ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ( FIC EXO ) มินจ๊อกปุกปุย ♡ - LUMIN

    ลำดับตอนที่ #3 : มิ น จ๊ อ ก ปุ ก ปุ ย - ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 57



    มิ น จ๊ อ ก ปุ ก ปุ ย
    ตอนที่ 2
     

              เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายของมินซอกที่ดังขึ้นลั่นบ้านทำเอาร่างสูงที่นอนสะลึมสะลืออยู่ต้องขยับตัวเล็กน้อยพร้อมกับบ่นพึมพำออกมาอย่างงัวเงีย ร่างสูงโปร่งของลู่หานในสภาพเปลือยท่อนบนพลิกกายนอนคว่ำหน้าพลางเอื้อมมือไปหยิบหมอนของมินซอกขึ้นมาปิดหูตัวเองเอาไว้เพื่อเข้าสู่ห้วงนิทราต่อแต่ทว่าหมอนใบโตก็ถูกมือเล็กของมินซอกกระชากออกไปอย่างแรงพร้อมกับน้ำเสียงเล็กแหลมติดจะหงุดหงิดตลอดเวลาดังขึ้น

               “ลู่หาน! ลูกนายขี้แตก!!!” คุณหมอตัวบางพูดอย่างหัวเสียก่อนจะชี้ไม้ชี้มือไปยังร่างกลมป้อมของน้องปุยที่นั่งแหมะอยู่กลางพื้นห้องนอนพลางส่งสายตากลมโตมายังร่างสองร่างบนเตียงอย่างเงียบๆ ลู่หานพยักหน้ารับรู้ก่อนจะส่งเสียงตอบรับในลำคออย่างแผ่วเบา

               “อือ นายก็เช็ดสิ” สารวัตรหนุ่มบอกเล่นเอามินซอกแทบปรี๊ดแตก มือบางฟาดเพียะลงไปบนแผ่นหลังของลู่หานเต็มแรงจนเกิดเสียงดังพร้อมกับตวาดใส่ลู่หานด้วยความโมโห

               “โอ๊ย! มินซอก!

               “ฉันเป็นคนอยากเลี้ยงไอ้หมีหน้าแบ๊วนั่นมั้ย ก็ไม่ เพราะงั้นมันไม่ใช่หน้าที่ฉันที่จะต้องไปเก็บขี้มัน” มินซอกพูดพร้อมกับถลึงตาใส่คนที่เพิ่งพลิกตัวหนอนหงาย ลู่หานจ้องหน้าคุณหมอตัวขาวด้วยความไม่พอใจที่ถูกปลุกก่อนจะเอื้อมมือไปรวบเอวมินซอกเอาไว้และยกร่างบางขึ้นมานั่งทับบนหน้าท้องแกร่งพร้อมกับคาดโทษคุณหมอตัวขาวด้วยน้ำเสียงดุดัน

               “เดี๋ยวนี้ได้ทีก็ตีฉันใหญ่เลยนะ คิดว่าฉันไม่กล้าทำนายคืนเหรอ” ลู่หานพูดพร้อมกับออกแรงบีบเอวบางของมินซอกเบาๆ

               “ลองสิ ฉันจะได้ไปฟ้องว่าตำรวจรังแกประชาชน” คุณหมอตัวเล็กยักคิ้วให้อย่างท้าทายทำเอาลู่หานรู้สึกหมั่นไส้ สารวัตรหนุ่มดันร่างของมินซอกจนขยับลงไปนั่งแหมะบริเวณหน้าขาก่อนที่ร่างโปร่งจะเด้งตัวขึ้นจนใบหน้าหวานอยู่ในระยะประชิดกับดวงหน้าเล็กของมินซอกทำเอาดวงตารีเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ แต่ยังไม่ทันที่มินซอกจะได้แหวกลีบปากอิ่มก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อลู่หานรั้งเอวบางจนร่างของมินซอกเลื่อนขึ้นมาปะทะกับแผ่นอกเปลือยเปล่าของลู่หานเข้าอย่างจัง

               “เฮ้ยๆ เล่นอะไรของนายเนี่ย!” คุณหมอตัวเล็กถามเสียงสูงพร้อมกับดิ้นขลุกขลักแต่ท่อนแขนของเพื่อนตัวสูงกว่ากลับยิ่งรัดเอวของตนเอาไว้แน่นจนแทบจะหายใจไม่ออก นัยน์ตาคู่สวยตวัดมองเครื่องหน้าสวยได้รูปของลู่หานพลางหายใจฟึดฟัดอย่างขัดใจที่โดนแกล้ง ด้านคนตัวสูงก็ฉีกยิ้มอย่างพอใจที่ได้เห็นอาการของคนตรงหน้า ลู่หานเผยยิ้มกว้างจนตีนกาขึ้นก่อนจะเอ่ยกับมินซอกด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์จนคนที่ได้ยินถึงกับอ้าปากพะงาบๆ

               “รังแกประชาชนไง ยิ่งประชาชนตัวนุ่มแบบนายนี่ยิ่งน่ารัก...เอ๊ย น่ารังแก” ลู่หานเน้นคำว่าน่ารังแกพลางยื่นใบหน้าเข้าไปกระซิบชิดใบหูเล็กจนคนโดนแกล้งขนลุกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

               “พ่องสิไอ้เหี่ยว ใกล้ไปละ ปล่อยเลย!” มินซอกด่าเข้าให้พร้อมกับออกแรงดิ้นในอ้อมกอดของคุณตำรวจหนุ่มเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ ลู่หานหัวเราะเอิ๊กอากอย่างสนุกสนานที่ได้แกล้งเพื่อนตัวเล็กตรงหน้าแต่อยู่ๆร่างสูงก็เกร็งตัวแน่นพร้อมกับหยุดหัวเราะไปดื้อๆหากแต่มินซอกกลับยิ่งดิ้นให้แรงมากขึ้นกว่าเดิม

               “มินซอกอย่าดิ้น” ลู่หานเอ่ยเสียงเรียบแต่มีเหรอที่เด็กดื้อแบบมินซอกจะฟัง คุณหมอแก้มยุ้ยหันไปค้อนให้ร่างสูงที่ยังกอดเขาแน่นก่อนจะใช้ฝ่ามือจิกไหล่แกร่งแน่นและพยายามดันตัวออกห่างแต่ทว่าลู่หานกลับยิ่งกระชับอ้อมแขนแกร่งให้แน่นขึ้นไปอีก

               “ลู่หานปล่อยโว้ยยยยย แล้วก็ไปเก็บขี้ลูกนายด้วย!” มินซอกบอกพร้อมกับเบ้หน้าแต่ลู่หานกลับทำเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงเตือนคนตัวเล็ก

               “อย่าขยับน่ามินซอก นั่งนิ่งๆแปปนึง”

               “อะ...อะไร” มินซอกถามพร้อมกับมองใบหน้าหวานด้วยความสงสัย ลู่หานส่งยิ้มแกนๆไปให้คุณหมอตัวเล็กก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา

               “ตอนเช้าน่ะจ่ะมินซอก”

               “ฮะ? เช้า? แล้วไง?” คุณหมอแก้มกลมขมวดคิ้วด้วยความงุนงงสงสัย ลู่หานหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะกระแอมไอแก้เก้อแล้วก็ตอบคำถามของมินซอกกลับไปด้วยใบหน้าราบเรียบ

               “หานน้อยของฉันมันรับอรุณอยู่ ถ้ามินซอกขยับฉันคิดว่ามันไม่ลงง่ายๆแน่ ก้นนายทับมันอยู่พอดีไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ...” สารวัตรหนุ่มถามขึ้นพลางเลิกคิ้วในขณะที่มินซอกได้แต่อ้าปากค้าง พอขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังดุนดันช่องทางด้านหลังผ่านเนื้อผ้าของเขาอยู่จริงๆ คุณหมอตัวขาวเบ้ปากเหมือนเด็กโดนแกล้งก่อนจะเอื้อมมือไปเกาะไหล่ลู่หานเอาไว้แน่นทันที

               “ไอ้หื่น ฉันจะลุกแล้ว ปล่อยมือออกจากเอวฉันเลย!

               “โถ่มินซอก นั่งทับมันไว้ก่อนสิ ช่วยฉันหน่อยเถอะ” ลู่หานอ้อนวอนตาละห้อยพลางทำหน้าตาน่าสงสารสุดฤทธิ์แต่ในใจกลับกระหยิ่มยิ้มย่อง มินซอกตบหน้าผากเพื่อนตัวสูงดังเพียะหลายทีก่อนออกแรงดิ้นไปมาเพื่อให้ตัวเองหลุดออกจากมือที่แข็งยิ่งกว่าคีมเหล็ก

               “ปล่อยเลยไอ้เหี่ยว ไม่ทงไม่ทับมันทั้งนั้นอ่ะ ไอ้กวางทะลึ่งเอ๊ย!” มินซอกด่าเข้าให้ด้วยความโมโห อยู่กับลู่หานมินซอกกลายเป็นคนขี้วีนขี้เหวี่ยงขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่เขาก็ไม่เคยรู้ แต่ลู่หานเองนั่นแหละที่ผิด ก็เจ้าตัวขยันหาเรื่องมาให้เขาหงุดหงิดเองนี่

               “เฮ้ยมินซอกอย่าดิ้นสิ ฉันมีอารมณ์แล้วนะ!” ชายหนุ่มเอ่ยเตือนพลางกดเอวมินซอกลงกับร่างกายของตัวเอง แก้มกลมของคุณหมอตัวเล็กขึ้นสีระเรื่อจางๆทันทีที่สัมผัสส่วนต้องห้ามของลู่หาน มินซอกเบ้ปากทันทีก่อนจะพูดเสียงห้วน

               “ไม่ให้ดิ้นนายก็ปล่อยฉันสิ ไม่แกล้งกันแบบนี้ดิวะ”

               “ก็อยู่นิ่งๆแปปนึงไม่ได้เหรอ ดิ้นอีกฉันปล้ำนะ” สารวัตรหนุ่มขู่เสียงเจ้าเล่ห์จนในที่สุดคุณหมอแก้มยุ้ยก็ยอมจำนนอย่างช่วยไม่ได้

               “เออ ไม่ดิ้นแล้วโว้ย!!!!!!!!!” จบประโยคมินซอกก็ได้ยินเสียงหัวเราะสะใจดังขึ้นจากปากของลู่หาน มือเล็กยกขึ้นไปตบแก้มของเพื่อนร่างโปร่งแรงๆด้วยความหมั่นไส้หลายทีก่อนจะยอมนั่งนิ่งๆให้ลู่หานแกล้งเล่น

               “นี่เหี่ยว เมื่อไหร่นายจะปล่อยฉัน” คนตัวเล็กถามขึ้นเมื่อมองนาฬิกาบนหัวเตียงแล้วก็พบว่ามันเริ่มจะสายมากแล้ว ลู่หานแหงนหน้าขึ้นไปมองเวลาบ้างแล้วก็ต้องเบิกตากว้างพร้อมกับร้องเสียงหลง

               “ชิบหายแล้ว วันนี้มีคดีนี่หว่า!” ตำรวจหนุ่มพูดพร้อมกับผลักร่างมินซอกที่นั่งอยู่บนตัวเขาไปให้พ้นทางทันทีก่อนจะถลาลงจากเตียงแล้ววิ่งพรวดพราดเข้าห้องน้ำทิ้งให้มินซอกที่นั่งเอ๋ออยู่บนเตียงมองตามไปด้วยความงุนงง

               “อะไรของมันกันวะ คิดจะผลักกันก็ผลักงี้ดิ?” กลีบปากเล็กพึมพำก่อนจะคลานลงจากเตียง แต่ยังไม่ทันที่มินซอกจะพาร่างเล็กเดินออกจากห้องพร้อมกับน้องปุยเสียงโทรศัพท์ของลู่หานก็ดังขึ้น มินซอกหันไปมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยิบเครื่องมือสื่อสารของลู่หานขึ้นมาดู เมื่อเห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอร่างเล็กก็ไม่รีรอที่จะกดรับสายทันที

               “สวัสดีครับคุณป้า” ภาษาจีนแปร่งๆถูกคุณหมอแก้มกลมเปล่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม

               [อ้าวหนูมินซอกหรอกเหรอ ลู่หานไปไหนล่ะจ๊ะ] คุณนายลู่จินเอ่ยถึงลูกชายตัวแสบของตนด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้ม มินซอกจำต้องนั่งลงบนเตียงอีกครั้งพร้อมกับช้อนร่างกลมของน้องปุยที่นั่งตะกุยขาของเขาขึ้นมาวางบนตักก่อนจะตอบปลายสายกลับไป

               “ลู่หานอาบน้ำอยู่ครับ เพิ่งวิ่งแจ้นเข้าไปเมื่อกี้เองคงอีกนานกว่าจะเสด็จออกมา คุณป้ามีธุระอะไรฝากผมไว้ก็ได้นะครับ เดี๋ยวพอเจ้านั่นออกมาแล้วผมจะบอกให้”

               [ตายจริง นี่ลู่หานยังไม่เลิกนิสัยอาบน้ำเป็นคุณหญิงอีกเหรอเนี่ย ไปทำงานทำการทันมั้ยนั่น] คุณนายลู่บ่นออกมาทำเอามินซอกถึงกับหลุดหัวเราะ

               “ไม่เคยจะทันหรอกครับคุณป้า อาศัยแค่ว่ามีผลงานดีเลยยังไม่ถูกออกจากราชการ” ได้ทีคุณหมอตัวขาวก็ฟ้องใหญ่ ดวงตากลมทอดมองลูกแพนด้าที่ขดตัวอยู่บนตักก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

               “ผมมีเรื่องจะฟ้องด้วยครับ เนี่ยลู่หานก่อเรื่องอีกแล้ว” มินซอกพูดพร้อมกับเบ้ปากก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มของลูกแพนด้าแดงฟอดใหญ่ทันทีที่เจ้าตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา มารดาของลู่หานครางในลำคอมาตามปลายสายก่อนจะถามมินซอกด้วยความเอ็นดู

               [ลูกป้าแกล้งอะไรหนูอีกแล้วเหรอ ไหนเล่ามาซิ]

               “ไอ้เรื่องแกล้งน่ะผมโดนทุกวันจนชินแล้วละครับ แต่คราวนี้ลู่หานบ้ามากจริงๆ ไปเอาลูกแพนด้าแดงมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ผมเดาว่าน่าจะเป็นของกลางที่จับได้จากคดีเมื่อวานน่ะครับ”

               [อ้าว ถ้าเป็นของกลางแล้วไอ้ลูกคนนี้มันหอบกลับบ้านมาด้วยทำไมล่ะ]

               “ก็ลูกชายคุณป้าบอกว่ามันเป็นลูกหมานี่นา ไม่รู้ใช้อะไรมอง ผมบอกให้เอาไปคืนให้ทางตำรวจดำเนินคดีต่อก็ไม่ยอม แถมงอแงจะเลี้ยงมันด้วยนะครับ”

               [เห ขโมยของกลางมาแบบนี้ไม่แย่เหรอลูก] ผู้เป็นมารดาถามกลับมาด้วยความสงสัย มินซอกถอนหายใจก่อนจะตอบกลับไป

               “ไม่รู้สิครับ เรื่องขโมยของกลางนี่ลูกชายคุณป้าทำบ่อยเลยล่ะ” ครั้งก่อนก็ขโมยหนังโป๊เถื่อนมาดูกับผมสองคน – มินซอกต่อประโยคหลังในใจเพราะถ้าบอกคุณป้าลู่จินไปมีหวังโดนเฉ่งยาวเป็นกิโลแน่

               [อืม ช่างเค้าเถอะ รายนั้นเตือนอะไรก็ไม่ฟังหรอก ปล่อยเค้าจัดการของเค้าเองนั่นแหละ เอ้อ! เม้าท์มานานป้าเกือบลืมเลยว่าโทรมาหาทำไม ฮะๆ] ลู่จินพูดนั่นจึงทำให้มินซอกคิดได้

               [วันมะรืนป้าจะไม่อยู่ ต้องบินไปดูงานที่จีนสามเดือนน่ะ ป้าจะวานให้หนูกับตาลู่ช่วยดูแลชานยอลให้ป้าหน่อย ชานยอลบ่นว่าเบื่ออเมริกาแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ป้าจะส่งชานยอลขึ้นเครื่องไปหา น่าจะถึงเย็นๆนั่นแหละ ว่างไปรับน้องที่สนามบินกันรึเปล่า] คุณลู่จินเอ่ยขึ้นทำเอามินซอกตาโตด้วยความดีใจ

               “ชานยอลจะมา! ได้ครับ ว่างครับป้า ไม่ต้องห่วงครับผมว่างเสมอ” มินซอกพูดพร้อมกับฉีกยิ้ม นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นหน้าเด็กน้อยตากลมแก้มใสสีชมพูลูกพี่ลูกน้องของลู่หาน ครั้งล่าสุดที่เขาเห็นชานยอลก็ตอนงานศพของมารดาของเด็กคนนั้น

               ชานยอลเพิ่งจะเสียแม่ไปได้ไม่นาน ส่วนพ่อก็เสียไปตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้ครอบครัวที่เหลืออยู่ของชานยอลจึงมีแค่คุณป้าลู่จินและลู่หานเท่านั้น ดังนั้นมารดาของลู่หานจึงอาสาเลี้ยงดูส่งเสียเด็กน้อยเจ้าของใบหน้าน่ารักนั้นต่อโดยที่บางครั้งคุณป้าลู่จินก็จะส่งชานยอลมาอยู่กับพวกเขาในช่วงวันหยุดเพื่อไม่ให้เจ้าตัวต้องเหงา

                [งั้นป้าก็หายห่วง ยังไงฝากน้องด้วยนะจ๊ะ ไฟลท์บินจะถึงโซลตอนหกโมงเย็นของวันพรุ่งนี้น่ะ ถ้าเจอน้องแล้วโทรหาป้าด้วยนะ]

                “ครับคุณป้า” มินซอกรับคำก่อนจะขอตัววางสายพอดีกับที่ลู่หานเดินเปลือยเอามือปิดส่วนกลางของลำตัวออกมาจากห้องน้ำ

                “มินซอก ช่วยด้วย!” คุณตำรวจหนุ่มเรียกชื่อมินซอกเสียงดัง ด้านคนถูกเรียกพอหันไปมองแล้วก็หันกลับมาแทบไม่ทันเมื่อสายตาปะทะเข้ากับชีเปลือยหน้าห้องน้ำ

                “ไอ้ลู่ แกออกมาจากห้องน้ำในสภาพนั้นได้ยังไงหา!!!!!” คุณหมอตัวขาวแว้ดเสียงแหลมด้วยความตกใจส่วนน้องปุยที่นอนเล่นบนตักของมินซอกอยู่พอได้ยินเสียงลู่หานก็ชะเง้อใบหน้าออกไปมองก่อนจะเอียงคอเมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มที่ยืนทำท่าแปลกๆเอามือบังร่างกายส่วนล่างอยู่หน้าห้องน้ำ

               งื๊ดๆ

                “มองอะไร เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าไปมองของอัปมงคลสิเดี๋ยวตาบอด” มินซอกพูดพร้อมกับจับใบหน้าฟูฟ่องมาซุกหน้าท้องนุ่มนิ่มตามเดิมก่อนจะด่าลู่หานอีกรอบ

                “นี่! นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ยฮะ มายืนกุมไข่ต่อหน้าฉันกับไอ้ปุยเนี่ย!!!

                “ไม่ได้อยากยืนในสภาพนี้หรอก แต่ลืมผ้าเช็ดตัว ไปหยิบมาให้หน่อยดิ” ลู่หานพูด มินซอกถอนหายใจก่อนจะยกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเองเบาๆพร้อมกับบ่นพึมพำ

                “กูละอยากจะบ้า”

                “เร็วหน่อยมินซอก หนาวไข่มากอ่ะตอนนี้” ลู่หานเร่งเมื่อเห็นคนตัวเล็กยังคงนั่งหันหลังให้อยู่บนเตียง มินซอกได้ยินแบบนั้นก็นึกอยากจะแกล้งคนด้านหลัง คุณหมอแก้มกลมเอนตัวลงนอนบนเตียงฝั่งของลู่หานโดยมีลูกแพนด้านอนแหมะอยู่บนท้องก่อนจะหันไปมองลู่หานที่ยังยืนเอามือปิดด้านหน้าของตัวเองอยู่หน้าห้องน้ำ

                “ลืมเองก็เดินไปเอาเองสิครับคุณตำรวจ” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ ลู่หานแยกเขี้ยวใส่มินซอกทันทีก่อนจะร้องโวยวาย

                “จะบ้าเหรอมินซอก ผ้าเช็ดตัวมันอยู่ราวตากผ้าข้างนอกเลยนะ! ฉันโดนข้อหาอนาจารพอดีสิ ไปหยิบมาเร็วๆได้ป่ะ บอกแล้วว่าหนาวไข่มาก T^T” ตำรวจหนุ่มร้องในขณะที่มินซอกได้แต่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจและยังคงนอนแหมะอยู่บนเตียงไม่ยอมลุกไปทำตามสิ่งที่ลู่หานขอร้อง

                “มินซอกเร็วดิ ฉันหนาวนะ สั่นหมดแล้วเนี่ยอยากเห็นมั้ย” ลู่หานพูดพลางทำท่าว่าจะเอามือออกทำเอามินซอกร้องห้ามเสียงหลง

                “อย่าคิดมาเปิดอะไรโชว์ฉันนะ อันแค่นี้อย่ามาทำอวดเก่งไปหน่อยเลย”

                “รู้ได้ไงว่าอันแค่ไหน ดูถูกกันมาอ่ะ ขึ้นเลยนะเนี่ย” ลู่หานเถียงเสียงแข็ง โดนหยามแบบนี้นี่ไม่ยอมนะจะบอก มินซอกเองพอได้ยินก็เบ้ปากก่อนจะกวาดสายตามองร่างโปร่งของลู่หานตั้งแต่หัวจรดเท้า

                “ฉันอาบน้ำกับนายมาตั้งแต่จำความได้ ดึงช้างกันเล่นก็ทำมาแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าอย่างนายโตมามันก็อันจิ๊ดนึงอ่ะ” ร่างเล็กอ้าปากเถียงทำเอาลู่หานถึงกับเลือดขึ้นหน้า

                “โหยอ้วน นั่นมันตั้งแต่สมัยเราอยู่ป.3 นี่ฉันจะสามสิบแล้วมันก็ต้องใหญ่ขึ้นบ้างล่ะวะ ไม่เชื่อจะดูป่ะล่ะ” ลู่หานถามขึ้นเสียงกริ่มทำเอาใบหน้ากลมของมินซอกถึงกับซับสีแดงระเรื่อ

                “หยุด! ไม่อยากดู” มินซอกแหวเสียงกร้าวพร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าสารวัตรตัวสูง

                “ไม่อยากดูก็ไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาสิ เถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้เดี๋ยวฉันจับแก้ผ้าเป็นเพื่อนหรอก” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับถลึงตาใส่ สุดท้ายมินซอกก็ยอมเดินออกจากห้องเพื่อไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้ลู่หานในที่สุด

               จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งคนอย่างมินซอกก็เถียงแพ้ลู่หานอยู่วันยังค่ำนั่นละ

     

    * M J P P *

     

                “อี๋ ทำไมขี้เหม็นแบบนี้ล่ะลูก” ร่างสูงพูดพร้อมกับทำหน้าปั้นยาก มือข้างหนึ่งถูกเจ้าตัวยกขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ในขณะที่มืออีกข้างค่อยๆใช้ทิชชู่เช็ดของเสียที่น้องปุยทิ้งเอาไว้กลางห้องนั่งเล่นขึ้นมาใส่ถุง สารวัตรหนุ่มน้ำตาคลอเบ้าพลางโก่งคอทำท่าจะอ้วกเมื่อพบว่าอุจจาระของลูกสาวตัวน้อยนั้นมีอานุภาพทำลายล้างมากกว่าที่เขาคิด ลู่หานจัดการทำความสะอาดพื้นบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองร่างเล็กในชุดทำงานของมินซอกที่กำลังยืนกอดอกจ้องตากลมใสของแพนด้าแดงตัวน้อยที่นั่งแหมะมองหน้ามินซอกไม่วางตาอยู่บนพื้น

                “มองหน้าทำไมไอ้หมีแอ๊บแบ๊ว ไม่เคยเห็นคนหล่อเรอะ” มินซอกแยกเขี้ยวใส่สัตว์ตรงหน้าเรียกเสียงหัวเราะจากลู่หานได้เป็นอย่างดี น้องปุยขยับหูไปมาพลางเอียงใบหน้าไปซ้ายทีขวาทีก่อนจะเดินเตาะแตะเข้าไปกอดเท้ามินซอกพร้อมกับส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ คุณหมอตัวขาวเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะเอียงตัวลงไปมองน้องปุยของลู่หานพร้อมกับขมวดคิ้ว ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาตั้งใจจะด่าลู่หานเสียหน่อยแต่ทว่าคุณตำรวจตัวสูงไม่ได้อยู่แถวนั้นแล้ว มินซอกถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆก่อนจะเดินลากลูกหมีที่เกาะขาเขาแน่นไปยังโซฟาหน้าทีวีพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง

                “ปกติอยู่กันสองคนก็ดูแลกันสายตัวแทบขาด นี่ยังจะมีหน้ามาเลี้ยงแกอีกนะไอ้ปุย เลี้ยงไปก็ไร้ประโยชน์ กวาดบ้านถูบ้านแกก็ทำไม่เป็น วันๆหนึ่งนี่คิดจะทำอะไรบ้างฮะไอ้หมีขนฟู” มินซอกก้มลงไปด่าน้องปุยเสียงห้วน

                “ซักผ้าก็ไม่ได้ กวาดบ้านก็ไม่เป็น แค่ขี้ให้เป็นที่ยังยาก ไอ้สัตว์ไร้ระเบียบวินัย” คุณหมอแก้มกลมบ่นพึมพำพร้อมกับก้มลงไปตบหัวสัตว์เลี้ยงของลู่หานทีหนึ่งด้วยความหมั่นไส้

               ใครบอกว่าสัตวแพทย์ทุกคนจะต้องรักสัตว์ มินซอกคนนึงละที่ไม่ใช่

               ขอมินซอกตบหมีของไอ้ลู่มันซักทีเถอะ หมั่นไส้พ่อมันเฉยๆหรอกไม่ใช่อะไร เมื่อเช้าแกล้งกันซะขนลุกจนแทบอยากจะโดดตึกฆ่าตัวตาย ถ้าลงกับพ่อมันไม่ได้มินซอกก็ใช้ลูกมันเนี่ยแหละเป็นกระสอบทรายแทน

               นี่แน่ะ ... ตบกบาลแถมเบิร์ดกะโหลกปิดท้ายด้วยบ้องหูซ้ายเบาๆ

               งื๊ดๆ

                “มินซอกตีลูกทำไม!” เสียงครางเบาๆจากน้องปุยดังขึ้นพร้อมกับเสียงดุของลู่หานที่เข้ามาเห็นฉากประทุษร้ายสัตว์โลกที่แสนน่ารักพอดิบพอดี มินซอกหันไปมองเพื่อนตัวสูงก่อนจะสะดุ้งน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งของลู่หานพร้อมกับที่ร่างสูงเดินดุ่มๆเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

                “เอ่อ...ไปไหนมาอ่ะ”

                “เอาขี้น้องปุยไปทิ้งมา แล้วนี่มินซอกตีลูกทำไม!” ลู่หานถามพลางทำหน้าขึงขังจนคุณหมอตัวเล็กไปไม่เป็น

                “อะไร หยอกเล่นนิดเดียวเองหรอก ตีบ้าตีบออะไรไอ้ตาบอด ไม่มี๊” ร่างเล็กแถพลางเลิกคิ้วสูงหากแต่ลู่หานก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่ามินซอกโกหก พอหันไปมองก้อนกลมฟูที่กอดขามินซอกอยู่ก็ยิ่งหงุดหงิด

                “เปาจื่อนี่นิสัยเสียงจริงๆเลย แกล้งได้แม้กระทั่งสัตว์ตัวเล็กๆตาดำๆ” ลู่หานเม้มปากพลางยืดอก มินซอกได้ยินก็กลอกตาไปมาพลางถอนหายใจออกมายาวเหยียด

                “อย่าบ้าน่าลู่หาน ฉันไม่ฆ่ามันหรอก แล้วนี่มันสายมากแล้วนะ เก็บขี้เสร็จก็ออกไปทำงานได้แล้ว อย่าลืมสิว่านายมีคดีส่วนฉันต้องเข้าฟาร์ม” มินซอกพูดพร้อมกับสลัดร่างของลูกหมีที่ยังเกาะขาตัวเองออก ลู่หานได้ยินก็หน้าหงิกทันทีก่อนจะเดินกระทืบเท้าปึงปังเข้าไปนั่งแหมะลงข้างมินซอกพร้อมกับบ่นเสียงอู้อี้

                “เหนื่อยอ่ะมินซอก ทำไมการเป็นตำรวจมันถึงเหนื่อยขนาดนี้ก็ไม่รู้” ชายหนุ่มบ่นพร้อมกับก้มลงไปแงะลูกหมีออกจากขาของคุณหมอตัวขาวพลางอุ้มน้องปุยขึ้นมาวางบนตัก มินซอกได้ยินก็เบ้ปากก่อนจะล้อเลียนลู่หานโดยการก้มหน้าลงไปพูดใกล้ๆหน้าของปุกปุยพร้อมกับดัดเสียงจนคนฟังถึงกับหน้างอยิ่งกว่าเดิม

                “เหนื่อยอ่ะลู่หาน ทำไมการเป็นสัตวแพทย์มันถึงเหนื่อยขนาดนี้ก็ไม่รู้”

                “ตลกล่ะ นี่ซีเรียสนะเนี่ย เกิดวันนึงฉันโดนยิงตายขึ้นมาทำไงอ่ะ” ลู่หานถามพร้อมกับล้มตัวลงนอนบนตักของคนตัวเล็กอย่างถือวิสาสะ สองแขนกอดร่างน้องปุยมานอนบนอกพร้อมกับลูบขนให้เจ้าตัวเล็กเบาๆ มินซอกขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความรู้สึกวูบโหวงเล็กน้อยก่อนจะดึงผมลู่หานแรงๆจนเจ้าตัวร้องเสียงหลง

                “โอ๊ยมินซอกมันเจ็บ!

                “เออสิ พูดบ้าอะไรมาตงมาตาย ใช่เรื่องมั้ยฮะ เด๊ะต่อยปากแตกเลย” มินซอกเอ็ดอย่างไม่จริงจังจนลู่หานต้องยู่หน้าออกมาน้อย ชายหนุ่มคว้ามือเล็กข้างหนึ่งขึ้นมาแนบแก้มของตนเองก่อนจะพูดเสียงอ่อน

                “จริงๆนะมินซอก ถ้าฉันตายขึ้นมาแล้วมินซอกจะอยู่ยังไง อยู่ได้เหรอ นายต้องงอแงร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ๆใช่มั้ย” ลู่หานพูดพลางดึงมือมินซอกมาแล้วก็เกาเล็บเล็กๆของคุณหมอตัวขาวเล่น มินซอกเลื่อนสายตาลงไปมองคุณตำรวจตัวสูงที่บ่นงึมงำเป็นเด็กๆก่อนจะตอบกลับไป

                “ฉันโตขนาดนี้แล้วจะร้องไห้ทำไมฮะ นายตายสิดี ทำฉันปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน”

                “โห หนูปุยฟังไว้นะลูก แม่เค้าแช่งพ่ออ่ะ แม่เค้าไม่รักพ่ออ่ะ” ลู่หานหันไปฟ้องแพนด้าตัวน้อยที่นอนมองเขาตาแป๋วทันทีที่มินซอกพูดจบ น้องปุยครางในลำคอเบาๆก่อนจะดมฟุดฟิดไปทั่วแผ่นอกกว้างในขณะที่มินซอกกำลังทึ้งหัวลู่หานด้วยความโมโห

                “แม่บ้านแกสิไอ้ตำรวจเส็งเคร็ง ฉันไม่นับไอ้หมีนี่เป็นลูกหรอกนะ รวมถึงนายด้วย นี่ขอล่ะลู่หาน ช่วยทำอะไรให้มันสมกับวัยวุฒิสมกับอาชีพตัวเองหน่อยได้รึเปล่า นายจะสามสิบอีกไม่กี่ปีอยู่แล้วนะ” มินซอกบ่นเป็นหมีกินผึ้งก่อนจะเอนหลังพิงโซฟาอย่างอ่อนใจ ลู่หานฉีกยิ้มกว้างก่อนจะยกมือขึ้นไปเขี่ยแก้มนุ่มนิ่มของเพื่อนตัวเล็กเบาๆแบบที่ชอบทำพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส

                “ตั้งแต่เล็กจนโตนี่นายไม่เปลี่ยนเลยนะมินซอก เมื่อก่อนขี้หงุดหงิดยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม”

                “ใช่เวลามั้ย ลุกได้แล้ว ไปทำงาน” ร่างเล็กพูดขึ้นพร้อมกับแงะหัวลู่หานออกจากตักแต่ร่างโปร่งกับไม่ยอมลุกง่ายๆทำเอามินซอกหน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม

                “ลู่หาน ฉันจะเข้าฟาร์มแล้ว มันเลยเวลามานานมากแล้วนะ” คุณหมอตัวเล็กบ่นออกมาเบาๆ

                “แปปนึง นายสายฉันก็สายเหมือนกันแหละน่า” ลู่หานว่าพร้อมกับมุดใบหน้าเข้าหาหน้าท้องนุ่มนิ่มของมินซอกพร้อมกับสูดกลิ่นหอมอ่อนๆของอีกคนเบาๆ ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะเมื่อมินซอกเลิกดื้อปล่อยให้เพื่อนตัวสูงนอนตักดีๆ ดวงตากลมของคุณหมอตัวเล็กเลื่อนไปหยุดอยู่ที่ร่างกลมบนอกแกร่งของลู่หานแล้วก็ฉีกยิ้มออกมาเบาๆเมื่อน้องปุยกำลังถูใบหน้าฟูฟ่องกับเครื่องแบบตำรวจของลู่หานพร้อมกับหาวออกมาอย่างงัวเงีย

                “เมื่อเช้าใครโทรมาเหรอ” ลู่หานถามเสียงอู้อี้ขึ้นทำลายความเงียบ มินซอกก้มลงไปมองคนบนตักก่อนจะเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆพร้อมกับตอบด้วยเสียงอ่อนโยน

                “คุณป้าลู่จินน่ะ ท่านโทรมาบอกว่าชานยอลจะมาอยู่ด้วยสามเดือน เย็นนี้กลับมาเก็บห้องนอนนายด้วยนะ เอาผ้าปูที่นอนใหม่มาเปลี่ยนแล้วก็ปัดกวาดเช็ดถูไว้รอน้องด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันขับรถไปรับชานยอลที่สนามเอง”

                “หืม ชานยอลจะมาเหรอ คิดถึงน้องจัง”

                “ไม่ได้เจอตั้งนาน ตัวโตไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้” มินซอกบ่น ใบหน้ากลมแต้มไปด้วยรอยยิ้มเมื่อพูดถึงเด็กน้อยที่เขาเอ็นดู ลู่หานหน้าหงิกทันทีเมื่อเห็นดวงตาเป็นประกายของเพื่อนสนิทพลางบ่นเบาๆ

                “น้องรักมาทีนี่ดีใจจนหน้าบานเลยนะคุณหมอ ใช่ซี้ ชานยอลของมินจ๊อกน่ะน่ารัก เป็นเด็กดี ไม่ดื้อ ไม่ซน มินจ๊อกรักมินจ๊อกหลง ไม่เหมือนไอ้ลู่เหี่ยวคนนี้หรอก ทำอะไรก็โดนด่าไปหมด เนาะปุยเนาะ” คุณตำรวจหนุ่มตัดพ้อจนมินซอกนึกหมั่นไส้

                “รู้แบบนี้ก็ลุกไปทำงานได้แล้วไป วันนี้นายอีเว้นท์เยอะไม่ใช่เหรอ” มินซอกพูดเตือนสติทำเอาสารวัตรหนุ่มถึงกับตาโต

                “เออใช่ งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ” ลู่หานลุกจากตักของมินซอกแต่ยังอุ้มน้องปุยเอาไว้แนบอก มินซอกเองก็เตรียมตัวออกไปทำงานบ้างแต่ยังไม่ทันทีคุณหมอตัวเล็กจะได้ลุกไปหยิบกุญแจรถร่างบอบบางก็โดนลู่หานรวบไปกอดด้วยมือข้างเดียว มินซอกลอยหวือเข้าไปประชิดอกแกร่งก่อนที่แก้มนุ่มนิ่มจะโดนริมฝีปากสวยได้รูปของลู่หานกดจูบแรงๆพลางคลอเคลียต่อด้วยจมูกโด่งเป็นสันของเจ้าตัว คนโดนฉวยโอกาสตัวเกร็งทันทีด้วยความตกใจปล่อยให้ลู่หานหอมซ้ายหอมขวาจนพอใจแล้วผละออกเอง

                “อะ...ไอ้เหี่ยว....”

                “หืม?”

                “แกหอมแก้มฉันทำไมเนี่ย!” มินซอกว้ากใส่เมื่อตั้งสติได้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยโดนหอมก่อนไปทำงาน แต่ทุกครั้งลู่หานจะพูดเตือนเขาก่อนเสมอ

                “หืม จริงๆก็ไม่ได้อยากหอมหรอก แต่น้องปุยฝากมา น้องหนูปุยบอกว่า พ่อลู่ขา หอมแก้มคุณแม่ให้น้องปุยหน่อยสิคะ  งี้อ่ะ” ลู่หานตอบพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจในขณะที่มินซอกรู้สึกหูร้อนขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

                “ไอ้...” ดูมันแถ

                “โถ่มินซอก ถ้าลูกไม่ขอฉันไม่ทำหรอกจะบอกให้ แก้มเน่าๆใครจะไปอยากหอม” สารวัตรหนุ่มทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้นก่อนจะอุ้มน้องปุยเดินออกจากบ้านไป

     

               คนเรานี่ก็นะ อยากหอมเค้าก็ไม่จำเป็นต้องเอาลูกสาวไปอ้างหรอก...

    TBC.

     

     

     

     

     

              มึนๆ เบลอๆ กับสารวัตรกันไป ตำรวจอะไรน่าถีบมาก แต่งเองหมั่นไส้เอง 555555 คือพี่แถอ่ะพี่ลู่ พี่แถ พี่รุงรังมาก นี่เป็นหมอจ๊อกนี่ก็วีนแถมเอาอีโต้สับหัวพร้อม เอาเถอะ ปล่อยนางป่วงๆ บ้าๆ บอๆ ของนางต่อไป

              ติชมได้น้า XD





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×