้าพูดถึงเรื่องภาษาฉันก็เก่งกว่าอยู่แล้ว หมายถึงตอนนั้นอ่ะนะ เพราะว่าตอนเด็กๆ พ่อกับแม่ฉันชอบสอนให้ฉันพูดอยู่บ่อยๆ แล้วที่ฉันเลิกพูดภาษาอังกฤษไปก็เพราะว่า เวลาที่พูดคุยกับแม่เป็นภาษาอังกฤษทีไรแม่เป็นต้องนึกถึงเรื่องราววันเก่าๆ ของพ่อแล้วก็ร้องไห้ขึ้นมาทุกที ตอนที่พ่อตายใหม่ๆ จนมาถึงตอนที่ฉันอยู่ ม.ต้น แม่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่พอขึ้น ม. ปลาย แม่ก็ไม่อยากให้ฉันพูดภาษาอังกฤษซะงั้น แม่นี้แปลกคนชะมัดเลย แต่เพื่อความสบายใจของแม่ฉันก็จัดให้ได้...
~ ห้องชมรมยูโด จ้า > < ~
"ยัยหยา..."
"พี่กี้!! O_O มีอะไรหรอคะ ตะโกนชะดังเชียว"
"เมื่อวานฉันบอกให้แกไปหาฉัน แล้วทำไมแกถึงไม่ไป ห๊ะ"
"เมื่อวาน...อ้อ เผอิญมีเรื่องยุ่งนิดหน่อยนะคะ มีกี้มีอะไรหรอ^^"
"ก็มีนะสิ ก็ฉันบอกแกแล้วไงว่าอีตาบอยไปเที่ยวโพนทะนาว่าแกกับมันมีอะไรกันแล้วนะสิ"
"พี่กี้ก็บอกแล้วนิ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย ใครจะคิดยังไงหยาไม่สนหรอก^^"
"หายนะมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น สำคัญคือเรื่องนี้อาจจะไปถึงหูแม่แกนะสิ"
"ไม่หรอกม้าง...แล้วอีกอย่างต่อไปนี้ก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้วล่ะ เพราะพวกหยาจัดการแก้แค้นไปเรียบร้อยแล้ว^^"
"พวกแกไปทำอะไร O_O"
"แฮ่ๆ ไม่มีอะไรมากหรอกคะ ก็คือว่า..." ก่อนที่ฉันจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้พี่กี้ฟังก็มีเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะขึ้นมา
"ไอ้หยาๆ แย่แล้ว..." เสียงของยัยฟาง
"มีอะไรหรอ O_O"
"เมื่อเช้าฉันไปที่หน้าบ้านพี่บอย แต่ปรากฏว่าขยะที่กองอยู่หน้าบ้านมันหายไปหมดเลย ไม่
เหลือสักชิ้นเดียว" ยัยฟางเล่าไปพลางหอบไป
"จะเป็นไปได้ยังไง" ฉันยังสงสัยอยู่ ก็ขยะตั้งเยอะมันจะหายไปได้ยังไง "หรือว่าแม่บ้านเขาเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้ว"
"เป็นไปไม่ได้...เพราะฉันผ่านบ้านพี่บอยตอนตีสี่นะ คือตอนนั้นเถ้าแก่ (คือพ่อยัยฟางค่ะ ^^) บอกให้ฉันไม่ส่งของให้ร้านอาหารแถวๆ นั้น ฉันก็เลยแอบแวะไปดู ปรากฏว่ากองขยะหายไปหมดเลย"
"จริงดิ...เป็นไปได้ยังไง" ฉันพูดกับยัยฟางจนลืมไปเลยว่ามีพี่กี้อยู่ด้วย แต่พี่กี้เป็นคนที่พวกเราสามารถไว้ใจได้ แต่การทำอะไรลงไปโดยไม่บอกเขาแบบนี้เราอาจตายกันได้เช่นกัน คงไม่ต้องเล่าอะไรอีกแล้ว ฉันคิดว่าพี่กี้ก็คงจะเดาออกแน่ๆ
"อย่างนั้นเองหรอ เมื่อวานที่แกบอกว่ามีเรื่องยุ่งคือเรื่องนี้เองหรอ ทำไมพวกแกทำอะไรไม่บอกฉัน ห๊ะ!! ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรร้ายแรงขึ้นมาพวกแกจะรับผิดชอบไว้หรอ ให้ตายสิไอ้เด็กพวกนี้ เฮ้อ...ฉันล่ะกลุ้มจริงๆ"
"แฮ่ๆ พวกเราขอโทษนะพี่กี้ เผอิญว่ามือมันไปเร็วกว่าที่สมองจะคิดไตร่ตรองอ่ะ" ฉันพูดแก้ตัวพลางทำหน้าสำนึกผิด
"เออ...อย่าให้มีเหตุการณ์เหมือนอย่างเมื่อวานนี้อีกล่ะกัน ทีหลังไม่ว่าพวกแกจะทำอะไร ก็ต้องบอกฉัน นะ เข้าใจมั้ย"
"ค่า..." ฉันกับยัยฟางตอบเป็นเสียงเดียวกัน
หลังจากนั้นเราทั้งสามคน ฉัน ยัยฟางแล้วก็พี่กี้ ก็กลับเข้าห้องเรียนไป ห้องเรียนของฉันก็มีครบแก๊งเลยทีเดียว นั้นก็คือ กิ ฟาง แล้วก็ยัยพลอย สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเปอร์จะต้องมาอยู่ห้องเดียวกันฉัน ฝันร้ายสุดๆ นายนี่ต้องคอยตามฉันทุกฝีก้าวแน่ๆ พร้อมกับคอยรายงานการเคลื่อนไหวของฉันให้แม่รู้ อย่างเช่น ฉันชอบเข้าห้องเรียนสาย หลับในชั่วโมงเรียน อาละวาดกับเพื่อนผู้ชาย แล้วก็เรื่องที่ไม่ยอมส่งการบ้าน โอ๊ย...แค่คิดก็จะบ้าตายอยู่แล้ว ถ้าแม่รู้ฉันตายแน่!! วันนี้ทั้งวันฉันเลยพยายามที่จะหลบหน้าเปอร์ โชคดีที่เพื่อนเก่าของเปอร์เข้ามาทักทายเปอร์กันอย่างไม่ขาดสาย ทำให้เปอร์ไม่ค่อยว่างมานั่งจับผิดฉัน ว่าแต่อีตานี่มันว่างมานั่งจับผิดฉันเชียวหรอ? บางทีฉันอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ที่คิดว่าเปอร์จะมาจับผิดฉันอ่ะนะ แหม...ฉันนี้ก็คิดมากเกินไปจริงๆ ^^
~ ที่ร้านบ้านขนม (กิจการเล็กๆ ของครอบครัวหยาเองคะ^^) ~
"สวัสดีค่ะ คุณแพลง(ชื่อแม่ฉันเองคะ^^)"
"อ้าว...คุณษามายังไงคะเนี่ย วันนี้จะมาสั่งเค้กหรือว่าคุ้กกี้ดีคะ"
"ก็เอาเหมือนเดิมนั้นแหละคะ"
"เป็นเค้กวนิลากับคุกกี้ใบเตยใช่มั้ยคะ ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะจัดการให้"
"อืม...ว่าแต่น้องหยาไปโรงเรียนหรอคะ แหม...ฉันได้ข่าวมาว่าเขาเป็นแฟนน้องบอยลูกชายคุณพลที่เป็นไฮโซตระกูลเก่าแก่ใช่หรือเปล่าคะ"
"อืม...ใช่คะ แต่เขาก็เลิกกันแล้วนะคะ"
"จริงหรอคะ แต่ที่ได้ยินมามันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิคะ น้องภูลูกชายดิฉันมาบอกว่า น้องหยาท้องกับน้องบอยแล้วก็ไปโวยวายให้น้องบอยรับผิดชอบ แต่น้องบอยไม่เอาแล้ว น้องหยาก็เลยไปทำแท้ง แถมน้องภูยังฝากให้ฉันมาบอกคุณแพลงเลยคะว่า ให้ดูแลลูกสาวให้ดีๆ หน่อยอย่าให้มีแต่ข่าวฉาวโฉ่ แต่แหม...เรื่องจริงเป็นยังไงฉันก็ไม่ทราบหรอกนะคะ อ๊ะ!! นั้นเค้กกับคุกกี้ได้แล้วใช่มั้ยคะ งั้นเดี๋ยวดิฉันขอตัวก่อนเลยแล้วกัน แล้ววันหลังจะมาอุดหนุนใหม่นะคะ ไปล่ะคะ"
สิ้นเสียงของแขกที่มาเยือนบรรยากาภายในร้านบ้านขนมก็เงียบไปถนัดตา แต่ไม่นานนักก็กลับมีเสียงสะอื้นไห้ดังออกมาโดยไม่อาจทราบได้ว่า เสียงที่ร้องออกมานั้นจะต้องเจ็บปวดเพียงใดกับสิ่งที่พึ่งได้ยินเมื่อครู่นี้
~ ที่โรงเรียน (หลังเลิกเรียนแล้ว) ~
"หยา หยา รอเปอร์ด้วยสิ คุณป้าบอกให้พวกเรากลับบ้านด้วยกันนะ" เปอร์รีบวิ่งมาอย่างรีบร้อน
"ฉันต้องไปทำกิจกรรมชมรม อีกนานเลยกว่าจะกลับ เปอร์ไม่ต้องรอหรอก"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวเปอร์หาอะไรทำไปพลางๆ ก่อนก็ได้^^"
"นี้!! แม่สั่งให้เธอมาจ้องจับผิดฉันใช่มั้ย"
"เปล่านะ"
"ฉันไม่เชื่อ"
"หยาจะไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ยังไงเปอร์ก็จะต้องกลับพร้อมหยาอยู่ดี นี้คือคำสั่ง แล้วเปอร์ก็จะนั่งรออยู่ตรงนี้ งั้นก็รีบมาล่ะ เข้าใจมั้ย "
"เฮ้ย!!"
"ไปทำกิจกรรมชมรมได้แล้ว ไปสิ"
"เชอะ..." ฉันสุดแสนจะต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการอยู่กับอีตานี่จริงๆ โอ้พระพุทธเจ้าอิสรภาพอยู่ที่ไหนเจ้าคะ ช่วยบันดาลมาให้ฉันทีเถอะ ว่าแล้วฉันก็สะบัดหน้าหนีเปอร์เพื่อไปทำกิจกรรมชมรม โดยปล่อยให้เปอร์นั่งอยู่คนเดียว และนั้นก็ทำให้ใครบางคน คนที่ฉันคิดว่าเขาน่าจะออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว สุดท้ายเขาก็เข้ามาก่อกวนชีวิตของฉันต่ออย่างไม่สิ้นสุดโดยผ่านเปอร์
"เปอร์ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ"
"พี่บอย!!"
"อ่ะ...ดีนะที่แกจำฉันได้ ว่าแต่สบายดีหรอ"
"ก็สบายดีครับ ว่าแต่พี่บอยก็พูดเกินไปทำไมผมจะจำพี่ไม่ได้ล่ะ "
"ก็นั้นสินะ...ก็แกเป็นคนสอนฉันจีบน้องหยาให้ติดเองนิหน่า"
"อ่ะ!!...อืม ก็ใช่นะครับ แต่ผมว่าตอนนั้นหยาก็คงชอบพี่ด้วยแหละ เพราะถึงว่าผมจะบอกให้พี่ทำยังไงถึงจะชนะใจหยาได้ ก็คงจะไม่มีผลถ้าหยาเองไม่ได้ชอบพี่"
"ฮ่ะๆ ก็อาจจะจริงนะ แต่ว่าตอนนี้หยาเขาคงเกลียดฉันไปแล้วล่ะ แกรู้ใช่มั้ยว่าฉันกับหยาเลิกกันแล้ว"
"ครับ...ผมก็พอจะรู้อยู่บ้าง"
"ก็ดี ถ้างั้นคราวนี้แกจะช่วยให้ฉันกับหยากลับมาคืนดีกันได้มั้ย"
"ฮ่ะ... อะไรนะครับ"
"ว่าไงล่ะ..."
"ผมว่า... ผมคงจะช่วยพี่ไม่ได้หรอก"
"งั้นหรอ... น่าเสียดายนะ เพราะตอนนี้ฉันก็ไม่อยากจะทำให้หยาต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ เพื่อคนที่เรารัก ถึงจะต้องใช้แผนสกปรกไปบ้าง แต่ถ้าสุดท้ายเราได้เขากลับคืนมา มันก็คุ้มไม่ใช่หรอ"
"พี่บอยว่าอะไรนะครับ" แต่ก่อนที่เปอร์จะได้คำตอบจากพี่บอย ก็กลับมีเสียง เสียงหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะพอดี ซึ่งนั้นก็คือเสียงของก้องเพื่อนสนิทของเปอร์สมัย ม. ต้น นั้นเอง
"เฮ้ย...ไอ้เปอร์อยู่นี้เองหรอวะ อาว...พี่บอยก็อยู่ด้วย ว่าแต่พี่บอยชวนเปอร์เข้าทีมบาสฯ ของเราหรือยังครับ" ก้องพูดขึ้น
"เออ...ลืมไปเลย เปอร์แกเล่นบาสฯ เก่งนิ มาเข้าทีมฉันมั้ยล่ะ เราจะได้ไปแข่งระดับเขตด้วยกัน"
"ใช่เปอร์ พวกเราจะได้กลับไปเหมือนเมื่อก่อนไง คิดแล้วก็น่าสนุกดีนะโว้ย"
"เออ...ฉันกะเข้าชมรมยูโดที่หยาเป็นประธานน่ะ ต้องขอโทษด้วยนะ"
"ฮา ฮา...แกจะบ้าหรอ ชมรมนั้นเขาไม่รับผู้ชายโว้ย"
"อะไรนะ O_O"
"ก็ยัยพวกนั้นมันกลุ่มหญิงเหล็ก บูชาสิทธิสตรีและขับไล่ผู้ชาย บ้าดีมั้ยล่ะ ทั้งที่ฟ้ากำหนดให้หญิงชายเกิดมาคู่กันแท้ๆ "
"ใครเป็นคนออกกฎข้อนี้กันวะ -_-^"
"เพื่อนฉันเองแหละ ยัยกี้น่ะ ยัยนี้เกลียดผู้ชาย เลยพยายามจะทำให้ชมรมเป็นที่ฝึกซ้อมของเหล่ากุหลาบที่บอบบางให้กลายเป็นกุหลาบเหล็กกล้าให้ได้น่ะ" พี่บอยเสริม
"ขนาดนั้นเลยหรอ O_O"
"ก็เออดิ ว่าแต่แกเอาไงจะเข้าชมรมบาสฯ กับพวกเรามั้ย"
"คิดดูก่อนก็ได้นะเปอร์ ฉันจะรอคำตอบ ไม่เกินวันพรุ่งนี้ล่ะกัน ป่ะ...เจ้าก้องแกต้องไปวิ่งรอบสนาม 10 รอบ แล้วค่อยมาลงเล่นล่ะกันนะ"
"โห...พี่ ! โหดชะมัดเลย" ก้องอดควร
"แล้วแกอยากจะเป็นตัวจริงหรือเปล่าล่ะ ถ้าอยากเป็นแกก็ต้องซ้อมหนักกว่าคนอื่นเขานะ เข้าใจมั้ย"
"ครับผม งั้นผมไปวิ่งก่อนนะครับ เฮ้ย! ไอ้เปอร์รีบๆ มานะโว้ย ข้าไปล่ะ แล้วเจอกัน ฮุย เล ฮุย..." เสียงของก้องเริ่มไกลออกไป ในใจเปอร์คิดมาเสมอว่ายังไงก็ต้องเข้าชมรมเดียวกันกับหยาให้ได้ แต่ในเมื่อมันเกิดมีกฎบ้าๆ แบบนั้นขึ้นมา เขาก็ควรที่จะเข้าทีมบาสฯ ซึ่งกีฬาบาสฯก็เป็นอีกกีฬาหนึ่งที่เขาถนัด จะดีหรือเปล่าน้า...ก่อนที่เปอร์จะตัดสินใจ สิ่งที่เขาคิดได้ก็คือ คำพูดของพี่บอยที่ยังคงค้างคาใจของเขาอยู่ ก่อนที่ก้องจะเข้ามาแทรกระหว่างบทสนทนานั้น พี่บอยทำอะไรให้หยาต้องเจ็บปวด? สิ่งนั้นทำให้เปอร์คิดหนัก เขาต้องการรู้คำตอบ ครั้นจะเข้าไปถามพี่บอยตรงๆ ก็คงจะไม่ได้คำตอบแน่ๆ ดังนั้นเขาต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าพี่บอยกำลังทำอะไรให้หยาต้องเจ็บปวด และทางที่จะเข้าไปอย่างแนบเนียนมากที่สุดก็คือ การเข้าไปในชมรมบาสฯ นั้นเอง ว่าแล้วเปอร์ก็รีบตะโกนบอกกับพี่บอยทันที ก่อนที่พี่บอยจะเดินกลับไปที่ชมรมว่า...
"พี่บอยครับ...ผมจะเข้าชมรมบาสฯ"
"อืม...งั้นวันพรุ่งนี้ก็อย่าลืมมาซ้อมด้วยล่ะ" พี่บอยหันมายิ้มให้เปอร์แล้วก็เดินจากไป ปล่อยให้เปอร์ได้นั่งคิดทบทวนถึงเรื่องราวที่พี่บอยได้พูดกับเขา อะไรคือสิ่งที่พี่บอยกำลังทำ แล้วทำให้หยาต้องเจ็บปวดกัน?
~ แล้วก็ถึงเวลากลับบ้านแล้วจ้า ^^~
"นี้หยา ฉันยังไม่ได้ชำระโทษแกเลยนะ" กิพูดขึ้น
"เรื่องอะไรหรอ O_O"
"ก็เมื่อเช้าน่ะ แกจะมาโรงเรียนกับเปอร์ทำไมไม่โทรฯ ไปบอกฉัน"
"โอ้...ขอโทษ ลืมเลย -_-^"
"ให้มันได้อย่างนี้สิ ทีหลังก็โทรฯ มาบอกด้วยล่ะกัน"
"ค่ะ...รับทราบ^^"
"แล้วเดี๋ยวกลับยังไงล่ะ"
"ก็กลับกับเปอร์น่ะสิ"
"อะไรกันค่ะ นี่เธอต้องมาโรงเรียนตอนเช้าพร้อมเปอร์แล้วก็ต้องกลับบ้านพร้อมกันด้วยหรอ พลอยไม่ยอมนะ" ยัยพลอยที่เดินตามหลังมา แอบได้ยินที่ฉันพูดกับกิ ก็รีบโวยวายทันที
"ปลงเถอะวะ เขาหมั้นกันมาตั้งแต่เกิดแล้ว"
"ไม่จริงใช่มั้ยคะ" ยัยพลอยเริ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
"ก็ไม่จริงนะสิ แกก็ไปเชื่อมัน" กิพูดเสริม
"โล่งอกเลยคะ นั้นสินะ...ถ้าเทียบกันแล้วพลอยยังน่ารักน่าทะนุถนอมมากกว่าหยาซะอีก ถ้าเปอร์ต้องเลือกใครสักคน คนนั้นก็ต้องเป็นพลอยแน่ๆ เลยล่ะคะ" ยัยพลอยพูดพร้อมหันหน้ามาทางฉันแล้วทำหน้าเหมือนกับว่าชนะฉันแล้ว
"ยัยพลอย ฉันอุตสาห์เงียบแล้วนะ วันนี้แกตายแน่!!" มาว่าฉันยังงี้ได้ไงอ่ะ ยัยบ้า ฉันก็น่ารักนะย่ะ > <
ในที่สุดพวกเราทั้งสี่คนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเปอร์ที่ตอนนี้กำลังนั่งรอฉันอยู่ พอเปอร์เห็นฉันก็รีบเดินเข้ามาใกล้แล้วก็พูดขึ้นว่า...
"หยา กลับบ้านกันเถอะ"
"เดี๋ยวสิ ฉันจะไปกินไอติมกับพวกนี้ก่อนอ่ะ -O-"
"ไม่ได้!! ตอนนี้ได้เวลากลับบ้านแล้ว เดี๋ยวคุณป้าจะรอนาน ไปก่อนนะทุกคนแล้ววันพรุ่งนี้เจอกัน
ป่ะ...หยา เร็วสิอย่าทำตัวเป็นเด็กได้มั้ย"
"ว่าอะไรนะ" แล้วก่อนที่ฉันจะได้อาละวาดใส่เปอร์ ผู้ชายจอมบงการที่สุดในโลก ก็โดนเขาลากไปขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว ว่าแต่นี่นายจะมาเป็นแม่ฉันอีกคนหรือไง อีตาบ้า > <
"เปอร์ไปซะแล้วล่ะคะ" ยัยพลอยพูดพลางทำหน้าเสียดาย "ยังไม่ได้พูดกันสักคำเลย"
"ฉันก็บอกแล้ว...ว่าสองคนนั้นเขาเป็นคู่หมั้นกัน" ฟางพูดขึ้น
"หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ทำไมพลอยไม่รู้เรื่องล่ะ" ยัยพลอยทำหน้าสงสัย
"การหมั้นที่กำหนดโดยโชคชะตาและบัญญัติของสวรรค์ยังไงล่ะ" กิเสริม
"แง้ๆ ไม่จริงใช่มั้ยคะ" ยัยพลอยเริ่มทำท่าจะร้องไห้ออกมาแล้ว
"ตัดใจซะเถอะแก" ยัยฟางพูดพร้อมกับลูบหัวยัยพลอยเบาๆ ยัยพลอยก็โพล่เข้ากอดยัยฟางทันทีพร้อมกับร้องไห้สะอื้นออกมา โดยที่กิได้แต่เพียงมองดูโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ทั้งสามคนหารู้ไม่ว่า นอกจากพวกเธอที่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว ยังมีผู้ชายอีกหนึ่งคนที่ยืนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรก พร้อมๆ กับพวกเธอยืนอยู่ตรงนั้น
"ฉันจะไม่ปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นแน่ คอยดู"
~ ที่หน้าบ้านของหยา ~
พอถึงหน้าบ้าน ฉันก็รีบลงจากรถมอเตอร์ไซด์ทันที ขอบอกตามตรงว่าฉันเริ่มจะเซ็งในพฤติกรรมของอีตานี่แล้วนะ คิดว่าฉันเป็นเด็กหรือไง มาคอยบงการและบังคับกันอยู่ได้ ไม่เข้าใจเล้ย เบื่อๆ
"หยา...เดี๋ยวก่อนสิ จะรีบไปไหน" เสียงเปอร์รั้งฉันเอาไว้ให้หยุดก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปในบ้าน
"อย่ามายุ่งกับฉัน" ฉันตอบกลับออกไปอย่างอารมณ์เสีย
"หยา...เปอร์ขอโทษนะ แต่เราต้องคุยกัน"
"ทำไมฉันต้องคุยกับเธอด้วย กลับบ้านไปได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก ฉันจะไปโรงเรียนเอง อ้อ...แล้วอีกอย่างฉันก็จะกลับเองด้วย ไม่ต้องมารอ เข้าใจมั้ย"
"เดี๋ยวก่อนหยา...ฉันไม่ต้องการให้เธอมาโกรธฉันเลยนะ" ตอนนี้เปอร์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน เพื่อกันไม่ให้ฉันเข้าบ้าน
"ก็อย่ามาทำตัวอย่างนี้สิ เธอลืมไปแล้วหรือไง ว่าตัวเองเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่แม่นะ จะได้มาคอยสั่งให้ฉันทำอย่างนู้นอย่างนี้น่ะ ถ้าเธอทำได้ฉันก็จะไม่โมโหเธอ เข้าใจมั้ย"
"ฉันทำไม่ได้หรอก" เปอร์พูดออกมาได้แต่ก็กลับหลบสายตาฉัน มันยิ่งทำให้ฉันโมโห ฮึ่มๆ
"อะไรน่ะ อยากมีเรื่องกับฉันมากใช่มั้ย" ฉันตะโกนออกมาสุดเสียง ก็เพราะว่าโมโหน่ะสิ แต่ก่อนที่เปอร์จะตอบอะไร หรือก่อนที่ตัวฉันจะเคลื่อนไหว โดยการเข้าไปหาเรื่องกับเปอร์ แม่ก็เดินออกมาพอดี
"หยา...แกมันทำตัวน่าขายหน้ามากที่สุด นี้แกยังเป็นลูกฉันอีกหรอ ฉันสอนแก ให้แกเป็นคนดี แล้วดูที่แกทำสิ มันน่านัก" แม่พูดพร้อมกับเดินอย่างเร็วเข้ามาตีฉันอย่างสุดกำลังไม่ยั้งเลยทีเดียว โชคดีที่เปอร์ปกป้องฉันเอาไว้ ทำให้ฉันบาดเจ็บนิดหน่อยเท่านั้น แต่ว่าแม่ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลยนิหน่า แล้ววันนี้แม่เป็นอะไรอ่ะ
"เดี๋ยวสิแม่... แม่พูดอะไรน่ะ หนูไม่รู้เรื่อง" ฉันตะโกนออกไปโดยที่ตัวฉันยืนอยู่ข้างหลังเปอร์
"ใช่ครับคุณป้า เราควรพูดกันดีๆ ดีกว่านะครับ อย่าเพิ่งใช้กำลังเลย" เปอร์พูดพร้อมกับพยายามปกป้องฉันเอาไว้ ไม่ให้ฉันต้องโดนแม่ตีไปมากกว่านี้
"เปอร์...เธอหลบไป เธอยังไม่รู้หรอกว่า ยัยลูกคนนี้ของฉันมันทำชั่วอะไรไว้"
"แม่ว่าอะไรนะ หนูไปทำอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่" ฉันยังคงงงสุดๆ
"แกคิดว่าฉันไม่รู้หรอ ห๊ะ ที่แกไปทำแท้งน่ะ"
"อะไรนะ หนูเนี่ยนะ จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว"
"อย่ามาทำไขสือ ก็แกท้องกับน้องบอยแล้วเขาไม่รับแกก็เลยไปทำแท้งใช่มั้ย"
"ไม่ใช่นะ" เฮ้ย! ที่พี่กี้บอกว่ามีข่าวลือมันก็แค่ฉันไปมีอะไรกับอีตาพี่บอยไม่ใช่หรอ แล้วทำไมมีท้องแล้วทำแท้งอีกอ่ะ อะไรกันเนี่ย หลังจากที่ฉันตอบแม่ออกไปนั้น ไม่นานแม่ก็เริ่มหมดแรงแล้วก็นั่งลง โดยที่เปอร์คอยๆ พยุงแม่อย่างระมัดระวัง ฉันจึงค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ แม่ แล้วก็เริ่มพูดกับแม่อย่างคนมีสติเขาทำกันน่ะ
"ตามจริงมันก็แค่มีอะไรกันไม่ใช่หรอ"
"ห๊า...แกว่าอะไรนะ"
"ก็ที่แม่ได้ยินน่ะ ไม่ถึงกับท้องนะ ข่าวมันออกมาแค่มีอะไรกันเฉยๆ ตามจริงแล้วมันก็..." ก่อนที่ฉันจะพูดจบ แม่ก็ลุกขึ้นแล้วก็ตบตีฉันอีกครั้ง สงสัยฉันคงจะพูดผิดใช่มั้ยเนี่ย ตามจริงเราควรจะบอกความจริงไปเลยถึงจะถูก แล้วจะไปพูดถึงเรื่องข่าวลือทำไมล่ะเนี่ย โง่จริง...และก่อนที่ฉันจะได้อธิบายอะไรออกไป แม่ก็พูดออกมาดังๆ ว่า
"แกมันไม่ใช่ลูกฉัน ออกไป!! ออกไปจากบ้านหลังนี้สะ ออกไป!!!"
"แม่...มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ"
"ฉันไม่เคยมีลูกอย่างแก เปอร์...เธอเอายัยเด็กคนนี้ออกไปซะก่อนที่ฉันจะฆ่ามันให้ตายคามือ"
"อะไรนะ"
"ฉันบอกให้แกออกไปยังไงล่ะ หูแตกหรือไง ออกไป!!"
"แม่..."
"หยา...เราออกไปกันก่อนเถอะ ตอนนี้เราควรให้คุณป้าสงบสติอารมณ์ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพอคุณป้าใจเย็นกว่านี้เราค่อยมาคุยกัน" เปอร์พูดพร้อมกับพยายามลากตัวฉันออกมาจากบ้าน โดยที่ฉันยังคงเรียกแต่คำว่าแม่อย่างไม่ขาดสาย แม่ก็เช่นเดียวกันที่ยังคงพูดแต่คำว่า ออกไป เหมือนกัน
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นฉันก็มานั่งร้องไห้อยู่ที่บ้านเปอร์ โดยมีพี่สาวและแม่ของเปอร์คอยปลอบและให้กำลังใจฉัน พวกเขาเข้าใจฉันและเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมคนที่เป็นแม่ถึงไม่เคยเข้าใจฉันบ้างล่ะ ทีคนอื่นยังเข้าใจฉัน แต่ว่าแม่ฉันแท้ๆ กลับเชื่อข่าวลือบ้าๆ นั้น ฉันคิดไปพลางน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด พี่สาวของเปอร์ก็พูดขึ้นว่า...
"พี่รู้ว่าเธอไม่ได้ทำหรอกนะหยา ตามจริงพี่ก็เป็นคนหนึ่งที่แอบได้ยินแผนที่น้องบอยกุสร้างเรื่องขึ้น"
"พี่... พี่ปาย (ชื่อพี่สาวของเปอร์คะ) รู้ได้ยังไงคะ" ฉันพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาแต่ในตาก็ยังคงมีน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
"ก็พี่ได้ยินตอนที่น้องบอยคุยกับเพื่อนที่ร้านริโอ้ ที่พี่ทำงานอยู่นะสิ"
"จริงหรอคะ ถ้างั้นพี่ปายต้องไปบอกแม่ของหยานะ แม่ของหยาจะได้เข้าใจ" ฉันพูดพร้อมกับอ้อนวอน
"ไม่ต้องห่วงหรอกหยา เดี๋ยวพี่กับแม่จะเป็นคนไปบอกคุณป้าเอง" พี่ปายพูดพร้อมกับมองหน้าคุณน้าหรือว่าแม่ของพี่ปายกับเปอร์นั้นเอง คุณน้าก็ผยักหน้าแล้วก็พูดกับฉันว่า
"อย่างที่ปายบอก ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวน้าก็จะช่วยอีกแรง แต่ต้องรอให้แม่ของเราใจเย็นลงกว่านี้ก่อนล่ะกันนะ" คุณน้าพูดพร้อมกับเข้ามาบีบมือฉันเพื่อให้กำลังใจ ส่วนเปอร์ตอนนี้กำลังยืนมองบ้านฉันจากทางหน้าต่าง แล้วก็พูดขึ้นมาว่า
"แปลกนะครับ ผมว่าบ้านคุณป้ามันเงียบๆ ไป เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงก๋องแก๊งก๋องแก๊งอยู่เลย"
"หรือว่า...ไม่นะ แม่ต้องไม่เป็นอะไร" พูดเสร็จฉันก็รีบวิ่งกลับไปที่บ้าน โดยมีเปอร์ พี่ปายและคุณน้าวิ่งตามมาติดๆ ฉันรีบวิ่งไปที่จุดศูนย์กลางของบ้าน ซึ่งนั้นก็คือห้องโถงก็ไม่มีใคร ไปที่ห้องครัวก็ไม่มีใคร ไปที่ห้องน้ำก็ไม่มีใคร จนฉันคิดว่าจะต้องเดินไปดูที่ชั้นบน เพื่อว่าแม่อาจจะอยู่ที่ห้องนอนก็ได้ แต่พอฉันจะขึ้นไปที่ชั้นบน ฉันก็ได้ยินเสียงเปอร์ พี่ปาย และคุณน้าเรียกฉันให้ไปดูตรงที่บันได แล้วสิ่งที่ฉันเห็นคือ แม่!! แม่นอนอยู่ตรงทางขึ้นบันได นอนหลับไป ไม่ใช่หลับแต่แม่หมดสติไปต่างหาก ฉันทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืน อึ้ง!! อยู่ตรงนั้น เปอร์รีบเข้าไปอุ้มแม่ของฉันแล้วก็เดินออกไปนอกบ้าน พี่ปายได้วิ่งออกไปก่อนแล้ว แล้วฉันก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถยนต์ ฉันทำอะไรไม่ถูก จนคุณน้าต้องมาพยายามลากตัวฉันออกไป ในที่สุดฉันก็ออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้าน ฉันเห็นรถที่บ้านเปอร์ออกมา คิดว่าพี่ปายคงเป็นคนขับ ส่วนเปอร์ก็อุ้มร่างของแม่ฉันอยู่ และกำลังพยายามอุ้มใส่เข้าไปในรถ โดยที่คุณน้าก็วิ่งเข้าไปช่วยด้วย สุดท้ายรถก็แล่นออกไป ฉันก็ยังคงได้แต่ยืนมองรถที่มีพี่ปายขับ มีเปอร์นั่งอยู่ข้างๆ พี่ปาย และแม่ของฉันที่นอนอยู่ข้างหลังออกไป ไม่นานคุณน้าผู้ชายพ่อของเปอร์และพี่ปายก็มาถึง คุณน้าผู้หญิงรีบพาฉันเดินไปขึ้นรถของคุณน้าผู้ชาย คุณน้าผู้ชายและคุณน้าผู้หญิงพูดคุยกัน แล้วคุณน้าผู้ชายก็ทำท่าทางตกใจ จากนั้นคุณน้าผู้ชายก็รีบขับรถตามรถคันข้างหน้าไป โดยที่ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นก็คือ ภาพของคุณน้าผู้หญิงหันหน้ามามองฉันซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ แล้วเหมือนจะพูดอะไรบ้างอย่าง แต่ว่าตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย...
ฉันตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นแต่แสงไฟสีขาวที่แสบตา ภาพที่ฉันเห็นภาพแรกก็คือใบหน้าที่ดูเป็นห่วงของเปอร์ พอฉันได้สติจึงรีบลุกขึ้นพรวดทันที
"แม่ฉันล่ะ แม่ฉันอยู่ที่ไหน"
"แม่เธอกำลังผ่าตัดอยู่"
"ทำไมแม่ต้องผ่าตัดด้วยล่ะ แม่เป็นอะไร บอกฉันมาสิเปอร์ว่าแม่ฉันเป็นอะไร"
"หยา...ต้องทำใจดีๆ นะ แม่หยาไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวเดียวก็หาย"
"โกหก...ถ้าไม่เป็นอะไร ทำไมแม่จะต้องผ่าตัดด้วยล่ะ บอกฉันมานะเปอร์ว่าแม่ฉันเป็นอะไร"
"คือ คุณป้า..." ไม่ทันที่เปอร์จะได้ตอบคำถามของฉัน ฟาง กิ พลอยก็วิ่งตรงเข้ามาหาฉัน แล้วก็รีบถามอาการฉันอย่างเป็นห่วงเป็นใย แต่ฉันก็ตอบออกไปว่า ฉันไม่ได้เป็นอะไรมาก อาจจะแค่ช็อกแล้วก็เป็นลมไปเท่านั้นเอง แต่เปอร์ก็คงไม่จำเป็นต้องตอบคำถามฉันอีกแล้ว เมื่อฟางถามถึงอาการของแม่ฉันขึ้นมาว่า
"แม่แกเลือดคลั่งในสมองใช่มั้ย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง"
"แม่...ฉัน เลือดคลั่งในสมองหรอ"
"อาว...นี้แกสติแตก สมองเสื่อมหรือไง ก็แม่แกตกบันไดแล้วเลือดก็คลั่งในสมองจนหมอต้องให้ผ่าตัดด่วนเนี่ย ไม่เข้าใจหรือไง"
"จริงหรอเปอร์..." ฉันหันไปถามเปอร์ ที่ตอนนี้กำลังหลบสายตาฉันอยู่ "ตอบมาสิ ฉันบอกให้ตอบมา"
"จริง..." เปอร์ตอบฉันออกมา แต่เสียงนั้นช่างแผ้วเบาเหลือเกิน
"อาว...แกยังไม่รู้หรอ" ฟางยังคงทำหน้างง กิ และพลอยก็ยังคงทำหน้างงๆ ไม่แพ้กัน ฉันจึงรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเพื่อไปดูแม่ ฉันคิดว่าแม่น่าจะอยู่ที่ห้องผ่าตัด ฉันจึงรีบวิ่งไปที่หน้าห้องผ่าตัด ก็พบพี่ปาย คุณน้าผู้หญิงและคุณน้าผู้ชายนั่งอยู่ที่ห้องผ่าตัดก่อนแล้ว ประจวบเหมาะกับที่คุณหมอออกมาพอดี คุณน้าผู้ชายก็รีบวิ่งเข้าไปถามอาการของแม่ฉันทันที โดยที่มีคุณน้าผู้หญิงและพี่ปายยืนอยู่ข้าง และฉันก็ได้ยินสิ่งที่หมอพูด
"ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่เนื่องจากว่าตอนที่ผ่าตัด คนไข้หยุดหายใจไปเกือบ 5 นาที ตอนนี้หมอก็ยังไม่แน่ใจว่า ถ้าเขาฝืนขึ้นมาจะหายเป็นปกติหรือเปล่า ยังไงก็คงต้องรอดูอาการกันก่อน ยังไงเดี๋ยวหมอขอตัวเลยล่ะกันนะครับ" พูดจบหมอก็ไป ทิ้งให้ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต้องเศร้าและเจ็บปวดกับสิ่งที่ได้ยิน และคนที่เจ็บปวดมากที่สุด คนที่ทำให้แม่ต้องเป็นแบบนี้ ก็คือฉันเอง
~ เช้าวันรุ่งขึ้น~
ฉันยังคงนอนเฝ้าแม่ตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว โดยที่เมื่อคืนฉันได้บอกกับเพื่อนๆ ว่า วันพรุ่งนี้ฉันคงจะไปโรงเรียนไม่ไหว ให้ฝากลาอาจารย์ให้ด้วย และขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งบอกกับใคร ซึ่งเพื่อนๆ ก็รับปากฉันเป็นอย่างดี เช้าวันนี้ฉันมองดูแม่ ฉันไม่เคยเห็นแม่นอนหลับเลย ปกติแม่มักจะนอนหลับทีหลังฉันเสมอ แล้วก็ตื่นนอนก่อนฉันอีกด้วย ภาพของแม่ที่กำลังนอนหลับอยู่นั้นช่างสงบอย่างบอกไม่ถูก แต่พอนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ฉันก็ต้องร้องไห้ออกมาอีกครั้ง น้ำตาแทบจะไม่เหลือให้ร้องอยู่แล้ว แล้วเปอร์ก็เดินเข้ามาหาฉัน พร้อมกับเอาอาหารเช้ามาให้ฉัน แล้วพูดกับฉันว่า
"กินอะไรก่อนเถอะ เธอยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วนะ"
"ฉันไม่หิว"
"ถ้าเธอป่วยอีกคนจะทำยังไง"
"ฉันไม่สน"
"คุณป้าเขาไม่ได้ต้องการให้เธอต้องมาป่วยไปอีกคนหรอกนะ"
คำพูดของเปอร์ทำให้ฉันหันหน้าไปมองเขา สีหน้าที่ฉันมองเขาเป็นสีหน้าแห่งความแค้น และความชิงชัง จนเปอร์ถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว แต่ฉันก็หันกลับมามองที่หน้าแม่ของฉันอีกครั้ง แล้วก็พูดออกมาว่า
"นั้นสินะ แม่คงไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น ก็แม่รักฉันจะตายนิหน่า" ฉันพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เปอร์ก็เข้ามาบีบที่ไหล่ของฉันอย่างอ่อนโยนโดยหวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้
"มันจะไม่จบแค่นี้แน่เปอร์" ไม่นานฉันก็หยุดร้องไห้แล้วก็มองออกไปที่นอกหน้าต่างอย่างมีจุดหมาย
"หยา...เธอว่าอะไรนะ"
"ต้องมีใครสักคนที่ต้องชดใช้"
"หยา หยา...มองหน้าเปอร์สิ" เปอร์จับฉันให้หันไปมองหน้าเขา แล้วก็พูดขึ้นว่า "ถ้าหยากำลังเจ็บปวดก็ขอให้ลงที่เปอร์แล้วหยุดทุกอย่าง หยุดความแค้นนั้นซะ เปอร์จะคอยอยู่เคียงข้างหยานะ เปอร์ไม่อยากให้หยาทำอะไรอีกแล้ว เชื่อเปอร์เถอะนะ" เปอร์พูดพร้อมกับมองมาที่ฉันอย่างห่วงใย ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจเปอร์ แต่คราวนี้ฉันทำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง โดยที่เปอร์จะต้องไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะฉันก็ไม่ต้องการให้เปอร์ต้องมาเจ็บตัวเพราะฉันอีกแล้ว ฉันจึงแกล้งทำหน้าอินไปกับคำพูดของเปอร์ แล้วก็พูดออกมาว่า
"ก็ได้...หยาจะเชื่อเปอร์"
------------------> ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามมาถึงตอนนี้นะคะ ^^ ความสนุกยังไม่หมดแค่นี้แน่ ลองคิดดูล่ะกัน ว่าเมื่อได้เริ่มทำลงไปแล้ว จากที่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้น เหมือนกับสารเสพติดที่ตอนแรกแค่ลองเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นไม่นานก็ต้องติดต้องเพิ่มปริมาณเข้าไป...ยังไงก็พบกับการแก้แค้นคืนของหยาและเพื่อนสาว แต่ว่าเมื่อเล่นแรงเกินไปแล้วใครจะมาหยุดพวกเธอได้ ต้องติดตามกันต่อตอนต่อไปนะคะ สำหรับตอนนี้ที่ 2 นี้ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านกันนะคะ จะอัพบ่อยๆ เลย โชคดีค่า ^^
ความคิดเห็น