คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เบอร์มิวดากับสงครามที่จะเกิดขึ้น
จากที่ทราบกันว่ามีผู้พบเห็น จานบินหรือUFOในอาณาบริเวณต่างๆทั่วโลก แต่ไม่เคยเห็นมันลงจอดนะพื้นโลก อาจเป็นเพราะพื้นที่ต่างๆบนโลกไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะจอดยาน นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นเพราะระบบขับเคลื่อนของยานไม่สัมพันธุ์กับแรงดึงดูดของโลก และแรงผลักดันของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า แต่มันก็มีบางจุดที่กราฟแสดงแรงแม่เหล็กไฟฟ้าบ่งบอกว่าเคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้ามีจำนวนน้อยกว่าบริเวณอื่นมาก ซึ่งสามารถที่จานบินจะลงจอดได้มันคือจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกกับโลกอื่น มันคือจุดเชื่อมต่อระหว่างจักวาลนั่นก็คือบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ซึ่งบริเวณนี้มีผู้คนเครื่องบินเรือเดินสินค้าหายไปจำนวนมาก
มีวิทยุของเครื่องบินลำ..หนึ่งของกองทัพสหรัฐวิทยุมาว่า....
“ ขึ้นมาแล้ว ...จานบินที่เราเห็นเมื่ออาทิตย์ก่อน ขึ้นมาจากใต้น้ำตรงช่องของน้ำแข็งนั่นเอง...มันบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว....มีลำอื่นติดตามมาอีก....สี่ลำ....รวมทั้หมด5ลำด้วยกันมันบินรวมกันทางด้านตะวันออกเหนือจากพื้นที่น้ำแข็งประมาณ 40000 ฟุต...ช่างของเรากำลังถ่ายภาพมันไว้ทุกลำ...พวกมันหยุดอยู่กลางอากาศทุกลำมัน...” หลังจากนั้นเครื่องบินลำนั้นก็หายไปอย่างไร้วี่แววตั้ง
แต่สงครามโลกครั้งที่สองจนถึงยุคปัจจุบัน มีเครื่องบินจำนวน100เครื่องเรือจำนวนมหาศาลและผู้คนจำนวนกว่า1000คนหายไปอย่างไร้ร่องลอย
เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของมิติที่สี่คือเวลา ในตามปกติคนเราเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกมีอยู่สามมิติคือกว้าง ยาว สูงแต่ แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวไว้ว่ามีมิติทั้งหมดสี่มิติด้วยกัน เคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้าที่ลดลงไปของโลกอาจทำให้มิติที่สี่หรือเวลาเปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่นมันเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพันเป็นเวลา1000ปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บริเวณนั้นจะหายไปอย่างฉับพัน แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ไปไหนยังคงอยู่ที่เดิมแต่จะปรากฏต่อเมื่อเวลาผ่านไปครบ1000ปีแล้ว อย่างเช่นว่ามีสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่นักสมุทรศาสตร์จับได้ซึ่งมีอายุหลายพันปีมาแล้วซึ่งก็อาจเกิดจากการผันแปลของมิติที่สี่จนทำให้ข้ามมิติมาเป็นพันๆปีจนมาอยู่ในยุคของเรา ยกตัวอย่างเช่นนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพื้นสมุทรมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้คลื่นเสียงโซนาร์ส่งลงไปยังพื้นที่ใต้มหาสมุทรได้ว่าบางพื้นที่ของมหาสมุทรโดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานี้จะมีลักษณะเป็นทรงกลวงเป็นถ้ำลึกไปใต้น้ำขนาดมหึมา นักวิทยาศาสตร์ต่างสันนิษฐานว่าคลื่นโซนาร์ที่ส่งไปลึกลงไปนับ1000ฟุต สะท้อนเข้ากลับกระดองสัตว์บางชนิดทำให้ได้เสียงลักษณะว่าเป็นอุโมงค์ลึกมหึมา ถ้าเป็นอย่างที่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานจริงสัตว์ตัวนั้นต้องมีขนาดเท่ากับภูเขาที่เดียว ทำให้เรารู้ว่าการแปลผันของมิติที่สี่นั้นมีอยู่จริงเท่ากับว่าตัวตนของพวกเขากับลังเผชิญอยู่ในโลกที่ไม่มีผู้คนรู้จักโลกที่อยู่บนโลกนี้ตลอดเวลาแต่ไม่มีใครจะสามารถเห็นมันได้ โลกที่พวกเขาจะไม่สามารถที่จะหลุดพ้นจากมันมาได้ มันเหมือนโลกที่เกิดจากการผันแปลของมิติที่สี่กับคลื่นพลังแม่เหล็กโลกทำให้เกิดThe black hole ดูดพวกเข้าสู่โลกแห่งความมืดชั่ว
นิรันดิ์พวกเขาต้องเผชิญชะตากรรมเพื่อหาทางออกสู่โลกแห่งความเป็นจริงจากสิ่งที่ไม่เคยมีนักวิทยาศาสตร์คนใดเคยค้นพบมาก่อน ร่วมกันหาทางออกจากมันให้ได้และเปิดโปงมันให้โลกรู้ว่ามีสิ่งใดที่อยู่บริเวณนั้นบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาที่ลึกลับและน่ากลัวลึกลงไปๆสู่ห้วงมิติและกาลเวลาที่มืดมนสงครามแห่งความมืดกำลังจะเกิดขึ้น
The black hole ( สงครามแห่งกาลเวลาและมิติมืด ).
..
บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมืดมิดกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ซากโครงกระดูกซากศพนักรบเรียงรายไปทั่วพื้นพิภพ ปราสาทมืดที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศเหล่านั้น มีเพียงมังกรดำโผลบินไปทั่วบริเวณตรวจตาศัตรูตูที่ย่างกายเข้ามา
มีเพียงเสียงตีดาบของพวกอสูรกายเท่านั้นที่ยังคงดังทำลายบรรยากาศที่เงียบสนิท พวกมันทำงานแม้กระทั่งยามที่ทุกเผ่าพันธุ์หลับใหลอยู่ พวกมันพร้อมที่จะเปิดศึกทุกเมื่อพวกมันรับคำสั่งจากผู้ถือบังเหียนมังกรดำ บุรุษผู้สวมเกราะดำที่ไม่มีผู้ใดเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของมัน ยามใดที่มันปรากฏกายยามนั้นโลกต้องเกิดการพินาศ จุดมุ่งหมายของมันคือการรวบรวมโลกนี้กับโลกข้างนอกยามใดที่มันทำได้ยามนั้นแหละถึงกาลอวสานของโลก....มันคือ ดาร์กซอล
เผ่าพันธุ์ๆเดียวที่สามารถจะต่อกรกับปีศาจร้ายอย่างดาร์กซอลได้ก็มีแต่เผ่าพันธุ์นักสู้สายเลือดมังกรอย่าง ทาเรนเซีย บุรุษผู้สวมเกราะแดงผู้กุมชะตาชีวิตนักรบทุกคนในสนามรบด้วยดาบยาวที่สะท้อนแสงยามชูขึ้นกลางสนามรบ ดาบที่มีรอยสลักรูปมังกรกำลังโผลบินอยู่ตรงกลางเหมือนมีชีวิตจริง ยามอยู่กลางสนามรบเกราะแดงของเขาจะเปล่งประกายเลือดนักรบออกมา สง่างามยิ่งนักยามคุมบังเหียนยูนิคอร์นคู่ใจท่ามกลางสนามรบ
ทาเรนเซียมีบุตรชายผู้สืบสายเลือดราชาต่อจากเขาผู้หนึ่งนามว่า มาเวอุส บุตรชายแห่งเผ่า dragon แต่เพียงผู้เดียว มาเวอุสเจริญรอยตามบิดาของเขาๆชอบการสู้รบไม่ต่างจากบิดายามใดที่เห็นผู้พ่อในสนามรบต้องเห็นผู้ลูกด้วย...
เผ่าพันธุ์เพี่ยงเผ่าพันธุ์เดียวที่ดาร์กซอลเกรงกลัว
The Dragon Clan เมืองหลวงของโลกนี้ดินแดนที่ชุ่มชื่นไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยเนินเขาและกำแพงที่ดูมีชีวิตชีวา แกะสลักด้วยฝีมือปรมาจารย์เอกของเผ่า มีโชกุนที่รักษากฎหมายด้วยความยุติธรรมมาโดยตลอด ปรมาจารย์ยอดยุทธ์ยังคงที่จะฝึกนักรบของเผ่าไม่หยุดยั้ง ฝึกให้มีความชำนาญด้านกลยุทธ์ด้านจิตวิทยาด้านฝีมือทำการการรบแต่ละครั้งของเผ่าเป็นไปด้วยความดุเดือด
การปะทะกับเผ่าอสูรของดาร์กซอลในแต่ละครั้งเผ่าของทาเรนเซียจะเป็นผู้ชนะอยู่เสมอแต่เหมือนกับว่ามันเป็นแค่เพียงการลองเชิงเท่านั้น ดาร์กซอลไม่ได้ออกมาคุมการรบเองแต่อย่างใด ไม่สิเขาไม่เคยใส่ใจกับการรบในแต่ละครั้งเลยเขามีแผนการอะไรอยู่ในใจเขาคิดจะทำอะไรไม่มีผู้ใดรู้......
ออกไปท่ามกลางป่าทึบมีปราสาทสีขาวตั้งอยู่กลางหุบเขา ปราสาทของเผ่าศักดิ์สิทธิ์
เผ่าที่ทุกเผ่าพันธุ์นับถือน้ำใจเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อว่า daimyo ไดเมียวเป็นเผ่าพันธุ์ศักดิ์สิทธ์ที่ไม่ค่อยได้ออกรบกับเผ่าพันธุ์ใด เผ่าพันธุ์ที่นับถือความสงบสุขเป็นหลักนานๆที ที่จะเห็นเผ่าไดเมียวออกรบ เขาจะไม่ยอมออกรบนอกจากว่าจะถูกขอความช่วยเหลือจากเผ่า ของทาเรนเซีย หรือไม่ก็ต่อเมื่อเผ่าพันธุ์ของเขาถูกบุกรุกเสียเอง
ไดเมียวเป็นเผ่าที่ใช้เวทมนต์ในการรบ พวกเขาออกรบโดยมีคทาคู่กายเพียงอันเดียวเท่านั้นและภายใต้ผ้าคุมยาว ดินแดนศักดิ์สิทธ์ของไดเมียวเผ่าอสูรของดาร์กซอลไม่สามารถเข้าไปได้ตราบที่ เววคิน ยังมีชีวิตอยู่ เววคินคือหัวหน้าเผ่าไดเมียว
เววคินคือจอมเวทย์ผู้สูงส่งยากที่จะหาใครเหมือนได้ บุตรของเววคิน อุเทร่า เป็นสตรีที่งดงามยิ่งมีพลังเวทย์เทียบเท่ากับพ่อของเธอ แต่เธอยังเด็กเกินไปที่จะควบคุมพลังเวทย์ได้ตามใจชอบ...
ถัดไปจากเมืองไดเมียวในป่าลึกลงไปที่แทบจะไม่มีใครเคยสัมผัส ยังคงมีเผ่าพันธุ์หนึ่งเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่เผ่าพันธุ์ Ninja เผ่าพันธุ์นินจามี โรนิน เป็นหัวหน้าเผ่า
ดาบคู่ในมือเพียงตวับเบาๆหัวนักรบเก่งๆก็สามารถขาดสะบันโดยง่าย เผ่านินจาพวกเขาฝึกที่จะควบคุมหยินและหยาง ใช้ธาตุทั้งสี่ช่วยในการสู้รบ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นธาตุที่สำคัญ เผ่าพันธุ์นี้มีแต่ความลึกลับไม่เคยติดต่อกับเผ่าพันธุ์ใด เผ่าพันธุ์ของโรนินก็เปรียบเสมือบโจรนั่นเองยามใดที่รู้ข่าวเกี่ยวกับหยินและหยางเขาจะไปเพื่อที่จะขโมยมันแต่ถึงแม้ดูจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นชั่วร้ายนิดๆแต่ยามใดที่ดาร์กซอลออกอาลาวาดโรนินก็จะนำทัพนินจาของเขาตะบันม้าออกไปด้วยความเร็วเพื่อกำจัดดาร์กซอล....
“ซักวันหนึ่งดาร์กซอลมันต้องพินาสด้วยน้ำมือของข้า” คำที่โรนินชอบพูดอยู่เสมอ
นอกจากเผ่าพันธุ์ทั้งสี่นี้ ยังมีเผ่าพันธุ์เล็กๆซ้อนตัวอยู่อีกมากมายทุกเผ่าพันธุ์จะมารวมกันเมื่อดาร์กซอลเริ่มก้าวเดิน พวกเขามีอุดมคติเดียวกันคือกำจัดดาร์กซอล...
~~~~~~~~~~~~~~
และแล้วสงครามครั้งใหญ่ก็กำลังจะเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อดาร์กซอลเริ่มที่จะเคลือนพล คราวนี้เป็นเขาเองที่คุมทัพ ดาร์กซอลบนหลังมังกรดำวันที่ทุกคนหวาดกลัวได้มาถึงแล้ว ออกไปในเมืองแห่งสายเลือดมังกร
ทาเรนเซียได้ให้นักรบคนสนิทไปสอดแนมทางตอนเหนือของเมือง นำทัพด้วย โดโจ นักรบที่มีเพลงดาบที่เก่งกาจที่สุดในเผ่า ธงมังกรโบกไสว นักรบห้าร้อยกว่าคนที่นำทัพด้วยโดโจถูกสั่งไปสอดแนมทางตอนเหนือของเมือง
หนึ่งวันผ่านไป. สามวันผ่านไป. หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป.
ไร้สี่แววของทหารที่ส่งไปอย่างใด เทนเรนเซียเริ่มวิตกใจยิ่ง เพราะทหารที่เก่งกาจที่สุดของเผ่าพันธุ์ของเขามาหายไปเฉยๆ
ในการประชุมของเผ่าที่จุดสูงสุดของปราสาทที่เป็นแท่นพิธีที่สามารถมองเห็นทั้งเมืองได้ในบริเวณนั้นซึ่งพวกเขาเรียกมันว่าแทนประชุมขาว
“ ข้าว่าดาร์กซอลมันเริ่มที่จะเคลือนไหวอีกครั้ง ๆนี้คงจะรับมือลำบากกว่าทุกครั้ง” ทาเรนเซียกล่าวประชุมกับเหล่าโชกุนและขุนพลอีกจำนวนหนึ่ง
“ข้าก็ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะถ้าปกติท่านโดโจเจอทัพของมันลำพังฝีมือของท่านโดโจก็จัดการพวกมันได้สบายมือแต่นี่ท่านโดโจหายไปนานขนาดนี้แสดงว่า...” ทันที่ขุนพลแบดิสจะพูดจบ
“ไม่ข้าว่าอาจารย์โดโจยังไม่ตายแน่” มาเวอุสรีบท้วงทันทีเป็นเพราะว่าโดโจเป็นอาจารย์สอนวิชาการต่อสู้ของเขาซึ่งเขาก็ใกล้ชิดกับโดโจมาก
“เวอุสพ่อว่าเจ้าควรจะยอมรับความจริงบ้างนะไม่มีทางที่โดโจจะรอดได้หรอก”
ทาเรนเซียบอกบุตรของตนด้วยท่าทีที่วิตกกังวลเช่นกัน
“เชอะอาจารย์ยังไม่ตายแน่ข้าจะออกรออาจารย์อยู่ตรงนี้ล่ะ” มาเวอุสยังคงพูดอย่างแข็งกล้า และดื้อลั้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้หินมองออกไปทางประตูเมือง
ทาเรนเซียได้แต่ส่ายหัวอย่างละอาแล้วก็พูดกับที่ประชุมต่อ
“แบดิสเจ้าจงไปหาเววคินแล้วบอกเขาว่าข้าขอความช่วยเหลือบอกด้วยว่าดาร์กซอลมันเริ่มอีกแล้วครั้งนี้ครั้งใหญ่แน่”
“ข้าจะรีบทำตามที่ท่านบอก” แบดิสขุนพลใหญ่พูดห้วนๆพลันทำท่าคำนับทาเรนเซียแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หินเหมือนเดิม
“ส่วนท่านนีโอไปบอกโรนินเช่นกัน” ทาเรนเซียหันไปพูดกับขุนพลนี่โอนีโอรับคำแล้วทำความเคารพ
“เอาล่ะพวกท่านแยกย้ายไปได้แล้ว” เสียงทาเรนเซียพูดสั่งทุกๆคนซึ่งทุกคนก็ทำตามด้วยการเดินออกไปจากแทนพิธีเพื่อทำหน้าที่ของตน
“ท่านพ่อๆดูนั่นสิ”
มาเวอุสพบอะไรทำไมเขาถึงตื่นเต้นขนาดนั้น
“ท่านพ่อๆดูนั่นสิ”
ทันทีที่ทาเรนเซียหันไปตามคำของผู้เป็นลูก พลันม้าสีดำควบมาด้วยความเร็วสูง แน่นอนมันคือม้าของโดโจ ซึ่งหอบร่างของผู้เป็นนาย พุ่งเข้ามาในประตูเมืองด้วยความเร็วสูง แล้วนักรบทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมก็รีบวิ่งลงมาจากชั้นดาดฟ้าปราสาทเพื่อจะมาดูโดโจ พลันที่ มาเวอุสเห็นร่างของอาจารย์เขาถึงกับร้องไห้โฮ ร่างที่ถูกฟันด้วยของมีคมจนตัวแทบขาดเป็นสองท่อน
เสื้อผ้าที่ขาดกระจุยลูกธนูติดตามส่วนต่างๆของร่างกายแม้กระทั้งขาของ เจ้า คาเซ ม้าของเขาก็โดนไปด้วย แต่มันก็พยายามที่จะพาร่างของผู้เป็นนายมันกลับเมืองแม้ในสภาพที่ไร้วิญญาณแล้วก็ตามพอหยุดได้เจ้า คาเซ ถึงกลับทรุดลงไปด้วยความเหนื่อยและบาดแผล
“ โอ้ย! ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วยแกไอ้ดาร์กซอลซักวันฉันต้องฆ่าแกให้ได้
มาเวอุสคนนี้ล่ะจะปลิดชีพแกเองจำไว้ ~ฮือๆๆ~ ” เขาพูดทั้งน้ำตา
“การตายเยี่ยงนักรบของท่านจะต้องไม่เสียเปล่าท่านปรมาจารย์พวกเราจะสานต่อเจตนาท่านเอง” นีโอพูดพลางเดินจากไป
“จัดงานศพเขาอย่างสมเกียรติ” ทาเรนเซียตะโกนลั่น
บรรยากาศอันเงียบสงัดของป่าทึบบรรยากาศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ นีโอควบม้าลัดเลาะไปตามลำน้ำ เขาเพลินไปกับธรรมชาติเสียแล้ว ทันใด รู้สึกตัวอีกทีพวก นินจาก็ล้อมรอบเขาในระยะใกล้ซะแล้ว
“โอ้ท่านนีโอนักรบผู้เก่งกล้าของท่านทาเรนเซียใยถึงหาโอ่กาสมาชมนกชมไม้ได้เช่นนี้” โรนิน ผู้ถือดาบคู่ที่สวมเกราะสีดำอยู่บนอาชาที่มีนัยน์ตาสีแดงน่าเกรงขามยิ่งพูดขึ้น
“ข้ามิได้มีเวลาว่างพอที่จะมาชมนกชมไม้หรอกข้ามีเรื่องใคร่ครวญที่จะมาข้อร้องท่าน” นีโอนักดาบผู้เก่งกล้าของแคว้นมังกรพูดขึ้นขณะชะลอม้าให้หยุดลง
“ท่านมีอะไรจะขอร้องข้าจงว่ามาเลย” โรนินพูดขึ้นพลันหยุดม้าเช่นกัน
“ท่านทาเรนเซียให้ข้ามาบอกท่านให้ไปช่วยในสงครามใหญ่ที่จะเกิดขึ้นดาร์กซอลมันตั้งทัพใหญ่พวกเราต้องร่วมมือกัน ตอนนี้ท่านโดโจถูกมันฆ่าเสียแล้ว”
นีโอพูดพลางส่ายหน้า
“อะไรนะฝีมือระดับท่านโดโจยังแพ้หรือนี่ ~โถ่~ ข้ากะจะลองเชิงดาบกับท่านโดโจดูซักครั้งไม่น่าเลย เราต้องจัดการมันได้แน่ วันพรุ่งนี้ข้าจะเตรียมไพร่พลแล้วตามท่านไป” โรนินพูดพลางกระชากม้ากลับเข้าป่าไป
นีโอไม่รอช้าเขารีบควบม้ากลับเช่นเดียวกัน
~~~3วันถัดมา~~~~
กองทัพนับสิบล้านจากเผ่าพันธุ์ต่างๆทั่วทุกๆแคว้นมาตั้งหลักรวมกันที่
Dragon Clan เพื่อที่จะขยี้กองทัพปีศาจของดาร์กซอลแต่ทุกคนไม่รู้หรอกว่าหายนะกำลังรอพวกเขาอยู่ทุกๆเผ่าพันธุ์รอคอยทัพของดาร์กซอลด้วยใจจดใจจ่อภายใต้ปราการที่ดูยิ่งใหญ่และเข้มแข็งจนรู้สึกอุ่นใจ ด้วยการนำทัพภายใต้แผ่นหลังอันยิ่งใหญ่ของนักรบเกราะแดงอย่าง ทาเรนเซีย
บรรยากาศที่มืดมนความมืดโอบล้อมไปทั่วทุกทิศทาง กลิ่นอายที่สุดจะบรรยายกลิ่นอายอันน่าสะอิดสะเอียนใช่แล้วนั่นล่ะกองทัพปีศาจของมัน นำทัพด้วยมังกรสีดำที่มีผู้ถือบังเหียนเป็นนักรบเกราะดำในตำนานนักรบที่น่ากลัวที่สุดในโลก นักรบแห่งขุมนรกผู้มีนัยตาสีแดงกล่ำที่ไม่มีนักรบคนใดกล้าสบตากับมัน ดาร์กซอลมันนำทัพปีศาจที่มีกำลังพลมากกว่าสามสิบล้านตนที่เดียว แต่ทัพของทาเรนเซียกับมีกำลังพลไม่ถึงสิบล้านการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกำลังจะเกิดขึ้นทัพสามสิบล้านกับทัพเพียงแค่สิบล้านจะประมือกันสงครามแห่งสายเลือดได้เริ่มขึ้น ทันทีที่มังกรดำส่งเสียงร้องคำรามกำแพงที่ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดเคยทำลายลงได้กำแพงที่ยิ่งใหญ่ปรมาจารย์หลายสิบช่วยกันออกแบบมาถูกทำลายสิ้นภายในเวลาไม่ถึงนาที กองทัพมหาศาล ถาโถมเข้ามาเสียงดาบประกันดังสนั่นเสียงโอดครางของนักรบที่เสียท่าดังลั่นไปทั่วทั้งสนามรบ เลือดไหลดุจสายน้ำ ร่างของนักรบทรุดลงทีละคนท่ามกลางสนามรบนั่นนักรบเกราะสีแดงที่บัดนี้แดงกว่าเก่าไปด้วยเลือดของพวกปีศาจตั้งหลักสู้กลางสนามรบ ยูนิคอร์นคู่ใจได้สิ้นชีพไปแล้วแต่ราชาผู้นี้ก็ยังคงพิงหลังยูนิคอร์นสู้ตายกลางสนามรบอย่างไม่เสียดายชีวิต ท่ามกลางพวกปีศาจที่ถาโถมเข้ามาหาอย่างไม่ขาดสาย
~ ท่ามกลางบรรยากาศในสนามรบที่วุ่นวาย ~
มาเวอุสได้พาประชากรที่ยังรอดชีวิต พร้อมด้วยนักรบจากเผ่าพันธุ์ต่างๆที่อ่อนแรงหลบหนีออกไปไกลออกไปทางใต้ของเมือง มาเวอุสน้ำตาไหลพรากเพราะคิดว่าพ่อตนคงไม่รอดชีวิตแน่แต่ตนก็ต้องทิ้งพ่อไว้เพื่อที่จะไม่ให้เผ่าพันธุ์นั้นสูญสลายไปซักวันหนึ่งเขาจะกลับมาแก้แค้นให้พ่อแน่ ซึ่งเขาก็คิดว่าพ่อของเขาก็คงอยากให้เขาทำอย่างนี้เช่นกัน
ทาเรนเซีย เขายังไม่ทันที่จะสิ้นใจสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ตอนนี้คือการพร้อมที่จะเสี่ยง ใช้
คาถาๆเดียวที่บรรพบุรุษได้รับสืบถอดมา คาถาที่จะมีข้อแม้ไว้แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าข้อแม้นั้นคืออะไร อันตรายเพียงใดมีผลกระทบร้ายแรงเพียงใด เขาพร้อมที่จะเสียงมันแล้วทาเรนเซียเริ่มที่จะ บริกรรมคาถาท้องฟ้าที่มืดครึมกลับกลายเปลี่ยนเป็นสีแดง
ดาร์กซอลที่แสนจะโหดเหี้ยมไม่เคยกลัวผู้ใดบัดนี้กลับเหลือกลนด้วยความกลัว
มังกรสีแดงโผ่ลขึ้นมาบนท้องฟ้า เสียงคำรามที่แม้แต่พื้นแผ่นดินก็สะเทือน พุ่งเข้า
ประทะกับดาร์กซอลมังกรสีดำกับสีแดงประกันแม้แต่แผ่นดินก็แตกแยก ท้องทะเลก็เกิดคลื่นขนาดใหญ่ การประทะอย่างดุเดือดดาร์กซอลเสียหลักพลาดท่าถูกสายฟ้าของมังกรแดงฟาดใส่
~
..~
การต่อสู้จบลงแล้ว ทาเรนเซียสิ้นชีพอย่างห้าวหาญท่ามกลางสนามรบวิญญาณของเขาและมังกรตนนั้นถูกผนึกบนดาบแดงใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางสนามรบ
ดาร์กซอล ผู้ยิ่งใหญ่ก็สิ้นชีพคาสนามรบเช่นเดียวกัน ศพของมันถูก อาเคร่า พ่อมดที่สุดแสนจะชั่วร้ายนำกลับไปสู่ปราสาทมืดของมัน การต่อสู้อันยิ่งใหญ่มันจบลงแล้วจริงหรือบรรยากาศอันเงียบสงบของสนามรบได้บอกเช่นนั้นจริงๆ มีเพียงดาบเล่มใหญ่ที่อยู่ใจกลางสนามรบ ยังคงเรืองแสงอยู่... ดาร์กซอลมันสิ้นชีพแน่แล้วหรือทุกสิ่งทุกๆอย่างมันก็ยังคงเป็นปริศนา
~ ผ่านไป5ปีหลังการสูญเสียครั้งใหญ่จบไป~
เผ่าพันธุ์หลายเผ่าพันธุ์ถึงกับต้องสิ้นเผ่าพันธุ์ บางเผ่าที่เหลือรอดก็มีแต่ผู้หญิงกับเด็กที่ยังคงมีชีวิตอยู่ เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เผ่าพันธุ์ที่เหลืออยู่ก็มีความสุขที่ไม่มีจอมปีศาจที่ยิ่งใหญ่มาคอยรังควานพวกเขาอย่างที่เคยเป็น มันคุ้มแล้วที่นักรบผู้กล้าและปรมาจารย์เอกหลายคนที่ต้องพลีชีพกลางสนามรบอย่างห้าวหาญ เลือดทุกหยดที่สิ้นไปนำความสงบสุขมาแก่ผู้ที่รอดชีวิต
ในป่าอันไกลออกไปตอนใต้ของอดีตเมืองหลวง Dragon Clan
เผ่าพันธุ์ใหม่ที่มีสายเลือดมังกรของทาเรนเซีย โดยมีผู้นำคือมาเวอุส ภายใต้ธงรูปหมาป่า พวกเขาใช้วิถีการอยู่รอดตามแบบฉบับของสัญชาติญาณสัตว์ป่าโดยแท้ พวกเขารู้จักการใช้ สัตว์เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิต กินอยู่กับป่าโดยแท้แต่พวกเขาก็ยังไม่ลืมวิถีแห่งการต่อสู้ ปรมาจารย์ที่รอดชีวิตก็ยังคง ฝึกปรือฝีมือของนักรบอยู่ตลอดเวลา
ชีวิตดำรงไปอย่างมีความสุข อาจมีบ้างที่มีโจรป่าและโจรสลัดออกอาละวาดแต่ผู้นำของเผ่าพันธุ์ต่างๆก็ช่วยกันออกรบกำจัดจนสิ้น และยังคงมีหัวขโมยโจรป่าซึ่งพวกเขาจะฆ่าโจรป่าเหล่านั้นแล้วชิงสมบัติที่มีอยู่ช่วยอีกแรง
เผ่าพันธุ์ต่างๆก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาเผ่าพันธุ์ของตนเนื่องจากมีโจรป่าที่เก่งกาจที่ออก
อาลาวาท ชื่อของมันคือ โจรมือขวานขวานมินฮิว มือขวาที่ถือขวานที่แม้แต่ชายถึงห้าคนยังไม่สามารถยกขึ้นได้ โจรผู้โหดร้ายที่อยู่ใต้ผ้าคุมดำต่อสู้โดยไร้อุดมการณ์ การฆ่าคือเรื่องสนุกทรัพย์สมบัติคือผลพลอยได้ ใบหน้าที่มีสายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึกได้ออกปล้นตามเผ่าพันธุ์ต่างๆ ในการต่อสู้กับดาร์กซอลเมื่อห้าปีก่อนชายผู้นี้ก็ได้เข้าร่วมด้วยซึ่งตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส บาดแผลที่ดาร์กซอลฝากเอาไว้บนร่างกายของเขา เขายังไม่ลืมมันและคงไม่มีวันลืมด้วย
“ฟื้นขึ้นมาเถิดปีศาจจากขุมนรก ชายผู้ไม่มีวันตาย ข้าผู้นี้ล่ะจะส่งเจ้าลงนรกอีกครั้งดาร์กซอลเอ๋ย”
~~~
มาเวอุสเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว นักรบที่เก่งกาจของมาเวอุสจะเป็นผู้ที่ไปนำดาบที่มีดวงวิญญาณของทาเรนเซียกลับมาที่เผ่าพันธุ์ใหม่ที่มาเวอุสทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจสร้างขึ้นมา
“เมเฮน เจ้ากับมีบารอน จงไปนำดาบที่ผนึกพ่อข้ากลับมาซะ”มาเวอุสสั่งกับนักรบผู้ไว้ใจได้
เมเฮนนักรบผู้หล้าที่มีรอยสักเต็มกาย วิชาที่เขารับสืบทอดมาคือควบคุมงูพิษ ซึ่งเป็นงูเห่าดำที่มีพิษร้ายแรงมาก อีกทั้งเมเฮนยังมีสัญชาติญาณสัตว์ป่าอย่างเต็มเปี่ยมพร้อมที่จะขย้ำเหยื่อทุกเมื่อ
มีบารอน นักรบผู้ควบคุมเหยี่ยว ความสามารถของมีบารอนคือเขามีร่างกายแข็งแรงและรวดเร็วมาก และสมองที่ชานฉลาดอีกด้วย พวกเขาทั้งสองออกเดินทางแล้ว....
ความคิดเห็น