ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fanfic] เจ้าหญิงวุ่นวายกับองค์รักษ์เย็นชา (เบลล์ฝน)

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 4

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 57


    ตุ้บ

    ร่างบางถูกโยนลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี

    "หนักชะมัด" คนที่อุ้มร่างมาปาดเหงื่อบนหน้าไปบ่นไป
    แต่ก็ยังไม่วายชำเลืองตาไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง

    น่ารักจังแหะ..

    พอๆ

    เธอสะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะเริ่มสำรวจว่าอีกฝ่ายว่าบาดแผลตรงไหนบ้าง

    ลอยถลอกตามขานิดหน่อยกับรอยช้ำที่แขน

    "ช้ำง่ายชะมัด" พูดจบก็ลุกไปหยิบหลอดยาแก้ปวดเมื่อยมาทาให้คนที่นอนอยู่

    'เบลล์เมื่อยมั้ย'

    'ก็เมื่อยนะพี่'

    'มาพี่นวดให้'


    ภาพในอดีตแล่นเข้ามาในสมองเธอ

    สัมผัสที่เธอต้องการมาโดยตลอด

    แต่ทำไมตอนนี้มันกลับน่ารังเกียจได้ขนาดนี้

    เกลียด

    เกลียด!!

    มือที่นวดให้บีบแรงขึ้น

    แรงขึ้น..

    ตามความโกรธความเกลียดที่กำลังพุ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

    "เจ็บ" คนที่นอนอยู่พรึมพรำ

    คำพูดนั้นดึงสติเธอกลับมาอีกครั้ง

    เธอชะงักไปก่อนจะลูบแขนของคนที่นอนอยู่

    เผยให้เห็นรอยแดงจ้ำๆที่เธอบีบเมื่อกี้นี้

    "ช่วยไม่ได้นิ เธอทำกับฉันก่อนเองนะ"

    "เบลล์"

    เธอหันไปมองคนที่เรียกชื่อเธอขึ้นมา

    "พี่ขอโทษ..พี่คิดถึงเบลล์นะ.."

    อ่า คงฝันสินะ

    เธอเลื่อนหน้าเข้าไปจ้องให้ชัดๆว่าอีกฝ่ายหลับจิงหรือว่าแกล้งหลับ

    ฟึ่บ

    จู่ๆคนที่นอนอยู่ก็จับหน้าเธอไว้ พรึมพรำอะไรออกมาไม่รู้เธอคงฟังไม่รู้เรื่องเพราะตอนนี้เสียงหัวใจเธอมันดังซะยิ่งกว่าเสียงที่อีกฝ่ายพูดซะอีก

    "เบลล์" ร่างบางเอ่ยชื่อขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงแผ่วเบา

    ริมฝีปากนุ่มกดลงที่ริมฝีปากคนร่างสูง

    มือของร่างบางเริ่มซุกซนไล้ไปตามร่างกายร่างสูง

    "พระองค์อย่านะพะยะค่ะ"เธอพยายามผลักร่างอีกฝ่ายออกแต่ก็ไม่เป็นผลกลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายรวบแขนเขาไว้ทั้งสองข้างก่อนจะเริ่มซุกไซร์ตามซอกคอ

    "ร้อนแหะ"ร่างบางบ่นพึมพรำก่อนจะถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออกเผยให้เห็นบราสีเหลืองที่ช่างตัดกับผิวสีขาว

    "เซ็กซี่ชะมัด" เธอหลุดปากออกไปอย่างไม่รู้ตัว

    เขาแสยะยิ้มก้มลงกระซิบข้างหูเธออย่างแผ่วเบา

    "เมื่อกี้ว่าไงนะค่ะ"

    "เอ่อ กระหม่อมว่าพระองค์เมานะพะยะค่ะ"

    "เมาอะไร นี่เบลล์ ฉันชอบเบลล์มากนะ เหมือนเคยเจอกันที่ไหนเลย"

    นิ้วยาวเริ่มลูบไล้ไปตามใบหน้าของเขมิ

    "หน้าก็คุ้นๆนะ แถมชื่อก็ยังคุ้นๆอีกนะสิ"

    พูดจบคอของเขมิก็ได้ถูกแสดงความเป็นเจ้าของซะแล้วกระดุมถูกปลดออกทีละเม็ดอย่างช้า
    ลมหายใจอุ่นสัมผัสเข้าที่ซอกคอ



    นี่เรากำลังจะโดนข่มขืนรึเนี่ย...
    บ้านะ เราเป็นเมะไม่ใช่เรอะ





    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน"

    เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาก็พบกับสภาพตัวเองที่ไม่มีอะไรใส่อยู่มีเพียงแค่ผ้าห่มผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายไว้ มองไปรอบเตียงก็เห็นแต่เสื้อผ้าที่วางอยู่ระเกะระกะ

    นี่มันละครไทยชัดๆ

    "โอย พระองค์จะแหกปากทำไมพะยะค่ะ"เสียงบ่นงัวเงียดังมาจากข้างๆ

    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?เธอทำอะไรฉัน?แล้วทำไมมันเป็นแบบนี้?"ฉันรัวคำถามใส่ทันทีที่เจอสภาพทั้งของตัวเองและเบลล์ เบลล์สภาพก็ไม่ต่างจากฉันหรอกแค่ มีรอยแดงเป็นจ้ำๆอยู่รอบคอแถมสันกรามและไหปลาร้า อย่าบอกนะว่า....

    "กระหม่อมควรถามพระองค์มากกว่าว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรอยู่ๆพระองค์ก็มาข่มขืนหม่อมฉันแถมไอ่รอยแดงๆตามหน้าตามตัวนี่พระองค์เป็นคนทำหมดเลยนะพะยะค่ะ--*"

    "พอๆหยุดแค่นั้นเลยฉันไม่อยากฟังแล้ว"

    TOT โฮ ใครจะไปอยากฟังไอ่เรื่องบ้าๆแบบนี้ละ
    นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปเนี่ยยยยยย

    "ไม่แค่นั้นนะพะยะค่ะ มีการบอกหม่อมฉันให้ช่วยหน่อยด้วย"

    "เดี๋ยวนะ แล้วเธอได้ทำม้ายยย"

    "ก็ กระหม่อมเห็นพระองค์เป็นถึงเจ้าหญิงกระหม่อมไม่กล้าชัดคำสั่งหรอกพะยะค่ะ แน่นอนว่าทำ"

    โอ๊ยยย อยากจิพูดคอตายใต้ต้นแตงโม
    สาบานเลยนะถ้าฉันมีสติฉันคงไม่ทำบ้าอะไรแบบนี้

    "กระหม่อมว่าพระองค์คงเมาอากาศนะพะยะค่ะ แบบว่าพระองค์ไม่เคยออกไปไปไหนมาก่อนแล้วออกงี้มันเลยเมาไปเลย"

    "พูดจริงพูดเล่นเนี่ยเบลล์-_-"

    "จิงจังพะยะค่ะ*0*"

    "แล้วนี่จะเอาไงต่อดีละ"ฉันถึงกับกุมขมับตัวเองกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเรื่องบ้าชัดๆ

    "เออ ช่างเหอะเอางี้ไหนๆก็ไหนๆและ เรามาลองเป็นแฟนกันดูมั้ย รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นไง ไหนๆเราสองคนก็ได้เสียกันแล้ว" ฉันพูดขึ้นเพราะเบลล์ไม่พูดไม่ตอบไม่แสดงความเห็นไรสักอย่างมัวแต่นั่งเอ๋ออยู่

    "ตลกนะพระองค์ -_-" เบลล์ถึงกับเบ้ปากให้กับความคิดของฉัน

    "เห้ย น่าสนุกดีออก ถือว่าเล่นเกมไปด้วยใครรักใครก่อนแพ้โอเคปะ โอเค ดีมากนะคร้าที่ร้ากกก" ฉันเข้าไปอ้อนกอดเอวเบลล์เอาคางเกยไหล่ไปมาโดยที่ไม่รอให้เบลล์แสดงความคิดเห็นใดใดทั้งสิ้น ว่าง่ายๆก็เผด็จการแหละ แต่เหมือนเบลล์จะรู้ว่าเกิดห้ามฉันไปก็ไม่ได้อะไรเลยได้แต่นั่งถอนหายใจ





    "นี่เป็นแฟนกันต้องจับมือนะ" ศนันในนามดุจดาวสะกิดแขนก้อยยิกๆให้หันมาฟังสิ่งที่ตัวเองต้องการ
    ก้อยเลิกคิ้วอย่างสงสัย

    "จับมือ แบบนี้ไง ข้ามถนนไปด้วยกัน"

    ร่างบางไม่รอช้าคว้ามือมาจับมือคนร่างสูงไว้แน่น

    "ระวังจะรักหม่อมฉันขึ้นมาจริงๆนะพะยะค่ะ" เธออดหัวเราะกับอาการของคนตรงหน้าที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ได้
    ดูก็รู้ชัดๆว่าเขิน

    "รักก็บอกว่ารักไม่ต้องมาก้มหน้าหรอก~"

    "ตลก!" คนร่างบางเงยหน้าขึ้นไปถลึงตาใส่


    เหอะ ใจง่ายชะมัด

    คนอะไรอยู่ด้วยกันไม่กี่เดือนเขินกันซะแล้ว

    แต่ช่างมันเถอะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของเธอนะศนันธฉัตร


    "วันนี้ไปเที่ยวกัน"

    "วันนี้เลยหรอ?"คนร่างบางหันมาถาม

    "อือ วันนี้เลยรีบ"


    ใช่ เธอรีบ

    เมื่อเช้าอยู่ๆเสด็จพ่อก็โทรมาบอกให้เธอรีบจัดการแผนนั้นได้เลยภายในวันนี้ต้องทำให้เสร็จโดยที่ท่านไม่ได้เล่าอะไรให้เธอฟังเลย เธอเองก็ไม่กล้าที่จะถามว่าทำไมถึงรีบขนาดนั้น เพราะเธอเองก็พอจะเดาได้ว่าเป็นความหมั่นไส้ส่วนตัวแต่เธอเองก็แค้นสิ่งที่อีกฝ่ายทำเธอไว้ด้วยแหละบางทีรีบๆจัดการให้จบจะดีกว่า

    "เบลล์!! เหม่ออะไรอยู่เรียกตั้งหลายรอบแล้วนะทำไมไม่ได้ยิน"

    "อ่อ กำลังคิดว่าจะไปที่ไหนดีพะยะค่ะ"

    "แล้วคิดออกยังละ?"

    เธอส่ายหัวกลับไปแทนคำตอบ

    "ไม่ต้องคิดแล้วละ ไปน้ำตกกัน ที่นอกเมืองกันมันมีป่าอยู่นะ ตามมาสิ"

    ว่าแล้วก็โดนจับมือลากขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังนอกเมือง

    ติ๊ง

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเตือนว่ามีข้อความใหม่เข้ามา

    'พระราชาบอกว่าจัดการให้เสร็จภายในวันนี้นะพะยะค่ะ'


    เออ รู้แล้วละนะ ไม่ต้องย้ำ

    เธอคิดในใจก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าที่เดิม


    ซู่ ซู่

    เสียงน้ำตกแสดงให้รู้ว่าถึงที่หมายแล้ว

    เธอยืนบิดขี้เกียจด้วยความล้าของแขนที่นั่งอยู่ท่าเดิมมานานโดยที่มีร่างบางหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆ

    "ขำอะไรหรอพะยะค่ะ--*"

    "ป่าววววววว"

    "กระหม่อมให้พูดใหม่นะพะยะค่ะ"

    "ไม่บอกได้มั้ยล้า-3-"

    "ไม่ได้นะพะยะค่ะ"

    แต่อีกฝ่ายกลับหันหน้ามาทำหน้าทะเล้นแลบลิ้นใส่เธอก่อนจะวิ่งหนี

    "เดี๋ยวก็หลงหรอกพะยะค่ะ" เธอก้าวขาวิ่งตามคนข้างหน้าไป

    ตลอดระยะทางที่วิ่งตามมันก็เพียงพอให้เธอคิดอะไรได้ คิดว่าเธอต้องทำมันจริงๆหรอ?ถึงเธอจะแค้นแต่ก็ไม่ได้แค้นมากขนาดนั้นซะหน่อย
    ยังไงเธอก็โกรธก็เกลียดคนที่เธอเคย(?)รักไม่ลงหรอกแต่เหมือนความรู้สึกพ่อจะสำคัญกว่าความรู้สึกตัวเองไม่สิอาจเพราะตัวเธอเองด้วยเหตุการ์ณเมื่อ10ปีที่แล้วมันยังอยู่ในความคิดเธอตลอดเวลา
    แต่เธอเองก็เสียคนที่รักไป
    เสด็จแม่..

    "ทำฉันก่อนนะศนัน"

    "ห้ะ?เมื่อกี้พูดอะไรนะ?"

    ร่างสูงไม่ได้ตอบแต่กลับเดินเข้าไปใกล้ๆช้าๆทีละก้าว

    ทำเอาคนตรงหน้าเธอถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

    "เบลล์ ดะ ดะ เดี๋ยวสิ"

    ร่างบางเดินถอยหลังในขณะที่เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ

    วัตถุสีเงาเงินเป็นประกายถูกชูขึ้นมาจนาสุดแขน

    "กรี๊ดดดดดดด"

    ร่างบางล้มลงกับพื้นตามแรงเหวี่ยงของอีกฝ่าย เธอก้มลงบีบคอด้วยความโกรธแค้นความเกลียดชัง

    "พี่จำอะไรได้มั้ยว่าพี่ทำอะไรกับฉันไว้!!!!!!!"

    "แค่ก พูดเรื่องอะไร แค่กๆ" ฝนเริ่มหายใจไม่ออกเมื่อแรงบีบเพิ่มขึ้นและแน่นขึ้นเรื่อยๆ

    "พี่จำไม่ได้หรอ?!! เมื่อ10ปีที่แล้วไง พี่สั่งให้พ่อพี่มาเผาเมืองฉัน ถ้าพี่ไม่ชอบฉันรังเกียจฉันก็ไม่เห็นต้องมาทำกับพ่อกับแม่ฉันอย่างนี่เลย!!!!"

    "เบลล์"

    "พี่รู้มั้ยแม่ฉันตายเพราะพี่แถมฉันกับพ่อก็เกือบตายหนีกันแทบไม่ทันใช้ชีวิตข้างทางไปวันๆกว่าฉันกับพ่อจะกลับมาตั้งเมืองได้รู้มั้ยมันลำบากแค่ไหน!!! เพราะพี่คนเดียว ในขณะที่ฉันกับพ่อจะเป็นจะตายพี่กลับประกาศเปิดตัวคู่หมั้นมีความสุขหน้าตาเฉย พี่นี่มันผู้หญิงน่ารังเกียจชัดจริงๆคำว่ารักของพี่มันนี่มัน ขยะชัดๆ!!!!!!"

    ปลายมีดที่เธอถืออยู่ค่อยๆเลื่อนมาที่คอของอีกฝ่าย

    "ลาก่อนนะ เจ้าหญิงฝน"




    Memmory : sanantachat


    คุณเชื่อในเรื่องพรมลิขิตมั้ย

    ไม่สิจะเรียกว่าบังเอิญหรือโลกกลมหรืออะไรดีละ

    ย้อนกลับไปเมื่อ10ปีที่แล้ว


    "พ่อบอกให้เลิกยุ่งกับเจ้าชายเบลล์แห่งเมืองพลเดชได้แล้ว!!!!"

    "ไม่เพค่ะ!!!!"

    "ลูกก็รู้ว่าเมืองเราทั้งสองเมืองไม่ถูกกัน!!"

    "ลูกรักเบลล์นะเพคะ!"

    "งั้นก็รอดูนะว่าพ่อจะทำอะไร เราจะได้เห็นดีกัน!!"

    ดูเหมือนฉันในตอนนั้นจะไม่ฟังอะไรพ่อเลย

    จะว่าฉันดื้อหรอ?

    ไม่ใช่หรอกนะ เค้าเรียกว่าทำเพราะรักมาก

    ฉันเชื่อว่าความรักชนะทุกอย่าง

    รวมทั้งกำแพงความแค้นของพ่อฉันและพ่อเบลล์.....

    แต่เหมือนกลับว่าทุกอย่างที่ฉันคิดจะผิดไปหมดทุกอย่าง


    ในคืนนั้นเองฉันก็ถูกปลุกด้วยความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต

    สีแดงของเพลิงไฟกำลังแผดเผาอยู่ปราสาทอันใหญ่โตที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเมืองฉันสักเท่าไหร่อย่างน้อยมันก็พอให้ฉันมองเห็นจากห้องฉันได้นะ

    ปราสาทเบลล์?!

    ฉันหยิบแว่นขึ้นมาใส่เพื่อให้มองเห็นให้ชัดว่าใช่ปราสาทเบลล์จริงๆมั้ย

    ใช่

    แน่นอนว่าฉันรีบวิ่งลงไปคอกม้าทันทีแม้ว่าจะมีทหารมาห้ามฉันไว้แค่ไหนก็ตาม

    ตลอดทางที่ฉันขี่ม้าไปยังปราสาทเบลล์ฉันก็ได้แต่ภาวนา ภาวนาขอให้มันไม่ใช้แบบที่ฉันคิดและภาวนาขอให้คนที่ฉันรักไม่เป็นอะไร

    แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้างฉัน

    "เราไม่พบเจ้าชายเบลล์และท่านกษัตริย์เขมทัตต์กระหม่อมว่าคงสิ้นพระชนม์ทั้งคู่แล้วพะยะค่ะ"

    "งี้สิ โดนเผาขนาดนี้รอดไปก็พระเจ้าและ เอาละเผาเมืองมันให้หมด!!"

    "พ่อทำอะไรลงไปนะ!!!!!!!!"

    ฉันแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน

    เบลล์ตายแล้ว...

    ไม่จริงใช่มั้ย

    "พ่อเตือนลูกแล้ว ลูกไม่ฟังเองนะ พ่ออุส่าเตือนดีๆว่าพ่อไม่ชอบ แล้วพ่อจะย้ำอีกครั้งนะว่าเบลล์ตายแล้ว"

    ถ้าฉันตัดสินใจเชื่อพ่อครั้งนั้นว่าจะไม่ยุ่งกับเบลล์และไม่ใจอ่อนเหมือนครั้งที่ผ่านๆมาเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นสินะ

    เบลล์ตายเพราะฉัน

    ฉันเป็นคนฆ่าคนรักตัวเอง

    ขอโทษนะเบลล์

    "ฮึก ขอโทษนะเบลล์ ฮึก พี่ขอโทษ"

    ฉันร้องไห้อย่างไม่อายสายตาใครว่าเค้าจะมองยังไง

    วินาทีนั้นหัวใจฉันเหมือนได้ตายไปพร้อมกับกองไฟที่เผาอยู่



    แต่

    เหมือนพระเจ้าก็แอบเข้าข้างฉันอยู่บ้างนะ

    อยู่ๆก็ส่งคนหน้าเหมือนมาให้แถมยังชื่อเหมือนอีก

    "หม่อมฉัน เขมิศรา พลเดช องค์รักษ์คนใหม่ของพระองค์ขอสัญญาว่าจะปกป้องพระองค์ด้วยชีวิตพะย่ะค่ะ"

    "พ่อๆ ชื่อคุ้นๆเนอะว่ามั้ยเพค่ะ"

    "อืม เป็นไปไม่ได้หรอกดูหน้าสิอย่างกับผช.แถมอีกอย่างเมืองนั้นไม่เหลือซากอะไรเลยเผาซะขนาดนั้นหนีได้ก็พระเจ้าแล้วแหละ อีกอย่างคนบนโลกชื่อซ้ำๆกันก็มีหน้าตาเหมือนกันก็มีนะศนัน"


    ใช่ แค่หน้าคุ้นและชื่อเหมือน

    แต่มันกลับทำให้หัวใจฉันที่ตายไปในกองไฟของคืนนั้นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง

    เต้นแรงขึ้น

    แรงขึ้น

    หยุดสักทีสิ หยุดเต้นสักที ก็แค่คนหน้าเหมือนนะ


    ฉันชอบเวลาที่ได้จับมือกับเธอ

    ชอบเวลาที่เธอถอดเสื้อมาคลุมให้

    ชอบเวลาที่อยู่ด้วยกัน

    ถึงเราจะเจอกันได้ไม่นาน แต่ฉันก็มันใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้คือความรัก

    แต่ทำไมบางครั้งเวลาฉันมองตาเธอก็รู้สึกว่าเธอเองก็กำลังรักฉันอยู่เหมือนกันและบางครั้งก็ดูเหมือนว่าเธอเกลียดชังฉันมาก สายตาแบบนี้มันคืออะไรกัน



    แต่เหมือนดวงตาจะเป็นหน้าต่างของหัวใจ

    เมื่อจู่ๆเบลล์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับมีดในมือกระชากตัวฉันจนล้มลงก่อนจะพูดทุกสิ่งทุกอย่างออกมา

    "พี่จำไม่ได้หรอ?!! เมื่อ10ปีที่แล้วไง พี่สั่งให้พ่อพี่มาเผาเมืองฉัน ถ้าพี่ไม่ชอบฉันรังเกียจฉันก็ไม่เห็นต้องมาทำกับพ่อกับแม่ฉันอย่างนี่เลย!!!!"

    สมองฉันเริ่มประมวผลประติดประต่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดข้ึน

    คนที่อยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่องค์รักษ์คนเดิม

    แต่เขาคือเจ้าชายเบลล์ เจ้าชายที่ฉันรักมาโดยตลอดถึงแม้พ่อจะหาคู่หมั้นให้ฉันก็เถอะ

    "เบลล์" ฉันเรียกชื่อเขาอย่างยากลำบากเพราะมือที่บีบคอฉันอยู่มันแน่นขึ้นเรื่อยๆจนหายใจไม่ออก

    หายใจไม่ออก

    ทำไมมันง่วงแบบนี้นะ

    นี่ฉันกำลังจะตายหรอ

    แต่ถ้ามันสามารถชดใช้กับสิ่งที่เกิดข้ึนได้ฉันก็ยอมนะ

    "ลาก่อนนะ เจ้าหญิงฝน"

    นั้นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน....




    ________________________________________________________________



    ขอโทษน้าาาาา กว่าจะคิดเรื่องออก ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างแต่งเบย 
    มีเรื่องให้คิดเยอะแยะเลยนึกพลอตเรื่องไม่ค่อยออกงะ ขอโทษที่ทำให้รอนาาาา 




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×