คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : KIHAE:วันย้ายห้องของคิบอม(?)
Part 11
+++++++++++++++++++++++++++KIHAE+++++++++++++++++++++
ภาพเงาดำลางๆร่างบางๆที่ยืนเท้าเอวปรากฏเมื่อดวงตาเปิดขึ้นจากการหลับใหลมาเก้าชั่วโมง เมื่อชายหนุ่มเพ่งมองเพื่อปรับแสงที่แยงตา เขาก็พบกับสายตาที่จ้องเขม็งมายังเขาอย่างกินเลือดกินเนื้อ แถมการปลุกด้วยสายตายังไม่พอ ร่างบางยังแถมเสียงตวาดแหวและกรีดนิ้วชี้หน้าเขามาให้อีก เป็นการต้อนรับเช้าวันใหม่
“นาย=*=!!!! ”
“มีอะไร ”
“อะไรสะอีกล่ะ ก็ย้ายห้องนายน่ะสิ!! นี่ฉันอุตสาห์ยอมลดตัวมาช่วยนายจัดห้องเลยนะ ลุกขึ้นมาแล้วทำหน้าตาดีๆหน่อยสิ!!! ”….ใครขอให้เธอผู้นี้ช่วยผมย้ายห้องเหรอครับ= =?(คิบอมโมเม้นกวนทีนสุดขีดเพราะโดนปลุก)
“ เดี๋ยวค่อยย้ายก็ได้ ” คนที่ถูกปลุกเอ่ยปัดๆแล้ว หนีดึงผ้าห่มมาคลุมถึงปาก เพราะความหนาวจากแอร์ในห้อง…มาปลุกตอนเช้าตรู่แบบนี้ ถ้าไม่ใช่เธอ ผมอาจจะตบหัวคว่ำไปแล้วนะ
“ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย!!!!!!!!!!!!!! ” …..-*- หรือผมจะตบหัวเธอคว่ำดี!? หนึ่งสิ่งที่คิบอมเกลียดที่สุดคือการถูกดึงผ้าห่มออกทั้งอากาศหนาวๆแบบนี้ แถมเสียงหวานๆของลีดงเฮยังไต่ไปคีย์สูงสุดอีกต่างหาก!
“-*-”
ขวับ!
“ฮะ..เฮ้ย ทำอะไรน่ะ!! ปล่อยนะ!!!!” ร่างบางร้องประท้วงเมื่อร่างกายเสียหลัก เพราะถูกดึงให้จมไปกับที่นอนโดยคนข้างๆ แถมยังมีสัมผัสแปลกมาที่เอว……นี่ไอ้เด็กของเขากำลังจับเอวเขาเหรอ!?
“นอนเงียบๆสิ” คิบอมดุเบาๆ มือดึงผ้าห่มขึ้นมาแล้วเอาแขนมารองหัวเตรียมหลับสบาย แตกต่างกับคนข้างๆที่เตรียมประท้วงเต็มที่เพราะมือที่รวบเอวเข้าไว้อีกข้าง
“แต่ฉันอาบน้ำแล้วนะ!!/// ”
“ฉันขอให้เธอนอน ข้างๆฉัน เงียบ-เงียบ…ทำตามสิครับ ผู้ดูแล:P” ดงเฮจ้องคิบอมตาเขียว กัดฟันกรอดๆเพราะความแค้น แต่ก็ต้องแอบรู้สึกหวิวที่เอว ทั้งๆที่ก็มีหลายคนโอบเอวเขา แต่ทำไม? กับคนคนนี้ เขารู้สึกแปลกๆ…. แต่ลีดงเฮก็ปล่อยความคิดนั้นไป ผุดลุกขึ้นแล้วขว้าหมับที่ข้อมือคนที่นอน จนคิบอมต้องลืมตาเลิกคิ้ว ก่อนที่คนตัวบางจะประกาศเสียงกร้าว
“ฉันไม่แคร์กฎไร้สาระนั่นหรอก นายไม่ยอมลุก? งั้นฉันจะบังคับนายเอง!! ”
ด้วยร่างที่เล็ก และบางกว่าคิบอมมากนัก จึงทำให้คนร่างหนาประมาทแรงของผู้ดูแลตัวเองเกินไป จากที่ดูร่างบอบบาง คนตัวเล็กคนนี้ ก็ไม่รู้ไปขุดแรงมาจาก ดึงเขาลงมาจากเตียงแล้วลากไปห้องน้ำสบายๆ โดยไม่บ่นว่าหนักเลยสักนิด เป็นบุคคลที่ทำให้คิบอมคนนี้แปลกใจได้ตลอดเวลา
หลังจากที่ชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งสองได้ทำภารกิจที่ห้องตัวเองเสร็จสรรพ คิมคิบอมก็เริ่มเก็บของและเตรียมกระเป๋าโดยมีผู้นั่งไขว่ห้างจิบน้ำส้มสังเกตุการ์ณอยู่ห่างๆอย่างลีดงเฮ เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะเรียบร้อย ดงเฮก็โทรสายตรงไปยังนายชเว ซีวอนเพื่อเรียกคนมาขนกระเป๋าทันที แต่กระนั้นก็ถูกปฏิเสธิมาเพราะเหตุผลนั้นคือ…..
“โรงเรียนเรามีคนขนกระเป๋าที่ไหนล่ะดงเฮ” เสียงทางปลายสายฟังดูปลงตกเล็กๆ
“เอ้า! มินซอนไม่มีคนขนกระเป๋าได้ไง!!!”
“โรงเรียนครับ ไม่ใช่โรงแรม” คราวนี้คำตอบดูปลงตกกว่าเดิม แม้ในใจซีวอนอยากจะตอบไปว่า..
‘โรงเรียนพ่อมึง กูจะไปรู้หรอคร้าบบบบ’
แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะขืนตอบไปอย่างนั้น คนอีกฝั่งคงจะรีบบึ่งรถมาแล้วชี้หน้าด่าซีวอนคนนี้เป็นแน่ เขาเองก็ไม่อยากให้เวลาที่กำลังใช้กับฮีชอลต้องอันตธาลไปเพราะดงเฮ ตอบแบบเย็นๆเนี่ยแหละดีแล้ว….
เมื่อชเวซีวอนใช้ไม่ได้!!!....แล้วเขาจะหันไปใช้ใครเล่า!? ก็ต้องขนกันไปเองเยี่ยงนี้แล เท่าที่เคยได้ยินผ่านหูซ้ายทะลุหูขวามา ห้องของเด็กแลกเปลี่ยนจะอยู่ตึกหนึ่ง ชั้นสอง ห้องสุดท้ายหรือก็คือ ห้อง130….แล้วมึงจะหาคนขนกระเป๋าไปทำทองอะไร!? เดินไปก็ถึง แม้ห้องจะอยู่ข้างๆกัน แต่ดูเหมือนลีดงเฮจะไม่เคยสังเกต เห็นห้องนี้เลย แม้แต่หางตาก็ตาม การขนของยังลำบากยากเย็นไม่เท่าเมื่อตอนจะเข้าห้อง ก็กุญแจที่ให้มามันดันไขไม่ได้!!!!! ดูจากภายนอกไม่ได้จริงๆ แม้ลูกกุญแจจะเป็นสีทองอร่าม เหมือนที่จับประตู แต่มันก็ดันใหญ่เกินกำลังที่จะยัดมันเข้ารูกุญแจได้
“ใครมันช่างคิดทำกุญแจ!!!!????” (ได้ข่าวว่าพ่อแกเอง= =)
“เอากุญแจห้องเธอมาสิ”
“นายโง่รึเปล่า? กุญแจห้องฉันจะไปไขเข้าห้องนายได้ไง!?”
“ฉันจะงัด”
“เฮ้ยยยยย! เอาจริงดิ?รูกุญแจทองเลยนะ!!” มันพูดเหมือนจะเป็นทองแท้เนอะ= =+
“แล้วนาย…งัดเป็น?”
“งัดไม่เป็นแล้วจะขอไปทำไม?” คิบอมสวน จนสุดท้ายดงเฮก็ยอมล้วงกุญแจห้องแต่โดยดี ในขณะที่กำลงยื่นกุญแจให้อยู่นั้น มือบางก็ชะงัก แล้วดึงมันกลับมาซ่อนไว้ที่หลัง จ้องมองคิบอมด้วยสีหน้าไม่ไว้วาใจ
“นายเคยเป็นโจรป่าวเนี่ย?งัดห้องเป็นด้วย!”……- -เขางัดกันได้ทั้งประเทศแหละคุณณณณ
“ใช่ฉันเคยเป็นโจร….โจรขโมยจูบแรกคน” คำพูดของคิบอม ทำดงเฮเบิกตากว้างแล้วจ้องมาที่เขาอย่างไม่เชื่อสายตา แถมด้วยการหน้าแดงน้อยๆ
“นายรู้?ว่า คนคนนั้นคือฉัน?O_O///”
“จูบกับผู้ชายด้วยกันครั้งแรก ทำไมฉันจะจำไม่ได้” คิบอมพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา คนร่างหนาฉวยโอกาสหยิบกุญแจออกมาจากมือบาง แล้วจัดการเสียบลูกกุญแจเข้าไปแต่ยังไม่ทันทีจะแงะ พอหมุนมันก็ดัน…
กริ๊ก
“การงัดแงะมันง่ายและเร็วอย่างนี้เลยหรอ?”
“ยังไม่ได้แงะ กุญแจของเธอมันไขห้องฉันได้” คิบอมก้มลงมองลูกกุญแจธรรมดาๆในมือ ที่ดูเหมือนจะเสียบเข้าไปในรูกุญแจทองได้พอดิบพอดี….มินซอนมันไปจ้างคนทำกุญแจที่ไหนเนี่ย????
“ช่างเถอะ นายเอาของเข้ามาในห้องเลยและกัน”
เมื่อร่างบางเดินเชิดฉายเข้ามาในห้องหลังจากที่จัดการสั่งคนใช้กำมะลอเสร็จ คนร่างบางถึงกับอ้าปากค้างเมื่อสายตาได้สำรวจไปรอบห้อง…..ราวกลับเขากลายเป็นอลิซที่หลงมาในดินแดนมหัศจรรย์ ห้องขนาดหว้างกว่าห้องเก่าเขาสามเท่า ทุกอย่างรอบตัวดูไฮโซหรูหรา ฝ้าสีครีมทำเป็นลายวิจิตรงดงามน่ามองตัดกับ กรอบหลุยส์ของฝ้าที่เป็นสีทอง ห้องทั้งห้องจะตัดกันด้วยสีครีมกับทอง ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโซฟายาวขาดห้าคน มีสีและลายเดียวกับฝ้า มีเก้าอี้อีกสองตัวตั้งล้อมโต๊ะแก้วใสมีแจกันดอกไม้ประดับอยู่ตรงกลาง ทีวีจอแบนขนาดยักษ์ ตั้งด้านตรงข้ามกับโซฟา ให้ความรู้สึกวาดฝันไปถึงเวลาเมื่อดูโทรทัศน์ไปจิบชาไป เมื่อเดินถัดมาทางขวาก็เป็นประตูที่มีลูกจับสีทองเหมือนเดิม พอเปิดออกก็พบห้องครัว ที่ดูมีของทำครัวอยู่ครบถ้วน เมื่อเดินไปที่ตู้เก็บของก็พบอะไรที่มันน่าตกใจยิ่งกว่า คือ ลิฟต์ส่งอาหาร….ห้องนี้มีอีกชั้น??? เขายังไม่ทันสำรวจเครื่องชา คนตัวเล็กก็วิ่งออกไปข้างนอกทันที และเป็นไปอย่างที่คิด เขาก็พบกับบันไดหินอ่อนสีแดงที่พอเดินขึ้นไปข้างบนก็จะพบ เตียงแบบขนาดคิงไซส์สไตล์คลาสิกวินเทจ สีน้ำงินปักลิ่มเงินไปตามหมอน ผ้าห่ม ห้องชั้นบนจะมีสีฟ้าอ่อนมากจนเกือบจะกลายเป็นขาว ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่สูงเลยหัวไปไกล พอเอื้อมมือเปิดมันก็กลับกลายเป็น ห้องเสื้อผ้าสีครีม ที่ด้านซ้ายจะมีร่องสำหรับแขวนและวางเสื้อผ้า ทางขวาจะมีชั้นรองเท้าหลายอัน ตรงกลางจะเป็นชั้นวางกระเป๋าและของessesery
พอเดินออกมา ข้างๆเตียงมีชั้นหนังสือขนาดพอเหมาะ และข้างบตู้ขนาดเท่าขอบเตียงก็มีนาฬิกาสไตล์คลาสิกสีเงิน และมีแจกันดอกปีปช่อเล็กๆวางอยู่ กระเถิบมาทางซ้ายมือีกหน่อยก็จะพบ โคมไฟตั้งพื้นขนาดใหย่พอให้ส่องไฟถึงโต๊ะข้างๆ โต๊ะที่เป็นสไตล์คลาสิกหรู เมื่อร่างบางสำรวจทุกซอกทุกมุมยันพรมทุกเส้นเสร็จ คนตัวเล็กก็ต้องร้องแว้ดขึ้นมา จนทำให้คิบอมที่สำรวจห้องใหม่ต้องรีบขึ้นมาดู
“ดงเฮเป็นอะไร???” คนถามเอยหอบ เพราะรีบวิ่งขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง แต่กระนั้นคนตัวเล็กกลับมองเขาตาเขียว
“นายรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นใคร!!”
“เธอคือ ลีดงเฮ”
“แล้วนายรู้ใช่ไหมว่าฉันลูกใคร” คำถามแปลกๆถูกเอ่ยออกมาจากปากของดงเฮอีกครั้งพร้อมกับแนวเสียงตะคอกเล็กๆ
“ลีมินเฮ ผอ.มินซอน”
“แล้วทำไม!!!!!! ฉันเป็นลูกผอ.แล้วทำไมห้องฉันทั้งเล็กกว่า ไม่มีของหรูหรา สีห้องก็มีแค่สีเทา ไม่มีภาพวาดสวยๆจากศิลปินคนดังอย่างห้องนาย!!! ฉันเป็นลูกเขานะ!!!!!!!!” เอาสิคะ ลีดงเฮคนนี้ดันอยอมไม่ได้ที่ตนเป็นลูกผอ.แต่กลับได้ห้องธรรมดา แต่ไอ้เด็กน้อยตรงหน้าที่มาจากไหนก็ไม่รู้ดันได้ห้องเดอลุกซ์สุดหรูไป(ลีดงเฮคิดว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงแรมไปแล้ว)
“งั้นก็ย้ายมาอยุ่ด้วยกันสิ”
“เออสิ..ฮะ..เฮ้ย!!!นายว่าไงนะ!!!???”
“มาอยู่ด้วยกันสิ ห้องใหญ่ขนาดนี้ อยู่คนเดียวมันเงียบเกินไป” แม้เมื่อนานมาแล้วคิบอมจะชื่นชอบและติดการอยู่อย่างเงียบๆคนเดียวเวลาทำงานวิจัย แต่เมื่อเขามีรยออุค ซองมินและบางครั้งก็แจจุง ชีวิตเขาก็ไม่เคยเงียบสงบอีกเลย จนเขาติดที่จะมีคนมาพูดข้างหูบ่อยๆไปเสียแล้ว
“ได้หรอ?”
“ได้”
“อะแฮ่ม! อันที่จริงก็ใช่ว่าฉันจะอยากมาอยู่กับนายหรอกนะ แต่เพราะว่าฉันอยู่ห้องนู่นมานานก็เลยเบื่อ อย่าสำคัญตัวเองผิดล่ะ- -//” ดงเฮกระแอม ทำเป็นมองดูของในห้องนอนแทนที่จะมองหนาอีกฝ่าย ทำให้คิบอมเผลอยิ้มมุมปากเพราะคนปากแข็ง
“ไปขนของของเธอมาสิ” คิบอมเอ่ยบอก แต่ก็ทำให้ดงเฮที่กำลังแกล้งชมนกชมไม้ชะงัก แล้วรีบหันขวับมาจ้องร่างหนาทันที
“ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยแพ็คของเองเลยนะ!! แล้วจะเอาอะไรมาให้ฉันขนของ” ดงเฮกอดอกเชิดหน้า แล้วก้าวลงบันได ทำให้คิบอมต้องตามไปไกล่เกลี่ย
“งั้นก็แพ็คสะตอนนี้เลย ทำแบบที่ฉันทำ เธอจะได้ทำเป็น ส่วนขนเดี๋ยวฉันช่วยก่อนก็ได้” คิบอมเริ่มเอ่ยข้อต่อรอง ร่างบางหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนแก้มป่อง ก่อนจะชี้นิ้วไปที่แก้มป่องๆทันที
“นายจะบอกว่าฉันแพ็คของไม่เป็นนายเลยดูถูกฉันใช่ไหม!!!” …..ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด= =;
“ก็ถ้ามันทำให้เธอเก็บของเองก็…ใช่ฉันดูถูกเธอ”…ไอ้คนนี้ก็ไปกระเดียดตามเขาอีก= =;;
“ฮึ่ย! คนอย่างลีดงเฮไม่ยอมให้ใครมาดูถูกง่ายๆหรอกนะ!! ไปรอฉันหน้าประตู อีก15นาทีฉันจะกลับมาพร้อมของ อย่า-ไป-ไหน-ล่ะ” ดงเฮกัดฟันกรอดๆ ดุนนิ้วลงไปที่แก้มป่องเบาๆ ตาก็เงยไปหลี่มองคนตรงหน้าใกล้ๆ จนทำให้ตัวเองต้องกระแอมหน้าแดงแล้วกระแทกเท้าเดินออกไป
1ชั่วโมงผ่านไป
คนตัวเล็กเดินกระเซอะกระเซิงออกมาจากห้อง129 ใบหน้าเปื้อนฝุ่น ผมก็ยุ่ง ในมือมีกระเป๋าใบใหญ่สีเหลืองที่ดูท่าทางจะยัดผ้าไม่เข้า เพราะมีเสื้อผ้าบางชิ้นโผล่ออกมาข้างนอกเล็กๆ มืออีกข้างก็มีถุงช๊อปที่ใส่ของเต็ม จนล้น ท่าทางของลีดงเฮและคำประกาศกร้วว่า15นาทีกลายเป็น1ชั่วโมง ร่างหนาจึงเผลอยิ้มออกมาบางๆ แต่ก็ทำให้ดงเฮเผลอปล่อยของที่อยู่ในมือหล่นลงพื้นเพราะรอยยิ้มนั่น
เมื่อร่างเล็กเงยหน้าไปพบกับรอยยิ้มบางที่ปากของชายตรงหน้า ก็เหมือนดวงใจล่วงหล่น เพราะรอยยิ้มนี้คือ…รอยยิ้มที่ทำให้ดงเฮตกหลุมรักยูโฮ แต่ทำไม?....เขากลับไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับที่รู้สึกับยูโฮ? เขารู้สึกแปลกๆในใจ รู้สึกว่ามีอะไรในอกกำลังเต้นรัว…..และมันก็แปลกที่เขาเองก็……อดจะยิ้มตามไม่ได้
“ของตกแล้วนะ” คำพูดเตือนสติของคนตรงหน้า ทำให้ดงเฮหุบยิ้ม ก้มลงไปเก็บของทันที
“เอาไป แล้วก็ไปวางไว้ที่ห้องนอนข้างๆที่ของนายด้วย……” ดงเฮโยนของให้คิบอมแล้วเดินนำเข้าไปในห้องข้างๆ….บางสิ่งบางอย่างในใจเขากำลังรู้สึกแปลกๆ เมื่อเขาเอ่ยถึงข้างๆที่ของนาย มันให้ความรู้สึกเหมือนสามีภรรยา…
ไม่ทันที่จะหันมาจาการวางของ คนตัวเล็กก็บ่นหิวในทันใด จนคิบอมต้อฝยอมที่จะเป็นคนลงมือทำอาหารให้ นั่นก็คือ รัมยอน แต่ก็นะ..ลีดงเฮสะอย่าง แค่บะหมี่เขาก็ต้องปฏิเสธิอยู่แล้ว แต่พอขอกินอย่างอื่น คิบอมกลับปฏิเสธิ โดยอ้างว่าตนเองทำอาหารเป็นเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น โดยที่เหตุผลที่แท้จริงคือจะสอนให้ดงเฮทำอาหารเองให้เป็น แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่ตอนนี้ควรจะไปนั่งวิจัยปลานีโม่ ต้องมาเป็นกุ๊กผู้ช่วยของคนอวดดีตรงหน้า….
“บิมบิมบับ? ทำเป็นหรือ?”
“เอ่อ..เป็น..เป็นสิ! ฉันลีดงเฮนะ แค่บิมบิมบับทำไมจะทำไม่เป็น-^-!” ……ตอกไข่ยังตอกไม่เป็นเล้ยยยย
“ต้องทำยังไง?”
“อะไร?”
“บิมบิมบับ- -^”
“อ้อ!......เอ่อ…หุงข้าว!!! ใช่ หุงข้าว งั้นนายหุงข้าวไปก่อนนะ ฉันปวดท้องม้ากมาก..เดี๋ยวมานะ” ดงเฮทำท่ากุมท้องก่อนจะรีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำไป…..ไม่ใช่ว่าผมหนีนะ! แต่มาหาวิธีทำต่างหาก!!!
ทันทีที่ร่างน้อยของลีดงเฮนั่งลงบนฝาโถส้วม ไอโฟนสีเหลืองก็ปรากฏกายอพร้อมกับการเสริช์หาวิธีทำบิมบิมบับในเน็ตอย่างทันที สายตาไล่ไปตามตัวเลือกบนหน้าจอโทรศัพท์ นิวเรียวไสล์ดหาเพจที่สนใจ ขาทั้งสองข้างก็ถูกยกขึ้นเพื่อเป็นที่ชันคาง กลายเป็นท่าเด็กน้อยกดไอโฟนกอดเข่าโยกตัวไปมา…..เมื่อหาวิธีทำได้แล้วก็รีบท่องจำให้ขึ้นใจเหมือน ท่องตารางธาตุ คนร่างเล็กก็วิ่งไปที่ครัวทันที โดยในใจแอบหวังให้ข้าวยังไม่สุก เขาจะได้มีเวลาทำใจอีกนิดแต่ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างใจเขาเลยสักนิด
“ทำไมข้าวสุกเร็วจัง-*-!!”
“เธอต่างหากที่ไปห้องน้ำนาน…แล้วตกลงทำยังไง”
“อะไร?”
“บิมบิมบับ- -^^” คนคนนี้จะเลี่ยงการทำบิมบิมบับไปถึงไหนกันนะ- -
“อ้อ…เอ่อ..ทำ..ทำ..ทำไงว่ะ” ดงเฮเอ่ยเบาๆ ในหัวนึกถึงตอนที่ดูรายการทำอาหาร (สูตรไม่ได้ช่วยอะไรเลย) “เอากระระมังมา แล้วก็เทข้าวไป…อย่างนั้น..อือม์…แล้วก็เทน้ำส้มสายชูไป”
“น้ำส้มสายชูเท่าไหน?” คิบอมถามคนตัวเล็กที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่ข้างๆเขา….ในหัวก็คิดแต่คนคนนี้จะทำถูกสูตรไหมหนอ? เขาจะได้ตายเพราะบิมบิมบับไหมหนอ?...
“เอ่อ กะๆเอาก็ได้แล้วมั้ง”….ในทีวีเขาก็เทๆไปนั่นแหละ
“ประมาณนี้พอไหม”
“ไหนๆ ไม่เห็นเลยอ่ะ” ดงเฮแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น ทั้งๆอยู่ใกล้กันแค่นี้…ใส่ๆไปเหอะ รสชาติออกมาก็เหมือนกันแหละ:P
“มานี้สิ….พอไหม”
“อ๊ะ!” ดงเฮร้องเมื่อคิบอมรั้งเอวเขาเข้ามาชิดตัว แล้วร่างสูงก็ถอยไปยืนซ้อนอยู่ข้างหลัง
“ว่าไงพอไหม?” คิบอมก้มลงไปกระซิบข้างๆหูของดงเฮ จนคนตัวเล็กขนลุก สีที่หน้าก็เริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง…และบางอย่างข้างในอกซ้ายก็กำลังเต็นรัว….ปากบางเม้มแน่น ก่อนจะซูดหายใจ ปากแดงก็เปล่งเสียงออกมาเพียงแผ่วเบา
“พะ..พอแล้ว”
“พอแน่เหรอ?” คิบอมเขยิบเข้าไปใกล้อีก จนแผ่นหลังของดงเฮสัมผัสกับอกแกร่งของคิบอม….ความรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก..แน่นหน้าอกอย่างบอกไม่ถูก แต่สิ่งที่อยู่ในใจนี้มันอะไรกัน??
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
“พะ..พอ ถามซ้ำทำไม” ดงเฮเอ่ยเสียงขุ่นๆ พยายามที่จะระงับอาการหัวใจจะวาย แต่อีกฝ่ายกลับกำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
“งั้นเหรอ? ก็แค่ถาม เพื่อความแน่ใจ….ว่าเธอไม่ได้อยากให้ฉันใกล้กว่านี้:P”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กราบสวัสดีนักอ่านทุกท่านคะ^^ แหะๆไม่ได้อัพ น้านนานเนอะ ก็ขอโทษนะที่ไม่ค่อยได้อัพ
พอดีวันนี้เราเพิ่งเสร็จงานกีฬาสีเลยได้ฤกษ์ลง แหะๆ ตอนนี้เราก็เซอร์วิสคิเฮแบบจัดเต็ม
ส่วนเรื่องชอร์ทฟิค เราแต่งเสร็จ(นาน)แล้ว แต่ยังไม่ได้เอาลง เพราะไม่รู้จะมีคนอ่านหรือเปล่า แต่เรารับลองว่าสนุก
แล้วก็กำลังคิดจะแต่งอีกเรื่องหนึ่งอยู่ แต่เป็นเรื่องที่เสี่ยงเรตติ้งตกมากก เพราะว่า มีเอสเจไม่ครบทุกคู่แถมมีของญี่ปุ่นกับไทยด้วยอีกต่างหากกก
ก็อยากฝากถามว่า ชอบคู่ไหนกันนน ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีได้หมดเอามาเลยย
ความคิดเห็น