คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : นบีอิดรีส อะลัยฮิสสลาม 2 (ตอนจบ)
ปรัชญาและคำสั่งสอนของอิดรีส
ประวัติศาสตร์ไม่ได้ทิ้งชีวประวัติโดยละเอียดของนบีอิดรีสไว้ ให้พวกเราได้
เรียนรู้ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนกับที่พวกเราได้เรียรู้ชีวประวัติของนบีท่านอื่นๆ แต่
ขณะเดียวกัน ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้ใจร้ายกับพวกเราจนเกินไปที่ยังได้ทิ้งร่องรอย
คำสั่งสอน และปรัชญาต่างๆไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้และกล่าวขาน ภายหลัง
จากเจ้าของถ้อยคำเหล่านั้นจากไปแล้ว. ตำราประวัติศาสตร์บางเล่มได้รายงานคำสั่ง
สอนอันยิ่งใหญ่ และปรัชญาที่มีความสำคัญของนบีอิดรีส (อ.ล) ไว้ให้แก่พวกเรา.
นักรายงานกล่าวว่านบีอิดรีส (อ.ล) ได้กล่าวว่า :
“ เมื่อพวกเจ้าวิงวอนขอดุอาต่ออัลเลาะห์ ตาอาลา พวกท่านจงทำใจให้
บริสุทธ์ “
ปรัชญาข้อนี้เชิญชวนเราให้ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ในทุกๆกิจกรรมที่เราลงมือ
กระทำ หรือทุกๆ คำพูดที่เราพูดออกไป เพื่ออัลเลาะห์จะตอบรับคำวิงวอนของเรา
ขณะที่วิงวอนขอดุอา เช่นเดียวกับที่เราได้เรียนรู้ในศาสนาของเราจากคำดำรัสของ
อัลเลาะห์ ตาอาลาที่ว่า :
“ ดังนั้นพวกเจ้าจงวิงวอนขอต่อพระองค์ โดยเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ใจในศาสนาของ
พระองค์เถิด “ (ฆอฟิร : 65)
และในคำของท่านนบี (ซ.ล) ที่ได้กล่าวว่า :
“ กิจกรรมทุอย่างขึ้นอยู่กับเจตนา และทุกคนจะได้รับตามที่เขาตั้งเจตนา “ และนี่
ย่อมเป็นเครื่องยืนยันแก่มนุษยชาติว่านบีทั้งหลายนั้นมาจากแหล่งเดียวกันคือมา
จากอัลเลาะห์ ตาอาลา .
นักรายงานหลายท่านได้กล่าวว่านบีอิดรีส (อ.ล) ได้กล่าวว่า :
“ พวกท่านอย่าสาบานเท็จ อย่าจู่โจมอัลเลาะห์ด้วยคำสาบาน อย่าใช้ให้คน
โกหกสาบาน จะเป็นเหตุให้พวกท่านได้รับบาปร่วมกับพวกเขา “
หมายความว่าการโกหกเป็นบาปใหญ่และการสาบานเท็จเป็นความผิดที่ศาสนา
ห้าม อัลกุรอานได้อธิบายเรื่องสาบานเท็จไว้ในคำดำรัสของอัลเลาะห์ ตาอาลาที่ว่า :
“ ท่านทั้งหลายอย่าใช้อัลเลาะห์เป็นข้ออ้างสำหรับการสาบาน (จะไม่ทำความดี)ของ
พวกท่าน” (อัลบะกอเราะห์ : 224) และพวกท่านอย่าขอร้องให้คนโกหกกล่าวคำ
สาบาน เพราะพวกเขาจะมีบาปด้วยคำสาบานของพวกเขา และเมื่อเป็นเช่นนั้นพวก
ท่านก็จะเป็นผู้มีส่วนร่วมในการทำบาปของคนเหล่านั้นด้วย.
นบีอิดรีสได้กล่าวไว้อีกว่า :
“ พวกท่านจงออกห่างไกลจากการประกอบอาชีพที่สกปรก “
หมายความว่าเราจะต้องไม่ดำเนินตามแนวทางที่นำไปสู่อาชีพการงานที่
อัลเลาะห์ ตาอาลา ห้าม และนี่ก็ตรงกับข้อความที่มีปรากฏอยู่ในอัลกุรอานว่า
: “ ท่านทั้งหลายอย่ากินทรัพย์ของพวกท่านในหมู่พวกท่านกันเองโดยทุจริต “
(อันนิซาอ์ :29)
อาชีพที่สกปรกไม่ได้มีอยู่ในเรื่องของเงินทองเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่นในชีวิต
ของพวกเรานั้นมีอาชีพการงานมีอยู่มากมายและหลากหลาย ปรัชญาข้อนี้บอกให้เรา
รู้ว่าเราจะต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ ด้วยวิธีการที่สกปรก แต่เราจะต้องยึดมั่น
อยู่กับเส้นทางที่ยุติธรรมเพื่อนำไปสู่สิ่งที่อัลเลาะห์ ตาอาลา อนุมัติแก่พวกเราในชีวิต
นี้.
อิดรีสได้กล่าวว่า :
“ ปรัชญาคือชีวิตของจิตใจ “
ปรัชญาในที่นี้หมายถึงวิชาการที่มีประโยชน์ เป็นวิชาการที่ลับสมอง ทำให้
สติปัญญาปราดเปรื่อง วิชาการจะทำให้สติปัญญาเป็นเหมือนตาชั่ง ที่จะใช้แยกแยะ
ความดีออกจากความชั่ว แยกสิ่งที่ดีงามออกจากสิ่งที่เลวทราม ด้วยเหตุนี้จิตใจจะ
ทำให้ชีวิตเฟื่องฟูขึ้นอย่างเหมาะสมกับความเป็นมนุษย์ ที่อัลเลาะห์ได้แต่งตั้งให้เป็น
ผู้แทนของพระองค์ในโลกนี้ อัลกุรอานได้ยืนยันถึงเรื่องนี้แก่พวกเราว่า : “ พระองค์
จะมอบวิชาการแก่ผู้ที่พระองค์ประสงค์ และผู้ใดได้รับวิชาการ ก็เท่ากับว่าเขาได้รับ
ทรัพย์สินอันมากมาย และจะไม่มีผู้ใดสำนึกนอกจากพวกที่มีสติปัญญาเท่านั้น “
(อัลบะกอเราะห์ : 269)
และเพราะนบีอิดรีส ทราบดีถึงคุณค่าของความอดทนในชีวิตของมนุษย์ และ
เพราะชีวิต จะไม่สามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นนอกจากต้องมีความอดทน อิดรีส จึง
เชิญชวนมนุษย์ให้มีความอดทนและเตือนตนเองอยู่เสมอให้มีความอดทนด้วยเช่นเดียวกัน
เขาได้แกะสลักที่หัวแหวนของเขาด้วยถ้อยคำที่เป็นปรัชญาอันยิ่งใหญ่
ว่า :
“ ความอดทนพร้อมด้วยความศรัทธาต่ออัลเลาะห์จะทำให้ได้รับชัยชนะ “
เพราะรายรับที่แท้จริงในชีวิต จะผ่านเข้ามาทางเส้นทางของความอดทน และ
ความอดทนนั้นถือเป็นมารยาทที่อิสลามเรียกร้องเชิญชวน และได้แจ้งข่าวดีแก่ผู้มี
ความอดทนว่าจะได้รับสิ่งที่ดีในบั้นปลายของชีวิต อัลเลาะห์ ตาอาลาได้ตรัสไว้ในอัล
กุรอานว่า : “ และเจ้าจงแจ้งข่าวดีแก่พวกที่มีความอดทนเถิด “ (อัลบะกอเราะห์ :
155) ในเมื่ออัลเลาะห์ ตาอาลาจะตอบแทนความดีเป็นสิบเท่าถึงเจ็ดร้อยเท่า แต่
พระองค์จะตอบแทนความอดทนมากยิ่งกว่านั้นมากมายหลายเท่า อัลเลาะห์ ตาอาลา
ตรัสว่า :
“ พวกที่มีความอดทนนั้นจะได้รับผลบุญของพวกเขาโดยสมบูรณ์ อย่างคิด
คำนวณไม่ได้ “
(อัซซุมัร :10)
เพราะความอดทนคือการเหนี่ยวรั้งจิตใจไม่ให้เตลิดไปตามความปรารถนาของ
มันไม่ว่าจะเป็นการอดทนในการทำอิบาดะห์ต่ออัลเลาะห์การปฏิบัติตามสิ่งที่อัลเลาะห์
ใช้ อดทนในการยับยั้งจากสิ่งที่อัลเลาะห์ห้าม หรืออดทนต่อกำหนดของอัลเลาะห์
ด้วยความพอใจเผชิญกับภัยพิบัติเหตุแห่งความเศร้าหมองด้วยความพอใจและยอมรับ
ในกำหนดของอัลเลาะห์ และรู้ว่าจะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นในจักรวาลนี้ นอกจากเป็นไป
ตามที่อัลเลาะห์ประสงค์ให้เกิดขึ้น และเป็นไปตามที่
ท่านนบี (ซ.ล) ได้กล่าวไว้ว่า : “ พึงทราบเถิดว่าสิ่งที่พลาดไปจากท่านนั้นจะ
ไม่มาประสบกับท่าน และสิ่งที่ประสบกับท่านนั้นจะไม่พลาดไปจากท่าน “ และเช่น
ที่อัลเลาะห์ ตาอาลาได้ตรัสว่า :“ ไม่มีเคราะห์กรรมใดที่เกิดขึ้นในโลกนี้ และไม่มีที่
เกิดขึ้นในตัวของพวกเจ้าเอง นอกจากมีบันทึกไว้แล้วก่อนที่เราจะจะบังเกิดมันขึ้นมา
แท้จริงนั่นเป็นการง่ายสำหรับอัลเลาะห์ “ (อัลฮะดีด :22)
และที่เป็นปรัชญาของอิดรีสด้วยเช่นกัน ก็คือการเชิญชวนให้ประชาชนปฏิบัติ
ตามหน้าที่ที่เป็นฟัรดู ต่างๆ และปฏิบัติตามบทบัญญัติของศาสนา และวันรื่นเริง(วัน
อีด) ที่แท้จริงก็คือวันที่จะทำให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย และเป็นวันที่จะนำศาสน
บัญญัติมาปฏิบัติ, และได้ปักไว้ที่เสื้อคลุมของนบีอิดรีส (อ.ล) ด้วยประโยคที่ว่า :
“ วันรื่นเริงต่างๆ มีไว้เพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ บทบัญัติมีไว้เพื่อให้ศาสนาสมบูรณ์
ศาสนาจะสมบูรณ์ อยู่ที่ความมีมารยาทสมบูรณ์ “
นบีอิดรีส ได้กล่าวไว้อีกเช่นกันว่า :
“ คนที่มีความสุขคือคนที่พิจารณาตนเอง และสิ่งที่จะช่วยเหลือเขาได้ ณ องค์
อภิบาลของเขา คือกิจกรรมที่ดีงามทั้งหลาย “
นี่คือสัจธรรม, ความสุขที่แท้จริงจะเกิดขึ้นไม่ได้ นอกจากต้องทำความดี และ
ไม่มีอะไรจะเป็นประโยชน์แก่มนุษย์ นอกจากสิ่งที่เขาได้ทำไว้ อัลเลาะห์ ตาอาลา
ทรงสัจจะที่ได้ตรัสไว้ว่า :
“ ความจริงมนุษย์จะไม่มีสิทธิ์ได้รับอะไร นอกจากสิ่งที่เขาได้พากเพียรไว้ (39)
และแท้จริงสิ่งที่เขาพากเพียรไว้นั้น เขาก็จะได้เห็น (40) หลังจากนั้นเขาจะได้รับการ
ตอบแทนที่ครบสมบูรณ์ ยิ่ง (41) “ (อันนัจม์)
ปรัชญาข้อนี้เรียกร้องเราให้ประเมิณกิจกรรมต่างๆ ของเรา พิจารณาเพื่อตัว
ของเราทั้งกลางวันและกลางคืน และตรวจสอบตัวเราเองก่อนที่อัลเลาะห์ ตาอาลา
จะสอบสวนเรา.
ผู้แจ้งข่าวดีและแจ้งข่าวร้าย
อิดรีส (อ.ล) เป็นผู้แจ้งข่าวดี และแจ้งข่าวร้าย หน้าที่ของเขาก็เหมือนกับ
หน้าที่ของนบีทุกๆ ท่าน, เขาจะแจ้งข่าวดีด้วยสัจธรรม ด้วยแสงสว่าง และความดี
และแจ้งข่าวร้ายแก่ผู้ละเมิดและทำบาปด้วยการลงโทษอันเจ็บปวด. อิดรีสได้แจ้ง
ข่าวดีถึงการมาของบรรดานบี และรอซู้ล ภายหลังจากเขา และยังได้แจ้งคุณลักษณะ
และบุคลิกภาพของพวกเขาให้ประชาชนได้รับทราบ เขาได้กล่าวว่า :
“ นบีจะเป็นผู้สะอาดปราศจากคุณสมบัติที่ต้อยต่ำ และสิ่งที่น่ารังเกียรติทั้งปวง
เป็นผู้มีคุณลักษณะที่ควรแก่การสรรเสริญอย่างครบถ้วน เขาจะไม่บกพร่องในประการ
ใดๆ ที่ถูกถามทั้ง
เรื่องในโลกนี้ และในชั้นฟ้า และเขาสามารถบอกได้ถึงทุกสิ่งที่จะมาเยียวยา
รักษาทุกความเจ็บปวด, และนบีทุกท่านมีคำวิงวอนที่จะถูกตอบสนอง อัลเลาะห์จะ
ตอบสนองทุกคำวิงวอนของนบีที่ได้วอนขอ “
นบี ตามคุณลักษณะดังกล่าวคือนบีที่อิดรีส (อ.ล)ได้ แจ้งข่าวดีไว้แก่ประชาชน
ของเขา … เช่นเดียวกับที่เขาได้ได้แจ้งถึงลำดับชั้นของมนุษย์รองจากนบีทั้งหลาย
ว่ามีสามลำดับชั้นคือ :
- นักทำอิบาดะห์
- กษัตริย์
- และประชาชน
อิดรีสถือว่านักทำอิบาดะห์มีตำแหน่งสูงเหนือกว่ากษัตริย์ เพราะนักทำอิบาดะห์
จะวิงวอนขอต่ออัลเลาะห์ขอให้แก่ตัวเขาเอง ขอให้แก่กษัติย์ และขอให้แก่ประชาชน.
เขาจะวิงวอนขอให้แก่ทุกๆคน ในขณะเดียวกันเขาก็จะตักเตือนผู้คนให้รำลึกถึงความ
โปรดปรานต่างๆ ของอัลเลาะห์ที่ได้ประทานให้แก่พวกเขา และสอนประชาชนให้
รู้จักวิธีการแสดงความขอบคุณต่ออัลเลาะห์ที่ได้ให้ความโปรดปรานเหล่านี้แก่พวเขา.
ส่วนกษัตริย์นั้นจะไม่วิงวอน เขาจะไม่ขอต่ออัลเลาะห์ ยกเว้นเพื่อประโยชน์แก่
ตัวเขาเองเท่านั้น คือขออำนาจและทรัพย์สิน, ดังนั้นพวกนักทำอิบาดะห์จึงใกล้ชิด
กับอัลเลาะห์ยิ่งกว่ากษัตริย์ และยิ่งกว่าประชาชน.
ดังกล่าวนี้คือการจัดระเบียบให้แก่สังคม ของท่านนบีอิดรีส (อ.ล) และดังกล่าว
นั้นคือคำประกาศเชิญชวนของเขา ที่มีทั้งการแจ้งข่าวดี และการแจ้งข่าวร้าย เป็นคำ
ประกาศเชิญชวนสู่ความเที่ยงธรรม บนแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งอัลเลาะห์ประสงค์พัฒนา
โลกนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรือง เพื่อความผาสุขของมวลมนุษย์.
ภาพลักษณ์ของนบีอิดรีส (อ.ล)
ตำราต่างๆ กล่าวว่า: ท่านนบี อิดรีส (อ.ล) มีรูปร่างสูงสง่า มีใบหน้าคมเข้ม
เคราดก มีกริยามารยาทงดงาม ไหล่กว้าง กระดูกใหญ่ เนื้อน้อย ดวงตามีประกาย
ตาคม ท่านพูดจาเนิบๆ ส่วนใหญ่ท่านจะเป็นคนนิ่งเงียบ ท่านมีอาการสำรวมขณะ
เดิน ตามองพื้น ใช้ความคิดมาก ขณะที่ท่านพูดท่านจะกระดิกนิ้วชี้ .
สำหรับชีวิตของนบีอิดรีสนั้นเต็มไปด้วยการต่อสู้ และการประกาศเชิญชวนสู่
ศาสนาของอัลเลาะห์ ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ส่วนผลงานของท่าน มีผู้กล่าวว่า
ท่านเป็นคนแรกที่พูดถึงเรื่องธรรมชาติการสร้างของอัลเลาะห์ เดชานุภาพของผู้ทรง
สร้าง สิ่งเร้นลับของจักรวาลและเอกภพ หมายถึงเรื่องเทหะวัตถุในท้องฟ้าเบื้องบน
และในการโคจรของดวงดาว ท่านเป็นคนแรกที่ก่อสร้างสถานที่ทำอิบาดะห์ และ
กล่าวคำสรรเสริญอัลเลาะห์ในสถานที่เหล่านั้น เป็นคนแรกที่ให้ความสนใจกับวิชาการ
แพทย์ ท่านได้ขับโคลงกลอนที่มีจังหวะบังคับ และเป็นคนแรกที่เตือนว่าจะเกิดน้ำ
ท่วมโลกในยุคของนบีท่านหนึ่งที่จะมีมาภายหลังจากท่าน.
นักวิชาการหลายคนกล่าวว่านบีอิดรีสเป็นผู้สร้างปีรามิดแรกๆ ในที่ราบสูงของ
อียิปต์ และได้วาดภาพการอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนเครื่องมือต่างๆ ไว้ในปีรามิด
ด้วย ท่านได้เขียนรายละเอียดของวิชาการต่างๆ ไว้ในปีรามิดเพื่อเก็บรักษาเอาไว้ให้
คนยุคหลัง และกลัวว่าจะหายไปจากโลก และสูญสลายไปเมื่อเกิดน้ำท่วมโลกขึ้น.
ตำแหน่งอันสูงส่ง
อัลเลาะห์ ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกรได้สดุดีนบีอิดรีส (อ.ล) โดยพระองค์ได้
ตรัสว่า :
“และจงกล่าวถึงเรื่องอิดรีส ที่อยู่ในคัมภีร์เถิด แท้จริงเขาเป็นผู้ศรัทธามั่น และเป็นนบี
และเราได้เทิดเกียรติเขาสู่ตำแหน่งอันสูงส่ง “ (มัรยัม : 56-57)
และเป็นความจริงที่อิดรีส (อ.ล) สมควรได้รับตำแหน่งนบี ความสัจจริง และ
ตำแหน่งอันสูงส่งในสวรรค์ .. ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ? !
เล่ากันว่าอิดรีส (อ.ล) ทำงานเป็นคนเย็บผ้า เขาจะปักเข็มพร้อมกับกล่าวว่า
ซุบฮานั้ลลอฮ์ ทุกครั้ง จนไม่มีผู้ใดในโลกนี้จะมีกิจกรรมที่ประเสริฐยิ่งกว่าเขา ..
อัลเลาะห์ได้มีโองการมายังเขาว่าความดีที่ลูกหลานอาดัมกระทำนั้นจะถูกยกมามอบ
ให้แก่เขา ..
อิดรีสทำอย่างไรต่อไป ? !
เขาชอบที่จะทำความดีเพิ่มขึ้น และกล่าวคำตัสบีฮ์ ต่ออัลเลาะห์ ให้มาก
ยิ่งขึ้นไปอีก เขาปรารถนาตำแหน่งอันสูงส่ง และความโปรดปรานอันใหญ่หลวง ณ
พระองค์อัลเลาะห์ผู้อภิบาลสากลโลก .
วันหนึ่งได้มีมะลาอิกะห์ท่านหนึ่งมาหาอิดรีส เขาได้ขอร้องให้มะลาอิกะห์นำ
เขาไปให้เห็นความดีของมนุษย์ทั้งหมด.. มะลาอิกะห์จึงพาเขาตระเวนไปทั่วทั้งพื้น
ปฐพี โดยเขากล่าวคำตัสบีฮ์ คือ ซุบฮานั้ลลอฮ์ วะบิฮัมดิฮี ไม่ขาดปาก หลังจาก
นั้นอิดรีสได้ขอร้องมะลาอิกะห์ให้พาเขาไปเที่ยวชมขุมนรกและชาวนรก มะลาอิกะห์
ได้พาเขาไปจนถึงนรก เขาได้เห็นนรก มันยิ่งทำให้เขายำเกรงอัลเลาะห์มากยิ่งขึ้น
เพิ่มความศรัทธาต่อพระองค์ให้แก่เขามากขึ้น และเพิ่มการกล่าวตัสบีฮ์ต่ออัลเลาะห์
มากยิ่งขึ้น .. เขาขอร้องมะลาอิกะห์ให้นำเขาไปพบ มะลาอิกะห์แห่งความตายเพื่อขอ
ร่นกำหนดความตายออกไป เพื่อเขาจะได้ทำความดีมากขึ้น และกล่าวตัสบีฮ์ต่อ
อัลเลาะห์มากยิ่งขึ้น มะลาอิกะห์ให้เขาขึ้นหลังแล้วพาเขาบินขึ้นไปยังฟ้าชั้นที่สี่ และ
ที่นั่นเขาได้พบกับมะลาอิกะห์แห่งความตาย ซึ่งอัลเลาะห์ได้บัญชาเขาให้มาเก็บ
ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ ของอิดรีสที่ฟ้าชั้นที่สี่ มะลาอิกะห์แห่งความตายรู้สึกแปลกใจ
ที่ได้พบอิดรีสอยู่ในฟ้าชั้นที่สี่ และเขาก็ได้เก็บดวงวิญญาณของอิดรีสไป … ที่กล่าว
นี้เป็นคำพูดของนักบรรยายความหมายอัลกุรอาน (มุฟัซซิรูน) และอัลเลาะห์ทรง
ทราบดีถึงความถูกต้องในเรื่องนี้.
ท่านรอซูลุ้ลเลาะห์ (ซ.ล) ได้แจ้งให้พวกเราทราบว่าท่านได้เห็นนบีอิดรีสอยู่ใน
ฟ้าชั้นที่สี่ ในคืนอิสรออ์ และเมียะอ์รอจ.
ขออัลเลาะห์ได้โปรดประทานความเมตตาแก่อิดรีสนบีผู้สะอาดบริสุทธิ์ ผู้กล่าว
คำตัสบีฮ์ พร้อมด้วยสรรเสริญอัลเลาะห์ ทุกลมหายใจตลอดชีวิตของท่าน.
ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่ตำรับตำราทั้งหลายได้กล่าวถึงนบีอิดรีส (อ.ล)ซึ่งเราได้
นำมาเล่าต่อ โดยที่เราทราบดีว่าบรรดานบีของอัลเลาะห์ และผู้ที่ได้รับแนวทางของ
บรรดานบี และปฏิบัติงานเหมือนที่พวกเขาปฏิบัติ และเจริญรอยตามพวกเขา แท้ที่
จริงพวกเขากำลังปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่เพื่อมนุษยชาติทั้งปวง และรับใช้การดำเนิน
ชีวิตของมนุษย์ ด้วยการนำเสนอปรัชญา คำสั่งสอนที่จะทำให้จิตใจและเรือนร่างของ
มนุษย์สงบนิ่งอยู่กับหลักศรัทธาที่ถูกต้องและการงานที่ให้ผลผลิต และมีความบริสุทธิ์
ใจที่จะยกคุณภาพชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น.
เราทราบดีว่านบีทั้งหลายประดุจดังดวงประทีป ที่พวกเขาจะทำหน้าที่ชี้นำ
ขบวนการพัฒนา และวางแผนอย่างชัดเจนสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง และที่จะเกิดผล
ตามมาก็คือความผาสุขของมวลมนุษย์นั่นเอง.
ภายหลังจากบรรดานบี ก็มาถึงบทบาทของนักวิชาการที่เรียกว่า อุละมาอ์
ทั้งหลายซึ่งพวกเขาเป็นทายาทที่รับมรดกทางวิชาการมาจากบรรดานบีทั้งหลาย
พวกเขากำลังถือคบไฟนำทาง และเตือนมนุษย์ให้ระวังกลอุบายต่างๆ ของชัยตอนที่
เป้าหมายของมันอยู่ที่การทำลายสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และ
ทำลายล้างทุกสิ่งที่มนุษย์ได้ใช้สติปัญญาสร้างสสรรค์ไว้.
นี่คือชีวประวัติของท่านนบีอิดรีส (อ.ล) เป็นห่วงหนึ่งจากสายโซ่นบีของ
อัลเลาะห์ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างอาดัม กับนัวฮ์ (อ.ล) ที่อิดรีสได้กล่าวเตือนผู้คน
ว่าจะมีนบีท่านหนึ่งมา และจะเกิดน้ำท่วมโลกขึ้นในยุคของเขา นั่นคือเรื่องราวที่
จะได้นำเสนอต่อไป อินชาอั้ลลอฮ์.
ความคิดเห็น