ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Soo New ,,, Duet Song [Yaoi] The Split Band

    ลำดับตอนที่ #3 : 2nd Split : Ice-cream

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 55


     2nd Split : Ice-cream

    ผู้ชนะการประกวดประเภท Duet Team ปี พ.ศ.2554 ได้แก่.... โรงเรียนเครือข่ายสารสาสน์วิทยาคร้าบ

                พิธีกรชายเจ้าของเวทีประกาศลากเสียงยาวเพื่อรอจังหวะ ที่หนึ่งหญิงหนึ่งชาย นักเรียนที่ชนะประกวด เสียงปรบมือดังกระหน่ำไปทั่วบริเวณหอประชุมโรงเรียน ด้วยโรงเรียนที่ประกาศไปคือโรงเรียนของตนเอง นักเรียนสองคนค่อยๆ เดินขึ้นไปรับมาด้วยรอยยิ้มเปื้อนความสุข

                นิว เข้าไปรับสิหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่มือถือกีตาร์อยู่ข้างหนึ่งอย่างทะมัดทะแมง ซึ่งก็แสดงว่าเธอเล่นกีตาร์นั่นเอง สะกิดให้ชายหนุ่มคนรักเข้าไปรับถ้วยกับท่านประธานงานที่กำลังเดินขึ้นมาบนเวทีอีกฝั่งหนึ่ง

                อื้ม แพรก็มาด้วยกันสิ เร็วคนผิวสีพูดหน้าเปื้อนรอยยิ้มหวาน

                ‘จ้าๆแพรพรรษ ว่าแล้วเดินตามร่างที่สูงกว่าตนไปโดยไม่ลืมเอากีตาร์คู่ใจติดมือไปด้วย

                ทั้งสองขึ้นรับรางวัลด้วยหน้าตาสดใส หลังจากที่ซุ่มฝึกซ้อมมานานหลายเดือน ความเหนื่อยล้าไม่ทำให้ทั้งสองทะเลาะกัน กลับกันแต่เวลาที่อยู่ด้วยกันทำให้ทั้งสอง สนิทสนมและรู้ใจกันมากขึ้น เสียอย่างที่ฝ่ายหญิงค่อนข้างอ่อนแอ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความรักของทั้งสอง

                ยินดีด้วยนะครับ แหม เก่งจริงๆเลย และประเภทต่อไปนะครับ.....

                หลังจากที่รับรางวัลมาแล้ว ทั้งสองก็เดินจับมือกันลงมาที่หลังเวที ที่มีเพื่อนๆและพี่ๆ ที่ชมรมรอคอยแสดงความดีใจด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

                นิว แพร! เก่งมากประธานชมรมเอ่ยชม ขณะน้องๆทั้งสอง เพิ่งจะคว้ารางวัลโปรดของป้าตนเองได้

                งั้นเดี๋ยวพี่เลี้ยง เอาป่ะๆคนพูดพูดต่อโดยไม่สังเกตเห็นหน้าตาที่เคยยิ้มบัดนี้ยิ้มไม่ออกของแพรพรรษ มีแต่คนรักเท่านั้นที่มองเห็นและถามไถ่ แต่กลับไม่ได้คำตอบจากรำฝีปากบาง

                งั้น.. พี่พาพวกคนอื่นไปเลยก็ได้ เหมือนแพรจะไม่สบายน่ะ นิวพูดและเดินตามคนรักที่เพิ่งเดินล่ำลาประธานและพี่คนอื่นๆไป

                เออ ค่อยตามมาละกันมึงเพื่อนคนสนิทนามว่า “เคน” เตือนเพื่อนรัก

                คนผิวสีเดินตามคนรักออกมาจนถึงลานจอดรถ ทำไมเขาจะไม่รู้สึกถึงอาการของคนรักที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่ลงมาจากเวที ความสนิทสนมของทั้งสองตั้งแต่รู้จักทำให้เข้ากันโดยง่ายและตกลงคบกันในที่สุด เป็นชีวิตรักที่ราบเรียบ แต่ก็มีความสุขมาโดยตลอด แม้ว่าจะมีคนมาจีบฝ่ายหญิงแต่เขารู้ดีว่าแพรพรรษไม่มีทางเล่นด้วย  แล้วอาการที่ไม่สนใจเขามันหมายความว่าอย่างไร

                ‘แพร เป็นอะไรหรือเปล่า ไม่สบายมากมั้ยชายหนุ่มคนรักในชุดนักเรียนสอดมือคล้องแขนแพรพรรษเพื่อประคอง แต่เธอก็ไม่มีอาการ หรือท่าทีว่าจะเจ็บป่วยเลย

                นิว...เราเลิกกันเถอะ

               

     

    ขณะนี้เวลาสิบแปดนาฬิกาสามสิบนาที”

                เสียงเครื่องจักรอันเก่าแก่ของคุณยายนามว่านาฬิกาเอ่ยบอกเวลาเสียงแจ๋ว ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ที่เลวร้าย

                เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ไม่สามารถทำให้ร่างกายผมหยุดผลิตเหงื่อได้ ฝันแบบนี้อีกแล้ว

                “แฮ่กๆ...แฮ่ก” หมหอบหายใจเป็นระยะ

                “นิว! นิวเป็นอะไรหรือเปล่า” คนขับรถอยู่เลี้ยวรถเข้าข้างทางและปลดเบลท์ออกเพื่อที่จะได้มองหน้าผมชัดเจน

                “มะ..ไม่มีอะไร มึงขับรถต่อดิวะ!” เหงื่อที่ผุดออกมาจากใบหน้าและลำคอผมถูกผ้าเช็ดหน้าของผมเช็ด เหงื่อเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ผมพยายามเอาหน้าใส่แอร์อีกครั้ง และครั้งนี้ผมตั้งปณิธานว่า จะไม่หลับอีกจนกว่าจะถึงบ้าน

                “หน้าซีดเชียว เป็นอะไรมากมั้ย หาหมอป่ะ”

                “บอกว่าไม่ก็ไม่ดิ เร็วๆรีบๆขับ หิวข้าว ร้อน!

    18:32

                ถ้าหากเป็นวันปกติเวลานี้ผมต้องได้กลับไปกอดพ่อแม่ ปังปอนด์(มะหมาสี่ขาค่ะ) ส่วนพี่นัท ผมไม่กล้ากอดหรอกครับ กลัว..ทั้งๆที่ตอนเด็กๆแม่บอกว่าพี่เค้ากอดผมตลอด แต่โตแล้วมันถีบผมแม่จะรู้บ้างไหม

                “อ้อ สงสัยอากาศร้อน ถ้างั้น ไอศกรีมดีมั้ยครับ J” สุภาพไปไหนวะมึง

    คนหน้าตี๋เอ่ยชวนผมแต่ไม่มีรีรอคำตอบ มันเลี้ยวเข้าฮาเกนดาสซ์ เรียบร้อยแล้ว  แต่ก็ดีอยากกินมาตั้งแต่ตอนเที่ยง รอนิวก่อนนะพ่อจ๋าแม่จ๋า เชี่ยเคนทำเป็นสัญญาว่าจะมากินเป็นเพื่อน แต่มันก็มีแข่งพรุ่งนี้เหมือนกันผมก็เข้าใจครับ แต่ไอ้เพื่อนใหม่ของผมคนนี้มันยังไงกันแน่ครับ ปากก็บอกว่าห่วงซ้อมตัวก็พามากินติม โห หรูว่ะแค่ทางเข้าก็ขนลุกแล้ว ร้านถูกตกแต่งในสไตล์ที่ผมไม่รู้จัก แต่มันสวยจริงๆครับ ไฮโซโคตรๆ  

    “เฮ้ย นิว! จะไปไหนครับ” มันฉุดผมไว้ขณะที่ผมมองดูสภาพร้านแล้วแทบจะโกยในทันใด

    “กูไม่มีตังค์ มึงพากูมาร้านอะไรเนี่ย” ผมเขย่งไปกระซิบมัน จริงๆมันก็สูงกว่าผมไม่เท่าไหร่หรอก แต่เพราะว่ามันหิ้วปีกผมอยู่ เลยขยับร่างกายยาก มึงเป็นอะไรกับปีกขวากูมากป่ะเนี่ย!

    “อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆ” อยู่ๆไอ้ตี๋ก็หัวเราะลั่นร้าน ทำให้คนที่นั่งทานอยู่ซึ่งส่วนมากเป็นคู่รักมองมาทางผมสองคน และต่างก็หัเราะคิกคักกับภาพที่เห็น อะไรวะ!

    “เฮ้ย! มึงปล่อยกู คนเค้าเข้าใจผิดหมดแล้ว แล้วก็เงียบด้วย” ผมพูดและแกะมือออก เดินออกไปนอกร้านด้วยความอายนิดๆ หน้าผมมันร้อนขึ้นจนรู้สึกได้

    “นี่ ผมเป็นคนพานิวมาผมก็ต้องเลี้ยงสิ ป่ะเข้าไปกันเถอะJ” คนตามออกมา เรียกผมกลับ

    “ฟรี?”

    “อื้มJ

    “ต้องงี้ดิวะ เพื่อนกู” ผมเออออ ตบบ่าและเดินนำเข้าไปพยายามหลีกเลี่ยงสายตาพลังมวลชนทั้งหลาย ถ้ามองไปที่ไอ้โซ่คนเดียวผมจะไม่สงสัยอะไรหรอก เพราะมันหล่อ แต่นี่มองมาทางผมสองคนซะงั้น ไอ้นี่ก็เดินตามผมต้อยๆ มุมนี้ล่ะแหล่มสุด มีสาวสวยสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามด้วย

    ***

    โต๊ะที่ผมนั่งเป็นโต๊ะใหญ่คือ สามารถนั่งได้ข้างละสามถึงสี่คนเชียวล่ะ เบาะก็นุ้มนุ่ม ผมกับไอ้ตี๋นั่งอยู่คนละข้าง โดยที่ผมหันหลังให้โต๊ะตรงข้าม มันรู้แน่เลยว่ามีสาวเลยแย่งผมดู แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันหรอก พูดกับมันไปรังแต่จะทำให้เรื่องยืดยาวขึ้น พูดกับมันมีเรื่องเกือบตลอด ขนาดรู้จักกันแบบจริงๆวันแรกนะเนี่ย

    “เชอร์เบทมะนาวสองลูกครับ” มันเป็นคนสั่งก่อน ทำไมสั่งบ้านๆจังวะ เมนูเค้าก็มีแต่เอาเถอะ ผมก็ชอบสั่งแบบมันนี่แหละ มีหน้าแล้วมันรก กินยาก

    “วานิลลาสี่ลูก ฟองดูไอศกรีม เพิ่มวีปปิ้งครีมด้วยนะครับ ทอปปิ้งอีกสอง อ้อ น้ำมะนาวปั่นด้วยอีกหนึ่งครับ แค่นี้แหละ”

    “...” คนหน้าตี๋ส่งสายตาปริบๆ มาทางผม

    “อะไรมึง มองทำไม”

    “นิวกะจะกินเผื่อคนที่ชมรมเหรอครับ สั่งเยอะจัง”

    “ทำไม กูสั่งเยอะแล้วจะไม่เลี้ยงกู?” ผมทำปากเชิดขึ้นแบบพวกงอนนิดๆ ผมทำไปได้ไงวะ?

    “ฮ่าๆๆ ใครว่าล่ะ เท่าไหร่ก็เลี้ยงได้ เห็นบ่นว่าหิวเดี๋ยวจะไม่เหลือท้องไปทานบ้านนะครับ”

    “มึงแหละกินน้อยเอง คนอื่นเค้า...” ก่อนที่จะจบประโยคก็มีเสียงใสเข้ามาขัด

    “ขอโทษนะคะ ขอ..ขอถ่ายรูปได้มั้ยคะ” พี่สาวคนสวยโต๊ะตรงข้ามนั่นเอง มากันทั้งคู่เลย

    “ได้ครับๆ” ผมเขยิบตัวออกยืนขึ้นเพราะรู้อยู่แล้วว่าคนที่พี่สาวโต๊ะตรงข้ามต้องการถ่ายรูปด้วยนั้นคือไอ้โซ่ โถ่ไอ้ฮอต แต่ความคิดของผมก็หยุดอยู่ได้แค่นั้นเพราะ...

    “ไม่! ไม่ใช่ค่ะ พี่หมายถึง..เราสองคนเลย >///<” พี่อีกคนนึงที่ไม่ได้ถือมือถือพูดพลางเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างถูกันไปมา เอ๊ะ ท่านี้มันไม่เหมาะกับผมกับมันเลยนะครับ

    ขณะที่ผมกำลังงงอยู่นั้นก็มีเสียงลอยมาแต่ไกล ไอศกรีมได้แล้วค่า และแล้วไอศกรีมที่ผมและมันสั่งก็มาถึงโต๊ะ โดยพี่สาวทั้งสองหลีกทางให้

    “หา ผมนะเหรอครับ เอ่อ..ก็ ก็.. เฮ้ย!” ผมพูดชี้หน้าตัวเองงงๆ แต่ยังไม่ทันหายงง ก็มีมือมาคว้าเองผมและโน้มให้ไปนั่งข้างตัว ไอ้โซ่

    ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็เซล้มลงไปอยู่กับอกมันแบบไม่ได้ตั้งใจ กลิ่นโคโลญจ์กลิ่นเดิมที่เคยได้ดอมดมครั้งแรก ครั้งที่สองก็ลอยมาเตะจมูก เสียงชัตเตอร์ออกมาจากโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ผมไม่สังเกตว่ารุ่นอะไร ใครจะไปสนล่ะว่ารุ่นอะไร ตอนนี้ผมโดนแอบถ่ายครับ คิดได้ดังนั้นผมจึงเด้งตัวขึ้นมา แต่มือปลาหมึกของมันยังไม่ได้ปล่อยออกจากเอวผมเลย

    “เอามือมึงออกได้แล้ว ทำเหี้ยอะไรของมึงฮะ” ผมเอนหน้าไปกระซิบมัน แต่เสียงชัตเตอร์ก็เหมือนผีจากเรื่องชัตเตอร์จริงๆเลย ตามหลอกหลอนผมอยู่ได้

    “แก น่ารักอ่ะ กรี๊ด...ด...ด...” ถึงเสียงนั้นจะตั้งใจทำให้มันเบาแต่ผมก็ได้ยินชัดเจน ผมหันไปมองเจอพี่สาวคนหนึ่งกำลังระรัวชัตเตอร์ตาโต โดยมีเพื่อนสาวเกาแขนหน้าแดง ดิ้นๆ อยู่ข้างๆ

    ท่ากระซิบของผมทำพิษ! พี่เค้าต้องติดว่าผมกับมันเป็นอะไรกันแน่เลย สายตาแบบนี้

    “พอหรือยังครับ J” คนที่กอดเอวผมอยู่ยิ้มแป้นถามอีกสองสาวนิรนาม

    “ขอ ขออีกภาพนะคะ น้องคะ น้องที่ น่ารักๆอ่ะค่ะ.. หันหน้าให้กล้องหน่อยสิคะ >///<

    “เค้า บอกมึงป่ะโซ่”

    “ผมว่าไม่นะ” คำตอบมันทำให้ผมหันไปที่หญิงสาวทั้งสองพลางชี้หน้าตัวเอง

    ผม-น่า-รัก! คุณพระช่วย พูดอะไรครับพี่สุดสวย เป็นเรื่องโกหกที่ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยได้ยิน ผมก็เคยเห็นพวกผู้ชายน่ารักๆเยอะอยู่นะครับ แต่.. ไม่คิดอิจฉาแต่อย่างใด ผมอุตส่าห์มั่นใจกับสีผิวที่จะทำให้ผมดูแมน แต่...ไหงเป็นเงี้ย

    พี่สาวอีกคนที่ไม่ได้ถือกล้องพยักหน้าหงึกๆ ไฟสีเหลืองสลัวทำให้ดูได้ง่ายว่าหน้าพี่ทั้งสองแดงก่ำ พี่เค้าเป็นไข้รึเปล่าวะ แล้วก็ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีใครขอถ่ายรูปเลยนอกจากเพื่อนสนิทตัวเอง ฮ่าๆๆ

    จากนั้นพี่สาวทั้งสองก็เดินจากไป โดยทิ้งประโยคที่คุยกันเองทำให้ผมคิดหนักทวิตเตอร์นะมึงห้ามลืม กูชอบคู่นี้

    แต่แล้ว มือปลาหมึกยังไม่ได้ออกไปจากเอวผมอยู่ดีครับ!

    “เฮ้ย มืออ่ะ! ออกได้แล้ว กูจะแดก ไอติมแม่งละลายหมดแล้วมั้งเนี่ย” เอวผมเป็นอิสระเสียที

    ผมเดินอ้อมกลับไปนั่งที่เดิมและไม่ลืมเอาไอศกรีมที่ผมสั่งมาวางไว้ที่หน้าตัวเอง เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ผมสั่งขนาดนี้แล้วมันยังเลี้ยงผมอีก สงสารว่ะ แต่มันไม่ใช่ความผิดผมสักหน่อย อยากอวดรวยเองนี่ แล้วทำไมเรื่องแค่นี้ชายกลางจะตอบรับไม่ได้

    “หืม.. นิวดูขาวขึ้นนะครับ อยู่กับไฟสีเหลืองแบบนี้”

    “เหรอ” ผมไม่สนใจคำท้วงและตั้งหน้าตั้งตากินอย่างไม่คิดชีวิต อร่อยว่ะ เคยกินแต่ร้านหน้าโรงเรียนในโรงเรียนแล้วก็ตามห้าง ร้านแบบนี้ก็อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย แต่ดูท่าจะแพง ไอศกรีมวานิลลาก้อนใหญ่เชียว ตั้งสี่ก้อนแน่ะ

    หลังจากกินไอศกรีม ทอปปิ้งและฟองดูหมดไปแล้ว ความรู้สึกแน่นๆที่ท้องก็เกิดขึ้น แต่ผมชินแล้ว มันไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวมันก็ย่อย ผมพักเบรกและเงยหน้าขึ้นมาบ้าง ไอ้โซ่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่โดยที่ไอติมมันถูกกินไปแค่ครึ่งเดียว

    “ไม่กินอีกหรือไง แค่นี้ทำเป็นอิ่ม” ผมพูดแล้วตักวีปปิ้งครีมเข้าปาก

    “ผมไม่ทานเยอะ รอหนักที่บ้านนิวเลยดีกว่า”

    “เฮ้ย! กูลืมโทรบอกแม่ ขอยืมโทรศัพท์หน่อยสิ ลืมไว้ในกระเป๋าบนรถ” ผมวางช้อนเพราะนึกขึ้นได้ ตายแน่ๆ ลืมโทรบอกแม่ ป่านนี้ได้ไปตามที่โรงเรียนไม่ก็บ้านไอ้อ้วนเคนแน่เลย

    “ไม่! เอ่อ..ไม่ได้ แบตฯหมดน่ะ”คนขาวปฏิเสธและเก็บโทรศัพท์ IPhone 4s รุ่นเดียวกับผม แต่เป็นสีดำเข้ากระเป๋า

    “แบตฯหมดเชี่ยไร กูเห็นมึงกดอยู่เอาม๊า.. แค่นี้หวงเหรอวะ ไหนว่าเพื่อนกัน”

    “เปล่า แบตฯหมดจริงๆ อ่ะๆ ไปเอาของนิวแล้วกัน ขอโทษด้วยครับ” มันว่าแล้ววางกุญแจรถไว้บนโต๊ะ

    ขี้เกียจเดินก็ขี้เกียจแต่ก็เป็นห่วงแม่กลัวแม่จะเป็นห่วงมากกว่า เอาวะไม่กี่เมตรหรอก ไอ้เพื่อนใหม่จำไว้เลยมึง แค่นี้ให้ยืมก็ไม่ได้ เอาแอพฯโป๊ไว้หน้าแรกรึไงมึง ผมเอื้อมมือไปหยิบเอากุญแจรถมันมาแล้วเดินออกไป เพื่อที่จะเอามือถือในราชรถส่วนตัวของมัน

    “จำไว้เลยมึง ไอ้โซ่” ผมแขวะมันอีกสักครั้งก่อนลุกไป

    ***

    ผมเดินไปโดยไม่สนใจอะไรเพราะรีบ แต่ก็ต้องสะดุดสายตากับพี่สองคนที่มองมาผมแบบตาไม่กระพริบและมองกลับไปที่โต๊ะแล้วหันหน้าซุบซิบกันโดยที่ผมไม่รู้ว่าซุบซิบอะไร ช่างเหอะ แต่คงไม่คิดว่าผมกับไอ้โซ่เป็นคู่ขากันหรอกนะ

                อากาศภายนอกร้านนี้ค่อนข้างเย็นสบายครับ โรแมนติกสุดๆ มองไปรอบๆเป็นที่ว่างเปล่าทำให้ร้านดูเด่นขึ้นมาในสายตาผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา ผมเดินไปที่ลานจอดรถที่ทางร้านจัดไว้ให้และหารถสีดำที่กลมกลืนกับสีท้องฟ้าตอนนี้

                ผมคว้าเอาโทรศัพท์ออกมาคุยข้างนอกเพราะไม่อยากจะนั่งคุยในรถที่ไม่มีแอร์สักเท่าไหร่นัก อากาศข้างนอกก็เย็นสบายด้วย จะว่าไปร้านนี้ก็ผ่านบ่อยเหมือนกันนะเนี่ย เพราะอยู่ใกล้บ้านแล้วก็เป็นทางผ่านโรงเรียนด้วย แต่ก็ไม่มีโอกาสเข้ามาลองสัก ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก แถมฟรีอีกต่างหาก แจ๋ว 

    ’21 Missed Call

    แม่จ๋า

    “เอาแล้วไงนิวเอ๊ย!” ผมรีบกด Call กลับทันที

    ครับแม่ เอ่อ วันนี้

    ทำไม-วันนี้-กลับค่ำ!ครับ แล้วไม่โทรบอกแม่ด้วย อุ้ย เสียงคุณแม่ดังเชียว ท่านคงจะเป็นห่วงมาก นิวขอโทษ

    แม่จ๋า นิวลืมโทรศัพท์ไว้บนรถอ่า ตอนนี้อยู่ร้านไอติม แม่จ๋ากินไรยังครับ

    ยัง รอกินพร้อมเรานั่นแหละ เร็วๆเข้ารีบๆกลับละแล้วรถใครหืม?แม่ถามเพราะรถปกติที่ผมกลับเป็นรถไอ้เคน ซึ่งก็เป็นมอเตอร์ไซค์

    อ๋อ รถเพื่อนใหม่น่ะครับ วันนี้มันจะไปค้างบ้านด้วยแม่จ๋าเตรียมที่นอนให้มันด้วยนะครับ แม่ทานก่อนก็ได้น้า ไม่ตองรอน้องนิวหรอกครับ

    ไม่เอาหรอก พ่อก็รออยู่พี่ก็รออยู่ รีบๆกลับนะครับลูกแม่ผมรู้สึกได้ถึงรอยยิ้มแม่ตอนพูด ฮึ่ย แม่ใครเนี่ย น่ารักจริงเชียว

    ครับ น้องนิวจะรีบกลับ รักแม่จ๋านะครับ จุ๊บๆ ฝากจุ๊บพ่อจ๋าด้วย

    จ้า แม่ก็รักลูก พ่อจ๋าฝากส่งจุ๊บด้วย จุ๊บๆครัความรู้สึกอบอุ่นแล่นผ่านทั่วร่างกาย ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสวรรค์ขงคุณแม่ที่รัก

    “น้องนิว...หึหึหึ”

    ไอ้โซ่! เฮ้ยมันมาตอนไหน แล้วที่สำคัญ มันได้ยินผมคุยกับแม่ด้วย ตายล่ะ มันจะล้อผมมั้ยเนี่ย ผมพยายามหาที่เงียบๆคุยโทรศัพท์ทุกครั้งที่ปลายสายเป็นคนในครอบครัว เพราะต้องใช้คำแบบ เอ่อ แบบ...นั้น ทั้งที่โรงเรียนและ สถานที่ต่างๆ

    เครื่องยนต์ถูกสตาร์ทและเคลื่อนตัวอย่างเบาออกจากร้านที่ผมเพิ่งฟาดเรียบไป เหลือวิปปิ้งครีมอีกเสี้ยวนึง ความจริงถ้าจะกินก็ไหวนะ แต่เก็บท้องไว้กินพร้อมแม่จ๋าที่รักของผมดีกว่า

    “นี่! มึงไม่ได้ยินอะไรใช่มั้ย ที่ลานจอดรถน่ะ”

    “อ๋อ ไม่ได้ยินอะไรหรอกครับ แล้วบ้านน้องนิว...เอ๊ย! นิวไปทางไหนล่ะครับ”

    “เชี่ยโซ่! มึงได้ยินอ่ะ อย่าเอาไปบอกใครนะๆๆ” ผมเขย่าแขนมันเบาๆ ขณะที่รถเคลื่อนตัวออกไปยังถนนสายหลัก

    “ทำไมล่ะครับ ผมว่า..น่ารักดีออก แบบนี้ต่างหากที่เหมาะกับหน้านิว J” รอยยิ้มพิฆาตมาร ถูกส่งมาอีกรอบ เสียใจกูไม่ใช่ผู้หญิง

    “โซ่ ถ้ามึงบอกนะ กูจะ...กูจะ”

    “จะ?”

    “จะเลี้ยวพวงมาลัย ตายแม่งตอนนี้เลย” มือผมเคลื่อนไปค้างที่บนพวงมาลัยรถยนต์แต่ไม่ได้สัมผัสแต่อย่างใด ขู่ไปอย่างนั้นแหละ ใครมันจะไปกล้า

    “เฮ้ย ขนาดนั้นเลย เอาล่ะๆ ไม่บอกก็ได้ แต่ผม...มีข้อแม้นะ”

    “ข้อแม้ ข้อแม้อะไรอีก? ที่กูช่วยมึงฝ่าแก๊งค์ตอนออกนอกโรงเรียนยังไม่ได้ทวงบุญคุณเลยนะ”

    “แล้วไอติมที่อยู่ในท้องนิวตอนนี้ล่ะครับ หึๆๆ” ผมลูบท้องตัวเองเบาๆ เออจริงว่ะ มันคงจะแพงน่าดู แต่ก็คงไม่เกินสามร้อยหรอก

    “เท่าไหร่เดี๋ยวกูจ่ายตอนนี้เลยอ่ะ”

    “สองพันสี่ร้อยสามสิบเจ็บบาทไม่มีสตางค์ถ้วนครับ” ตาตี่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้

    “หา สองพัน! ไอติมเหี้ยอะไรเนี่ย” คิดแล้วไอติมที่กินไปเหมือนเกิดอยากจะออกมาชมโลกอีกครั้ง

    ผมจำยอมต้องเงียบรอฟังข้อเสนอมัน ไอติมอะไรวะพาชีวิตไปหมด เฮ้อ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่สองร้อยเนี่ย ค่ารถอีกหนึ่งวัน

    “ข้อแม้มีอยู่ว่า....”

    “รีบๆ พูดมาสิ!

    “ไม่เอาดีกว่า เก็บข้อแม้ไว้ใช้ตอนอื่นดีกว่า เปลี่ยนเป็น.. ขออะไรหนึ่งอย่างก็ได้แล้วกัน ตกลงนะ”

    “เออๆ... เฮ้ย! เลี้ยวซ้ายสิ ตรงไปโรงบาลหรือไง”

    “ครับๆJ น้องนิว...”

     

    เห็นว่าสนิทแล้วออกลายซ่าเลยนะมึง เดี๋ยว รอทีกูบ้างเถอะ...

     

    ฝอยกับนักเขียน J

    มาแล้วอีกตอนหนึ่ง ตอนนี้เริ่มเผยออกมาแล้วว่าชายกลางมีอดีตอะไร หุหุ น่าติดตามใช่มั้ยล่ะ เดี๋ยวนี้นักเขียนมี Twitter เป็นของตนเองแล้วน้า ติดตามก็ Follow มาได้ @Sphinxztk ทวงได้ แต่อย่าบ่อยนา เดี๋ยวอารมณ์ระเบิด ฮ่าๆ ล้อเล่น คุยเล่นได้จ้า ติชมตอนนี้ได้นะ

    ^_______^ 3rd  Split is Coming Soon…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×