Legendary : ปกรณัมตำนาน

ลำดับตอนที่ #13 : Tarot Card : ไพ่ทาโรท์ / ไพ่ยิปซี 1

t em 

Tarot Card
ไพ่ทาโรท์ / ไพ่ยิปซี 1

        ถ้าเราพูดถึงไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรท์ในวงการโหราศาสตร์ไทยได้มีการนำเข้ามาใช้เพื่อการทำนายดวงชะตาเมื่อไม่นาน ที่ผ่านมาและก็เป็นที่นิยมกันในกลุ่มแคบๆของผู้ที่เคยไปต่างประเทศในฝั่งยุโรปหรือเคยสัมผัสกับการทำนายโดยผ่านการอ่านหน้าไพ่ และเป็นที่โด่งดังและแปลกใหม่สำหรับคนไทยก็คือ เมื่อหมอดูชื่อดัง อย่าง คุณ ขุนทอง อสุนี เป็นบุคคลแรกๆที่นำไพ่ทาโรท์มาใช้ในการดูดวง แล้วไพ่ทาโรท์กับผู้เขียนมาเจอกันได้ยังไง ก็ต้องท้าวความกันไปถึงตอนที่ผู้เขียนได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท และทำงานอยู่ที่ประเทศอเมริกา ระยะเวลาพอสมควร ก็ได้มีโอกาสพบเพื่อนใหม่คนหนึ่งที่เป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับไพ่ทาโรท์และศาสตร์แบบตะวันตก ซึ่งเพื่อนคนนี้ก็ได้สอนและให้ความรู้หลายๆอย่างและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างศาสตร์ตะวันตกของเขากับศาสตร์ของเอเชียและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูของผม แต่ก่อนนั้นผู้เขียนเคยเข้าใจในแบบเด็กๆว่าแม่มด เป็นเรื่องแค่ในตำนาน เป็นนิทาน แต่เมื่อได้มีโอกาสไปศึกษาก็ได้รู้ว่า ศาสตร์โบราณที่เก่าแก่เหล่านี้ ก็พบว่าความเชื่อเรื่องแม่มด ก็ไม่ต่างอะไรกับคนเล่นของ ใช้อาคมในแบบของเรา และแม่มดก็ยังคงมีอยู่และสืบทอดกันต่อๆ มาในสังคมแบบลับๆ เพราะเหตุว่าถูกศาสนจักรกำจัดเพราะถือว่าเป็นความเชื่อนอกรีต ซึ่งในสมัยนั้น ผู้หญิงที่ทำตัวเป็นแม่มดก็จะถูกจับเผาทั้งเป็น ซึ่งในที่นี่ผู้เขียนจะขอเล่าในโอกาสต่อไป แต่ที่แน่ๆ ในเรื่องของความลี้ลับแห่งศาสตร์แขนงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเพราะยังคงมีการสืบทอดกันอย่างจริงจังในสมาคมลับต่างๆ กลุ่มลัทธิต่างๆ

(ภาพ: ไพ่ ชุดสำรับ มัมลูค ที่อยู่ที่เมือง อิสตันบูล ถือเป็นไพ่ที่เก่าแก่ที่สุดสำรับหนึ่ง)

        ทีนี้ก่อนที่จะพูดถึงไพ่ทาโรท์กันนั้น การเล่นไพ่เกิดขึ้นจากใคร ที่ไหน แล้วเล่นเพื่ออะไร จากประวัติเท่าที่ผู้เขียนศึกษามานั้น การเล่นไพ่มีกำเนิดมาจากชาวจีนและก็ได้มีการเผยแพร่การเล่นไพ่นี้เข้าไปในทวีปยุโรบในยุคสมัยที่มีการค้าการขายและเส้นทางสายไหมก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ทำให้คนยุโรปได้เข้าถึงฝั่งเอเชียได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน การเล่นไพ่นั้นเฟื่องฟูมากในยุโรปโดยนักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่าได้มีเข้ามาในยุโรปราวปี ค.ศ. 1375 และโด่งดังมากในอิตาลี ราวปี 1440 โดยไพ่เหล่านี้ก็ยังไม่ได้มีเจตนาครอบครองไว้หรือเล่นกันในลักษณะเพื่อใช้ดูดวงเป็นเพียงแค่เกมการละเล่นอย่างหนึ่งเท่านั้น โดยไพ่ชุดแรกที่ถูกค้นพบอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในเมือง อิสตันบูล โดย L.A. Mayer ซึ่งในปี ค.ศ. 1939 เมเยอร์เป็นผู้ศึกษาและอธิบายสำรับที่พบนี้ว่าเป็นสองสำรับที่ไม่สมบูรณ์มากนักแต่ถือว่าเป็นสำรับไพ่ทาโรท์ที่เก่าแก่ที่สุดแม้ว่าหน้าไพ่จะไม่ตรงกันผิดเพี้ยนไปบ้างอาจจะเป็นเพราะมีการสร้างไพ่ใบใหม่มาทดแทนจึกทำให้ศิลปะบนไพ่นั้นมีลักษณะที่แตกต่างออกไป นั่นคือไพ่สำรับ "มัมลูค" นั่นเอง ไพ่สำรับนี้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของชาวเปอร์เซีย และศาสนาอิสลาม อยู่มากครับ โปรดสังเกตที่ลวดลายบนหน้าไพ่ และในสมัยต่อมาช่างชาวอิตาเลี่ยนได้มีการออกแบบและเรียกสำรับใหม่ของตนเองว่า “มอร์ริส” โดยมีทั้งหมด 4 กลุ่มของไพ่ คือ ดาบ, ไม้เท้า, เหรียญ, ถ้วย และเรียงตัวเลขและลำดับตามปกติ รวมทั้งหมด 52 ใบ นี่คือจุดเริ่มต้นของสำรับต้นฉบับของชาวอิตาเลี่ยน แต่ในสำรับของชาวเสปนได้เปลี่ยนไม้เท้าเป็นคทาแทน และในยุคสมัยต่อมาก็ได้มีการใส่รูปและเรื่องราวเข้าไปในรูปภาพบนหน้าไพ่ มากขึ้นตามยุคสมัยและจินตนาการของผู้วาดหน้าไพ่ เช่นมีการเพิ่มรูปเทพเจ้า สัตว์ในเทพนิยายในหน้าไพ่ในยุคต่อมา ไพ่ทาโรท์มีการเล่นเป็นที่แพร่หลายในยุโรปทั้งในประเทศ อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน ซึ่งในยุคนี้ไพ่ทาโรท์ก็ยังเป็นเพียงไพ่ที่ใช้เพื่อการเล่นเกม เล่นสนุก แต่ไม่ได้มีไว้เพื่อการดูดวง ทำนายดวงชะตากันแต่อย่างใด

(ภาพ: ไพ่สำรับ มัมลูค ราชาถ้วย)

        ไพ่ทาโรท์เพื่อการดูดวง

        แล้วไพ่ทาโรท์เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดูดวงตั้งแต่เมื่อไหร่ จากหลักฐานและหนังสือที่มีการอ้างอิงในวงการของผู้ที่นิยมไพ่ทาโรท์ ได้มีการศึกษาและค้นพบว่า ในช่วงปี ค.ศ. 1770 โดย Etteilla ได้เขียนหนังสืออธิบายและให้คำนิยามเกี่ยวกับหน้าไพ่ทาโรท์เพื่อการทำนาย โดยในปี 1780 Mr. Etteilla กับนักเขียนชาวฝรั่งเศสอีกสองคนได้ให้คำอิบายและบอกเล่าวิธีการอ่านไพ่อย่างละเอียดและถือว่าเป็นตำราเล่มๆแรกๆ ของการอ่านไพ่ทาโรท์เพื่อการทำนายดวงชะตา โดยในช่วงปลายปี ค.ศ. 1800 จึงได้มีการคิดปรับปรุงและคิดค้นวิธีการอ่านและตีความหน้าไพ่ทาโรท์อย่างจริงจัง โดยการผนวกเอาตัวเลข ตัวอักษรของชาวฮิบบรู เอาศาสตร์ของ คาบาร่า และศาสตร์ดั้งเดิมของชาวตะวันตก รวมไปถึงความเชื่อของชาวอียิปต์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหลักการตีความหน้าไพ่ ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของการนำไพ่ทาโรท์มาใช้เพื่อการทำนายดวงชะตา ในยุคแรก แต่ไพ่ทาโรท์ก็เป็นการใช้เพื่อการทำนายดวงชะตาในกลุ่มเล็กๆ และกระจัดกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ ตามกลุ่มคนที่ย้ายถิ่นที่อยู่เพื่อการค้าที่เราเรียกคนกลุ่มนี้ว่า ชาวยิปซี ตรงนี้เป็นเพียงแค่ความเชื่อนะครับ ว่าชาวยิปซีเข้ามามีบทบาทในการทำนายดวงชะตาโดยใช้ไพ่ เพราะยังไม่มีผลการศึกษาที่ออกมาอย่างชัดเจนแน่ชัด สำรับ Etteilla ยังไม่เป็นที่แพร่หลายหรือเป็นที่นิยมมากนัก เพราะยากต่อการตีความจึงไม่เป็นที่นิยมที่จะนำมาใช้เพื่อการทำนายดวงชะตา ดังนั้นไพ่ทาโรท์จึงยังคงเน้นเพื่อการใช้สำหรับเล่นผ่อนคลาย เป็นเกมส์เท่านั้น แต่สำหรับการใช้ไพ่ทาโรท์เพื่อการทำนายนั้น เริ่มมาเป็นที่สนใจและเป็นที่นิยมอย่างมาก อันเนื่องมาจากไพ่สำรับหนึ่ง ถูกต้องแล้วครับ ถ้าใครต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับไพ่ทาโรท์ ก็ไม่อาจจะหลีกหนีไพ่สำรับนี้ไปได้ เพราะไพ่สำรับนี้เป็นไพ่ที่เรียกว่าอ่านง่ายที่สุดในบรรดาไพ่ทั้งหมด เพราะมีการให้คำนิยามและหลักการ วิธีการอ่านไพ่อย่างเป็นระบบและรูปลักษณะของไพ่ก็ดูไม่ยุ่งยาก เพราะถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการตีความ



(ภาพ: มิสเตอร์ อาเธอร์ เอ็ดเวิร์ด เวท ผู้ออกแบบไพ่ทาโรท์สำรับ ไรเดอร์ เวท หรือ เวท-โคลแมน สมิธ)

ผมกำลังพูดถึง ไพ่สำรับไรเดอร์เวท ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย บุคคลสองท่านคือ อาเธอร์ เอ็ดเวิร์ด เวท กับ พาเมล่า โคลแมน สมิธ ซึ่งพาเมล่าในฐานะที่เป็นบุคคลสำคัญในลัทธิ Golden Dawn มาเป็นผู้วาดหน้าไพ่ มิสเตอร์ อาเธอร์ เอ็ดเวิร์ด เวท เป็นคนออกแบบโดยใช้ศาสตร์ต่างๆที่ได้ศึกษามาทำให้ไพ่ได้รับอิทธิพลความเชื่อและศาสตร์ของลัทธิมาใช้ในการสื่อแสดงเรื่องราวอยู่บนหน้าไพ่ซึ่งมีรายละเอียดมากกว่าไพ่สำรับก่อนๆที่ถูกผลิตขึ้นมาก่อนหน้านี้และไพ่สำรับนี้ได้ถูกตีพิมพ์และจัดจำหน่ายครั้งแรกในปี ค.ศ. 1910 และหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง มิสเตอร์ เวท เองก็กำลังจะจัดพิมพ์ไพ่ใหม่อีกสำรับหนึ่งแต่จนบัดนี้แล้วก็ยังไม่มีการตีพิมพ์ออกมา สักที สำรับนี้จึงยังเป็นปริศนาอยู่ ว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

(ภาพ: ไพ่สำรับ เวท-โคลแมน สมิธ, ไพ่พระอาทิตย์)

        ไพ่ของเวทสำรับที่ผลิตออกมานี้ ถือเป็นต้นแบบของไพ่สำรับอื่นๆที่มีการสร้างสรรค์กันขึ้นต่อๆมาในภายหลัง ดังนั้นจึงถือได้ว่า ไพ่สำรับของเวทที่ผลิตออกมาในปีนั้น เป็นไพ่ต้นแบบของอีกหลายๆสำรับที่ตามมา สำรับของเวทนั้น เราเรียกกันว่า ไพ่สำรับ ไรเดอร์เวท และ เวท โคลแมน สมิธ คงมีหลายๆคนสงสัยว่า ทำไม ไพ่สำรับนี้จึงกลายเป็นสำรับต้นฉบับหรือแบบอย่างให้กับศิลปินรุ่นหลังท่านอื่นๆในการออกแบบไพ่ทาโรท์ จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับ เวทแล้วพบว่า เวท เป็นนักคิดนักเขียนที่มักจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มความเชื่อลัทธิโบราณต่างๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความเชื่อของคนสมัยนั้นเข่น กลุ่มฟรีเมสัน เป็นต้น ความที่เวทเป็นผู้ที่ค้นคว้าและเข้าถึงศาสตร์ และความรู้ในเรื่องราวของศาสตร์โบราณต่างๆ ทำให้ผลงานที่ร่วมกันออกแบบระหว่างเขากับ สมิธนั้นเป็นที่ต้องการของท้องตลาดไม่ใช่เพียงเพราะแปลกใหม่เพราะมีการใส่รูปวาดเรื่องราวบนหน้าไพ่ หากแต่ยังแฝงถึงศาสตร์อันลี้ลับที่คนในยุคสมัยนั้นกำลังค้นหาสิ่งที่แตกต่างออกไปจากความคิดของศาสนจักร เพราะในยุคสมัยนั้นศาสนจักรมีบทบาทต่อสังคมสมัยนั้นอย่างสูง ดูได้จากการล่าแม่มดที่จะมีการจับผู้หญิงที่เชื่อว่าเป็นแม่มด มาเผาทั้งเป็น คำว่าแม่มดนั้นไม่ได้หมายถึงหญิงหน้าตาน่าเกลียด จมูกยาวๆ แก่หง่อม แล้วใช้เวทมนตร์ คาถาในการสาปแช่งบุคคลอื่น แต่เวทมนตร์เป็นเพียงแค่การบูชาหรือขอพรต่อธรรมชาติตามรูปแบบหรือแบบแผนตามคติความเชื่อแบบโบราณ ซึ่งในสมัยนั้นเป็นอะไรที่ต้องห้ามอย่างเด็ดขาด


Credite : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=trisuli&date=30-04-2010&group=3&gblog=6