ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Paradise Regain

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1.1 : การเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 57





                    ท่ามกลางป่าโปร่งที่แสงสว่างสาดส่องไปทั่วบริเวณอันเขียวชอุ่ม มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่หน้าตาคล้ายกับหนูยักษ์ ทั้งสองมือของเด็กสาวถือคทาไม้ขนาดใหญ่ที่ยาวเกินความสูงของตัวเอง และดูเหมือนว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เพราะใบหน้าที่อยู่เบื้องหลังแว่นแข็งเกร็งมีเม็ดเหงื่อเกาะพราว ส่วนลมหายใจก็หอบกระชั้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย ระยะห่างระหว่างทั้งสองอยู่ในระยะโจมตีของสัตว์ประหลาด แต่นอกระยะคทาของเด็กสาว ทั้งคู่ต่างพากันนิ่งราวกับกำลังประเมินสถานการณ์

                ฉับพลันราวกับถูกบางสิ่งกระตุ้นหรืออาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของความอดทน เจ้าสัตว์ประหลาดเข้าจู่โจมเด็กสาวอย่างทันทีทันควัน ร่างใหญ่ยักษ์ของมันพุ่งโถมเข้ามาพร้อมกับกรงเล็บสกปรกที่ตะปบเข้ามาจากทั้งสองด้าน ทว่าการโจมตีของมันไม่สามารถเข้าถึงตัวของเด็กสาวได้ราวกับมีกำแพงใสขวางกั้นอยู่ เจ้าสัตว์ประหลาดกรีดร้องเสียงดังราวกับถูกขัดใจ และหันมาใช้ฟันหน้าใหญ่โตของตนหมายจะขบเคี้ยวศีรษะของเด็กสาวให้แหลก  แต่ก็ต้องพลาดท่าอีกครั้งเมื่อเด็กสาวตวัดปลายไม้เท้าที่ตอนแรกถือขนานแนวเดียวกับพื้นดินเปลี่ยนมาเป็นแนวตั้งแทน พลันเกิดสิ่งที่เหมือนกำแพงใสขึ้นที่ปลายคทาทำให้เจ้าสัตว์ประหลาดไม่สามารถเข้าถึงตัวเด็กสาวได้อีกครั้ง ไม่เพียงแค่นั้น ปลายคทาที่เรืองแสงอ่อนๆยังพุ่งเข้าจู่โจมบริเวณใบหน้าของสัตว์ประหลาดอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าการโจมตีนั้นจะทำให้สัตว์ประหลาดได้รับบาดเจ็บในระดับแค่แสบๆคันๆ แต่เด็กสาวก็ได้รับโอกาสที่จะถอยออกมาจากระยะประชิดที่น่าหวาดเสียวนี้ได้

                พริบตานั้นเอง ส่วนหางของเจ้าสัตว์ประหลาดฟาดเข้ามาในจังหวะที่เด็กสาวไม่ทันระวังตัว

                ตูม!!! เกิดเสียงดังเหมือนระเบิดที่ทำให้นกในป่าพร้อมใจกันบินเตลิดออกมา

     

     

     

                “พวกมอนสเตอร์(สัตว์ประหลาด)หายไปไหนกันหมดล่ะเนี่ย เดินมาก็หลายนาทีแล้วนา”เ

    สียงแรกที่ฟังดูเบื่อหน่ายดังมาจากชายหนุ่มรูปร่างสันทัดล่ำสันที่อยู่ในชุดเหมือนกับนักสู้กังฟูจีนหรืออะไรทำนองนั้น เจ้าตัวเดินลอยชายไม่สนใจที่จะเตรียมพร้อมป้องกันตัวเองจากการโจมตีที่ไม่ทันตั้งตัวของมอนสเตอร์แต่ก็มีบรรยากาศรอบตัวที่ราวกับจะบอกว่าผู้ใดที่เข้ามาประชิดตัวคงไม่ได้กลับออกไปในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิมเป็นแน่

                “ของแบบนี้ถ้าไม่มีสกิลสายสำรวจแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับโอกาสแล้วล่ะว่าเราจะได้เจอมอนสเตอร์รึเปล่า บางคนเดินวนทั้งวันก็ยังไม่เจอซักตัว ในขณะที่บางคนเดินไปเจอแต่มอนสเตอร์”

    เสียงที่สองดังมาจากชายหนุ่มร่างผอมสูงในชุดที่คล้ายกับเสื้อกาวน์สีขาว ด้านข้างมีเด็กสาวรูปร่างเล็กที่ดูแล้วอายุไม่น่าเกินสิบสามปีเดินเคียงอยู่ น่าแปลกว่าเด็กสาวคนนั้นอยู่ในชุดสาวใช้กระโปรงสั้นสีขาวดำพร้อมถุงเท้ายาวคลุมเข่าประดับลูกไม้เข้าชุดที่ดูแล้วควรจะอยู่ในคฤหาสน์ที่ไหนซักแห่งมากกว่า ในขณะที่ด้านหลังสะพายหอกที่กะคร่าวๆได้ว่ายาวร่วมสองเมตรด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

                ทั้งสามเดินทอดน่องตามทางในป่าโดยอาศัยร่มเงาต้นไม้ ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติมากกว่าต้องการจะมาล่ามอนสเตอร์อย่างจริงจัง หลังจากเดินต่ออีกราวห้านาที ชายในชุดกังฟูพูดขึ้นทีเล่นทีจริง

                “สงสัยจะชวดซะแล้วละม้าง”

                “ไม่หรอก พื้นที่ข้างใต้หน้าผานั่นเรายังสำรวจไม่ถึงเลยนะ”

                ชายในเสื้อกาวน์ชี้ไปที่บริเวณหน้าผากว้างที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก่อนจะเดินนำไปยังที่นั่น พื้นที่บริเวณนั้นไม่มีต้นไม้ใดขึ้นอยู่ดูราวกับลานกว้างที่มีใครจัดเตรียมไว้ ขอบลานกว้างด้านหนึ่งติดกับป่าโปร่ง ส่วนอีกด้านเป็นหน้าผาสูงไม่มีทางไปต่อ ทัศนียภาพกว้างสุดลูกหูลูกตาแผ่กว้างอยู่ภายหน้า ทั้งผืนป่าที่ครึ้มเขียวกว่าด้านบนและเทือกเขาที่เห็นอยู่ลิบๆ

                ระหว่างที่กำลังดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงามเบื้องหน้า เด็กสาวตัวเล็กหน้าเฉยเมยที่นิ่งเงียบมาตลอดก็เปิดปากพูดขึ้นมา

                “พื้นที่ทางนั้น รู้สึกว่าจะมีการต่อสู้อยู่ค่ะ”

                สองหนุ่มที่เหลือหันขวับไปในทิศทางที่เด็กสาวกำลังจับตามองอยู่ทันที จริงอย่างที่เด็กสาวว่า ตรงบริเวณลานกว้างกลางป่าเบื้องล่างมีคนกำลังสู้กับมอนสเตอร์อยู่จริงๆ

                “เอาไง จะไปแจมกับเค้าดีมั้ย”ชายหนุ่มในชุดกังฟูฉีกยิ้มอารมณ์ดี ตั้งตาจะเข้าไปร่วมการต่อสู้ในทันทีทันใด

                “อย่าดีกว่า ถ้าสู้ไม่ไหวก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเราไปแจมไม่ดูตาม้าตาเรือแล้วจะทำยังไง”

    ชายในเสื้อกาวน์แย้ง แต่ก็จับตาดูการต่อสู้นั้นอยู่ตลอดเวลา

                ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะค่อนข้างสูสีกันพอสมควร ฝ่ายมอนสเตอร์พยายามบุกเข้าทุกทางแต่ก็ถูกป้องกันได้ตลอด ส่วนฝั่งมนุษย์ก็ทำได้เพียงแค่ป้องกัน ดูเหมือนจะไม่มีสกิลสายโจมตีที่มีประสิทธิภาพพอที่จะต่อกรมอนสเตอร์ตัวนั้นได้ ทำได้แค่เพียงสร้างความบาดเจ็บทีละเล็กทีละน้อยเท่านั้น

                “สกิลบาเรียร์(เกราะป้องกัน)สูงดีนี่นา แสดงว่าเป็นผู้ใช้เวทมนตร์สินะ แต่ไหงไม่ใช้สกิลโจมตีแรงๆไปเลยล่ะ”

    ชายหนุ่มในชุดกังฟูเปรยขึ้นมาขณะที่กำลังจับจ้องการต่อสู้นั้นไม่วางตา อีกฝ่ายไม่ตอบเพราะกำลังจดจ่ออยู่

                จังหวะที่กำลังนัวเนียและจะก้าวออกมาจะวงในเพื่อตั้งหลักใหม่นั้นเอง มนุษย์คนนั้นเกิดพลาดท่าเปิดช่องว่างให้มอนสเตอร์ตัวนั้นโจมตี หางอวบหนาไม่พลาดจังหวะนั้นฟาดเข้าไปเสียงดันสนั่นหวั่นไหวกึกก้องราวกับระเบิดจนนกในบริเวณนั้นบินหนีออกมาเป็นบริเวณกว้าง

                “อีฟ!!!

                “รับทราบแล้วค่ะ”

                เด็กสาวที่ยืนนิ่งมาตลอดตอบรับเสียงเรียกกะทันหันด้วยการรวบตัวชายหนุ่มที่ตัวโตกว่าตัวเองไว้ในอ้อมแขนก่อนจะกระโดดลงจากหน้าผานั้นในทันใดด้วยเสียงหน้านิ่งสนิทเช่นเดิม ฝ่ายชายหนุ่มอีกคนก็กระโดดตามลงไปติดๆด้วยสีหน้าสนุกสนาน

     

     

     

           “อึก แค่ก”

                เด็กสาวถูกฟาดอย่างรุนแรงบริเวณสีข้างกระเด็นไปติดที่หินก้อนใหญ่ที่อยู่ห่างออกมาพอสมควร ความจุกที่โดนจู่โจมทำให้การเคลื่อนไหวทั้งหมดช้าลง เด็กสาวพยายามพยุงร่างของตัวเองขึ้นโดยใช้คทายันขึ้นมา โชคยังดีที่อาวุธไม่หลุดมือตอนที่โดนโจมตี

                ฝ่ายมอนสเตอร์เห็นเด็กสาวยังไม่ตายจึงพุ่งเข้ามาหมายจะซ้ำอีกที ระยะห่างของทั้งสองด้วยความเร็วของมอนสเตอร์แล้ว อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้ามันจะต้องถึงตัวเด็กสาวอย่างแน่นอน

                ฉึก! โครม!!! เสียงหนึ่งดังขึ้น เจ้ามอนสเตอร์พลันพลิกตัวเสียหลักไถลไปกับพื้นดังโครม มีหอกยาวเล่มหนึ่งเสียบอยู่ในแนวสันหลังของมันพอดี ทิ้งให้เด็กสาวยืนงุนงงกับสถานการณ์ที่จู่ๆก็พลิกผัน

                เด็กสาวตัวเล็กผมสีเงินมัดแกละคู่ในชุดสาวใช้กำลังวิ่งเข้าประชิดมอนสเตอร์ที่ยังล้มกองอยู่กับพื้นก่อนจะกระโดดขึ้นไปอยู่บนหลัง จับด้ามหอกแล้วดึงออกมาแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงและถอยออกมาตั้งท่ารอรับมือมอนสเตอร์กำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างคลุ้มคลั่ง

           จู่ๆก็มีฝ่าเท้าลอยมาจากด้านหลังของเด็กของเด็กสาว ชายหนุ่มในชุดกังฟูที่ตามมาถึงช้ากว่าเล็กน้อยพุ่งทะยานกระโดดถีบขาคู่ใส่มอนสเตอร์ที่กำลังจะลุกขึ้นมาตั้งหลักได้ และอาศัยแรงสะท้อนเหวี่ยงตัวตอกเท้าลงมาอีก ด้วยการโจมตีนั้นมอนสเตอร์ต้องอยู่ในสถานะมึนงง(Confuse) เด็กสาวในชุดสาวใช้ไม่รอช้าใช้โอกาสนั้นใส่สกิลทันที

                “Triple Stab!

                เด็กสาวแทงด้วยความเร็วที่มองแทบไม่ทัน มอนสเตอร์เซไปข้างหลังเล็กน้อยด้วยแรงสะท้อนจากการแทงนั้น

                “Drill Kick!!

                หนุ่มกังฟูก็ไม่พลาดจังหวะในการต่อการโจมตี(Combo) ลูกเตะที่กระแทกเข้ากับอกแฝงพลังในการทะลุทะลวงดุจดั่งสว่าน มอนสเตอร์ที่กระเด็นไปตามแรงเตะค่าพลังชีวิตหมดเกลี้ยง สลายไปในอากาศเหลือไว้เพียงสิ่งของ(Item drop)

                “ว้าวๆ นี่มันคริสตัลวิญญาณธาตุความมืดไม่ใช่รึ กำไรเห็นๆ”

    หนุ่มกังฟูพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงดีใจสุดๆเมื่อเห็นหนึ่งในไอเทมที่เจ้ามอนสเตอร์ทิ้งไว้ มือคว้าหมับก่อนจะเก็บเข้าช่องเก็บของ(Inventory)ของตัวเองทันที ส่วนเด็กสาวในชุดสาวใช้กลับยืนนิ่งด้วยใบหน้าเฉยสนิทเช่นเดิมราวกับฉากบู๊เมื่อครู่เป็นภาพลวงตา

                “เอ่อ เธอไม่เป็นอะไรนะ”

    ชายในเสื้อกาวน์ที่ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้หายไปไหนเข้ามาทักเด็กสาวที่ยืนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนเด็กสาวตรงหน้าจะไม่เป็นอะไรมากนัก เห็นได้จากค่าพลังชีวิต(HP)ที่ลดลงไปไม่มากนัก

                “เอ่อ ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอบคุณมากที่มาช่วย”

    เด็กสาวโค้งขอบคุณ ดูจากภายนอกอายุราวๆสิบห้าสิบหกปี ผมยุ่งสีดำถูกมัดด้วยริบบิ้นเส้นเล็กเรียบ ชุดที่ใส่ก็เป็นชุดเรียบๆทั่วไปที่ขายโดยNPC(Non Player Character)

                นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×