คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : การเดินทางที่แสนยาวนานสิ้นสุดลง
ทั้งสามออกเดินทางจากหมู่บ้านกลางหุบเขา ไปตามทางที่ได้รับคำแนะนำจากอัลวาลฮิม
ออกมาไกลมาก
“ต่อจากนี้ไปจะถึงป่าที่เรียกว่าป่าแห่งความตาย ชั้นได้ยินเรื่องเล่ามาว่ากองทัพหลักของรัฐบาล ได้ไล่ตามโจรป่าพวกหนึ่งที่มีกำลังพลมากมายเข้ามาในป่าแห่งนี้ ปรากฏว่ากำลังพลของทั้งสองได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ชาวบ้านที่เดินผ่านใกล้ๆกับป่านี้ในบริเวณใกล้เคียงต่างบอกเล่ากันว่าได้ยินเสียงโหยหวญแห่งความทรมารดังมาจากในป่า” เทเลอร์พูดขึ้น
“ช่างเป็นเรื่องหลอกเด็กที่แต่งได้น่ากลัวเหลือเกินนะ” เมเฮนพูดพลางหัวเราะ
“นายไม่เชื่อก็ตามใจนะแต่อย่างไรเราก็ต้องผ่านป่านั้นถ้านายไม่อยากอ้อมไปทางที่ไกลกว่า แน่นอนตอนพวกนายหนีเมื่อห้าปีที่แล้วนายของพวกนายคงจะพามาทางอ้อมแน่เพราะคงไม่อยากให้พวกนายตายกันหมด” เทเลอร์พูดขึ้นพลางเดินนำหน้าออกไปตามทางที่มุ่งหน้าสู่ป่าแห่งความตาย
~ไม่นานนัก~
“นั่น” เทเลอร์พูดพลางชี้ไปที่ป่าที่ดูเงียบและสงบต้นไม้ที่หนาทึบจนมองไม่เห็นข้างใน พวกเขาทั้งสามได้เดินเข้าไปในป่าแห่งความตายป่าที่แม้กระทั่งแสงอาทิตย์ก็ไม่สามารถสอดส่องเข้าไปข้างในได้เนื่องจากต้นไม้ที่หนาทึบ ป่าที่ไม่มีแม้กระทั่งแสงของแมลงเล็กๆที่ร้องระงมตามป่าทั่วๆไป มันช่างตัดกับธรรมชาติโดยสิ้นเชิง ภายในป่าต้นไม้แต่ล่ะต้นคงอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีมันเป็นป่าที่มีอายุยาวนานมาก
“โอ้ย” มีบารอนร้องเสียงหลงขณะที่ไปสะดุดกับอะไรบางอย่างล้มหัวไปกระแทกต้นไม้อย่างจัง
“อะไรวะ” มีบารอนพูดอย่างมีน้ำโห ทั้งสามได้มองลงไปในพื้นดินเหนือรากไม้ขนาดใหญ่ ที่มีโครงกระดูกมนุษย์นอนเกลื่อนกลาดอยู่เรียงราย ทุกๆทีในป่านี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นโครงกระดูกอยู่เต็มไปหมด เมื่อเทเลอร์จุดคบเพลิงขึ้น ทั้งสามมองไปทั่วบริเวณอย่างประหลาดใจ
“โอ้พระเจ้า นี่คงเป็นที่มาของชื่อป่าล่ะนะ” เทเลอร์พูดขณะที่มองกลาดไปทั่วทุกทิศทาง
“ชั้นหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับพวกเรานะ” เมเฮนพูด
“นายอย่ามาพูดเป็นลางแบบนั้นสิวะ” มีบารอนโวย ทั้งสามยังคงเดินไปเรื่อยๆตัดป่าไปเรื่อยๆจนกระทั่ง
“ดะ...ดะ...ดูนั่นดิ” เสียงมีบารอนพูดสั่นๆไปด้วยความกลัว ทั้งสองหันหน้าไปมองตามที่มีบารอนชี้ไป ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือภาพของโครงกระดูกที่เป็นซากศพนักรบที่นอนเกลื่อนกลาดค่อยๆลุกขึ้นยืน แล้วหันมาทางพวกเขาทั้งสาม พวกมันมองเขาเหมือนคนแปลกหน้า พวกมันเดินหน้าเขามาหาทั้งสามที่ยืนตัวแข็งอยู่ หนึ่งในนั้นฟันดาบลงมาที่พวกเขา มีบารอนชักดาบขึ้นมารับพวกเขาเริ่มต่อสู้กับทัพโครงกระดูกจำนวนมหาศาล ทันใดที่เขาฟันคมดาบลงไปที่โครงกระดูกเหล่านั้นพวกมันก็จะแตกออกเป็นชิ้นๆไม่นานนักก็ประกอบกับเป็นรูปร่างเดิมอีกครั้งโดยมีนัยน์ตาที่อาฆาตรกว่าเดิม
“อะไรกันวะT_T ชั้นยังไม่อยากตายที่นี่นะเฟ้ย” มีบารอนพูดขณะที่เอาดาบขึ้นมากันอาวุธของพวกโครงกระดูก
“เราไม่ไหวแน่” เทเลอร์พูดขณะที่ไปหลบอยู่ด้านหลังของเมเฮน ทั้งสามได้แต่ถ่อยกรู่ไปโดยที่มีพวกโครงกระดูกไล่ตามไป
ทั้งสามจนมุมซะแล้วรอบด้านถูกโอบล้อมไปด้วยทัพโครงกระดูก
พวกโครงกระดูกยกดาบขึ้นมากำลังที่จะปลิดชีพทั้งสาม
ซึ่งทั้งสามได้แต่มองอย่างหวาดกลัว
“อย่าเพิ่ง” เสียงสั่นๆที่ฟังแล้วมีพลังดังขึ้นมา ทันใดนั้นพวกโครงกระดูกต่างก็ก้มลงคุกเข่าเบิกทางเรียงเป็นทอดๆเสมือนรับทางเสด็จของพระราชา ทางที่ถูกเปิดออกมีโครงกระดูกขนาดใหญ่กว่าคนหลายเท่าอยู่ในชุดนักรบเกราะดำมือซ้ายถือโล่มือขวาถือดาบขนาดใหญ่เดินออกมา แววตาและแรงกดดันมหาศาลมองไปที่เทเลอร์
“Skeleton King ราชาแห่งกองทัพโครงกระดูกในตำนานที่แท้ก็อยู่ในป่าแห่งนี้นี่เอง” เทเลอร์พูดเบาๆ พลันที่เจ้าราชาโครงกระดูกเห็นสร้อยคอที่เทเลอร์ใส่อยู่ซึ่งเขาได้มาจากนักบุญแห่งขุนเขา
ท่าทางที่โกรธแค้นกลับเปลี่ยนไปมันคุกเข่าคำนับเทเลอร์
“สัญลักษณ์ของราชา ท่านคือราชาแห่งกองโจร” เสียงสั่นๆของราชาโครงกระดูกพูดขึ้น
“หมายความว่ายังไง” เทเลอร์พูดแบบกล้าๆกลัวๆ
“เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองปีที่แล้วพวกเราถูกรัฐบาลตามล่าจนเข้ามาหลบในป่าแห่งนี้แล้วได้ต่อสู้กันขึ้นข้าคือหัวหน้าโจรในครั้งนั้นพวกเราถูกพวกรัฐบาลฆ่าตายจนหมดสิ้นส่วนพวกรัฐบาลก็เป็นไข้ป่าติดต่อกันตายตามพวกข้าไป มาอยู่วันหนึ่งมีชายผู้หนึ่งได้มาปลุกพวกข้าขึ้นชายผู้นั้นก็ห้อยสร้อยคอเหมือนท่าน และท่านผู้นั้นสั่งไว้ว่าพวกข้าต้องเป็นทาสบุคคลที่ครอบครองสร้อยคอตราบนานเท่านานไม่อย่างนั้นพวกข้าก็จะกลับไปเป็นโครงกระดูกที่ไร้ชีวิตอีกครั้งซึ่งข้าก็ไม่ต้องการกลับไปเป็นแบบนั้น พวกข้าอยากที่จะมีชีวิตอยู่” เสียงสั่นๆของราชาโครงกระดูกพูด
“งั้นพวกนายก็ต้องรับฟังคำสั่งของชั้นนะสิ” เทเลอร์เริ่มพูดแบบถือไพ่เหนือกว่า
“ถูกต้องแล้วนายท่าน” เสียงราชาโครงกระดูกพูดพร้อมกับทำท่าเคารพ
“งั้นนายพาพวกชั้นออกไปจากป่าแห่งนี้ทีสิ” เทเลอร์พูด พลันราชาโครงกระดูกก็คุกเข่าลง
“ขึ้นมาเลยนายท่าน” ราชาโครงกระดูกพูดพลางก้มไหล่ลงมาให้ทั้งสามขึ้นไปนั่งหลังจากที่ทั้งสามขึ้นไปนั่งแล้วราชาโครงกระดูกก็เริ่มออกวิ่งเป็นการวิ่งที่เร็วมากเรียกว่าไวกว่าเสือชีตาร์หลายเท่าและเมื่อราชาโครงกระดูกกระโดดก็กระโดดได้สูงจนเกือบถึงยอดไม้ ทั้งสามได้แต่ตื่นเต้นไปกับสิ่งที่เห็น การลอยอยู่บนอากาศการวิ่งที่มีความเร็วเป็นเลิศ ไม่นานนักก็ถึงทางออกป่าไวกว่าที่คิด
“ถึงแล้วนายท่าน พวกท่านจะไปไหนกันหรือ” ราชาโครงกระดูกถาม
“พวกชั้นจะไป The Dragon Clan อีกไกลไหมกว่าจะถึง” เทเลอร์ถาม
“ไม่ไกลหรอกนายท่านข้าวิ่งเพียงชั่วอึดใจก็ถึง” ราชาโครงกระดูกพูดพลางเริ่มออกวิ่งอีกครั้ง ดินแดนละแวกที่เห็นเริ่มอุดมสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆใช่แล้ว ความอุดมสมบูรณ์ความสงบอย่างนี้ใช่แล้วนี่ล่ะบ้านเกิดของพวกเขา มีบารอนและเมเฮนเริ่มที่จะน้ำตาหลั่งรินเมื่อได้เห็นซากของบ้านเกิดที่ถูกทำลายกำแพงที่เคยตั้งสูงสง่า กำแพงที่ลวดลายที่สลักถึงชีวิตของเผ่าพันธุ์ดุจมีชีวิตจริง บัดนี้เหลือเพียงซากที่ผุพังอดีตเมืองหลวงบัดนี้กับไม่มีวี่แววของความรุ่งเรืองให้เห็นอีกเลย ทันทีที่ราชาโครงกระดูกวางพวกเขาทั้งสามลงทั้งเมเฮนและมีบารอนก็ได้แต่ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ เทเลอร์ได้แต่เอามือตบไหล่ให้กำลังใจแล้วชี้ไปที่สิ่งของที่พวกเขาต้องการ
“นั่นดาบของพวกนาย” เทเลอร์พูดพลางชี้ไปที่อดีตสูญกลางของสมรภูมิรบที่มีดาบสีแดงที่สลักไปด้วยลวดลายมังกรปักอยู่ มีบารอนเดินไปดึงดาบเล่มนั้นออกมาเป็นดาบที่ผนึกวิญญาณนักรบผู้ยิ่งใหญ่ดาบที่มีความหมายต่อเผ่าพันธุ์ของพวกเขาอย่างมาก และเป็นดาบที่ทำให้พวกเขาต้องออกเดินทางในครั้งนี้ มีบารอนนำดาบไปแล้วนั่งอยู่บนโขดหินเหม่อมองไปรอบๆบ้านเกิดของตัวเอง ส่วนเมเฮนได้แต่นั่งร่ำไห้คร่ำครวญอยู่ข้างๆราชาโครงกระดูก ส่วนเทเลอร์ก็เดินไป
ตามหาสิ่งที่เขาต้องการนั่นคือหยินและหยางเทเลอร์เดินวนไปรอบๆ ไม่นานเขาก็กับมาพร้อมกับหยินในมือสองลูก
“กลับกันได้รึยัง” เทเลอร์ถาม มีบารอนได้แต่พยักหน้าและเดินไปนั่งบนไหล่ของราชาโครงกระดูกที่มีเฮนนั่งรออยู่แล้วเมื่อพวกเขาทั้งสามขึ้นนั่งเสร็จราชาโครงกระดูกก็เริ่มออกวิ่งกลับไปที่ป่าแห่งความตายอีกครั้งเมื่อถึงป่าแห่งความตาย ราชาโครงกระดูกก็ได้ล่ำลากองทัพโครงกระดูกของเขาว่าจะไปส่งคนทั้งสองและจะติดตามไปรับใช้เทเลอร์ผู้เป็นนาย ราชาโครงกระดูกได้พาพวกเขาวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านในเขาของอัลวาลฮิม พวกเขาไปพักที่บ้านอัลวาลฮิมคืนหนึ่งก่อนที่จะล่ำลาสหายแห่งป่าเขา เพื่อจะเดินทางไปท่าเรือ Shing เพื่อที่จะต่อเรือไปเมืองท่าเรือ Sand หลังจากที่ราชาโครงกระดูกวิ่งออกไปได้ไม่นานก็ถึงท่าเรือ Shing ซึ่งก็พอดีกับที่ มีนูหริกได้เอาเรือมาเทียบท่าพอดีทั้งสามจึงได้เดินไปที่เรือ
“ไงแม่สาวน้อยเป็นกับตันเหนื่อยไหม” เทเลอร์พูดขณะที่มีนูหริกกำลังวุ่ยวายกับลูกเรือบนเรือ ทันทีที่เธอหันมาเจอเทเลอร์
“กับตัน” เธอพูดขณะที่กระโดดไปโอบกอดกับเทเลอร์
“คิดถึงกับตันจังเลยค่ะ” มีนูหริกพูด
“ไม่เจอกันไม่กี่วันเอง” เทเลอร์พูดพลางเอามือขยี้หัวมีนูหริก
“ไม่กี่วันก็คิดถึงนี่ค่ะไม่มีกับตันลำบากจะตาย” มีนูหริกพูดหยอกล้อกับเทเลอร์ “จ้าๆ” เทเลอร์ตอบรับ
“แล้วนั่นตัวอะไรหรอค่ะกับตัน” มีนูหริกพูดพลางชี้ไปที่ราชาโครงกระดูก
“อ๋อนี่คือราชาโครงกระดูกจะมาเป็นลูกเรือของเราส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟังทีหลัง” เทเลอร์พูด
“นี่เอาเรือออกหน่อยสิเดี๋ยวไปส่งสองคนนี้ที่ท่าเรือSand” เทเลอร์พูดพลางชี้ไปที่ทั้งสองคนที่นั่งหน้าเศร้า
“เป็นอะไรกันหรอค่ะหน้าเศร้าๆ” มีนูหริกหันไปกระซิบกระซาบกับเทเลอร์
“ไม่มีอะไรหรอกอย่าไปสนใจเลยเอาเรือออกเหอะ” เทเลอร์พูด
“ได้ค่ะกับตัน” มีนูหริกพูดพลางเอามือยกขึ้นวันทะยาหัดแบบทหาร
หลังจากที่เรือได้ออกจากท่าไปก็ไม่มีเสียงการพูดคุยของมีบารอนกับเมเฮนอีกเลยทั้งสามได้แต่นั่งเงียบ มีก็แต่เทเลอร์กับมีนูหริกที่คุยกันอย่างถูกคอโดยมีราชาโครงกระดูกคอยร่วมวงอย่างไม่ขาด
~ เวลาผ่านไปครึ่งวัน ~
เรือก็ได้จอกเทียบท่าที่ท่าเรือ Sand ท่าเรือที่สำคัญที่สุดในผืนแผ่นดิน
“เอาล่ะเดี๋ยวชั้นจะให้ราชาโครงกระดูกวิ่งไปส่งพวกนายชั้นคงส่งนายได้แค่นี้นะ” เทเลอร์พูด
“ขอบใจนายมากนะ ชั้นจะไม่ลืมนายเลย” มีบารอนพูดพลางโอบกอดกับเทเลอร์เพื่อเป็นกานล่ำลาเมเฮนก็ทำด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นราชาโครงกระดูกก็ออกวิ่งผ่านไปในทะเลทรายที่ร้อนระอุไม่นานนักก็ถึง
เมือง Blue city ซึ่งราชาโครงกระดูกก็รีบวิ่งผ่านไปท่ามกลางอาการตกใจของชาวเมืองที่พบเห็น วิ่งผ่านป่าเขาดงห้วยไม่นานนักก็ถึงเผ่าของมีบารอนกับเมเฮน
“ขอบใจมากนะที่มาส่ง” มีบารอนพูด
“ไม่เปนไร” เสียงสั่นๆของราชาโครงกระดูกพูดพร้อมกับหันหลังวิ่งออกไป
ถึงแล้วเผ่าของพวกที่เขาเผ่าที่ทุกๆคนนับถือความสมดุลของธรรมชาติ เผ่าพันธุ์ที่ไม่รู้จักคำว่าแตกแยก เผ่าพันธุ์ที่ต่อสู้รวมกันในนามของ มาเวอุส กลับมาถึงเผ่า พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเยี่ยงวีรบุรุษ มีบารอนชูดาบที่ได้มาขึ้นแล้วเสียงตะโกนของนักรบทั้งหลายก็ก้องไปทั่วป่า มีบารอนส่งดาบให้แก่มาเวอุส เสร็จสิ้นแล้วภารกิจของพวกเขาการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยยาวนานจบลงแล้ว หลังจากสิ้นวันฉลองมีบารอนและเมเฮนก็แยกย้ายกันกลับไปที่บ้านของตน บ้านที่ทำจากไม้ หลังคาทำด้วยฟางเป็นบ้านที่สร้างขึ้นแบบง่ายๆตั้งอยู่ในกลางหมู่บ้าน มีบารอนเปิดประตูเดินเข้าไป
“ว่างัยทาวเวอร์ไอ้น้องตัวแสบพี่ไม่อยู่ไปเล่นซนอะไรมาล่ะ” มาเวอุสพูดพลางเอามือขยี้หัวของน้องชายตัวแสบ
“โห่พี่หายไปนานเลยคิดถึงพี่ เกอิชา อ่ะดิ” ทาวเวอร์หลอกล้อพี่ชายถึงแฟนสาวของมีบารอน
“รู้ดีน่าไอ้ตัวแสบ” มีบารอนพูดขณะเปิดประตูกำลังจะออกไป
“นั่นพี่จะไปไหนอ่ะหรือจะไปหาพี่ เกอิชาหรอ นั่นแน่” ทาวเวอร์ยังคงหลอกล้อพี่ชาย
“เออๆเดี๋ยวพี่ก็กลับแล้วไม่นานหลอกน่าจะค่ำแล้วห้ามออกจากบ้านนะ” มีบารอนพูดพลางเดินออกไป
เขาเดินไปตามทางในหมู่บ้านที่ดูเงียบสงบไม่ลืมที่จะทักทายผู้คนที่อยู่หน้าบ้านของตนเขาเดินออกไปหลังหมู่บ้านที่มีบ้านเล็กๆตั้งอยู่กลางสวนที่ปลูกต้นไม้และดอกไม้จนบานสะพรั่ง ที่หน้าบ้านมีเกอิชากำลังนักถักผ้าแพรผืนน้อยๆ
มีบารอนค่อยๆย่องไปหลังเธอจนกระทั่ง
“ทำอะไรอยู่จ๊ะคนสวย” มีบารอนโอบกอดไปที่เอวของเธอ
“นี่เล่นอะไรก็ไม่รู้กลับมาเมื่อไหร่ล่ะ” เกอิชาพูด
“แล้วคิดถึงม่ะล่ะ” มีบารอนเริ่มขยับเข้าไปชิดอีก
“นี่ไม่ต้องมาออเซาะเลย” เกอิชาดุ
“ก็คิดถึงนี่” มีบารอนพูดพร้อมทำหน้าบู๊แบบเด็กๆ เกอิชาได้แต่หัวเราะทั้งคู่คุยกับจนกลางดึก ทั้งสองนั่งมองพระจันทร์กันพระจันทร์คืนนี้เต็มดวงสวยมาก ทั้งคู่ยังคงหยอกล้อและมีบารอนก็ชี้ไปที่ดวงจันทร์ที่กลมสวยงาม ทันใดนั้นดวงจันทร์ที่เคยเหลืองกลมสวยงามเริ่มที่จะกลายเป็นดั่งกระจกแก้วเมฆสีดำเกาะกันเป็นกลุ่ม ปรากฏใบหน้าบุรุษที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติกาลขึ้น ใบหน้าแห่งความชั่วร้าย ใบหน้าที่ไม่มีใครเคยลืมเลือน ขึ้นมาทับอยู่บนดวงจันทร์มันเป็นหน้าของดาร์กซอลผู้ถือบังเหียนมังกรในตำนานนั่นเอง
“หึๆฮ่าๆๆ ข้าได้ฟื้นจากการหลับใหลที่ยาวนานเสียทีพวกแกเอ๋ยพวกมนุษย์ที่น่ารังเกลียดทั้งหลาย บัดนี้ข้าจะมาชำระหนี้กับพวกเจ้า โลกทั้งโลกจะต้องกลับสู่ยุคมืดอีกครั้ง ฮ่าๆๆ” เสียงหัวเราะยังคงก้องไปทั่วทุกทิศภาพบนดวงจันทร์ค่อยๆหายไปกลับไปเป็นพระจันทร์ดวงเดิม มีบารอนกับเกอิชาได้แต่มองหน้ากันนึกถึงชะตากรรมของโลก
~~~~~~~~~
ความคิดเห็น