ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Spelling Love ❤ ขอโทษที รักครั้งนี้สะกดยังไง

    ลำดับตอนที่ #1 : Spelling Love :: บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 57


    Minor!







    บทนำ



     

    ครืด ครืด~

    เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขายาวสั่นขึ้นมาเป็นเสียงไลน์เข้า ฉันจัดการดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วเลื่อนมือกดเปิดอ่านขณะที่กำลังยกกระเป๋าเดินทางของตัวเองขึ้นหลังรถคันงามเพื่อเตรียมตัวเที่ยวให้เต็มที่ในช่วงปิดเทอมที่แสนจะน่าเบื่อ

    รับสายฉันสักทีเถอะชาจีน

    มันคือข้อความจากฟรอยด์ แฟนเก่าของฉันนี่เอง =_=;

    ฉันลอบถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดและกดปิดโทรศัพท์อย่างไม่คิดจะตอบกลับ ตอนนี้ฉันกำลังโกรธเขาอยู่และไม่อยากจะให้เขามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉัน นี่ก็เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาพยายามจะขอคืนดีกับฉันแต่กลับไม่มีคำขอโทษหลุดออกมาจากปากสวยๆนั่นเลยสักคำ ไม่สิ! ถึงจะมีคำขอโทษฉันก็ไม่หายโกรธง่ายๆหรอก สิ่งที่เขาทำกับฉันมันหนักหนาเกินกว่าจะเอ่ยคำว่า ขอโทษเยอะ!!

    ไปเที่ยวทะเลกับผู้หญิงคนอื่นแล้วโกหกฉัน คิดว่ามันน่าโกรธมั้ยล่ะ?  

    นี่เราจะไปจริงๆเหรอเนี่ยคุณแม่สุดสวยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงสุดๆ ฉันระบายยิ้มบางๆให้กับท่านแล้วโผเข้ากอดแม่อย่างเด็กอายุสามขวบ รอให้หายดีก่อนแล้วค่อยตามเขาไปไม่ดีกว่าเหรอลูก

    แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ไม่สบายแค่นิดเดียวกินยาเดี๋ยวก็หายแล้วล่ะ

    จะไม่ได้เจอหน้าลูกสาวตั้งเกือบเดือน แม่ไม่อยากให้ไปเลย

    ทีแม่ไปต่างประเทศตั้งเกือบปี ยังไม่เห็นพรรณนาอะไรแบบนี้เลย

    เอ๊ะ! -_-^” แม่ผละออกจากฉันพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะงับหัวลูกสาวคนนี้ซะให้ได้ อะไรกันล่ะ! ก็มันจริงนี่นา ปกติฉันห้ามไม่ให้แม่ไปเที่ยวต่างประเทศยังไงท่านก็ไม่เคยฟังฉันเลย แถมยังไม่ได้คิดถึงฉันเลยอีกต่างหาก ไปเที่ยวทีไรไม่เคยมีของฝากติดไม้ติดมือมาให้ลูกสาวคนนี้บ้าง แล้วทีนี้พอฉันจะไปทำประโยชน์ให้กับสังคมแค่สองอาทิตย์หน่อยๆ แม่กลับห้ามฉันซะอย่างนั้นล่ะ! =^=

    หนูไปแล้วนะคะ ไว้จะซื้อของฝากมาให้นะฉันยกมือไหว้แม่แล้วขึ้นรถไป ก่อนที่ลุงชวน คนขับรถประจำบ้านจะพารถเคลื่อนออกไปนอกเขตของบ้านฉันในที่สุด

    ฉันล้วงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ามาเล่นฆ่าเวลาขณะที่กำลังนั่งรถไปที่ที่นัดหมาย ไหนๆตอนนี้ก็ปิดเทอมแล้ว ฉันอยากจะหนีจากเรื่องน่าปวดหัวและพวกคนลวงโลกไปใช้ชีวิตที่ไหนสักแห่งคนเดียว และต้องเป็นที่ที่ไม่ทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตของฉันเสียเด็ดขาด และขณะที่ฉันกำลังหาสถานที่ที่เหมาะสม ฉันก็เจอเข้ากับโครงการหนึ่งในอินเตอร์เน็ตเข้าพอดี

    ค่ายครูอาสา

    มันเป็นค่ายที่จัดขึ้นทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งเมื่อคืนฉันลองนั่งเสิร์จข้อมูลของหมู่บ้านที่จะไปจัดค่ายครูอาสาเรียบร้อยแล้ว เห็นกูเกิลบอกว่าที่นั่นอากาศดี มีธรรมชาติที่น่าค้นหา เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นมันตรงกับสถานที่ที่ฉันค้นหาอยู่พอดีเลยล่ะ >O< อีกอย่างนะระยะทางระหว่างกรุงเทพไปถึงหมู่บ้านนั้นก็ไกลมากพอสมควรเลยด้วย เพราะงั้นฉันเลยมั่นใจมากๆว่าฟรอยด์ไม่มีทางตามมาหาฉันถึงที่นี่ เหมือนมาดักรออยู่หน้าบ้านฉันแทบทุกวันแน่ๆ!

    เอ่อคุณหนูครับ ให้ลุงไปเป็นเพื่อนมั้ย?” เสียงแหบทุ้มของลุงชวนทำเอาฉันสะดุ้งตัวขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ ท่าทางเอาจริงเอาจังของลุงแกทำเอาฉันอดขำไม่ได้

    กลับไปตำหมากกินที่บ้านเถอะค่ะลุงฉันพึมพำไม่ใส่ใจและเปิดประตูรถลง จัดการขนสัมภาระของตัวเองลงจากหลังรถให้หมด ก่อนจะพยายามไล่ลุงชวนที่คะยั้นคะยอจะไปกับฉันให้กลับบ้านไปก่อนที่ฉันจะบอกให้แม่ไล่ออก -_-

                    ขืนเอาลุงแกไปด้วยมีหวังได้วุ่นวายตายเลย -^-
     

    ฮ้า~ ในที่สุดฉันก็มาถึงสถานที่นัดหมายสักที เห็นเป็นค่ายธรรมดาๆแบบนี้แต่คนสมัครเยอะใช่เล่นเลยนะเนี่ย เท่าที่ดูจากสายตาส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉันทั้งนั้น มีก็แต่ป้าแก่ๆสี่ห้าคนที่ฉันคาดว่าจะเป็นสต๊าฟเท่านั้น ฉันจัดการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วและรีบยกสัมภาระของตัวเองขึ้นรถไป จัดการเลือกที่นั่งที่เหมาะสมที่สุดก่อนจะเอียงคอเตรียมหลับเพราะเมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย แถมไม่ค่อยสบายด้วยเพราะไปตากฝนมา

    ตรงนี้มีใครนั่งรึยัง?”

    (_ _) zZZ” เสียงใครวะ แง่มๆ

    ตุ้บ!

    เย้ย!! O_O

    เสียงเหมือนอะไรบางอย่างตกกระทบกับเบาะว่างข้างๆ ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที ให้ตายเถอะ! ทั้งที่กำลังจะหลับสนิทอยู่แล้วเชียว มันน่าหงุดหงิดมากนะเวลาที่กำลังจะหลับแต่กลับโดนอะไรบางอย่างรบกวนให้ตื่นก่อนเนี่ย -^- ฉันบ่นกับตัวเองหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วชะโงกไปมองหน้าผู้ชายที่กำลังแทรกตัวผ่านช่องเล็กๆเข้ามานั่งตรงที่ว่างข้างๆฉัน

    เหอะ! ช่างเถอะ

    ตาทั้งสองค่อยๆปรือลงเหมือนมีอะไรหน่วงๆกดทับ จากนั้นหัวฉันก็หนักอึ้งจนกระแทกเข้ากับเบาะนุ่มๆตรงหน้า ก่อนที่ภาพทุกอย่างจะค่อยๆมืดสนิทลงทีละนิด

    ยัยเพิ้งนี่มันไปอดหลับอดนอนมาจากไหนกันวะถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนกับการบ่นกับตัวเอง แต่คำพูดของเขาก็ทำให้ความงัวเงียที่ฉันมีอยู่ก่อนหน้านี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง

    ฉันลืมตาขึ้นมามองหน้าไอ้หมอนั่นอย่างเอาเรื่อง

    อืม อันที่จริงหน้าตาเขาก็ดูดีใช้ได้เลยนะ หล่อแบบแบดบอยดีเหมือนกันแฮะ ตาเฉี่ยวเหมือนแมวไม่มีผิด เอ๊ะ! ถ้าตาฉันไม่ฝาดไป เหมือนว่าที่เปลือกตาของเขาจะถูกกรีดด้วยอายไลน์เนอร์ด้วยนี่นา มิน่าล่ะตาถึงได้เฉี่ยวผิดมนุษย์มนา แล้วไอ้ดั้งโด่งๆกับหน้าเรียวๆที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้คงจะไม่ได้ใช้เทคนิคการแต่งหน้าอะไรหรอกใช่มั้ย เพราะถ้าใช่ฉันจะได้ยกนิ้วโป้งให้เขาสักครั้งกับฝีมือขั้นสุดยอดแห่งการแต่งหน้า >O<

    แต่ฉันว่าหน้าของเขาคงเรียวแบบนี้ตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ แล้วดั้งก็น่าจะโด่งมากๆตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คงมีแค่ดวงตาเท่านั้นแหละมั้งที่กรีดเสริมเอาให้มันดูเฉี่ยวๆเข้าไว้

    ผู้ชายสมัยนี้เขาแต่งหน้าเป็นกิจวัตรแล้วใช่มั้ย?

    กะจะสวยแข่งกับผู้หญิงเรอะ!! -_-^

    ยังไงก็เถอะ กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบันก่อนดีกว่า เมื่อกี้หมอนั่นเรียกฉันว่ายัยเพิ้งงั้นเหรอ? =O=;; ถึงฉันจะยอมรับก็เถอะว่าหน้าตาฉันในตอนนี้มันน่าทุเรศสิ้นดี แต่ไอ้การที่มาพูดอะไรตรงๆต่อหน้าคนไม่รู้จักแบบนี้มันเป็นการเสียมารยาทไม่ใช่หรือไง ให้ตายเถอะ! ช่างเป็นผู้ชายที่ปากร้ายเหมาะกับหน้าตาซะจริง -^-

    เมื่อกี้ฉันได้ยินนะคะคุณ พูดอะไรรู้จักมารยาทซะบ้างสิ

    ฉันบ่นของฉันคนเดียว อยากสะเออะได้ยินทำไมกันล่ะ -_-”

    เอ๊ะ! นี่อยากจะทะเลาะกับฉันนักใช่มั้ย นี่ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่นะยะ อย่าเชียวนะ….อย่าให้ฉันได้เหวี่ยง!”

    เหอะ ไม่มีใครเขาอยากจะไปทะเลาะกับเธอหรอก ประสาทเขาพูดพลางยักไหล่ขึ้นแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก ก่อนจะหยิบเอาหูฟังมาเสียบที่รูหูทั้งสองข้างของตัวเอง

    หนอย! อีตานี่น่าหมั่นไส้ชะมัด

    ฉันกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิดและไม่รู้ว่าจะด่าไอ้บ้านี่ยังไงดี พลันสายตาเหลือบไปเห็นเขากำลังถอดรองเท้าผ้าใบของตัวเองออกมาวางไว้ข้างๆเท้าของตัวเอง ฉันจึงจัดการเตะรองเท้าคู่นั้นให้กระเด็นออกไปตรงทางเดิน เล่นเอาหมอนั่นถึงกับเบิกตาเล็กๆนั่นให้โตขึ้นเป็นสิบเท่า

    อ้วก!”

    เพราะรองเท้าของเขาโดนคุณป้าคนหนึ่งอ้วกใส่พอดียังไงล่ะ! โฮะๆๆ ช่างเป็นลายศิลปะที่สวยงามและอ่อนช้อยน่าหลงใหลอะไรอย่างนี้นะ >O< อยากจะซื้อเอาไปทิ้งที่บ้านซะจริง  

    ยัยบ้าเอ๊ย! ไม่รู้หรือไงว่ารองเท้านั่นแพงมาก

    ช่วยไม่ได้ นายอยากจะมามีปัญหากับฉันก่อนนี่ฉันยักไหล่ขึ้นแล้วหยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋าแล้วเสียบเข้ารูหูทั้งสองข้างเลียนแบบท่าทางของเขาเมื่อก่อนหน้านี้บ้าง

    ยัย…” หมอนั่นชี้หน้าตั้งท่าจะด่าฉัน แต่ว่าคุณป้าที่อ้วกใส่รองเท้าของเขาดันเข้ามาขอโทษขอโพยเขาซะก่อน ก็เลยทำให้ไอ้หมอนั่นไม่มีโอกาสหาเรื่องฉันอีก

    ดูเหมือนว่าการทะเลาะกันครั้งนี้ของฉันกับไอ้หมอนั่นมันคงจะเสียงดังมากจนไปถึงหูป้าสต๊าฟที่นั่งอยู่ตรงด้านหน้า พอจัดการเรื่องรองเท้าของไอ้หมอนั่นเสร็จเรียบร้อยแล้วป้าเขาก็ให้อีตานั่นย้ายไปนั่งที่อื่นแทน เพื่อจะได้ไม่ทะเลาะกับฉันให้รบกวนการพักผ่อนของคนอื่นอีก

    ก็ดีฉันจะได้สบายหู สบายใจสักที

    นับตั้งแต่นี้ไป หวังว่าฉันจะไม่ได้พาลพบกับไอ้หมอนี่อีกเป็นครั้งที่สองนะ!













     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    โอ้เย้! ในที่สุดก็อัพบทนำสักที เปิดเรื่องมาแม่ชาจีนของเราก็แสบเลยเฮ้ย
    แต่ว่าพระเอกของเราก็ไม่น้อยหน้าหรอกนะ แค่ตอนนี้กำลังซึมซับความแค้นอยู่ 555
    เรื่องราวตอนหน้าจะเป็นยังไง ติดตามต่อไปด้วยนะคะ

    1 คอมเม้น = 1 กำลังใจ 



     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×