ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All One-Shot [SNSD yuri]

    ลำดับตอนที่ #3 : My love rhythm (Chp2)

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ค. 53


     

                “เอาจริงหรอแทแท?” เสียงหวานย้ำถามคนตัวเล็กอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าห้องพักครู ซึ่งแทยอนกำลังจัเข้าไปคุยกับอาจารย์เรื่องของย้ายไปอยู่ชมรมดนตรี แต่ก็คงเป็นการยากเพราะตอนนี้มันกลางเทอมสองแล้ว ..ร่างเล็กพยักหน้ารัวๆ เธอเดินหายเข้าไปในห้องพักครูซักพักส่วนทิฟฟานี่รออยู่ด้านนอก ..ไม่นานแทยอนก็เดินคอตกออกมา เดาจากสภาพคงรู้ว่าผลเป็นยังไง ทิฟฟานี่ไม่ได้ถามอะไรเพียงใช้มือเธอวางลงบ่นไหล่เล็กๆเป็นการปลอบ

                “อาจารย์เค้าไม่อนุญาตอ่ะฟานี่ แถมชมรมดนตรีก็คนเต็มอยู่แล้ว เฮ้อ. ..” แทยอนพูดด้วยสีหน้าผิดหวัง แล้วแบบนี้เธอจะไปหาที่เรียนดนตรียังไง เงินค่าเรียนก็ไม่ค่อยมี

                “แล้วพี่จีอุงล่ะ? เคยคุยกับพี่เรื่องนี้หรือยังบางทีเค้าอาจจะมีทางออกนะ” ทิฟฟานี่แนะนำถึงพี่ชายแท้ๆของแทยอนที่ไม่ค่อยถูกโรคกันเท่าไหร่ก็สองคนชอบกัดกันอยู่เรื่อย

                “นั่นสินะ.. แต่ถ้าฉันบอกพี่ พี่ต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ๆ” พอนึกว่าตัวเองต้องไปเป็นเบี้ยล่างอ้อนวอนให้พี่ชายช่วยก็รู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีมันค้ำคอขึ้นมาทันตาเห็น

                “แล้วอยากเล่นไหมล่ะ กีต้าร์น่ะ”

                “อยากสิ ฉันบอกแล้วไงว่าอยากเป็นนักดนตรี”

                “งั้นก็ไปให้พี่ช่วยกัน”

               

                หลังเลิกเรียนแทยอนจึงพาทิฟฟานี่มาที่บ้านเพื่อที่จะคุยกับจีอุง .ทันทีที่เปิดประเด็นสีหน้าผงะตามที่คาดการณ์ของพี่ชายตัวแสบก็เผยออกมาใหเห็น “หา แกเนี่ยนะจะเล่นกีต้าร์?” จีอุงทำท่าเหลือเชื่อก็ที่ผ่านมาแทยอนเคยสนใจอะไรพวกนี้ซะที่ไหน

                “ก็เออสิ ทำไมฉันจะเล่นไม่ได้หรอไง” จีอุงมองแทยอนหัวจรดเท้าและเริ่มเดิมวนรอบตัวของน้องสาวด้วยท่าทางครุ่นคิด “หน่วยก้านก็พอใช้ได้นะ ติดแค่ว่าเตี้ยไปหน่อยเวลาแบกกีต้าร์มันจะบังเอา กับนิ้วสั้นไปนิด คงเล่นลำบากเอาการ” พูดจบก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

                “ไอ้พี่บ้า ตกลงจะช่วยไหม!” แทยอนตะโกนใส่หน้าอย่างเหลืออด ..พี่ก็เตี้ยเหมือนกันนั่นแหละ

                “แทแท ใจเย็นๆสิพี่เค้าแค่ล้อเล่นเอง” ทิฟฟานี่ยืนสะกิดอยู่ข้างๆ เพราะยังไงแทยอนก็คงยังต้องพึ่งจีอุงอยู่ “เอางี้ละกัน ฉันมีเพื่อนเปิดห้องซ้อมดนตรีอยู่แถวนี้ น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง เดี๋ยวจะพาไปวันเสาร์ละกัน”

                “จริงหรอพี่!?” แทยอนทำตาวาวกำลังจะกระโดดกอดอยู่แล้วเชียวดีที่นึกได้ว่าคนอย่างจีอุงไม่ทำอะไรให้ใครฟรีๆหรอก

                “เดี๋ยวๆ มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน..” นั่นไงกะแล้วเชียว

                “จะเอาอะไรว่ามา” จากสีหน้าแป้นกลายเป็นบูดแทน

     

                “อืม. ..แกต้องทำงานบ้านแทนฉันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์” ร่างเล็กอ้าปากค้างกับข้อเสนอสุดหฤโหด ปกติสองคนจะแบ่งงานบ้านกันทำครึ่งๆอยู่แล้ว ถ้าเกิดรับข้อเสนอก็หมายความว่าเธอต้องทำคนเดียวเต็มๆ “เฮ้ย มันไม่มากไปหน่อยหรอ” แทยอนคัดค้าน

                “งั้น ก็ตามใจไปหาคนอื่นช่วยละกันนะ”

                “เออๆ ก็ได้ๆ จำไว้เลยนะอย่าให้ถึงตาฉันมั่ง” แทยอนยอมตกลงอย่างเสียไม่ได้ แต่เธอก็ดีใจอยู่ไม่น้อยที่เริ่มเห็นหนทางเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา 

     

     

                ในที่สุดสามคนก็มาถึงยังสถานที่ที่จีอุงบอก มันเป็นตึกแถวขนาดสี่ชั้นซึ่งความจริงก็อยู่ไม่ไกลจากบ้านและโรงเรียนนักแทยอนเคยผ่านมาและเห็นบ่อยๆแต่ไม่นึกว่าจะเป็นที่นี่ จีอุงเดินนำเข้าไปข้างในก่อนจะทักทายกับเจ้าของร้านที่ดูก็รู้ว่าสนิทกัน ชายหนุ่มเข้าไปคุยอยู่ซักพักจึงเดินออกมา

                “ตกลงว่าเพื่อนพี่ให้แกใช้ห้องได้นะ จะมาเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ ฟรีไม่คิดตังค์”

                “จริงหรอ ขอบคุณมากนะพี่!” “พี่จีอุงขอบคุณค่ะ” สองสาวร้องออกมาอย่างดีใจ จะว่าไปพี่ชายจอมกวนก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันนะเนี่ย “ขอเข้าไปดูข้างในหน่อยได้ไหม?” คนตัวเล็กถาม ซึ่งพี่ชายก็พยักหน้าตอบแล้วปล่อยให้สาวๆเดินเข้าไป

                ด้านในถูกแยกเป็นห้องขนาดพอดีด้วยประตูกระจกและผนังชนิดเก็บเสียงจะมีก็เพียงเสียงเล็ดรอดออกมาบ้าง แต่ละห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันทั้งตู้แอมป์ ไมค์ กลองชุด และอิเล็คโทรน ..พลันหูของแทยอนก็ได้ยินเสียงมาจากห้องข้างๆ “มีคนซ้อมดนตรีอยู่ด้วยล่ะ” ทิฟฟานี่ที่ได้ยินเหมือนกันพูดขึ้นมา

                “อ่อ พวกนั้นมาประจำล่ะ ..เป็นเด็กผู้หญิงหมดเลยนะ ฝีมือก็พอใช้ได้ถ้าฝึกอีกนิดหน่อยก็โอเคแล้ว” เพื่อนของจีอุงกล่าว ร่างเล็กห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะเดินไปสอดแนม แล้วทั้งเธอและทิฟฟานี่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนในห้องเป็นใคร

                “ซูยอง ยูริ ยุนอา!?” แทยอนไม่รอช้าที่จะผลักบานประตูเข้าไปทักทาย สามคนที่กำลังบรรเลงดนตรีหยุดชะงักกลางคันด้วยสีหน้าเหรอหราพอกัน “อ่าว หมีกับหมามาได้ไงเนี่ย” ซูยองเอ่ยทักตามประสากวนๆของเธอ

                “นั่นสิ อย่าบอกนะว่าจะมาสวีตกันแถวนี้” ยุนอาเสริมทัพอย่างเข้าขาให้คนที่มาใหม่อยากจะถอดร้องเท้าเขวี้ยงหน้ามันจริงๆ

                “จะบ้าหรอ.. ฉันก็มาดูห้องซ้อมไง”

                “แท เล่นดนตรีเป็นด้วยหรอ?” ยูริเอ่ยถาม

                “เปล่า.. แต่กำลังจะเริ่ม” ทิฟฟานี่ตอบแทนให้

     

                “เอ้อ เอางี้สิ.. ทำไมไม่ฟอร์มวงกันไปเลยล่ะ แทยอนจะได้ถือโอกาสหัดเล่นกีต้าร์ อีกอย่างแทยอนได้อภิสิทธิ์ใช้ห้องฟรีด้วย น้องๆสนใจไหม?” จีอุงที่เปิดทางให้น้องสาวเสนอ สามคนครุ่นคิดอยู่ซักพัก “ก็ดีเหมือนกัน พวกเรามีแค่มือกลอง มือเบส แล้วก็มือกีต้าร์ขาดคนพอดี ได้ใช้ห้องฟรีอีกต่างหาก ..แทยอน ฉันจะใช้แกให้คุ้มเลย ฮ่าๆๆ” ยุนอาหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ คนตัวเล็กเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยกับชะตากรรมของตัวเองแล้วล่ะสิ

                “เอาเป็นว่าทุกอย่างลงตัว ดีใจด้วยนะแทแท จะได้ทำตามความฝันแล้ว” ทิฟฟานี่ตบมือชอบใจก่อนหันไปยิ้มให้แทยอนที่ชักไม่แน่ใจว่านี่มันโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

                “แล้วแทจะเล่นกีต้าร์ ..มีกีต้าร์หรือยัง?” คำถามจากยูริที่เธอลืมคิดไปสนิท ตอนนี้ทุกสายตาในห้องจ้องมองมาที่เธอ “คือว่า.. ยังอ่ะ” แล้วการผจญภัยเฟ้นหากีต้าร์จึงเริ่มขึ้น

     

     

                เมื่อออกมาจากห้องซ้อมสามทหารเสือจึงอาสาพาแทยอน(และทิฟฟานี่)ไปยังร้านขายเครื่องดนตรีที่พวกเธอรู้จัก ..แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งแทยอนและฟานี่สงสัยนั่นคือ “ร้านขายเครื่องดนตรีมือสอง?”

                “อื้ม” ยูริพยักหน้า ยุนอาเลยถือโอกาสอธิบายต่อ “ก็มือหนึ่งที่คุณภาพพอใช้มันก็แพงอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับมือสองสภาพดีแต่เป็นของเจ๋งๆล่ะก็คุ้มกว่าแน่นอน ของที่พวกฉันใช้ก็มาจากร้านนี้แหละ”

                แทยอนตัดสินใจเชื่อดูซักครั้งในเมื่อเธอก็ต้องซื้อมันอยู่ดี ยิ่งถ้ามีคนที่รู้เรื่องมาช่วยก็ยิ่งดีใหญ่ ซูยองเดินนำเข้าไปในร้านแล้วทักทายลุงเจ้าของร้านอย่างเป็นกันเองเธอบอกกับคุณลุงว่าแทยอนกำลังหากีต้าร์มือสองสภาพดีราคาย่อมเยาว์ ลุงเลยชี้ไปทางหนึ่งที่มีกีต้าร์ตั้งโชว์เรียงรายอยู่ ..แทยอนรู้สึกระรานตากับเจ้าเครื่องดนตรีหลากรูปร่าง สีสันจนไม่รู้จะเลือกอันไหน ราคาพอๆกันทั้งนั้น

                “แทแท ดูตัวนี้สิ” ทิฟฟานี่เรียกแทยอนที่เดินดูอยู่อีกทาง ร่างเล็กเดินตามมาจึงพบกีต้าร์ตัวหนึ่งที่มีรูปร่างแปลกตา “ฟานี่ ชอบตัวนี้หรอ?” แทยอนถามม “อืม ฟานี่ว่ามันเหมาะกับแทแทดี” พูดจบเธอจึงยกกีต้าร์ตัวที่ว่าขึ้นแล้วจัดแจงคล้องสายสะพายมันเข้ากับบ่าคนตัวเล็ก

                “เห็นไหมล่ะเหมาะจริงๆด้วย” ทิฟฟานี่ยิ้มจนตาปิดแล้วจับแทยอนหันไปทางกระจกที่อยู่ใกล้ๆ ร่างเล็กเห็นเงาสะท้อนของตนเองที่มีกีต้าร์ประดับอยู่ก็เริ่มคลี่ยิ้ม เธอเริ่มพิจรณาเครื่องดนตรีชิ้นนี้เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่

                “โอ้โหแฮะ ตาถึงดีนี่ แทยอน” ยุนอากระโดดมาเกาะไหล่ทำให้แทยอนทรุดไปนิดหน่อยเพราะมีน้ำหนักจากกีต้าร์เป็นทุนเดิม “นี่น่ะ เค้าเรียก Les Paul ของยี่ห้อ Gibson เชียวนะ ถือเป็นกีต้ารที่นักดนตรีแนวหน้าเลือกใช้เลย ..ดูสภาพก็โอเคพอใช้ได้”

                “ตกลงว่าไง คิม แท” ซูยองถาม คนตัวเล็กหยิบป้ายราคาขึ้นมาดูแล้วต้องมุ่นหัวคิ้วถึงแม้มันจะเป็นกีต้าร์มือสองแต่ก็ยังแพงอยู่ดี “ราคาขนาดนี้ฉันซื้อไม่ไหวแน่ๆ” เธอบ่นกระปอดกระแปดอย่างเสียดาย 

                “งั้นก็ตัดใจแล้วไปมองหาตัวอื่นละกัน” ยูริเสนอ แต่ดูเหมือนแทยอนจะไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่หากต้องเป็นเช่นนั้นจริงๆ “แต่ตัวนี้ ฟานี่เลือกให้นี่นา” แทยอนพูดออกมาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา(ประมาณพูดแบบไม่คิด) จนสามคนที่ยืนฟังอยากจะลมจับส่วนแม่สาวตาสวยน่ะหรอ ยิ้มแก้มปริไปไหนต่อไหนแล้ว

                “แล้วจะเอายังไงดีล่ะ ซูยองลองไปคุยกับคุณลุงดูไหมว่าลดได้รึเปล่า” ยุนอาสะกิดเพื่อนตัวสูง(อันที่จริงสามคนก็สูงไล่ๆกัน) ซูยองหายไปซักพักพร้อมกีต้าร์เจ้าปัญหาแล้วกลับมาอีกครั้ง

                “ลุงลดให้ได้แค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ นี่ราคาคนกันเองนะ เอาไงไหวไหม?” แทยอนทำหน้าครุ่นคิดอยู่ซักพักจนทิฟฟานี่เสนอขึ้นมาบ้าง “ถ้าราคาเท่านี้ ฟานี่ให้ยืมเงินก่อนก็ได้นะ”

                “ไม่ดีหรอกนะ ฟานี่ ฉันเกรงใจ” แทยอนส่ายหน้าดิกๆ

                “ฟานี่ให้ยืมนิไม่ได้ให้เลย แทแทก็ค่อยหามาคืนทีหลังสิ ฟานี่ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว” นั่นสินะในเมื่อเธอเป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านไฮโซ แทยอนยังคงครุ่นคิดต่อไป จนสุดท้ายทิฟฟานี่ต้องหยิกแก้มใสๆนั่นแล้วบิดไปมา “โอ๊ยๆ ฉันเจ็บนะ!” แทยอนร้องเสียงสูงแล้วดึงใบหน้าออกมาจนเป็นอิสระ

                “คิดมากอยู่นั่นแหละ นี่ ฟานี่นะ ไม่ใช่คนอื่น ตกลงตามนี้โอเคไหม?”

                “.. อื้ม ขอบคุณนะ ฟานี่ ไว้แทจะหามาคืนให้ทีหลังนะ”

     

                และสุดท้าย คิม แทยอน ก็ได้กีต้าร์ที่ว่ามาครอบครองเสียที

     

     

                แทยอนต้องเริ่มเรียนกีต้าร์ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานแบบสุดๆ ทั้งเธอยังต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับจีอุงและหางานพิเศษทำเพื่อจะนำเงินมาคืนทิฟฟานี่ ซึ่งก็คือการส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้ามืดของทุกๆวัน ..การตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อทำงาน แปดโมงเข้าเรียน ตอนเย็นฝึกกีต้าร์และเมื่อกลับบ้านมาต้องทำงานบ้านอีก ทำให้ร่างเล็กพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลาติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์

                เช้าวันธรรมดาทิฟฟานี่มาโรงเรียนตามปกติพอถึงห้องก็พบคนตัวเล็กที่นั่งฟุบหน้ากับโต๊ะอยู่แล้ว ร่าบางหย่อนตัวนั่งลงข้างๆอย่างเงียบเชียบกลัวว่าจะทำอีกคนตื่น เธอมองใบหน้ายามหลับที่ไร้เดียงสานั่นจึงยิ้มออกมาน้อยๆ ดูแทยอนเหนื่อยแล้วก็อ่อนเพลียมาหลายวัน มีบางครั้งคนตัวเล็กแทบจะหลับตอนกำลังกินข้าวซะด้วยซ้ำ สายตาของเธอมาหยุดอยู่ที่มือซ้ายของแทยอนที่เค้าพาดไว้กับโต๊ะ ..ร่าบางค่อยๆดึงมันมาเบาๆ

                เธอมุ่นหัวคิ้วเมื่อเห็นรอยด้านที่ปลายนิ้วของคนตัวเล็ก คาดว่าคงมาจากการที่ใช้นิ้วมือข้างซ้ายกดสายกีต้าร์ ทิฟฟานี่ใช้ปลายนิ้วลูบวนบริเวณรอยด้านเบาๆ พลันคนตัวเล็กที่รู้สึกตัวตื่นจึงผงกหัวขึ้นมาดู “อ่า ฟานี่ อรุณสวัสดิ์”

                “เธอนอนไม่พออีกแล้วนะแทยอน แล้วมือน่ะหัดทาครีมถนอมมันซะบ้างรู้ไหม” พูดพลางหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋านักเรียน จัดแจงพันมันกับปลายนิ้วนางที่ดูถลอกอย่างเห็นได้ชัด มันคือพลาสเตอร์ลายหมีสีชมพู “ฟานี่ แปะทำไมเดี๋ยวพอจะซ้อมฉันก็ต้องดึงมันออก”

                “ก็ดึงสิ ทำไมหรอ?”

                “เปล่าๆ” ฉันไม่อยากดึงมันทิ้งไปก็เท่านั้นเอง

     

                “เอ้อ จริงสิ” แทยอนนึกได้และควานหาของในกระเป๋าตัวเองบ้าง เธอควักเอาซองจดหมายสีน้ำตาลออกมาแล้วยื่นให้ฟานี่ คนร่างบางรับมาอย่างมึนงง พอเปิดมันออกจึงได้รู้ว่ามันเป็นเงินจำนวนหนึ่ง “เป็นค่าที่ฉันยืมเธอไปไง ฉันทำงานส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้า แล้วก็ผสมกับเงินเก็บของฉันอีกนิดหน่อย” แทยอนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

                “นี่สินะเหตุผลที่แทแทนอนไม่พอ ยัยบ้าไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย บอกแล้วไงว่าไม่รีบ ฉันเป็นห่วงแทแทมากกว่าเงินพวกนั้นอยู่แล้ว ถ้าแทไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง” ทิฟฟานี่ตีแขนแทยอนเบาๆเธอโกรธอยู่เหมือนกันที่คนตัวเล็กทำตัวน่าเป็นห่วง “เอาน่า ตอนนี้ฉันก็หามาคืนได้แล้ว สัญญาที่ตกลงกับพี่จีอุงก็ครบอาทิตย์แล้ว อย่าห่วงไปเลยนะ”

                “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ” ทิฟฟานี่จิ้มจมูกแทยอนอย่างคาดโทษ

     

                “นี่ ฟานี่.. ฉันขอบใจเธอมากเลยนะ เพราะเธอทำให้ฉันเจอกับสิ่งที่อยากทำ เธอเป็นคนที่ช่วยฉันเสมอเลยนะ” แทยอนพูดออกมาจากใจ ร่างบางคลี่ยิ้มแก้มของเธอขึ้นสีน้อยๆก็นานทีคนตัวเล็กจะพูดอะไรซึ้งๆบ้าง

                “ก็เพราะฉันเชื่อว่า แทแท ของฉันต้องทำได้”  




    Writer´s Talk

    แชปสองมาลง การเริ่มต้นของคิมแท - -
    ดูเหมือนช็อทฟิคเรื่องนี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจอย่างที่คิดแฮะ
    รึเรื่องมันไม่โดน T__T (แต่ยอมรับว่าบทนี้มันชีวะประวัติมากไป)
    ไม่รู้นะตามความเข้าใจส่วนมากคนไม่ค่อยจะอ่านวันช็อต รึ ช็อทฟิคกัน
    น่าจะไปติดตามเรื่องยาวมากกว่า แต่ช่างเถอะเรามีความสุขที่จะทำก็พอแล้ว ^_^
    ใครที่สนใจฟิคเรื่องนี้และให้การติดตามก็ขอขอบคุณนะ

    ปล. ขอตอบคุณ Ma-Bung 
    อนิเมะเรื่อง K-on น่ะถูกแล้ว ฮ่าๆๆๆ (ตอนนี้เค้าออกซีซั่นสองละนะดูยัง?)
    เป็นอนิเมะที่เราประทับใจมาก ทั้งในเรื่องของดนตรีแล้วก็มิตรภาพระหว่างเพื่อนๆในวง
    เราก็เลยเอาแนวมาแต่งเป็นฟิคเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ลอกนะ ..เพราะเรามีเรื่องราวระหว่างแทนี่
    ที่จะเพิ่มพูนตามกาลเวลาด้วยไงล่ะ - - กำลังคิดอยู่ว่าตกลงช็อทฟิคนี่มันจะกี่ตอนจบ

    ปล2. ฟิคชั่นเรื่อง Sense ได้การตอบรับดี(ในระดับของเรานะ ไม่ได้หวังให้มากมายอะไร)
    ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม เม้น และให้กำลังใจนะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×