ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The black hole สงครามเเห่งกาลเวลาเเละมิติมืด

    ลำดับตอนที่ #4 : การเดินทางที่แสนยาวนานสิ้นสุดลง

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 49


    ทั้งสามออกเดินทางจากหมู่บ้านกลางหุบเขา   ไปตามทางที่ได้รับคำแนะนำจากอัลวาลฮิม

    ออกมาไกลมาก  

    ต่อจากนี้ไปจะถึงป่าที่เรียกว่าป่าแห่งความตาย    ชั้นได้ยินเรื่องเล่ามาว่ากองทัพหลักของรัฐบาล    ได้ไล่ตามโจรป่าพวกหนึ่งที่มีกำลังพลมากมายเข้ามาในป่าแห่งนี้   ปรากฏว่ากำลังพลของทั้งสองได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย    ชาวบ้านที่เดินผ่านใกล้ๆกับป่านี้ในบริเวณใกล้เคียงต่างบอกเล่ากันว่าได้ยินเสียงโหยหวญแห่งความทรมารดังมาจากในป่าเทเลอร์พูดขึ้น  

      ช่างเป็นเรื่องหลอกเด็กที่แต่งได้น่ากลัวเหลือเกินนะ   เมเฮนพูดพลางหัวเราะ   

     นายไม่เชื่อก็ตามใจนะแต่อย่างไรเราก็ต้องผ่านป่านั้นถ้านายไม่อยากอ้อมไปทางที่ไกลกว่า    แน่นอนตอนพวกนายหนีเมื่อห้าปีที่แล้วนายของพวกนายคงจะพามาทางอ้อมแน่เพราะคงไม่อยากให้พวกนายตายกันหมด  เทเลอร์พูดขึ้นพลางเดินนำหน้าออกไปตามทางที่มุ่งหน้าสู่ป่าแห่งความตาย

    ~ไม่นานนัก~

    นั่น   เทเลอร์พูดพลางชี้ไปที่ป่าที่ดูเงียบและสงบต้นไม้ที่หนาทึบจนมองไม่เห็นข้างใน    พวกเขาทั้งสามได้เดินเข้าไปในป่าแห่งความตายป่าที่แม้กระทั่งแสงอาทิตย์ก็ไม่สามารถสอดส่องเข้าไปข้างในได้เนื่องจากต้นไม้ที่หนาทึบ    ป่าที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงของแมลงเล็กๆที่ร้องระงมตามป่าทั่วๆไป   มันช่างตัดกับธรรมชาติโดยสิ้นเชิง   ภายในป่าต้นไม้แต่ล่ะต้นคงอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีมันเป็นป่าที่มีอายุยาวนานมาก

             โอ้ยมีบารอนร้องเสียงหลงขณะที่ไปสะดุดกับอะไรบางอย่างล้มหัวไปกระแทกต้นไม้อย่างจัง

    อะไรวะ    มีบารอนพูดอย่างมีน้ำโห     ทั้งสามได้มองลงไปในพื้นดินเหนือรากไม้ขนาดใหญ่    ที่มีโครงกระดูกมนุษย์นอนเกลื่อนกลาดอยู่เรียงราย    ทุกๆทีในป่านี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นโครงกระดูกอยู่เต็มไปหมด    เมื่อเทเลอร์จุดคบเพลิงขึ้น   ทั้งสามมองไปทั่วบริเวณอย่างประหลาดใจ 

     โอ้พระเจ้า  นี่คงเป็นที่มาของชื่อป่าล่ะนะ  เทเลอร์พูดขณะที่มองกลาดไปทั่วทุกทิศทาง

    ชั้นหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับพวกเรานะ   เมเฮนพูด

       นายอย่ามาพูดเป็นลางแบบนั้นสิวะ  มีบารอนโวย    ทั้งสามยังคงเดินไปเรื่อยๆตัดป่าไปเรื่อยๆจนกระทั่ง

            ดะ...ดะ...ดูนั่นดิ เสียงมีบารอนพูดสั่นๆไปด้วยความกลัว    ทั้งสองหันหน้าไปมองตามที่มีบารอนชี้ไป   ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือภาพของโครงกระดูกที่เป็นซากศพนักรบที่นอนเกลื่อนกลาดค่อยๆลุกขึ้นยืน    แล้วหันมาทางพวกเขาทั้งสาม   พวกมันมองเขาเหมือนคนแปลกหน้า   พวกมันเดินหน้าเขามาหาทั้งสามที่ยืนตัวแข็งอยู่    หนึ่งในนั้นฟันดาบลงมาที่พวกเขา   มีบารอนชักดาบขึ้นมารับพวกเขาเริ่มต่อสู้กับทัพโครงกระดูกจำนวนมหาศาล   ทันใดที่เขาฟันคมดาบลงไปที่โครงกระดูกเหล่านั้นพวกมันก็จะแตกออกเป็นชิ้นๆไม่นานนักก็ประกอบกับเป็นรูปร่างเดิมอีกครั้งโดยมีนัยน์ตาที่อาฆาตรกว่าเดิม

    อะไรกันวะT_T ชั้นยังไม่อยากตายที่นี่นะเฟ้ย มีบารอนพูดขณะที่เอาดาบขึ้นมากันอาวุธของพวกโครงกระดูก 

     เราไม่ไหวแน่เทเลอร์พูดขณะที่ไปหลบอยู่ด้านหลังของเมเฮน    ทั้งสามได้แต่ถ่อยกรู่ไปโดยที่มีพวกโครงกระดูกไล่ตามไป

    ทั้งสามจนมุมซะแล้วรอบด้านถูกโอบล้อมไปด้วยทัพโครงกระดูก

    พวกโครงกระดูกยกดาบขึ้นมากำลังที่จะปลิดชีพทั้งสาม

    ซึ่งทั้งสามได้แต่มองอย่างหวาดกลัว

    อย่าเพิ่ง  เสียงสั่นๆที่ฟังแล้วมีพลังดังขึ้นมา    ทันใดนั้นพวกโครงกระดูกต่างก็ก้มลงคุกเข่าเบิกทางเรียงเป็นทอดๆเสมือนรับทางเสด็จของพระราชา    ทางที่ถูกเปิดออกมีโครงกระดูกขนาดใหญ่กว่าคนหลายเท่าอยู่ในชุดนักรบเกราะดำมือซ้ายถือโล่มือขวาถือดาบขนาดใหญ่เดินออกมา   แววตาและแรงกดดันมหาศาลมองไปที่เทเลอร์

    Skeleton King   ราชาแห่งกองทัพโครงกระดูกในตำนานที่แท้ก็อยู่ในป่าแห่งนี้นี่เองเทเลอร์พูดเบาๆ    พลันที่เจ้าราชาโครงกระดูกเห็นสร้อยคอที่เทเลอร์ใส่อยู่ซึ่งเขาได้มาจากนักบุญแห่งขุนเขา 

     ท่าทางที่โกรธแค้นกลับเปลี่ยนไปมันคุกเข่าคำนับเทเลอร์

    สัญลักษณ์ของราชา   ท่านคือราชาแห่งกองโจรเสียงสั่นๆของราชาโครงกระดูกพูดขึ้น  

    หมายความว่ายังไง   เทเลอร์พูดแบบกล้าๆกลัวๆ  

    เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้วพวกเราถูกรัฐบาลตามล่าจนเข้ามาหลบในป่าแห่งนี้แล้วได้ต่อสู้กันขึ้นข้าคือหัวหน้าโจรในครั้งนั้นพวกเราถูกพวกรัฐบาลฆ่าตายจนหมดสิ้นส่วนพวกรัฐบาลก็เป็นไข้ป่าติดต่อกันตายตามพวกข้าไป   มาอยู่วันหนึ่งมีชายผู้หนึ่งได้มาปลุกพวกข้าขึ้นชายผู้นั้นก็ห้อยสร้อยคอเหมือนท่าน   และท่านผู้นั้นสั่งไว้ว่าพวกข้าต้องเป็นทาสบุคคลที่ครอบครองสร้อยคอตราบนานเท่านานไม่อย่างนั้นพวกข้าก็จะกลับไปเป็นโครงกระดูกที่ไร้ชีวิตอีกครั้งซึ่งข้าก็ไม่ต้องการกลับไปเป็นแบบนั้น   พวกข้าอยากที่จะมีชีวิตอยู่  เสียงสั่นๆของราชาโครงกระดูกพูด

    งั้นพวกนายก็ต้องรับฟังคำสั่งของชั้นนะสิ เทเลอร์เริ่มพูดแบบถือไพ่เหนือกว่า

    ถูกต้องแล้วนายท่านเสียงราชาโครงกระดูกพูดพร้อมกับทำท่าเคารพ

    งั้นนายพาพวกชั้นออกไปจากป่าแห่งนี้ทีสิเทเลอร์พูด   พลันราชาโครงกระดูกก็คุกเข่าลง 

      ขึ้นมาเลยนายท่านราชาโครงกระดูกพูดพลางก้มไหล่ลงมาให้ทั้งสามขึ้นไปนั่งหลังจากที่ทั้งสามขึ้นไปนั่งแล้วราชาโครงกระดูกก็เริ่มออกวิ่งเป็นการวิ่งที่เร็วมากเรียกว่าไวกว่าเสือชีตาร์หลายเท่าและเมื่อราชาโครงกระดูกกระโดดก็กระโดดได้สูงจนเกือบถึงยอดไม้   ทั้งสามได้แต่ตื่นเต้นไปกับสิ่งที่เห็น  การลอยอยู่บนอากาศการวิ่งที่มีความเร็วเป็นเลิศ   ไม่นานนักก็ถึงทางออกป่าไวกว่าที่คิด

     ถึงแล้วนายท่าน  พวกท่านจะไปไหนกันหรือ  ราชาโครงกระดูกถาม   

    พวกชั้นจะไป The Dragon Clan  อีกไกลไหมกว่าจะถึงเทเลอร์ถาม 

    ไม่ไกลหรอกนายท่านข้าวิ่งเพียงชั่วอึดใจก็ถึง  ราชาโครงกระดูกพูดพลางเริ่มออกวิ่งอีกครั้ง    ดินแดนละแวกที่เห็นเริ่มอุดมสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆใช่แล้ว    ความอุดมสมบูรณ์ความสงบอย่างนี้ใช่แล้วนี่ล่ะบ้านเกิดของพวกเขา    มีบารอนและเมเฮนเริ่มที่จะน้ำตาหลั่งรินเมื่อได้เห็นซากของบ้านเกิดที่ถูกทำลายกำแพงที่เคยตั้งสูงสง่า   กำแพงที่ลวดลายที่สลักถึงชีวิตของเผ่าพันธุ์ดุจมีชีวิตจริง   บัดนี้เหลือเพียงซากที่ผุพังอดีตเมืองหลวงบัดนี้กับไม่มีวี่แววของความรุ่งเรืองให้เห็นอีกเลย    ทันทีที่ราชาโครงกระดูกวางพวกเขาทั้งสามลงทั้งเมเฮนและมีบารอนก็ได้แต่ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ   เทเลอร์ได้แต่เอามือตบไหล่ให้กำลังใจแล้วชี้ไปที่สิ่งของที่พวกเขาต้องการ

      นั่นดาบของพวกนาย เทเลอร์พูดพลางชี้ไปที่อดีตสูญกลางของสมรภูมิรบที่มีดาบสีแดงที่สลักไปด้วยลวดลายมังกรปักอยู่   มีบารอนเดินไปดึงดาบเล่มนั้นออกมาเป็นดาบที่ผนึกวิญญาณนักรบผู้ยิ่งใหญ่ดาบที่มีความหมายต่อเผ่าพันธุ์ของพวกเขาอย่างมาก  และเป็นดาบที่ทำให้พวกเขาต้องออกเดินทางในครั้งนี้ มีบารอนนำดาบไปแล้วนั่งอยู่บนโขดหินเหม่อมองไปรอบๆบ้านเกิดของตัวเอง   ส่วนเมเฮนได้แต่นั่งร่ำไห้คร่ำครวญอยู่ข้างๆราชาโครงกระดูก  ส่วนเทเลอร์ก็เดินไป

    ตามหาสิ่งที่เขาต้องการนั่นคือหยินและหยางเทเลอร์เดินวนไปรอบๆ   ไม่นานเขาก็กับมาพร้อมกับหยินในมือสองลูก

      กลับกันได้รึยัง เทเลอร์ถาม   มีบารอนได้แต่พยักหน้าและเดินไปนั่งบนไหล่ของราชาโครงกระดูกที่มีเฮนนั่งรออยู่แล้วเมื่อพวกเขาทั้งสามขึ้นนั่งเสร็จราชาโครงกระดูกก็เริ่มออกวิ่งกลับไปที่ป่าแห่งความตายอีกครั้งเมื่อถึงป่าแห่งความตาย    ราชาโครงกระดูกก็ได้ล่ำลากองทัพโครงกระดูกของเขาว่าจะไปส่งคนทั้งสองและจะติดตามไปรับใช้เทเลอร์ผู้เป็นนาย   ราชาโครงกระดูกได้พาพวกเขาวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านในเขาของอัลวาลฮิม   พวกเขาไปพักที่บ้านอัลวาลฮิมคืนหนึ่งก่อนที่จะล่ำลาสหายแห่งป่าเขา   เพื่อจะเดินทางไปท่าเรือ Shing เพื่อที่จะต่อเรือไปเมืองท่าเรือ Sand  หลังจากที่ราชาโครงกระดูกวิ่งออกไปได้ไม่นานก็ถึงท่าเรือ Shing ซึ่งก็พอดีกับที่ มีนูหริกได้เอาเรือมาเทียบท่าพอดีทั้งสามจึงได้เดินไปที่เรือ

    ไงแม่สาวน้อยเป็นกับตันเหนื่อยไหม  เทเลอร์พูดขณะที่มีนูหริกกำลังวุ่ยวายกับลูกเรือบนเรือ    ทันทีที่เธอหันมาเจอเทเลอร์     

    กับตันเธอพูดขณะที่กระโดดไปโอบกอดกับเทเลอร์  

     คิดถึงกับตันจังเลยค่ะมีนูหริกพูด  

                ไม่เจอกันไม่กี่วันเองเทเลอร์พูดพลางเอามือขยี้หัวมีนูหริก

    ไม่กี่วันก็คิดถึงนี่ค่ะไม่มีกับตันลำบากจะตายมีนูหริกพูดหยอกล้อกับเทเลอร์   จ้าๆเทเลอร์ตอบรับ

       แล้วนั่นตัวอะไรหรอค่ะกับตัน มีนูหริกพูดพลางชี้ไปที่ราชาโครงกระดูก    

    อ๋อนี่คือราชาโครงกระดูกจะมาเป็นลูกเรือของเราส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟังทีหลังเทเลอร์พูด 

     นี่เอาเรือออกหน่อยสิเดี๋ยวไปส่งสองคนนี้ที่ท่าเรือSand” เทเลอร์พูดพลางชี้ไปที่ทั้งสองคนที่นั่งหน้าเศร้า  

     เป็นอะไรกันหรอค่ะหน้าเศร้าๆมีนูหริกหันไปกระซิบกระซาบกับเทเลอร์   

            ไม่มีอะไรหรอกอย่าไปสนใจเลยเอาเรือออกเหอะ เทเลอร์พูด

    ได้ค่ะกับตัน มีนูหริกพูดพลางเอามือยกขึ้นวันทะยาหัดแบบทหาร

    หลังจากที่เรือได้ออกจากท่าไปก็ไม่มีเสียงการพูดคุยของมีบารอนกับเมเฮนอีกเลยทั้งสามได้แต่นั่งเงียบ   มีก็แต่เทเลอร์กับมีนูหริกที่คุยกันอย่างถูกคอโดยมีราชาโครงกระดูกคอยร่วมวงอย่างไม่ขาด

    ~ เวลาผ่านไปครึ่งวัน ~

    เรือก็ได้จอกเทียบท่าที่ท่าเรือ Sand ท่าเรือที่สำคัญที่สุดในผืนแผ่นดิน

    เอาล่ะเดี๋ยวชั้นจะให้ราชาโครงกระดูกวิ่งไปส่งพวกนายชั้นคงส่งนายได้แค่นี้นะ เทเลอร์พูด

      ขอบใจนายมากนะ ชั้นจะไม่ลืมนายเลย มีบารอนพูดพลางโอบกอดกับเทเลอร์เพื่อเป็นกานล่ำลาเมเฮนก็ทำด้วยเช่นเดียวกัน 

    หลังจากนั้นราชาโครงกระดูกก็ออกวิ่งผ่านไปในทะเลทรายที่ร้อนระอุไม่นานนักก็ถึง

    เมือง Blue city   ซึ่งราชาโครงกระดูกก็รีบวิ่งผ่านไปท่ามกลางอาการตกใจของชาวเมืองที่พบเห็น    วิ่งผ่านป่าเขาดงห้วยไม่นานนักก็ถึงเผ่าของมีบารอนกับเมเฮน

    ขอบใจมากนะที่มาส่ง มีบารอนพูด 

     ไม่เปนไร เสียงสั่นๆของราชาโครงกระดูกพูดพร้อมกับหันหลังวิ่งออกไป

    ถึงแล้วเผ่าของพวกที่เขาเผ่าที่ทุกๆคนนับถือความสมดุลของธรรมชาติ   เผ่าพันธุ์ที่ไม่รู้จักคำว่าแตกแยก   เผ่าพันธุ์ที่ต่อสู้รวมกันในนามของ มาเวอุส   กลับมาถึงเผ่า    พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเยี่ยงวีรบุรุษ  มีบารอนชูดาบที่ได้มาขึ้นแล้วเสียงตะโกนของนักรบทั้งหลายก็ก้องไปทั่วป่า   มีบารอนส่งดาบให้แก่มาเวอุส  เสร็จสิ้นแล้วภารกิจของพวกเขาการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยยาวนานจบลงแล้ว   หลังจากสิ้นวันฉลองมีบารอนและเมเฮนก็แยกย้ายกันกลับไปที่บ้านของตน  บ้านที่ทำจากไม้    หลังคาทำด้วยฟางเป็นบ้านที่สร้างขึ้นแบบง่ายๆตั้งอยู่ในกลางหมู่บ้าน  มีบารอนเปิดประตูเดินเข้าไป

    ว่างัยทาวเวอร์ไอ้น้องตัวแสบพี่ไม่อยู่ไปเล่นซนอะไรมาล่ะ มาเวอุสพูดพลางเอามือขยี้หัวของน้องชายตัวแสบ  

     โห่พี่หายไปนานเลยคิดถึงพี่ เกอิชา อ่ะดิ ทาวเวอร์หลอกล้อพี่ชายถึงแฟนสาวของมีบารอน    

    รู้ดีน่าไอ้ตัวแสบมีบารอนพูดขณะเปิดประตูกำลังจะออกไป

      นั่นพี่จะไปไหนอ่ะหรือจะไปหาพี่ เกอิชาหรอ นั่นแน่ทาวเวอร์ยังคงหลอกล้อพี่ชาย  

    เออๆเดี๋ยวพี่ก็กลับแล้วไม่นานหลอกน่าจะค่ำแล้วห้ามออกจากบ้านนะมีบารอนพูดพลางเดินออกไป

    เขาเดินไปตามทางในหมู่บ้านที่ดูเงียบสงบไม่ลืมที่จะทักทายผู้คนที่อยู่หน้าบ้านของตนเขาเดินออกไปหลังหมู่บ้านที่มีบ้านเล็กๆตั้งอยู่กลางสวนที่ปลูกต้นไม้และดอกไม้จนบานสะพรั่ง  ที่หน้าบ้านมีเกอิชากำลังนักถักผ้าแพรผืนน้อยๆ

    มีบารอนค่อยๆย่องไปหลังเธอจนกระทั่ง

    ทำอะไรอยู่จ๊ะคนสวย มีบารอนโอบกอดไปที่เอวของเธอ

    นี่เล่นอะไรก็ไม่รู้กลับมาเมื่อไหร่ล่ะเกอิชาพูด

    แล้วคิดถึงม่ะล่ะ มีบารอนเริ่มขยับเข้าไปชิดอีก

    นี่ไม่ต้องมาออเซาะเลย เกอิชาดุ 

     ก็คิดถึงนี่ มีบารอนพูดพร้อมทำหน้าบู๊แบบเด็กๆ   เกอิชาได้แต่หัวเราะทั้งคู่คุยกับจนกลางดึก   ทั้งสองนั่งมองพระจันทร์กันพระจันทร์คืนนี้เต็มดวงสวยมาก    ทั้งคู่ยังคงหยอกล้อและมีบารอนก็ชี้ไปที่ดวงจันทร์ที่กลมสวยงาม   ทันใดนั้นดวงจันทร์ที่เคยเหลืองกลมสวยงามเริ่มที่จะกลายเป็นดั่งกระจกแก้วเมฆสีดำเกาะกันเป็นกลุ่ม   ปรากฏใบหน้าบุรุษที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติกาลขึ้น   ใบหน้าแห่งความชั่วร้าย   ใบหน้าที่ไม่มีใครเคยลืมเลือน   ขึ้นมาทับอยู่บนดวงจันทร์มันเป็นหน้าของดาร์กซอลผู้ถือบังเหียนมังกรในตำนานนั่นเอง

    หึๆฮ่าๆๆ ข้าได้ฟื้นจากการหลับใหลที่ยาวนานเสียทีพวกแกเอ๋ยพวกมนุษย์ที่น่ารังเกลียดทั้งหลาย   บัดนี้ข้าจะมาชำระหนี้กับพวกเจ้า   โลกทั้งโลกจะต้องกลับสู่ยุคมืดอีกครั้ง ฮ่าๆๆเสียงหัวเราะยังคงก้องไปทั่วทุกทิศภาพบนดวงจันทร์ค่อยๆหายไปกลับไปเป็นพระจันทร์ดวงเดิม   มีบารอนกับเกอิชาได้แต่มองหน้ากันนึกถึงชะตากรรมของโลก

    ~~~~~~~~~

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×