คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SJ] The Day Before Christmas Part 2
22:12:11
ณ สนามบิน อนชอน
ชายหนุ่มหน้าหวานคนหนึ่ง ก้าวเท้าอย่างรวดเร็วจนเกือบๆจะเหมือนวิ่ง ผมสีน้ำตาลยาวประบ่าลู่ไปตามลมที่ผัดผ่าน เหงื่อไหล่ลงมาตามวงแก้มที่แดงก่ำเพราะความเหนื่อยและอากาศหนาว ลมหายใจพ่นออกมาจากปากทำให้เกิดควันเป็นระยะๆ ใบหน้าของเขาส่อแววกังวล คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แววตาที่ยังดูเหนื่อยล้าจากบางสิ่งบางอย่าง แต่ปากบางก็พยายามยิ้มฝืนเพื่อข่มใจตัวเอง
และเมื่อลีดงเฮวิ่งมาถึงตรงที่รอผู้โดยสารด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการวิ่งเพราะรถติด กลัวจะมารีบแฟนไม่ทัน แววตาหวานสอดส่องสายตา ไปยังผู้คนที่หลั่งไหลออกมาจากประตูทางออก ร่างบางเขย่งตัวมองหาคนรัก…ถ้าเขากินนมตามที่คิบอมบอกคงสะดวกกว่านี้…..และแล้ว เขาก็เห็นชายหนุ่มผิวขาว ร่างสูงกับผมดำที่ดูนุ่มน่าสัมผัสถูกคลุมด้วยหมวกไหมพรหมสีเทา เสื้อโค๊ดตัวยาวสีเดียวกับหมวกทำให้ผู้สวมใส่ดูขรึม และที่ต้องตาต้องใจมากที่สุดคงเป็นรอยยิ้มที่แสนหวานที่ปรากฏบนใบหน้าที่มีหนวดเคราอยู่ประปราย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของมันดูหมองลง กลับหล่อเข้มขึ้นด้วยซ้ำ แก้มขาวปริออกเพราะรอยยิ้มที่ส่งให้กับ…….
………หญิงสาว ร่างสูง ผอมบาง ผมยาวสีน้ำตาลสวย ผิวขาวอมชมพูตัดกับชุดแซ็กสีแดงที่ดูเซ็กซี่ไม่น้อย หญิงสาวยิ้มให้กับคิบอมก่อนจะลากกระเป๋าตามเขาออกจากประตูทางออก ทั้งคู่หัวเรากันคิกคัก ราวกับสวรรค์กลั้นแกล้งให้ลีดงเฮเห็นมันเป็นภาพสโลว์ช้าๆ คิบอมค่อยจูงมือหญิงสาวไปหาครอบครัว เป็นเวลาเดียวกันที่น้ำตาใส ค่อยๆล่วงเผาะลงบนใบหน้าหวาน คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนที่เขารักมากที่สุด
“ฮัลโหล แปปนึงนะครับแม่” เสียงปลายสายเอ่ย ก่อนจะขออนุญาตผู้เป็นมารดา สอดคล้องกับภาพที่ดงเฮเห็น
“ว่าไงดงเฮ ไหนบอกว่าจะมารับไง” คำพูดและท่าทางที่เตรียมทำท่าจะงอน ทำดงเฮยิ้มทั้งน้ำตา
“เอ่อ…คิบอมฉันไม่ค่อยสบายอ่ะ ไปไม่ได้ ขอโทษนะ” น้ำเสียงเศร้าสร้อยของดงเฮทำให้อีกฝ่ายเป็นห่วงทันที ความเป็นห่วงของคิบอมส่งออกมาทางสีหน้าทันที
“ดงเฮ เป็นอะไรหรือเปล่า? อยู่บ้านใช่ไหม เดี๋ยวจะไปเยี่ยมนะ แล้วกินยารึยัง?ไปหาหมอรึยัง?” คำถามที่มีแต่ความเป็นห่วงเป็นใยมากมายพลั่งพลูออกมา ยิ่งทำให้ดงเฮร้องไห้หนักขึ้น จนต้องเอามือมาปิดปากไว้ เพื่อไม่ให้ คิบอมได้ยินเสียงสะอื้น
“ไม่…อึก เราไม่เป็นไรมากหรอก ไม่ต้องมาให้ลำบากหรอก” คำพูดของดงเฮทำคิบอมหยุดที่จะส่งคำพูดออกไปตามสาย…..ดงเฮเรียกตัวเองว่า เรา แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ๆ..มันมักจะเป็นคำที่ดงเฮ ใช้เวลาทะเลาะกัน…
“ไม่ลำบากหรอก ดงเฮกินข้าวรึยังเดี๋ยวผมซื้อไปให้ ข้าวต้มไหม?”
“ไม่ต้องมาหรอก คิบอมพักผ่อนเถอะ เรา..ไม่อยากรบกวน”
‘ยิ่งคิบอมยิ่งห่วง….. ฉันยิ่งปวดใจนะ!!!’
“คราวนี่นั่งมาไม่ค่อยเหนื่อยน่ะ ค่อนข้างจะมีความสุข..มากกว่าขาไปน่ะ^--^”
…เพราะเธอใช่ไหมล่ะ?
“ไม่ล่ะอย่ามาเลย เราไม่เป็นอะไรมากหรอก” ดงเฮ ปฏิเสธิ อีกครั้ง แต่คิบอมก็ยังตื๊อ..นี่เขาแพร่เชื้อตื๊อใส่ คิบอมหรอเนี่ย?
“ก็บอกว่าไม่รบกวนไงล่ะครับ กี่โมงดี บ่ายโมงไหม เพราะนี่เที่ยง….”
“ก็บอกไม่ต้องมาไงล่ะ คิบอมคนโง่!!!” ดงเฮตระโกนสุดสียง มือที่ถือโทรศัพท์สั่นระรัว น้ำตาไหลไม่หยุดสาย
คนหลายคนหันมามองต้นเสียงที่ดังกร้าวไปทั่ว รวมทั้งคิบอม ที่หันมามองก็พบกับภาพที่คนรักของตนกำลังร้องไห้ ใบหน้าซีด ดวงตาคล้ำมีน้ำตาไหลไม่หยุด ไหล่บางสั่นระริก จมูกแหลมแดงก่ำ คิบอมไม่ยืนดูภาพนั้นนานนัก ขายาวเริ่มออกก้าวเพื่อวิ่งไปหาคนรัก แต่ร่างบางกลับค่อยถอยหายไปกับฝูงชน
“ฮัลโหล จีฮโย”
“ฮัลโหล ว่าไงค่ะ พี่เขย~” ปลายสายส่งเสียงหวาน
“จีฮโย ดงเฮเป็นอะไร??” น้ำเสียงกังวลของคิบอมทำจีโฮใจหาย
“ท..ทำไมหรอค่ะ??”
“ดงเฮ เขาร้องไห้ ร้องหนักมาก พี่ไม่เคยเห็นดงเฮเป็นแบบนี้มาก่อน จีฮโยพี่เป็นห่วงดงเฮ..”
“ อ๊ะ! พี่ เป็นอะไร พี่เฮๆ โอ๋ๆๆ ไม่เป็นไรนะค่ะ” จีฮโยใช้มือข้างที่ว่าง โอบปลอบดงเฮที่เพิ่งเดินเข้าบ้านด้วยแววตาเศร้าสร้อยแล้วฟุบลงที่ไหล่น้องสาวทันที จีฮโยที่อยากให้คิบอมได้รู้ว่าทำไมดงเฮถึงเป็นอย่างนั้นจึงแอบวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วพาดงเฮไปนั่งที่โซฟา
“พี่ มีอะไร? ใครทำพี่ บอกจีฮโยมานะ” น้องสาวจับไหล่ที่สั่นระริกของดงเฮ แต่ร่างบางก็ส่ายหน้าปฏิเสธิ มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบหน้าของร่างบางที่ให้คำตอบ
“พี่พูดเถอะ พี่จะสบายใจขึ้น” เพียงแค่นั้น ดงเฮก็ตระโกนด่าแฟนที่รัก ทำเอาทั้งน้องสาวและคนที่อยู่ในสายตกใจ
“ไอ้คิบอมคนโง่! ฉันยืนร้องไห้อยู่ตั้งนานดันไม่เห็น…ฮึก..สนใจแต่คนนั้นใช่ไหมล่ะ เบื่อกันแล้วก็บอกกันสิ!!! ..ตะ..ตั้งสองปี ใครเค้าจะชอบ..ฮึก..คนคนเดียวได้ล่ะเนอะ แถมยังอยู่ไกลกันด้วย ฮะ ฮะ ฉ...ควรจะเจียมตัวสินะ ฮะ..ฮึก” ดงเฮเอ่ยทั้งน้ำตา จีฮโยเห็นพี่ชายพูดไม่รู้เรื่องแล้วจึงดึงคนตรงหน้ามากอดปลอบ
“คิมคิบอม!! ..ฉันรอนายนาน ค..แค่ไหน..ฮึก..นายรู้ไหม ฉันคิดถึงนายที่สุด..อึก..แต่กลับทำกับฉันแบบนี้”ดงเฮยกมือขึ้นปาดน้ำตา พลางจีฮโยก็ลูบหัวปลอบพี่ชายให้เย็นลง เนื่องจีฮโยไม่ต้องการให้คิบอมฟังอีกต่อไป เธอจึงตัดสาย
“พี่ไม่เป็นไรนะ เป็นนอนพักเถอะ^^” จีฮโยจับไหล่ที่ยังสั่นของพี่ชายไว้ ดงเฮพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะปล่อยให้น้องสาวช่วยพาตัวเองไปนอน
ตอนเย็น
“ด๊องเป็นไงบ้าง?” ฮยอกแจรีบถามทันทีที่เข้าบ้านมา เพราะน้ำเสียงที่จีฮโยเล่าให้ฟังขณะที่ตนทำงานอยู่น่าเป็นห่วงมาก
“นอนหลับไปพักใหญ่ๆแล้ว” จีฮโยมองพี่ชายก่อนจะวางมีดลงบนเขียง
“แล้วนี่มันอะไร คิบอมกลับมาดงเฮควรจะดีใจไม่ใช่หรอ?” ฮยอกแจขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนะจะหันไปหาคำตอบจากน้องสาว
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงที่ดงเฮบอก” จีฮโยตอบแล้วเหลือบมองไปยังข้างบน
23:12:11
แสงแดดสว่างๆส่องมาโดนใบหน้าหวานทำให้ คนตัวเล็กต้องเผลอลืมตา เพราะแสงที่เล็ดลอดเข้ามาในตา ร่างเล็กค่อยๆบิดขี้เกียจแล้วกระพริบตาปริบๆ เพื่อปรับแสง
…..เช้าอีกแล้ว เฮ้อ ปวดตาชะมัด
“หาวววว” ผมอ้าปากหาวอย่างเช่นทุกเช้า..อ่า กี่โมงแล้วเนี่ย ห้องของผมไม่มีนาฬิกา ตอนเช้าๆเลยต้องเปิดโทรศัพท์เพื่อดูเวลาตลอด หลายครั้งเลยล่ะ ที่ผมคิดจะซื้อนาฬิกา แต่ว่าผมก็คิดจะเก็บเงินไป……
อเมริกา…จริงสินะ..คงไม่ต้องแล้วล่ะ!
‘คุณมี 40 miss callและ 10ข้อความ’
แค่ผมปิดเครื่อง นี่ทุกคนจะตายกันเลยใช่ไหม…เขาจะโทรมาไหมนะ???
“กลิ่นหอมจัง..มีอะไรกินหรอ จีฮโย?” บ้านหลังใหญ่ บัดนี้ปลอดผู้คน ยกเว้นลีดงเฮและกลิ่นหอมของซุปกมจิเป็นเพื่อนเขา..คนตัวเล็กนวดขมับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินไปตักข้าวแล้วนั่งลงกินซุปกิมจิ คนเกาหลีก็ต้องกิมจินี่แหละ!!
อ่า นี่มันวันศุกร์นี่นา เก้าโมงแล้วด้วย จีฮโยคงออกไปเรียน ส่วนฮยอกแจคงไปทำงาน อา..ปวดหัวจัง วันนี้น่าเบื่อจัง ดูทีวีก็แล้ว ฟังเพลงก็แล้ว ร้องไห้ก็แล้ว….บางทีผมน่าจะออกไปซื้อของมาตกแต่งบ้านหน่อย ยังไงก็ใกล้คริสต์มาสแล้วนี่นา..เฮ้อ คริสต์มาสนี้ต้องฉลองคนเดียวอย่างที่มินโฮบอกจิงๆหรอเนี่ย~ ~
ห้าง
~We wish you were Merry Christmas And a Happy New Year~
เสียงเพลงประจำเทศกาลที่ทุกคนคุ้นเคยดังคลอไปทั่วห้าง พนักงานของห้างแทบทุกคนใส่ชุดสีขาวแดง และมีหมวกคริสต์มาสอยู่บนหัว ส่งท้ายกับรอยยิ้มหวานๆที่คอยต้อนรับลูกค้า ซึ่งเป็นสโลแกนของห้าง ชายหนุ่มหน้าหวานที่สวมผ้าพันคอไหมสีแดงพรม สวมโค๊ทยาวสีดำดูดีมีไสตล์ กำลังเลือกของ..เรียกว่า จับโยนดีกว่า เขาจับโยนของเหล่านั้นด้วยสายตาเหม่อลอย
“อ๊ะ! นี้มันอะไรเนี่ย ฉันจะซื้อไม้แขวนเสื้อกลับบ้านไปทำไม!?” ดงเฮหันไปมองของในตระกร้า ก็พบว่ามีแต่ของอะไรก็ไม่รู้ แทบไม่มีของสำหรับคริสต์มาสเลยก็ว่าได้ ดงเฮส่ายหัวกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหยิบของไปวางที่เดิม..แล้วร่างบางก็เริ่มเดินเลือกของใหม่ ด้วยสติที่มากขึ้นกว่าเดิม..นิดนึง
หลังจากซื้อของเสร็จ ขณะที่คนตัวเล็กำลังจะก้าวออกจากประตูห้าง เขาก็ต้องรีบหันกลับมา
เพราะไปเจอกับผ้าพันคอไหมพรมสีดำ ดงเฮเดินตรงไปหามันและใช้มือเล็กลูบมันอย่างเบามือ ผ้าพันคอสีดำนี่ดูนุ่มน่าสัมผัส
..เหมือนผมของคนคนนั้น
“สนใจไหมคะ^____^?” พนักงานสาวที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เอ่ยถามดงเฮ
“อะ..เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” ดงเฮยิ้มบางๆให้พนักงาน ก่อนจะหันหลังกลับ
“อย่างน้อยก็ซื้อไปเพื่อเป็นตัวแทนเขาหน่อยสิคะ^____^” คำพูดของพนักงานสาวทำให้ดงเฮต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับมาใหม่
“อะไรนะครับ?”
“เปล่าค่ะ คุณสนใจไหมคะ^____^?”
“ไม่เป็นไรครับ ขอตัวนะครับ” และอีกครั้งที่ดงเฮกำลังหันหลังกลับ หญิงสาวก็เอ่ยคำพูดที่ดูเหมือนจะมีเพียงดงเฮที่ได้ยิน
“ถ้าคุณรักเขามาก ก็อย่าปล่อยให้เขาหนาวสิคะ^_____^”
“ครับ?”
“คุณสนใจมันใช่ไหมคะ^_____^?” คราวนี้พนักงานสาวยังเอ่ยเหมือนพูดเองเออเองอีกต่างหาก
“อา..ก็ได้ครับ คุณนี้ตื๊อจังเลยนะครับ” ดงเฮเอ่ยยิ้มๆ
“ก็ค้าขายนี้คะ 5000วอนค่ะ^_____^” หญิงสาวยิ้มหวาน แต่ราคาที่เธอเอ่ยมานั้นไม่ได้หวานตามที่ดงเฮคิดไว้
“แพงชะมัด” ดงเฮบ่นอุบอิบแต่งก็ยงควักกระเป๋าตังออกมา
จะไม่ควักได้ไง ก็หล่อนเล่นใส่ถุงให้เรียบร้อยแล้วเนี่ย = =
“แน่ล่ะค่ะ นี้มันเซอร์เช่นิคะ^___^ ” พนักงานสาวยิ้มอีกครั้ง ทำเอาดงเฮยากร้องไห้
โค๊ทเซอร์เช่สักตัวเขายังไม่มี แล้วจะเอาไอ้ผ้าพันคอนี้ไปแม็ทกับป๋าอาร้ายยย..คุณช่วยเลิกยิ้มแบบนั้นสักทีเถอะ ผมขอร้องT T
“ให้เขาไงคะ อ้อ! ขอประทานโทษนะคะ พอดีทางห้างเขาบอกว่าให้ยิ้มทุกคำพูดเลยค่ะ^_____^” หญิงสาวเอ่ยตอบคำถามที่ดงเฮคิดในหัว ทำเอาคนหน้าหวานถึงกับอ้าปากค้าง
คุกคามตูกระทั่งความคิดT T
“ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ^____^” แค่นั้นลีดงเฮก็รีบแจ่นหนีออกมาจากร้านน่าขนลุกพร้อมกับผ้าพันคอทันที
หลังจากที่รอดพ้นสายตาโรคจิต น่ากลัวๆของพนักงานร้านมาได้สักพัก ชายหนุ่มหน้าหวานถึงกลับต้องถอนหายใจเมื่อมองต่ำลงไปที่มือของตน ก็พบกับผ้าพันคอสีดำที่อยู่ในถุง ดงเฮหยิบผ้าพันคอขึ้นมาและสวมมันแทนที่ของผ้าพันคอ มือบางกระชับผ้าพันคออุ่นแน่น ก้อนจะฝังใบหน้าไปกับมันแล้วหลับตาพลางนึกถึงเจ้าของที่ทรยศต่อเขา…
Home
ขณะที่ดงเฮกำลังไขประตูบ้าน เขาก็หันไปเห็นเงาตะคุ่มๆอยู่แถวข้างบ้าน ร่าบางจึงเดินไปดูเพื่อสำรวจว่าใคร มาด้ำๆมองๆบอนแสนรักของเขา เมื่อเห็นหน้าชายคนนั้น ร่างดงเฮถึงกับชา ในสมองของเขาเริ่มว่างเปล่า..
“คิบอม…” ดงเฮเอ่ยกับตนเอง สมองอันว่างเปล่าของเขาเริ่มสังการ ทำให้ดงเฮตัดสินใจหันหลังกลับทันที แต่ขณะที่ร่างบางกำลังกำลังก้าวขาเพื่อให้ออกไปจากที่แห่งนี้ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับ ‘เขา’ ก็มีแขนแกร่งโอบกอดเขาไว้จากด้านหลัง ทำให้ดงเฮสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่อยู่ข้างพวงแก้มของตน
“คิบอม..ปล่อยเถอะนะ” แม้เสียงของร่างบางจะดูไร้เรี่ยวแรงแค่ไหน แต่ชายหนุ่มข้างหลังก็ยังกอดเขาไว้แน่น
“คิมคิบอม..พอ…เราพูดแค่นี้ เข้าใจนะ” ดงเฮเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง แต่ใครจะรู้บ้าง ว่าในน้ำเสียงนั้นมันมีความอ่อนไหวที่แสนเศร้าแฝงอยู่
ตั้งแต่ครั้งแรกที่แขนแกร่งเริ่มโอบตัวเขาไว้จากด้านหลัง ตั้งแต่กลิ่นที่คุ้นเคยและโหยหาเข้ามาแตะจมูก ตั้งแต่พวงแก้มของเขาถูกเบียดด้วยแก้มนิ่มๆของอีกคน ตั้งแต่ที่เขาเห็นหน้าคนที่เขาคิดถึงมากที่สุด…..แค่นั้น เขาก็แทบจะทรุดตัวลงไปกับพื้น เพราะความโหยหาที่เกินกำลัง
ทรมานแค่ไหน…ทั้งๆที่เขาอยากหันกลับไปซุกหน้าอยู่ในอ้อมกอดของคนร่างสูง อยากใช้สองมือของเขาสัมผัสใบหน้าที่คุ้นเคย อยากจะได้รับความอบอุ่นจากคนคนนี้อีกครั้ง แต่..เขากลัว กลัวว่ามันจะไม่อบอุ่นอีกต่อไป มือที่เคยกอบกุมมือของเขา มันเคยเต็มไปด้วยความรัก…เขากลัวมันจะเหลือเพียงความเย็นชา
“คิบอม พอได้แล้วล่ะ…” ดงเฮเอ่ยย้ำกับคิบอมอีกครั้ง จึงทำให้ร่างสูงต้องถอนอ้อมกอดที่ยาวนานออก แล้วเดินมามองหน้าคนตัวเล็กที่เขาแสนจะรักและหวงแหน
“ดงเฮเหนื่อยหรอ? งั้นเดี๋ยวเข้าไปนั่งพักในบ้านเนอะ ไม่สบายแบบนี้ยังจะออกไปข้างนอกเวลาอากาศหนาวๆแบบนี้อีก มันไม่ดีรู้ไหมครับ? ไม่เป็นไรเพราะ…”
“เลิกเถอะ”
“ครับ? ดงเฮพูดว่าอะไรนะ”
“เรา..เลิกกันเถอะ” ดงเฮเสมองไปทางอื่น กัดปากตัวเองเพื่อห้ามแสดงอารมณ์ที่จะทำให้คนตรงหน้าเขาสงสาร
‘ฉันอยากให้นายมีความสุขกับเธอคนนั้น…นายจะได้ไม่ต้องมากลัวและเป็นกังวลว่าฉันจะรู้ นายจะได้ดูแลเธอคนนั้นเต็มที่…ด้วยความรักที่นายมีแก่เธอ…ฉันทำเพื่อนาย เพราะ…ฉันรักนายนะ คิบอม ’
“……” สิ้นคำของดงเฮ คนตัวเล็กก็เดินไปที่ประตูบ้านโดยที่คนร่างสูงยังยืนนิ่งอยู่หน้าบ้าน…เขาไม่รู้เลยว่าทำไมดงเฮถึงอยากเลิกกับเขา?
“ฉันขอเหตุผลหน่อยได้ไหม?” เสียงที่นิ่งและแข็งของคิบอม ทำให้ดงเฮเดาอารมณ์ผู้ชายตรงหน้าไม่ออก
“เพราะ…” ดงเฮกลืนน้ำลายลงคอ มือเล็กกำลูกบิดประตูบ้านแน่น สายตาจ้องไปที่คนร่างสูง ก่อนจะตัดสินใจเปิดปากพูดความจริง
“เพราะอะไร เราต่างก็รู้เรื่องนั้นดี..ที่รัก..ระยะทางและการเวลา มันยาวนานเกินไปสำหรับพวกเรา ถึงเวลา..คนใดคนหนึ่งก็ต้องไป งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา…และฉันไม่อยากให้นายมีใครอีกคน ทั้งๆที่นายยังมีฉันอยู่ ฉันอยากให้นายมีความสุขกับคนที่นายเลือก…คน..ที่ไม่ใช่ฉัน..” ดงเฮเอ่ยคำสุดท้ายเสียงแผ่ว ราวกลับกำลังพูดกับตนเอง ดงเฮตัดสินใจหลับตา บิดลูกบิดแล้วเดินเข้าไปในบ้าน…ก่อนทีเขาจะล้มลงและร้องไห้เป็นรอบที่สองของวัน แล้วจึงหลับไป
ทางด้านอีกฝ่าย คิบอมที่ยืนเงียบอยู่สักพักราวกลับครุ่นคิดอะไรบางอย่างก็ได้ขับสปอร์ตสีดำของตนออกไป เมื่อเขากลับถึงบ้าน คิบอมไม่ปริปากพูดกับใคร เขาเพียงแค่วิ่งขึ้นห้องของตนและเริ่มต้นนอนคิดถึงเรื่องราวของเขากับคนตัวเล็ก สักพักเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาดงเฮ และแน่นอนคนฉลากอย่างคิบอมตัดสินใจที่จะโทรเข้าไปที่บ้านของดงเฮเพื่อฝากข้อความไว้..ไม่มีทางที่ดงเฮจะไม่ได้ยินมัน
“ดงเฮ นี่คิบอมนะ…ถ้ากินข้าวเสร็จอย่าลืมกินยานะ” และประโยคแรกๆที่คิบอมมักพูดกับดงเฮคือ การแสดงความเป็นห่วงเป็นใย “ฉันรู้ว่าอธิบายตอนนี้ไปนายก็คงยังไม่รับฟัง แต่ฉันอยากคุยกับนาย พรุ่งนี้เจอกันได้ไหม?....ที่ร้านกาแฟของเราได้ไหม?.....ฉันรักนายนะ..รักมากมาก ดงเฮ…” สิ้นคำพูด คิบอมก็ยกแขนเกยหน้าผากด้วยความเหนื่อยล้า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น