คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : มิ น จ๊ อ ก ปุ ก ปุ ย - ตอนที่ 1
มิ น จ๊ อ ก ปุ ก ปุ ย
ตอนที่ 1
ไม่มีใครในโลกที่ไม่รู้จักสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่า ‘คุก’ กันหรอกจริงไหม?
มินซอกเชื่อว่าทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่าคุกน่ะมันมีไว้ทำอะไร และใครจะไปรู้จักสิ่งเหล่านี้ดีไปกว่าคนที่ทำงานกับมันมานานอย่างตำรวจกันล่ะ แน่นอนว่าคนที่รู้เรื่องคุกๆดีกว่าใครก็คงหนีไม่พ้นเพื่อนซี้ขี้กวนประสาทที่กำลังยืนทำหน้าเป็นกวางโง่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้หรอก พูดก็พูดเถอะนะ เกิดมาจนอายุจะเกินครึ่งของครึ่งร้อยเข้าไปอยู่แล้วก็เพิ่งจะมาเข้าใจสุภาษิตไทยที่ว่ากันว่า ‘ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน’ ก็วันนี้นี่แหละ
วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบยี่สิบห้าปีของมินซอก อุตส่าห์หวังเอาไว้อย่างดิบดีว่าจะออกไปกินอาหารอร่อยๆด้วยกัน แต่ทุกอย่างกลับต้องมาพังเพียงเพราะของขวัญวันเกิดที่ลู่หานตั้งใจ๊ตั้งใจหามาให้ด้วยความหวังดี
ของขวัญที่มีคุกเป็นของแถมอีกทีหนึ่ง -_-
“ลู่หาน เมื่อกี้นายพูดว่าไอ้ขนปุยตรงหน้านี่มันเป็นลูกหมางั้นเหรอ” เสียงทุ้มต่ำแสดงความไม่พอใจดังออกมาจากกลีบปากสีระเรื่อของสัตวแพทย์ตัวเล็กอย่างมินซอกพร้อมกับข้อนิ้วเรียวขนาดพอดีชี้ลงไปยังกล่องลังสีน้ำตาลที่วางอยู่บนพื้นตรงหน้าเขา ในลังบรรจุร่างอ้วนฟูของสัตว์ชนิดหนึ่งนอนขดตัวพร้อมกับสั่นน้อยๆอย่างน่าสงสาร ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตระหนกขณะที่อุ้งเท้ากลมป้อมพยายามตะเกียกตะกายพาร่างเล็กของตนให้ชิดติดผนังลังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้รู้สึกปลอดภัย คุณหมอตัวเล็กมองอาการหวาดกลัวตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปคาดคั้นเอาคำตอบกับร่างสูงในเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ยืนกุมมือกันแน่นอย่างสงบนิ่งราวกับรอคอยบทสวดจากเขาเต็มที่
“ว่าไง ฉันถามให้นายตอบนะไม่ใช่ให้มายืนกุมเป้าทำหน้าหงอยเป็นลูกกวางถูกดุแบบนี้” มินซอกพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับส่งสายตาดุดันไปให้คนตรงหน้า คนตัวเล็กยืนนิ่งรอคอยคำตอบอยู่หลายนาทีอย่างอดทนจนสุดท้ายร่างสูงตรงหน้าเขาก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาตาละห้อย
“โถ่เปาจื่อจ๋า นี่มันลูกหมาไม่ใช่เหรอ ขนปุย สี่ขา มีหูมีปากมีหางฟูฟ่อง นี่มันหมาน้อยน่ารักชัดๆเลยนะมินซอก” ลู่หานพูดเสียงหวานพร้อมกับถลาเข้าไปเกาะแขนนุ่มนิ่มของคุณหมอแก้มยุ้ยอย่างประจบประแจง มินซอกได้ยินก็เบ้ปากทันทีพร้อมกับผลักหัวเพื่อนรักที่กำลังจะเข้ามาคลอเคลียให้ถอยห่างออกไป
“หมาเหรอ นายมองยังไงของนายว่านี่มันลูกหมาฮะลู่หาน!” คุณหมอตัวขาวตวาดเบาๆทำเอาคุณตำรวจหนุ่มถึงกับทำตัวไม่ถูก
“ก็หมาไง ลูกหมาอ่ะมินซอก มีสี่ขามีขนมีหางไง มันไม่ใช่หมาตรงไหนล่ะ” ลู่หานตอบหน้าเซ่อทำเอาคนตัวเล็กกว่ายกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเองแรงๆหนึ่งทีก่อนจะตวาดใส่หน้าของลู่หานด้วยเสียงดังฟังชัด
“ลูกหมาบ้านแกสิไอ้เหี่ยว นี่มันลูกหมีโว้ยยยยยย !!!!!!!”
“ฮะ? หมี? บ้าแล้วมินซอก หมีที่ไหน ไม่ใช่หรอก! นี่มันหมาต่างหากเล่า เปาจื่อไม่รู้เรื่อง!!!” ลู่หานทำหน้างงเพียงชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนมาขมวดคิ้วเข้าหากันจนยุ่งเหยิงพร้อมกับออกปากเถียงเพื่อนตัวเล็กตาตั้ง มันจะเป็นลูกหมีไปได้ยังไง ก็เห็นชัดๆอยู่แล้วนี่นาว่ามันเป็นลูกหมาน่ะ ลูกหมาชัดๆลู่หานมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นเลย มินซอกอ่ะมั่ว มองยังไงว่าเป็นลูกหมีก็ไม่รู้
“จะไม่รู้เรื่องได้ยังไง ฉันเป็นสัตวแพทย์นะนายลืมไปแล้วเหรอ นี่มันลูกแพนด้าแดงนะลู่หาน ไม่ใช่ลูกหมา” มินซอกพูดแล้วก็กลอกตาไปมา แต่กระนั้นลู่หานก็ยังคงเถียงเขาหน้าตั้ง กลีบปากสวยได้รูปนั่นยังคงพ่นคำยืนยันว่าสิ่งมีชีวิตที่ตัวสั่นในลังนี้เป็นลูกหมาที่ตนเก็บได้ตอนไปทำคดีค้าสัตว์ป่าโดยที่ลู่หานบอกว่าเป็นสุนัขของพ่อค้า ทั้งคู่ยืนเถียงกันอยู่กลางบ้านเป็นเวลานานเพราะยังไงลู่หานก็จะให้ไอ้ขนปุยนี่เป็นลูกหมาให้ได้ ส่วนมินซอกเองก็ไม่ยอมแพ้เพื่อความถูกต้อง เวลาผ่านไปดูเหมือนบทสนทนาของสองเพื่อนซี้จะไม่จบลงง่ายๆจนในที่สุดมินซอกก็พูดตัดบทขึ้นมาอย่างหัวเสีย
“โอ๊ยไอ้หน้ามึนนี่! บอกว่าหมีก็หมีสิวะ เดี๋ยวพ่อตบหน้าแหกเลย!”
“อะไรล่ะ! ตบมาฉันจูบกลับอ่ะนี่พูดเลย! ก็บอกว่ามันเป็นลูกหมาทำไมมินซอกไม่เชื่อฉันบ้าง” ลู่หานเถียงขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ทำเอามินซอกต้องถลึงตาใส่ กลีบปากอวบอิ่มของคุณหมอตัวเล็กเบะลงแสดงความขัดใจที่โดนคุณตำรวจหนุ่มเถียงคำไม่ตกฟาก
“ไปเปิดอินเตอร์เน็ตเดี๋ยวนี้เลยไป เปิดกูเกิ้ลแล้วพิมพ์คำว่าแพนด้าแดงลงไป เดี๋ยวนี้!!!” มินซอกสั่งพร้อมกับฟาดหลังลู่หานแรงๆ เหนื่อยใจและหงุดหงิดกับความดื้อด้านไม่เข้าเรื่องของลู่หานเสียเหลือเกิน มาเถียงเรื่องสัตว์กับสัตวแพทย์มันก็ไม่ต่างจากการสอนให้ปลาทองหายใจในบ่อน้ำหรอก ใครกันแน่นะที่ไม่รู้เรื่อง
“ฉันจะรอหัวเราะเยาะนายคอยดู ไป! ไปเปิดคอม” คุณหมอตัวขาวบอกพร้อมกับดันหลังของลู่หานไปยังส่วนที่เป็นที่ตั้งของโต๊ะคอม ลู่หานทำตามอย่างว่าง่ายด้วยเพราะมั่นใจว่าสัตว์ตัวน้อยที่เขานำกลับมาด้วยหวังจะเป็นของขวัญให้มินซอกนั้นต้องเป็นลูกหมาแน่ๆ แต่หลังจากที่คุณตำรวจหนุ่มเปิดอ่านข้อมูลตามที่มินซอกเขาก็ต้องหน้าซีดเผือด
ใช่ มินซอกพูดถูกทุกอย่างเลย เจ้าหนูนั่นไม่ใช่ลูกหมาอย่างที่ลู่หานคิด ซ้ำร้ายยังเป็นลูกแพนด้าแดงซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ค่อนข้างหาได้ยากอีกด้วย
เวรแล้ว คุกเต็มๆเลยไอ้ลู่
“ชิบหายล่ะมินซอก” ชายหนุ่มสบถออกมาทันทีพร้อมกับหันขวับไปยังกล่องลังที่ขยุกขยิกอยู่กลางห้อง
“เป็นไง ยังจะเถียงว่ามันเป็นลูกหมาอยู่อีกมั้ย” มินซอกแขวะขึ้นทันทีทำเอาคุณตำรวจหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่พร้อมกับส่งยิ้มแห้งๆไปให้คุณหมอตัวเล็กที่ยืนเท้าสะเอวทำหน้ายักษ์อยู่ข้างโต๊ะคอม
“ไม่ต้องมาเย้ยเลย ช่วยกันเลย แล้วทีงี้ต้องทำยังไงต่อล่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงสูงพร้อมกับดึงแขนนิ่มของคุณหมอหัวกลมเข้ามาใกล้จนมินซอกลอยหวือลงไปนั่งแหมะบนตักแกร่งบนเก้าอี้หน้าจอคอม ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักอย่างแรงก่อนจะหยุดลงเพราะความเหนื่อยแล้วก็ตวัดสายตาไปมองใบหน้าหวานของอีกคนด้วยความโกรธเคือง
“เรียนผูกเองก็ต้องเรียนแก้ ไม่นึกเลยว่านายจะโง่ขนาดนี้ จบตำรวจมาได้ไงวะเนี่ย” คุณหมอแก้มยุ้ยไม่วายด่าเข้าให้ด้วยความโมโห
“ขอโทษ...ก็ฉันไม่รู้จริงๆนี่นา” ร่างสูงในเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราษฎร์พูดเสียงอ่อนพร้อมกับช้อนสายตาหงอยๆขึ้นมามองใบหน้าบูดบึ้งของมินซอก คนถูกมองถลึงตาใส่ทันทีด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรงๆด้วยความเครียด ก็จะไม่ให้มินซอกหงุดหงิดได้ยังไงในเมื่อคนที่ลากคุกลากตารางมาตั้งไว้หน้าบ้านของเขาดันเป็นคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นตำรวจแท้ๆ มันน่าไหมล่ะ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ตำรวจทำผิดกฎหมายเสียเองนี่มันมีอยู่บนโลกจริงๆ
“แล้วนายไม่ฉุกคิดบ้างเหรอว่าคนบ้านไหนมันจะลักลอบขายหมา ตัวแบบนั้นเดินตามถนนก็เจอเยอะแยะไปแล้วเค้าจะไปแอบขายทำมะเขืออะไรเล่า อีกอย่าง เคยเห็นชาวบ้านเค้าจูงตัวแบบนี้ตามทางเดินมั้ย คิดสิลู่หานคิด มีสมองก็คิดซะบ้าง!” มินซอกดุร่างสูงอย่างหมดความอดทน ยิ่งสายตากลมโตของชายหนุ่มเหลือบไปเห็นกลุ่มก้อนปุกปุยสีน้ำตาลแดงที่กำลังตะเกียกตะกายปีนออกจากกล่องเขาก็ยิ่งหงุดหงิดจนอยากจะถอดสลิปเปอร์ที่ใส่อยู่ออกมาฟาดใบหน้าของเพื่อนแรงๆให้หายเคือง
ไอ้กวางบ้ามันมองยังไงของมันว่าเป็นลูกหมาวะ
มินซอกได้แต่ถามตัวเองในใจ ยิ่งมองสิ่งมีชีวิตตัวอวบอ้วนตรงหน้าก็ยิ่งหนักใจเข้าไปอีกจนต้องถอนหายใจอย่างแรงพร้อมกับเบ้หน้าอย่างคิดไม่ตก มือเล็กทุบอกคนที่เขานั่งตักดังปั่กๆหลายทีก่อนจะจัดการดึงหูของลู่หานเป็นการระบายอารมณ์
“โอ๊ยมินซอกมันเจ็บ อย่าดึงหูกันสิ” สารวัตรหนุ่มร้องโอดโอยแต่ทว่าคุณหมอตัวเล็กกลับยิ่งเพิ่มแรงบิดมากขึ้นไปอีก
“เจ็บเหรอ สมควร! นายนี่ชอบหาเรื่องเดือดร้อนมาให้เรื่อยเลย!” คนแก้มกลมยังคงต่อว่าต่อขานคุณตำรวจตัวสูงไม่หยุดก่อนจะยอมปล่อยมืออกจากใบหูที่ขึ้นสีแดงเถือก ฝ่ายคนทำผิดก็ตัวหดเล็กลงเรื่อยๆจนเกือบจะเหลือแค่สองนิ้ว ชายหนุ่มเหลือบมองใบหน้าบึ้งของมินซอกก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิด
“ก็ฉันนึกว่าเป็นลูกหมาของพวกพ่อค้าจริงๆนี่ ไม่เห็นเค้าจับใส่กรงเหมือนตัวอื่นๆแต่ดันเอาใส่ลังแล้วไว้หน้ารถแทนอ่ะ” ลู่หานพูดอุบอิบ มินซอกได้ยินก็แหวเสียงแหลมทำเอาสิ่งมีชีวิตบริเวณใกล้เคียงสะดุ้งจนร่างเล็กหล่นปุลงจากลังนอนแหมะอยู่กลางพื้นห้องพร้อมกับส่งเสียงร้องเล็กแหลมออกมาเบาๆ
“หมาบ้านนายสิไอ้บ้า หน้าตาแบบนี้มันเป็นหมาที่ไหนเล่า!!!!”
งื๊ดๆ
“โอ๊ยไอ้หน้าขน แกเงียบเสียงไปเลยนะ!!!!”
งื๊ดดดๆๆ
“โอ๊ยยยยย!!!!” มินซอกอยากจะบ้า!
* M J P P *
กว่าทุกอย่างจะสงบก็เป็นเวลาดึกพอสมควร ลู่หานได้แต่ขอโทษขอโพยที่ทำให้มินซอกรู้สึกหงุดหงิดในวันเกิดซึ่งมินซอกก็ได้แต่บอกปัดไปว่าไม่เป็นไร จากโปรแกรมที่วางกันเอาไว้ว่าจะออกไปฉลองโดยการไปทานอาหารกันสองคนกลับต้องเปลี่ยนมาเป็นทำอาหารกินอย่างเงียบๆภายในบ้านหลังเล็กนี่แทนโดยที่อาหารทุกอย่างถูกทำขึ้นด้วยฝีมือของเจ้าของวันเกิด ส่วนคุณตำรวจหน้าเหี่ยวนั่นก็เอาแต่นั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาโดยมีลูกแพนด้าแดงที่เจ้าตัวตั้งชื่อว่า ‘ปุกปุย’ นอนกลิ้งบนตัก แหม ช่างเป็นวันเกิดที่น่าจดจำที่สุดในโลก
หลังจากอาหารมื้อเรียบง่ายผ่านไปทั้งสามชีวิตก็ออกมานั่งแหมะอยู่บนโซฟาพร้อมกับดูรายการโปรดของมินซอกซึ่งก็คือสารคดีสัตว์โลกอย่างเงียบๆ ลู่หานนั่งเกาพุงนุ่มๆให้น้องปุยโดยไม่พูดอะไรแต่สายตาก็เหลือบมองคนตัวเล็กเป็นระยะๆราวกับมีเรื่องคลางแคลงใจ ส่วนมินซอกก็เอาแต่นั่งกินองุ่นไปดูทีวีไปโดยไม่สนใจลู่หานเช่นกัน สุดท้ายด้วยความอึดอัดชายหนุ่มจึงถามขึ้นทำลายความเงียบ
“แล้วจะเอาไงกับปุกปุยดีอ่ะ เลี้ยงได้มั้ย” ชายหนุ่มเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็ก มินซอกหันหน้ามามองใบหน้าหวานก่อนจะยกมือเขกหัวลู่หานเต็มแรง
ป๊อก!
“โอ๊ย!!”
“เลี้ยงเหรอ จะเลี้ยงเหรอ คิดได้ไงฮะ” มินซอกถามเสียงเขียวพร้อมกับพ่นเม็ดองุ่นใส่หน้าลู่หานจนมันกระเด็นไปกระทบแก้มของชายหนุ่มก่อนจะตกแหมะลงไปบนหัวของแพนด้าที่นอนกัดองุ่นเล่นอยู่บนตักของคุณตำรวจตัวสูง ลู่หานยู่หน้ากับความพิเรนทร์ของมินซอกก่อนจะทำหน้าขึงขัง
“ฉันพูดจริงๆนะ เนี่ยมินซอกเห็นมั้ยมันน่ารักออก เลี้ยงปุกปุยกันเหอะ *^*” ลู่หานพูดพร้อมกับอุ้มแพนด้าน้อยขึ้นมากอดไว้แนบอกแล้วก็ไม่วายส่งสายตาออดอ้อนมาให้ มินซอกหรี่ตามองคนตรงหน้าก่อนจะหยิบองุ่นขึ้นมากินและพ่นเม็ดใส่ลู่หานอีกครั้งก่อนจะยืนคำขาด
“ไม่ พรุ่งนี้เราต้องเอามันไปส่งอุทยานแห่งชาติ แล้วเดี๋ยวเค้าก็จะจัดการต่อเอง” คุณหมอตัวเล็กพูดปิดท้ายพร้อมกับพ่นเม็ดองุ่นใส่หน้าเจ้าปุกปุยที่มองหน้าของมินซอกตาแป๋ว คุณหมอแก้มกลมยักคิ้วให้ตัวแพนด้าตรงหน้าก่อนจะหันไปสนใจหน้าจอทีวีต่อทิ้งให้ลู่หานนั่งทำหน้าบึ้งอย่างขัดใจ
ไม่เอาอ่ะ ลู่หานไม่ยอม ลู่หานจะเลี้ยงงงงง!!!
“มินซอกกกอ่า เปาจื่ออออ เลี้ยงนะ เลี้ยงเถอะ ดูมันทำหน้าสิ” ลู่หานเริ่มกระบวนการอ้อนเพื่อนด้วยการอุ้มแพนด้าแดงเข้าไปใกล้ใบหน้าของมินซอกพร้อมกับโยกตัวกลมป้อมไปมา มินซอกเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่สนใจทำเอาลู่หานฮึดฮัดด้วยความขัดใจ
“เปาจื่อจ๋าาาาาา”
“...”
“เปาจื่อ... มินซอกกกกอ่า”
“มินซอกเห็นมั้ย~ ปุกปุยตัวฟู ตัวฟูเหมือนมินซอกเลยนะ” ลู่หานพูดพร้อมกับหยิบตะกร้าองุ่นออกจากตักของมินซอกและวางลูกแพนด้าแดงลงไปแทนพร้อมกับยกมือขึ้นหยิกแก้มกลมของมินซอกอย่างรวดเร็วทำเอาคุณหมอตัวเล็กหันมาขู่ใส่ลู่หานฟ่อๆ
“น้องปุยน่ารัก มินซอกของลู่หานก็น่ารัก” ลู่หานพูดพร้อมกับจับใบหน้าเล็กแหลมให้เงยขึ้นสบตากับดวงตากลมของมินซอก มินซอกเห็นแล้วก็รีบเบือนหน้าหนีเพราะกลัวอดใจกับความน่ารักตรงหน้าไม่ไหวพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวเหยียด
“ปุกปุยน่ากอด...มินซอกก็น่ากอด”
“เฮ้ย!” คุณหมอตัวเล็กร้องเสียงหลงเมื่อลู่หานเคลื่อนกายเข้ามาใกล้พร้อมกับตวัดร่างเล็กของเขาเข้าไปในอ้อมกอดทั้งๆที่แพนด้าตัวฟูยังนั่งอยู่บนตักของมินซอกอยู่แท้ๆ
“ปุกปุยน่าเลี้ยง...” ลู่หานพูดขึ้นข้างหูด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทำเอามินซอกถึงกับหูอื้อตาลาย
“มินซอกก็น่าลวนลาม!!!...มาจูบหน่อย -3-” จบคำคุณตำรวจตัวสูงก็ไม่รอให้คุณหมอตัวเล็กอนุญาต ริมฝีปากบางเคลื่อนเข้าไปกดลงสูบความหอมหวานจากแก้มนิ่มของมินซอกอย่างรวดเร็วก่อนจะถอนใบหน้าออกพร้อมกับโยกร่างเล็กของมินซอกไปมาเบาๆ
“น่านะมินซอก เลี้ยงเถอะ” ลู่หานไม่ปล่อยเวลาให้มินซอกโวยวายเลยซักนิด ชายหนุ่มออดอ้อนมินซอกพร้อมกับจับร่างเล็กโยกไปมาอยู่อย่างนั้น คุณหมอตัวเล็กทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะยิ้มก็ไม่กล้าจะให้หน้าบูดก็ทำไมลง
มินซอกไม่เคยชนะเลยเวลาลู่หานอ้อน เขาแพ้ลูกอ้อนของไอ้ตำรวจหน้าเหี่ยวนี่ตลอด
“น้ามินซอกน้าาาาาา เลี้ยงปุกปุยเถอะน้าาาา เดี๋ยวฉันทำเรื่องจดทะเบียนเองน้า รับรองจะไม่ให้มินซอกต้องเหนื่อยเลยซักนิด!” ลู่หานหว่านล้อม มืออีกข้างก็ผละจากร่างเล็กของมินซอกไปหยิบองุ่นมาป้อนแพนด้าที่นอนมองพวกเขาสองคนบนตักมินซอกด้วยใบหน้าน่ารักน่าชัง
“มันเป็นสัตว์ป่านะลู่หาน อย่าพิเรนทร์ได้ไหม” มินซอกว่าเข้าให้ ลู่หานได้ยินก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะซุกคอลงไปที่ไหล่เล็กแล้วอ้อนเสียงหวาน
“ให้ฉันเลี้ยงปุกปุยเถอะนะมินซอก สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีเลย สัญญาจะให้มินซอกจูบทุกเช้าด้วย!”
“ไอ้บ้า! ใครจะไปอยากจูบนายกัน! เออๆอยากเลี้ยงก็เลี้ยง แต่ไปทำเรื่องจดทะเบียนเองนะฉันไม่เกี่ยว” มินซอกพูดอย่างจำยอมในที่สุด
“เย่! ครับผม” ลู่หานพูดพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างดีใจ มินซอกถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะก้มลงมองกลุ่มก้อนขนฟูบนตักแล้วก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ
ลู่หานจะรู้ไหมว่าลูกแพนด้าแดงนี่มันดื้อกว่าลูกหมาซะอีกนะ
TBC.
พี่ลู่โคตรตาถั่ว+ตาบอด+ตาฝาด+ตาพร่าเลย มองยังไงเป็นลูกหมี 555555 เรื่องนี้นางป่วงมากค่ะ ต้องรับความป่วงของพระเอกเราให้ได้คุณถึงจะอยู่รอดในฟิคเรื่องนี้ >.,<
อย่าลืม #มินจ๊อกปุกปุย ในทวิตเตอร์กันน้า XD
ความคิดเห็น