คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 อย่างนี้ต้องเอาคืน...
"เฮ้ย! ไอ้หยา ฉันส่งแกที่หน้าบ้านนะ แล้วเดี๋ยวดึกๆ จะมารับไปเที่ยว"
"เออ...แล้วเจอกัน^^"
นั่นแหละค่ะ ชื่อของฉัน "หยา" เพื่อนๆ เรียก "ไอ้หยา" ฟังแล้วก็เหมือนคำอุทานที่คนจีนชอบพูดกันเลยเนอะ ช่วงนี้ฉันกลับบ้านช้ากว่ากำหนดที่แม่ตั้งเอาไว้ เพราะฉันเพิ่งได้เป็นประธานชมรมยูโดค่ะ แหม...เท่ห์น่าดูเลย >_< มีรุ่นน้องมากรี๊ดเพียบ! แต่ไม่ต้องห่วงหรอกคะ เพราะว่าแม่ของฉันเป็นคนใจดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนที่ตอนนี้ฉันไม่ค่อยจะสนใจ เรื่องเที่ยวที่วันๆเอาแต่ออกตะลอนทุกเย็นจนกลับดึกดื่นมืดค่ำ แม่ก็ไม่เคยบ่น ก็แหม...ฉันเป็นลูกสาวสุดที่รักของแม่นี่หน่า มันก็ต้องเอาใจกันหน่อย ว่าแล้วก็เดินเข้าบ้านดีกว่า^^
"ลันล้า ล่า ล่า ลันล้า ล่า ล่า ท้องฟ้าทะเลสดใส แต่น่าเสียดายที่บ้านฉันไม่มีทะเล เย เย้
ลันล้า ล่า ล่า..."
ซ่า!!
"เฮ้ย! ใครวะ!! เปียกเลย O_O อย่าให้รู้นะว่าใคร ไม่งั้นล่ะก็..."
"ไม่งั้นล่ะก็...อะไร ห๊ะ!"
"อาว...แม่เองหรอ แล้วสาดน้ำใส่หนูทำไมเนี่ย ดูสิเปียกหมดเลย T_T"
"นี้มันกี่โมงแล้ว ทำไมแกเพิ่งจะกลับบ้าน ไปเถลไถลที่ไหนมา ห๊ะ"
"ทำไมแม่ต้องดุด้วยล่ะ นี้เพิ่งจะหกโมงเย็นเองนะ หนูก็เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนเนี่ย ไม่ได้ไปไหนเลย"
"ให้มันจริงล่ะกัน แกอย่ามาโกหกฉันเชียว"
"แล้วหนูเคยโกหกแม่มั้ย เอ้า! สาบานให้ฟ้าผ่าตายเลย เอาให้ตายกันไปเลย"
เปรี้ยง!!
"อาว...มาได้งัยเนี่ย ท้องฟ้ายังปลอดโปร่งอยู่เลยแท้ๆ O_O"
"ก็แกโกหกฉันนะสิ ใช่มั้ย"
"ไม่ใช่นะ...แม่หัดเชื่อใจลูกสาวตัวเองบ้างสิ"
"ฉันก็เห็นแกโกหกทุกครั้งนั้นแหละ ทำมาเป็นพูดดี เฮ้อ...อย่างที่เขาว่ามีลูกสาว เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน"
"ก็ดีนะ แบบว่า...เผื่อใครปวดท้องระหว่างทาง ผ่านมาบ้านเราก็แวะเข้าห้องน้ำที่หน้าบ้านเราเลย เก็บตังค์ด้วยดีมั้ยแม่"
"นี่!! แกจะกวนประสาทฉันใช่มั้ย"
"หนูเปล่านะ >_<"
"เออ...ฉันไม่อยากจะเถียงกับแกแล้ว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมากินข้าวซะ"
"ค่า....จัดให้ค่า"
แล้วนี้ก็คือแม่ของฉัน แกจะเจ้าระเบียบ ขี้บ่น จู่จี้ จุกจิก ฉันเคยสงสัยนะว่า ทำไมแม่ต้องบ่นมากขนาดนี้ หรือว่าการได้บ่นฉันจะเป็นสิ่งที่แกชอบ แต่ก็ได้คำตอบมานะว่า แกลองมาเป็นฉันดูสิแล้วแกจะรู้ สรุป ก็คงต้องรอจนกว่าจะถึงตอนนั้นละมั่งฉันถึงจะเข้าใจ แต่ฉันก็เดาออกแหละ ว่าแม่คงจะเป็นห่วงฉัน เพราะตอนนี้ที่บ้านเราก็มีแค่แม่แล้วก็ฉัน ฉันเป็นลูกคนเดียวค่ะ พ่อฉันเสียไปตอนที่ฉันจำความได้นิดหน่อย แม่ไม่ค่อยอยากให้พูดถึงมันเท่าไรหรอก เพราะพูดถึงทีไร แม่เป็นต้องมานั่งร้องไห้ทุกที ตอนนี้แม่เลยต้องหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว
ดีตรงที่เรามีบ้านหนึ่งหลัง มีที่ดิน มีสวนผลไม้ มีเงินเก็บและมีกิจการเล็กๆ เกี่ยวกับการทำขนมค่ะ เป็นของที่พ่อหาไว้ให้ก่อนตาย เราสองแม่ลูกเลยอยู่รอด แม่ฉันทำขนมได้อร่อยสุดยอดเลยแหละ นอกจากนี้กับข้าวของแม่ก็อร่อยสุดยอดเหมือนกัน ฉันยังพกไปกินที่โรงเรียนทุกวันเลย ปีนี้ฉันก็เรียนอยู่ ม.5แล้ว อีกปีเดียวก็จะจบ ฉันยังไม่ได้วางแผนในอนาคตเลยคะว่าอยากจะเรียนต่อสาขาอะไร นี่แหละ...เลยทำให้แม่ฉันหัวเสียกับเรื่องการเรียนของฉันมากที่สุด แต่ขอบอกว่าฉันเรียนเก่งนะ แต่แค่ไม่ค่อยชอบเข้าเรียนเท่านั้นเอง ^^
"หยา...เมื่อไรแกจะมากินข้าว กับข้าวเย็นหมดแล้วนะ"
"ค่า...จะไปเดี๋ยวนี้แหละคะ"
ฉันเดินออกมาตรงหน้าบ้านเพื่อมานั่งกินข้าวกับแม่ หน้าบ้านของฉันจัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ ที่ปลูกต้นไม้พันธุ์ใหญ่ปกคลุมจนมองไม่เห็นรั้วเลยทีเดียว ตรงมุมหนึ่งของสวนหย่อมจะมีโต๊ะไม้หินอ่อน ที่ขอบอกว่าเวลานั่งกินอาหารตอนเย็นแล้วจะเย็นสบายสุดยอดเลย อาหารเย็นมักจะถูกจัดวางไว้ที่บนโต๊ะไม้หินอ่อนนั้นเสมอ ที่สำคัญเมื่อฉันลงมาจากตัวบ้าน ฉันก็จะเห็นแม่หันหน้ามาแล้วยิ้มให้ฉัน พร้อมกับส่งสายตามาที่ฉันอย่างอ่อนโยน กวักมือเรียกฉันและพูดกับฉันว่า น้องหยาได้เวลาอาหารเย็นแล้วลูก
"นี่! แกมั่วทำอะไรอยู่ห๊ะ ปล่อยให้ฉันต้องมาจัดอาหารรอแกอยู่ได้ทุกวัน เป็นลูกผู้หญิงก็ต้องมาคอยช่วยแม่จัดโต๊ะอาหารสิ ดูสิอะไรกัน ฉันทำให้แกกินแล้วยังต้องมาจัดโต๊ะให้แกอีกหรอ เดี๋ยววันนี้ล้างจานด้วยล่ะ"
"เฮ้อ..." ลืมที่ฉันพูดเมื่อกี้ไปได้เลยคะ TT_TT
"แกจะถอดหายใจทำไม"
"เปล่า...แค่หายใจยาวไปเท่านั้นเอง"
"เออ...ถ้างั้นก็มารีบกินข้าวซะ กับข้าวเย็นหมดแล้ว"
"ค่า..."
"แม่ ถามอะไรอย่างสิ"
"มีอะไร"
"ทำไมแม่ทำอาหารอร่อย ทั้งที่อารมณ์บูดตลอดเวลาล่ะ หนูเห็นนะว่าคนที่เขาทำอาหารและก็ขนมอร่อยๆ นะ เขาจะเป็นคนที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส ร่าเริง อ่อนโยน และใจดีเสมอ แต่แม่นะสิ ไม่เห็นเหมือนเลย"
"ห๊ะ!!"
"เออ...ไม่มีอะไร"
"นี่ แกคิดว่าแม่แกยังเป็นคนที่ไม่อ่อนโยนและใจดีอีกงั้นหรอ"
"เปล่า...กินข้าวต่อเถอะ^^"
"หยา..."
"คะแม่"
"แม่ไม่ได้อยากจะดุแกนักหรอกนะ แต่แม่อยากให้แกเป็นคนดี ไม่ออกนอกลู่นอกทาง คนสมัยนี้มันไว้ใจได้ที่ไหนกันล่ะ แม่อยากให้แกทันคน ทันโลก แม่เลยต้องสอน ต้องด่าแกอยู่ทุกวันนี้ยังไงล่ะ เข้าใจมั้ย"
"โห...แม่ คิดมากไปหรือเปล่า หนูว่าแม่น่าจะกลัวว่า หนูจะเป็นคนสมัยนี้ที่ไม่น่าไว้วางใจมากกว่านะ อิอิ"
"นี่แกเคยสำนึกอะไรหรือเปล่าเนี่ย แล้วไอ้ที่กลับบ้านช้า อย่าบอกนะว่าไปซ้อมยูโดกับเพื่อนแกอีกแล้วน่ะ"
"อาว...หนูเป็นประธานชมรมนะแม่ ก็ต้องมีความรับผิดชอบกันหน่อยสิ"
"แล้วความรับผิดชอบในฐานะลูกสาวของฉัน แกทำอะไรบ้าง"
"แหม...แม่ก็"
"มาแม่ก็อะไร ห๊ะ"
"แฮ่ๆ ^^"
"เออใช่...แล้วนี้แกเลิกกับน้องบอยแล้วหรอ แม่เห็นมีจดหมายมาหย่อนที่ตู้หน้าบ้านเราทุกวัน มีแต่คำว่า ขอโทษนะ คืนดีกันนะ อะไรทำนองเนี่ย"
"นี้ แม่แอบด้วยอ่านหรอ"
"เปล่า...ก็เห็นซองมันเปิดอยู่ แม่จับขึ้นมากระดาษมันก็ตกลงมาแล้ว พอแม่เก็บก็แอบเห็นข้อความเท่านั้นเอง"
"โห...เท่านั้นเองอะไรล่ะ ที่พูดมาทั้งหมด มันก็หมดข้อความในจดหมายนั้น นั่นแหละ"
"เออน่า...ฉันเป็นแม่แกนะ"
"เอาอีกล่ะ อ้างคำนี้ทุกที"
"นี้...แกจะออกจากบ้านนี้ไปเลยมั้ย ห๊ะ"
"ขอโทษคะ หนูผิดไปแล้ว"
"เออ...แล้วสรุปว่ายังไง แกยังคบกันอยู่หรือว่าเลิกกันไปแล้ว"
"เลิกกันไปแล้ว"
"อาว...ทำไมล่ะ"
"แล้วแม่จะอยากรู้ไปทำไมล่ะ"
"อาว...ยัยลูกคนนี้ ฉันก็ต้องอยากรู้สิ ฉันเป็นแม่แกนะ"
"จ้า...เลิกแล้ว ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม"
"น่าเสียดายนะ น้องบอยเป็นนักเรียนดีเด่นด้วยสิ การเรียนก็ดี กีฬาก็เด่น เป็นกัปตันทีมบาสฯ ของโรงเรียนด้วยนิ แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย ทำไมแกเลิกกับเขาซะล่ะ"
"โห....แม่ อะไรจะขนาดนั้น เอาเป็นว่าเลิกก็คือเลิก จบนะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก"
"อาว...คบกันมาตั้ง 2 ปีจะเลิกก็เลิกซะงั้น"
"ห้าว...อิ่มแล้วก็ง่วงแฮะ หนูไปอาบน้ำนอนก่อนนะ"
"เดี๋ยว!! จะไปไหน แกต้องเก็บจานแล้วเอาไปล้างด้วย ห้ามลืม"
"แม่อ่ะ..."
ปิ้งป๋อง ปิ้งป๋อง!!
"ใครมากดออดน่ะ หยาแกไปดูสิ"
"หนูล้างจานให้แม่อยู่นะ"
"จะไปดูไหม"
"ค่า...จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะคะ"
~ ที่หน้าบ้าน~
"สวัสดีค่ะ มาหาใครค่ะ"
"เออ...ขอโทษนะคะ บ้านน้องหยาอยู่หลังไหนหรอคะ" หญิงวัยกลางคนร่างท้วมคนนี้มาหาฉัน ดูจากการแต่งตัวและการพูดจาของเธอแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นคนที่มีฐานะดีทีเดียวแหละ แต่ฉันไม่รู้จักอ่ะ -_-^
"เดินตรงไปข้างหน้านู้นแหนะคะ โชคดีนะคะ^^"
พลัก!!
"แม่!!"
"นี่แกจะบ้าหรือไง" แม่หันมาดุฉันก่อนที่จะหันไปยิ้มหวานให้กับแขกที่มาเยือนพร้อมกับพูดว่า
"ขอโทษนะคะที่ลูกฉันเสียมารยาท เขาก็คือน้องหยาที่คุณถามหานั่นแหละค่ะ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรือเปล่าค่ะ"
"เขาเป็นลูกสาวของคุณหรอคะ"
"อ๋อ...ใช่ค่ะ มีอะไรหรอค่ะ"
"ฉันจะไม่พูดอ้อมค้อมล่ะนะ" ผู้หญิงร่างท้วมเริ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เย็นชาไม่เป็นมิตรผิดกับเมื่อตะกี้ลิบลับ "คุณสอนลูกสาวของคุณยังไง ให้มาคอยตามเกาะแกะลูกชายของฉันต้อยๆ ไม่อายบ้างหรือไงกัน ทำไม..."
"เดี๋ยวก่อนสิค่ะ นี้มันเรื่องอะไรกัน ลูกฉันไปทำอะไรไว้งั้นหรอ"
"ใช่ๆ หนูไปทำอะไรให้คุณป้าหรอค่ะ แล้วคุณป้านี้ช่าง..." ยังพูดไม่ทันจบแม่ก็หันหน้ามาส่งสายตาเขียวปี๊ดใส่ฉันซะแล้ว ก็แหม...ตามจริงถ้าฉันไม่ได้อยู่กับแม่ แต่อยู่กับกลุ่มเพื่อน ยัยป้าคนนี้เสร็จฉันและเพื่อนไปแล้ว โทษฐานก่อความไม่สงบไงล่ะ แต่ว่ากล้ามาด่าฉันถึงบ้านเชียวหรอเนี่ย ตอนกลับบ้านระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ ฮึ่ม...
" อะแฮม...ฉันเป็นแม่ของน้องบอย น้องบอยบอกว่าที่ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนก็เพราะมีเธอมาคอยกวนใจ เขาเลยไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน ฉันก็เลยต้องมาขอร้องให้เธอช่วยเลิกยุ่งกับลูกชายของฉันซะที หวังว่าเธอคงจะเข้าใจนะ"
"ห๊า...เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว หนูเนี่ยนะที่ไปกวนใจพี่บอย คุณป้ากลับไปถามพี่บอยใหม่ดีกว่าคะ ว่าใครกันแน่ที่มากวนใจใคร จริงมั้ยแม่...อาว แม่!! O_O หายไปไหนแล้วเนี่ย"
"เธออย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ"
"หนูเปล่าโกหกนะ แล้วอีกอย่าง..."
"เดี๋ยวก่อน..."
"แม่ O_O หายไปไหนมาอ่ะ ทำไมทิ้งหนูไว้คนเดียวล่ะ แม่ใจร้ายT_T"
"แกเงียบไปก่อนเลย...คุณ! แม่น้องบอยใช่มั้ยคะ ฉันมีหลักฐานนะว่า ลูกคุณต่างหากที่มากวนใจลูกสาวฉัน เพราะลูกคุณส่งเศษกระดาษนี่มาทุกวันเลย" แม่ฉันพูดพร้อมกับยื่นกระดาษจดหมายที่พี่บอยเขียนมาหาฉันทุกเช้าให้กับแขกที่ไม่ได้รับเชิญและมายืนอยู่ที่หน้าบ้านฉันตอนนี้ ใช่เลย!! นี้แหละหลักฐานว่าฉันบริสุทธิ์!!
"นี้มันอะไรกัน"
"ลายมือลูกชายคุณ คุณจำไม่ได้หรอคะ"
"แต่ว่า...มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็..."
"หนูเลิกกับพี่บอยแล้วคะ คุณป้าคงโดนพี่บอยหลอกแล้วล่ะ ถ้างั้นเราก็คงไม่ต้องพูดอะไร
กันอีกแล้วใช่มั้ยคะ"
"เออ..."
"ไม่ต้องขอโทษค่ะ หนูไม่ถือสาอยู่แล้ว" แฮ่ๆ สะใจ "แล้วก็ขอให้เดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัยนะคะ วันนี้ก็อย่าลืมล็อกประตูบ้านให้แน่นหนาด้วย อ้อ...โดยเฉพาะรถยนต์ เบนซ์ใช่มั้ยค่ะนั้น ระวังนะคะ อย่าไปจอดให้มันห่างหูห่างตาล่ะกัน เดี๋ยวมันจะโดนรังแก ^^"
"เอ๊ะ...เดี๋ยว นี้เธอหมายความว่ายังไง"
"หนูก็แค่เตือนด้วยความหวังดีน่ะคะ สมัยนี้คนเรามันไว้ใจกันยาก คนที่เกลียดเราน่ะมีเยอะ หนูก็พูดไปอย่างนั้นแหละคะ อย่าไปคิดมาก งั้นก็ลาล่ะนะคะ ฝันดีคะ^^"
"ฮึ่ม...ยัยเด็กบ้า" และนั้นก็เป็นเพียงแค่เสียงที่แผ้วเบาออกมาจากริมฝีปากของคุณแม่พี่บอย
ที่ตอนนี้กำลังเดินกลับไปที่รถโดยที่มีฉันยืนมองส่งเขาแล้วอมยิ้มอยู่
"แกไปเอาคำพูดน่ากลัวๆ แบบนั้นมาจากไหนกัน ห๊ะ"
"ทำไม...แม่ไม่ชอบหรอ" ฉันพูดกับแม่พลางอมยิ้มเล็กน้อยกับชัยชนะที่เพิ่งได้มา (ช่างน่าภูมิใจจริ๊งจริง -_-^เด็กดีไม่ควรพูดกับผู้ใหญ่อย่างนี้นะคะ^^)
"ก็ไม่เชิงหรอกนะ แต่มันเหมือนพวกยากูซ่า ลูกน้องเจ้าพ่อมาเฟีย โจรขู่กรรโชกทรัพย์เลย"
"จริงหรอแม่"
"ก็จริงนะสิ โอ้ย...ฉันจะบ้าตาย หรือว่าฉันให้แกดูหนังที่ไม่ดีแล้วแกทำตามจากหนังใช่มั้ยเนี่ย"
"แม่...มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ตามจริงหนูจำมาจากที่แม่ขู่หนูอยู่ทุกวันนั่นแหละ
แล้วก็ประยุกต์ใช้นิดหน่อย ให้เป็นแบบฉบับของตัวเอง แหม...เท่ห์ไม่หยอกเลยใช่มั้ย"
"นี่แก...หลอกด่าฉันหรอ"
"เปล่านะ หนูชมแม่ต่างหากล่ะ ฮา ฮา" ฉันพูดพร้อมกับรีบวิ่งเข้าห้อง แต่ไม่ลืมล็อกประตูอย่างแน่นหนา เพราะเดี๋ยวแม่ก็ได้เข้ามาอาละวาดใส่ฉันกันพอดีน่ะสิ อิอิ^^
"เฮ้อ...ยัยลูกคนนี้นิ หนีไปซะงั้น แล้วฉันจะบอกเรื่องเพื่อนบ้านของเรายังไงล่ะเนี่ย"
~ ในห้องนอนของฉัน~
(ฮัลโหล...ชีวิตสุดห่วย!!-O-)
"เฮ้ย! เมื่อไหร่พวกแกจะมารับฉันวะ นี้มันจะสองทุ่มแล้วนะ มาเร็วๆเลย"
(อาว...ไอ้หยาหรอ โทษทีกำลังจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ)
"อย่าช้านะพวกแก เดี๋ยวฉันไม่ได้ออก-O-"
(เออ...)
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด... วางไปซะงั้นอ่ะ -_-^
ถ้าแม่ต้องการให้ฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก เรียบร้อย อันดับแรกแม่คงต้องหันมาพูดกับฉันดีๆ ไม่ดุด่าแรงๆ และคุยกันด้วยเหตุผล ที่สำคัญเราคงต้องเปลี่ยนสรรพนามกันซะใหม่ อย่างเช่น น้องหยา ลูกหยา คุณลูก อึ๋ยยย...คิดแล้วขนลุก วิธีนี้ไม่ได้ผลหรอก ถ้าเป็นวิธีที่สองก็คือเลิกคบกับไอ้พวกเพื่อนบ้า เพราะมันเป็นผู้หญิงที่หาความเป็นกุลสตรีไม่ได้เลย ก็ยากอีกนั้นแหละ เพราะพวกเราคบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่อนุบาลหมูน้อยแล้ว หรือจะเปลี่ยนให้มันเป็นกุลสตรีดี อืม...ไม่เอาดีกว่า นึกภาพแล้วขนลุก แต่ก็สนุกดี ฮา ฮา สรุปแม่คงต้องทำใจแล้วล่ะว่าฉันต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป อืม...อันนี้แหละดีที่สุด เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่สุดแล้ว อิอิ^^
~ ไอ้หยา ไอ้หยา ไอ้หยา มารับโทรศัพท์ด้วย มารับด้วย ด้วย ด้วย...~
โห...เป็นเสียงเรียกเข้าที่ถ้าไม่ได้รับโทรศัพท์แล้วต้องนอนฝันร้ายแน่ๆเลย เพราะพวกเพื่อนๆ ได้รวมพลังในการใส่เสียงตัวเองลงไปสุดฤทธิ์ ว่าแต่ใครโทรมาล่ะเนี่ย -_-^
(น้องหยา น้องหยา พูดอยู่หรือเปล่า)
"ค่ะ ใครค่ะ -O-"
(พี่กี้...)
"พี่กี้!! มีอะไรหรอคะ มีเรื่องกันหรอ ที่ไหนว่ามาได้เลยเดี๋ยวหยาโทรตามน้องในชมรมมาด้วย"
(แกจะบ้าหรอ ฉันยกชมรมให้แกเป็นประธานไม่ได้ให้แกเอาเด็กในชมรมไปตีกันนะ -O-")
"อาว...ไม่ได้มีเรื่องกันหรอกรึ O_O"
(ฉันจะบ้าตาย ทำไมมีน้องในชมรมที่ชอบต่อยตีกับชาวบ้านเขานักนะ ไม่เข้าใจจริงๆ โดยเฉพาะกลุ่มแกอ่ะ โทรหาใคร พอบอกว่าเป็นฉันก็ถามใหญ่เลยว่ามีเรื่องกันหรอ เฮ้อ...ฉันล่ะเบื่อ)
"อาว...ก็พี่กี้เป็นเจ้าแม่มือตบนี้หน่า"
(อะไรนะ!!)
"เปล่า...ว่าแต่พี่กี้มีอะไรหรอ"
(เออ...เกือบลืม เรื่องไอ้บอยอ่ะ ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าให้เลิกยุ่งกับมัน แกยังจะไปยุ่งกับมันอีกหรอ ห๊ะ)
"เดี๋ยวสิ...เขาเลิกกันแล้วนะ"
(เลิกงั้นหรอ!! แล้วทำไมไอ้บอยมันถึงมาเที่ยวโพนทะนาว่าแกกับมันมีอะไรกันแล้ว)
"อ๊ากกก...จะบ้าหรอ เฮ้ย! ไม่จริงนะ ไม่จริงเลย มั่ว > <"
(แล้วฉันจะรู้หรอย่ะ แกรีบมาที่นี้ด่วนเลย ที่เดิมนะ แค่นี้แหละ)
"เฮ้ย! เดี๋ยวพี่กี้"
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด... วางไปอีกล่ะ -_-^ นี้มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย และก่อนที่ฉันจะมานั่งใช้ความคิด แบบว่าต้องใช้หมอง นั่งสมาธิ ก็มีเสียงประหลาดบางอย่างดังขึ้นมาขัดจังหวะ เป็นเสียงของก้อนหินที่ขว้างมากระทบตรงกระจกหน้าต่างห้องนอนของฉัน และมันก็เป็นเสียงประจำที่บอกให้ฉันรู้ว่า พวกเพื่อนๆฉันมารับฉันออกไปข้างนอกแล้ว แต่ว่าครั้งนี้คงต้องให้มันเลิกเอาก้อนหินขว้างกระจกซะที เพราะเมื่อกระจกแตกคนที่ตายน่ะคือฉันนะโว้ย...
ปัก ปัก!!
"เฮ้ย! เลิกขว้างมาซะทีได้มั้ย ออดก็มีทำไมไม่ไปกดอย่างที่ชาวบ้านเขาทำกันวะ" ฉันเปิดหน้าต่างออกมาแล้วตะโกนใส่เจ้าพวกนั้น เจ้าเพื่อนบ้า
โป๊ก!!
"เฮ้ย!! หัวฉัน"
"แก ก็รีบลงมาสิวะ"
"เจ็บนะโว้ย เออ...รอแป๊บ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ^^"
ว่าแล้วฉันก็รีบเก็บข้าวของที่จำเป็นใส่กระเป๋าเสื้อและกางเกงเพื่อที่จะได้เตรียมตัวออกไปข้างนอก แต่ช้าก่อนดูเหมือนของที่จำเป็นจะมีไม่ครบ ใช่แล้ว!! เงินไงล่ะ ยังไม่ได้ไปขอแม่เลย รีบไปขอแม่ดีกว่า จะได้รีบไปหาพี่กี้ด้วย จะได้รู้กันซะทีว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง คราวนี้บอกแม่ว่าเป็นการประชุมนอกสถานที่โดยพี่กี้ที่เป็นประธานชมรมเก่าจะสั่งเสียและสอนงานให้กับประธานชมรมใหม่อย่างฉัน แหม...
พูดแล้วก็เขิน ไปดีกว่า^^
"แม่จ้า...ขอตังค์หน่อย เผอิญว่ามีประชุมนอกสถานที่..." แล้วฉันก็ต้องอึ้ง พูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นแม่กำลังนั่งร้องไห้ แล้วก็กอดรูปถ่ายของพ่อเอาไว้อย่างทะนุถนอม เสียงเพลงที่แม่เปิดคงจะดังมากจนไม่ได้ยินเสียงที่ฉันตะโกนออกไป หรือไม่แม่ก็คงไม่ได้สนใจที่จะฟังเสียงจากสิ่งรอบข้างเลย ฉันแอบเข้าไปใกล้ๆแม่ เพื่อฟังสิ่งที่แม่กำลังพูดกับรูปถ่ายของพ่อ
"พ่อ...แม่เลี้ยงลูกของเราไม่ดีใช่มั้ย ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้" แม่ค่ะ หนูอยากจะบอกว่าแม่เลี้ยงหนูมาดีที่สุดแล้ว แม่อย่าโทษตัวเองเลยนะ ว่าแต่เราไปทำอะไรอีกเนี่ย "ทำไมเขาจะต้องมาด่าเราถึงหน้าบ้านด้วย แม่ก็ไม่รู้ว่าลูกของเราไปทำอะไรไว้หรือเปล่า แต่แม่ก็พยายามที่จะเชื่อใจลูกแล้วนะจ๊ะพ่อ แต่ถ้ามันมากกว่านี้แม่ก็คงจะทนไม่ไหวแล้ว พ่อจ้า...ต่อไปนี้แม่ควรจะทำยังไงดี แม่คิดถึงพ่อจัง พ่อมารับแม่ไปอยู่ด้วยสิ นะ นะ ฮือ ฮือ..." ฉันทรุดตัวลงนั่งกับพื้น พลางนึกไปว่า นี้แม่กำลังกังวลเรื่องพี่บอยอยู่หรอ?ไม่เอานะแม่ต้องเชื่อหนูสิ แม่ต้องเชื่อว่าหนูไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรทั้งนั้น แม่ต้องเชื่อสิว่าลูกของแม่เป็นคนดี อย่าทิ้งหนูไปนะ แม่... "พ่อกำลังบอกให้แม่ต้องอดทนใช่มั้ยจ๊ะ ได้จ๊ะ...แม่จะอดทนเพื่อลูกของเรานะ แม่จะอดทน ฮือ แม่...จะอดทน...ต่อไป..."
ฉันเห็นแม่ยังคงนั่งกอดรูปถ่ายของพ่ออยู่ แม่หลับตาลงแต่ก็ยังมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่เป็นระลอก พอตั้งสติได้ ฉันก็เลยค่อยๆเดินย่องออกมาจากบ้าน และสิ่งที่ทำให้ฉันคิดได้ในตอนนี้ก็คือ เรื่องนี้มันต้องไม่จบแค่นี้แน่ฉันจะต้องทำให้อีตาพี่บอยและครอบครัวสำนึกให้ได้ว่าอย่ามาแหยมกับครอบครัวของฉัน...ฮึ้ม
"ไอ้หยาออกมาแล้ว" กิพูด
"แกมัวทำอะไรอยู่วะ" นี้เสียงไอ้ฟาง
"ถ้าเธอออกมาช้ากว่านี้ พวกเราตัดสินใจที่จะไม่รอแล้วปล่อยให้เธอเดินไปเองแล้วนะคะ" และนี้คงจะเป็นเสียงใครอีกไม่ได้เลยนอกจากไอ้พลอย เพราะยัยนี้เป็นคุณหนู เลยพูดจาดูเหมือนจะเรียบร้อยที่สุด แต่คำพูดมันแบบว่าแอบกัดทุกคำเลย -_-^
ฉันยังคงทำท่าครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่ฉันได้ยินจากแม่เมื้อกี้นี้
"แล้วทำหน้าแบบนั้นทำไมคะ ปวดอึหรอ^^"
อะ..ไอ้พวกนี้นี่ มันยังเป็นผู้หญิงอยู่อีกหรอ ดูคำพูดคำจาแต่ละคำซิ ใช้ได้ที่ไหนกัน ว่าแต่เราก็เหมือนกันนั่นแหละ คบกับพวกมันไปได้ยังไงวะเนี่ย แอบสงสัยตัวเอง -_-^
"เฮ้ย...กิ ฟาง พลอย ฉันมีเรื่องสนุกๆ ที่อยากจะทำ แต่คงต้องขอความร่วมมือจากพวกแกหน่อยวะ"
"เรื่องอะไรวะ ว่ามาได้เลย" ฟางพูด
"พวกแกจะทำใช่มั้ย มันเป็นงานที่หนักนะ" ฉันยังสงสัยว่าพวกมันจะช่วยจริงหรือเปล่า เพราะเห็นงานที่มันยากหรือไม่ก็น่าเบื่อเกินไป มันเป็นต้องทิ้งให้ฉันทำคนเดียวทุกที อย่างเช่น ทำความสะอาดห้องชมรม อะไรทำนองเนี่ย -_-^
"ทำสิวะ! เพื่อนเราขอร้องทั้งทีนี่หว่า" สังเกตว่าไอ้ฟางจะชอบพูดวะตลอด ^^
"ช่ายแล้ว...เพื่อนกันทิ้งกันได้ไงหล่ะ" กิพูดพร้อมกับเดินเข้ามาโอบไหล่ฉัน
"พลอยก็พร้อมจะช่วยเธอเสมอแหละ ไม่ว่าจะเรื่องไหนโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการลงทุนด้วยเงินอ่ะน่ะคะ"
"ฉันต้องขอบใจพวกแกจริงๆ ที่คิดจะช่วยฉัน" ซึ้ง TT_TT
"ขอแค่มีเรื่องสนุกๆ ทำฆ่าเวลาให้ชีวิตนี้ไม่มีเบื่อก็พอแล้ว"
"ใช่ ฉันเซ็งจะแย่อยู่แล้ววะ มีอะไรหนุกๆให้ทำก็ดีเหมือนกัน"
"พลอยก็จะทำด้วยคะ ขอแค่ได้ไปกับพวกเธอก็สนุกแล้ว"
"เพื่อนๆ...ฉันรักพวกแกที่สุดเลย ฮือ ฮือ" ฉันรู้สึกตื้นตันใจมาก ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรออกไป ก็ต้องขอสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเป็นการเติมพลังให้กับตัวเอง แล้วก็เดินไปข้างหน้าพร้อมกับพูดว่า
"เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว งั้นเราก็มาเริ่มวางแผนการกันเลยดีกว่า"
"อืม" ทุกคนพูดประสานเสียงพร้อมกัน
"ออกเดินทางกันเลย..." คราวนี้ล่ะ ได้เวลาฉันเอาคืนแล้ว
--------------->>> จบตอนที่ 1 แล้ว ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านกันมาถึงตรงนี้นะคะ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้หยาในการคิดแผนการแก้แค้นคืนด้วยนะพบกับตอนที่ 2 ยังไม่จบ...เพราะอย่างนี้ก็ต้องเอาคืน (อย่างนี้ต้องเอาคืน 2 )ได้เร็วๆ นี้คะ ^^ ขอบคุณคะ
ความคิดเห็น